• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Panitsupa

#5416


ชลธิชา แสงพันธุ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท แอนะลิติสต์ จำกัด ผู้สร้างแพลตฟอร์ม GROWTHai ระบุว่า อยากให้แพลตฟอร์ม GROWTHai ซึ่งเกิดจากบริษัทคนไทย 100% นี้เป็นตัวแทนของคนไทยที่จะไปเรียนรู้ แบ่งปัน และในทางกลับกันเป็นโอกาสไปรับความรู้จากสตาร์ทอัป CDP จากทั่วโลก และมุ่งเน้นสร้างความสัมพันธ์เพื่อขยายธุรกิจร่วมกันในอนาคตอีกด้วย 

"ธุรกิจไทยต้องมีเครื่องมือทางการตลาดที่ชาญฉลาด และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยอย่างแท้จริง สังเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันเวลา และที่สำคัญอยู่ในงบประมาณที่คุ้มการลงทุนได้ในระยะเวลาอันสั้น"



สำหรับ GROWTHai คือ CDP (Customer Data Platform) ซึ่งนับเป็น MarTech (Marketing Technology) ที่จะเข้ามายกระดับการตลาดไทยนำทุกธุรกิจมุ่งสู่ Growth Marketing อย่างแท้จริง หรือในเชิงเทคนิค GROWTHai คือ เครื่องมือการตลาดแบบอัตโนมัติ ขับเคลื่อนด้วยผลดาต้าที่มาจากการวิเคราะห์เชิงลึกในแบบเรียลไทม์

ภายในจะประกอบด้วย GROWTHai Predict ในการวิเคราะห์คอนซูเมอร์อินไซต์ เพื่อหาความต้องการใหม่ๆ จนถึงคาดการณ์ความต้องการแบบเรียลไทม์ GROWTHai Customer 360 รวมทุกข้อมูลจากทุกช่องทางเข้าด้วยกัน GROWTHai Segment ในการแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบอัตโนมัติ

รวมถึง GROWTHai Lottovip Automation ในการสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดให้ลูกค้าในแต่ละกลุ่มมแบบอัตโนมัติ และที่สำคัญคือระบบรักษาความปลอดภัย GROWTHai Protection ที่มีการคำนึงถึงสิทธิในการใช้งานข้อมูล การบริหาร จัดเก็บแบบอัตโนมัติ
#5417


กลุ่มผู้เข้าร่วมหลักสูตร RoLD2020: The Resilient Leader กลุ่ม J (Justice) จัดโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) เปิดตัวโครงการ "LET'S GET TOGETHER" #คิดต่างไม่เห็นเป็นไร เชิญชวนร่วมแสดงความคิดเห็น ผ่านแบบทดสอบ "Quiz เปิดใจ มองต่างมุม" ในประเด็นการอยู่ร่วมกันของคนคิดต่างว่าจะสามารถสื่อสารกันได้อย่างไร หวังเป็นแนวทางลดอคติ สร้างความเข้าอกเข้าใจและความเคารพในความต่างของกันและกัน

ปัจจุบันความขัดแย้งในหมู่คนที่มีความเห็นต่างกันโดยเฉพาะในระหว่างคนต่างรุ่น ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นและได้แพร่กระจายเป็นวงกว้างจนไม่ได้จำกัดอยู่แต่เรื่องการเมืองแต่ครอบคลุมประเด็นทางสังคมอื่นๆ ด้วย กระทบทั้งคนในองค์กรเดียวกันและแม้แต่คนในครอบครัวเดียวกัน สะท้อนทั้งจากการแสดงออกผ่านโลกออนไลน์และออฟไลน์ เช่น เหตุการณ์ทัวร์ลง หรือ เปิดเครื่องด่า ซึ่งก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมในสังคมในหลายแง่มุม บางครั้งการเปิดบทสนทนา อาจนำไปสู่สภาวะที่ต่างฝ่ายไม่ต้องการรับฟังซึ่งกันและกัน นำไปสู่ความอึดอัดและเกิดความไม่ไว้วางใจกันในสังคม

นอกจากนี้ยังพบว่าพฤติกรรมและการแสดงออกทางความคิดนั้นมีรูปแบบที่แปลกใหม่และแตกต่างไปจากความคุ้นเคยดั้งเดิมมาก แสดงให้เห็นช่องว่างระหว่างกลุ่มบุคคลในสังคมที่มีความต่างในช่วงวัย และต่างประสบการณ์ จึงเกิดคำถามว่า ความไม่คุ้นชินเหล่านี้จะตอกย้ำให้คนต่างรุ่นยิ่งมองเห็นกันเป็นอื่นมากยิ่งขึ้นหรือไม่ แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความร้าวลึกหรือความเกลียดชังมากขึ้นกับคนต่างความคิดในสังคม จึงเป็นที่มาของการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจคนที่คิดต่าง และเข้าใจพื้นฐานที่มาที่ไปของคนแต่ละรุ่น เพื่อจะมองเห็นทั้งจุดต่าง จุดร่วมสะท้อนภาพของสังคมที่เกิดขึ้น
เราจึงขอเชิญชวนเปลี่ยนมุมมองด้วยการเข้าร่วมโครงการ "LET'S GET TOGETHER" ผ่านแบบทดสอบ "Quiz เปิดใจ มองต่างมุม" ที่จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ค้นหาจุดร่วมในความต่าง หามุมเหมือนในความขัดแย้ง ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนต่างมุม ต่างวัย ได้ปรับตัว หรือจูนคลื่นเข้าหากัน และสื่อสารถึงกันได้ แล้วทุกคนอาจจะพบว่า "เรา..ไม่ต่างกันอย่างที่คิด..และแม้จะต่างเราก็ไปด้วยกันได้ดีกว่าที่เห็นอยู่ได้"

เริ่มต้นง่ายๆ เพียงคลิกเพื่อทดลองด้วยตัวเองที่ https://tijrold.org/rold-in-action/letsgettogether/ คำตอบที่ได้จะช่วยพัฒนาฐานข้อมูลในการเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งในสังคมไทย เมื่อทำแบบสอบถามเสร็จก็จะได้เห็นข้อมูลสถิติของสิ่งที่ผู้ตอบแบบทดสอบคนอื่นในรุ่นเดียวกันและต่างรุ่นตอบทันทีพร้อมข้อสังเกตที่น่าสนใจ ทั้งยังมีข้อแนะนำที่ชวนให้ทำความเข้าใจภูมิหลังทางเศรษฐกิจสังคมการเมืองที่อาจส่งผลต่อโลกทัศน์ของคนแต่ละรุ่นอีกด้วย โดยสถาบันฯ จะมีการเก็บข้อมูลนับจากนี้ไปอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อมูลที่ทำให้เราเข้าใจคนในสังคมชัดเจนมากขึ้น

หลังจากทำแบบทดสอบแล้ว ยังสามารถศึกษาคู่มือ 4E: วิธีสื่อสารข้ามรุ่น คู่มือสำหรับการสื่อสารกับคนต่างวัย ที่อาจจะมีมุมมองขัดแย้งกันได้ที่ https://tijrold.org/book/lets-get-together/

วันนี้ การสร้างความเปลี่ยนแปลง สามารถเริ่มได้ที่ตัวเรา #LetsGetTogether #คิดต่างไม่เห็นเป็นไร
#5418


ไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต โดยเจ้าของโครงการคือ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ออกแบบโดย บริษัท เออร์เบิ้น อาร์คิเต็คส์ จำกัด ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะสร้างไอคอนสยามให้เป็นศูนย์รวมทุกมิติของภูมิปัญญาคนไทย ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทยไปแข่งขันระดับโลก ได้ขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 4 ศูนย์การค้าที่ดีที่สุดของโลก บนเวทีประกวดอสังหาริมทรัพย์ MIPIM Awards 2021 ซึ่งเป็น Global Awards ที่มีมานานกว่า 30 ปี เมื่อวันที่ 8 กันยายน ณ เมืองคานส์ (Cannes) ประเทศฝรั่งเศส โดยนับว่าเป็นครั้งแรกของโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกจากประเทศไทยที่ได้รับเกียรตินี้

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ ผู้บริหารไอคอนสยาม กล่าวว่า "ไอคอนสยามเป็นโครงการที่สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมที่สุดของความเป็นไทยมานำเสนอให้คนทั่วโลกได้สัมผัสและชื่นชม ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Co-creation" และ "Creating Shared Lottovip Value" โดยได้รวมพลังคนไทยจากทุกภาคส่วนมาร่วมกันสร้างสรรค์โครงการที่มอบคุณค่าและการสมประโยชน์ให้เกิดแก่ชุมชนและบรรดาธุรกิจต่างๆ ที่รายล้อมสังคม และประเทศชาติเป็นวงกว้าง ซึ่งแม้วิกฤตการณ์โควิด-19 ได้ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปได้อย่างยากลำบากเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ ไอคอนสยามก็ยังคงยึดมั่นในปณิธานที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ชุมชน และผู้คนให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ การที่ไอคอนสยามได้รับคัดเลือกจาก MIPIM Awards 2021 ให้เป็นโครงการแรกจากประเทศไทยที่ได้ขึ้นทำเนียบ 1 ใน 4 ศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลกครั้งนี้ นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ที่จะส่งพลังใจให้แก่ผู้ประกอบการในวงการค้าปลีก และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนจากต่างประเทศได้ตระหนักถึงศักยภาพของคนไทย และประเทศไทย"



ไอคอนสยามติด 1 ใน 4 ศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลกจากจำนวนผู้เข้าแข่งขัน 172 โครงการจาก 36 ประเทศ และถือเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกแรกในประเทศไทยที่ได้รับเกียรติจาก MIPIM Awards ซึ่งเป็นเวทีประกวดโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกที่มีมานานกว่า 30 ปี และได้รับการยกย่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จากทั่วโลกให้เป็นรางวัลออสการ์แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ 

ด้วยวิสัยทัศน์ในการทำโครงการแนวใหม่ของไอคอนสยามที่ถือกำเนิดจากความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งแห่งยุคจากผู้เชี่ยวชาญในแขนงต่างๆ ทั่วโลกรวม 15 ชาติ และผู้เชี่ยวชาญคนไทยจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นสถาปนิก วิศวกร ศิลปิน ช่างฝีมือ ผู้นำชุมชนจากหลายจังหวัดทั่วไทย รวมถึงภาครัฐและภาคเอกชน ประชาสังคม ตลอดจนผู้ประกอบการร้านค้ากว่า 1,000 ราย เพื่อสร้างโครงการที่เสนอที่สุดแห่งความเป็นไทยภายใต้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ทั้งยังเป็นโครงการที่ถูกวางรากฐานให้ส่งต่อประโยชน์ และความเจริญรุ่งเรืองไปสู่ชุมชนและธุรกิจที่รายล้อมอย่างมหาศาล เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นโครงการที่มีศักยภาพเป็นที่ยอมรับนับถือระดับโลก



ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดให้บริการเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ไอคอนสยามได้รับรางวัลชนะเลิศแล้วถึง 13 รางวัลในสาขาต่างๆ จากเวทีชั้นนำของโลกมาเป็นลำดับ เช่น รางวัล โครงการที่ออกแบบดีที่สุดในโลก หรือ Best Design of the Year จาก World Retail Awards 2019 โดยสภาการค้าปลีกโลก และรางวัลชนะเลิศ สาขาศูนย์การค้าที่ดีที่สุด จากเวที MAPIC Awards 2019 เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส และรางวัล VIVA Best-of-the-Best Awards 2020 ในฐานะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกดีที่สุดในโลก จาก International Council Shopping Centers เป็นต้น

"กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ยึดมั่นในการเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่มุ่งจะสร้างปรากฏการณ์แรกในมิติต่างๆ ให้เกิดขึ้นเพื่อมอบให้แก่คนไทยและประเทศไทย วิสัยทัศน์ของสยามพิวรรธน์คือการนำศักยภาพของคนไทย และประเทศไทยไปชนะบนเวทีโลกและชนะใจคนทั้งโลก เราได้ก้าวข้ามการแข่งขันในประเทศไปสู่การยอมรับนับถือบนเวทีโลกได้สำเร็จ ทุกโครงการของเราคว้ารางวัลชนะเลิศ global awards มากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสิ้นนี้เป็นพลังใจให้เรามุ่งมั่นเดินหน้าที่จะทำโครงการที่มอบความประทับใจเหนือความคาดหมาย สร้างความสำเร็จอันยั่งยืนให้แก่บรรดาผู้ประกอบการที่ฝากอนาคตไว้กับเรา รวมทั้งส่งมอบประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติสืบต่อไป" นางชฎาทิพ กล่าวปิดท้าย



ไอคอนสยาม ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่หลักในการจัดงาน countdown ปีใหม่ของประเทศไทยติดต่อกันมาถึง 3 ปี ได้มอบประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจและมอบความสุขให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนตลอดมา ในวันนี้ไอคอนสยามพร้อมแล้วหลังจากรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ที่จะนำเสนอสินค้าและประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แบรนด์ชั้นนำของไทยและทั่วโลกมากมายที่ได้เปิดกิจการเพิ่มเติมท่ามกลางวิกฤตโควิดในปีนี้บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตรเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ เช่น

• ร้าน Starbucks Reserve Chao Phraya Riverfront (สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เจ้าพระยา ริเวอร์ฟรอนต์) เป็นร้านกาแฟสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยพื้นที่ 1,260 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบเพื่อส่งมอบประสบการณ์การดื่มกาแฟที่มีชีวิตชีวา ท่ามกลางกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทย

• ร้าน MUJI เปิดสาขาใหม่บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 1,300 ตารางเมตร ครบครันด้วยทุกกรุ๊ปไอเท็มสินค้ากว่า 6,193 รายการ และครบทุกบริการ เช่น Labo รวมเสื้อผ้าที่ใช้ได้ทุกโอกาส โซนอาหารท้องถิ่นและของดีหารับประทานยากทั่วประเทศไทย และมี MUJI Coffee Corner ท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลายพร้อมมอบความสุขกับการดื่มกาแฟด้วยเมล็ดกาแฟจากดอยตุง อีกทั้งมีบริการปรึกษาออกแบบภายในอีกด้วย

• Great Wall Motors บริษัทผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและไฮบริดจากประเทศจีนที่จะมาเปิด Experience Center ครั้งแรกในประเทศไทยบนพื้นที่ถึงสองชั้น ขนาดพื้นที่ 1,638 ตารางเมตร

• Mega HarborLand สนามเด็กเล่นในร่มที่ได้มาตรฐานระดับโลกบนพื้นที่ 4,438 ตารางเมตร ออกแบบโดยบริษัทผู้ผลิตเครื่องเล่นชั้นนำของโลก ในคอนเซ็ปต์สนุกสนาน Little Thailand โดยมีกำหนดเปิดมกราคม 2022



รวมทั้งการกลับมาของสุขสยาม พื้นที่รวมสุดยอดอาหารจากทั่วไทยและผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมจาก 77 จังหวัด ไอคอนสยามได้เตรียมโปรโมชันเพื่อช่วยส่งเสริมการขายให้แก่บรรดาร้านค้าเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อีกด้วย

เกี่ยวกับรางวัล MIPIM Awards
The MIPIM Awards เป็นเวทีประกวดระดับโลกด้านอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1991 โดย The MIPIM Awards ได้รับการยกย่องให้เป็นเสมือนรางวัลออสการ์ของวงการอสังหาริมทรัพย์ในระดับโลกและในภูมิภาคเอเชีย The MIPIM Awards จึงนับเป็นรางวัลเกียรติยศที่มอบแก่โครงการอสังหาริมทรัพย์และโครงการค้าปลีกที่โดดเด่นและดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากการมอบรางวัลแล้ว MIPIM ยังจัดงานสัมมนาและอีเวนต์ระดับโลกด้านอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ปี ค.ศ.  1990 ซึ่งเป็นเสมือนงานรวมตัวของผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญทั่วโลก
#5421


มาเรีย ชาราโปว่า อดีตนักเทนนิสขวัญใจแฟนทั่วโลก ส่งกำลังใจถึง นาโอมิ โอซากะ นักหวดรุ่นน้องที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลายากลำบากในสนาม จากปัญหาเรื่องสภาพจิตใจและการรับมือกับสังคมรอบตัวยามลงแข่งทัวร์นาเมนต์

โอซากะ ดีกรีแชมป์ แกรนด์ สแลม 4 สมัย ประกาศวางมือจากเทนนิสเป็นรอบ 2 หลังตกรอบศึก ยูเอส โอเพน หนล่าสุด ประกอบกับความผิดหวังที่ร่วง โอลิมปิก ในบ้านเกิด รวมถึงเสียงวิจารณ์บนโซเชียลฯ จนทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่

หลายคนมีความเป็นห่วงว่านักหวดสาวชาวญี่ปุ่น อาจเลิกเล่นเทนนิสก่อนเวลาอันควรเพราะเรื่องของจิตใจ และมีอาการป่วยซึมเศร้าเป็นทุนเดิม กระนั้น ชาราโปว่า ที่เฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ ก็แสดงความเป็นห่วงและอยากให้แฟนๆ ช่วยกันสนับสนุนเธอในยามลำบาก

ชาราโปว่า เผยว่า 'ทุกคนต้องส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาที่กำลังเจอกับช่วงเวลายากลำบากในอาชีพการงาน นาโอมิ เป็นนักกีฬาที่น่าทึ่งและเป็นมนุษย์ที่จิตใจดี เธอมีเส้นทางในอาชีพที่ทอดยาวได้อีกไกล และเราต้องเคารพการตัดสินใจของเธอ'

'เมื่อพวกเขารู้สึกแย่หรือเล่นเทนนิสได้ต่ำกว่ามาตรฐาน มีไม่กี่คนที่รู้ว่าอะไรที่อยู่เบื้องหลังและความรู้สึกของพวกเขาเป็นยังไง คุณเห็นแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม ถ้าเราคอยให้กำลังใจพวกเขาได้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น'

ส่วนกรณีที่ โอซากะ เคยปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อจนเป็นดราม่าใน เฟรนช์ โอเพน อดีตมือ 1 โลกอย่าง ชาราโปว่า ที่เคยมีช่วงเวลาปฏิเสธสื่อมวลชนมาก่อนสมัยเป็นวัยรุ่น ตอบว่า 'ฉันเข้าใจเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็แล้วคุณก็ต้องไปเจอกับสื่อมวลชน แสดงความเป็นมืออาชีพ ทำให้ดีขึ้น และพูดถึงแมตช์ที่ผ่านไป'
#5422


นางสาวพัทธ์หทัย กุลจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท  อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด  หรือ ผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต ภายใต้แบรนด์ "กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์" เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขยายธุรกิจสินเชื่อผ่อนชำระค่าสินค้าในภูมิภาคอาเซียน( Lottovip  AEC) พร้อมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา เนื่องจาก ประเทศกลุ่มอาเซียนในมีเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยความเชี่ยวชาญและแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่ดีที่สุดผ่านแฟลตฟอร์มธนาคารเพื่อรายย่อยของประเทศไทยและการเป็นธนาคารพาณิชย์ในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนหน้านี้ขยายไปในลาวและกัมพูชาแล้ว 

 ล่าสุด บริษัทได้ร่วมเข้าไปขยายตลาดสินเชื่อผ่อนชำระค่าสินค้า ในฟิลิปปินส์ ด้วย  หลังจากธนาคารกรุงศรี เข้าถือหุ้น 50% ในบริษัท เอสบี ไฟแนนซ์ คอมปานี อิงค์ (SBF) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ในเครือซีเคียวริตี้ แบงก์ คอร์ปอเรชั่น (SBC) หนึ่งในธนาคารชั้นนำของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ที่ให้บริการด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค


ทั้งนี้ กลุ่มธนาคารกรุงศรีฯ เตรียมนำเสนอสินเชื่อบุคคล  สินเชื่อคาร์ฟอร์แคช สินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระสินค้า และสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไปให้บริหาร คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปลายปี 2564 โดยในส่วนสินเชื่อผ่อนชำระค่าสินค้า ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ คาดว่า จะออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตที่ใช้ผ่อนชำระค่าสินค้าและเบิกเงินสดหรือสินเชื่อทูอินวัน เหมือนในไทยแต่จะทำในรูปแบบดิจิทัล 

"มองว่า ตลาดฟิลิปปินส์ยังมีโอกาสเติบโตสูง ด้วยประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภควัยทำงาน และใช้โซเชียลมีเดียอย่างก้าวกระโดดมากกว่าในไทยทั้งชอปปิงออนไลน์และการใช้โมบายแบงกิ้ง  และปัจจุบันเริ่มกลับมาเปิดประเทศหลังผ่อนคลายคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 มีการพักชำระหนี้ 2 รอบบัญชี ธุรกิจเริ่มฟื้นตัวและวอลุ่มสินเชื่อบุคคลเริ่มกลับมาแล้ว"  


นางสาวพัทธ์หทัย กล่าวว่า  การขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ช่วยหนุนสร้างรายได้จากธุรกรรมดังกล่าวโตต่อเนื่องกลับมาที่กลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาในระยะยาว  เนื่องจากจังหวะนี้ถือว่าตอบโจทย์ลดข้อจำกัดตลาดในไทยมีผลกระทบจากการกำกับดูแลและสถานการณ์โควิด-19 แต่ต่างประเทศยังโตได้ในหลายส่วน  นอกจากนี้ยังมองว่า ธุรกิจประกันในAECขยายตัวสูงนำมาผูกกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้  ซึ่งยังเป็นโอกาสในสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นด้วย 
#5425


เอดูอาร์โด คามาวิงกา มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส เดินทางมาเปิดตัวกับ เรอัล มาดริด อย่างเป็นทางการ หลังย้ายร่วมทีมในวันปิดตลาดซื้อขายนักเตะเมื่อสิ้นเดือนก่อน

กองกลางวัย 18 ปี ย้ายจาก แรนส์ ในลีกเอิง ฝรั่งเศส มาร่วมทัพ 'ราชันชุดขาว' ด้วยค่าตัว 31 ล้านยูโรพร้อมแอดออน และเซ็นสัญญากัน 6 ปีเต็ม แต่เจ้าตัวเพิ่งจะได้ฤกษ์เดินทางมายังประเทศสเปนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นภารกิจกับทีมชาติฝรั่งเศส รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี

ล่าสุดเขาผ่านการตรวจร่างกายกับ เรอัล มาดริด ในวันนี้ (8 กันยายน) ก่อนเดินทางไปเปิดตัวกับสโมสร พร้อมกับเจอเพื่อนร่วมทีมที่สนามซ้อม

'ผมมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ผมภูมิใจที่ได้ย้ายมาเป็นส่วนหนึ่งของสโมสร ผมอยากขอบคุณท่านประธาน ฟลอเรนติโน เปเรซ และครอบครัวของผมทุกคน ถ้าหลายปีก่อนมีคนบอกผมว่าผมจะมาอยู่ตรงนี้ผมคงไม่เชื่อ' คามาวิงกา เริ่มกล่าว

'เหตุผลหลักที่ผมตัดสินใจมาที่นี่ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เพื่อเติมเต็มความฝันในวัยเด็กของผมให้กลายเป็นจริง ผมอยากเล่นร่วมกับนักเตะที่ยอดเยี่ยมในสโมสรแห่งนี้ พวกเขาจะสอนอะไรหลายๆอย่างให้ผมแน่'

'ผมไม่คิดมากเลยในตอนที่ได้รับโอกาส และผมก็มีความสุขมากจริงๆ ผมพร้อมจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับสโมสรแห่งนี้' มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 18 ปี ทิ้งท้าย

สำหรับ เอดูอาร์โด คามาวิงกา เพิ่งจะลงสนามให้กับทีมชาติฝรั่งเศส รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ไป 2 เกม ในช่วงพักเบรกทีมชาติที่ผ่านมา และสามารถทำประตูได้ในเกมที่ 'ตราไก่' เอาชนะมาซิโดเนีย 3-0 ก่อนจะมาพลิกล็อกเสมอหมู่เกาะแฟโรในวันจันทร์ที่ผ่านมา
#5426


ขึ้นชื่อว่าตัวแม่แห่งสายบริการ ที่ด้วยเนื้องานทำให้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นต่อให้ตอนนี้ "กบ-อาภาศิริ เทพหัสดิน ณ อยุธยา" จะเจอกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ ทำให้คอร์สสำหรับอัปสกิลด้านงานบริการที่เจ้าตัวทุ่มสุดตัว สกัดจากประสบการณ์ตรง ในฐานะที่โลดแล่นอยู่ในสายงานบริการที่ทำมาร่วม 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นสายงานโรงแรม หรือสายงานด้านแบรนด์ดิ้ง มีอันต้องดิสรัปตัวเองครั้งใหญ่



จากที่เมื่อปีที่แล้ว ที่เจ้าตัวพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการลุกขึ้นมาจัดหลักสูตรเทรนนิ่งให้แก่องค์กรต่างๆ ตลอดจนผู้ที่สนใจเพิ่มทักษะด้านงานบริการแบบเฉพาะกิจ แถมยังประกาศออกสื่อเลยว่า จะคิดราคาแบบกันเอง เพราะอยากใช้ความสามารถที่มีช่วยเหลือคนไทยด้วยกันเท่าที่จะทำได้ ทว่า ผ่านไปไม่ถึง 1 ปี คอร์สอัปสกิลด้านการบริการที่วางไว้ มีอันต้องปรับแผนครั้งใหญ่ จากคอร์สออฟไลน์มาอยู่บนโลกออนไลน์แทน เพราะสถานการณ์แบบนี้ จะให้มารวมกลุ่มกันก็เห็นจะไม่ปลอดภัย และไม่อุ่นใจแบบ 100%

"เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย เรายังสามารถทำการเรียนการสอนแบบกลุ่มย่อยได้ โดยมีการป้องกันตัว ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย แต่พอโควิด-19 ระลอกใหม่มา การเรียนเป็นกลุ่มแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ทุกอย่างต้องย้ายมาอยู่บนโลกออนไลน์หมด ซึ่ง 2-3 คอร์สแรกๆ ที่ต้องปรับมาสอนผ่านหน้าจอ ช่วงแรกๆ ก็มีตะกุกตะกักบ้าง เจอตั้งแต่ปัญหาพื้นฐาน อย่าง การเปิดไมค์พร้อมกัน หรือสัญญาณเน็ตอาจจะไม่เสถียรเวลาฝนจะตก แต่ที่ดูจะเป็นปัญหาใหญ่คือ ตัวเราเองที่อาจจะไม่ชินอย่างแรง"



งานนี้กบฉายภาพให้เห็นว่า ปกติเวลาสอนจะปล่อยพลังแบบเกินร้อย แถมยังเพิ่มสีสันและความสนุกในชั้นเรียน ด้วยกิจกรรมเวิร์กชอป มีการอินเตอร์แอคทีฟระหว่างผู้สอนและผู้เรียนแบบไม่ต้องกั๊ก เรียนเพลินแถมได้ความรู้

"อย่างที่บอกด้วยสไตล์การสอนของเรา ไม่ได้เน้นเลคเชอร์แต่เน้นการปฏิบัติ มีการเวิร์กชอป Brainstorm ร่วมกัน แรกๆ เลยต้องปรับตัวขนานใหญ่ จากปกติเราจะค่อนข้างใกล้ชิดและสนิทกับผู้เรียน เพราะเราจะไม่ยืนอยู่หน้าห้องเลย แต่จะเดินไปอยู่กลางห้อง เข้าไปคุยกับผู้เรียน แต่พอต้องย้ายมาอยู่หน้าจอ เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ แต่เพื่อให้คอร์สเรียนยังสนุก ผู้เรียนสนุกและได้ความรู้ เราก็ต้องค่อยๆ หาวิธี อาจจะต้องใช้พลังเป็นสองเท่าเพื่อส่งพลังผ่านหน้าจอ พยายามจำชื่อเล่นของนักเรียนทุกคนให้ได้ พยายามให้ทุกคนมีส่วนร่วมผ่านหน้าจอ ด้วยการยกมือหรือทำท่าทาง เพราะเวลาเรียนเราเปิดกล้องกันทุกคนอยู่แล้ว"



จากวันแรกที่ไม่ชิน มาถึงวันนี้กบยอมรับว่า คุ้นเคยกับการสวมบทเทรนเนอร์ออนไลน์มากขึ้น แม้จะไม่สามารถทดแทนการสอนแบบปกติได้ 100% แต่อย่างน้อยก็พอจะช่วยปูพรมความรู้ให้ผู้เรียนนำไปปรับใช้ก่อน

"ต้องบอกว่าลูกค้าค่อนข้างเข้าใจว่า ด้วยสถานการณ์ตอนนี้อาจจะต้องปรับรูปแบบการเรียนการสอน โดยสอนเนื้อหาในส่วนที่สามารถทำผ่านออนไลน์ได้ ส่วนที่อาจจะต้องมีการทำกิจกรรม หรือมีเวิร์กชอปเข้ามาช่วย ก็อาจจะพักไว้ก่อน ไว้รอสถานการณ์คลี่คลายค่อยว่ากัน อย่างน้อยตอนนี้ได้เติมเต็มทักษะที่จำเป็นให้พนักงานไปใช้ก่อน ซึ่งข้อดีของการที่พนักงานได้เรียนรู้ทฤษฎีและนำไปปรับใช้จริง พอกลับมาเรียนอีกที เขาอาจจะเข้าใจและเห็นภาพในสิ่งที่เรียนมากขึ้นก็ได้"



อย่างไรก็ตาม ถ้าถามว่า สถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ความต้องการของคนที่มองหาคอร์สออนไลน์ ที่ช่วยอัปสกิลบริการให้พนักงานเปลี่ยนไปหรือไม่

กบอธิบายให้เห็นภาพว่า มี 2 กรณี หนึ่งคือบริษัทที่อาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนักและต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย จึงมองว่าการเทรนนิ่งพนักงานเลยเป็นสิ่งที่ต้องพักไว้ก่อน กับสองคือบริษัทที่มองว่า นี่คือช่วงเวลาที่จะได้กลับมาปัดกวาดหลังบ้าน เตรียมพร้อมเรื่องงานบริการ เพราะถ้าเป็นช่วงสถานการณ์ปกติ พนักงานก็อาจจะไม่มีเวลามาอัปสกิล ซึ่งทุกวันนี้ต้องบอกว่า ธุรกิจที่ต้องการทักษะด้านงานบริการ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรมหรือศูนย์การค้า อีกต่อไป แต่งานบริการกลายเป็นพื้นฐานของทุกธุรกิจ ที่สามารถต่อยอด เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า เช่น คลินิกทันตกรรม คลินิกกายภาพบำบัด โรงพยาบาล ไปจนถึงมหาวิทยาลัย



"ในส่วนของค่าสอน จริงๆ ตั้งแต่ตัดสินใจผันตัวมาทำงานตรงนี้ ก็ตั้งใจแล้วว่า ในสถานการณ์ที่คนไทยต้องช่วยเหลือกันให้ได้มากที่สุด เราจะคิดค่าสอนในราคากันเอง ยืดหยุ่นได้ตามบัดเจ็ทที่แต่ละองค์กรที่ติดต่อเข้ามามี ไม่ได้มีเรทที่ตายตัว อย่างบางครั้งมีมหาวิทยาลัยหรือโรงพยาบาลตามต่างจังหวัดติดต่อเข้ามา สอบถามว่าเราคิดค่าสอนเท่าไหร่ หรืออาจจะบอกว่ามีงบเท่านี้ เราจะตอบกลับไปเลยว่าคิดตามงบที่เขามี เรารับได้หมด ถือว่าเราอยู่ในยุคที่ทุกคนต้องช่วยกัน" กบบอกเล่าอย่างอารมณ์ดี ก่อนทิ้งท้ายถึงมุมมองในฐานะอดีตคนโรงแรม และยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ "อาทิตย์ธารา" บ้านพักริมแม่น้ำบางปะกง ที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยกบทิ้งท้ายด้วยการส่งต่อกำลังใจให้คนที่อยู่ในธุรกิจโรงแรมและกำลังเผชิญกับโจทย์ใหญ่

"ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ไม่เป็นใจเช่นนี้ อาจจะต้องประคองตัว ด้วยการนำทักษะที่มีไปต่อยอดทำอาชีพเสริมอื่นๆ อย่างคนรู้จักบางคน เราก็เห็นเขาไปทำขนมขาย หรือทำอาหาร หรือจริงๆ แล้ว คนโรงแรมอาจใช้สกิลด้านการบริการที่เป็นจุดเด่นเป็นดีเอ็นเอของคนในสายงานนี้ ไปต่อยอดอาชีพอื่นๆ อีก เพราะอย่าลืมว่างานบริการเป็นรากฐานสำคัญและจำเป็นสำหรับทุกธุรกิจอยู่แล้ว เมื่อไหร่ที่สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ภาคการท่องเที่ยวกลับมา ถ้ายังรักในสายงานนี้อยู่ อาจจะกลับมาเดินในเส้นทางที่รักอีกครั้งก็ยังไม่สาย"
 
#5427


BMW i Vision Circular เป็นรถยนต์ต้นแบบที่เน้นความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม นอกเหนือไปจากการเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว โดยรถต้นแบบคันนี้ถูกผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิลล้วน 100% ไม่ว่าจะเป็นอะลูมิเนียมและเหล็กที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว และยังสามารถนำรถไปรีไซเคิลต่อได้ 100% หลังจากหมดอายุการใช้งาน ช่วยลดการใช้วัสดุจากธรรมชาติลงได้เป็นอย่างมาก

ดีไซน์ภายนอกของ BMW i Vision Lottovip Circular ถูกเปลี่ยนกระจังหน้าแบบปกติให้กลายเป็นพื้นผิวแบบดิจิทัลที่รวมเอาไฟหน้าเข้าไว้ด้วยกัน โดยยังคงออกแบบให้มีลักษณะเป็นรูปไตคู่เอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู ขณะที่ชิ้นส่วนตัวถังแทบทั้งหมดล้วนแต่ผลิตขึ้นจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล พร้อมกับกันชนที่ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลซึ่งออกแบบให้มีลวดลายส่วนล่างคล้ายกับหินอ่อน

ตัวถังของ BMW i Vision Circular ถูกออกแบบให้ใช้วัตถุดิบในการผลิตน้อยที่สุด โดยมีขนาดความยาวตัวถังประมาณ 4 เมตร เพื่อให้เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง มาพร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ทำจากแก้วรีไซเคิลช่วยเพิ่มความทันสมัยและความโปร่งโล่งภายในห้องโดยสาร เสริมด้วยล้อที่ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล และยางที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติที่ผ่านการรับรองด้านความยั่งยืน



ภายในห้องโดยสารยังคงตกแต่งเพื่อเน้นความหรูหราตามฉบับบีเอ็มดับเบิลยู โดยชิ้นส่วนต่างๆ ถูกหลีกเลี่ยงการประกอบขึ้นด้วยกาวเพื่อให้สามารถแยกชิ้นส่วนได้ง่ายเมื่อหมดอายุการใช้งาน อีกทั้งยังถูกขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ เพื่อลดส่วนเกินที่ไม่จำเป็นลงให้มากที่สุด

ห้องโดยสารของ BMW i Vision Circular สามารถรองรับได้ 4 ที่นั่ง มาพร้อมเบาะนั่งทำมาจาก "MONOchrome Taupe" ซึ่งเป็นวัสดุรีไซเคิลเช่นกัน พร้อมทั้งออกแบบมีลักษณะคล้ายกับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ขึ้นรูปอยู่บนฐานเก้าอี้ที่ทำมาจากอะลูมิเนียมสีทอง ขณะที่หน้าจอแบบเดิมๆ ถูกเปลี่ยนไปติดตั้งไว้บริเวณเหนือแผงคอนโซล เพื่อฉายข้อมูลบริเวณส่วนล่างของกระจกบังลมหน้า อีกทั้งผู้โดยสารยังสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้าได้



อย่างไรก็ดี BMW i Vision Circular ยังไม่มีแผนนำไปผลิตเพื่อวางจำหน่ายจริงในขณะนี้
#5428


หลังจากที่โลกของการเดินทางต้องหยุดนิ่งมานาน อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส (โควิด-19) ทำให้นักเดินทางต่างโหยหาประสบการณ์จากการออกไปท่องเที่ยว โดยจากการเก็บข้อมูลจากสื่อโซเชียลในช่วงการ ล็อกดาวน์ระหว่างเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมาพบว่า มีการพูดถึงความต้องการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ซึ่งกิจกรรมที่ผู้คน "อยากทำ" และพูดถึงมากที่สุดบนโลกออนไลน์ คือ "อยากไปเที่ยว" โดยมีผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมสูงถึง กว่า 3.7 ล้านเอ็นเกจเมนต์

นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ท่ามกลางความกังวลใจต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนส่วนใหญ่ต่างมีความกังวลจึงไม่กล้าออกมาท่องเที่ยว ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหยุดชะงักมาเป็นเวลานาน แม้ว่ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชน แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกสร้างขึ้น แต่ที่ผ่านมายังขาดกิจกรรมที่จะมาช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวกันเพิ่มขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายใต้สถานการณ์นี้ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 จึงมีแนวคิดพัฒนาการตลาดและการประชาสัมพันธ์ โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย มาสร้างสรรค์และพัฒนาเป็นสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในแบบ Virtual Tour 360๐ หรือ ทัวร์เสมือนจริงอย่างเต็มรูปแบบมาใช้ในการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความน่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากกลับมาเที่ยวซ้ำ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายขึ้น



ไฮไลต์ของ Virtual Tour 360๐ นี้ เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำ VR 360º ทั้งภาคพื้นดิน และบนอากาศ การสร้างสรรค์แมสคอต และของดีประจำจังหวัดมาในแบบโมเดล 3 มิติที่สามารถดูได้รอบทิศ พร้อมสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่จะสร้างมิติแห่งการท่องเที่ยวที่ให้มุมมองแบบ 2 แสง คือ กลางวันและกลางคืน ซึ่งจะนำนักท่องเที่ยวก้าวข้ามผ่านมิติ
ของแพลตฟอร์มไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวจริง ได้สัมผัสความงดงาม ตื่นตากับความหลากหลายของสถานที่และวัฒนธรรม บริบทของการใช้ชีวิตของผู้คนในชุมชนในทุกแง่มุม ผ่านดิจิทัลอาย (Digital Eye) ในรูปแบบ World of VR 360º ที่เสมือนยกแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นใน 3 จังหวัดให้มาอยู่ตรงหน้าเพียงปลายนิ้วสัมผัส

นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า นอกจากนักท่องเที่ยวจะประทับใจแหล่งท่องเที่ยว ยอดนิยมที่หลากหลายแล้วในมุมมองรอบทิศทางแล้ว ยังจะเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าโอทอปจากผู้ขายในชุมชนได้โดยตรงผ่านแชต Facebook และ Line ได้ด้วย และเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และเข้าถึงช่องทางการสื่อสารของกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ของ Virtual Tour 360๐ ในรูปแบบของ Hybrid Tour ร่วมด้วยได้ และยังสามารถบันทึกภาพความประทับใจระหว่างการท่องเที่ยวได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพาตนเองไปยังสถานที่ นั้น ๆ หรือย้ายสิ่งของจากแหล่งท่องเที่ยวมาอยู่ใกล้ตัวเพื่อเซลฟี่ ก็สามารถทำได้ในคลิกเดียว

"ด้วยเทคโนโลยี VR 360º ที่ผสานกับ 3D AR จะสร้างมิติมุมมองให้ชวนติดตาม จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งของ 3 จังหวัดในกลุ่มการท่องเที่ยวภาคกลางตอนล่าง 1 กลับพลิกฟื้นมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ซึ่งการท่องเที่ยวในรูปแบบของ Virtual Tour นี้ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นและเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ช่วยกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวเมืองหลักสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง และกระจายลงสู่พื้นที่ชุมชนในท้องถิ่นอย่างทั่วถึง สอดรับกับการท่องเที่ยวในวิถีใหม่ (New Normal) ได้อย่างลงตัว" นางสาวกิรดา ลำโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวสรุป
#5429


ได้เวลาคลายล็อคดาวน์กันแล้ว แต่การหาอะไรมาเติมแต่งบ้านเพิ่มเอนเนอร์จีให้ชีวิต ก็ยังเป็นแอคทิวิตี้ที่หลายคนเริ่มคุ้นชิน กลับมาเปิดให้บริการคราวนี้ "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" พร้อมชวนทุกคนมาเติมฟิวส์เฟรซให้บ้าน และเพิ่มพลังบวกให้กับตัวเอง ด้วยไอเทมใหม่ๆ มาจัดบ้าน ด้วยเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ และของตกแต่งบ้าน หลากดีไซน์ที่ช่วยให้สดชื่นมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง แถมมีกลิ่นอายความโคซี่ๆ ให้ในวันพักผ่อน ด้วยสีโทนเย็นlสบายตาผสานกับวัสดุจากไม้และผ้า กับดีไซน์ที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน รับรองว่าจะช่วยให้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคุณเต็มไปด้วยความสุขอย่างแน่นอน



โซฟาผ้า2/S+สตูล รุ่น Lottovip FREDDIE ราคา 7,990 บาท โซฟาผ้า 2 ที่นั่ง ให้ดูอบอุ่น เรียบง่าย อย่างเป็นธรรมชาติ วัสดุผ้าและหนัง PVC คุณภาพสูง โครงจากไม้เนื้อแข็งแรงทนทาน ขาไม้ยางพารา สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี มาพร้อมหมอน 2ใบ, สตูลเก็บของได้



โต๊ะทำงานพร้อมลิ้นชัก รุ่น SCANDIE ราคา 6,990 บาท โต๊ะทำงานวัสดุจากไม้ยางพารา แข็งแรง สวยงามจากลวดลาย ไม้ให้สัมผัสถึงธรรมชาติ เพิ่มลิ้นชักไว้เก็บอุปกรณ์เครื่องเขียน



เก้าอี้ รุ่น RUSIA สีขาว / สีโอวัลติน ราคา 1,490 บาท เก้าอี้ดีไซน์ที่เรียบง่าย เข้ากับบ้านทุกสไตล์ โครงสร้างวัสดุจากพลาสติกคุณภาพดี แข็งแรงทนทาน กันน้ำ ส่วนขาจากไม้บีช ทำให้ลุคซ์ของบ้านโคซี่ขึ้น รองรับน้ำหนักได้ถึง 80 กก.



หมอนอิง รุ่น FLOSSY-HOME / รุ่น FLOSSY-JOY ราคา 395 บาท/ชิ้น เพิ่มความอบอุ่นให้โซฟา ด้วยหมอนอิงปักอักษรบนผ้านุ่มพิเศษ พร้อมไส้หมอน วัสดุจากโพลีเอสเตอร์ 100% ถอดปลอกซักได้



นาฬิกาติดผนัง รุ่น NORLIND ราคา 1,290 บาท นาฬิกาติดผนังดีไซน์เก๋ โดดเด่นงานฉลุตัวเลขให้ดูง่ายสบายตา วัสดุไม้ MDF



ชามถนอมอาหาร รุ่น WOODDY 6 ชิ้น/ชุด ราคา 595 บาท วัสดุจากแก้วโบโรซิลิเกตและไม้ไผ่



โคมไฟตั้งโต๊ะรุ่น MALVINAR ราคา 595 บาท วัสดุจากกระดาษเคลือบด้วยพลาสติก PP ดีไซน์ให้ดูมีมิติและทนทาน ฐานจากโลหะและไม้ เหมาะสำหรับใช้งานและตกแต่งบ้าน ตามมุมห้อ หรือหัวเตียงนอน



รูปปั้นหน้าคน รุ่น FACENT ราคา 195 บาท รูปปั้นดีไซน์หน้าคนเรียบเก๋ วัสดุจากเซรามิก สามารถมิกซ์ฟังก์ชันทั้งการตั้งโชว์หรือใส่ดอกไม้หรือต้นไม้ตกแต่ง สร้างบรรยากาศภายในบ้าน



รูปปั้นผู้หญิง รุ่น MERANIE ราคา 495 บาท รูปปั้นดีไซน์เรียบง่ายเท่ แต่มีสเน่ห์ เหมาะสำหรับตกแต่งบ้าน



กระถางแขวน รุ่น HOLAN ราคา 125 บาท กระถางแขวนใช้ใส่ต้นไม้ตกแต่งในบ้าน หรือเอ้าท์ดอร์



กระถาง+ขาตั้ง รุ่น DOTIO ขนาด W24.5xD24.5xH34 cm. ราคา1,290 บาท / ขนาด W30.5XD30.5XH46 cm. ราคา 1,590 บาท กระถางวัสดุจากใยสังเคราะห์ (Fiber clay) เคลือบตกแต่งลายสวยงามพร้อมขาตั้งไม้ แข็งแรงทนต่อแดด-ฝนดีไซน์ทันสมัยสามารถตกแต่งเข้ากับบ้านทุกสไตล์



ชั้นวางของ 3 ชั้น รุ่น NORA ราคา 1,190 บาท วัสดุจากไม้ไผ่และMDF ดีไซน์ชั้นวางมีขอบกั้นกันของตกหล่น ออกแบบโทนสีขาวและไม้ธรรมชาติให้ดูอบอุ่นสบายตา รับน้ำหนักได้สูงสุด 7 กก./ชั้น



ชั้นวางในห้องน้ำพร้อมตะกร้า รุ่น KIRIN ราคา 1,990 บาท ชั้นวางของในห้องน้ำ วัสดุจากไม้ไผ่-MDF และผ้า มาพร้อมชั้นวางและตะกร้าผ้ามีหูจับ

เลือกช้อปสินค้านี้ได้ที่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ทุกสาขาใกล้บ้าน หรือ ช้อปออนไลน์ที่ www.indexlivingmall.com หรือช้อปผ่านผู้ช่วยส่วนตัว Chat To SHOP ที่ LINE @indexlivingmall สอบถามโทร. 1379