• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Cindy700

#2901



ก่อนจะมาเป็นนักศึกษาแพทย์ได้ยินคำพูด เช่น "เรียนแพทย์จะได้ช่วยชีวิตคน" หรือ "ตั้งใจเรียนแพทย์จะได้รักษาคนไข้ได้" ไปจนถึง "ความเป็นความตายคนไข้ขึ้นกับเรา"

นักศึกษาแพทย์ ปี 5 กมลชนก กุลชุติสิน คณะแพทยศาสตร์ ศิริราช จะค่อยๆช่วยให้พอนึกภาพออกว่ามันไม่ได้ตรงไปตรงมาอย่างที่ทุกคนคิด และลองมองไปถึงว่าเดิมคนไข้ก็มากมายอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีคนไข้โควิดเพิ่มขึ้นมาอีก ล้นโรงพยาบาลทั้งประเทศ

เราจะทำได้ถึงแค่ไหนที่จะดูคนไข้ได้ทั้งคน ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรและไม่ได้ดูแค่ความเจ็บป่วย

ค่อยๆนึกภาพเบื้องหลังของชีวิตคนป่วยคนหนึ่งมาพบแพทย์เพราะอาการของโรคที่เกิดขึ้นและรบกวนชีวิตประจำวัน การพูดคุยกับคนไข้ การซักประวัติอาการของโรคถือเป็นการซักถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า แต่การไถ่ถามถึงเรื่องราวเบื้องหลังนั้น มีความสำคัญไม่แพ้กัน

แต่...มักจะถูกมองข้ามด้วยเวลาอันจำกัดของแพทย์


สำหรับเรื่องราวเบื้องหลังนั้นคือ การรับฟังเรื่องราวประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตของคนไข้ ซึ่งบางครั้งสำคัญและอาจเป็นสาเหตุของโรคที่นำคนไข้มาพบแพทย์ เช่นในคนไข้จิตเวช จะต้องถามถึงการใช้ชีวิตที่ผ่านมา

ซึ่งอาจจะเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและยากต่อการปลอบประโลม แต่ถ้ามีเวลาการรับฟังและใส่ใจในจุดนี้ จะช่วยในความสัมพันธ์ระหว่างหมอและคนไข้อย่างมาก นำไปสู่การรักษาที่ดีขึ้นหรือคนไข้ในสาขาอื่นๆ

การรับฟังเรื่องราวเบื้องหลังอาจจะนำมาสู่การวินิจฉัยที่แม่นยำ

ก่อนมาเป็นนักศึกษาแพทย์จะนึกถึงคุณค่าในตัวตนของทุกคนเสมอ เพราะทุกคนย่อมมีคุณค่าของตัวเอง การยอมรับและเคารพในตัวตนของผู้อื่นนั้น เป็นสิ่งที่แพทย์พึงระลึกไว้เสมอ แต่การเรียนแพทย์นั้นมุ่งเน้นถึงการวินิจฉัยและรักษาโรคซึ่งซับซ้อนขึ้นทุกปีตามความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ร่วมกับเวลาอันน้อยนิด


จนบางครั้งคุณค่าในตัวตนของผู้ป่วยจึงเจือจางลงไป เช่นในวอร์ดอายุรศาสตร์มีผู้ป่วยหลายคนที่คิดว่าอาการเจ็บป่วยของเขาสร้างความลำบากแก่ครอบครัวหรือการป่วยเป็นโรครุนแรงทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหว ลองนึกดูว่าถ้าวันนึงไม่สามารถแม้แต่จะกินข้าวเองได้จะรู้สึกยังไง

สิ่งเหล่านี้บั่นทอนกำลังใจและคุณค่าในตัวผู้ป่วยลง จนอาจคิดว่าตนเองนั้นด้อยค่า ไม่อาจตัดสินใจในเรื่องสำคัญใดๆได้อีก

ซึ่งความจริงแล้วผู้ป่วยมีสิทธิในการตัดสินใจเรื่องการรักษา มีสิทธิที่จะเลือกชีวิตในบั้นปลายที่เหลืออยู่ และมีสิทธิที่จะให้ผู้อื่น เข้าใจและเคารพในการตัดสินใจของเขา ซึ่งแพทย์ก็ควรจะพยายามถามถึงความต้องการของผู้ป่วย เน้นว่าผู้ป่วยและไม่ใช่ถามแต่ญาติ

จากนั้นเคารพในการตัดสินใจของผู้ป่วย หรือพยายามทำตามความต้องการที่อยู่ในขอบเขตของเหตุผล เนื่องจากในบางครั้งทางเลือกที่แพทย์เห็นว่าดีหรือญาติคิดว่าดีอาจไม่ได้ดีที่สุดสำหรับคนไข้เสมอไป

นอกจากการเคารพในคุณค่าและการตัดสินใจของผู้ป่วยแล้ว การมองตัวโรคและตัวตนของผู้ป่วยแยกกัน เพราะตัวโรคอาจทำให้สภาพร่างกายและจิตใจเปลี่ยนแปลงไปมาก

สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการรักษาคือการใส่ใจคุณค่าและตัวตนเหมือนดังเช่นในยามที่มีสุขภาพร่างกายและจิตใจ
ที่แข็งแรง เพื่อการแนะนำคนไข้สู่การตัดสินใจในเรื่องต่างๆที่เหมาะสมที่สุด เพราะในช่วงเวลาคาบเกี่ยวความตาย ไม่ใช่เวลาที่จะมาตัดสินใจ

ควรที่จะคุยและตัดสินใจเรื่องสำคัญต่อการรักษาและชีวิตไว้ให้เรียบร้อยในขณะที่ยังมีเวลา เพื่อที่จะไม่ให้เป็นการตัดสินใจที่ฉุกละหุกและไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน


บ่อยครั้งไม่ได้มีการคุยเพราะเป็นเหตุฉุกเฉิน แต่บ่อยครั้งก็เป็นเพราะว่าแพทย์ไม่มีเวลา ไม่ก็ผู้ป่วยหรือญาติยังตัดสินใจไม่ได้ จะพูดถึงในกรณีที่คุยตกลงกันไว้แล้วเพราะเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย

ครั้งแรกในชีวิตของ นศพ. ที่จำได้ดี ขณะอยู่เวรที่หอผู้ป่วยหนัก พยาบาลประจำวอร์ดได้แจ้งว่าคนไข้คนหนึ่งไม่มีสัญญาณชีพ "น้อง นศพ.ช่วยไปยืนยันว่าคนไข้ไม่มีชีพจรและแจ้งพี่แพทย์ประจำบ้านด้วยนะคะ" ซึ่งคนไข้คนนั้นเป็นคนไข้ที่ทางวอร์ดได้คุยกับญาติแล้วเรื่องปฏิเสธการกู้ชีพและให้เป็นไปตามธรรมชาติ

สิ่งที่ทำคือขออนุญาตคนไข้ตรงหน้าเหมือนที่เคยทำในทุกๆครั้งและดูการตอบสนองต่อเสียงและใช้หูฟัง ฟังเสียงการเต้นของหัวใจ หน้าอกยังเคลื่อนขึ้นลงช้าๆ

เพราะเครื่องช่วยหายใจไม่ได้มีการหายใจเองและไม่มีเสียงสัญญาณชีพอื่นที่บ่งบอกถึงการมีชีวิต คนไข้เสียชีวิตแล้ว

และสิ่งที่ทำได้ในวันนั้นคือการเดินไปบอกพี่แพทย์ประจำบ้านให้ทางวอร์ดแจ้งการเสียชีวิตกับญาติคนไข้เพราะว่าดูแลคนไข้คนนี้มานาน จึงมีความผูกพัน ถึงรู้ว่าเป็นระยะสุดท้ายและเป็นตัวอย่างที่ดีของการคุยไว้ก่อนจะได้มีการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

แต่ก็อยากให้รอดและกลับมาดีขึ้น

ฉะนั้นที่ว่าแพทย์เป็นผู้กำหนดความเป็นความตายของผู้ป่วยคงจะเป็นคำพูดที่เกินจริง เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะตัดสินใจในชีวิตของตัวเอง ยกตัวอย่างว่าถึงจะอยากมีชีวิตแต่แพทย์เป็นคนเหมือนกัน ที่ตั้งใจจะใช้ความรู้ ความสามารถเท่าที่มีเพื่อดูแลคนไข้ และจะพยายามเคารพในคุณค่าและตัวตนของทั้งญาติและคนไข้

แต่ถ้าตัวโรคได้ถึงระยะสุดท้ายแล้ว หรือระบบสาธารณสุขรวมถึงบุคลากรในนั้นได้มาถึงจุดที่ไม่ไหวแล้ว ทุกอย่างจะค่อยๆเจือจางหายไป โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้.

หมอดื้อ

https:// www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2114195
#2902



โดย นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ, Certifi cate of cellular and molecular Immunology มีประเด็นฮอตเมื่อเร็วๆนี้ จากการที่ Anthony Fauci แพทย์ใหญ่ผู้มีอิทธิพลสูงของอเมริกา ซึ่งเคยยืนยันว่า โควิดเกิดจากพัฒนาการของไวรัสในค้างคาวตามธรรมชาติและกระโดดข้ามสายพันธุ์มาติดมนุษย์ได้ ไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลออกมาจากห้องแล็บ (lab leak theory) แต่ตอนนี้เปลี่ยนความคิดแบบ 180 องศา ออกมาพูดว่าเราควรจะตรวจสอบเรื่องนี้จากจีนอย่างจริงจังจนได้คำตอบที่ชัดเจนมหากาพย์เรื่องนี้เป็นมายังไง?

หลังจากเริ่มมีการระบาดของโควิดเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2019 ทางการจีนได้ออกมารายงานว่า เป็นการติดจากตลาดขายสัตว์ป่าในอู่ฮั่น มีการสืบค้นทางพันธุกรรมของไวรัสต่อไปว่ามันเป็นไวรัสจากค้างคาวไปสู่คนโดยผ่านทางตัวลิ่นและคนไปกินสัตว์ป่าพวกนี้ โดยอาจจะติดจากขั้นตอนการปรุงอาหารหรือจากการกินแต่มันบังเอิญไปไหมที่อู่ฮั่นเป็นที่ตั้งของ Wuhan institute of virology ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยทางไวรัสที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโลกโดยเฉพาะเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในด้านนี้ก็คือ


Dr.Shi Zheng–li ในวงการตั้งฉายาว่า Bat lady มีตัวอย่างโคโรนาไวรัสจากค้างคาวมากมายที่เธอเดินทางไปเก็บตามถ้ำแถวตอนใต้ของจีน และทำวิจัยด้านโคโรนาไวรัสมาแทบตลอดชีวิต

Dr.Shi มีผลงานร่วมกับ Dr.Ralph S. Baric ผู้เชี่ยวชาญด้านโคโรนาไวรัสแห่งมหาวิทยาลัย North Carolina โดยค้นคว้าวิจัยความสามารถของไวรัสจากค้างคาวที่จะนำโรคมาสู่คน Dr.Baric ได้ถ่ายทอดความรู้ในการตัดต่อพันธุกรรมของโคโรนาไวรัส ทำให้สามารถไปติดเชื้อในสัตว์สปีชีส์อื่นๆ ให้แก่ Dr.Shi โดยทำการทดลองในหนูตัดต่อพันธุกรรมให้มีการแสดงออกของตัวรับ ACE2 receptor ของมนุษย์

เมื่อ Dr.Shi กลับมายังอู่ฮั่นก็ได้พัฒนางานวิจัยนี้ต่อโดยใช้เซลล์จากมนุษย์แทนหนู (มีหลักฐานของงานวิจัยนี้ที่ NIH เพราะได้ทุนจาก NIAID ผู้ลงนามรับรองคือ Dr.Daszak แห่ง EcoHealth Alliance)

เมื่อ พ.ย.2015 ทีมวิจัยนี้สามารถสร้างไวรัสชนิดใหม่โดยนำโครงสร้างหลักจากไวรัสซาร์ส SARS1 virus แล้วเสียบด้วย spike protein จากไวรัสค้างคาวชนิด SHC014–CoV พบว่าไวรัสตัดต่อพันธุกรรมนี้สามารถที่จะติดเชื้อได้ในเซลล์จากทางเดินหายใจของมนุษย์ สายพันธุ์ไวรัสตัดต่อพันธุกรรมใหม่นี้ชื่อว่า SHC014–CoV/SARS1 เป็นลูกผสม (chimera) ที่เกิดจากพันธุกรรมของไวรัส 2 สายพันธุ์

9 ธ.ค.2019 ก่อนการระบาดของโควิดไวรัส Dr.Daszak ได้ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้นักวิจัยของสถาบันไวรัสวิทยาในอู่ฮั่นสามารถตัดต่อโปรตีนส่วน spike (S) protein และสร้างไวรัสโคโรนาลูกผสมที่สามารถติดเชื้อในหนูที่ตัดต่อพันธุกรรมของมนุษย์ และกล่าวในบทสัมภาษณ์ว่าใน หนูทดลองเหล่านี้จะป่วยเป็นโรค SARS ที่ไม่สามารถรักษาด้วย monoclonal antibody และไม่สามารถป้องกันด้วยวัคซีน


ผู้สัมภาษณ์ถามไปว่า "อ้าวในเมื่อรักษาไม่ได้ ฉีดวัคซีนป้องกันก็ไม่ได้ แล้วจะทำไงต่อ" (คงชักกลัว) Dr.Daszak ตอบ "ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ไม่ยากในห้องแล็บ และงานวิจัยแบบนี้มีคุณค่ามากกว่าเยอะเพื่อจะลงลึกถึง spike protein ที่นำมาใช้สร้างวัคซีนในอนาคต"

ประเด็นหนึ่งที่อาจเป็นตัวต่อที่สำคัญของจิ๊กซอว์ปริศนาที่มาของโควิดไวรัส ก็คือ spike protein ที่มันใช้ในการจับและเข้าเซลล์มนุษย์ spike protein ของไวรัสจะมีอยู่ 2 หน่วยย่อยที่มีหน้าที่ต่างกัน คือ S1 ทำหน้าที่จับกับเป้าหมายของไวรัส คือ ACE2 บนผิวเซลล์ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ และ S2 ทำหน้าที่เชื่อมกับผนังเซลล์และช่วยให้ไวรัสสามารถเข้าเซลล์ได้

ไวรัสจะสามารถเข้าเซลล์ได้ก็ต้องตัดส่วน S1 และ S2 ออกจากกันก่อน ตำแหน่งที่ตัดนี้เรียกว่า furin cleavage site อยู่ตรง S1/S2 junction โดย furin ที่ใช้ตัดนี้เป็น protease enzyme อยู่ที่ผิวเซลล์ของคนเรา มันจะตัด amino acid sequence ที่เป็น proline-arginine-arginine-alanine-arginine (PRRAR) ซึ่ง sequence นี้อยู่บน furin cleavage site ของโควิดไวรัส ซึ่งเป็นตำแหน่งเล็กๆของไวรัสแต่มีบทบาทสูงต่อความสามารถในการติดเชื้อ

ปริศนาคือ มีแค่เจ้าโควิด SARS2 หรือ SARS-CoV-2 นี้เท่านั้นที่มี furin cleavage site (FCS) อยู่ตรง S1/S2 junction แถมยังเป็น loop ที่ยาวทำให้ furin protease มาตัดได้ง่าย ในขณะที่ SARS-related .a-coronavirus ส่วนใหญ่จะตัด S2 subunit ที่ตำแหน่งต่างออกไป

ดังนั้น จึงเกิดคำถามว่า FCS ตรงตำแหน่งนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (ซึ่งก็เป็นไปได้) หรือว่าจงใจทำให้เกิดขึ้นเพื่อการทดลองที่เรียกว่า gain–of–function experiment ที่ทำให้ไวรัสเก่งขึ้น ขอสรุปคร่าวๆเลยนะครับว่าเมื่อพิจารณาถึงประเด็นจากธรรมชาติแล้วพบว่ามีโอกาสเป็นไปได้น้อยมากทั้งจาก mutation และ recombination (ก็สมาชิกใกล้เคียงของตระกูลนี้ไม่มีใครเป็นแบบนี้เลย) ดังนั้น ก็มาถึงประเด็นที่สองคือผลิตขึ้นในห้องทดลอง (gain-of-function experiment)

gain-of-function experiment คือการทดลองเกี่ยวกับเชื้อโรคที่มีจุดมุ่งหมายในการชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์เพื่อเพิ่มความสามารถในการติดเชื้อและการทำให้เกิดโรค รวมถึงการขยายศักยภาพของเชื้อให้สามารถติดเชื้อได้ในสปีชีส์อื่น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อใหม่ๆ เพื่อพัฒนาวัคซีนและการรักษาโรคติดเชื้อ


Dr.Steven Quay ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชำนาญสาขานี้ให้สัมภาษณ์ว่า การเพิ่มหรือ insert furincleavage site ให้กับไวรัสทำได้ไม่ยากในห้อง lab โดยมีอย่างน้อย 11 วิธีที่ทำได้และตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ ซึ่งงานวิจัยของ Dr.Shi Zheng–li (bat lady) ก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ก็เป็นข้อมูลนึงที่มาสนับสนุนแนวคิด man–made นะครับ เพราะคนค้านแย้งว่าก็ยังเป็นไปได้ที่จะมีโอกาสเกิด FCS แบบนี้โดยธรรมชาติ

หลังโควิดระบาด Dr.Daszak ออกแถลงการณ์เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2020 โดยปฏิเสธว่าไม่ใช่ไวรัสที่หลุดออกมาจากห้อง lab แน่นอน แต่เป็นไวรัสที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและพัฒนาเป็นโควิด โดยอ้างประสบการณ์และความช่ำชองร่วม 20 ปีในวงการนี้ รวมถึงตัว bat lady เองเมื่อสื่อจีน South China Morning Post ไปสัมภาษณ์ว่ามีคนอ้างว่าสถาบันไวรัสอู่ฮั่นเป็นสาเหตุของการระบาด

เธอกล่าวว่า "I swear with my life, the virus has nothing to do with my lab." และเมื่อนักข่าวขอความเห็นเกี่ยวกับการระบาด ก็ได้รับคำตอบว่า "My time must be spent on more important matters."


คำถามที่โลกต้องการคำตอบ คือ Covid-19 มีต้นกำเนิดมาจาก SHC014-CoV/SARS1 ไวรัสลูกผสมที่ผลิตขึ้นในห้องทดลองหรือไม่? และการทดลองเกือบทั้งหมดของ Dr.Shi เกี่ยวกับโคโรนาไวรัสทำในห้อง biosafety level 2 (BSL-2) ซึ่งเสี่ยงเกินไปในการทดลองไวรัสร้ายแรงประเภทนี้และอาจมีเชื้อหลุดออกมาจากแล็บ (ไม่ว่าจะจากอุบัติเหตุ หรือจงใจ)

เรายังต้องติดตามกันต่อไปว่าจะไขปริศนาของเรื่องนี้ได้ไหม จริงอยู่เราอาจจะเลยจุดนั้นมาแล้วเพราะตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น...เหมือนไฟกำลังไหม้บ้านต้องรีบดับไฟก่อนแล้วค่อยไปหาว่าต้นเพลิงมาจากไหน แต่ยังไงก็ตามถ้าเราสามารถรู้ถึงต้นตอของมันได้ก็อาจจะช่วยในการป้องกันหายนะแบบนี้ในอนาคต.

หมอดื้อ https:// www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2131712
#2903



ผมร่วง ผมบาง เกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลงไปตามวัย เป็นพันธุกรรมที่เกิดขึ้นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงจนทำให้สูญเสียความมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อุณหภูมิและสิ่งแวดล้อมรอบด้าน, อาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิต, การสวมหมวกและการจัดแต่งทรงผม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุให้ผมร่วงได้ทั้งสิ้น

ผมร่วง ผมบาง เกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลงไปตามวัย เป็นพันธุกรรมที่เกิดขึ้นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงจนทำให้สูญเสียความมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อุณหภูมิและสิ่งแวดล้อมรอบด้าน, อาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิต, การสวมหมวกและการจัดแต่งทรงผม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุให้ผมร่วงได้ทั้งสิ้น

ผมร่วง เกิดจากอะไร

เส้นผมของคนส่วนใหญ่ ร่วงอยู่ราว 50-100 เส้นต่อวัน อันเป็นตัวเลขที่ไม่น่ากังวล เพราะเส้นผมจะเจริญเติบโตงอกขึ้นมาทดแทนผมที่หลุดร่วงไป แต่กรณีที่เรียกว่าผมร่วงเยอะมากจนเป็นปัญหา คือการหลุดร่วงจนผมบาง เส้นผมงอกชดเชยใหม่ไม่ทัน สาเหตุของอาการผมร่วงหนักๆ มีดังนี้

1. ผมร่วงจากพันธุกรรม
ลักษณะอาการผมร่วงเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม หากมีประวัติทางครอบครัวว่าปู่ย่า ตายาย หรือญาติตามลำดับขั้นที่มีอาการผมร่วง ผมบาง เป็นอาการตามวัยที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะผมบางในบริเวณเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกันในหมู่เครือญาติ สู่ลูกหลาน

2. ผมร่วงจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงจากภาวะต่างๆ
ผมร่วงเยอะมาก จากภาวะที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น คลอดบุตร เครียด ฯลฯ จะส่งผลให้เกิดอาการผมร่วงเป็นกระจุก หากดูแลรักษาไม่ถูกวิธีมีโอกาสติดเชื้อที่ผิวหนังศีรษะจากเชื้อราด้วย


3. ผมร่วงจากกระบวนการรักษาทางการแพทย์
เมื่อร่างกายได้รับยา หรือรับการรักษาทางการแพทย์ ผมร่วงอาจเป็นผลข้างเคียงหนึ่งที่เกิดขึ้น มักเกิดจากขั้นตอนการรักษามะเร็ง, โรคหัวใจ, โรคไขข้ออักเสบ, โรคเกาต์ และโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

4. ผมร่วงจากการฉายรังสี
การรักษาด้วยวิธีฉายรังสี หรือที่เรียกว่าทำคีโม ทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน เส้นผมอาจไม่กลับมาหนาดกดำเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว จะค่อยๆ ขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

5. ผมร่วงจากความเครียด
ความเครียดส่งผลให้ผมร่วง ผมบาง ซึ่งเป็นลักษณะทางกายภาพที่ร่างกายแสดงออกมาให้เห็นว่าร่างกายของคุณกำลังเผชิญกับความเครียด ผมร่วงประเภทนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แก้ไขให้หายได้

6. ผมร่วงการจัดแต่งทรงผม
เมื่อต้องจัดแต่งทรงผมขณะที่ผมยังไม่แห้งสนิท ความร้อนจากไดร์ และความชื้นจากสารเคมีในทรีทเมนต์จัดแต่งทรงผมการซึมซาบเข้าสู่ผิวหนัง และรากผม ทำให้เกิดการอักเสบ เร่งให้ผมร่วงเยอะได้

วิธีแก้ผมร่วง เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

ปัจจัยที่ทำให้ผมร่วงเยอะ นอกจากพันธุกรรมแล้ว ยังรวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิต การพักผ่อนน้อย เกิดความเครียด น้ำหนักลด อายุที่มากขึ้น หรือการรับประทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าสารอาหารมากพอ ฉะนั้น วิธีแก้ไขผมร่วงได้ดีที่สุดคือปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต กินอาการที่มีประโยชน์ และลดความเครียดในทุกๆ วัน

กรณีที่เกิดผื่นคัน และมีปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะผิดปกติ ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำรักษาอย่างถูกวิธี
#2904



แฟลช เอ็กซ์เพรส ประกาศเปิดให้บริการรับส่งพัสดุทุกพื้นที่ตามปกติเที่ยงคืนของวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ หลังเคลีย์พัสดุคงค้างในศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อยเรียบร้อย ยืนยันลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการชดเชยอย่างแน่นอน พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ในทุกสาขาทั่วประเทศเพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้บริการทุกคนมั่นใจในความปลอดภัย

บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งแบบครบวงจร พร้อมเปิดให้บริการรับส่งพัสดุทุกพื้นที่ทั่วประเทศนับตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ภายหลังก่อนหน้าได้รับคำสั่งปิดศูนย์กระจายพัสดุสาขาวังน้อยจากคณะกรรมการโรคติดต่อ ในส่วนพัสดุตกค้างที่อยู่ในศูนย์ฯวังน้อยจะสามารถเคลีย์ได้ทั้งหมดภายในวันที่ 30 กรกฎาคมเช่นเดียวกัน พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ภายในศูนย์กระจายพัสดุ และในสาขาอื่นๆทั่วประเทศ โดยเฉพาะสุขอนามัยของพนักงานที่เข้ารับส่งพัสดุถึงหน้าบ้านลูกค้าผู้ใช้บริการเพื่อลดความเสี่ยงต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่ม

ทั้งนี้มาตรการชดเชยให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากกรณีปิดศูนย์ฯ มีรายละเอียด ดังนี้
1) ตามประกาศของบริษัทฯ ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 พัสดุที่ถูกจัดส่งระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ถึงเที่ยงคืนวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ระบบจะดำเนินการคำนวณพัสดุที่มีระยะเวลาอยู่ที่ศูนย์กลางกระจายพัสดุ (Hub) นานเกินกว่า 3 วัน ทางบริษัทฯ ยินดีคืนเงินค่าขนส่ง 100% สำหรับพัสดุที่ลูกค้าปลายทางปฏิเสธการรับพัสดุเนื่องจากความล่าช้าของปัญหาจากศูนย์กลางกระจายพัสดุ ทางบริษัทฯ รับผิดชอบค่าตีกลับไปยังผู้ส่งต้นทาง และสำหรับพัสดุบางส่วนที่ถูกรับฝากส่งในวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 และบริษัทฯ ทำการตีกลับคืนผู้ส่ง ทางบริษัทฯ จะคืนเงินค่าขนส่ง 100%

2) ค่าชดเชยรวมทั้งหมดตามข้างต้น หากเกินกว่า 500 บาท จะทำการชดเชยในรูปแบบของเงินสดผ่านแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส โดยสามารถทำการถอนเงินสดจากแอพไปยังธนาคารใดก็ได้ หากน้อยกว่า 500 บาทจะชดเชยในรูปแบบของคูปอง 20 บาท ซึ่งมีอายุการใช้งาน 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ดำเนินการส่งคูปองให้ สำหรับคูปองและเงินสดจะถูกโอนเข้าไปยังบัญชีผู้ใช้ในแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรสของท่านก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 1 สิงหาคม 2564

3) คูปองและเงินสดจะถูกโอนเข้าไปยังบัญชีผู้ใช้ที่ใช้ในการจัดส่งพัสดุ (ท่านสามารถใช้บัญชีลูกค้าทั่วไปหรือบัญชีลูกค้าธุรกิจในการเข้าสู่แอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส และตรวจสอบที่แอพพลิเคชั่น แฟลช-โปรไฟล์) หากบัญชีผู้ใช้เป็นของแพลตฟอร์มจะดำเนินการโอนเข้าเบอร์โทรศัพท์ของผู้ส่งที่ผูกไว้กับบัญชีผู้ใช้ของแฟลช เอ็กซ์เพรส (ท่านสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ผู้ส่งเข้าสู่แอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรสเพื่อตรวจสอบ)

4) ผู้รับปลายทางที่พัสดุได้รับผลกระทบข้างต้น จะได้รับคูปองมูลค่า 10 บาท จำนวน 5 ใบ ต่อจำนวนพัสดุที่ได้รับผลกระทบ 1 ชิ้น ซึ่งมีอายุการใช้งาน 6 เดือน (ท่านสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ของผู้รับพัสดุเข้าสู่ระบบแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส เพื่อตรวจสอบ)

5) ตั้งแต่ที่บริษัทฯได้มีการออกประกาศ เราได้ดำเนินการเคลมสินค้าเสียหายอย่างเร็วที่สุด สำหรับพัสดุที่เสียหายหรือสูญหายทั้งหมดที่ยังไม่ได้ดำเนินการในช่วงเวลาประกาศที่ผ่านมา บริษัทฯจะดำเนินการทั้งหมดในวันที่ 30 และ 31 กรกฎาคม 2564 โดยในช่วงระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯจะทำการแจ้งเตือนให้มีการเคลมพัสดุ (ท่านสามารถยื่นเคลมได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส)

6) การใช้งานคูปองทั้งหมดไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดของจำนวนพัสดุขั้นต่ำและมูลค่าขนส่งขั้นต่ำ เมื่อมีการส่งพัสดุจะถูกใช้เป็นส่วนลดโดยอัตโนมัติ โดย 1 พัสดุต่อ 1 คูปองส่วนลด ระยะการใช้งานภายใน 6 เดือน
หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ call center 1436 และทาง FaceBook Fanpage: Flash Express และดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.flashexpress.co.th และแอพพลิเคชั่น แฟลช เอ็กซ์เพรส
#2905



บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ประกาศเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 เพิ่มความถี่ทำความสะอาดเชิงรุกทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะดีพคลีนนิ่ง หลังปิดทำการทุกวันทุกสาขา เข้มพนักงานทุกคนยกการ์ดสูง จัดทีมรักษาระยะห่างเตือนลูกค้าตลอดเวลา ย้ำสินค้ามีเพียงพอความต้องการ พร้อมทำหน้าที่ต่อสู้วิกฤตเคียงข้างคนไทย

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม็คโครได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าประชาชนในการเป็นสถานที่จับจ่ายสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ทั้งอาหารสด และสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ในทุกสาขาทั่วประเทศ และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น แม็คโครประกาศเจตนารมณ์ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ขั้นสูงสุด เคร่งครัดรัดกุมมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการทำความสะอาดเชิงลึก (Deep Cleaning) หลังปิดทำการทุกวัน เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดทุกจุดสัมผัสเสี่ยง แจกถุงมือลดการสัมผัสโดยตรง จัดทีมรักษาระยะห่างคอยเตือนลูกค้าตลอดเวลาที่ใช้บริการ พร้อมทำหน้าที่จัดหาสินค้าจำเป็นให้มีเพียงพอ เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในช่วงสถานการณ์เช่นนี้

"เพื่อเพิ่มความมั่นใจในเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ให้กับลูกค้าและพนักงานทุกคน แม็คโครได้วางมาตรการเข้มข้นมากกว่าเดิม ไม่เพียงทำความสะอาดในแบบปกติ แต่ยังจัดทีมเฉพาะกิจทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเชิงลึกหลังปิดทำการในทุกสาขา โดยยึดแนวทางปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ยังคงเคร่งครัดกับการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการภายในสาขา เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่แม็คโครเราได้เพิ่มเติมและดำเนินการมาโดยตลอดก็คือ จัดตั้งทีมรักษาระยะห่าง (social distancing scouts) คอยประกาศย้ำเตือนลูกค้าให้รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ตลอดเวลาที่อยู่ภายในสาขาโดยเฉพาะจุดที่มีความแออัด รวมถึงมีมาตรการแจกถุงมือให้ลูกค้าทุกคน และรณรงค์ใช้ cashless payment เพื่อลดการสัมผัสให้มากที่สุด"
"แม็คโคร ขอยืนยันว่า จะทำหน้าที่สำคัญในการเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน โดยการบริหารจัดการสต๊อกสินค้าให้มีเพียงพอกับควางต้องการ ซึ่งเราทำงานร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เคียงข้างคนไทยไปด้วยกัน" นางศิริพร กล่าว
#2906



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายแพทย์​เกียรติ​ภูมิ​ วงศ์​รจิต​ ปลัด​กระทรวง​สาธารณสุข โพสเฟสบุ๊ค เกี่ยวกับ ฉากทัศน์ covid-19ของไทย"คาดการณ์สถานการณ์การระบาด COVID-19 ของประเทศไทย ระหว่าง ส.ค. - ธ.ค. 2564 จัดทำโดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข  โดยการจำลองตัวเลข ของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า 

หากล็อกดาวน์หนึ่งเดือน (เริ่ม 19 ก.ค. 64) คาดว่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรถึงต้นเดือน ตุลาคม และหากล็อกดาวน์สองเดือน คาดว่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรถึงปลายเดือน พฤศจิกายน

 หากมาตรการล็อกดาวน์ได้ผลมากขึ้น เช่น จากที่ช่วยลดค่า R ได้ 20% เป็น 25% น่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรได้ประมาณสองสัปดาห์ แต่ขนาดของการระบาดโดยรวมไม่เปลี่ยนไปมากนัก

หากมาตรมาตรการล็อกดาวน์ได้ผล และร่วมกับมาตรการวัคชีนในผู้สูงอายุได้ผลดี และดำเนินการได้รวดเร็ว ในเวลาไม่เกิน 2 เดือน น่าจะช่วยคงให้ความชุกของการใช้เครื่องช่วยหายใจไม่เกิน 1,500 รายต่อวัน และ อุบัติการณ์การเสียชีวิตไม่เกิน 200 รายต่อวัน ไปจนถึงเดือนธันวาคม

   ​

โดยเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ปลัด​กระทรวง​สาธารณสุข ได้เข้าร่วม​ประชุม​ เรื่องการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม​ ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มและควบคุมสูงสุด ​โดยมี​ นายกรัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรีว่​าการกระทรว​งสาธารณสุข​ เป็น​ประธาน​การประชุม​ (โดยประชุมผ่านระบบ Zoom) ณ​ ห้องป​ระชุมการบูร​ ตึก​สำนักงาน​ปลัดกระทรว​งสาธารณสุข

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร    คณะเจริญ  เลขาธิการแพทยสภา อธิบายฉากทัศน์ดังกล่าวในเฟสบุ๊คว่าเห็นการจำลองตัวเลข"ฉากทัศน์ covid-19ของไทย"  ของกระทรวงสาธารณสุข แล้วน่ากลัวมาก พบว่า ถ้าไม่คุมให้ดี มีโอกาสติดวันละ 45,000 คน ตายวันละ 450 คน


ผลการล็อกดาวน์วันนี้เราลดได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะทำให้คนติดเชื้อและคนตายไม่มากเท่านั้น แต่ต้องแลกด้วย มาตรการจำนวนมาก ที่ทำให้ทุกคน กระทบชีวิตประจำวัน อาชีพการงานและการเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนป่วยและเสียชีวิตมาก เกินกว่าที่โรงพยาบาลจะรับ ไหว ซึ่งวันนี้ก็เริ่มเกินแล้ว ถ้ามากกว่านี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร

ในฉากทัศน์ นี้แสดงให้เห็นว่าการล็อกดาวน์จะยืดเยื้อไปอีก 2 เดือน เพื่อลดให้คนป่วยน้อย จนเตียงพอดูแลได้ และไม่ให้มีคนตายเยอะ ในภาพความเป็นจริง จะเป็นได้หรือไม่ต้องติดตามดู และขึ้นกับ สถานการณ์ของทรัพยากรและบุคลากรทางสาธารณสุข ที่จะต้อง โหมกระหน่ำลงไปสู้กันครับ สงครามนี้ไม่มีคนชนะ มีแต่ความเสียหาย ความสูญเสีย และความตาย ท่ามกลางความอดทนและเสียสละของทุกฝ่าย แต่อย่างไร พวกเราทุกคนก็ต้องสู้ต่อครับ ไม่นานเชื้อเหล่านี้จะหมดไปโดยธรรมชาติ เราต้องอดทน ต่อสู้ ให้ถึงวันนั้น
#2907



นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร หรือ  KKP แถลงผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 ในงานแถลงข่าวรูปแบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมว่า ภาพรวมธุรกิจของทั้งกลุ่มธุรกิจฯ เติบโตได้ดี ทั้งในส่วนของธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจตลาดทุน มีกำไรสุทธิ 2,817 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับปี 2563 ในส่วนของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ สินเชื่อขยายตัวขึ้นร้อยละ 6.6 จากเมื่อสิ้นปี 2563 โดยเฉพาะในกลุ่มของสินเชื่อที่มีหลักประกัน (collateralized) เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์หรือสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับรายย่อย หรือสินเชื่อสำหรับบรรษัทกลุ่มที่มีเครดิตดี นับเป็นผลสำเร็จจากกลยุทธ์การเติบโตอย่างระมัดระวัง ซึ่งช่วยรักษาผลตอบแทนที่ดีท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน ตลอดจนการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เช่นเดียวกัน ในส่วนของธุรกิจตลาดทุน มีผลประกอบการที่ดีในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ซึ่งยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งและได้รับผลดีจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและธุรกิจจัดการกองทุน ที่มีสินทรัพย์ภายใต้คำแนะนำหรือการจัดการเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 และร้อยละ 12 ตามลำดับ ธุรกิจวาณิชธนกิจ ที่มีรายได้จากค่าธรรมเนียมของการดำเนินการธุรกรรมขนาดใหญ่ในครึ่งปีแรกเสร็จสิ้น และธุรกิจการลงทุนโดยตรงที่มีรายได้เบ็ดเสร็จกว่า 1,103 ล้านบาท

 "ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรโดยรวมมีความแข็งแรงจากแหล่งที่มารายได้ที่หลากหลาย โดยเฉพาะธุรกิจตลาดทุนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มากเท่าภาคส่วนอื่นๆ ของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นมาตรการเชิงป้องกันต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดซึ่งยังมีความไม่แน่นอนและอาจกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ในอนาคต ธนาคารจึงยังคงตั้งสำรองอยู่ในระดับที่สูง โดยสำหรับไตรมาส 2/2564 เป็นจำนวน 1,378 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ได้มีการพิจารณาตั้งสำรองพิเศษ (Management Overlay) รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในระยะต่อไป เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในระยะที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดว่าส่งผลกระทบไม่สม่ำเสมอกันสำหรับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม กลุ่มธุรกิจฯ จึงยังตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่อรวมแบบระมัดระวัง ในกลุ่มที่มีศักยภาพที่ร้อยละ 8-12 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสินเชื่อกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ อีกทั้งยังเตรียมพร้อมสำหรับการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่"

ด้านนายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (Mr.Philip Chen Chong Tan, President, Kiatnakin Phatra Bank Public Company Limited) ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ว่า "ในสถานการณ์โควิด-19 การรักษาการเติบโตในสินเชื่อกลุ่มที่มีคุณภาพและมีความสามารถที่จะชำระหนี้จะช่วยรักษาอัตราผลตอบแทนของพอร์ตสินเชื่อรวมให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ดังนั้น กลยุทธ์ด้านสินเชื่อของธนาคารคือการเติบโตแบบระมัดระวังในกลุ่มที่มีศักยภาพ ควบคู่ไปกับการตั้งสำรองอย่างระมัดระวังสำหรับผลขาดทุนด้านเครดิต และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น สิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญอย่างมาก ก็คือการให้ความช่วยเหลือกับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ไม่ว่าสินเชื่อรายย่อย หรือสินเชื่อธุรกิจ โดยเฉพาะภายใต้สมมติฐานว่าสถานการณ์อาจดำเนินติดต่อไปเป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้ ธนาคารได้ใช้ข้อมูลการชำระหนี้ของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาออกแบบมาตรการช่วยเหลือที่ตอบโจทย์ที่สุด โดยปัจจุบัน ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในทุกประเภทสินเชื่อคิดเป็นกว่าร้อยละ 40 ของสินเชื่อทั้งหมดของธนาคาร"

นายปรีชา เตชรุ่งชัยกุล ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (Mr. Preecha Techarungchaikul, Head of Finance and Budgeting, Kiatnakin Phatra Bank Public Company Limited) ให้รายละเอียดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2564 ว่า "กลุ่มธุรกิจฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,817 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 จากครึ่งปีแรก 2563 โดยเป็นกำไรสุทธิของธุรกิจตลาดทุน จำนวน 936 ล้านบาท ในส่วนของ ปริมาณการตั้งสำรองสำหรับปี 2564 มีอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ที่ร้อยละ 160.1 นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิรวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 7,624 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 3,726 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 จากครึ่งปีแรก 2563 และธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio)คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งรวมกำไรถึงสิ้นไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ร้อยละ 17.89 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1จะเท่ากับร้อยละ 13.51"
#2908



"แทมมี่ ดักเวิร์ธ" ส.ว.สหรัฐฯ ลูกครึ่งไทย เผย สหรัฐอเมริกาวางแผนส่งวัคซีนโควิด-19 ช่วยไทย เพิ่มเป็น 2.5 ล้านโดส โดยล็อตแรก 1.54 ล้านโดส จะส่งถึงประเทศไทยวันศุกร์นี้

เมื่อวันอังคารที่ 27 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ นักการเมืองหญิงอเมริกันเชื้อสายไทย จากพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาวางแผนที่จะจัดหาวัคซีนโควิด-19 ทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส ให้กับประเทศไทย

ดักเวิร์ธ กล่าวระหว่างพิธีการเปิดงานเสวนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ "U.S. and Thailand Perspectives on Geostrategic Landscape and Regional Architecture" จัดโดยสถาบัน East-West Center ในกรุงวอชิงตัน และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน หัวข้อ "โอกาสใหม่สำหรับสหรัฐฯ-ไทย ในฐานะพันธมิตรอินโด-แปซิฟิก" เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2564 ว่า แผนดังกล่าวเป็นตามคำมั่นของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จะจัดหาวัคซีนให้กับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประเทศไทยจะได้รับทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส

ดักเวิร์ธ ระบุอีกว่า สหรัฐฯได้ส่งวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดส ไปยังประเทศไทยแล้ว โดยวัคซีนดังกล่าวมีกำหนดจัดส่งถึงกรุงเทพฯ ในวันศุกร์นี้ (30 ก.ค.) หลังจากล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งเดือน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. วุฒิสมาชิกแทมมี่เคยประกาศแสดงความยินดีเรื่องสหรัฐฯ มอบวัคซีนให้แก่ไทย โดยดักเวิร์ธ ระบุในแถลงการณ์เมื่อครั้งนั้น ว่า ดิฉันรู้สึกยินดีที่จะประกาศวันนี้ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบวัคซีนอย่างน้อย 1.5 ล้านชุด ให้ประเทศไทย เพื่อช่วยให้ประชาชนชาวไทยเอาชนะปัญหาโควิด-19 ขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โดยการบริจาควัคซีนของสหรัฐฯ ซึ่งมีประสิทธิผลสูงนี้ ไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีขึ้นด้วยความเข้าใจว่าจะไม่มีประเทศใดที่ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้อย่างสมบูรณ์จนกว่าทุกประเทศจะปลอดภัย
#2909



เบอร์เกอร์คิง บราซิลเล็งเกาะกระแสความดังของเหรียญมีมหน้าชิบะอินุช่วยกระตุ้นยอดขายออนไลน์ เสนอเมนูใหม่ "Dogepper" บิสกิตรสเนื้อสำหรับน้องหมาที่รับชำระด้วยโดชคอยน์และจัดส่งถึงหน้าบ้านลูกค้า โดยบริษัทจะยกรายได้ทั้งหมดให้โครงการสวัสดิภาพสัตว์

วันจันทร์ที่ผ่านมา (26) เป็นวันแรกที่แฟรนไชส์เบอร์เกอร์คิงในบราซิลนำเสนอเมนูใหม่ที่นอกจากหยิบยืมชื่อ "วอปเปอร์" เบอร์เกอร์ยอดฮิตของบริษัทมาดัดแปลงแล้ว ยังหวังใช้ประโยชน์จากความดังของโดชคอยน์เพื่อโปรโมทเมนูเฉพาะกิจนี้

เป้าหมายของโปรโมชั่นนี้คือ เชื่อมโยงผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัขกับคริปโตเคอร์เรนซีที่มีสัญลักษณ์รูปน้องหมาชิบะอินุ โดยเบอร์เกอร์คิง บราซิลโฆษณาว่า "วิธีไหนจะดีไปกว่าจ่ายค่าของน้องหมาด้วยโดชคอยน์" และสำทับว่า Dogepper จะช่วยให้น้องหมาไม่ต้องลนลานน้ำลายหก ตอนที่เจ้าของนั่งกินวอปเปอร์ตรงหน้า

ลูกค้าที่สนใจต้องเข้าไปเช็คบนเว็บไซต์ว่า สาขาที่ต้องการซื้อมี Dogepper หรือไม่ จากนั้นเลือกจำนวนที่ต้องการ ซึ่งเบอร์เกอร์คิงจำกัดจำนวนสูงสุด 5 ชิ้นต่อหนึ่งออร์เดอร์ เนื่องจากเปิดขายในปริมาณและระยะเวลาจำกัดเท่านั้น

ราคาบิสกิตรสเนื้อย่างบนเปลวไฟที่เป็นซิกเนเจอร์ของเบอร์เกอร์คิงอยู่ที่ 3 โดชคอยน์ หรือประมาณ 3 เรียลบราซิล ขั้นตอนต่อไปคือกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียน และโอนโดชคอยน์เข้าวอลเล็ตของเบอร์เกอร์คิง บราซิล แล้วรอรับสินค้าที่จะจัดส่งให้ถึงบ้าน สำหรับลูกค้าที่ไม่มีโดชคอยน์สามารถจ่ายด้วยเรียลบราซิลได้

โปรโมชั่นนี้ถือเป็นแผนการกระตุ้นยอดขายออนไลน์ภายใต้วัตถุประสงค์ชัดเจน และจะไม่อนุญาตให้ลูกค้าชำระค่าเมนูอื่นๆ ด้วยโดชคอยน์ทั้งทางออนไลน์และที่ร้าน

รายงานระบุว่า แคมเปญนี้น่าจะกินเวลาเพียงสัปดาห์เดียว และเบอร์เกอร์คิง บราซิลจะนำรายได้ทั้งหมดจาก Dogepper ไปมอบให้องค์กรภาคเอกชนหรือ NGO ที่รณรงค์ด้านสวัสดิภาพสัตว์ผ่าน "เพ็ตเลิฟ"

ว่าที่จริง Dogepper ไม่ใช่เมนูใหม่เอี่ยม แต่เบอร์เกอร์คิงเคยเปิดตัวมาแล้วที่อาร์เจนตินาเมื่อสองปีก่อน เพื่อให้ลูกค้ามีของอร่อยแบ่งเพื่อนสี่ขาเวลาเบอร์เกอร์ไปส่งที่บ้าน

นอกจากโปรโมชั่นใหม่ในบราซิลแล้ว บัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของเบอร์เกอร์คิงยังทวิตเกี่ยวกับสินทรัพย์โดชคอยน์อยู่เป็นประจำ

อนึ่ง จากข้อมูลของคอยน์มาร์เก็ตแคป โดชคอยน์ถือเป็นคริปโตที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ 8 ของโลก โดยมีมูลค่าตลาดราว 27,000 ล้านดอลลาร์ และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่บริษัทต่างๆ จากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่นเมื่อไม่นานมานี้ แอ็กซ์ บริษัทผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายผู้ชายชื่อดังได้ออกบอดี้สเปรย์ "โดชแคน" ล่าสุดปลายสัปดาห์ที่แล้ว แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซอย่างเป็นทางการของคอยน์เบสประกาศยอมรับการชำระเงินด้วยเหรียญมีมน้องหมาชิบะนี้
#2910
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น1


#2911



ชื่อของ "เเซม" เศวต เศรษฐาภรณ์ น้อยคนนักที่จะรู้จัก แม้เจ้าตัวจะเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าสิทธิ์มาแข่ง โอลิมปิก โตเกียว เกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น หนนี้ก็ตาม

ส่วนหนึ่งเพราะเจ้าตัวเล่นกีฬาที่ไม่ใช่ประเภทกระแสนิยมอย่างยิงเป้าบินแทร็ป แถมอายุอานามของ "พี่แซม" ตอนนี้ก็ปาเข้าไป 58 ปีแล้ว

แต่หลายคนน่าจะเคยได้ยินยิ่งแก่ยิ่งเก๋ายิ่งมากประสบการณ์ "พี่แซม" ทำคะแนนรอบคัดเลือกเป้าบินแทร็ปบุคคลชาย 74 คะแนน (เต็ม 75) แถมคะแนนเท่าอันดับ 1 แต่เป็นรองจากกฏการนับคะแนนแบบถอยหลัง จากนี้วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคมนี้ช่วงเช้าจะแข่งขันรอบคัดเลือกอีก 2 รอบเพื่อหา 6 คนสุดท้ายเข้าไปยิงรอบชิงชนะเลิศต่อไป

"พี่แซม" เลือกเล่นกีฬาเป้าบินตอนอายุ 41 ปีหรือ 17 ปีก่อน โดยปลีกเวลาจากการดูแลธุรกิจในฐานะผู้บริหารของ บริษัท เอลต้า จำกัด ผู้ผลิตผลิตสิ่งทอรายใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทถุงเท้า

ซึ่งการที่เริ่มต้นช้ากว่าคนอื่นน ทำให้เจ้าตัวยิ่งต้องทุ่มเทฝึกซ้อมมากขึ้นหลายเท่า จนกระทั่งคว้ารองแชมป์การแข่งขันยิงเป้าบินชิงแชมป์โลก "เวิลด์ คัพ 2019" ที่เมืองอัลไอน์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อันหมายถึงโควต้าโอลิมปิก

จากนั้นปลายปี 2019 "พี่แซม" ประสบความสำเร็จจากการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ที่ประเทศฟิลิปปินส์

อย่างที่ทราบกันดีว่ากีฬายิงปืนนั้นอุปกรณ์แพงมากแถมต้องควักเงินส่วนตัวด้วย แถมการที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวผลงานยังไม่โดดเด่น ทำให้ สมาคมฯ ต้องเจียดเงินไปให้คนอื่นมากกว่าอีกด้วย แต่ว่านักธุรกิจหนุ่มใหญ่ก็ยอมจ่าย 4-5 แสนต่อเดือนไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทางไปแข่งนานาชาติและจ้างโค้ชต่างชาติชาวอิตาลี มาร์โก คอนติ

ไม่ใช่แค่ลงเงินเจ้าตัวต้องลงเวลาด้วย เพราะการเป็นนักธุรกิจทำให้มีเวลาในการฝึกซ้อมช่วงวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น แต่ก็โชคดีมีคู่ชีวิตคือ ฐิติธัญ เศรษฐาภรณ์ เป็นนักกีฬาเหมือนกัน ทำให้เข้าใจกันเป็นอย่างดีและมักเดินทางด้วยกันเสมอๆ

"พี่แซม" กล่าวก่อนมาแข่งว่า "เป้าหมายในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ของผมไม่ใช่การคว้าเหรียญรางวัล แต่ต้องการไปแสดงให้เห็นว่านักยิงเป้าบินไทยก็สามารถทำผลงานได้ดีในระดับโลกไม่แพ้นักยิงเป้าบินยุโรป ซึ่งตัวผมก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโอลิมปิก"

อย่างที่ทราบกันดีว่ากีฬายิงปืนนั้นพลิกผันได้ตลอดเวลาเพียงแค่กระสุนนัดเดียว ขณะที่ "พี่แซม" นั้นก็คงใช้จุดเด่นคือความนิ่งเละประสบการณ์ที่ผ่านอะไรมามากมายในชีวิต ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองในสถานการณ์จริงมากที่สุด...
#2912


ถูกวิจารณ์เดือดเลยทีเดียว กรณีที่ "นารา เครปกะเทย" อนิวัต ประทุมถิ่น ไปออกรายการแฉ ที่มี "น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์" เป็นหนึ่งในผู้ดำเนินรายการ ซึ่งที่ผ่านมา น็อตถูกวิจารณ์แรงจนทัวร์ลงเหตุเห็นต่างจาก "เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ" ซึ่งน็อตและเพชรได้เคลียร์ใจกันไปแล้วว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ถึงความคิดเห็นต่างกัน แต่ก็ยังเป็นเพื่อนเสมอมา ขณะที่นาราก่อนหน้านี้ไปขอเงินสปอนเซอร์เพื่อนำมาทำคอนเทนต์ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าในตลาด โดยถามว่า "รักลุง...หรือไม่" ถ้าตอบว่ารักจะเดินหนี แต่ถ้าตอบว่าไม่รักจะช่วยเหมาทั้งหมด โดยก่อนหน้านาราไปร่วมรายการ นารา ได้โพสต์ว่าตนจะไปออกรายการแฉ และอยากเจอ น็อต วรฤทธิ์

ภายหลังนาราออกรายการแฉ ก็ถูกใจชาวทวิตเตอร์ ถึงขั้นแชร์นาทีที่นาราแสดงพฤติกรรมไม่รับของจากน็อต วรฤทธิ์ รวมทั้งกรณีที่เจ้าตัวพูดถึงสาเหตุที่ Call out และดาราเน็ตไอดอลหลายคนออกมา Call out โดยเชื่อว่าเขามีความสำเหนียกและสำนึกว่า ตัวเองอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร ก็เพราะว่า FC FC คือประชาชน วันนี้ประชาชนเดือดร้อนเราจะมองข้ามได้หรือ เมื่อก่อนเรานอนหลับ กินอิ่มได้เพราะสปอนเซอร์จ้างเรา แต่ถ้าเราไม่มี FC เราไม่มีประชาชนคอยซัปพอร์ต สปอนเซอร์ไม่จ้าง ถ้าสปอนเซอร์ไม่จ้างเราก็ไม่มีเงิน ไม่อยู่ได้จนทุกวันนี้ และเชื่อว่า เน็ตไอดอล ดาราที่ออกมา Call out ก็ต้องคิดแบบนี้เช่นกัน ก่อนเจ้าตัวจะหันไปหาน็อตแล้วถามว่า "ใช่ไหมคะพี่น็อต" ซึ่งน็อตก็ตอบรับนิ่งๆ ว่า "ครับ"

โดยพฤติกรรมดังกล่าว แม้จะถูกอกถูกใจชาวทวิตเตี้ยนผู้เห็นต่างกับน็อต วรฤทธิ์ แต่บางส่วนก็บ่นผิดหวังกับพฤติกรรมนารา เพราะมองว่าที่ผ่านมาน็อตก็ไม่ได้ออกตัวแรงขนาดนั้น เหมาะสมหรือไม่ที่จงใจไปหักหน้าน็อตกลางรายการ มองว่าเป็นการกระทำที่เสียมารยาทไปนิดนึง 
#2913




รัสเซียไฟเขียวเดินหน้าการทดลองทางคลินิก ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อระหว่างแอสตร้าเซนเนก้า/มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดของสหราชอาณาจักร กับสปุตนิก วี ของรัสเซีย จากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของแดนหมีขาว หลังจากก่อนหน้านี้ คณะกรรมการด้านจริยธรรมของกระทรวงสาธารณสุขเคยสั่งระงับกระบวนการเห็นชอบสำหรับการทดลองทางคลินิกในเดือนพฤษภาคม และร้องขอข้อมูลเพิ่มเติม

คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของรัสเซีย เปิดเผยว่า คลินิก 5 แห่งจะดำเนินการทดลองฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อระหว่างแอสตร้าเซนเนก้ากับสปุตนิก วี และมีกำหนดเสร็จสิ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2022

ทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและสปุตนิก วี ต่างเป็นวัคซีน 2 เข็ม แต่ สปุตนิก วี ใช้ไวรัสเวคเตอร์ที่ต่างออกไปในวัคซีน 2 เข็มของพวกเขา

กองทุนการลงทุนโดยตรงแห่งรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund หรือ RDIF) ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนวัคซีนสปุตนิก วี แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจให้เดินหน้าการทดลอง

"เวลานี้ RDIF กำลังทำการทดลองทางคลินิกร่วม ในการใช้วัคซีนสปุตนิก วี ไลท์ กับวัคซีนจากผู้ผลิตต่างชาติเจ้าอื่นๆ" กองทุนการลงทุนโดยตรงแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง

"โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัคซีนสปุตนิก วี ไลท์ สามารถใช้ร่วมกับวัคซีนอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในนั้นรวมถึงกับตัวกลายพันธุ์ใหม่ที่เป็นผลจากการกลายพันธุ์ของไวรัส"

สปุตนิก วี เป็นการใช้ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ มาเป็นพาหะ (vector) ผลิตโดยใช้วัคซีนชนิดที่ทำให้อ่อนฤทธิ์แล้วและไม่เป็นอันตรายต่อคน มาติดต่อใส่สารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ลงไป แล้วฉีดเข้าร่างกายมนุษย์ เพื่อกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำเชื้อไวรัส จนสามารถตรวจจับและต่อสู้กับเชื้อไวรัสในภายภาคหน้าได้

ก่อนหน้านี้การทดลองในมนุษย์ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าสลับกับสปุตนิก วี ได้รับอนุมติแล้วทั้งในอาเซอร์ไบจาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เบลารุส และอาร์เจนตินา

(ที่มา : รอยเตอร์)
#2914



ขณะที่การระบาดส่อเค้าลากยาว แถมยังยากที่จะควบคุม จนต้องยกระดับมาตรการที่คุมเข้มขึ้น ด้วยการประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่ 13 จังหวัด รวม กทม.และปริมณฑล หลายกิจการต้องปิดชั่วคราว มีการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ 21.00-04.00 น.

ถือเป็นยาแรงชุดใหญ่ที่หวังจะช่วยยับยั้งโรคระบาด แต่ในทางกลับกันหากยังไม่ได้ผล ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ลดลงอย่างที่หวัง คงได้เห็นมาตรการที่คุมเข้มมากกว่านี้ ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งมาตรการเข้มเท่าไหร่ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะยิ่งมากขึ้นไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

จะเห็นว่าตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด เครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แทบหยุดชะงักลงทันที ทั้งการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน การลงทุนภาครัฐ มีเพียงแค่ "การส่งออก" เท่านั้นที่โตสวนวิกฤต ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและจากฐานที่ต่ำในปีก่อน

โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขการส่งออกเดือนมิ.ย. ยังคงร้อนแรง ขยายตัว 43.82% สูงสุดในรอบ 11 ปี คิดเป็นมูลค่ารวม 23,699.43 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวม 6 เดือนแรก ปี 2564 การส่งออกไทยขยายตัว 15.53% คิดเป็นมูลค่า 132,334.65 ล้านดอลลาร์

"รถยนต์" เป็นหนึ่งในสินค้าหลักที่เติบโตร้อนแรง โดยยอดการส่งออกรถยนต์ในเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 83,022 คัน เพิ่มขึ้น 65.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังยอดขายรถยนต์ในประเทศคู่ค้าหลายประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย และในทวีปยุโรป


ขณะที่ครึ่งปีแรกไทยส่งออกรถยนต์ไปแล้วทั้งหมด 473,489 คัน เพิ่มขึ้น 35.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดการผลิตและยอดขายรถยนต์ในประเทศยังขยายตัวแกร่งเช่นกัน โดยมียอดการผลิตรวม 844,601 คัน เพิ่มขึ้น 39.34% และยอดขายรวม 373,193 คัน เพิ่มขึ้น 13.57%

ทั้งนี้ แม้ว่ายอดการผลิตในเดือนมิ.ย. จะชะลอตัวลงเล็กน้อย 4% จากเดือนก่อน มาอยู่ที่ 134,245 คัน จากผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ และปัญหาขาดแคลนชิพ จนหลายค่ายต้องปรับลดกำลังการผลิตลง แต่ในภาพรวมถือว่าผลกระทบยังจำกัด โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ปรับเพิ่มเป้าการผลิตรถยนต์ปีนี้เป็น 1.55-1.6 ล้านคัน จากเดิมที่ 1.5 ล้านคัน

การฟื้นตัวของตลาดรถยนต์กลายเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนที่จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย สอดรับกับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้องแรง อย่างบริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ราคาหุ้นปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากราคาปิดปีก่อนที่ 16.40 บาท

ส่วนบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ขึ้นมาราวๆ 40% ขณะที่บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY ที่ทำหลอดไฟรถยนต์ อาจจะสวนทางเพื่อนๆ เพราะราคาหุ้นยังไม่ค่อยขยับ

อีกหนึ่งบริษัทที่มองข้ามไม่ได้ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE แม้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มยานยนต์โดยตรง แต่ก็ขายชิ้นส่วนให้ลูกค้าในกลุ่มนี้เยอะโดยเฉพาะในยุโรป แถมยังได้อานิสงส์จากเงินบาทอ่อนต่าหนุนอีกแรง จนดันราคาหุ้นพุ่งทำออลไทม์ไฮ พุ่งขึ้นเกือบ 100%

โดยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ยังคงน้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาด" โดยมองว่าผลประกอบการของหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ในปี 2564-2565 จะฟื้นตัวโดดเด่นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน และตลาดส่งออกที่ฟื้นตัว สวนกระแสการแพร่ระบาดของโควิด-19

เลือก AH เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มเนื่องจากคาดกำไรจะฟื้นตัวโดดเด่นสุดในปี 2564 ขณะที่ Valuation ถูกสุดในกลุ่ม โดยซื้อขายที่ PER เพียง 7.3 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 10 เท่า และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ย้อนหลัง 5 ปี ของบริษัทที่ 10.7 เท่า

ส่วนบล.เมบ์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า แม้ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 ของกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์จะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นและผลกระทบจากการขาดแคลนชิพชิพ แต่จะโตเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ประสบปัญหาขาดทุน แต่แนะนำให้รอจังหวะเข้าซื้อช่วงราคาอ่อนตัว
#2915



เมื่อที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่บริเวณวัดหนองพังนาคตำบลเสือโฮกอำเภอเมืองจังหวัดชัยนาทคณะสงฆ์จังหวัดชัยนาทร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกระชายขาวรวมไปถึงพืชสมุนไพรอื่นๆที่มีสรรพคุณเป็นยาเพื่อนำมาผลิตเป็นยาต้านโควิด-19และแจกจ่ายให้กับประชาชนที่สนใจใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นยาทางเลือกในการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19อีกทั้งเป็นการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านมีรายได้จุนเจือครอบครัว
          
พระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุวรวิหาร เปิดเผยว่า คณะสงฆ์มีโครงการปลูกสมุนไพรฟ้าทลายโจรเป็นหลักเพื่อนำไปช่วยเหลือในยามบ้านเมืองวิกฤตจากภัยโควิด-19ในตอนนี้เป็นการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านด้วยในวัดที่พอมีที่เหลือจะให้ปลูกกระชายขิงและพืชสมุนไพรให้ชาวบ้านช่วยกันดูแลแล้วเก็บไปขายโดยแบ่งกับทางวัดเป็นค่าน้ำค่าไฟบ้างที่เหลือให้เป็นรายได้ญาติโยมนำไปจุนเจือครอบครัว
          
ขณะนี้มีวัดในจังหวัดชัยนาทที่เข้าร่วมโครงการประมาณ20วัดแต่ละวัดมีพื้นที่ปลูกไม่ต่ำกว่า3ไร่โดยเฉพาะที่วัดหนองพังนาคมีพื้นที่กว่า10ไร่จะทำการปลูกให้เต็มพื้นที่คาดว่าโครงการนี้จะช่วยชาวบ้านได้อย่างยั่งยืนเป็นการสงเคราะห์อนุเคราะห์ญาติโยมที่ไม่มีอาชีพขาดรายได้จะทำให้คนเข้าวัดเป็นการสนองพระดำริของสมเด็จพระสังฆราชคือช่วยส่งเคราะห์อนุเคราะห์ชาวบ้านอีกทางหนึ่ง

ขอบคุณภาพจากเพจ น.ส.พ. ธรรมนำโลก
#2916
น้ำมันว่านดอกทองมหาลาภหัวใจเศรษฐี ใส่ตะกรุดนะเมตตามหานิยมและหัวใจเศรษฐี ขวดละ 399 บาท

ส่งเสริมในเรื่องเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ คนเห็นคนรัก คนเห็นคนหลง ทั้งยังช่วยเรื่องโชคลาภ ทำมาค้าขายอีกด้วย
ว่านดอกทอง
ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ
ว่านมหาลาภ
ความเชื่อ ว่านมหาลาภ หรือ เรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า ว่านกวักนางพญาหงสาวดี เป็น มีคุณประโยชน์ด้านเมตตามหานิยม ชักนำให้เกิดลาภผลทวีคูณหลาย ส่งเสริมลาภจากการเสี่ยงโชค
คาถากำกับ
อุ อา กะ สะ
อา กะ สะ อุ
กะ สะ อุ อา
สะ อุ อา กะ
(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)
ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
https://www.lazada.co.th/.../-i1140634945-s2648460701...
#2917


ศรีสวัสดิ์ จับมือพันธมิตรบริษัทประกันชั้นนำ รุกตลาดนายหน้าประกันเปิดรับทำประกันทุกชนิด ชูจุดเด่น 'สินเชื่อและประกันครบ จบที่ศรีสวัสดิ์' เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่และปัจจุบัน 'ธิดา แก้วบุตตา' พกความมั่นใจเดินเกมรุกตลาดประกัน เปิดโปรโมชั่นเด็ดช่วยลูกค้า ผ่อน 0% นานสูงสุด 8 งวด ขึ้นแท่นบริษัทแรกของไทยออกกรมธรรม์สุดไว ทันทีที่สมัครทำประกัน ตั้งเป้าพอร์ตประกันเติบโตกว่า 2,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2564
 
คุณธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  SAWAD เปิดเผยว่า ศรีสวัสดิ์พร้อมขยายธุรกิจเกี่ยวเนื่องเพื่อสร้าง ecosystem ทางธุรกิจสู่ One Stop Service จึงเดินหน้าร่วมมือกับบริษัทประกันชั้นนำในประเทศไทย เปิดรับทำประกันครบทุกชนิดทั้งประกันภัย ประกันวินาศภัย ประกันชีวิต ประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อและ พ.ร.บ. พร้อมให้บริการลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วแบบครบวงจร ณ สาขาทั่วประเทศกว่า 5,000 แห่ง โดยเปิดโปรโมชั่นตอบสนองความต้องการลูกค้าด้วยการผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย ในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 8 งวด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระการชำระเบี้ยประกันเต็มจำนวนและได้รับความคุ้มครองจากการทำสัญญาในสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจมีความเปราะบาง
 
นอกจากนี้บริษัทได้พัฒนาระบบ IBS หรือ Insurance Broker System รองรับการขายประกันที่สาขา โดยเป็นระบบเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละสาขาเพื่อลดความล่าช้าในการรอคอย สามารถเลือกบริษัทประกันรถยนต์เพื่อเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัย นำเสนอผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายและครอบคลุม พร้อมออกกรมธรรม์ให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว สามารถรับกรมธรรม์ได้ภายในวันที่สมัครทำประกัน สร้างมาตรฐานใหม่แก่วงการประกันที่ศรีสวัสดิ์ พร้อมตอบสนองลูกค้าจากประสบการณ์การให้บริการที่ผ่านมา
 
"ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) คาดการณ์แนวโน้มธุรกิจประกันภัยปี 64 มีเบี้ยประกันภัยรวม 8.47 แสนล้านบาท โตขึ้น 0.64% จากตัวเลขข้างต้นมองว่าส่วนแบ่งทางการตลาดยังคงมีอยู่มากและโน้มแนวรวมยังเป็นบวก ตลาดนี้จึงเป็นโอกาสที่เราจะก้าวเข้าไปชิงส่วนแบ่งเพื่อเพิ่มพอร์ตการเติบโตของศรีสวัสดิ์ โดยตั้งเป้าเติบโตกว่า 2,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2564 สำหรับความพร้อมที่เรามีขณะนี้ สามารถทำประกันให้แก่ลูกค้าได้ครบวงจร ตามสโลแกน 'สินเชื่อและประกันครบ จบที่ศรีสวัสดิ์' อีกทั้งเรายังมีโปรโมชั่นตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติเพื่อให้สินเชื่อและประกันเป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนเข้าถึง ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน รวดเร็วทันใจ ซึ่งเราจะเป็นบริษัทเดียวและบริษัทแรกที่สมัครและรับกรมธรรม์ได้ทันทีที่สาขาศรีสวัสดิ์ทั่วประเทศ"คุณธิดา กล่าว
 
ทั้งนี้ศรีสวัสดิ์ได้ร่วมมือกับบริษัทประกันชั้นนำ 11 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพประกันภัย, วิริยะประกันภัย, ชับบ์สามัคคีประกันภัย, สินมั่นคงประกันภัย, คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย, ทิพยประกันภัย, ฟอลคอน ประกันภัย, ไทยวิวัฒน์ ประกันภัย เมืองไทยประกันภัย แอลเอ็มจีประกันภัย และ อลิอันซ์ อยุธยาประกันภัย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจชั้น 1, 2, 3 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถปรึกษาและเข้ารับบริการได้ที่สาขาศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ทั่วประเทศกว่า 5,000 สาขา ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.sawad.co.th และทุกช่องทางการติดต่อสื่อสารของบริษัทฯ 
#2918


"อีอีซี"เปิดเวทีเสวนาระดมความคิดจากกูรูด้านเศรษฐกิจระดับตำนานชั้นแนวหน้าไทย และบิ๊กเอกชน ร่วมถอดแนวคิด "อีสเทิร์นซีบอร์ด"ต่อยอดสู่ความสำเร็จ "อีอีซี"กับการเป็นเขตพัฒนาพิเศษระดับโลก หวังดันการลงทุนปีละ 6 แสนล้านบาท หนุนไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2572

เมื่อเร็วๆนี้สำนักงำนคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ "จาก ESB สู่ EEC กับ การเป็นเขตพัฒนาพิเศษ ระดับโลก" ในรูปแบบออนไลน์ (VDO conference) นำโดย ดร.เสนาะ อูนากูล ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร.อาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร. ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธามูลนิธิเสนาะอูนากูล และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

โดยมีกลุ่มผู้บริหารระดับสูง จากภาคเอกชน นักธุรกิจชั้นนำใน เมืองไทย เช่น นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ประธาน คณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BDMS นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังการเสวนามากกว่า 70 คน

การจัดเสวนา ฯ ครั้งนี้ ฉายภาพแนวคิดของการพัฒนาโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ "อีสเทิร์นซีบอร์ด" (ESB) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2525 – 2529) ซึ่งเป็นช่วงการพัฒนาประเทศที่สำคัญของไทย โดยผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในสมัยนั้น และได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยในช่วงกว่า 30 ปีก่อนเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีความต่อเนื่องมายังแผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 6 และฉบับที่ 7 ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 9.3%

ซึ่งแนวคิดจากแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 5 ดังกล่าว จะเป็นต้นแบบสำคัญเพื่อเตรียมการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ซึ่งพบผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและเกิดวิกฤตเศรษฐกิจใกล้เคียงกับในอดีต

นอกจากนี้ การพัฒนาพื้นที่ อีอีซี ในปัจจุบัน ยังได้นำแนวคิด และต่อยอดเพิ่มสิ่งที่ได้รับจากอีสเทิร์นซีบอร์ด ที่สำคัญ ๆ เช่น แนวคิดให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง ด้วยการมี พ.ร.บ. และสำนักงานอีอีซี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ สนามบินอู่ตะเภา ขยายท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง รถไฟความเร็วสูง ลดการพึ่งพางบประมาณรัฐและเงินกู้ ด้วยสัญญา PPP ที่โปร่งใส รัดกุม และรัฐได้ประโยชน์สูงสุด การส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น 5G ระบบโซลาร์เซลล์ ยานยนต์ไฟฟ้า และการสร้างงานให้เยาวชนในพื้นที่
มีรายได้ดี รวมทั้ง ทำงานกับท้องถิ่น กลุ่มสตรี เยาวชน เพื่อให้โครงการอีอีซีอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน


พร้อมกันนี้ อีอีซีจะปรับแผนทำงานให้หนักเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อชดเชยส่วนที่หายไปจากโควิด ทั้งนี้ จากการประมาณการ พบว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนอีกปีละ 6 แสนล้านบาท เพื่อดึงเศรษฐกิจให้ขยายตัว 4.5 – 5% ให้ไทยก้าวสู่ประเทศที่พัฒนาได้ในปี 2572

สำหรับการเสวนาดังกล่าว ภาคเอกชน และนักธุรกิจชั้นนำ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นตรงกันว่า มีความจำเป็นต้องร่วมขับเคลื่อนอีอีซี ให้เกิดการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ และการลงทุนในอุตสาหกรรมนวัตกรรมขั้นสูง ที่ อีอีซี พร้อมดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในระยะยาว


ทั้งนี้การสรุปข้อมูล และการถอดบทเรียนที่ได้รับจากการเสวนาฯ ในครั้งนี้ สกพอ. จะได้นำข้อมูล ชุดความรู้ที่ได้รับประกอบการจัดตั้ง ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์เขตพัฒนาพิเศษชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกประเทศไทย (EEC Learning Center /EEC Museum) และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ซึ่งจะเป็นศูนย์การเรียนรู้สำคัญ ของการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก และพร้อมจะเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักลงทุนรุ่นใหม่ และผู้ที่สนใจได้ศึกษาถึงความเป็นมาของ อีสเทิร์นซีบอร์ด และการพัฒนาอีอีซี ที่จะเป็นต้นแบบของการพัฒนาประเทศ ต่อไป
#2920


หลายคนคงเห็นตรงกันว่าปัจจุบันคนไทยเล่น "หวย" กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อลอตเตอรี่หรือ "สลากกินแบ่งรัฐบาล" ทุกๆ วันที่ 1 และ 16 ของแต่ละเดือน รวมไปถึงการเล่นหวยใต้ดิน ซึ่งบรรดาคนชอบเสี่ยงโชคทั้งหลายก็พยายามตามหา "เลขเด็ด" ด้วยหวังว่าจะถูกหวยและรวยทางลัดง่ายขึ้น 

แต่รู้หรือไม่? การได้เลขเด็ดหรือเลขที่ชอบมาซื้อ "หวย" อาจไม่ได้มาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างที่คุณคิด เพราะมีผลสำรวจออกมาแล้วว่า ส่วนใหญ่การซื้อหวยแล้วถูกรางวัล มาจากโชคและความบังเอิญของแต่ละคนมากกว่า

นอกจากจะเป็นเรื่องโชคส่วนบุคคลแล้ว การที่ใครสักคนจะมีโอกาส "ถูกหวย" มันมีเรื่องของ "ทฤษฎีความน่าจะเป็น" เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 

"ถูกหวย" มีความเป็นไปได้น้อยกว่า "เสียหวย"
มีข้อมูลจาก ผศ.อำนาจ วังจีน นักวิชาการด้านคณิตศาสตร์ประยุกต์ สำนักวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้เคยให้ข้อมูลในบทความวิชาการไว้ว่า คนไทยที่ชอบเสี่ยงโชคด้วยการซื้อ สลากกินแบ่งรัฐบาล มักซื้อโดยไม่มีหลักวิชาการเรื่อง "ทฤษฎีความน่าจะเป็น" ทำให้เสียเงินมากกว่าถูกรางวัล

การตัดสินใจซื้อ "หวย" แต่ละครั้ง นักเสี่ยงดวงมักจะมองที่ผลตอบแทนมากกว่าโอกาสที่เสียเงิน เช่น บางคนชอบเสียเงินซื้อเลขท้าย 3 ตัว บ่อยๆ ด้วยมองว่าได้ผลตอบแทนสูงกว่าซื้อเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความเสี่ยงของการซื้อเลขท้าย 3 ตัว มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ถูกรางวัล (เล่นหวย 2 ตัว ความเสี่ยงน้อยกว่า 3 ตัวมาก)

นักคณิตศาสตร์อธิบายอีกว่า หลักทฤษฎีความน่าจะเป็น คือ โอกาสเกิดขึ้นของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง มีค่าอยู่ระหว่าง 0-1 หากใกล้ 0 หมายถึงโอกาสเกิดน้อย แต่ถ้าค่าใกล้ 1 หมายถึงมีโอกาสเกิดสูง การเล่นหวยแต่ละครั้งผลออกมาแค่ "ถูก" กับ "ผิด" เมื่อคิดตามหลักทฤษฎีความน่าจะเป็น คือ 

ผลตอบแทนคาดหวัง = ผลรวมของ (จำนวนเงินที่จะได้รับ x โอกาสถูก) - (จำนวนเงินที่จะเสีย x โอกาสผิด)

อยาก "ถูกหวย" รางวัลที่ 1 มีโอกาสเท่าไหร่?
ผศ.อำนาจ วังจีน ระบุอีกว่า หากนำหลักการของทฤษีความน่าจะเป็น มาคำนวณทำให้ทราบผลว่าโอกาสที่ใครสักคนจะถูกหวยรางวัลที่ 1 จากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น มีโอกาสน้อยมาก คิดเป็น 1 ในล้าน!

อีกทั้งมีผลการวิเคราะห์พบว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลมีค่าคาดหวังต่อการเล่นต่ำมาก ทุกครั้งที่ซื้อสลากฯ มีโอกาสถูกรางวัลทุกประเภทรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นรางวัลที่ 1, 2, 3 หรือเลขท้าย 2-3 ตัวแค่ 0.014 หรือร้อยละ 1.4 เท่านั้น นอกจากนี้หากเปรียบเทียบจาก "ผลตอบแทนความคาดหวัง" หมายถึงถ้าเล่นหวยไปเรื่อยๆ จะเสียเงินสะสมมากขึ้นๆ เช่นกัน 

คนไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อผิดๆ ว่า ซื้อเลขเด็ดตัวไหน ถ้าไม่ถูกก็ให้ตามตัวนั้นประจำ แล้วจะมีโอกาสถูกมากกว่าเปลี่ยนตัวเลขไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เพราะเหมือนการหยิบลูกปิงปองแบบสุ่มแล้วใส่คืนลงไปในกล่อง เมื่อหยิบใหม่ โอกาสได้ลูกเดิมจึงไม่ต่างจากลูกอื่นๆ ไม่ว่าจะหยิบกี่ครั้งก็ตาม

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า หวย ทุกประเภทจะมีค่าเป็น "ลบ" หมายความว่า เจ้ามือหวยหรือกองสลากฯ จะเป็นฝ่ายได้เปรียบเสมอ 


คนซื้อ "หวย" มีโอกาส "รวย" แค่ไหน?
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก ศูนย์ศึกษาปัญหาการ. ที่อธิบายไปในทิศทางเดียวกันว่าการซื้อ "หวย" มักจะทำให้ผู้ซื้อเสียเงินมากกว่าถูกรางวัล โดยระบุว่า หวยรัฐบาลมีเลข 6 หลัก ทุกๆ ชุดจะมีตัวเลขไม่ซ้ำกัน 1,000,000 ตัวเลข จำนวนรางวัลที่มีโอกาสถูกรวมทั้งหมดมี 14,168 รางวัล แปลว่าการซื้อหวยแต่ละครั้งมีโอกาสถูกรางวัลแค่ 1.4168 % เท่านั้น  แต่มีโอกาสเสียเงินสูงถึง 98.5832%

ค่าความคาดหวังที่จะ "รวย" มีวิธีคำนวณดังนี้ ยกตัวอย่างเช่น เลขท้ายสองตัว 00 - 99 = 100 ตัวเลข

โอกาสถูก (เลขเดียว) = 1 ใน 100 หรือ 0.01 

โอกาสไม่ถูกรางวัล = 99 ใน 100 หรือ 0.99

ค่าความคาดหวัง = โอกาสที่จะถูกหรือไม่ถูก X ผลลัพธ์สุดท้าย คือได้เงินหรือเสียเงินเท่าไหร่

ค่าความคาดหวังกรณีถูกรางวัล คือได้เงิน 1,000 บาท = 0.01 x 1,000 

ค่าความคาดหวังกรณีไม่ถูกรางวัล (คำนวณตามราคาหน้าสลาก) คือเสียเงิน 40 บาท = 0.99 x -40 (ตัวเลขนี้สมมติว่าคุณซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ในราคาคู่ละ 80 บาท ตามราคาสลากที่แท้จริง) 

ผลรวมของความคาดหวังที่จะถูกรางวัลเลขท้ายสองตัวคือ (0.01 x 1,000) + (0.99 x -40) = -29.6 บาท แปลว่าค่าเฉลี่ยในการที่คุณจะเสียเงินเสมอจากการซื้อหวยคือ -29.60 หรือพูดง่ายๆ ว่าโดยเฉลี่ยทุกครั้งที่คุณซื้อหวยคุณจะเสียเงินแน่ๆ 29.60 บาท (เป็นค่าเฉลี่ยจากการซื้อหวยหลายๆ ครั้ง)

คนไทยติดหวย ซื้อสลากกินแบ่งฯ มากขึ้นจริงหรือ?
เห็นวิธีการคำนวณข้างต้นแล้ว คงจะเห็นแล้วการซื้อหวยนั้นมีโอกาสเสียเงินมากกว่าได้เงินจริงๆ แต่ก็ยังไม่วายมีคนไทยอีกมากที่ยังคงนิยมซื้อหวยทุกงวด และมีคนเล่นหวยมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้ยืนยันได้จาก ผลสำรวจ "สถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการ.ในประเทศไทย ประจำปี 2560" ของ ศูนย์ศึกษาปัญหาการ. ที่เผยแพร่ในปี 2561 ที่ระบุว่า

ประชากรไทยจำนวน 66 ล้านคน อายุ 15 ปีขึ้นไป มี 52 ล้านคน ในจำนวนนี้คาดว่ามีคนไทยเล่นการ. 28.93 ล้านคน มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อปี 2558 ประมาณ 1.54 ล้านคน กระจายตัวอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะภาคอีสาน พบว่าเล่นการ.มากที่สุด 10.51 ล้านคน รองลงมาเป็นภาคกลาง 5.34 ล้านคน, ภาคเหนือ 4.99 ล้านคน, กรุงเทพฯ และปริมณฑล 4.20 ล้านคน และภาคใต้ 3.89 ล้านคน

อีกทั้งพบว่า นัก.จำนวน 28.93 ล้านคนนั้น หากจำแนกตามเพศ แบ่งเป็นนัก.หญิง 14.61 ล้านคน เปรียบเทียบกับผลการสำรวจปี 2558 เพิ่มขึ้น 1.31 ล้านคน (9.8%) ส่วนนัก.ชายมี 14.32 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.29 แสนคน (1.6%) สรุปในปี 2560


นัก.เพศหญิงมีอัตราการเพิ่มสูงกว่านัก.เพศชายเกือบ 6 เท่า แบ่งเป็นนัก.หน้าเก่าที่เคยเล่นการ.มาก่อน มีจำนวน 28.30 ล้านคน และเป็นนัก.หน้าใหม่ที่ไม่เคยเล่นการ.มาก่อน แต่เพิ่งมาเริ่มเล่นการ.ในปี 60 มี 6.28 แสนคน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นนัก.หญิง 3.74 แสนคน นัก.ชาย 2.54 แสนคน

ท้ายที่สุด ไม่ว่าคุณเลือกที่จะเล่นหวยหรือไม่เล่น ก็เป็นสิทธิและความเชื่อส่วนบุคคล เอาเป็นว่าข้อมูลนี้น่าจะช่วยให้คนที่อยากเริ่มเล่นหวยได้หยุดคิดไตร่ตรองสักนิด ก่อนจะกระโดดลงสนามแห่งการเสี่ยงโชค ว่ามันคุ้มค่ากับการลงทุนจริงหรือไม่