• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Beer625

#6001


ดัชนีตลาดหุ้นไทยเดือนก.ค.2564 ปิดที่ 1,521.92 จุด (30ก.ค.) ปรับตัวลดลง65.87 จุด หรือ 4.15% จากเดือนมิ.ย.2564 ที่ปิดที่ 1,579.79 จุด  ปัจจัยหลักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 17,020.08 ล้านบาท 

นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 3,555.86 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 2,912.09 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศหรือรายย่อย ซื้อสุทธิ 17,663.85 ล้านบาท

  ขณะที่ในช่วง7เดือน(ม.ค.-ก.ค.)ของปี2564 ดัชนีหุ้นไทยยังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 72.57จุด  หรือคิดเป็น5.01% จากสิ้นปี2563 ปิดที่ 1,449.35จุด

 ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 93,282.26 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสุทธิทุกเดือน ตั้งแต่ (ม.ค.-ก.ค.)2564  นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 44,347.59 ล้านบาท  บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 9,460.91ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ128,168.95 ล้านบาท


สำหรับแนวโน้มดัชนีหุ้นไทย วันที่ 2-6 ส.ค.2564 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย(บล.) จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,500 และ 1,485 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,545 และ 1,555 จุด ตามลำดับ

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (4 ส.ค.) สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ และมาตรการในการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/64 ของบจ.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนก.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนก.ค. ของยูโรโซน ญี่ปุ่นและจีน
#6002


เรียกว่าชวนเหล่าแขกรับเชิญที่สลัดคราบนักร้องมาแข่งขันหาคู่รักตัวจริงโดยเฉพาะใน "รายการ Couple or not? คู่ไหน...ใช่เลย" ทั้ง "ซีดี–กันต์ธีร์" นักเต้นเท้าไฟ และ "แกรนด์–กรณ์ภัสสร" สาวแซ่บสุดเซ็กซี่ตัวแม่ ต้องมาประชันกับ "ว่าน–ธนกฤต" ควงศิลปินในค่าย "น้องแซนดี้–ญาณิศา" นักร้องสาวน้อยเสียงหวานวัย 13 ปี ที่ส่งเพลงแรก "สวัสดีความรัก" มาทักทาย

งานนี้พิธีกรฝีปากฮา "ต้นหอม–ศกุนตลา, นุ้ย–ธนวัฒน์" ขอซอกแซกถึงการมาคู่กันของ แกรนด์–ซีดี ที่มาครั้งนี้เตรียมมีโปรเจกต์อะไรหรือเปล่า

แกรนด์ เผยว่า "ใช่แล้วค่ะ กำลังจะมีผลงานใหม่ออกมาให้ได้ชมกันหลังจากที่แกรนด์ห่างหายการทำเพลงไปประมาณ 6-7 ปี ซึ่งตอนนี้กำลังจะกลับมาทำเพลงให้ทุกคนหายคิดถึงแล้ว โดยมีน้องชายสุดที่รักอย่าง ซีดี ที่เราทั้งแต่งเพลงและฟีเจอริงกัน บอกได้เลยว่างานนี้ยังคงแดนซ์กันกระจายเหมือนเดิม จะเป็นเมื่อไรต้องรอติดตามชมกันนะคะ"

ส่วนเกมการแข่งขันรับประกันความมันส์ ลุ้นกันว่าระหว่าง "แกรนด์–ซีดี" และ "ว่าน–แซนดี้" คู่ไหนจะเข้ารอบแจ็กพอตคว้าเงินสะสมไปได้ วันอาทิตย์ที่ 1 ส.ค.นี้ เวลา 16.00 น. ทางช่อง 3HD.
#6004
น้ำมันว่านเครือเขาหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยม ทุกขวด
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา สำเร็จทุกราย


 
เครือเขาหลงจัดอยู่ในของขลังธรรมชาติ เป็นของเสน่ห์ ของเสน่ห์แรงๆ หมอเสน่ห์เขมร หมอเสน่ห์ไทยนิยมใช้กันมาก และจัดได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่แรงที่สุด
 
คุณของน้ำมัน
เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มเมตตา นำพาโชคลาภ เรียกจิต เรียกใจ ประสานสัมพันธ์ ค้าขายร่ำรวย
 
คาถามหาหลง
โอม หลง หลง มหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงทั้งต้น หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงทั้งดอก คนเห็นน้ำตาตก นกเห็นน้ำตาไหล ไผผู้ใดเห็นหน้ากู อยู่มิได้ร้องไห้หากู หลงทั้งหน้า หลงทั้งหลัง หลงทั้งซ้าย หลงทั้งขวา หลงทั้งต่ำ หลงทั้งสูง หลงทั้งกลางวัน หลงทั้งกลางคืน หลงทั้ง


 
วิธีใช้
เพิ่มเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ประสานสัมพันธ์ สวดคาถาแล้วนำน้ำมันว่านแตะที่หน้าผาก นึกถึงสิ่งที่ต้องการด้วยใจมุ่งมั่น แน่วแน่ศรัทธา เป็นไปดังว่า สมปรารถนา
 
เรียกจิต เรียกใจ ให้ท่องคาถา ใช้แต้มแตะทา ลงบนวัตถุ รูปภาพหามา ของคนต้องการ เพ่งพลังจิต ลงไปแน่วแน่ ให้เกิดเป็นภาพ เคียงคู่กายา ทำได้ดังนี้นั้นหนา บอกคำว่า ได้ตามนั้นเลย
สนใจติดต่อโทร. 0846623662
id line : teerapat999

เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/12

lazada  https://www.lazada.co.th/products/-i1863368460-s5737984707.html?spm=a2o4m.seller.list.19.751ebb9eN8X8vA&mp=1&freeshipping=1  
#6005
ป้ายไฟวิ่ง LED เปลี่ยนข้อความผ่านมือถือ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน

ป้ายไฟวิ่งLED เปลี่ยนข้อความผ่านappมือถือ(เชื่อต่อทางwi-fi) หรือส่งผ่านระบบLAN  ขนาดป้าย 105x25cm ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ทนแดด ทนฝน มีให้เลือก 4สี แดง,เขียว,น้ำเงิน ราคา 2,900บาท และFull colors  ราคา4,200 บาท ใส่คำ,ข้อความ,วันที่,เวลา,รูปภาพต่างๆได้ ป้ายติดตั้งง่าย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน

ทางร้านลงคำให้ฟรีในครั้งแรกและสอนวิธีการใช้งานให้ลูกค้าสามารถลงข้อมูลได้ด้วยตัวเอง แถมขายึดป้ายฟรี

สนใจติดต่อ 0945102033
Line :@gentech
หน้าร้านเซียร์รังสิต ชั้น1


#6006



สัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นวีคของสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ซีโมน-ปุณณาสา ต้นวิชา จากรายการ "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ทางช่อง 7 HD เลยก็ว่าได้ เพราะออร่าความบลิ้งค์ประกายซะจนไปนั่งใจหัวใจแฟน ๆ ไอดอลไทยหลายต่อหลายคน

ล่าสุดความฮอตของสาวซีโมนแผ่กระจายไปถึงประเทศญี่ปุ่น เพราะที่ผ่านมาทางรายการ "Last Idol Thailand Presented by True 5G" (ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์) ได้จัดทำซับไทเทิ้ลภาษาญี่ปุ่นเพื่อเอาใจแฟนคลับจากแดนปลาดิบให้พวกเขาได้อรรถรสในการรับชมอย่างเต็มที่ ซึ่งหลังจบ EP.8 ปุ๊บก็มีชาวญี่ปุ่นแสดงความเห็นเกี่ยวกับความน่ารักสดใสของซีโมน-ปุณณาสา ผ่านช่องทางโซเชียลอย่างคึกคัก



"ซีโมนจัง" โดนท้าแล้วก็จริงแต่พอได้ดูเพอร์ฟอร์มละ คงไม่มีคู่แข็งปรากฏตัวแล้วมั้ง คือมันสุดยอดมากจริง ๆ แถมน่ารักขึ้นด้วย"



"ซีโมน" นี่อายุ 14 จริง ๆ ใช่ไหม การแสดงเหมาะกับการเป็นดารานักแสดงมากเลย พอบวกกับออร่าเซนเตอร์ของ "ต้นน้ำ" กับความเป็นไอดอลของ "ม่านมุก" 3 คนนี้ผู้ท้าชิงน่าจะเริ่มหนีกันแล้วมั้ง



"อายจัง" น่าจะเลือกท้าผิดคนไปหน่อย พอ "อายจัง" เดินออกมานึกว่าจะท้า "ตาล" ซะอีก แต่กลายเป็น "ซีโมน" ซะงั้น เพอร์ฟอร์ม "ซีโมน" คือมันสุดยอดมาก เหมือนทำให้ทั้งสตูกลายเป็นคอนเสิร์ตของตัวเองเลย เท่มาก



เพอร์ฟอร์มนี้เหมือนโดนดูดเข้าไปในโลกของ "ซีโมน" เลย คงไม่น่าจะตกแล้วมั้ง

- (คอมเม้นตอบ) พอดูเพอร์ฟอร์ม "ซีโมน" ละกลัวเลย ไม่น่ามีผู้ท้าชิงมาท้าแล้วแหละ ดูมีของและอะไรซ่อนอยู่อีก สุดยอด



ไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบลีลาการร้องเพลง "นักมายากล" ของ ซีโมน ปุณณาสา เท่านั้น แต่วงดนตรีฝีมือเก๋าเจ้าของบทเพลง "นักมายากล" อย่าง "พาราด็อกซ์" ได้แชร์คลิปการแสดงของซีโมนผ่านเฟสบุ๊คของวง เช่นเดียวกับวงร็อคชื่อดังอย่าง "เคลียร์" แชร์คลิปที่ ต้นน้ำ-บัณฑิฏา สันตยารมณ์ สมาชิกชั่วคราวหมายเลข 1 ร้องเพลง "กระโดดกอด" ของวง "เคลียร์" ผ่านเฟสบุ๊คของวงด้วย

และในวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคมนี้ ห้ามพลาดกับการลงสนามชิงชัยครั้งแรกของสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 6 เก๋-พรรณิภา วงษาชัย กับผู้ท้าชิงคนที่ 11 ศึกครั้งนี้ใครจะอยู่ใครจะไป ติดตามได้ทางช่อง 7 HD เวลา 12.30-13.30 น.

และพิเศษสุดสามารถรับชมเอ็กซ์คลูซีฟคอนเท้นต์ผ่านทางแอพพลิเคชั่น True ID นอกจากนี้ยังสามารถโหวตผู้เข้าแข่งขันที่คุณชื่นชอบที่สุด 5 อันดับ ตลอดรายการ เพื่อเดบิวต์เป็นยูนิตพิเศษ True 5G Special Unit ง่ายๆ เพียงกด *472* ตามด้วยหมายเลขของผู้เข้าแข่งขันที่คุณชื่อชอบ ตามด้วย # แล้วกดโทรออก หรือโหวตผ่านแอพพลิเคชั่น True Money Wallet และยังสามารถใช้ทรูพอยท์ร่วมโหวตได้อีกด้วย สามารถโหวตได้ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 64 จนถึงวันที่ 3 ต.ค. 64 เวลา 24.00 น. เท่านั้น
#6007



น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในเดือนมิ.ย.64 เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดระลอกสามของโควิด-19 โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนยังอ่อนแอ แม้ปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศยังมีอยู่

อย่างไรก็ดีการส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า และยังช่วยพยุงการลงทุนภาคเอกชนและการผลิตภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐยังขยายตัวได้เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน

ขณะที่ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงปรับลดลง เนื่องจากผลของฐานต่ำในหมวดราคาพลังงานทยอยหมดไป ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลน้อยกว่าเดือนก่อน จากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ประกอบกับดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้นตามทิศทางการส่งออก

โดยในเดือนมิ.ย.64 เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับดีขึ้นบ้างจากเดือนก่อน หลังจากภาครัฐทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดตั้งแต่กลางเดือนพ.ค. อย่างไรก็ดี เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนโดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับรายได้และความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่อ่อนแอจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19

ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้าและวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ส่งผลให้การส่งออกยังเพิ่มขึ้นในหลายหมวด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ การส่งออกเหล็กเร่งขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเปลี่ยนไปเน้นตลาดส่งออกมากขึ้นในช่วงที่ความต้องการในประเทศลดลง

"การระบาดของโควิดในโรงงานต่างๆ อาจมีผลกระทบกับการผลิตบ้างในระยะสั้น แต่ผู้ผลิตก็มีการปรับตัว บางโรงงานก็มีการทำ Bubble & Sealed เพื่อให้การผลิตยังเดินหน้าต่อ ส่วนผลกระทบระยะยาวนั้น ขอรอดูการประเมินจากที่ประชุม กนง.วันที่ 4 ส.ค.นี้ก่อน"

ADVERTISEMENT


สำหรับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการส่งออก ขณะที่การลงทุนหมวดก่อสร้างปรับลดลงต่อเนื่องตามอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ รวมทั้งการได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง

ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ตามการผลิตหมวดยานยนต์ ปิโตรเลียม และวัสดุก่อสร้าง สอดคล้องกับอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ โดยปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และเซมิคอนดักเตอร์ยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิตหมวดอาหารแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์

ทั้งนี้มูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะหมวดเชื้อเพลิงและสินค้าอุปโภคบริโภคสอดคล้องกับอุปสงค์ในประเทศที่ยังอ่อนแอ อย่างไรก็ดี การนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางปรับดีขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับการฟื้นตัวของภาคการส่งออก

โดยการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน สะท้อนบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีต่อเนื่อง โดยรายจ่ายประจำขยายตัวตามการเบิกจ่ายค่าตอบแทนบุคลากร ขณะที่รายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางขยายตัวตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านคมนาคมเป็นสำคัญ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยที่ยังมีอยู่

ขณะที่ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลง เนื่องจากผลของฐานต่ำในหมวดราคาพลังงานทยอยหมดไป ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนมิ.ย.ขาดดุลน้อยกว่าเดือนก่อน จากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ประกอบกับดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้นตามทิศทางการส่งออก

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินคู่ค้าคู่แข่งส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศที่ยังยืดเยื้อ โดยเดือนมิ.ย. เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยจาก พ.ค. เป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับในประเทศเองยังมีการระบาดโควิดอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บาทอ่อนค่า

โดยล่าสุดในเดือน ก.ค.เงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องจากเดือนมิ.ย. เป็นผลจากนักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาในหลายประเทศ จึงทำให้มีการเข้าไปถือดอลลาร์มากขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ขณะเดียวกัน จากการระบาดของโควิดในไทยเองที่ยังมีความรุนแรง ทำให้ ศบค.ต้องยกระดับมาตรการควบคุมให้เข้มงวดขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้ในเดือนก.ค. เงินบาทปรับตัวอ่อนค่ามากกว่าสกุลเงินอื่นๆ

อย่างไรก็ดี หน้าที่ในการดูแลค่าเงินของ ธปท.นั้น ไม่ได้ขึ้นกับว่าเงินบาทจะแข็งค่าไปมาก หรืออ่อนค่าไปมาก แต่จะเข้ามาดูแลก็ต่อเมื่อค่าเงินมีความผันผวนจนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพโดยรวม ซึ่ง ธปท.มีกลไลที่จะเข้าไปดูแลในส่วนนี้อยู่แล้ว

"เรามีเครื่องมือที่จะดูแลอยู่แล้ว หากค่าเงินมีความผันผวนสูง...เราไม่ได้ดูว่าจะแข็งค่ามาก หรืออ่อนค่ามาก แต่เราจะดูว่าไม่ให้มีการผันผวนเร็วเกินไปจนภาคธุรกิจไม่สามารถปรับตัวได้ เพราะจะส่งผลต่อเสถียรภาพโดยรวม เราจะดูแลไม่ให้บาทผันผวนมากเกินไป"

สำหรับในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอก 3 ของ โควิด-19 ส่งผลให้เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับลดลงจากไตรมาสก่อน แม้มาตรการภาครัฐจะช่วยพยุงกำลังซื้อได้บางส่วน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังอ่อนแอ เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศยังมีอยู่ อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งช่วยพยุงการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชน สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน สะท้อนถึงบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐ

ส่วนด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับมาเป็นบวกตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานเป็นสำคัญ เนื่องจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมทั้งฐานราคาพลังงานที่ต่ำในปีก่อน ด้านตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลมากกว่าไตรมาสก่อน ตามดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลเพิ่มขึ้น

น.ส.ชญาวดีกล่าวอีกว่า ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือนก.ค.64 ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจมีแนวโน้มลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงมีความรุนแรง ประกอบกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ออกมาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องติดตามความเสี่ยงจากปัญหา supply disruption ทั้งการแพร่ระบาดในโรงงาน รวมถึงการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ และตู้คอนเทนเนอร์
#6008



เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 64 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า การประเมินตำแหน่ง และ วิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่ได้รับผลกระทบ แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลให้ครูต้องปรับรูปแบบจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ดังนั้น ก.ค.ศ. ได้ปรับหลักเกณฑ์การประเมิน และทำหนังสือแจ้งแนวปฏิบัติไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ผู้อำนวยการโรงเรียน รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ยืดหยุ่นหลักเกณฑ์การประเมินต่างๆ โดยครูที่เป็นจิตอาสาในช่วงวิกฤตโควิด-19 สามารถนำมาใช้เป็นผลงานในการประเมินได้ ทั้งนี้ ให้สถานศึกษายืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ส่วนการประเมินผู้อำนวยการสถานศึกษา ให้ใช้การประเมินในแนวทางเดียวกัน

รศ.ดร.ประวิต กล่าวต่อว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้จัดประชุมคณะทำงานดำเนินการนำร่องการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะ ผ่านระบบออนไลน์ มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าร่วม โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ห่วงใยเรื่องการเรียนการสอน และจากการรับฟังปัญหาของครูในพื้นที่ อยากให้มีงบประมาณเข้ามาช่วยเด็กในการเรียนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่ขาดแคลน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.รับทราบปัญหา คาดว่าจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาเร็วๆ นี้ ทั้งการปรับ และยืดหยุ่นระเบียบการใช้เงินอุดหนุนรายหัว การนับเวลาเรียน การประเมินผลการจัดการเรียน การบริหาร จัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้แก่นักเรียน และผู้ปกครอง

"ในส่วนของสำนักงาน ก.ค.ศ.เอง พยายามปรับระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด และเป็นไปตามนโยบาย โดยการประเมินต่างๆ ได้ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตั้งแต่การแพร่ระบาดในช่วงแรก ถือเป็นการปลดล็อก ไม่ให้กระทบภาพรวมการจัดการเรียนการสอน"

ส่วนความคืบหน้ากรณีข้าราชการครูฯ จำนวน 1,933 ราย ยื่นทบทวนมติคณะกรรมการ ก.ค.ศ.กรณีระบุให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามเกณฑ์ ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งกรณีนี้ยืดเยื้อ และมีการร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2561 และ ก.ค.ศ.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ อ.ก.ค.ศ.ได้พิจารณาแล้ว และจะประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ครบทุกคน เนื่องจาก อ.ก.ค.ศ.ไม่สามารถจัดประชุมได้ เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ดังนั้น การทำงานจึงอาจต้องล่าช้าออกไป แต่ ก.ค.ศ.จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เสียสิทธิจากกรณีดังกล่าว ได้รับการพิจารณาจากสำนักงาน ก.ค.ศ.ว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมินเพื่อขอมี หรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ.0206.3/ว13 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งเปิดให้ยื่นตั้งแต่ปี 2559 และได้รับแจ้งผลการประเมินปี 2561 ขณะนั้นผู้ที่ยื่นขอทบทวน 16 ราย ได้เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2561
#6010



สุดาพร สีสอนดี กำปั้นหญิงจอมฝีมือทีมชาติไทย โชว์ลีลาสอนเชิงคู่ต่อกรจากอินเดีย ก่อนชนะขาด 5-0 เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายศึกมวยโอลิมปิก เมื่อเช้าวันที่ 30 กรกฏาคม 2564

ศึกมวยสากลสมัครเล่น โตเกียว 2020 ที่สนามเรียวโกคุ โกกุกิกัง ประเทศญี่ปุ่น รุ่นน้ำหนัก 60 กก.หญิง มาถึงคิวของ สุดาพร สีสอนดี กำปั้นหญิงดีกรีเหรียญเงิน เอเชียน เกมส์ 2018 กลับขึ้นสังเวียนรอบ 16 คนสุดท้าย

รอบนี้ สุดาพร ขึ้นดวลหมัดกับ ซิมรานจิต คูร์ จากอินเดีย ยกแรก ซิมรานจิต เป็นฝ่ายเดินบุกประเคนหมัด แต่ สุดาพร อาศัยตั้งรับแล้วต่อยสวนเข้าเป้าหลายจังหวะ ยกสอง สุดาพร เป็นฝ่ายเปลี่ยนมาเดินบุกแทน แม้พลาดถูกต่อยบ้างแต่ก็ยังยิงหมัดโจมตีฝั่งตรงข้ามได้คะแนนขาด

สุดาพร ยังต่อยได้ยอดเยี่ยมเมื่อถึงยกตัดสิน ก่อนกรรมการจะกดคะแนนให้นักชกไทย ชนะขาดลอย 5-0 เสียง ฟอร์มอันสวยงามนี้ส่งให้ "เจ้าแต้ว" เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย เจอกับ คาโรไลน์ ดูบัวส์ จากสหราชอาณาจักร โดยหากชนะได้อีกไฟต์ ก็จะตุนเหรียญทองแดงมาไว้ในมือเป็นอย่างน้อย
 
#6011
ซิกส์ทีม (SIXTEEM) คือแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องสำอางบำรุงผิว ที่มีแนวความคิดริเริ่มจากการนำข้าวไทยมาเป็นวัตถุดิบส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ โดยคุณพัทธนันท์ เศรษฐภูวนันท์ ผู้ก่อตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซิกส์ทีม เนเชอรัล โปรดักส์ โดยมีแรงผลักดันจากปัญหาเศรษฐกิจในตอนนั้นคือชาวนากับการจำนำข้าว ทำให้มีแนวความคิดเพื่อช่วยส่งเสริมเกษตรกรรวมทั้งเพิ่มมูลค่าให้ข้าวไทย ทางซิกส์ทีมก็เลยนำปัญหานี้ไปต่อยอดค้นคว้าหาข้อมูลข้าวสายพันธ์ต่างๆที่สามารถเอามาเป็นส่วนผสมในสินค้า จนพบว่าข้าวสีนิลไทยหรือข้าวหอมนิล ที่ประโยชน์ มีคุณสมบัติเหมาะสมแก่การบำรุงผิวพรรณ โดยซิกส์ทีมริเริ่มออกผลิตภัณฑ์ตัวแรกในปี พุทธศักราช 2559 เป็นโลชั่นบำรุงผิวกายจากสารสกัดข้าวสีนิล ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ใช้เป็นอย่างดี





 ซิกส์ทีมยังคงสร้างสรรค์และพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์การบำรุงผิวเรื่อยมาจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2560 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซิกส์ทีม เนเชอรัล โปรดักส์ ก็ได้รับรางวัล Chiang Mai TOP TEN AWARDS 2017 จากหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งยังถูกรับเลือกให้เป็นหนึ่งในสินค้าของดีจังหวัดเชียงใหม่ ถัดมาก็ได้รับรางวัล SMEs START UP AWARDS 2017-2018 จาก สสว. ถึงสองปีซ้อน และก็ล่าสุดได้รับรางวัล SME Provincial Champions 2020 กิจการต้นแบบของจังหวัดเชียงใหม่ รางวัลต่างๆและเสียงตอบรับจากผู้ใช้สินค้า ทำให้ซิกส์ทีมมั่นใจมากขึ้นว่าสามารถสนับสนุนให้ข้าวไทยมีชื่อเสียงในระดับประเทศได้ ซิกส์ทีมก็เลยเริ่มนำสินค้าที่มีออกวางขายไปที่ต่างประเทศ โดยได้รับการช่วยสนับสนุนจากภาครัฐได้ออกบูธสินค้าในประเทศจีน และสปป.ลาว ต่อเนื่องเรื่อยมา





 ในปี พ.ศ. 2562 ซิกส์ทีม ได้ผลักดันข้าวไทยสู่งานนวัตกรรมข้าวไทย ซึ่งคิดค้นและพัฒนาร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์และเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สนับสนุนโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยข้าวที่ซิกส์ทีมนำมาร่วมศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้คือ "ข้าวก่ำดอยสะเก็ด" เป็นพญาแห่งข้าวทั้งหลาย สายพันธุ์ดั้งเดิมของชาวล้านนา รวมทั้งยังเป็นข้าวGI ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมี 6 สรรพคุณ ต่อต้านความชรา จากงานศึกษาเรียนรู้วิจัยข้าวคราวนี้ ทำให้ซิกส์ทีม สร้างสรรค์และต่อยอดจนเกิดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากข้าวไทย ปัจจุบันนี้ซิกส์ทีมยังคงมุ่งมั่นพัฒนา โดยเป็นแบรนด์แรกๆที่ได้นำข้าวสีนิลไทยมาสกัดจนเกิดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณภาพสูงสุด โดยนอกจากจะต้องการส่งเสริมชาวนาไทยแล้ว ซิกส์ทีมยังมุ่งมั่นสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ข้าวไทยสายพันธุ์ดั้งเดิมไม่ให้สูญหาย แล้วก็ร่วมส่งเสริมให้ข้าวไทยมีชื่อเสียงในระดับโลกต่อไป



 
 
#6012
น้ำมันว่านเครือเขาหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยม ทุกขวด
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา สำเร็จทุกราย


 
เครือเขาหลงจัดอยู่ในของขลังธรรมชาติ เป็นของเสน่ห์ ของเสน่ห์แรงๆ หมอเสน่ห์เขมร หมอเสน่ห์ไทยนิยมใช้กันมาก และจัดได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่แรงที่สุด
 
คุณของน้ำมัน
เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มเมตตา นำพาโชคลาภ เรียกจิต เรียกใจ ประสานสัมพันธ์ ค้าขายร่ำรวย
 
คาถามหาหลง
โอม หลง หลง มหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงทั้งต้น หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงทั้งดอก คนเห็นน้ำตาตก นกเห็นน้ำตาไหล ไผผู้ใดเห็นหน้ากู อยู่มิได้ร้องไห้หากู หลงทั้งหน้า หลงทั้งหลัง หลงทั้งซ้าย หลงทั้งขวา หลงทั้งต่ำ หลงทั้งสูง หลงทั้งกลางวัน หลงทั้งกลางคืน หลงทั้ง


 
วิธีใช้
เพิ่มเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ประสานสัมพันธ์ สวดคาถาแล้วนำน้ำมันว่านแตะที่หน้าผาก นึกถึงสิ่งที่ต้องการด้วยใจมุ่งมั่น แน่วแน่ศรัทธา เป็นไปดังว่า สมปรารถนา
 
เรียกจิต เรียกใจ ให้ท่องคาถา ใช้แต้มแตะทา ลงบนวัตถุ รูปภาพหามา ของคนต้องการ เพ่งพลังจิต ลงไปแน่วแน่ ให้เกิดเป็นภาพ เคียงคู่กายา ทำได้ดังนี้นั้นหนา บอกคำว่า ได้ตามนั้นเลย
สนใจติดต่อโทร. 0846623662
id line : teerapat999

เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/12

lazada  https://www.lazada.co.th/products/-i1863368460-s5737984707.html?spm=a2o4m.seller.list.19.751ebb9eN8X8vA&mp=1&freeshipping=1  
#6013


บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 16,954.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,572.42 ล้านบาท หรือ 17.89% โดยมีกำไรสุทธิ 1,432.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 489.91 ล้านบาท หรือ 51.97% โดยมีปัจจัยจากจำนวนวันในการเปิดให้บริการที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ได้ถูกปิดสาขาชั่วคราว ตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 2563 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ โดยโฮมโปร ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น กิจกรรม HomePro Super Expo และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ทั้งบนช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์จึงทำให้สามารถสร้างยอดขายได้เพิ่ม

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับไตรมา 2 ปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ปี 2564 เท่ากับ 1,432.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 489.91 ล้านบาท หรือ 51.97% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 16,954.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,572.42 ล้านบาท หรือ 17.89% ซึ่งประกอบไปด้วย รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งเป็นรายได้ที่ประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 16,154.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,330.14 ล้านบาท หรือ 16.86% เป็นผลจาก จำนวนวันในการเปิดให้บริการมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งปิดสาขาชั่วคราวตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น กิจกรรม HomePro Super Expo เป็นต้น สำหรับยอดขาย "โฮมโปรมาเลเซีย" ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา จากคำสั่ง Lockdown ของรัฐบาลมาเลเซีย ในช่วงเดือน พฤษภาคม และเดือนมิถุนายน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้ค่าเช่า 302.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.70 ล้านบาท หรือ 42.17% เป็นผลจากจำนวนวันในการเปิดให้บริการมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ ยังคงมีการปรับลดค่าเช่า เพื่อช่วยเหลือผู้เช่า ที่ยังได้รับผลกระทบจากระบาดของ COVID-19 และบริษัทฯ ยังมีรายได้อื่นอีก 497.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152.58 ล้านบาท หรือ 44.23% โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าในสาขา

ทั้งนี้ บริษัทฯ มี กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า และการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 4,065.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 778.03 ล้านบาท หรือ 23.67% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 23.78% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.17% เป็นผลมาจากการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากาไรขั้นต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงมีการเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนจัดซื้อสินค้าเช่นกัน

"สำหรับผลกำไรสุทธิในครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีผลกำไร 2,795.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 585.86 ล้านบาท หรือ 26.52% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 32,786.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,080.08 ล้านบาท หรือ 10.37% และ ณ ปัจจุบัน โฮมโปร มีสาขารวมทั้งสิ้น 86 สาขา โฮมโปรเอส 8 สาขา เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรในประเทศมาเลเซียอีก 7 สาขา" นายคุณวุฒิ กล่าวต่อไปอีกว่า

แม้สถานการณ์ยอดขายในไตรมาส 2 โดยรวมจะได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ยอดขายสาขาเดิมของทั้งธุรกิจโฮมโปรในประเทศ และธุรกิจเมกาโฮม ยังสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนหน้า เนื่องจากฐานรายได้ที่ต่ำในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมาจากการปิดบางสาขาชั่วคราว รวมถึงในช่วงต้นเดือน เมษายน บริษัทฯ มีการจัดงาน HomePro Super Expo ผ่านช่องทาง E-commerce และทุกสาขาทั่วประเทศ แทนการจัดงานในรูปแบบเดิม

นายคุณวุฒิ กล่าวอีกว่า ทางบริษัทฯ ได้ปรับตัวเปลี่ยนแผนการดำเนินงานต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่จะยังคงอยู่ต่อไปอีกระยะ จึงเพิ่มความสำคัญให้กับสินค้าเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน ที่คนยังต้องใช้ชีวิตในบ้าน หรือลดความเสี่ยงในการไปสถานที่ที่ผู้คนแออัด โดยมีการเพิ่มสินค้าในกลุ่มป้องกันและฆ่าเชื้อโรค รวมไปถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Work From Home และ Cooking at Home ที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาช่องทางขายอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้การใช้งานสะดวกและง่ายขึ้นในส่วนของช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น แอปพลิเคชั่น HomePro Application และ Home Service Application

"นอกจากนี้ โฮมโปร ได้พัฒนาการให้บริการ Chat Shop4U ที่เสมือนมีผู้ช่วยในการเลือกซื้อสินค้าและบริการในช่วงที่ลูกค้าไม่สามารถออกมาซื้อที่สาขาได้ โดยได้พัฒนาในส่วนของบริการขนส่งสินค้าภายในวันที่มีการสั่งซื้อ (Sameday Delivery) และในส่วนของการรับสินค้าที่สาขา (Click & Collect) นอกจากนี้ เนื่องจากการที่คนอยู่บ้านมากขึ้นทางบริษัทฯ ได้สร้างความน่าสนใจและสรรหาโปรโมชั่นต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทาง social media ซึ่งการพัฒนา Omni Channel ในช่องทางออนไลน์เหล่านี้ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสินค้าที่ยังมีความกังวลเรื่องการระบาดของ COVID-19 และเป็นตัวช่วยเสริมรายได้ไตรมาส 2 ให้ยังสามารถเติบโตได้เช่นกัน".
#6014



ราคาทองวันนี้พฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม 2564 ประกาศครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.27 น. ปรับขึ้น 200 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของวันพุธ ที่แม้ตลอดทั้งวันมีการประกาศราคาทองทั้งหมด 3 รอบ แต่รวมแล้วคงที่ไม่เพิ่มไม่ลดจากราคาซื้อขายเมื่อวันอังคาร

ราคาซื้อขายทองคำในประเทศชนิด 96.5% วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม2564 (ประกาศครั้งที่ 1)

ราคาทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 28,750 บาท รับซื้อบาทละ 27,636.68 บาท

ราคาทองแท่ง ขายออกบาทละ 28,250 บาท
รับซื้อบาทละ 28,150 บาท

ราคาทองคำ Spot เช้านี้ปรับตัวขึ้นสู่บริเวณ 1,815 ดอลลาร์ หลังจากราคาทองคำโคเม็กซ์ปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาลดลงเล็กน้อย 10 เซนต์ สู่บริเวณ 1,799.7 ดอลลาร์ ก่อนที่จะทราบผลการประชุมคณะกรรมการ FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม และคงมาตราการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป นอกจากนี้ ยังส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าตลาดแรงงานสหรัฐจะแข็งแกร่ง

ราคาทองคําฮ่องกงเปิดตลาดเช้านี้เพิ่มขึ้น 80 ดอลลาร์ฮ่องกง สู่ระดับ 16,790 ดอลลาร์ฮ่องกง