• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Panitsupa

#2841


นายพงษ์เทพ วิชัยกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (NCL) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) กับบริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET เพื่อใช้บริการขนส่งทางเรือจาก NCL โดยเป็นตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต จำนวน 200 ตู้ต่อเดือนโดยประมาณ เป็นเวลา 12 เดือน (อ้างอิงค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต ตามราคาตลาด ณ ปัจจุบัน ซึ่งมีมูลค่าประมาณประมาณ 680,000 บาทต่อตู้ เพื่อจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศของบริษัท DIMET โดยราคาตู้คอนเทนเนอร์จะแปรผันตามราคาตลาดโลก

นอกจากนี้ DIMET ยังได้ตกลงจะเช่ารถบรรทุกขนาดเล็กจาก NCL เพื่อใช้ในการขนส่งภายในราชอาณาจักรไทยอีกด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของ NCL มีความประสงค์จะพิจารณาใช้บริการขนส่งทางอากาศจากบริษัทพันธมิตรของ DIMET หรือบริษัทที่ DIMET แนะนำมา ซึ่งเป็นการขนส่งจากราชอาณาจักรไทยไปสู่ไต้หวัน และจากไต้หวันไปสู่ประเทศอื่นทั่วโลก

"การร่วมมือทางธุรกิจกันในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัทฯ อีกทั้งเป็นการนำจุดแข็งทางธุรกิจของพันธมิตรแต่ละฝ่ายมาร่วมกำลังครั้งสำคัญ เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และจะเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า NCL ตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษาในการวางแผน และจัดหาวิธีขนส่งที่เหมาะสมที่สุด ที่สำคัญทำให้ลูกค้าสามารถขนส่งได้ตรงตามกำหนดเวลาภายใต้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด ผมต้องขอขอบคุณ DIMET ที่ให้ความไว้วางใจเลือก NCL ซึ่งบริษัทฯ ให้คำมั่นจะดูแลและเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันตลอดไป" นายพงษ์เทพ กล่าว
#2842


การแข่งขันกีฬา "พาราลิมปิก โตเกียว 2020" ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ซึ่งเป็นการชิงชัยวันสองของมหกรรม ไฮไลต์ของทัพนักกีฬาไทยอยู่ที่การล่าเหรียญทองของ "แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบสาวไทยวัย 47 ปีชาว จ.เชียงใหม่ ลงแข่งขันประเภทที่สองของตัวเองในวีลแชร์ฟันดาบ ประเภทดาบเอเป้ บุคคลหญิง ซึ่งสายสุนีย์ มีดีกรีเคยคว้าเหรียญทองมาแล้ว 2 สมัย ในพาราลิมปิก 2004 และ 2012 ส่วนเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่ประเทศบราซิล สายสุนีย์ คว้าเหรียญเงิน ในประเภทนี้มาครอง

รอบแรก สายสุนีย์ ที่มีดีกรีเป็นถึงนักวีลแชร์ฟันดาบหญิงเบอร์ 1 ของโลกประเภทเอเป้ คลาสบี ลงแข่งแบบพบกันหมดในกลุ่ม 6 แมตช์ 

แมตช์แรก สายสุนีย์ เผชิญหน้ากับ กีออนกี ดานี่ จากฮังการี่ ปรากฏว่า นักดาบสาวไทยเอาชนะสบาย 5-0 คะแนน ต่อด้วยแมตช์ที่สอง สายสุนีย์ เอาชนะ เอลเลน เก็ตเดส จากสหรัฐฯ 5-0 คะแนน 

แมตช์ที่สาม นักฟันดาบเบอร์ 1 โลกชาวไทย เอาชนะ โอเลน่า เฟโดต้า วัย 35 ปีจากยูเครน ปรากฏว่า 5-2 คะแนน แมตช์ที่สี่ สายสุนีย์ เอาชนะ โรซาน่า พาสคิวโน่ วัย 38 ปีจากอิตาลี 5-3 คะแนน

แมตช์ที่ห้า สายสุนีย์ เจอกับ เทียน ซู เหม่ย จากจีน ที่เอาชนะสายสุนีย์ มาในประเภทเซเบอร์ รอบ 8 คนสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา และเป็นนักดาบสาวจีน ย้ำแค้นเอาชนะ สายสุนีย์ไป 5-1 คะแนน แมตช์สุดท้ายรอบแรกแบบพบกันหมด สายสุนีย์ พบกับ วาซิเลว่า ลูดมิล่า นักกีฬาทีมผู้อพยพชาวรัสเซีย ผลปรากฏว่า สายสุนีย์ พ่ายไป 4-5 คะแนน

สรุปการลงสนามรอบแรกแบบพบกันหมด ของสายสุนีย์ แข่ง 6 แมตช์ ชนะ 4 แมตช์ แพ้ 2 แมตช์ ผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายต่อไป ซึ่งสายสุนีย์ ทำผลงานดีในรอบแรกทำให้ได้บายในรอบ 16 คนสุดท้าย เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายทันที โดย สายสุนีย์ จะพบกับ อเลสเซีย มาคริซสกาย่า วัย 35 ปีจากเบลารุส ในเวลา 13.10 น. ตามเวลาเมืองไทย

ร่วมส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยสู้ศึก "พาราลิมปิกเกมส์ 2020" ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม- 5 กันยายน 2564 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผ่าน AIS PLAY และสถานีทีวีกีฬา ทีสปอร์ต (T-SPORTS CHANNEL) ช่องทีวีดิจิตอลหมายเลข7
#2843


ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน)หรือ SONIC ผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะขยายพื้นที่ให้บริการรับฝากตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้นอีก 33 ไร่ เพื่อรองรับการขยายตัวของลูกค้าในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี  และ โครงการแหลมฉบังเฟส3โดยคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2565  ซึ่งหลังเปิดให้บริการบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้ทันที  และประมาณการว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 5- 6 ปี

ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทขยายพื้นที่การให้บริการโลจิสติกส์ โดยการลงทุนซื้อที่ดินขนาด 33 ไร่  ในเขตอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีมูลค่ารวมไม่เกิน 117 ล้านบาท ค่าพัฒนาที่ดิน 77.4 ล้านบาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น 194.4 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่ให้บริการรับฝากตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 12 ไร่  คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีลูกค้ามาใช้บริการเต็มพื้นที่ เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์มีการอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อีอีซี   นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมที่จะประมูลงานกับสายการเดินเรือยักษ์ใหญ่ 2-3 ราย เพื่อให้มาใช้บริการเช่าพื้นที่ฝากวางตู้คอนเทนเนอร์ 


"จุดแข็งของการให้บริการเช่าพื้นที่วางตู้คอนเทนเนอร์ของ SONIC คือเราอยู่ในพื้นที่เขตอีอีซี  แหลมฉบัง ซึ่งธุรกิจโลจิสติกส์ในพื้นที่ดังกล่าวจะมีการขยายตัวเติบโตสูง   และยังเป็นการต่อยอดให้กับธุรกิจโลจิสติกส์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทให้สามารถบริการลูกค้าได้ครบวงจรมากขึ้น "ดร.สันติสุข กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ SONIC  ในช่วงครึ่งปีหลังยังเติบโตต่อเนื่องแม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ที่รุนแรงขึ้น แต่การให้บริการด้านขนส่งของบริษัทไม่ได้มีปัญหา  เนื่องจากบริษัทได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการให้บริการขนส่งสินค้าของลูกค้า ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด 19 ในระลอกแรก จนถึงปัจจุบัน


 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าของลูกค้า  จึงทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าเดิมและจากกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่มีเพิ่มมากขึ้น  โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ยังมาจากการให้บริการขนส่งทางทะเล ที่มีสัดส่วนรายได้ถึง  78 %  การบริการขนส่งทางบก  17 % การบริการทางอากาศ 4.5 % และสัดส่วนรายได้อื่น ๆ อีก 0.5% 
#2844


วันนี้ (25 ส.ค.) รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่า จะทดลองเปิดเดินขบวนรถขนส่งห่อวัตถุด่วนในเส้นทางสายใต้ ระหว่างกรุงเทพ-สุไหงโก-ลก-กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 26 ส.ค. ถึง 1 ต.ค. 2564 รวม 18 วัน เพื่อให้บริการรับส่งสินค้าโดยเฉพาะ โดยได้จัดขบวนรถพิเศษ (ห่อวัตถุด่วน) ที่ 985 กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก ออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 12.00 น. ถึงสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เวลา 12.10 น. ของวันถัดไป และขบวนรถพิเศษ (ห่อวัตถุด่วน) ที่ 986 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพ ออกจากสถานีสุไหงโก-ลก เวลา 11.40 น. ถึงสถานีกรุงเทพ เวลา 13.00 น. ของวันถัดไป ให้บริการแบบวันเว้นวัน โดยในเดือนสิงหาคม 2564 รถออกต้นทาง เฉพาะวันเลขคู่ เดือนกันยายน 2564 รถออกต้นทางเฉพาะวันเลขคี่

สำหรับสถานีที่ให้บริการรับส่งสินค้าห่อวัตถุ เส้นทางสายใต้ ได้แก่ สถานีกรุงเทพ สถานีสามเสน สถานีชุมทางบางซื่อ สถานีบางบำหรุ กรุงเทพมหานคร, สถานีศาลายา สถานีนครปฐม จ.นครปฐม, สถานีบ้านโป่ง สถานีโพธาราม สถานีราชบุรี จ.ราชบุรี, สถานีเพชรบุรี จ.เพชรบุรี, สถานีหัวหิน สถานีประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์, สถานีชุมพร สถานีสวี สถานีหลังสวน จ.ชุมพร, สถานีไชยา สถานีสุราษฎร์ธานี สถานีนาสาร สถานีบ้านส้อง จ.สุราษฎร์ธานี, สถานีคลองจันดี สถานีชุมทางทุ่งสง สถานีชะอวด จ.นครศรีธรรมราช, สถานีพัทลุง จ.พัทลุง, สถานีชุมทางหาดใหญ่ สถานีจะนะ สถานีเทพา จ.สงขลา, สถานีปัตตานี จ.ปัตตานี, สถานียะลา จ.ยะลา, สถานีรือเสาะ สถานีตันหยงมัส สถานีสุไหงปาดี และสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รวม 32 สถานี

ผู้สนใจส่งของไปยังสถานีปลายทางในเส้นทางสายใต้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานีรถไฟตามที่ระบุ โดยต้องมาติดต่อทำเรื่องก่อนขบวนรถออกไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง และแสดงบัตรประจำตัวประชาชนทุกครั้งที่มาติดต่อสินค้า ซึ่งค่าระว่างบริการขนส่งสินค้าห่อวัตถุด่วน เป็นไปตามที่ รฟท. กำหนด

เวลาออก ขบวนรถพิเศษที่ 985 กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก (เฉพาะรับ-ส่งสินค้าห่อวัตถุ)

12.00 น. กรุงเทพ
12.23 น. สามเสน
12.40 น. ชุมทางบางซื่อ
13.01 น. บางบำหรุ
13.23 น. ศาลายา
14.00 น. นครปฐม
14.34 น. บ้านโป่ง
14.58 น. โพธาราม
15.27 น. ราชบุรี
16.46 น. เพชรบุรี
18.06 น. หัวหิน
19.56 น. ประจวบคีรีขันธ์
23.04 น. ชุมพร
23.40 น. สวี
00.17 น. หลังสวน
01.22 น. ไชยา
02.05 น. สุราษฎร์ธานี
02.49 น. นาสาร
03.15 น. บ้านส้อง
03.50 น. คลองจันดี
04.26 น. ชุมทางทุ่งสง
05.25 น. ชะอวด
06.16 น. พัทลุง
07.58 น. ชุมทางหาดใหญ่
08.38 น. จะนะ
09.11 น. เทพา
09.43 น. ปัตตานี
10.21 น. ยะลา
10.53 น. รือเสาะ
11.26 น. ตันหยงมัส
11.57 น. สุไหงปาดี
12.10 น. ถึง สุไหงโก-ลก

เวลาออก ขบวนรถพิเศษที่ 986 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพ (เฉพาะรับ-ส่งสินค้าห่อวัตถุ)

11.40 น. สุไหงโก-ลก
11.57 น. สุไหงปาดี
12.36 น. ตันหยงมัส
13.07 น. ริอเสาะ
13.46 น. ยะลา
14.25 น. ปัตตานี
14.51 น. เทพา
15.24 น. จะนะ
16.15 น. ชุมทางหาดใหญ่
17.46 น. พัทลุง
18.32 น. ชะอวด
19.35 น. ชุมทางทุ่งสง
20.07 น. คลองจันดี
20.51 น. บ้านส้อง
21.21 น. นาสาร
22.06 น. สุราษฎร์ธานี
22.49 น. ไชยา
23.52 น. หลังสวน
00.34 น. สวี
01.11 น. ชุมพร
04.27 น. ประจวบคีรีขันธ์
06.20 น. หัวหิน
07.42 น. เพชรบุรี
08.56 น. ราชบุรี
09.30 น. โพธาราม
09.59 น. บ้านโป่ง
10.40 น. นครปฐม
11.31 น. ศาลายา
12.02 น. บางบำหรุ
12.29 น. ชุมทางบางซื่อ
12.46 น. สามเสน
13.00 น. ถึง กรุงเทพ
#2845
 ขายที่ดินใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ตเหมาะสำหรับสร้างบ้านพักหอพัก219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล

ขายที่ดินแปลงใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ต  219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล เหมาะสำหรับสร้างบ้านพัก,หอพัก,โฮมเสตย์,
ขายที่ดินใกล้ทะเลภูเก็ต 219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล เหมาะสำหรับสร้างบ้านพัก,หอพัก,โฮมเสตย์, ร้านหอาหาร, คาเฟ่,อพาร์ทเม้นท์,ห้องพัก, ตึกแถว ขายถูกกว่าใกล้เคียง 3,590,000 บาท
 ขายที่ดินซอยท่าหลาป่าคลอกภูเก็ต   เนื้อที่ 219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล อ.ป่าคลอก จ.ภูเก็ต ที่ดินด้านหน้าติดถนน ด้านข้างมีทางสาธารณะ ห่างชายทะเล แค่ 400 เมตร ปากซอยมี7-11 ถนน 4เลนเตรียมตัดผ่านหน้าซอย เหมาะสำหรับสร้างบ้า
นพัก,คาเฟ่,ห้องพัก ตึกแถว

สนใจที่ดินใกล้ทะเลภูเก็ต
สอบถาม ได้ที่ คุณ ศุภโชค 085-8206618
Id line: suppachok18 เจ้าของขายเอง ราคาพิเศษ 3,590,000 บาท


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.banforum.com/?p=14676


คำค้น
ขายที่ดินแปลงใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ต, ขายที่ดินซอยท่าหลาป่าคลอกภูเก็ต, ขายที่ดินใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ตเหมาะสำหรับสร้างบ้านพักหอพัก, ขายที่ดินใกล้ทะเลภูเก็ต
#2846


"ชาร์ลี วัตต์ส" มือกลองของวงร็อกระดับตำนาน The Rolling Stones ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 80 ปี โดยทั้งเพื่อนร่วมวงหินกลิ้ง และคนในวงการเพลงต่างออกแถลงการณ์ไว้อาลัยให้กับสมาชิกของวงร็อค ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดวงหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการดนตรี

โดยโฆษกส่วนตัวของ ชาร์ลี วัตต์ส ได้ออกมาแถลงข่าวเศร้า เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า ชาร์ลี วัตต์ส ได้เสียชีวิตลงแล้ว และเป็นการจากไปอย่างสงบที่โรงพยาบาลในกรุงลอนดอน โดยมีสมาชิกในครอบครัวมาดูใจจนถึงวาระสุดท้าย

ในแถลงการณ์ยังบอกว่าเขาเป็นสามีที่ดี และเป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งคุณตาที่ยอดเยี่ยม นอกจากนั้นในฐานะสมาชิกของ The Rolling Stones เขาคือมือกลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของยุคสมัยด้วย



ชาร์ลี วัตต์ส คือ Rolling Stones ที่ได้รับการจดจำในฐานะมือกลองที่ดูเงียบของวงร็อคที่เต็มไปด้วยความเอะอะมะเทิ่ง และมีสมาชิกในวงที่เต็มไปด้วยบุคลิกฉูดฉาดร้อนแรง แต่ฝีมือในการหวดกลองของเขา ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับดนตรีของ Rolling Stones ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในวงร็อคแห่งยุคสมัย

ด้วยผลงานเพลงฮิตมากมายรวมทั้ง Jumpin' Jack Flash และ (I Can't Get No) Satisfaction ที่หลายคนยกให้เป็นเพลงร็อคที่ดังที่สุดเพลงนึงที่เคยมีมา

หลังการเสียชีวิตของ ชาร์ลี วัตต์ส มีคนดนตรีมากมายที่ออกมาไว้อาลัย รวมถึง พอล แม็คคาร์ตนีย์ แห่งวง The Beatles ที่โด่งดังมาเคียงคู่กับ. Rolling Stones ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ที่บอกว่าเขาเองรู้สึก "เศร้ามาก" และยังบอกว่า ชาร์ลี วัตต์ส เป็นคนน่ารักมาก "ผมเองพอจะทราบอยู่บ้างว่าเขาป่วยแต่ไม่รู้ว่าหนักขนาดนี้ ชาลี เป็นมือกลองที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ"

เช่นเดียวกับ เซอร์ เอลตัน จอห์น ที่บอกว่านี้คือวันที่เศร้าเหลือเกิน "ชาลีคือมือกลองที่สุดยอดจริงๆ" เขาเขียนข้อความใน Facebook



ชาร์ลี วัตต์ส มีปัญหาสุขภาพมาสักระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเพิ่งจะประกาศว่าเขาคงจะไม่สามารถไปร่วมทัวร์กับ Rolling Stones ได้เพราะต้องรับเข้ารับการผ่าตัด

แม้ตอนนั้น โฆษกส่วนตัวจะบอกว่าการผ่าตัดผ่านไปด้วยดี แต่เค้าอาจจะต้องพักผ่อน เป็นระยะเวลาหนึ่งแค่นั้นเอง ส่วนวงก็บอกว่าจะรอคอยการกลับมาของเขาเสมอ

ชาร์ลี วัตต์ส หรือ ชาร์ลส์ โรเบิร์ต วัตต์ส เกิดที่กรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 1941 เริ่มต้นสนใจดนตรีแนวแจ๊สตั้งแต่เด็ก และชื่นชอบ เจลลี โรล มอร์ตัน กับ ชาร์ลี ปาร์กเกอร์ เป็นพิเศษ

เขาเริ่มตีกลองมาตั้งแต่ยังอายุน้อย และลงทุนถึงขั้นเอาแบนโจเก่า มาแกะหนังออกไปทำกลองสแนร์ โดย ชาร์ลี วัตต์ส ไม่ได้เรียนดนตรีมาแบบเป็นเรื่องเป็นราว แต่อาศัยฝึกฝนด้วยตัวเอง และครูพักลักจำจากการดูมือกลองเก่ง ๆ ตามคลับในกรุงลอนดอนเป็นหลัก



หลังเรียนจบสาขาด้านศิลปะ เขาเริ่มทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซน์เป็นอาชีพหลัก แต่ก็เล่นดนตรีในตอนกลางคืนตามคลับแจ๊สหลายแห่ง จนสุดท้ายได้เข้าเป็นสมาชิกของ Rolling Stones ในปี 1963 และร่วมสร้างประวัติศาสตร์ เป็นวงร็อคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหนึ่งของโลกที่เคยมีมา

เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมวงและนักดนตรีหลายคนในยุคเดียวกัน ชาร์ลี วัตต์ส มีปัญหายาเสพติดทั้งเหล้า และเฮโรอีน จนในปี 2004 จึงตัดสินใจเลิกทุกอย่างเมื่อตรวจพบมะเร็งลำคอ และเข้ารับการรักษาจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

สำหรับเรื่องชีวิตส่วนตัว ชาร์ลี วัตต์ส พบกับภรรยา เชอร์ลี แอน เชพเพิร์ต ตั้งแต่ตอนที่เขายังไม่ดัง ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1964 และอยู่ด้วยกันมาจนถึงปัจุบัน โดย ชาร์ลี วัตต์ส มีลูกสาวหนึ่งคน และหลานสาวอีกคน
#2847


สมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย TAFA และสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย เผย งานแสดงสินค้าโลจิสติกส์ TILOG Virtual Exhibition (TILOG-VE) งานแสดงสินค้าโลจิสติกส์ ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ทุกครั้ง ยังคงอัดแน่นด้วยกิจกรรมเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ทั้งไทยและต่างประเทศ


นาย นิธิธร สุขมนัส นายกสมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย (TAFA) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้เข้าร่วมและสนับสนุนการจัดงาน TILOG มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในครั้งนี้ ทางสมาคมฯ ก็ได้ ประชาสัมพันธ์ข่าวการจัดงานให้กับสมาชิกทั้งในและต่างประเทศ

"งาน TILOG-VE ได้จัดขึ้นติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งงานนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดขึ้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงธุรกิจการจัดการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งมีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเป็นห่วงโซ่เป็นจำนวนมาก อาทิ ผู้ประกอบการขนส่งทางบก ทางเรือและทางอากาศ รวมไปถึงผู้ประกอบการคลังสินค้าและผู้ส่งออก ซึ่งยังมีอีกหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยทางตรงและโดยทางอ้อมกับธุรกิจโลจิสติกส์อันทำให้เกิดการจ้างงานเป็นจำนวนมาก รวมถึงการจัดส่งสินค้าออกไปยังต่างประเทศในทุกทิศทุกทางสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนหลาย แสนล้านบาทต่อปี

กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วยการนำเสนอบริการ และนวัตกรรมใหม่ๆ จากผู้ประกอบการโลจิสติกส์ กิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ (Online Business Matching) เพื่อพูดคุยกันในเชิงลึกถึงแนวทางความร่วมมือกันทางธุรกิจในอนาคตระหว่างระหว่างผู้ประกอบการ การให้คำปรึกษาด้านโลจิสติกส์จากที่ปรึกษาในสาขาต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการเสวนาเจาะลึกในหัวข้อต่าง ๆ จากสมาคม และวิทยากรชั้นนำระดับประเทศและระดับโลกอีกมากมายหลายกิจกรรมด้วย

"อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัส โควิด-19 ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยปรับเปลี่ยนจากการจัดงานแบบปกติ เป็นแบบ Virtual หรือการจัดงานเสมือนจริง เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้เข้าร่วมงาน โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ในปีนี้สามารถเข้าร่วมงานโดยออนไลน์ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งถือว่าเป็นมิติใหม่ในการจัดงาน TILOG-VE 2021" นายนิธิธร กล่าว


ด้าน นายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย กล่าวถึงการจัดงาน TILOG-VE 2021ว่า เป็นการจัดงานอีเวนท์ ที่เป็นการรวมตัวกันของผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายโลจิสติกส์ของประเทศในกลุ่มอาเซียน ร่วมกันขยายเครือข่ายแบบบูรณาการให้บริการ ผู้ส่งออก และผู้นำเข้าแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และให้คำแนะนำด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ให้เติบโตไปด้วยกัน และจากการที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดงาน TILOG มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้งาน TILOG ของไทย เป็นที่รู้จักกันดีในเวดวงกลุ่มประเทศในแถบเอเชียเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ แม้ว่าจะเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ก็ยังคงเดินหน้าจัดงาน แม้จะเป็นในรูปแบบของออนไลน์เสมือนจริง ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการโลจิสติกส์ทั่วโลกได้เห็นถึงความตั้งใจของ ประเทศไทยในการให้ความสำคัญกับวงการธุรกิจโลจิสติกส์ ปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจทั่วโลกไม่สามารถเดินทางมาหาคู่ค้า หรือ เสนอบริการการค้าในต่างประเทศได้ เป็นอุปสรรคต่อการทำการค้ากับต่างประเทศ การจัดงาน TILOG-VE 2021 ปีนี้ ทางออนไลน์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคู่ค้า ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ อัปเดทข้อมูลข่าวสาร กันได้ โดยไม่ต้องเดินทาง ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก สามารถเข้าร่วมงานในครั้งนี้ได้

ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย กล่าวถึง สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบกับแวดวงโลจิสติกส์อย่างมาก การขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ เจออุปสรรค ต่างๆ มากมาย เพราะในแต่ละประเทศ ก็ต้องเข้มงวด ตรวจหาเชื้อโควิด เพื่อให้ไม่เชื้อโควิด ที่ติดมากับสินค้าเข้าไปแพร่ระบาดในประเทศของตนเอง ทำให้การส่งมอบสินค้าล่าช้าออกไปมาก ซึ่งตรงนี้ เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข ซึ่งในเวทีการจัดงาน TILOG ครั้งนี้ ก็จะได้เชิญผู้ประกอบการระดับโกล. มาร่วมแลกเปลี่ยนแชร์ประสบการณ์ หาแนวทางพูดคุย เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาดังกล่าว

งาน TILOG-VE ในปีนี้ เป็นงานที่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไม่ควรพลาด เพราะช่วยให้ผู้ประกอบการได้อัพเดทตลาด สินค้า บริการ และเทคโนโลยีต่างๆ และความรู้อีกมากมาย รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ กลาง และเล็กมีโอกาสทัดเทียมกัน ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชม www.tilog-ve.com ได้ตั้งแต่วันที่ 25 – 27 สิงหาคม 2564 ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
#2848


วันนี้ (24 ส.ค. 2564) นายวิลาศ เฉลยสัตย์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEAร่วมแสดงความยินดีในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 61 ปี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พร้อมสนับสนุนเงินสำหรับการผลิตเครื่องจ่ายออกซิเจน High Flow พร้อมระบบมอนิเตอร์ทางไกล จำนวน 40 เครื่อง ในโครงการ "ให้เพื่อต่อลมหายใจ" ของ สจล. เป็นจำนวน 2.2 ล้านบาท โดยมี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สจล. เป็นผู้รับมอบ ณ อาคารกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สจล.

รองผู้ว่าการ MEA เปิดเผยว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีภารกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร พร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) และจากสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่นี้ ทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่มีภาวะติดเชื้อลงปอด เกิดการหายใจที่ไม่สะดวกหรือเหนื่อยหอบง่าย MEA จึงเร่งสนับสนุนงบประมาณ 2.2 ล้านบาท แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) สำหรับผลิตเครื่องจ่ายออกซิเจน High Flow จำนวน 40 เครื่อง เพื่อนำไปมอบให้โรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาลที่ขาดแคลนให้มีอุปกรณ์ในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ สจล. ถือเป็นหน่วยงานแรกของไทยที่สามารถพัฒนาเครื่องจ่ายออกซิเจน High Flow เพื่อช่วยพยุงการหายใจของผู้ป่วย โดยแพทย์จะกำหนดอัตราไหลเวียนอากาศ ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ต้องการ ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ก่อนปล่อยผ่านทางจมูกได้อย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ พร้อมด้วย ระบบมอนิเตอร์ทางไกลเพื่อใช้ในการเฝ้าระวังและติดตามอาการผู้ป่วยทางไกล โดยมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับต่างประเทศ แต่ราคาเพียงเครื่องละ 55,000 บาท ซึ่งถูกกว่าเครื่องนำเข้า 3-4 เท่า

ที่ผ่านมา MEA ได้ให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนในทุกมิติ เช่น การออกแบบติดตั้งจัดการระบบไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการใช้ไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในโรงพยาบาลสนามหลายพื้นที่ ทั้งในด้านระบบแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ ระบบปั๊มน้ำและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ และแผนรองรับการจ่ายไฟฟ้าในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ ยังได้ให้ความช่วยเหลือแก่ทุกภาคส่วน โดยสนับสนุนงบประมาณการบริหารจัดการพลังไฟฟ้าให้กับ รพ.บุษราคัม ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของจำเป็นให้กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ต่างๆ ส่งมอบอาหารกล่องจำนวน 10,000 กล่อง ในโครงการ Food For Fighters รวมถึงการเร่งลงพื้นที่ส่งมอบถุงยังชีพและหน้ากากอนามัยจำนวนกว่า 300,000 ชิ้น ให้แก่ชุมชนในพื้นที่บริการ พร้อมจัดให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลความมั่นคงของระบบไฟฟ้าและให้บริการแก้ไขไฟฟ้าขัดข้องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกภาคส่วนร่วมสู้วิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร
Energy for city life, Energize smart living
#2849
ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ส่งทั่วไทย    ข้าวจังหวัดสุรินทร์ ข้าวปลอดสารไทยมีราคาแพง    ส่งออกข้าวปลอดสาร   นาข้าวปลอดสาร  ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 

การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวอินทรีย์ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( การผลิตข้าวออร์แกนิค
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม  สถานการณ์ข้าวออร์แกนิคไทย
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์  นาข้าวออร์แกนิค

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน
 

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวอินทรีย์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutiqueโครงการนาข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 

 

 

 

 
 
#2850


ช่วงนี้ได้ยินข่าวนักท่องเที่ยวที่แอบหยิบหินและดินจากปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ กลับไปบ้าน แต่ต่อมาต้องส่งหินกลับคืนมาทางไปรษณีย์ให้เจ้าหน้าที่นำกลับไปไว้ที่เดิม ซึ่งก็น่าสงสัยไม่น้อยว่าเจอกับเหตุการณ์อะไรมาถึงต้องรีบส่งหินคืน

แต่ที่น่าสงสัยไม่แพ้กันก็คือทำไมจึงมีคนชอบหยิบดินหินเหล่านี้กลับไปบ้านด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งเองก็ได้ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่หยิบจับหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดออกไปจากโบราณสถาน และวอนขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาโบราณสถานของชาติกันไว้ให้ดี



คนที่ทราบข่าวการส่งหินกลับคืนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันถึงความเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพบูชาของคนในพื้นที่ของปราสาทหินพนมรุ้งแห่งนี้

สำหรับปราสาทหินพนมรุ้ง ตั้งอยู่ที่ "อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง" อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เป็นปราสาทหินขนาดใหญ่ที่องค์ประกอบโดยรวมได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทหินที่งดงามที่สุดในเมืองไทย สร้างอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว

ปราสาทพนมรุ้ง สร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ก่อสร้างขึ้นตามคติจักรวาลที่มีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลาง มีการบูรณะอย่างต่อเนื่องมาหลายสมัย ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 15-17 ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นพุทธศาสนสถานในช่วงนั้น
 
#2851


อาร์ทีไอนิวส์ (23 ส.ค.) -ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ได้ทำการนัดหมายฉีดวัคซีนผ่านออนไลน์เมื่อไม่นานนี้ และในวันนี้ เปิดระบบให้ประชาชนอายุระหว่าง 20-35 ปี สามารถจองคิวนัดหมายฉีดวัคซีนฯ ได้ในการฉีดวัคซีนรอบที่ 6 ด้านทีมวิจัยฯ ได้ค้นพบสาร Catechin ซึ่งเป็นสารประกอบ Polyphenols ในชาเขียว มีสรรพคุณต้านเชื้อไวรัสโควิค-19 เสริมภูมิคุ้มกัน ลดปัญหาปอดถูกทำลายเฉียบพลัน

หลังจากวัคซีนเกาตวน (MVC) ที่ไต้หวันผลิตเองภายในประเทศเปิดให้ประชาชนได้จองฉีดวัคซีน ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ได้ทำการนัดหมายฉีดวัคซีนผ่านออนไลน์เมื่อไม่นานนี้ และในวันนี้ (23 ส.ค.) เวลา 07.30 น. ผู้นำไต้หวันเดินทางถึงอาคารกีฬา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน เพื่อทำการฉีดวัคซีน

ก่อนฉีดสื่อมวลชนได้สัมภาษณ์ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินว่ารู้สึกตื่นเต้นหรือไม่? ท่านตอบว่า "ไม่ตื่นเต้น" และขณะฉีด ท่านตอบว่า "ไม่รู้สึกเจ็บอะไร" และชูนิ้วสัญลักษณ์ "โอเค" และ "เยี่ยม" หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จ พยาบาลได้มอบการ์ดบันทึกข้อมูลฉีดวัคซีนและนัดหมายการฉีดโดสถัดไป ผู้นำไต้หวันได้ยื่นการ์ดดังกล่าวให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ และให้นำแผ่นป้ายที่โรงพยาบาลเตรียมไว้ มีข้อความว่าฉีดวัคซีนแล้ว เป็นภาษาจีนและอังกฤษมาถ่ายรูปคู่สำหรับรณรงค์ประชาสัมพันธ์การฉีดวัคซีนต่อไป

ไต้หวันเพิ่มกลุ่มอายุ 20-35 ปี ฉีดวัคซีนเกาตวน หนึ่งชั่วโมงมีคนจองคิวแล้ว 82,000 คน

รายงานข่าวกล่าวว่า การนัดหมายจองคิวฉีดวัคซีนในรอบที่ 6 นี้ มีวัคซีนเกาตวนของไต้หวันที่ผ่านการตรวจสอบและปิดผนึกเรียบร้อยแล้วจำนวน 610,000 โดส สำหรับฉีดให้ประชาชนด้วย ซึ่งศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวันแถลงว่า ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม เวลา 16.00 น - 20 สิงหาคม เวลา 12.00 น. เปิดระบบให้ประชาชนอายุระหว่าง 20-35 ปี สามารถจองคิวนัดหมายฉีดวัคซีนเกาตวนได้ในการฉีดวัคซีนรอบที่ 6 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-29 สิงหาคมนี้ โดยหลังเปิดระบบเพียง 1 ชั่วโมง ก็มีประชาชนเข้ามาจองคิวนัดหมายแล้ว 82,000 คน จากจำนวนประชาชนทั้งหมดที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนและมีคุณสมบัติสอดคล้องรวม 294,798 คน คิดเป็น 27.99% โดยก่อนหน้านี้ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวันเปิดให้สิทธิ์ประชาชนอายุ 36 ปีขึ้นไป กับประชาชนอายุ 20 ปีขึ้นไป ที่ป่วยเป็นโรคเสี่ยงสูง โรคเรื้อรัง หรือโรคร้ายแรง สามารถจองคิวฉีดวัคซีนเกาตวนได้ ซึ่งตอนนี้มีผู้ทำการนัดหมายจองคิวเรียบร้อยแล้วจำนวน 419,000 คน ดังนั้นเมื่อรวมกับประชาชนทั่วไปอายุระหว่าง 20-35 ปี ก็มีผู้ทำการนัดหมายจองคิวฉีดวัคซีนเกาตวนเรียบร้อยแล้วจำนวน 501,000 คน

นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้มุ่งวิจัยพัฒนายาต้านไวรัสโควิด โดยศาสตราจารย์ เจิ้งเจี้ยนถิง อาจารย์พิเศษ สาขาวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต มหาวิทยาลัยซือต้า (National Taiwan Normal University -NTNU) และเป็นหัวหน้าทีมวิจัยฯ ได้ค้นพบสาร Catechin ซึ่งเป็นสารประกอบ Polyphenols ในชาเขียว มีสรรพคุณต้านเชื้อไวรัสโควิค-19 เสริมภูมิคุ้มกัน ลดปัญหาปอดถูกทำลายเฉียบพลัน ผลงานเป็นที่ยอมรับ ได้รับการตีพิมพ์ใน "Antioxidants" วารสารระดับโลกเมื่อเดือนกรกฎาคม

ศ. เจิ้งเจี้ยนถิง ทำการวิจัยสาร Catechin ตั้งแต่เกิดการระบาดโรคซาร์ส เมื่อ ปี 2003 ผ่านมา 17 ปีพบว่า Catechin มีสรรพคุณ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านไวรัส ต้านเชื้อโรค และต้านเชื้อโควิด-19 ที่กำลังระบาดในขณะนี้ได้ด้วย ซึ่งในการทดลองพบว่า สาร Catechin ความเข้มข้น 195 ไมโครกรัม จะยับยั้งการขยายตัวหรือการแพร่กระจายของเชื้อโควิด ป้องการการแพร่ขยายหรือการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดได้

อย่างไรก็ตาม ศ.เจิ้งเจี้ยนถิงยังกล่าวด้วยว่า แม้สาร Catechin สามารถได้รับจากการดื่มชาเขียว แต่ปริมาณของสารไม่เพียงพอต่อการยับยั้งเชื้อไวรัส จำเป็นต้องอาศัยเทคนิคการสกัดที่เชี่ยวชาญ และต้องขจัดสารคาเฟอีนออกไป จะไม่เหมือนกับสารคาเทชินส์ในชาเขียวที่ขายในท้องตลาด
#2852


กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ เดือน ก.ค.2564 พบว่า การส่งออกเดือน ก.ค.2564 มีมูลค่า 22,650 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 20.27% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำและยุทธปัจจัย ขยายตัว 25.38% การนำเข้ามีมูลค่า22,467 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 45.94% และได้ดุลการค้า 183 ล้านดอลลาร์

ส่วนการค้าระหว่างประเทศช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค.2564 มีการส่งออก 154,985 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 16.20% มีการนำเข้า 152,362 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 28.73% และได้ดุลการค้า 2,622 ล้านดอลลาร์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกขยายตัวสูงมาจากการเร่งแก้ไขอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก และการดำเนินงานตามแผนส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้การจ้างงานปรับตัวดีในระดับน่าพอใจ ขณะที่การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในสหภาพยุโรป (อียู) ทำให้ภาคบริการฟื้นตัว ผลักดันให้เศรษฐกิจยุโรปเติบโตเร็วขึ้น 

รวมทั้งภาคการผลิตทั่วโลกยังคงขยายตัวดีสะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตโลก (Global Man.cturing PMI) ที่อยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 โดยการผลิตสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค สินค้าวัตถุดิบ และสินค้าเพื่อการลงทุนปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ เงินบาทที่อ่อนค่ายังเป็นปัจจัยหนุนต่อภาคการส่งออก

ส่งออกสินค้าเกษตร-อุตสาหกรรม โต 24.3 %

สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรในเดือน ก.ค.2564 เพิ่ม 24.3% เป็นบวกต่อเนื่อง 8 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัวได้ดีประกอบด้วย ผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 80.2% ขยายตัว 4 เดือนต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 62% ขยายตัว 9 เดือนต่อเนื่อง

ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 18% ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน สินค้าที่ขยายตัวดี เช่น รถยนต์และอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ เพิ่มขึ้น 39.2% ขยายตัว 9 เดือนติดต่อกัน ผลิตภัณฑ์ยางพารา เพิ่มขึ้น 16% ขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือน

ขณะที่ตลาดสำคัญขยายตัวดีเกือบทุกตลาดสำคัญ โดยตลาดสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.2% ขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือน ตลาดจีน เพิ่มขึ้น 41% ต่อเนื่อง 8 เดือน ตลาดญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 23.3% ต่อเนื่อง 9 เดือน ตลาดอาเซียน เพิ่มขึ้น 26.9% ต่อเนื่อง 3 เดือน ตลาดอียู เพิ่มขึ้น 20.9% ต่อเนื่อง 6 เดือน

โควิดฉุดส่งออก ส.ค.-ก.ย.

สำหรับการระบาดของโรคโควิด-19 อาจกระทบได้ โดยเฉพาะเดือน ส.ค.-ก.ย.เป็นต้นไป เพราะล็อกดาวน์เริ่มอาจมีผลต่อภาคการผลิต โดยโรงงานที่ผลิตเพื่อส่งออกบางแห่งต้องปิดทำให้ผลิตไม่ต่อเนื่องและอาจกระทบการส่งออก 

รวมทั้งสถานการณ์โควิดในประเทศเพื่อนบ้านและบางประเทศที่เราต้องส่งออกเริ่มติดขัดช่วงข้ามแดน เช่น ด่านไทยผ่านประเทศลาวและเวียดนามเพื่อไป ซึ่งจีนมีปัญหาบางช่วงบางเวลาต้องไปแก้ปัญหาหน้างานหลายครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้และสินค้าบางประเภท ในขณะที่มาเลเซียยังอยู่สถานการณ์ที่ต้องเร่งแก้ปัญหาระบาด ซึ่งกระทบการส่งออกน้ำยางดิบไปมาเลเซียทำให้ราคายางในไทยกระทบ เพราะมาเลเซียเป็นตลาดส่งออกน้ำยางใหญ่ที่สุดขณะนี้ โดยต้องเร่งแก้ปัญหาไม่ให้ภาคการผลิตติดขัด

"เป้าส่งออกปีนี้วางไว้ 4% วันนี้ทำได้ 16.2% ถือว่าเกินเป้าแล้ว 4 เท่า และจะร่วมมือกับภาคเอกชนเดินหน้าทำให้ดีที่สุด ซึ่งแผนส่งออกในครึ่งปีหลังตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีกิจกรรมไม่น้อยกว่า 130 กิจกรรม แต่ต้องปรับแผนให้สอดคล้องสถานการณ์"นายจุรินทร์ กล่าว

เอกชนห่วงซัพพลายเชน

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทยและนายกกิติมศักดิ์สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า การส่งออกปี 2564 จะให้เติบโตอ 10% ต้องทำให้เดือนที่เหลือมีมูลค่าเดือนละ 19,926 ล้านดอลลาร์ และหากเติบโต 12% ต้องทำได้เดือนละ 20,852 ล้านดอลลาร์ และหากต้องการเติบโต 15% ต้องทำได้เดือนละ 22,240 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่สนับสนุนการส่งออก ได้แก่ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของคู่ค้าหลัก ความก้าวหน้าการผลิตวัคซีนและยารักษาและการอ่อนค่าของเงินบาท ส่วนปัจจัยลบครึ่งปีหลัง ได้แก่ การระบาดของโควิด-19 ที่กลายพันธุ์หลายประเทศ รวมถึงอัตราค่าขนส่งยังสูงจากการขาดแคลนตู้สินค้า ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์โลหะการขาดแคลนแรงงาน เพราะพบการติดเชื้อและมาตรการปิดโรงงานและกำลังซื้อในประเทศเริ่มถดถอย


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.ทำมาตรการควบคุมโควิดภาคอุตสาหกรรม เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต อาการรุนแรงและรักษากำลังการผลิตให้มากที่สุดโดยไม่ปิดโรงงาน 4 ข้อ ดังนี้

1.มาตรการ Bubble and Seal ภาคอุตสาหกรรมต้องมีแนวทางเดียวกันทุกพื้นที่ โดยสุ่มตรวจด้วย ATK สม่ำเสมอ 10% ของจำนวนพนักงานทุก 14 วัน ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายและให้พนักงานผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำเข้ามาทำงานใน Bubble

2.สถานประกอบการที่มีพนักงาน 300 คนขึ้นไป เสนอให้กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนงบตั้ง Factory Quarantine และ Factory Accommodation Isolation โดยมีจำนวนเตียงไม่น้อยกว่า 5% ของจำนวนพนักงาน และให้กระทรวงแรงงานตั้งโรงพยาบาลแม่ข่ายให้บริการโรงงานในพื้นที่ ณ จุดเดียว

3.สถานประกอบการที่มีพนักงานต่ำกว่า 300 คน ขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้ง Community Quarantine ,Community Isolation ให้เพียงพอและมีเตียงไม่น้อยกว่า 5% ของจำนวนพนักงาน

4.จัดสรรวัคซีนตามลำดับความสำคัญทางสาธารณสุข การป้องกันโรคและเศรษฐกิจ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อายุ 40-59 ปี กลุ่มพนักงานในสถานประกอบการที่มีติดเชื้อมากกว่า 50% จนต้องปิดกิจการ และกลุ่มพนักงานอุตสาหกรรมสำคัญ
#2853


ความเคลื่อนไหวการแขังขันฟุต. เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่จะมีการแข่งขันระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2564 - 1 มกราคม 2565 โดยมี 11 ชาติเข้าร่วม ประกอบไปด้วย ไทย, เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เมียนมา, สิงคโปร์, กัมพูชา, สปป.ลาว, บรูไน และ ติมอร์ เลสเต

ล่าสุด "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย เปิดเผยว่ามีความประสงค์ที่จะให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เพื่อเป็นการเรียกศรัทธาของแฟน.กลับคืนมาอย่างแท้จริง "ที่ผ่านมาได้รับทราบว่าทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เสนอให้ไทยเป็นเจ้าภาพซูซูกิ คัพ ในปลายปีนี้ เรื่องนี้แป้งเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง โดยอย่างแรกคือถ้าเราได้เป็นเจ้าภาพเราไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องมีการกักตัว ส่งผลดีโดยตรงต่อสโมสรในไทยลีกที่นักเตะตัวหลักไม่ต้องพักนานจบจากทีมชาติสามารถกลับเข้าสโมสรได้ทันที"

"แฟน.ชาวไทย และคนไทยทุกคนต้องการเห็นแชมป์ฟุต.รายการนี้มากที่สุด และเราเป็นเจ้าของแชมป์รายการนี้มากที่สุด ดังนั้นเราไม่มีทางเลือกอื่นคือต้องการกลับไปคว้าแชมป์ให้ได้ นอกจากนี้หากถึงช่วงปลายปีสถานการ์โควิด-19 ในประเทศเราเบาบางลง เราอยากเห็นแฟน.เข้าชมเกมที่สนามราชมังคลากีฬาสถานอีกครั้ง"

"อยากวอนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการนำฟุต.รายการนี้มาจัดที่ไทยให้ได้ เพราะตอนนี้เราได้ทราบข่าวมาว่าทางกัมพูชาเตรียมพร้อมอย่างมากที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเช่นกัน หากเราต้องออกไปเล่นนอกประเทศคงไม่ใช่เรื่องดีในหลายมุม ดังนั้นเราต้องการเป็นเจ้าภาพฟุต.ซูซูกิ คัพ ในครั้งนี้"
#2854


วันนี้(23 ส.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค. เห็นชอบการขยายพื้นที่ของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ให้กว้างขึ้น โดยให้นักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่นในลักษณะ 7+7 เป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปยังพื้นที่นำร่องอื่นๆ ได้เพิ่มเติม โดยปรับลดเวลาที่ต้องอยู่ในพื้นที่ภูเก็ตจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน ซึ่งพื้นที่นำร่องประกอบด้วย พื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ และพื้นที่เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้ดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ด้วย

นายธนกร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยอดนักท่องเที่ยวสะสมของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อยู่ที่ 22,810คน มียอดการจองโรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย SHA Plus ตลอดไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน 2564) จำนวนกว่า 409,390 คืน ยังคงมีเที่ยวบินเข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน โดย 5 อันดับแรกมาจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยหลังจากที่ปรับเป็นสูตร 7+7 ให้นักท่องเที่ยว"ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" อยู่ภูเก็ตครบ 7 วันแล้วเดินทางไปพื้นที่นำร่องอื่นต่อได้ 7 วัน จึงจะสามารถเดินทางไปจังหวัดอื่นได้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มแซนด์บ็อกซ์ที่เดินทางออกจากพื้นที่ภูเก็ตทางบก ขณะนี้มีจำนวนสะสมอยู่ที่ 3,578 คน โดยปลายทาง 5 อันดับอยู่ที่กรุงเทพมหานคร สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ และชลบุรี ซึ่งปัจจุบันแต่ละจังหวัดมีการเตรียมการวางแผน บริหารจัดการควบคุมเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามมาตรการที่ ศบค. กำหนดแล้ว ขอให้ประชาชนในพื้นปลายทางมั่นใจได้

นายธนกร กล่าวอีกว่า ในส่วนของสมุยพลัสโมเดล ที่เชื่อมต่อกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น มีกลุ่มแซนด์บ็อกซ์เข้ามาแล้วจำนวนเกือบ 400 คน มีจำนวนคืนเข้าพักแรมรวมเกือบ 3,000 คืน (รูมไนท์) จำนวนวันพักเฉลี่ย 9 คืนต่อคน ประมาณการรายได้อยู่ที่ 17.28 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่น้อยเนื่องจากเส้นทางการบินภูเก็ต-สมุยได้หยุดทำการบินไปตั้งแต่วันที่ 3 - 16 สิงหาคม 2564 ตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต และจะประกาศต่อจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เนื่องจากการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินภูเก็ต-สมุยจะกลับมาให้บริการอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม เป็นต้นไป คาดว่าหลังจากเปิดเส้นทางการบินภูเก็ต-สมุย และใช้มาตรการ 7 + 7 แล้ว จะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวสมุยพลัสโมเดลเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ สำหรับกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศว่า โควิด-19 ระบาดหนักในไทย ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เร่งสื่อสารตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว และทัวร์โอเปอร์เรเตอร์ ในเชิงซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง (City marketing) แยกจังหวัดภูเก็ตออกมาจากประเทศไทยในภาพรวมว่าภูเก็ตมีความปลอดภัย รัฐบาลได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ สาธารณสุข ภายใต้มาตรการสาธารณสุข และการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการประเมินและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด
#2855


นายวุฒิ โอภาศเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท คาร์ โก (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน 2564 คาร์โก "เอ้าท์เล็ทรถมือสอง ราคาขายส่ง" จัดรายการลดล้างสต๊อกรถมือสองครั้งใหญ่ โดยมีโปรโมชั่นให้ลูกค้าแบบเดือดๆ ต่อเนื่อง 7 วัน 7 คืน เพื่อกระตุ้นทั้งยอดขายและกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมๆกัน ช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้าที่อยากได้รถมือสองสภาพเยี่ยมในราคาสุดคุ้ม โดยมีไฮไลต์เด็ด เพิ่มส่วนลดให้ลูกค้าทันทีถึง 10 เท่า ของเงินจอง สูงสุดถึง 180,000บาท สำหรับลูกค้าที่ต้องการได้ดีลพิเศษเมื่อซื้อด้วยเงินสด ซึ่งโปรโมชั่นเดือดพิเศษนี้มีเพียง 7 วัน เท่านั้น!!!



ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท คาร์ โก (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถมือสองที่ คาร์ โก ยกขบวนมาลดล้างสต๊อกพร้อมให้โปรโมชั่นแบบเดือดๆ 7 วัน 7 คืน รอบนี้ มีหลายรุ่นให้เลือกเป็นเจ้าของ ทั้งในกลุ่มรถหรู คอมแพคคาร์ รถครอบครัว รถอเนกประสงค์ รถกระบะ รวมถึงรถตู้ แต่ละกลุ่ม แต่ละรุ่น มีหลายโมเดลให้เลือกตอบโจทย์การใช้งาน ที่สำคัญทุกคันมีสภาพนางฟ้า เหมือนใหม่ ทั้งภายใน ภายนอก ใช้งานต่อได้ยาวๆ อย่างสบายใจ เพราะทุกคันมีประวัติดี การันตีจาก คาร์ โก ว่าไม่มีย้อมแมวเด็ดขาด ลูกค้าจึงมั่นใจได้ ทั้งนี้ขอให้รีบจอง เพราะบางรุ่นมีคันเดียว ใครจองก่อนมีสิทธิ์ก่อน



ตัวอย่างราคารถมือสองสุดฮอตที่ คาร์ โก นำมาจัดโปรโมชั่นลดเดือดห้ามพลาด 7 วัน 7 คืน เมื่อซื้อเงินสด เช่น
• วันที่ 1 26 สิงหาคม 2564 Toyota Commuter 3.0 A/T ราคา 579,000 บาท ลดเหลือ 532,000 บาท
• วันที่ 2 27 สิงหาคม 2564 Mercedes Benz S300 Bluetec 3.0 A/T ราคา 1,190,000 บาท ลดเหลือ 1,175,000 บาท
• วันที่ 3 28 สิงหาคม 2564 Toyota Revo Smart 2.4 J M/T ราคา 349,000 บาท ลดเหลือ 322,000 บาท
• วันที่ 4 29 สิงหาคม 2564 Mercedes Benz C350e Exclusive A/T ราคา 1,190,000 บาท ลดเหลือ 1,150,000 บาท
• วันที่ 5 30 สิงหาคม 2564 Toyota Vios J A/T ราคา 319,000 บาท ลดเหลือ 294,000 บาท
และ Toyota Altis 1.6G A/T ปี 2016 ราคา 379,000 บาท ลดเหลือ 349,000 บาท
• วันที่ 6 31 สิงหาคม 2564 Honda Civic 1.8 EL A/T ราคา 599,000 บาท ลดเหลือ 539,000 บาท
• วันที่ 7 1 กันยายน 2564 Honda City 1.5 S CNG A/T ราคา 330,000 บาท ลดเหลือ 304,000 บาท



ตลอดช่วงโปรโมชั่นเดือด 7 วัน 7 คืน สำหรับลูกค้าที่มองหา Toyota Vios 1.5 A/T ยังสามารถเป็นเจ้าของรถมือสองรุ่นยอดฮิตนี้ในราคาเริ่มต้นเพียง 294,000 บาท เท่านั้น ขณะที่ลูกค้าที่ชอบแคมเปญ ผ่อนเริ่มต้นวันละ 160 บาท ก็ยังมีสิทธิ์เลือกเข้าแคมเปญนี้ ตามนโยบายของ คาร์ โก อยากช่วยให้ลูกค้ามีรถส่วนตัวไว้ใช้เพื่อความปลอดภัย เป็นส่วนตัว และเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายแล้ว ซื้อรถมือสองใช้คุ้มกว่าจ่ายค่าเดินทางไปทำงานทุกวันมาก



ลูกค้าสามารถเช็คส่วนลดพิเศษ จาก คาร์ โก ได้ทุกวันที่ Facebook : Cargousedcar ซึ่งหากออกรถภายในเดือนสิงหาคม คาร์ โก ยังใจดี มอบทองคำหนัก 1 สลึง ให้ออนท๊อปเพิ่มด้วย สนใจชมคันจริงได้ที่ คาร์ โก ทุกสาขา หรือนัดหมายล่วงหน้าผ่าน Line : @cargousedcar เพื่อใช้บริการวีดีโอคอลชมรถแบบเรียลไทม์ รวมถึงขอรับบริการส่งรถให้ลองขับฟรีถึงหน้าบ้าน บริการจัดไฟแนนซ์ให้ถึงบ้านแบบสะดวกสุดๆ มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารครบทุกกระบวนการ เพื่อให้ลูกค้าได้รถยนต์มือสองคุณภาพดีไปใช้งานง่ายๆ ได้อย่างมั่นใจ



ติดต่อ คาร์ โก "เอาท์เล็ทรถมือสอง ราคาขายส่ง" ทั้ง 3 สาขา ได้ที่
• สาขาสุวรรณภูมิ 02-737-8888
• สาขากาญจนาภิเษก 098-456-7810
• สาขาโคราช 098-456-7816
#2856
เครื่องประดับแฮนเมดแซนดีสุจิตรา  ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด-โดยแซนดีสุจิตรา ราคาย่อมเยาว์


Handman Earing By Sandysujittra ต่างหูแฮนเมดBy Sandysujittra
Sandysujittra เครื่องประดับแฮนเมด   ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ โดย แซนดีสุจิตรา แนะนำผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม เป็นผลงานศิลปะในตัวเอง และ เป็นงานฝีมืออย่างพิถีพิถันโดยศิลปินท้องถิ่น

By Sandysujittต่างหูแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ มีของฝากมากมายให้ซื้อในประเทศไทย หัวของคุณจะหมุนแน่นอนเมื่อตัดสินใจว่าจะซื้ออะไร คุณภาพในราคาที่ไม่แพงนอกจากนี้คุณยังพบกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะทำให้คุณประหลาดใจว่าศิลปะไทยมีความพิเศษอย่างไร แนะนำ ชิ้นนี้ ต่างหูแฮนเมด-โดยแซนดีสุจิตรา Trust Pearl & Rose Quartz

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา และสินค้าอืนๆมากมาย แนะนำ สินค้าอืนๆอีกมาก https://www.sandysujittra.com/
The most beautiful product that we prod of and recommend, Handman Earing By Sandysujittrahandcrafted by local artist
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา 

Handman Earing By Sandysujittra

One of the most beautiful product that we proud of and recommend, These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.

There are a lot of souvenir items to buy in Thailand.Your head will surely spin when trying to decide on what to buy.here are selected items which is unique and will surely remind you of your wonderful time at Thailand.

Handman Earing By Sandysujittra

Recommend, product

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.
Our products have made by thai local people who love art & have much experience
Please visit Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop
https://www.sandysujittra.com/


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kaaiduan.com/เครื่องประดับ/ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุ/


คำค้น
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, Handman Earing By Sandysujittra
 
#2857


นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าผลการจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ใน 29 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดนั้นว่า ภาพรวมผลการโอนเงิฃภชคนเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.64) มีการจ่ายเงินเยียวยฃาไป 2 รายการ ดังนี้ รายการแรก เป็นการจ่ายเยียวยา ให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ใน16 จังหวัด จำนวน 249,235 ราย ปรากฎว่า โอนสำเร็จ 217,817 ราย คิดเป็นร้อยละ 87 และโอนไม่สำเร็จจำนวน 31,418 ราย คิดเป็นร้อยละ 13

ที่โอนสำเร็จคิดเป็นเงิน 544,542,500 บาท
ส่วนรายการที่สอง เป็นการจ่ายเยียวยาให้แก่นายจ้างใน 13 จังหวัด จำนวน 16,621 ราย ปรากฎว่า โอนสำเร็จ 16,364 ราย คิดเป็นร้อยละ 98.4 และโอนไม่สำเร็จจำนวน 257 คน คิดเป็นร้อยละ 1.6 ที่โอนสำเร็จคิดเป็นเงิน 694,446,000 บาท ซึ่งเงินในส่วนนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แก่ผู้ประกันตนและนายจ้างไปได้ในระดับหนึ่ง รวมทั้งช่วยลดภาระค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวันจากผลกระทบจากการประกาศล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินสำนักงานประกันสังคมจะส่งเลขประจำตัวประชาชนไปให้นายจ้าง เพื่อให้นายจ้างแจ้งให้ลูกจ้างที่เงินยังไม่เข้าดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย เพื่อที่สำนักงานประกันสังคมจะได้โอนเงินให้ทุกวันศุกร์ต่อไป

"การโอนเงินเยียวยาแก่ผู้ประกันตนและนายจ้างตามมาตรการของรัฐบาลในครั้งนี้ ถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ภาคแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามเจตนารมณ์ของท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้เห็นความยากลำบากและมีความห่วงใยพี่น้องแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และรัฐบาลที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อให้ทุกคน ทุกกลุ่ม เดินหน้าต่อไปได้และก้าวข้ามสถานการณ์โควิดในครั้งนี้ไปด้วยกัน"
#2858


เพื่อให้คลังเวชภัณฑ์ทำงานอัตโนมัติ, สร้างระบบเก็บ-รับ-ส่ง-ประมวล-แสดงผลข้อมูลการเข้า-ออก และตำแหน่งปัจจุบันของเวชภัณฑ์แต่ละชนิดอย่างละเอียด เรียลไทม์ ในรูปแบบดิจิทัล ทำให้โรงพยาบาลสามารถวางแผนและจัดเตรียมเวชภัณฑ์ให้เพียงพอต่อการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

ผศ.กานดา บุญโสธรสถิตย์ หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมโลจิสติกส์ บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มจธ. และหัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะฯ กล่าวว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เวชภัณฑ์ในโรงพยาบาล โดยเฉพาะชุด PPE, หน้ากาก N95 และเวชภัณฑ์อื่นๆ ที่มีกว่า 130 ชนิด (SKU) ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มีไม่เพียงพอ หรือ ขาดสต๊อก มาจากปัญหาข้อมูลเวชภัณฑ์ในระบบไม่อัปเดต เพราะต้องใช้แรงงานคนในการติดตามการใช้งานและนับสต็อก ก่อนการคีย์ข้อมูลเข้าระบบจำนวนมาก ใช้เวลานาน

และไม่สามารถอัปเดตได้ตลอดเวลา ข้อมูลปริมาณการใช้งานและจำนวนคงเหลือที่มีอยู่ในระบบจึงไม่สะท้อนความจริง ทำให้กระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถจัดสรรจำนวนเวชภัณฑ์ให้โรงพยาบาลได้อย่างเหมาะสม รวมถึงประชาชนที่ต้องการบริจาคเวชภัณฑ์เพื่อช่วยสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ก็ไม่สามารถบริจาคได้ตามความขาดแคลนที่แท้จริง นี่จึงเป็นที่มาของโครงการพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ ที่เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้

"เรานำนวัตกรรมโลจิสติกส์มาพัฒนาคลังเวชภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมให้ทันสมัยขึ้น โดยอัปเกรดอุปกรณ์ในคลัง เช่น รถเข็น, ตะกร้า, กล่องรักษา-ควบคุมอุณหภูมิ, ชั้นวางของ, ตู้แช่เย็น ด้วยกลุ่มเทคโนโลยี IoT ได้แก่ เทคโนโลยี RFID ที่ติดตั้งแท็กบนเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ ทำให้สามารถรับและส่งข้อมูลเวชภัณฑ์ได้อัตโนมัติ เช่น ประเภทของเวชภัณฑ์ หมายเลขล็อตหรือแบ็ทช์, สถานที่ผลิต, วันผลิต, วันหมดอายุ, ตำแหน่งการวางและหยิบเวชภัณฑ์ในคลัง เป็นต้น ทดแทนการใช้คนจดบันทึกและคีย์ข้อมูลเข้าระบบ โดยโรงพยาบาลสามารถนำไปเชื่อมต่อเข้ากับระบบสารสนเทศของโรงพยาบาล (Hospital Information System: HIS) สำหรับการจัดการเวชภัณฑ์คงคลัง ด้วย Economic Order Quantity (EOQ) เพื่อมาคำนวณว่า ควรสั่งเวชภัณฑ์แต่ละประเภทปริมาณเท่าใด และเมื่อไหร่ ทั้งนี้ ข้อมูลเวชภัณฑ์จะอัปเดตทันทีเมื่อมีการนำเวชภัณฑ์เข้าและออกจากคลัง ช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสามารถเช็คข้อมูลสต๊อกได้ถูกต้อง ตรงกัน และสั่งเวชภัณฑ์ได้ทันเวลา"


โดย ทีมวิจัยฯ เลือกใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสาน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน แก้ปัญหาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ กำลังเผชิญ ด้วยงบประมาณที่สมเหตุสมผล เช่น การบันทึกปริมาณการใช้เวชภัณฑ์ สามารถเลือกใช้การติดตั้งตราชั่ง หรือ โหลดเซลล์ บนอุปกรณ์ ร่วมกับแท็ก RFID บนชั้นวางสำหรับเวชภัณฑ์ราคาสูงและ/หรือมีขนาดเล็ก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีราคาแพง ส่วนเวชภัณฑ์อื่นๆ สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดหรือบาร์โค้ด ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่าได้

 ด้าน รศ.นพ. พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ปัจจุบันระบบการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคลังเวชภัณฑ์ใหญ่ กับคลังย่อยของวอร์ดต่างๆในโรงพยาบาลยังไม่เชื่อมต่อกัน ทำให้การตรวจสอบปริมาณที่แท้จริงของเวชภัณฑ์แต่ละชนิดที่มีและใช้อยู่เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด-19 เวชภัณฑ์อย่างชุด PPE, หน้ากาก N95 เป็นเวชภัณฑ์ป้องกันที่จำเป็นและขาดไม่ได้ การพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ จะเข้ามาช่วยให้การบริหารจัดการเวชภัณฑ์ทั้งระบบดีขึ้น ทำให้รับรู้ปริมาณของที่มีถูกต้อง และช่วงเวลาที่ควรสั่งซื้อ จนถึงความเหมาะสมในการนำเวชภัณฑ์แต่ละชนิดไปใช้ ซึ่งหากระบบนี้สำเร็จจะช่วยป้องกันปัญหาเวชภัณฑ์ขาดแคลนได้ เป็นประโยชน์โดยตรงต่อการรักษาผู้ป่วย และการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์
"นอกจากประโยชน์โดยตรงต่อการรักษาและความปลอดภัยของผู้ป่วย ซึ่งเป็นพันธกิจหลักของโรงพยาบาล คลังอัจฉริยะยังส่งผลดีต่อการบริหารจัดการภายในโรงพยาบาล ช่วยลดภาระงานของบุคลากรในงานด้านข้อมูล หมดปัญหาเวชภัณฑ์หมดอายุ เพราะมีการบันทึกวันเข้าและวันออกจากคลังแบบเรียลไทม์ ขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมโยงสู่ระบบโลจิสติกส์ เพราะภายในโรงพยาบาลจะมีคลังย่อยต่างๆ แต่การบริหารจัดการแบบภาครัฐ จะให้ความสำคัญกับคลังใหญ่เป็นหลัก มีการเช็คข้อมูลสต๊อก ของเข้าและออกในคลังใหญ่ แต่ยังไม่มีระบบจัดการข้อมูลในคลังย่อย หากเป็นไปได้ก็อยากเห็นทุกโรงพยาบาลในประเทศไทยมีระบบคลังอัจฉริยะที่เชื่อมโยงข้อมูลไปถึงคลังย่อยแบบครบวงจร สามารถดูภาพรวมของที่มีอยู่ในโรงพยาบาลได้ทั้งหมด จะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจน" รศ.นพ. พฤหัส กล่าวเพิ่มเติม 

โครงการพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะ เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และบริษัททำน้อยได้มากจำกัด ผู้ให้บริการด้านระบบการจัดการคลังสินค้า และผู้ให้คำปรึกษาด้านลีน ที่มาร่วมกันพัฒนาคลังเวชภัณฑ์เพื่อรองรับการทำงานของโรงพยาบาลต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงหาทุนสนับสนุนวิจัย เมื่อได้รับทุนแล้วก็พร้อมลงมือพัฒนาคลังเวชภัณฑ์อัจฉริยะได้ทันที
#2859


จีนจะเปิดทางให้คู่สมรสมีความชอบธรรมทางกฎหมายในการมีบุตรสูงสุด 3 คน ท่ามกลางความกังวลจำนวนประชาชนในวัยทำงานในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกแห่งนี้กำลังลดลงเร็วเกินไป ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อความหวังของปักกิ่ง ที่ปรารถนาเพิ่มความเจริญรุ่งเรืองและยกระดับอิทธิพลในเวทีโลกในอนาคต

สมาชิกสภานิติบัญญัติจีนได้ปรับแก้กฎหมายวางแผนครอบครัวและประชากรเมื่อวันศุกร์ (20 ส.ค.) ส่วนหนึ่งในความพยายามปรับเปลี่ยนข้อบังคับที่มีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งควบคุมขนาดของครอบครัวด้วยคำสั่งทางการเมือง

สำนักงานซินหัว สื่อมวลชนแห่งรัฐของจีน รายงานย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคมว่า ข้อเสนอแก้ไขกฎหมายได้รับความเห็นชอบระหว่างการประชุมคณะกรรมการกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธาน

พรรคคอมมิวนิสต์บังคับใช้มาตรการจำกัดการมีบุตรมาตั้งแต่ปี 1980 เพื่อควบคุมการขยายตัวของประชาชน อัตราการเกิดที่ลดลงของจีน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายลูกคนเดียวในปี 1979 ประเทศแห่งนี้โอ้อวดมาช้านานว่านโยบายดังกล่าวประสบความสำเร็จในการป้องกันการเกิดใหม่ถึง 400 ล้านคน ปกป้องทรัพยากรต่างๆ และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

คู่สมรสที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายลูกคนเดียวมีสิทธิตกงานและถูกปรับเงิน ในบางกรณีคุณแม่หลายคนยังถูกบังคับทำแท้งหรือทำหมัน และด้วยที่ครอบครัวต่างๆ ชอบลูกชายมากกว่าลูกสาว มันยังทำให้หลายครอบครัวตัดสินใจทำแท้งทารกเพศหญิง นำมาซึ่งความไม่สมดุลอย่างมากในอัตราส่วนระหว่างเพศชายและเพศหญิง

ข้อจำกัดต่างๆ ที่กำหนดต่อครอบครัวในกฎหมายวางแผนครอบครัวและประชากร มีการผ่อนปรนเป็นครั้งแรกในปี 2015 เปิดทางให้คู่สมรสมีบุตรได้สูงสุด 2 คน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยอมรับว่ามันเป็นผลลัพธ์จากอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างมาก แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่ออัตราการเกิดที่ลดลงของประเทศ

จากข้อมูลพบว่า มีทารกลืมตาดูโลก 12 ล้านรายเมื่อปีที่แล้ว ลดลง 18% จาก 14.65 ล้านคนในปี 2019 แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี ในขณะเดียวกัน ประชากรวัยชราอายุ 60 ปีขึ้นไปของจีนพุ่งแตะ 264 ล้านคน คิดเป็น 18.7% ของประชากรทั้งหมดในปี 2020 เพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2010 ถึงเกือบ 6%

ในช่วงเวลาเดียวกัน ประชากรวัยทำงานของจีนลดลงเหลือ 63.3% จากระดับ 70.1% เมื่อ 1 ทศวรรษก่อน

ณ ที่ประชุมเมื่อวันศุกร์ (20 ส.ค.) คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ (Standing Committee of the National People's Congress) ยกเลิกข้อกำหนดปรับเงินสำหรับผู้ละเมิดข้อบังคับต่างๆ ก่อนหน้านี้ และเรียกร้องให้สิทธิลาคลอดเพิ่มเติมและเพิ่มเติมทรัพยากรดูแลเด็ก โดยในกฎหมายฉบับแก้ไขระบุว่า ควรนำมาตรการใหม่มาใช้ ทั้งในด้านการเงิน ภาษี การศึกษา ที่อยู่อาศัยและการจ้างาน เพื่อแบ่งเบาภาระแต่ละครอบครัว

นอกจากนี้แล้วในกฎหมายฉบับแก้ไขยังหาทางจัดการกับปัญหาที่เรื้อรังมานานเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติกับผู้หญิงตั้งครรภ์และคุณแม่มือใหม่ในสถานที่ทำงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ขัดขวางการมีบุตรเพิ่ม เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายระดับสูงและความคับแคบแออัดของที่พักอาศัย

(ที่มา : เอพี/เอ็นบีซีนิวส์)
#2860


ศึกฟุต.ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2021/22 วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564 เกมที่น่าสนใจ บาร์เซโลน่า ยกพลไปเยือน แอธเลติก บิลเบา ที่สนามซาน มาเมส

บาร์เซโลน่า ของกุนซือโรนัลด์ คูมัน เกมที่แล้วเปิดบ้านเอาชนะ รีล โซเซียดัด 4-2 เกมนี้นำทัพมาโดย 3 แนวรุก อองตวน กรีซมันน์, เมมฟิส เดปาย และมาร์ติน เบรธเวต ส่วน แอธ.บิลเบา เกมที่แล้วเจ๊า เอลเช่ 0-0 เกมนี้นำทัพโดย อินากี วิลเลียมส์, โออิฮาน ซาสเชต์ และอีเคร์ มูเนียอิน

รูปเกมในครึ่งแรกค่อนข้างสูสี โดยเป็นเจ้าถิ่นแอธ.บิลเบา ที่ถึงแม้ชื่อชั้นเป็นรอง แต่เป็นฝ่ายที่ทำเกมบุกได้ดีกว่า มีโอกาสลุ้นประตูได้หวาดเสียวมากกว่าเล็กน้อย แต่ยังทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลา 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง แอธ.บิลเบา ยังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นฝ่ายออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 50 จากจังหวะลูกเตะมุม อีเคร์ มูเนียอิน เปิดมาให้ อินิโก มาร์ติเนซ วิ่งมาโหม่งเต็มๆหัวเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 75 บาร์เซโลน่า ที่โหมบุกอยู่นาน ก็มาตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่เซร์กี โรแบร์โต จ่ายให้ เมมฟิส เดปาย หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนซัดเต็มข้อแสกหน้านายทวารเจ้าถิ่นเข้าไป เป็นประตูแรกในเกมอย่างเป็นทางการของเจ้าตัวในสีเสื้อ "อาซูลกราน่า"

น.90+2 บาร์เซโลน่า ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อเอริค การ์เซีย ตั้งใจเสียบ อินากี วิลเลียมส์ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

จบเกมการแข่งขัน 90 นาที บาร์เซโลน่า บุกไปเสมอกับ แอธเลติก บิลเบา 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม โดย "บาร์ซ่า" ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว มี 4 คะแนน จาก 2 นัด ส่วน "บิลเบา" มี 2 แต้มจาก 2 นัด

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
แอธ.บิลเบา : ฆูเลน อากีร์เรซาบาลา (GK), อินิโก เลเก้, ดานี วิเวียน, อินิโก มาร์ติเนซ, มิเกล บาเลนเซียกา, อเล็กซ์ เบเรนเกอร์, ดานี การ์เซีย, อูไน เบนเซเดอร์, อีเคร์ มูเนียอิน, อินากี วิลเลียมส์, โออิฮาน ซาสเชต์

บาร์เซโลน่า: เนโต (GK), แซร์จินโญ เดสต์, เอริค การ์เซีย, เกราร์ด ปิเก, ยอร์ดี อัลบา, เซร์คิโอ บุสเกตส์, เฟรงกี เดอ ยอง, เปดรี, อองตวน กรีซมันน์, เมมฟิส เดปาย, มาร์ติน เบรธเวต