• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Chanapot

#2781



นายธีระธัช รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วิลล่า ฟอเรสต์ กล่าวว่า ได้เปิดตัวเฟสแรก คือ "โรงเรียน ที่ซึ่งสะท้อนถึงการเรียนรู้รอบด้านควบคู่คุณธรรม" เพราะการศึกษามีความสำคัญ เป็นรากฐานของชีวิต จึงได้ร่วมกับ Wells International School, Chonburi Campus สานพลังเสริมสร้างจินตนาการการเรียนรู้วิถีใหม่ เพื่อพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้คู่คุณธรรม



ทั้งนี้มีข้อเป้าหมายร่วมกันที่จะเพื่อบ่มเพาะกล้าพันธุ์ให้เติบใหญ่อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ให้เป็นโรงเรียนวิถีใหม่ มีศูนย์การเรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติ ที่เด็กๆ จะได้มาเรียนรู้ มีที่นาให้เด็กๆ เอาเท้าสัมผัสดินสัมผัสหญ้า และมีแปลงผักให้ทดลองปลูกผักเก็บผัก และทำกิจกรรมร่วมกันที่จะสร้างสรรค์จินตนาการให้เด็กๆ เก่งและดี มีความสุข และมีความอ่อนน้อม โดยนำเอาวัฒนธรรม Globalization มาผสมผสานกับ Localizaion เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลง



ดร.เรย์ เดอ ลา เพนญ่า ครูใหญ่ โรงเรียนนานาชาติ เวลส์, แคมปัสอ่อนนุช กล่าวว่า คุณพ่อเคยมาทำงานในเมืองไทย ตั้งแต่ปี 1960 ทำทางด้านโครงการในพระราชดำริฯ ร.9 ทำให้ได้รับรู้และซึมซับในเรื่องราว 'เศรษฐกิจพอเพียง' มีความประทับใจมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เลยตัดสินใจมาอยู่เมืองไทย และประกอบอาชีพ 'ครู' ด้วยความเชื่อว่า "Changing the World, One student at a time"

"โรงเรียนนานาชาติ เวลส์ อยู่ในกรุงเทพฯ อ่อนนุช ทองหล่อ และบางนา มีประสบการณ์มา 20 ปีแล้วในการจัดการเรียนการสอนที่ทำให้นักเรียนที่จบทุกๆ ปีสามารถสอบติดมหาวิทยาลัยดังๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และอื่นๆ อีกมากมาย จึงมีความตั้งใจจะขยายสาขาอีก แล้วมาเจอที่ชลบุรี โครงการวิลล่า ฟอเรสต์ รู้สึกหลงใหลไปกับธรรมชาติต้นไม้หลากพันธุ์ และที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งและศูนย์รวมที่นำเอาหลักคิดวิถีพอเพียงมาใช้"



ดังนั้นจึงอยากจะสร้างโรงเรียนแห่งนี้ในพื้นที่ 24 ไร่ ให้เป็นแคมปัสที่สามารถจะพัฒนาได้อย่างยั่งยืนสามารถที่จะเรียนรู้ได้ตั้งแต่ในห้องเรียนไปจนถึงนอกห้องเรียน โดยจะสร้างพื้นการเรียนการสอนให้มีคุณภาพเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน ซึ่งไม่ใช่เก่งแค่วิชาการ แต่สามารถพัฒนาต่อยอดสู่ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เพราะบรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติต้นไม้ จะทำให้โล่ง หายใจสะดวก ทำให้สนุกในการเรียนรู้ เกิดการเรียนรู้ที่ดี เกิดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และนี่คือหัวใจแห่งการเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบ



ด้วยบรรยากาศที่สร้างกระบวนการเรียนรู้ได้ดีนั้น สามารถรองรับนักเรียนมัธยมที่จะทำ Diploma หรือ ประกาศนียบัตร ได้ตามความสนใจ สำหรับเด็กประถมจะทำให้เด็กๆ เกิดกระบวนการเรียนรู้ได้ดีขึ้น เพราะมีพื้นที่ได้ทำกิจกรรม มีแปลงผักปลูกต้นไม้ หรือจะนำสิ่งแวดล้อมธรรมชาติมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำงานศิลปะได้ด้วย

"สิ่งสำคัญที่สุดในแคมปัสแห่งนี้ สามารถรองรับกลุ่มคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ได้อย่างดี เด็กตื่นมาไปเรียนได้เลย ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องจราจร รถติด เหมือนกรุงเทพฯ ทั้งคนในครอบครัวก็จะอยู่ด้วยกันมากขึ้น พร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ-แม่-ลูก เด็กๆ ไม่ต้องรอพ่อแม่นาน แล้วก็ได้ไม่นอนดึก ทำให้เกิดความสุข สุขภาพดี การเรียนรู้ยิ่งดี"

โครงการต้นแบบชีวิตวิถีใหม่แห่งนี้ ยังมีแนวคิดแห่ง 'บ-ว-ร' ในส่วนของ 'บ-บ้าน' ที่ให้มากว่าคำว่าบ้าน และ 'ว-วัด' ที่มาของการพัฒนาจิตใจของทุกชาติและศาสนา ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าสนใจ และมีให้ติดตามกันในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.085 399 4030
#2782
7 อย่างต้องทำ ถ้าอยากให้เพจเปิดการมองเห็นhttps://www.chatstickmarket.com/single-post/7thingstodoifyouwantyourpagetobevisible

#2783



นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัท เอ็กโก ลินเดน ทู ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เอ็กโกถือหุ้นทั้งหมด ที่ได้ลงทุนในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ (Linden Topco) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น "ลินเดน โคเจน" ในสหรัฐอเมริกา ได้บรรลุข้อตกลงในการรับก๊าซที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจนจากบริษัท ฟิลิปส์ 66 (Phillips 66) โรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในการผลิตไฟฟ้า

บริษัท ลินเดน ทอปโก้ จะปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซของโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ให้สามารถรองรับก๊าซที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจน จากโรงกลั่นน้ำมันเบย์เวย์ (Bayway Oil Refinery) ของบริษัท ฟิลิปส์ 66 ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อนำมาผสมเป็นเชื้อเพลิงร่วมกับก๊าซธรรมชาติที่ใช้อยู่เดิม การปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2565 ส่งผลให้โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 สามารถรองรับการเผาไหม้เชื้อเพลิงผสมที่มีไฮโดรเจนผสมอยู่ได้สูงสุดถึง 40% ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ปลดปล่อยปกติในแต่ละปี

ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมพลังงานและเชื้อเพลิง อย่างบริษัท เจร่า อเมริกา จำกัด (JERA Americas Inc.) ซึ่งเป็นพันธมิตรของบริษัท ลินเดน ทอปโก้ กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกสำหรับการผลิตไฟฟ้าและการขนส่ง นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ปยังได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงกังดง ในเกาหลีใต้ ซึ่งใช้ไฮโดรเจนเป็นสารตั้งต้นหลักในการผลิตไฟฟ้าและความร้อน การลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ทั้งโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน และโรงไฟฟ้ากังดงนั้น เอ็กโก กรุ๊ปมีเป้าหมายที่จะสั่งสมความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจนเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศของบริษัทในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีด้านนี้พัฒนาเต็มที่

"เอ็กโก กรุ๊ป เป็นบริษัทลำดับต้นๆ ของประเทศไทยที่ส่งเสริมและสนับสนุนแผนการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงสะอาดสำหรับการผลิตไฟฟ้าของประเทศ บริษัทมุ่งมั่นส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงสะอาดมาผลิตไฟฟ้าและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง" นายเทพรัตน์กล่าว
#2784



สมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาลแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลแห่งประเทศไทย (สอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้แทนภาคเอกชน บริษัท ซินเจนทา ครอปโปรเทคชั่น จำกัด หรือ ซินเจนทา จัดเสวนาออนไลน์ "เราจะฝ่าวิกฤต อ้อย และน้ำตาลไทยได้อย่างไร"

ทางออก เอกชนและเกษตรกรผลิตตามมาตรฐานสากล เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการผลิต เน้นประสานความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างภาครัฐ โรงงานน้ำตาล และเกษตรกร รวมทั้ง นำนวัตกรรมเสริมศักยภาพเพื่อให้ผลผลิตสูงสุด อันนำไปสู่การเติบโตของอุตสาหกรรมอ้อยละน้ำตาลอย่างยั่งยืน

ดร. กิตติ ชุณหวงศ์ นายกสมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุดปี พ.ศ. 2564 ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (United States Department of Agriculture : USDA) พบว่า ภาพรวมคลังน้ำตาลในตลาดโลกมีปริมาณเพิ่มขึ้น 3 ล้านตัน จากเดิม 42.8 ล้านตัน เป็น 45.8 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณการบริโภคลดลง มีการผลิตภายในประเทศเพิ่มขึ้น และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ยกเว้นบางประเทศที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น อาทิ สหรัฐอเมริกาและอินโดนีเซีย รวมทั้ง ราคาน้ำตาลในตลาดโลกตกต่ำมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา


จากสถานการณ์ดังกล่าว เป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมน้ำตาลและอ้อยของไทยในอีก 5 ปีข้างหน้า ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในตลาดโลก ภาคเอกชนและเกษตรกรจะต้องนำมาตรฐานสากลต่าง ๆ เช่น Bonsucro หรือ Fairtrade International และ Organic เข้ามาปรับใช้ตลอดกระบวนการ ให้สอดคล้องกับความต้องการแต่ละตลาด ตลอดจน จะต้องพัฒนาระบบบริหารการจัดการ เทคโนโลยีในการผลิต เก็บเกี่ยวและขนส่งให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูง ต้นทุนลดลงแต่กำไรเพิ่มมากขึ้น


ดร. ธวัช หะหมาน หัวหน้ากลุ่มพัฒนาด้านอ้อย น้าตาลทราย และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย (สอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบัน วิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบต่อการส่งออกและการบริโภค ร่วมกับปัญหาสภาพภูมิอากาศและฤดูกาลแปรปรวน ส่งผลต่อการผลิตของชาวไร่อ้อย จะเป็นปัญหาหลักแล้ว แต่ยังมีวิกฤตอื่นที่เกษตรกรยังไม่สามารถจัดการได้ อาทิ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ขาดเสถียรภาพและความมั่นคงในการส่งอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาล ขาดแหล่งทุน ขาดแรงงาน และการเผาอ้อยก่อนการเก็บเกี่ยวทำให้เกิดมลพิษ ฝุ่น PM 2.5

ดังนั้น สอน. จึงแสวงหาหนทางก้าวข้ามวิกฤตต่าง ๆ โดยขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาแบบองค์รวม (BCG) ใน 3 มิติ ได้แก่ ระบบเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ปรับแก้ไขกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน สนับสนุนอุตสาหกรรมโดยไม่ขัดแย้งกับข้อบังคับความร่วมมือในระดับนานาชาติ จัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เครื่องจักร เพื่อส่งเสริมการผลิต พัฒนาความรู้ สร้างเครือข่าย และสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ รวมทั้ง สร้างกลไก และสนับสนุนให้โรงงานน้ำตาลรับซื้อเศษซากใบ และยอดอ้อย และผลักดันธุรกิจที่ต้องการเชื้อเพลิงได้ใช้ เศษซากใบและยอดอ้อย อย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นประสานความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างภาครัฐ โรงงานน้ำตาล และเกษตรกร


นาย ผดุงพงศ์ เสริญไธสง ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนงานวิชาการ ซินเจนทา กล่าวว่า อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลมีบทบาทสำคัญต่อประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า ทั้งในด้านการบริโภคน้ำตาลในประเทศแต่ละปี และส่งออก หัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืน คือ การพัฒนาภาคการผลิตให้มีศักยภาพ

เพื่อให้ผลผลิตสูงสุด สอดล้องกับเป้าหมายของซินเจนทา ในการนำนวัตกรรมมาช่วยเหลือกระบวนการผลิต เพื่อลดความสูญเสีย ดูแล และกระตุ้นให้เกิดผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการจัดการกับวัชพืช ที่เป็นศัตรูอ้อยที่สำคัญ หากไม่มีการจัดการที่ดีจะทำให้ผลผลิตอ้อยลดลงทันที 

 

 ประกอบกับปัจจุบัน เกษตรกรประสบปัญหาวัชพืชต้านทานสารกำจัดวัชพืชเดิม ทำให้ต้องผสมสารฯ หลายชนิดเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นวัตกรรมล่าสุดของซินเจนทา จึงได้แนะนำ "คาลารีส (Calaris)" ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการสังเคราะห์แคโรทีนอยด์และการสังเคราะห์แสงของวัชพืช มีประสิทธิภาพคุมวัชพืชได้นาน ไม่เป็นพิษต่ออ้อย นวัตกรรม "คาลารีส (Calaris)" จะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนด้านแรงงาน ไม่ต้องกำจัดวัชพืชบ่อยครั้ง เหมาะกับสภาวะปัจจุบันและอนาคตที่แรงงานในภาคเกษตรขาดแคลนจึงต้องนำนวัตกรรมมาใช้ และยังตอบโจทย์เพื่อเข้าสู่มาตรฐานสากลต่างๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ ซินเจนทา กำลังวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่เพิ่มเติม ชื่อ โมดดัส (MODDUS) ซึ่งจะมาช่วยให้ผลผลิตดีขึ้นด้วยการเพิ่มค่าโพล หรือ น้ำตาลซูโครสในอ้อย (Pol) ทำให้ผลผลิตอ้อยมีค่าน้ำตาลเพิ่มขึ้น หรือ ร่นระยะเวลาเก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้น อันจะส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกรให้เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ ทุก ๆ 1 ซีซีเอส (C.C.S.) หรือ ค่าร้อยละของน้ำตาลซูโครส จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 50 บาทต่อ 1 ตันอ้อย หรือคิดเฉลี่ยต่อไร่ จะได้เพิ่ม 500 บาท


"ทั้งหมดนี้ เป็นความมุ่งมั่นของ สมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาลแห่งประเทศไทย ที่จะส่งเสริมและผลักดันให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมอบรมให้ความรู้ เพื่อให้ภาคเอกชนและเกษตรกรสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารจัดการไร่อ้อยได้ดี มีผลผลิตที่คุ้มค่า โดยประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง"
#2785



โรคโควิด-19 ที่ระบาดมาเป็นปีๆ มีขึ้นมีลงไปหลายระลอก จนบริษัทยาต่างๆ ต้องรีบทำวิจัยวัคซีนออกมาหยุดยั้งการระบาด สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดให้ได้

เฉพาะในสหรัฐอเมริกาแห่งเดียว ก็มีบริษัทยาเป็นสิบๆ แห่งที่ทำวิจัยวัคซีนโควิด-19 หลายแห่งยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่มี 2 แห่งใหญ่ๆ ที่ได้วัคซีนประเภท mRNA ออกมาใช้ในภาวะฉุกเฉินและได้รับความนิยมทั่วโลก อย่าง ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ส่วนที่จะตามมาในปีหน้า โดยมุ่งหมายจะเป็นวัคซีนตัวบูสเตอร์ ต้านเชื้อร้ายที่กลายพันธุ์ ยังมี โนวาแวกซ์

ขณะที่ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ได้ทำวิจัยวัคซีนโควิด-19 ชนิด ไวรัลเวคเตอร์ อย่างแอสตรา ซีเนกา ส่วนประเทศต้นทางของเชื้อโควิด-19 อย่างจีน ผลิตวัคซีนโดยอาศัยเชื้อตายออกมา ทั้งชิโนแวค และชิโนฟาร์ม

เรามาทำความรู้จักหน้าค่าตาของผู้นำบริษัทยาเหล่านี้กัน...



:: อัลเบิร์ต บูร์ลา - ไฟเซอร์

บริษัทยาอเมริกันที่มีรายได้เป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยที่มาของรายได้ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐเอง 52% กับอีก 6% จากจีนและญี่ปุ่น และ 36% ที่เหลือจากที่อื่นๆ ทั่วโลก



ประธานบริษัทไฟเซอร์ อัลเบิร์ต บูร์ลา เป็นสัตวแพทย์ชาวกรีก เข้ามาร่วมงานกับไฟเซอร์ในปี 1993 โดยได้ทำงานบริหารแผนกต่างๆ ของบริษัทหลายแผนก ก่อนจะขึ้นเป็นกรรมการบริษัทและเป็นประธานในที่สุด

อัลเบิร์ต ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้มาเปลี่ยนโฉมหน้าของการผลิตยา โดยเฉพาะการไม่เบียดเบียนสัตว์ รวมทั้ง การพยายามต่อสู้ด้านราคาและสิทธิบัตรยา ซึ่งเขาเห็นว่า มีความสำคัญในการค้นคว้าวิจัยยาอื่นๆ ในอนาคต และประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในความร่วมมือกับ ไบออนเทค ของเยอรมนี ในการผลิตวัคซีนโควิด-19 โดยเขาเป็นผู้ผลักดันให้ทีมวิจัยเร่งทำงานให้เร็วขึ้น



:: สเตฟาน บองเซล - โมเดอร์นา

บริษัทยาอเมริกันในเคมบริดจ์ แมสซาชูเซตส์ ที่ผลิตวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA อีกเจ้าหนึ่ง ซึ่งชื่อโมเดอร์นา ก็มาจากเทคโนโลยีในการผลิต nucleoside-modified messenger RNA (modRNA) นั่นเอง

ก่อนหน้าวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาเคยผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เอชไอวี และอื่นๆ มาแล้วกว่า 24 ชนิด พวกเขามี สเตฟาน บองเซล มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสนั่งเป็นซีอีโอ



สเตฟานจบปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยปารีส-ซาคเลย์ วิทยาเขตซองทรัลซูเปเลค และที่มหาวิทยาลัยมินเนโซตา นอกจากนี้ยังได้เอ็มบีเอจากฮาร์วาร์ด บิซิเนส สกูล อีกด้วย

เขาเริ่มงานครั้งแรกด้วยการเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขาย ของบริษัทยาอเมริกัน อีไล ลิลลี แอนด์ โค. โดยไปประจำอยู่ที่สาขาเบลเยียม ก่อนจะย้ายไปเป็นซีอีโอของบริษัทยาฝรั่งเศส ไบโอเมริเยอร์ซ และเข้ามาเป็นซีอีโอของบริษัท โมเดอร์นา ในปี 2011

ว่ากันว่า หลังจากการทดลองเฟส 2 ของวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา หุ้นที่สเตฟาน บองเซล ถืออยู่ก็มีมูลค่าพุ่งไปกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ก็อย่าได้ไปพูดถึง



:: ลิฟ โยฮันสัน + ปาสกัล โซริโอต์ - แอสตราซีเนกา

บริษัทร่วมทุนอังกฤษ-สวีเดน ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในคณะชีววิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ อังกฤษ ในการผลิตวัคซีนโควิด-19 พวกเขาอาศัยเทคโนโลยีจากการวิจัยของออกซ์ฟอร์ด ที่เป็นวัคซีนแบบไวรัล เวคเตอร์ หรือจำลองดีเอ็นเอของตัวเชื้อไวรัสขึ้นมา ให้ร่างกายสร้างภูมิขึ้นมาต้านทาน

นักธุรกิจชาวสวีเดน ลิฟ โยฮันสัน นั่งในตำแหน่งประธานของแอสตราซีเนกา โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นประธานและซีอีโอของวอลโว กรุ๊ป และเคยเป็นประธานบริษัท อีริคสัน เขาจัดว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลลำดับที่ 6 ของสวีเดน

ลิฟ จบปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ และปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์ ในโกเตนเบิร์ก เขาทำงานในอุตสาหกรรมของสวีเดนมาตลอดชีวิต เริ่มจากเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทมอเตอร์ไซค์ฮุสกวานา เคยเป็นซีอีโออีเลคโทรลักซ์ และเป็นประธานกับซีอีโอของวอลโว ประธานบริษัท อีริคสัน ก่อนจะมาเป็นประธานของแอสตราซีเนกา



บุคคลสำคัญของแอสตราซีเนกาอีกคน คือ ปาลกัล โซริโอต์ ที่เพิ่งได้รางวัลสุดยอดซีอีโอโลก 100 ของนิตยสารฮาร์วาร์ด บิซิเนส รีวิว ในปี 2019 โดยดูจากผลประกอบการ รวมทั้งการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

ปาลกัล ได้รับยกย่องว่า เป็นผู้ปฏิวัติการทำงานในแอสตราซีเนกา เขาดูแลพนักงานฝ่ายต่างๆ กว่า 60,000 ให้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการตอบสนองความคาดหวังของคนในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19

ปาลกัล ศึกษาจบด้านสัตวแพทย์ศาสตร์ ก่อนจะศึกษาเพิ่มเติมด้านเอ็มบีเอ ในปี 1986 เขาเข้าทำงานในบริษัท รุสเซล ยูคลัฟ บริษัทยาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฝรั่งเศส ในตำแหน่งพนักงานขายโดยไปประจำอยู่ในออสเตรเลีย แล้วย้ายไปประจำที่กรุงโตเกียว

ในปี 2000 เขาย้ายไปบริษัท อะเวนติส สหรัฐ ตามด้วย โรช ฟาร์มา ในปี 2006 และได้ขึ้นเป็นซีอีโอในปี 2010 Ffp.oxu 2012 ได้กลายมาเป็นซีอีโอของแอสตาซีเนกา บริษัทยาที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก



:: สแตนลีย์ เอิร์ค - โนวาแวกซ์

วัคซีนที่คาดกันว่าจะเป็นความหวังของมนุษยชาติ ผลิตโดยบริษัทยาอเมริกันในแมรีแลนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคอีโบลา ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสอาร์เอสวี มาแล้ว

สแตนลีย์ เอิร์ค ประธาน ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งบริษัทโนวาแวกซ์ บริษัทยาเกิดใหม่วัย 10 ปี ของอเมริกา เห็นว่า วัคซีนโควิด-19 เป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทเติบโต และก้าวไปในแนวทางที่ต้องการ แม้ว่าในขณะนี้ยังมีเครือข่ายไม่มากพอ ทำให้การวิจัยพัฒนาไม่ราบรื่นเท่าที่ควร

สแตนลีย์ จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัย ชิคาโก บูธ เขาเชี่ยวชาญด้านเชื้อโรคและภูมิคุ้มกันหมู่ จากประสบการทำงานที่ผ่านๆ มาของเขาในหลายๆ แห่ง ก่อนหน้าจะมาก่อตั้งโนวาแวกซ์



:: อินเว่ยตง - ชิโนแวค ไบโอเทค

วัคซีนเชื้อตายเมดอินไชน่า ที่กลายเป็นข้อถกเถียงถึงประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างมาก

ชิโนแวค ไบโอเทค มี อินเว่ยตง นั่งเป็นประธาน หลังจากจบทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในบ้านเกิดแล้ว เขาก็ไปเรียนต่อทางด้านไวรัสวิทยาที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ จึงไม่แปลกที่จะเข้าทำงานอยู่ในสายการผลิตยามาโดยตลอด ตั้งแต่ ชิโนไบโอเวย์ กรุ๊ป ถังซาน ไบโอเอนจิเนียริง และชิโนแวค ไบโอเทค

ก่อนหน้านี้ เขาเคยประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส รวมทั้งไข้หวัดใหญ่ และกวาดรางวัลทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ของจีนมามากมาย
#2786



จากการตั้งคำถามของประชาชน รวมถึงการทำงานของสื่อมวลชนที่ยากต่อการนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาเผยแพร่ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 64 เครือข่ายนักวิชาการและสื่อมวลชน ซึ่งมีการร่วมลงชื่อกว่า 333 คน ได้ออกแถลงการณ์ เสนอเปิดเผย "ข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19 ตามหลัก Open data" โดยใจความระบุว่า การบริหารจัดการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ทั่วถึง และเป็นธรรม คือ กุญแจสำคัญในการผ่านวิกฤตในครั้งนี้ "การเปิดเผยข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19 ตามหลัก Open data"

จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสื่อสารว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะบริหารจัดการวัคซีนอย่างโปร่งใส เปิดโอกาสให้สังคมได้มีส่วนร่วมรับรู้ข้อมูล เข้าใจในกระบวนการตัดสินใจของภาครัฐ และนำไปสู่บรรยากาศของความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และภาคสังคม ซึ่งจะช่วยให้สังคมมีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ ให้ความมั่นใจกับประชาชน และลดปัญหาความสับสนจากปัญหาข่าวลือและข่าวปลอม

โดยข้อมูลที่ต้องเปิดเผยให้เป็นไปตามมาตรฐาน Open Data Standard ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลที่ให้สื่อมวลชนและประชาชนสามารถเข้าถึงและนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ง่าย มีความละเอียด ครบถ้วน สมบูรณ์ อัพเดทอย่างสม่ำเสมอ และอยู่ในรูปแบบที่เครื่องสามารถอ่านได้ (Machine-Readble Format) เช่น ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบไฟล์ XLS หรือ CSV

ไทย มีโอเพ่นดาต้าหรือไม่ 
ที่ผ่านมา ข้อมูลเปิดที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ หรือ โอเพ่นดาต้า (Open Data) เริ่มมีการพูดถึงและนำมาใช้ในหลายภาคส่วน แต่ของไทยอาจจะยังไม่มากเมื่อเทียบกับในต่างประเทศ ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับโอเพ่นดาต้า โดยเฉพาะข้อมูลของภาครัฐให้ประชาชนและภาคประชาสังคมเข้าถึงข้อมูลและสามารถตรวจสอบการดำเนินของภาครัฐตามนโยบายที่ประกาศให้ไว้กับประชาชน


ศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ ได้ระบุว่า ในยุคดิจิทัล ข้อมูลเป็นทรัพยากรที่สำคัญสำหรับสร้างนวัตกรรม การเปิดเผยข้อมูลของภาครัฐเป็นแหล่งข้อมูลหนึ่งที่ช่วยผลักดันการสร้างนวัตกรรมและบริการใหม่ๆ เผยแพร่สู่สังคมและเชิงพาณิชย์ ขณะเดียวกัน ประชาชนซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินงานของภาครัฐ ที่มีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่

รวมทั้งนำความคิดเห็นดังกล่าวไปประกอบการพิจารณากำหนดนโยบายและการตัดสินใจของภาครัฐเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ กับประชาชนมากขึ้น โดยประเทศไทยมีศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Government Data of Thai) ซึ่งมีชุดข้อมูลอยู่ราว 3,569 ชุดข้อมูล


โอเพ่นดาต้า ลดเฟคนิวส์ ลดดราม่า

"รองศาสตราจารย์ พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล" คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า จากแถลงการณ์เครือข่ายนักวิชาการและสื่อมวลชน เสนอเปิดเผย "ข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19 ตามหลัก Open data" เป็นการทำงานและประชุมร่วมกันจากหลายภาคส่วน ตอนนี้สังคมมีเฟคนิวส์เยอะ เพราะฉะนั้นทางเครือข่าย จึงมองว่า ควรมีโอเพ่นเดต้า ที่เปิดให้ให้สาธารณชนได้รับรู้


ซี่งควรจะต้องมีข้อมูลการจัดหาและการกระจายวัคซีนเป็นข้อมูลเปิด เพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้และสร้างความน่าเชื่อถือกับรัฐบาล ลดทอนเฟคนิวส์ หรือข่าวปลอมที่เกิดขึ้น เมื่อเอาดาต้ามาคลี่ จะลดความดราม่าในสังคม จึงรวมกลุ่มกันในการเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดโอเพ่นดาต้า รวมถึงเครือข่ายสื่อมวลชน นักวิชาการ ตามข้อเรียกร้อง 5 ข้อที่เสนอไป ได้แก่


1.) เปิดเผยกระบวนการเสนอ อนุมัติ และลงนามในสัญญาจัดซื้อวัคซีนที่ผ่านมาและในอนาคต รวมถึงเงื่อนไขสำคัญๆ ในสัญญาจองซื้อและจัดซื้อวัคซีนทุกยี่ห้อ อาทิ จำนวนโดส อายุสัญญา กำหนดการส่งมอบ บทลงโทษกรณีส่งมอบล่าช้า การยกเว้นความรับผิดให้กับผู้ผลิต เป็นต้น

2.) เปิดเผยแผนการจัดหาวัคซีนทุกชนิดต่อสาธารณะ รวมทั้งแผนการทดแทนวัคซีนที่ขาดแคลนในปัจจุบันและการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอและทั่วถึงในอนาคต

3.) เปิดเผยหลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนสำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่มีรายละเอียดการจัดลำดับความสำคัญ และจำนวนกลุ่มเป้าหมายของการจัดสรร

4.) เปิดเผยแผนการฉีดวัคซีนและการบริหารจัดการวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมายที่วางหลักเกณฑ์ไว้

5.) เปิดเผยความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเป็นรายวัน โดยมีรายละเอียด ชนิดวัคซีน บุคคลกลุ่มต่างๆ ตามหลักเกณฑ์ พร้อมข้อมูลลักษณะประชากร ข้อมูลเชิงพื้นที่ (รายจังหวัด) และข้อมูลเชิงหน่วยงานที่ดำเนินการ


จัดหา กระจายวัคซีน ประเด็นที่สังคมสนใจ
ทั้งนี้ แม้สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลของ ศบค. หรือกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานอัพเดทข้อมูลรายวัน รศ.พิจิตรา อธิบายว่า ในปัจจุบันจะเห็นข้อมูลที่เกี่ยวกับยอดผู้เสียชีวิต ยอดผู้ป่วยเป็นหลัก ที่ประชาชนติดตาม ซึ่งคิดว่าอีกมุมหนึ่งที่เราอยากได้ คือ การจัดหา และการกระจายวัคซีน ระยะสั้นและระยะยาวเพื่อให้อย่างน้อยประชาชนได้เห็น แสงสว่างปลายอุโมงค์และสามารถแพลนชีวิตตัวเองได้  ซึ่งภาครัฐควรเปิดให้เป็นโอเพ่นเดต้า อยากจะรู้ว่า ณ ปัจจุบัน วัคซีนแต่ละล็อตจะเข้ามาเท่าไหร่ แต่ละยี่ห้อเป็นอย่างไร และเข้ามาอย่างไร เพื่อให้เห็นไทม์ไลน์ต่างๆ ประชาชนจะได้วางแผนชีวิตได้


ลดความกังขา วัคซีน
อีกส่วนหนึ่งที่คิดว่าอยากจะขับเคลื่อนและคิดว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ดีในเรื่องของโอเพ่นเดต้าที่จะเกิดขึ้น คือ วัคซีน 1.5 ล้านโดส ที่มาจากการบริจาคของสหรัฐฯ เรารู้สึกว่ามีการตั้งข้อกังขาค่อนข้างเยอะ และถ้ารัฐ มีข้อมูลว่าวัคซีนกระจายไปที่ไหน หน่วยงานไหนบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ ไทม์ไลน์การกระจายเป็นอย่างไร บุคลากรทางการแพทย์ สามารถได้วัคซีนมากน้อยขนาดไหน




"ไม่อยากจะให้แค่เป็นแผน อยากจะให้เราได้ดาต้าที่สามารถเห็น ในทางปฏิบัติว่านอกจากแนวทางที่รัฐวางไว้ 4-5 เงื่อนไข อยากจะเห็นว่าข้อเท็จจริงกระจายไปมากน้อยแค่ไหน และนี่เป็นรูปแบบของโอเพ่นเดต้าที่เราเรียกร้อง ดังนั้น วัคซีน 1.5 ล้านโดส น่าจะเป็นแนวทางที่ดี ที่เราอยากจะได้รับจากรัฐบาลในเรื่องของโอเพ่นดาต้า  


ลดช่องว่างรัฐ ประชาชน
ทั้งนี้ หากเริ่มจากการทำโอเพ่นดาต้า นับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการลดความคลางแคลงใจจากรัฐบาลได้ รศ.พิจิตรา กล่าวต่อไปว่า โอเพ่นเดต้าสร้างความโปร่งใส เราสร้างแคมเปญนี้ เพราะรู้สึกว่าดาต้าที่ประชาชนได้รับเป็นรายวัน แต่ยังไม่ยังไม่เห็นการกระจาย หรือข้อมูลระยะยาวที่ประชาชนสามารถวางแผน

หรือ ข้อมูลที่สื่อมวลสามารถได้ข้อมูล และดาต้าไซแอนทิส สามารถเอาข้อมูลมาทำบนแดชบอร์ดได้ โดยเราสามารถเห็นกันแบบเรียลไทม์ ขณะที่ ในต่างประเทศ มีหลายประเทศที่อาจจะไม่เรียลไทม์ แต่มีการทยอยในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล เห็นยอดการฉีด และยอดของเป้าหมายที่จะไปถึง

แก้ปัญหาไม่เข้าใจ ด้วยดาต้า
ณ ปัจจุบัน ข่าวสารข้อมูลที่ทยอยออกมาจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งพบว่าหลายครั้งพบว่า เกิดกระแสดราม่า ซึ่งทำให้ภาครัฐต้องออกมาชี้แจง และตัวประชาชนเองก็เสียเวลาในเรื่องของการลงไปกระทู้ถามดราม่ารายวัน

รศ.พิจิตรา กล่าวว่า หากเราได้ดาต้าที่เป็นดาต้าเซ็ตและเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สะท้อนปัญหาที่ประชาชนร่วมเห็นด้วย คิดว่า อย่างน้อยก็จะสามารถบอกประชาชนได้ว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น นี่คือปัญหาที่เราพบ และเราจะมาแก้ปัญหากันด้วยพื้นฐานดาต้าอย่างไรดี อย่างน้อยในเรื่องของการโอเพ่นเดต้า สะท้อนความจริงใจ ความโปร่งใสของรัฐบาลที่มีให้กับประชาชน

"และหลังจากนั้นสิ่งที่เราจะเดินหน้า คือ ส่งหนังสือ อย่างเป็นทางการในการขอโอเพ่นเดต้าของภาครัฐ ซึ่งตอนนี้รวบรวมรายชื่อได้ 333 รายชื่อในล็อตแรก เป็นรายชื่อที่ระดมจากสื่อเพราะสื่อต้องเอาโอเพ่นเดต้ามาทำข่าว และนักวิชาการสายนิเทศศาสตร์ รัฐศาสตร์ และสายดาต้าไซน์ ในสเต็ปต่อไป จะเปิดให้สาธารณชน ลงชื่อสนับสนุนแถลงการณ์ตัวนี้โดย ผ่านเว็บไซต์ Change.org เพื่อให้สามารถที่จะร่วมลงชื่อได้"


"เราทำเพราะคิดว่าเป็นประโยชน์ เชื่อว่าโอเพ่นเดต้า จะช่วยสนับสนุนการทำงานของสื่อมวลชน ถ้าเรามีโอเพ่นเดต้า ที่เรียลไทม์และเป็นวันสต็อปเซอร์วิส คลี่ดาต้าออกมาให้คนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น จะลดความเคลือบแคลงใจ และลดดราม่าไปเยอะ"



ในโควิดระลอกแรก ซึ่งกองทุนสื่อฯ ร่วมกับ เวิร์คพ้อย ทำแดชบอร์ด ก็เห็นได้เลยว่าคนติดเป็นใคร เน้นเรื่องคนติดเชื้อเป็นหลัก แต่ตอนนี้ระลอกสาม ระลอกสี่ สถานการณ์เปลี่ยนไป วัคซีนเป็นปัจจัย เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เปิดประเทศได้ และทำให้การติดเชื้อลดลง เราจึงต้องมาเดินหน้าเรื่องของวัคซีนต่อ เพื่อสนับสนุนทั้งสื่อมวลชนและช่วยรัฐบาลในการสร้างความโปร่งใสด้วย


"ไม่อยากให้เกิดดราม่า เราอยากให้เกิดดาต้า ตอนนี้เชื่อว่า เป้าหมายของเราคืออยากให้รัฐตอบสนองและเปิดโอเพ่นดาต้า ซึ่งความจริงมีข้อมูลที่เปิดอยู่แล้ว เช่น กรมควบคุมโรค ก็มีโอเพ่นเดต้าบ้างแล้ว หรือมีงานวิจัยของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ ม.มหิดล เก็บและร่วมกันทำโอเพ่นเดต้าให้สังคมได้รับรู้ คิดว่ารัฐทำอยู่แล้ว แต่อยากให้เปิดเผยต่อสาธารณชนด้วย" รศ.พิจิตรา กล่าว
#2787



วันที่ 26 ก.ค.64 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการรัฐในการบรรเทาปัญหาหนี้สินประชาชน และการเข้าถึงสภาพคล่องของภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งในเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้การดำเนินการต้องครอบคลุมกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในภาคการเกษตรด้วย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ได้ออกมาตรการสินเชื่อ 2 โครงการ วงเงินรวม 9 หมื่นล้านบาท

ผู้ว่าฯสมุทรสาครโพสต์ตัดพ้อ "ผมขออนุญาตพิจารณาตนเองออกจากผวจ."
คือ 1) โครงการสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้แก่เกษตรกรหรือหรือบุคคลทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อการประกอบอาชีพเกษตร หรือลงทุนค้าขายที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก ให้กู้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 5 ปี ดอกเบี้ย 4% ต่อปีปลอดชำระต้นเงิน 2 ปีแรก และ 2) โครงการสินเชื่อนวัตกรรมดี มีเงินทุน วงเงินรวม 6 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้ให้เกษตรกรหรือบุคคลทั่วไปที่มีทักษะและประสบการณ์ในการประกอบอาชีพนั้นๆ อาทิ กลุ่ม Smart Farmer เพื่อมีเงินไปฟื้นฟูหรือต่อยอดธุรกิจ ดอกเบี้ย 4% ต่อปี ระยะเวลาชำระคืน ไม่เกิน 10 ปี ปลอดชำระต้นเงิน 3 ปีแรก


สำหรับการพักชำระหนี้ ธ.ก.ส.ได้ออกมาตรการให้การช่วยเหลือแก่ลูกค้าเกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการ และสถาบันเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วย เป็นการพักชําระเงินต้นและดอกเบี้ยที่ถึงกําหนดชําระอย่างน้อย 2 เดือน นับจากงวดชําระเดิม ทั้งนี้ แนวทางการช่วยเหลือขึ้นอยู่กับการได้รับผลกระทบและศักยภาพของลูกค้า ผู้สนใจแจ้งความประสงค์การเข้าร่วมโครงการได้ผ่านช่องทาง LINE Official : BAAC Family เว็บไซต์ https://www.baac.or.th หรือที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. – 15 ส.ค.นี้ และสำหรับลูกค้าเกษตรกรและบุคคล 19 ก.ค. -15 ธ.ค. ปีนี้เช่นกัน

คู่ขนานไปกับสองมาตรการดังกล่าว น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มว่า กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ได้จัดโครงการ "บังคับคดีร่วมใจไกล่เกลี่ยช่วยเหลือเกษตกรถูกยึดทรัพย์จำนอง" เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ได้เจรจากันด้วยความพึงพอใจ และเป็นธรรม ผู้ไกล่เกลี่ยกรมบังคับคดีเป็นคนกลางในการเจรจา โดยเจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้ และลูกหนี้ก็สามารถชำระหนี้ได้เช่นกัน ช่วยให้ลูกหนี้ไม่ถูกยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ หรือนำไปขายทอดตลาดในที่สุด โครงการนี้มีจนถึง 15 ก.ย.นี้ ในพื้นที่กทม. และสำนักงานบังคับคดีจังหวัด/สาขาทั่วประเทศ

"รัฐบาลได้ออกมาตรการให้การช่วยเหลือประชาชนและบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดโควิด-19 มุ่งหวังให้ครอบคลุมกับประชนทุกกลุ่ม โดยพร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและภาคเอกชนเพื่อให้การขับเคลื่อนฟื้นตัวเป็นไปอย่างมีส่วนร่วมและตรงจุดให้มากที่สุด สำหรับการประชุมครม.ในวันพรุ่งนี้ จะมีการพิจารณาถึงมาตรการลดค่าเทอมของนักเรียน-นักศึกษาทั้งสถาบันรัฐและเอกชน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนได้มาก" นางสาวรัชดา กล่าว
#2788



ซีพี ออลล์ เดินหน้าภารกิจ "เซเว่น อีเลฟเว่นกองหนุน SME" ต่อเนื่อง ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย ผลักดัน SME คู่ค้าของซีพี ออลล์เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ตามมาตรการของภาครัฐ เพื่อก้าวผ่านวิกฤติเศรษฐกิจจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19   
 
จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ได้เล็งเห็นถึงความยากลำบากหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นกับคู่ค้าจึงได้ขับเคลื่อนนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME มาอย่างต่อเนื่อง และทันทีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง ได้ประกาศให้ธนาคารต่างๆ ออกมาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME  เพื่อให้สามารถฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ ทีมซีพี ออลล์ จึงได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย เป็น​สื่อกลางสะพานเชื่อมให้ผู้ประกอบการ SME ที่เป็นคู่ค้าของบริษัท ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในโครงการสินเชื่อฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ และลดผลกระทบจากการจ้างงานของผู้ประกอบการรายย่อย ช่วยประคับประคองให้ธุรกิจ SME สามารถก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้  
 
ทั้งนี้ผู้ประกอบการ SME สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ โทร 02-230-9663, ธนาคารกสิกรไทย โทร 02-888-8822 , ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร 02-544-4577  (สำหรับผู้ประกอบการยอดขาย 75-500 ล้านบาทต่อปี) และ 02-795-7677  (สำหรับผู้ประกอบการยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาทต่อปี)
#2789
วันนี้ ChatStick มี 5 คำถามก่อนสร้าง "ภาพจำ" มาฝากค่าาาาา
https://www.chatstickmarket.com/single-post/5questionsbeforecreatinga-memory

#2790


วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักจากที่ได้มีกระแสการบริโภคสมุนไพร เช่น "กระชายขาว" ซึ่งหลายคนเชื่อว่าช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ได้ ส่งผลทำให้ราคากระชายขาวสดมีการปรับพุงสูงขึ้น เนื่องจากประชาชนมีความต้องการเป็นจำนวนมากเพื่อนำมาปรุงเป็นยา จากการสำรวจยังตลาดเมืองใหม่ ซึ่งเป็นตลาดค้าขายผักขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่พบว่า มีบรรดาพ่อ ค้า-แม่ค้า ที่ขายของภายในตลาดหลายเจ้าได้นำกระชายขาวมาวางขายกันเป็นจำนวนมาก ทั้งกระชายที่มีการซอยเป็นเส้น ๆ และกระชายแบบที่ยังขุดมาจากดิน และพบว่าราคากระชายขาวนั้นมีราคาขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 170 กว่าบาท แต่ก็ยังคงมีประชาชนมาซื้อไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่นำไปปรุงเป็นยา และนำไปประกอบอาหาร

          
 จากการสอบถาม พ่อค้าแผงผักย่านตลาดเมืองใหม่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า กระชายขาวของร้านตนนั้นยังคงขายดีอย่างต่อเนื่อง เรียกว่ามีเท่าไหร่ก็ขายหมด แม้ราคาในตอนนี้จะแพงขึ้นกว่าเดิมอยู่ที่กิโลกรัมละ 170 กว่าบาท ขณะที่สมุนไพรอย่างอื่นที่ขายดีมากๆไล่หลังมาก็คือ ขิง ราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 80-90 บาท ในแต่ละวันจะมีคนมาซื้ออย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะซื้อไปต้มเป็นยา
          
ด้านงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์นั้น ขณะนี้กำลังพัฒนาสารสกัดกระชายขาวเพื่อใช้เป็นยาสำหรับโรคโควิด-19 คาดว่าใช้เวลาอย่างน้อยอีก 1 ปี ในการวิจัยและพัฒนาให้สำเร็จ โดยโครงการวิจัยต้านเชื้อไวรัสโคโรนาจากสมุนไพรไทย เป็นความร่วมมือระหว่าง คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS
#2791

ดูหนังออนไลน์
 เว็บหนังออนไลน์ 2021 ดูหนังออนไลน์ฟรี คมชัด ไม่กระตุก Movie-asian.com
เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี ดูหนังใหม่ หนังชนโรง เว็บหนังออนไลน์ ที่ดีที่สุด ดูหนังฟรีออนไลน์ ไม่กระตุก Movie-asian เว็บหนังที่ใครๆก็แนะนำ ดูหนังออนไลน์ชัด 4K พากย์ไทย เต็มเรื่อง คมชัด โหลดเร็ว ไม่กระตุก ไม่มีสะดุด
เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี ดูหนังใหม่ หนังชนโรง เว็บหนังออนไลน์ ที่ดีที่สุด ดูหนังฟรีออนไลน์ ไม่กระตุกหากพูดถึงเว็บ ดูหนังออนไลน์ สิ่งแรกที่เราจะต้องนึกถึงนั้น จะเป็นสิ่งไหนไม่ได้เลยนอกจากการนอนอยู่บ้าน ดูหนัง ได้อย่างสบายใจ ไม่ว่าจะเป็น หนังใหม่ หนังเก่า ซีรี่ย์ต่าง ๆ หนังแอคชั่น หรือแม้กระทั่งสยองขวัญ รวมไปถึงหนังที่ทุกคนชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ หนังดราม่า นั่นเอง ซึ่งหนังแต่ละประเภทที่ทุกคนจะได้ดูนั้น สามารถมีความคมชัดได้ถึงระดับ Full HD กันเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังสามารถเลือกระดับความคมชัดได้ตามที่เราต้องการได้อย่างง่ายดายมากอีกด้วย ส่วนข้อดีที่พิเศษในด้านอื่น ๆ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย เลือกระดับความคมชัดที่เราต้องการได้ สำหรับเว็บดูหนังออนไลน์นั้น ผู้ชมสามารถเลือกระดับความคมชัดที่ตนเองต้องการได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ได้ตั้งแต่ที่ความคมชัดใน

ระดับที่น้อยที่สุดคือ 360px ไปจนถึงในระดับที่คมชัดสูงที่สุดคือ 4k หรือที่ระดับ Ultra HD นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นระดับความคมชัดที่ผู้ชื่นชอบ ดูหนังออนไลน์ HD ส่วนใหญ่นั้นชื่นชอบและหลงไหลกันเป็นอย่างมากนั่นเอง ไม่ต้องเสียเงินและเสียเวลาเข้าโรงภาพยนตร์ การได้ดูหนังในระบบออนไลน์นั้น ถือว่าเป็นการดูหนังที่สะดวก สบายและประหยัดสุด ๆ เนื่องจากไม่จำเป็นที่จะต้องออกนอกบ้านเพื่อไปรับชมกันถึงที่โรงภาพยนตร์นั่นเอง เพียงมีอินเตอร์เน็ตก็สามารถรับชมหนังที่ตนเองสนใจได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วได้แล้วนั่นเอง และที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินเพื่อซื้อตั๋วในการรับชม หนังชนโรง อีกด้วย ข้อนี้จึงทำให้เหล่าคอหนังทั้งหลายนั้นชื่นชอบกันเป็นอย่างมากนั่นเองMOVIEASIAN.COM เว็บหนังออนไลน์คุณภาพ ดูหนังใหม่ 2021 ดูหนังชนโรง ดูหนังฟรีออนไลน์ พากย์ไทย เต็มเรื่อง ภาพคมชัด HD 4K คมชัด ไม่กระตุก ดูหนังใหม่ออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง คมชัด HD 4K เต็มอรรถรสในการรับชม มีหนังครบทุกแนวให้เลือกชม WATCH MOVIES ONLINE FREE ดูหนัง NETFLIX ดูหนังใหม่ออนไลน์ก่อนใครที่นี่ มีหนังให้เลือกดูครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ดูหนังออนไลน์ หนังซีรีย์เกาหลี หนังที่มีคะแนนเรตติ้งสูงจาก IMDB และ NETFLIX ดูหนังมาสเตอร์ หนังตลก หนังจีน หนังฝรั่ง การ์ตูนอนิเมชั่น หนังแอคชั่น หนังบู๊มันๆ, หนังดราม่า, หนังโรแมนติก, หนังสยองขวัญ หนังผี, หนังเกาหลี ดูซีรี่ย์, หนังสืบสวนสอบสวน, หนังซุเปอร์ฮีโร่ MARVEL DC หนังภาคต่อ หนังดังทั้งไทย เอเชีย และต่างประเทศ เป็นต้น หรือจะเป็น ซีรี่ส์ฝรั่ง ก็จะมีให้เลือกดูครบทุก SEASON ทุก EPISODE ดูซีรี่ย์ซับไทย พากษ์ไทย ดูหนัง18+ ดูหนังHD ด้วยความคมชัดระดับ HD ตั้งแต่ 360PX, 480PX, 720PX และ 1080PX ไปจนถึงความคมชัด 4K หรือ ULTRA HD ดูหนังผ่านโทรศัพท์มือถือ ANDROID , IPHONE , IPAD https://movie-asian.com/


 
#2792
ฟรี!! แอพสติ๊กเกอร์ที่ส่งไปได้ทั้ง Line, Facebook, Whatsapp และ WeChatแชทสติ๊ค มาร์เก็ต แหล่งรวมผลงานสติกเกอร์ จากแบรนด์ดังและเหล่าครีเอเตอร์มากมาย โดยจัดหมวดหมู่สติกเกอร์ และจัดอันดับสติกเกอร์สุดฮิตให้คุณไม่ตกเทรนด์คุณจะสามารถส่งสติกเกอร์ไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Messenger, Whatsapp, Skype หรือในทุกช่องทางการแชทไหนก็ทำได้ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการแชทที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
https://www.chatstickmarket.com/single-post/chatstickmarket

iOS ดาวน์โหลดที่นี่
Android ดาวน์โหลดที่นี่

#2793
สำนักงานบัญชี  รับทำบัญชี  รับตรวจสอบบัญชี  จดทะเบียนบริษัท

สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

ให้บริการพื้นที่ดังนี้  บางคอแหลม , ยานนาวา , พระราม 1 , พระราม 3 , พระราม 4 , สาทร , บางรัก , ทุ่งมหาเมฆ , เพลินจิต , ชิดลม , ปทุมวัน และพื้นที่อื่นที่ใกล้เคียง

แบบรายเดือนราคาเริ่มต้นเดือนละ 3,000 บาท
แบบรายปีราคาเริ่มต้นเดือนละ 1,500 บาท
•   บริการจัดทำแบบภาษีและยื่นภาษี
o   ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30)  พร้อมรายงานภาษีซื้อ  และภาษีขาย
o   ภาษีหัก ณ ที่จ่าย – เงินเดือน (ภ.ง.ด.1) และ (ภ.ง.ด.1 ก)
o   ภาษีหัก ณ ที่จ่าย – สำหรับนิติบุคคล (ภ.ง.ด.3) และ (ภ.ง.ด.53)
o   ภาษีเงินได้นิติบุคคลกลางปี (ภ.ง.ด.51)
o   ภาษีเงินได้นิติบุคคลปลายปี (ภ.ง.ด.50)
o   จัดทำแบบประกันสังคม (สปส.1-10)

ตรวจสอบบัญชีของบริษัทจำกัด  และห้างหุ้นส่วนจำกัด  (ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท/ปี)
•   ตรวจสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
•   บริการจัดทำงบการเงินและแบบภาษีภ.ง.ด.50  ส.บช.3  และ บอจ.5
•   นำส่งงบการเงินเข้ากระทรวงพาณิชย์และสรรพากร

จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท  (ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 บาท)

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด
#2794


จะเพราะจุดพีคของสถานการณ์ โควิด-19 มาถึงไวเกินควร หรือการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขเกิดความผิดพลาด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ประเทศไทยได้เดินมาถึงภาวะที่หลายคนกลัวแล้ว นั่นคือจะต้องมีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล หลายชีวิตต้องลุ้นตั้งแต่การได้เตียงและการรักษา แม้กระทั่งลุ้นว่าจะได้มีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่

ต้องยอมรับว่าเรื่อง "เตียงไม่พอ" คือข้อเท็จจริง แต่สิ่งที่บางคนรับไม่ได้คือการ "รอเตียง" ที่อาจเป็นการ "รอตาย" เนื่องจากสถานพยาบาลที่ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจหาเชื้อ "โควิด-19" ของเอกชนบางแห่งใช้ความเป็นความตายของผู้คนเพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ

"จนท.รพ.หรือแล็บไหนไม่ให้ผลตรวจกับผู้ติดเชื้อ หรือ ขู่ว่าถ้าเอาไป หาเตียงที่อื่นจะตัดออกจากคิวรักษา บอก #เส้นด้าย เราจะพาไปแจ้งความฐานกระทำโดยงดเว้น = พยายามฆ่า

หรือ พยายามทำร้าย (ป.อ.มาตรา 59 วรรค 2,80,288หรือ 295)" คือข้อความในเพจของกลุ่ม เส้นด้าย ที่โพสต์เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 เวลา 17.51 น. หลังจากนั้นคือคอมเมนต์ทั้งแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์กระหน่ำหลายร้อยข้อความ สะท้อนถึงปัญหาที่คล้ายซ้ำเติมวิกฤตนี้ให้หนักหนาขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

"ต้องเข้าใจก่อนว่ามีธุรกิจซ่อนอยู่ในโควิด" ภูวกร ศรีเนียน ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเส้นด้าย จั่วหัวให้จุดประกาย กรุงเทพธุรกิจ ฟังหลังจากเขาและเส้นด้ายได้รับการร้องเรียนพร้อมเสียงร่ำไห้ของผู้ป่วยที่สิ้นไร้หนทางแต่มิหนำซ้ำยังถูกปิดประตูความหวังด้วยวิธีการหารายได้ของสถานพยาบาลบางแห่งมาแล้วแทบทุกวัน

ภูวกรเล่าต่อว่าการที่ค่าใช้จ่ายของ Hospitel อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐ แต่มีกติกาว่า ตรวจกับสถานพยาบาลใด สถานพยาบาลนั้นจะต้องรับผิดชอบการรักษา กลายเป็นช่องโหว่ให้บางสถานพยาบาลมองผู้ป่วยเป็นกำไร จากปัญหาในช่วงแรกที่เกิดหลายกรณีที่สถานพยาบาลไม่กล้ารับผู้ป่วยเข้ารักษาเพราะตอนนั้นยังไม่มีความแน่นอนว่าเมื่อรับผู้ป่วยแล้ว ใครจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ทว่าปัญหาดังกล่าวกลับตาลปัตรเป็นการยื้อคนไข้ โดยเฉพาะกลุ่มสีเขียว ซึ่งมีอาการน้อยและรักษาง่าย จากคนไข้จึงเปรียบเสมือน "ลูกค้า"

"ภาวะเตียงเต็มที่เกิดกับทุกสถานพยาบาล ทำให้บางแห่งเหนี่ยวรั้งไม่ให้ผลตรวจแก่ผู้ป่วย เพราะถึงเขาจะรับคนไข้คนนี้มารับการรักษาไม่ได้ แต่ส่งผลตรวจให้ เกิดคนนี้เอาผลไปที่อื่น เขาเลยไม่ให้ผลตรวจ รอฉันว่างก่อน ฉันค่อยเรียกคุณมา การที่ไม่ให้ผลตรวจคือคุณไปไหนไม่ได้ ต้องรอฉันแม้คุณจะป่วย มันเกิดเรื่องนี้ขึ้น แล้วคนงงมากว่าทำไมไม่ให้ผลตรวจ คนร้องเรียนเรามาเยอะมาก จนเราเข้าใจกุญแจของเรื่องนี้ว่ามันเป็นเพราะแบบนี้"

อภิวัฒน์ ด่านศรีชาญชัย อีกหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเส้นด้ายเปิดเผยถึงกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ว่ามีคนโทรมาหาเลขาของเขาว่าหลังจากขอผลตรวจไปเพื่อหาเตียงจากแหล่งอื่นๆ ระหว่างรอเตียงของสถานพยาบาลที่ตรวจผ่านกลุ่มเส้นด้าย นอกจากสถานพยาบาลจะบ่ายเบี่ยงไม่ให้ผลตรวจ คนไข้ยังถูกขู่ว่าหากเอาผลไปให้เส้นด้าย จะถูกตัดออกจากคิวรอเตียงทันที

"เขารอคิวของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนั้นขู่เขามาว่าถ้าเกิดเอาผลมาให้เลขาผมเพื่อหาเตียงจากที่อื่น คิวนี้ที่คาอยู่จะถูกตัดออกไป ถามว่ามันเป็นสิทธิของผู้ป่วยหรือเปล่าที่จะไปหาที่รักษาที่อื่น ตอนนี้มีผู้ป่วยค้างอยู่บางคนรอผล 5 วัน แล้วยังต้องใช้เวลาอีก 2-3 วันไปตามผลตรวจอีก ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวจะไม่พลิกเป็นเหลือง ไม่พลิกเป็นแดงได้อย่างไร

ถ้าอ่านแชทที่ผมคุยกับบางเคส ไม่ได้ค่ะ ทำอย่างไรก็ไม่ยอมให้ พยายามแล้วค่ะ เขาบอกว่าถ้าเราเอาผลมาให้คุณอภิวัฒน์แล้วเขาจะตัดสิทธิ์ดิฉันออกจากของทางนั้น แล้วคุณอภิวัฒน์หาเตียงได้จริงใช่ไหมคะ ถ้าหาได้จริงจะรีบขอมา ผมก็อ้าว ทีนี้ผมแบกรับหนักกว่าเดิมอีก ซึ่งการอนุมัติรับคนไข้ของหลายแห่งก็ผีเข้าผีออก บางวันให้เยอะ บางวันให้น้อย บางวันไม่ให้เลย"

แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยอมรับว่ามีบางแห่งต้องชื่นชม เพราะแค่ขอเอกสารผลตรวจ เพียงหนึ่งชั่วโมงก็ได้รับแล้ว


ความไม่เป็นธรรมท่ามกลางวินาทีชีวิตแบบนี้ ทำให้นักกฎหมายอาสาและหนึ่งในทีมงานเส้นด้ายอย่าง พีรพล กนกวลัย ต้องออกโรงมาช่วยชี้ช่องให้ผู้ป่วยที่กำลังถูกสถานพยาบาลเล่นแง่

"ไม่ว่าจะตรวจเชิงรุกหรือตรวจทางการ ผลการตรวจควรจะให้ผู้ที่ไปตรวจรับทราบข้อมูล แต่โรงพยาบาลหรือผู้ที่ไปตรวจเชิงรุกนั้นปิดบังผลตรวจ เพื่อเก็บเกี่ยวเคสสีเขียวไปรักษาเอง ซึ่งในบ้านหนึ่งบางทีมี 10 คน ถ้าเป็นคนที่ติดโควิดเป็นหนุ่มสาวเขาก็เอาไปรักษา แต่ปล่อยให้ผู้สูงอายุนอนอยู่บ้าน เด็กนอนอยู่บ้าน แล้วไม่เอาไปสักที ให้เขารอทั้งที่เขารู้ว่าติดแล้วนะ แต่ไม่เอาใบผลตรวจให้เขาเพื่อที่เขาจะมีทางเลือกทางอื่น ถ้าเกิน 48 ชั่วโมง ผมเชื่อว่าคือการปิดบังข้อมูลเพื่อกันไม่ให้คนอื่นมารักษา เป็นผลประโยชน์ทั้งนั้น

ตรวจหนึ่งครั้งก็ 1,600 แล้ว รักษาหนึ่งคนต่อหนึ่งห้อง Hospitel ก็ 3,000 แล้ว ผมว่าเป็นการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากโควิดแบบนี้มันไม่โอเค เป็นการทำให้ผู้ที่มีสิทธิ์รักษาที่อื่นไม่มีผลตรวจ ที่อื่นก็รับรักษาไม่ได้ ดังนั้นเขาถูกกระทำโดยไม่เป็นธรรม"

ตามข้อเท็จจริง การส่งผลตรวจให้ผู้ป่วยได้นำไปเพื่อหาทางรักษาต่ออาจหมายถึงจรรยาบรรณแพทย์ด้วยซ้ำ แม้ไปไม่ถึงคุณธรรมเหล่านั้นอย่างน้อยก็คือหน้าที่การงานที่สถานพยาบาลต้องทำอยู่แล้ว และเอกสารผลตรวจก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ในฐานข้อมูล จะพิมพ์ออกมาส่งให้ผู้ป่วยที่นอนรอความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ก็นับว่าไม่น่าจะยากหรือวุ่นวายเกินไปนัก จึงเป็นที่มาของวิธีการตอบโต้ที่ภูวกรแนะนำให้ทำในเบื้องต้นก่อนหากถูกปฏิเสธ

"โดยหลักการคือต้องโทรไปขอเอกสารผลตรวจ แต่ถ้าโทรไปแล้วไม่ได้ก็ต้องไปหาด้วยตัวเอง ไปคุยต่อหน้า ไปคุยให้ชัด แต่ประชาชนส่วนหนึ่งไม่รู้สิทธิ พอเขาขู่มาว่าจะตัดสิทธิ์คุณ จริงๆ เขาตัดไม่ได้ เส้นด้ายถึงไปโพสต์ไงว่าเดี๋ยวจะฟ้องให้ มีคนแคปเจอร์ไปให้โรงพยาบาลดูแล้วได้ผลด้วย"

มีตัวอย่างที่อภิวัฒน์เล่าว่าหลังจากที่เส้นด้ายโพสต์เรื่องจะช่วยฟ้องสถานพยาบาลที่ไม่ให้ผลตรวจ มีคนขอผลตรวจแล้วสถานพยาบาลตอบกลับมาว่ารอเตียง 3 วัน แต่ถ้าอยากได้ผลตรวจต้องรอ 5 วัน เขาก็เอาที่พวกเราโพสต์ส่งไป สักพักสถานพยาบาลนั้นส่งผลตรวจให้เขา นั่นหมายความว่าไฟล์ผลตรวจมีอยู่ในมือเพียงแต่จะส่งหรือไม่ส่งก็เท่านั้นเอง

ในแง่กฎหมาย การกระทำของสถานพยาบาลที่ไร้คุณธรรม พีรพลอธิบายในมุมของนักกฎหมายว่าเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมาย

"คนที่โดนกระทำผมบอกให้มอบอำนาจมา ผมจะไปแจ้งความดำเนินคดีให้ ว่าสถานพยาบาลแบบนั้นมีความผิดปิดบังข้อมูล อาจจะเป็นพยายามฆ่าเลยก็ได้ เพราะคุณไม่ให้ผลตรวจ เขาจะไปรักษาที่อื่นก็ไม่ได้ แล้วถ้าเขาตายขึ้นมาเท่ากับคุณเจตนาให้เขาตาย เรื่องนี้สังคมควรรับรู้ว่าแล็บที่มาตรวจอย่าเห็นแก่ตัวมาก คุณได้จากโควิดพอแล้ว

หากต้องฟ้องจริงๆ คือแจ้งความดำเนินคดีปิดบังข้อมูล เป็นการผิดกฎหมายอาญาและน่าจะเป็นละเมิดได้ด้วยครับ แต่พอเราโพสต์ในเพจเส้นด้ายว่าใครจะมอบอำนาจมาให้ผม ซึ่งบางส่วนก็มอบอำนาจมาแล้ว แต่ส่วนราชการที่รู้เขาก็รีบเอาผลตรวจให้เลยทันที อย่างในเขตที่ผมอยู่ไม่มีเลย แต่ผมเชื่อว่าพื้นที่อื่นยังมีอีกมาก"

การขู่ฟ้องกลับอันเป็นมาตรการตอบโต้ของประชาชนที่พอทำได้ ถึงตอนนี้จะทำให้ยังไม่เกิดกรณีที่ต้องฟ้องร้องจริงเพราะสถานพยาบาลส่งผลตรวจให้ก่อนเกิดคดีความ แต่ก่อนหน้านี้มีกี่ชีวิตที่สูญเสียจากความไม่รู้สิทธิของตัวเอง สำหรับสถานพยาบาลที่ยังขู่ตัดสิทธิรอเตียงของผู้ป่วย หรือแม้กระทั่งกั๊กผลตรวจเพราะกลัวเสียรายได้ ภูวกรบอกว่า "นี่คือการค้าความตาย!"
#2795


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ได้ทำหนังสือถึง ทอท. เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการอนุมัติปรับเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของสัญญาอนุญาตประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร โดยขณะนี้ ทอท.ได้รับทราบหนังสือดังกล่าว และได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการพิจารณา

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา สคร. ได้ทำหนังสือถึงนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.จังหวัดนครนายก พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองประธานอนุกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เพื่อแจ้งถึงความคืบหน้าในการดำเนินการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ

เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายชาญชัย ได้ขอให้กระทรวงการคลังดำเนินการปราบปรามการทุจริตฯ กรณีทอท. ทำสัญญาอนุญาตให้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร การบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมถึงการจัดตั้งจุดส่งมอบสินค้าปลอดอากรภายในท่าอากาศยาน ของ ทอท.

ทั้งนี้ กรณีที่ นายชาญชัย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายประสงค์ พูนธเนศ อดีตประธานคณะกรรมการ ทอท. กับพวกรวม 14 คน ในข้อกล่าวหาปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีบอร์ดมีมติอนุมัติปรับเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของสัญญาอนุญาตประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร รวมทั้งหมด 5 ฉบับ สร้างความเสียหายของหน่วยงานรัฐและผู้ถือหุ้น ทอท. จำนวน 42,971.89 ล้านบาทนั้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2564 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้อง และมีกำหนดนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 15 ก.ย.2564 และให้ไต่สวนมูลฟ้อง 1 นัด ในวันที่ 4 ต.ค.2564
#2796

 

จากกรณี รัฐบาล ประกาศเปิดพื้นที่นำร่องส่งเสริมการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องในจังหวัดภูเก็ตไปแล้ว ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 และต่อมาในวันนี้ (15 กรกฎาคม ) เกิดโครงการ สมุย พลัส โมเดล เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าพื้นที่นำร่อง 3 เกาะ ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า

วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมดำเนินการตามนโยบาลรัฐบาล และได้กำชับไปยังหน่วยงานในสังกัดให้ประสานการปฏิบัติระหว่าง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมควบคุมโรค และหน่วยงานในพื้นที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขับเคลื่อนการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตามพิธีการคนเข้าเมือง และตามมาตรการสาธารณสุขที่กำหนด เพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID -19) ด้วยอีกส่วนหนึ่ง


ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.), กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ มีความพร้อมในการทำงานกับหน่วยร่วมปฏิบัติ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า ตามด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ อีกทั้งดำเนินการมาตรการที่ ศบค. หรือ ศูนย์ปฏิบัติการมาตราการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศได้อนุมัติ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนด  เช่น จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 พร้อมเอกสารรับรองจากประเทศต้นทาง และเมื่อเดินทางถึงนักท่องเที่ยวต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด19 หลังจากนั้นใน 7 วันแรกก็จะเข้าพักอาศัยในโรงแรมที่มีมาตรฐาน Samui Extra+ 

ส่วนใน 7 วันหลังพักในโรงแรมที่มีมาตราฐาน SHA+ โดยเมื่อผ่านไป 15 วันและนักท่องเที่ยวได้รับการตรวจหาเชื้อแล้วไม่พบก็สามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นได้ ซึ่งหลังจากผ่านการตรวจคัดกรองโรคจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุขและการดำเนินการตามพิธีการคนเข้าเมือง เมื่อนักท่องเที่ยวได้เข้าพำนักในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า เจ้าหน้าที่หน่วยร่วมปฎิบัติ ก็จะมีมาตราการในการควบคุมและป้องกันโรคตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนด ของ ศบค. และคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้หากประชาชนหรือนักท่องเที่ยวต้องการความช่วยเหลือหรือแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สามารถโทรมายังหมายเลขสายด่วน191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม.
#2797

(15 ก.ค.64) จากกรณี องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ออกแถลงการณ์วันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา เรื่องแจ้งความเอาผิด นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เป็นเหตุให้องค์การเภสัชฯได้รับความเสียหาย กรณีเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จการจัดซื้อวัคซีน "โมเดอร์นา" นั้น
 
ฝ่าย นพ.บุญ ประกาศลั่นว่า "หากองค์การเภสัชฯ ฟ้องผม จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะเอกสารต่าง ๆ ขององค์การเภสัชฯ จะได้ถูกเปิดเผย (แฉ) กลางศาล มีหมดว่าซื้อเท่าไหร่ อย่างไร"
 
แน่นอนว่า เมื่อนพ.บุญ ซึ่งมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ตกเป็นข่าวดังอีกครั้ง หลายคนจึงสนใจเรื่องประวัติของนายแพทย์คนนี้ รวมถึง "อาณาจักรธุรกิจ" ที่อยู่ในการบริหารของกลุ่มบริษัท THG ของเขาด้วย
 
กรุงเทพธุรกิจ ได้สำรวจข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและเว็บไซต์ของบริษัท พบว่า บริษัทนี้ก่อตั้งโดย นพ.บุญและกลุ่มแพทย์ เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2519 ในชื่อเดิมว่า บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด ก่อนจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนและจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด (มหาชน) ในปี 2537
ใครถือหุ้นใหญ่ THG
 
ตั้งแต่นั้นมา THG เติบโตและขยายกิจการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ระบุว่า มูลค่าบริษัท THG ณ วันที่ 13 ก.ค. 2564 อยู่ที่ 25,048 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เป็น บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) ซึ่งถืออยู่ 17.19% และอันดับ 2 คือ นางจารุวรรณ วนาสิน ซึ่งเป็นคู่สมรสของ นพ.บุญ ถืออยู่ 13.96%
 
ส่วน นพ.บุญ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ระบุว่า ถือหุ้นอยู่ในอันดับ 13
ข้อมูลจากเว็บไซต์เดียวกัน เผยว่า นพ.บุญ สำเร็จการศึกษา แพทยศาสตรบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยมหิดล และยังได้วุฒิบัตรเพื่อแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบ วิชาชีพสาขาอายุรศาสตร์ และทางเดินอาหาร จาก มหาวิทยาลัย John Hopkins ในสหรัฐด้วย
 
 
ปัจจุบัน นพ.บุญ วัย 82 ปี นั่งเก้าอี้ ประธานกรรมการบริษัท THG โดยมี นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ เป็นประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ
 
ผลประกอบการ 3 ปีหลังสุด
 
ขณะที่ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีล่าสุดของ THG แยกเป็นดังนี้
 
ปี 2563
รายได้ : 7,315 ล้านบาท
กำไร : 62 ล้านบาท
 
ปี 2562
รายได้ : 8,232 ล้านบาท
กำไร : 462 ล้านบาท
 
ปี 2561 ล้านบาท
รายได้ : 7,094 ล้านบาท
กำไร : 348 ล้านบาท
 
ส่วนในไตรมาสแรกของปี 2564 บริษัทรายงานว่า มีรายได้ 1,584 ล้านบาท ขาดทุน 214 ล้านบาท
 
ธุรกิจการแพทย์ที่ THG ถือหุ้นเกิน 50%
 
นอกจากนี้ จากการสำรวจข้อมูลยังพบว่า บรรดาธุรกิจเกี่ยวกับ "บริการทางการแพทย์" ที่ THG ถือหุ้นอยู่เกิน 50% ประกอบด้วย 6 บริษัท ดังนี้
 
1. บริษัท ทันตสยาม จำกัด
ทุน 31.93 ล้านบาท จำนวน 3,174,930 หุ้น (99.42%)
2. บริษัท ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลธนบุรี จำกัด
ทุน 100 ล้านบาท จำนวน 9,998 หุ้น (99.98%)
3. บริษัท ธนราษฎร์ทุ่งสง จำกัด -- ประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชน ใน จ.นครศรีธรรมราช
ทุน 600 ล้านบาท จำนวน 30,669,250 หุ้น (51.11%)
4. บริษัท โรงพยาบาล ราษฎร์ยินดี จำกัด (มหาชน) -- กิจการโรงพยาบาลเอกชน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ทุน 430 ล้านบาท จำนวน 244,734,031 หุ้น (56.91%)
5. บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด -- กิจกรรมโรงพยาบาล
ทุน 1,223 ล้านบาท จำนวน 48,926,453 หุ้น (99.99%)
6. บริษัท โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ธนบุรี จำกัด -- โรงพยาบาลเฉพาะทาง
ทุน 120 ล้านบาท จำนวน 11,999,700 หุ้น (99.99%)
 
ขณะเดียวกัน คาดว่าชื่อของ "นพ.บุญ" จะยังคงอยู่ในความสนใจของสังคมต่อไปอีก หลัง นพ.บุญ เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ในวันที่ 15 ก.ค. บริษัทจะลงนามสัญญาเพื่อนำเข้าวัคซีนต้านโควิด-19 กับ บริษัท ไบออนเทค ที่มีโรงงานผลิตวัคซีนไฟเซอร์ในเยอรมนี โดยจะมีหน่วยงานรัฐที่มีสิทธินำเข้าวัคซีนร่วมลงนามด้วย ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยชื่อหลังจากการลงนามแล้วเสร็จ
 
การลงนามสัญญาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ก.ค. ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการยืนยันจำนวนวัคซีนที่สั่งซื้อและนำเข้า หลังจากกระบวนการต่าง ๆ ดำเนินการมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว ส่วนงานด้านเอกสารสำคัญ คำสั่งซื้อ ร่างสัญญาต่าง ๆ เตรียมไว้พร้อมแล้ว
 
"เหลือเพียงแค่ทางด้านสหรัฐ เท่านั้นว่าจะอนุมัติตามที่ขอไป 20 ล้านโดส ในระยะแรกหรือไม่" นพ.บุญ กล่าวกับบีบีซีไทย เมื่อวันที่ 14 ก.ค.
#2798
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

 
 
#2800
FATEK Group โรงงานผลิตจำหน่ายแผ่นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป Sandwich Panel ฉนวน EPS PU PIR Rockwool ราคาถูก พร้อมบริการวางแบบ แล้วก็จัดตั้ง แบบครบวงจร บริการสร้างห้องเย็น ห้องฟรีส ห้องแช่แข็ง ห้องปลอดเชื้อ ห้องคลีนรูม ห้องไลน์ผลิต มาตรฐานการผลิต ISO 9001:2015 รองรับมาตรฐาน GMP รวมทั้ง HACCP
โดยมีผลิตภัณฑ์ ดังต่อไปนี้ 

  • แผ่นผนังสำเร็จรูป,ฝ้าสำเร็จรูป Sandwich Panel EPS
แผ่นฉนวนสำเร็จรูปโฟมขาว Sandwich Panel EPS (Expanded Polystyrene) ป้องกันความชื้นจากพื้นผิวดิน เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษมีน้ำหนักเบา สะดวกในการขน ง่ายต่อการจัดตั้ง สามารถตัดตามแบบต่างๆตามที่ปรารถนาได้ ใช้พลังงานน้อยลง ป้องกันความชุ่มชื้นจากผิวดิน อายุการใช้งานนานและก็ที่สำคัญไม่ลามไฟ สามารถกันความร้อนรวมทั้งเก็บความเย็น ป้องกันการผ่านของเสียงได้นิดหน่อย เหมาะสมกับงานฝาผนัง หลังคา ประตู แล้วก็ฝ้าเพดาน 

  • แผ่นผนังสำเร็จรูป,ฝ้าสำเร็จรูป Sandwich Panel PU
แผ่นฉนวนสำเร็จรูปโฟมเหลือง Sandwich Panel PU (Polyurethane) มีคุณลักษณะกันความร้อน เหมาะสำหรับใช้กับห้องเย็น ห้องคลีนรูม เป็นหนึ่งในวัสดุที่มีคุณลักษณะยอดเยี่ยมด้านฉนวน กันความร้อน มีความแข็งแรง ทนและไม่ลามไฟ มีจุดหลอมเหลวต่ำ เมื่อโดนความร้อนสูงเป็นระยะเวลานานๆจะเปลี่ยนรูป มีประสิทธิภาพสำหรับในการกันความร้อนได้สูงถึง 230°C – 250°C 

  • แผ่นผนังสำเร็จรูป,ฝ้าสำเร็จรูป Sandwich Panel PIR
แผ่นฉนวนสำเร็จรูปโฟมเหลือง Sandwich Panel PIR (Polyisocyanurate) ทนความร้อน และเปลวไฟ เหมาะกับใช้กับห้องกันไฟ และก็ห้องอบ เป็นวัสดุที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับโฟมโพลียูรีเทน (PU Foam) แต่ว่าทนไฟได้ดีมากยิ่งกว่า เหตุเพราะโครงสร้างเคมีเป็นวงแหวนที่ทนต่อความร้อนและก็เปลวไฟ สามารถทนความร้อนได้สูงอุณหภูมิมากกว่า 400 องศา จากการที่ค่าการนำความร้อนต่ำ จึงเหมาะกับการนำมาใช้เป็นฉนวนกันความร้อน ประหยัดพลังงาน มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา ไอสารซึมผ่านยากแล้วก็แผ่นฉนวนติดไฟได้ค่อนข้างจะยาก.  

  

  • แผ่นผนังสำเร็จรูป,ฝ้าสำเร็จรูป Sandwich Panel Rockwool
แผ่นฉนวนใยหิน Sandwich Panel Rockwool มีค่าการนำความร้อนต่ำ สามารถทนความร้อนได้ดีเหมาะสำหรับใช้กับห้องกันไฟ และห้องอบ เป็นวัสดุที่ทำจากหินภูเขาไฟตามธรรมชาติ เส้นใยหินเกิดขึ้นจากการสร้างด้วยเครื่องจักรภายใต้การควบคุมมาตรฐาน แล้วก็เส้นใยจะหักตัวเสมือนแท่งชอล์ก เส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 ไมครอน ซึ่งสามารถป้องกันไฟได้อย่างเหนือระดับ ลดการใช้พลังงาน รวมทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการป้องกันเสียงดังรบกวนได้ดี ที่สำคัญปลอดภัยต่อสุขภาพ เมื่อสูดกลิ่นเข้าไป ร่างกายสามารถขับออกมาได้เอง  


  

  • หลังคาเมทัลชีทกันความร้อน PIR Foam (Roof Sandwich Panel PIR)
ขายหลังคาเมทัลชีทกันความร้อน หลังคา Sandwich Panel แผ่นฉนวนหลังคากันความร้อน PIR Foam ราคาไม่แพง ทำหน้าที่หน่วงความร้อนไม่ให้ไปสู่ใต้หลังคา แผ่นเหล็กที่ผ่านขั้นตอนการนำไปเคลือบด้วยอลูมิเนียมและสังกะสี หรือที่เรียกกันว่า "เคลือ.ูซิงค์ (AZ)" ที่ได้มาตรฐานระดับสากล แล้วก็ยังมีลอนที่สามารถยึดติดแผ่นโซลาเซลได้อีกด้วย

  

  บริการติดตั้งของ FATEK Groupบริการติดตั้งห้องเย็น ห้องแช่แข็งสะอาด ปลอดภัย จัดตั้งด้วย ฉนวนผนังห้องเย็น Sandwich Panel แผ่นเคลือบระดับ Food Grade มาตรฐาน USDA ได้มาตรฐานสากล พวกเราดีไซน์รองรับมาตรฐานสากล ทั้งยัง GMP และ HACCP