• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chigaru

#6137


เพราะความคิดถึง(แซลมอน)มันห้ามไม่ไหว !!! วันนี้พวกเราเหล่าร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ ประกอบด้วย โออิชิ แกรนด์, โออิชิ อีทเทอเรียม, และ โออิชิ บุฟเฟต์ จึงพร้อมใจกันสั่งนำเข้าวัตถุดิบชั้นดีจากต่างประเทศ และตระเตรียม "ปลาแซลมอน" คุณภาพ สดใหม่ ไว้บริการนักกิน - แซลมอน เลิฟเวอร์ส อย่างเต็มที่...ให้หายคิดถึง พร้อมแล่สด ๆ แบบซาชิมิ มีให้เลือกตั้งแต่ ขนาดอิ่มจัดหนัก "แซลมอน ซาชิมิ" ขนาดน้ำหนัก 500 กรัม (ครึ่งกิโลกรัม) สำหรับ 1 – 2 คน ราคาสุทธิเพียง 595 บาท ไปจนถึง ขนาดอร่อยจัดเต็ม "แซลมอน ซาชิมิ" ขนาดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม สำหรับ 3 – 4 คน ราคาสุทธิเพียง 1,190 บาท ซึ่งเสิร์ฟพร้อมวาซาบิและโชยุครบครัน โดยพร้อมให้บริการแบบจัดส่ง (Delivery) แล้ววันนี้ ผ่าน "โออิชิ เดลิเวอรี่" ความอร่อยแบบญี่ปุ่นส่งตรงถึงบ้าน โทร. 1773 หรือคลิก OISHIDELIVERY.COM นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ SHOPTEENEE.COM ได้อีกด้วย

ติดตามข้อมูลข่าวสาร หรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม คลิกแฟนเพจโออิชิฟู้ดสเตชั่น : www.facebook.com/OishiFoodStation
#6138


ตัวเลขผู้ป่วยโควิดรายใหม่ (4 ส.ค. 64) ทะลุ 20,200 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วกว่า 672,385 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 188 ราย การดูแลผู้ป่วยโควิดที่บ้าน (Home Isolation : HI)จึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ได้รับยาเร็ว และลดอาการหนักได้ แต่ปัจจุบันยังพบว่ายังมีผู้ป่วยจำนวนมากตกค้างและยังไม่ได้เข้าสู่ระบบรักษา


ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้จัดการประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติ เพื่อดูแล "ผู้ป่วย โควิด-19 กลุ่มสีเขียวที่บ้าน" และ "ตรวจโควิดด้วยชุดตรวจ ATK" ผ่านระบบ Zoom เพื่อเชิญชวน คลินิกเอกชน ทั่วประเทศที่อยู่นอกระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (UC) เข้าร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ที่เป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย ซึ่งมีจำนวนราวร้อยละ 80 ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด มีคลินิกเอกชนให้ความสนใจเข้าร่วมประชุมกว่า 1,000 แห่ง โดยสปสช. จัดงบสนับสนุนค่าบริการเบื้องต้นเหมาจ่าย 3 พันบาท/ราย โอนจ่ายทุกสัปดาห์

"นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี" เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า เดิมมีคลินิกชุมชนอบอุ่น ซึ่งเป็นคลินิกที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. มาก่อนหน้านี้ราว 200 กว่าแห่ง จากที่พูดคุยเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน คลินิกจำนวนหนึ่งราว 117 แห่ง ยินดีเข้าร่วมโครงการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ตามแนวทาง Home Isolation ร่วมกับ ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง


"การดำเนินการที่ผ่านมามาพบว่าจำนวนคลินิกที่ดำเนินการอยู่ไม่เพียงพอต่อผู้ป่วยที่เข้ามาใหม่ ทำให้เกิดปัญหาแจ้งมาในระบบ ไม่ว่าจะช่องทางสายด่วน 1330 หรือกรอกข้อมูลในระบบ หรือไลน์แอด สปสช. หรือช่องทางอื่นๆ พบว่า มีจำนวนผู้ป่วยตกค้างจำนวนมาก สปสช. จึงพยายามขยายไปยังคลินิกเอกชนซึ่งแต่เดิมไม่อยู่ในระบบของ สปสช. โดยเน้นในกทม. ซึ่งมีประมาณ 3,000 กว่าแห่ง,มาเข้าร่วมดูแลผู้ป่วยโควิดตามแนวทาง Home Isolation เพิ่มขึ้น"

ต้องมีแพทย์ ดูแล ติดตาม ผู้ป่วย
สำหรับคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมโครงการจะมีหน้าที่ติดตามผู้ป่วย ตามแนวทาง Home Isolation ตามเกณฑ์ คือต้องมีแพทย์ ในการควบคุมดูแลผู้ป่วย จัดระบบที่จะดูแลผู้ป่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ วิดีโอคอล หรือไลน์แอด มีระบบส่งน้ำ ส่งอาหาร ส่งอุปกรณ์ อยากให้คลินิคที่สนใจมาลงทะเบียนกับ สปสช. โดยเบื้องต้น สปสช.จะกระจายยาให้คลินิก หรือส่วนที่ยังเบิกยาไม่ได้ และต่อไปจะเป็นการกระจายความรับผิดชอบให้คลินิกดำเนินการเองต่อไป


นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า เวลาผู้ป่วยแจ้งเข้ามา จะยังไม่รู้ว่าอยู่ในระดับสีอะไร ต้องให้คลินิกกดรับเข้าระบบ สัมภาษณ์ ซักประวัติ และการเอกซเรย์ปอดจะสามารถแยกระดับสีได้ชัดเจน ส่วนใหญ่ที่รอนานๆ จะเริ่มมีอาการ ไม่ได้ยา ดังนั้น จึงไม่อยากให้รอนานเกิน 24 ชั่วโมง อย่างน้อยมีแพทย์โทรเข้าไปถามอาการ ตอนนี้แนะนำให้จ่ายยาเร็ว ส่งยาไปให้ก่อน การเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นเหลือง หรือ จากเหลืองเป็นแดงก็จะลดลง ตอนนี้เราทำงานแข่งกับเวลา


"หากมีคลินิกเอกชนเข้ามาร่วม อย่างน้อยผู้ป่วยได้รับการดูแล ได้อาหาร หากผู้ป่วยเยอะก็จะได้ไม่ต้องกังวลมาก เพราะมีการแยกกักตัว มียา อาหารไปให้ แต่ติดที่คอขวดระบบบริการยังไปไม่ถึงชาวบ้าน สถิติตัวเลขล่าสุด (3 ส.ค. 64) เวลารอเฉลี่ย 17 ชั่วโมง นานสุด 27 ชั่วโมง รอเกิน 24 ชั่วโมง จำนวน 408 คน หากทำให้รวดเร็วขึ้น ก็จะทำให้ประชาชนสบายใจขึ้น ผู้ป่วยมั่นใจขึ้น" นพ.จเด็จ  กล่าว

"พญ.กฤติยา ศรีประเสริฐ" ผู้เชี่ยวชาญพิเศษสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า คลินิกเอกชนเข้าร่วมดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถให้บริการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) กับประชาชนไทยทุกคนได้ตามเกณฑ์การคัดกรอง โดยใช้ชุดตรวจที่ขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการผ่านระบบ Authentication Code ยืนยันด้วยบัตรสมาร์ทการ์ด พร้อมรายงานผลตรวจทุกรายให้ สปสช. เพื่อใช้ในการประเมินการให้บริการประชาชน 

ซึ่งกรณีตรวจด้วยเทคนิค Chromatography จ่ายตามจริงไม่เกิน 450 บาท/ครั้ง และกรณีตรวจด้วยเทคนิค Fluorescent Immunoassay (FLA) จ่ายตามจริงไม่เกิน 550 บาท/ครั้ง หากผลตรวจเป็นบวกกรณีที่อยู่ในผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวให้เข้าสู่การรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านและในชุมชน (Home Isolation/Community Isolation : HI/CI) แต่กรณีที่จำเป็นต้องรักษาแบบผู้ป่วยใน ให้รับรักษาเป็นผู้ป่วยในที่หน่วยบริการ หรือส่งต่อรักษาในเครือข่ายหน่วยบริการ


สำหรับการเบิกจ่ายค่าบริการระบบ HI/CI  มีดังนี้
1. การตรวจ RT-PCR จำนวน 1,500 - 1,700 บาท/ครั้ง (ปรับอัตราใหม่เริ่ม 1 ส.ค. 64)

2.ค่าดูแลการให้บริการผู้ป่วยอัตราเหมาจ่าย 1,000 บาท/วัน ไม่เกิน 14 วัน (ค่าอาหาร)

3 มื้อ และติดตามประเมินอาการให้คำปรึกษา)

3.ค่าอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วย ได้แก่ ปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล เครื่องวัดออกซิเจน ตามรายการใช้จริงไม่เกิน 1,100 บาท/ราย

4.ค่ายารักษาเฉพาะโควิด-19 จ่ายตามจริงไม่เกิน 7,200 บาท/ราย

5.ค่ารถส่งต่อ จ่ายตามจริงตามระยะทางและค่าทำความสะอาด 3,700 บาท และ 

6.ค่าบริการถ่ายภาพรังสีทรวงอก (Chest X-ray) อัตรา 100 บาท/ครั้ง จ่ายเพิ่มเติมกรณีผู้ป่วยนอกเพื่อแยกความรุนแรงของโรคและภาวะปอดอักเสบก่อนเข้าสู่ระบบ HI/CI นอกจากนี้ยังมีค่าชุดป้องกันการติดเชื้อ จ่ายตามจริงไม่เกิน 740 บาท/วันสำหรับการดูแลใน CI และค่าออกซิเจนสำหรับผู้ป่วย จ่ายตามจริงไม่เกิน 450 บาท/วัน

"รูปแบบการจ่ายชดเชยค่าบริการในระบบ HI/CI จะเป็นเหมาจ่าย 1 งวด จำนวน 3,000 บาท/ราย โดย สปสช. จะโอนจ่ายในทุกสัปดาห์ และเมื่อดูแลครบตามระยะเวลาที่กำหนด หน่วยบริการสามารถคีย์ข้อมูลเบิกจ่ายตามจริงตามรายการที่แจ้งข้างต้น โดยกรณีที่ค่าบริการมากกว่าจำนวนเงินเหมาจ่าย ทาง สปสช. จะมีการจ่ายชดเชยเพิ่มเติม" พญ.กฤติยา กล่าว  

ทั้งนี้ 'คลินิกเอกชน' ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https:// www.nhso.go.th/downloads/159
#6139


"เฟิร์ส-ปิยังกูร เสาหิน" และ "พี-พีรวิชญ์ พลอยนำพล" สองนักแสดงสุดฮอต แท็คทีม "ชีวิน-ธนะมินทร์ วงษ์สกุลพัชร์" ผู้กำกับฯ จากซีรีย์ดัง Y-Destiny พร้อมใจกันมาเปิดเผยความจริงที่โหดร้ายของ "ช้างไทย" มากกว่า 2,800 เชือก ที่ถูกใช้ในกิจกรรมเพื่อความบันเทิง กับเบื้องหน้ากิจกรรมโชว์ความฉลาด แสนรู้ เชื่อฟังคำสั่ง เรียกความสุข เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มจากนักท่องเที่ยว แต่เบื้องหลังคือการบังคับ กักขัง ทั้งถูกขอสับล่ามโซ่ ใช้งานหนัก และการทำร้ายอย่างทารุณ

โดยวันนี้ "เฟิร์ส-พี-ชีวิน" ขอเดินหน้าเต็มกำลัง ร่วมกับ WORLD ANIMAL PROTECTION และ BAD EXAMPLE เป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์เชิญชวนคนไทยให้เลิกสนับสนุนกิจกรรมทำร้ายช้าง ผ่านยีนส์คอลเลกชั่นพิเศษ The Entertainer's Pain Collection เผยรอย ripped หรือรอยขาดแต่ละรอยที่ดีไซน์มาจากรอยแผลที่ช้างไทยถูกทำร้ายในกิจกรรมเพื่อความบันเทิง กับแคมเปญ Elephants Not Entertainers เพื่อรณรงค์ไม่ให้ช้างถูกนำไปใช้ประโยชน์ในกิจกรรมเพื่อความบันเทิงที่โหดร้าย พร้อมปกป้องสิทธิให้ช้าง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และได้ใช้ชีวิตตามวิถีธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น

ซึ่ง "พี-พีรวิชญ์" เผยความรู้สึกว่า "ผมเห็นว่าการทารุณช้าง หรือว่าการทรมานช้าง ไม่ว่าจะเป็นการตี การล่ามโซ่ การทารุณ และ ฝึกหนัก ไหนจะต้องพรากช้างจากครอบครัว เพื่อมาแสวงหาผลประโยชน์ มันไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะเบื้องหน้าที่เราเห็นช้างเชื่อฟังคำสั่ง ฉลาด แสนรู้ น่ารัก แสดงกิจกรรมต่างๆ เพื่อความบันเทิงให้คนดูได้หัวเราะ มีความสุข แต่เบื้องหลังเค้าต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด แคมเปญ Elephants Not Entertainers จะทำให้ทุกคนรับรู้ว่าการทรมานช้างในทุกรูปแบบมันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย แคมเปญนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความเจ็บปวดที่ช้าง เค้าไม่สามารถบอกเราได้ แต่เราสามารถบอกให้ทุกคนรู้ได้ว่าช้างเจ็บปวดแค่ไหนผ่านกางเกงยีนส์ตัวนี้และแคมเปญนี้ครับ"

ด้าน "เฟิร์ส-ปิยังกูร" เผยว่า "The Entertainer's Pain Collection นี้เป็นการคอลแลปส์กันระหว่าง World Animal Protection และ Bad Example ดีไซน์กางเกงส์ยีนส์ให้มีรอย ripped หรือรอยขาด โดยแต่ละรอยที่ปรากฏในกางเกงยีนส์ตัวนั้นดีไซน์มาจากรอยแผลที่หู ขา หรือที่เท้าของช้างไทยถูกทำร้ายในกิจกรรมเพื่อความบันเทิง สะท้อนความรู้สึกถึงอารมณ์ความเจ็บปวดของช้าง บอกเล่าเรื่องราวความรุนแรงของช้าง ที่สะเทือนใจมากๆ เมื่อผมได้สวมใส่กางเกงยีนส์คอลเลกชั่นนี้ทำให้ผมรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ช้างได้รับ เพราะฉะนั้นผมจึงอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับช้างไทยผ่านแคมเปญนี้ครับ"

และ "ชีวิน-ธนะมินทร์" สะท้อนมุมมองที่มีต่อแคมเปญนี้ว่า"รอยขาดของกางเกงยีนส์คอลเลกชั่นพิเศษ The Entertainer's Pain Collection จะทำให้ทุกคนเห็นว่ากางเกงตัวนี้เป็นรอยขาดที่สวยงาม แต่จริงๆ มันมีสตอรี่ซ่อนอยู่ เพราะรอยขาดนั้นมันคือบาดแผลของช้างที่มาจากกิจกรรมเพื่อความบันเทิง ดังนั้นสำหรับใครก็ตามที่ยังให้การสนับสนุนกิจกรรมความบันเทิงที่เกี่ยวกับช้างอยู่ ได้โปรดหยุดเถอะครับ ผมอยากขอเป็นหนึ่งเสียงในการเรียกร้องให้คืนช้างกลับคืนสู่ธรรมชาติ เพราะช้างเค้าก็มีจิตใจเหมือนที่เรามี และมาช่วยกันสนับสนุนแคมเปญนี้ ด้วยการร่วมกันแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญนี้ ไปให้ทุกๆ คนได้เห็นกันเยอะๆ ด้วยนะครับ"

เรียกว่าเป็นแคมเปญดีๆ ที่ทั้งนักแสดงและผู้กำกับ "เฟิร์ส-พี-ชีวิน" จากซีรีย์ดัง Y-Destiny พร้อมใจกันมาเชิญชวนคนไทยให้เลิกสนับสนุนกิจกรรมทำร้ายช้าง มาร่วมสนับสนุน The Entertainer's Pain Collection ยีนส์คอลเลกชั่นพิเศษนี้ ได้ที่ Bad Example Shop หรือ Facebook: Badexamplebkk และร่วมกันหยุดยั้ง และสนับสนุนกิจกรรมเพื่อความบันเทิงต่างๆ ที่ทำร้ายช้าง และหยิบยื่นคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมให้ช้างด้วยการช่วยกันแชร์ข้อมูลนี้ให้กระจายไปในวงกว้าง พร้อมใส่ #ElephantsNotEntertainers #TheEntertainersPainCollection #WorldAnimalProtection #Badexample
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการดูได้ที่ https://bit.ly/3x02HFG
#6140


ทำเนียบขาวแถลงในวันพุธ(4ส.ค.)ว่า รัฐบาลสหรัฐยังคงพร้อมที่จะดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชน หากมีความจำเป็น แม้ว่าองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ออกมาเรียกร้องให้นานาชาติระงับโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นการชั่วคราว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของการฉีดวัคซีนทั่วโลก

"นี่เป็นทางเลือกที่ผิด โดยสหรัฐสามารถดำเนินการได้ทั้งสองอย่าง ด้วยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชน หากวัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัติในสหรัฐ และสหรัฐยังสามารถบริจาควัคซีนส่วนเกินให้แก่ชาติอื่นๆ" นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวกล่าว

ด้านดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า ชาติที่ร่ำรวยควรระงับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อย่างน้อยเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อให้ดับเบิลยูเอชโอบรรลุเป้าในการฉีดวัคซีนให้แก่ประชากร 10% ของทุกประเทศภายในสิ้นเดือนก.ย.

ดับเบิลยูเอชโอ ยังระบุว่า อาจมีการขยายเวลาระงับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 มากกว่า 2 เดือน หากการฉีดวัคซีนในประเทศที่มีอัตราการฉีดต่ำยังคงไม่เพิ่มขึ้น

"เราจำเป็นต้องพลิกสถานการณ์อย่างเร่งด่วนจากการส่งวัคซีนส่วนใหญ่ให้แก่ชาติที่ร่ำรวย ไปสู่การส่งวัคซีนส่วนใหญ่ให้แก่ชาติที่ยากจน" นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของดับเบิลยูเอชโอ กล่าว

นอกจากนี้ นายแพทย์ทีโดรสยังมีแผนที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชากรโลก 40% ภายในเดือนธ.ค.

การเรียกร้องของดับเบิลยูเอชโอในวันนี้ สอดคล้องกับที่ดับเบิลยูเอชโอ ระบุก่อนหน้านี้ว่าไม่แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็ม 3 เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว

ทั้งนี้ แพทย์หญิงเคท โอไบรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิคุ้มกัน, วัคซีน และชีววิทยาของดับเบิลยูเอชโอ กล่าวว่า ดับเบิลยูเอชโอไม่แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย "ในขณะนี้" เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนประสิทธิภาพในการดำเนินการดังกล่าว

แพทย์หญิงโอไบรอันกล่าวว่า ดับเบิลยูเอชโอกำลังทำการวิจัยว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 มีความจำเป็นหรือไม่ในการป้องกันไวรัสที่มีการกลายพันธุ์

อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของบริษัทไฟเซอร์, โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต่างสนับสนุนให้ชาวอเมริกันเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังจากที่ได้รับวัคซีนครบโดสก่อนหน้านี้แล้ว
#6141


ลอรีอัล กรุ๊ปได้รายงานผลการดำเนินงานรอบครึ่งปีแรกของปี 2564 โดยเติบโตขึ้น 20.7% ในสถานการณ์โควิด-19 ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามภาพรวมฟื้นตัวขึ้นทีละน้อย และเติบโตสองหลัก โดยลอรีอัล กรุ๊ปครองส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นในทุกแผนกและในทุกภูมิภาค และมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าตลาดรวม โดยเฉพาะไตรมาส 2 ที่บริษัทฯ มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง และสามารถหวนคืนสู่การเติบโตในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิดถึง 6.6% เทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2562 และเพิ่มขึ้น 8.4% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2562

ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของบริษัทฯ ทำให้แบรนด์ต่างๆ สร้างและรักษากลุ่มลูกค้า รวมทั้งพันธมิตร โดยช่องทางอี-คอมเมิร์ซเติบโตในระดับปานกลางที่ 29.2% เนื่องจากช่องทางร้านค้าปลีกสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ ยอดขายอี-คอมเมิร์ซคิดเป็นสัดส่วน 27.3% ของยอดขายทั้งหมด ขณะที่กลุ่มค้าปลีกท่องเที่ยวนั้นได้ฟื้นตัวขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยของการเดินทางระหว่างประเทศ และความสำเร็จในตลาดไหหลำ ขณะเดียวกัน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวแคมเปญของลอรีอัล กรุ๊ป เป็นครั้งแรกทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้า ผู้ถือหุ้น รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจทั้งหมด การเปิดตัว "L'Oréal For Youth" โครงการระดับโลกเพื่อส่งเสริมการจ้างงานผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ให้เพิ่มอีก 30%

นายนิโคลา ฮิโรนิมุส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลอรีอัล กล่าวว่า "ลอรีอัล กรุ๊ปเติบโตในช่วงครึ่งปีแรก และจะเติบโตในอัตราการขยายตัวระดับเดียวกับช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤต ด้วยการใช้เทคโนโลยี data และ AI เพื่อก้าวขึ้นเป็นบริษัท Beauty Tech โดยครึ่งหลังปี 2564 นี้เราจะใช้กลยุทธ์เปิดตัวผลิตภัณฑ์เชิงรุก จะลงทุนในปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโตเพื่อกระตุ้นการขยายตัวในอนาคต มั่นใจมากที่จะเติบโตอัตราสูงกว่าตลาด และปีนี้จะประสบความสำเร็จในการเติบโตของยอดขายและผลประกอบการ"



ทั้งนี้ การเติบโตแบ่งตามแผนกธุรกิจ
1. แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ เติบโต 41% จากเทรนด์ในตลาด 3 ส่วน คือ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของซาลอนและร้านเสริมสวยต่างๆ การพัฒนาสไตลิสต์ที่เป็นฟรีแลนซ์ และการขยายตัวของอี-คอมเมิร์ซ
2. แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค เติบโต 6.3% โตสูงกว่าตลาด และเติบโตในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในจีน บราซิล อินโดนีเซีย และประเทศหลักในยุโรป
ช่องทางอี-คอมเมิร์ซเติบโตมาก สัดส่วน 20% ของยอดขายรวม
3. แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง เติบโต 28.1% โตสูงกว่าตลาดในทุกภูมิภาค จากการกลับมาเปิดให้บริการของหน้าร้านบางส่วน และแผนกนี้ยังมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งสามประเภทที่มี
4. แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง เติบโต 37.5% โดยมีการปรับผลิตภัณฑ์แบรนด์สกินแคร์ให้ตอบรับกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากกว่าเดิมในช่วงการระบาดของโควิด



สำหรับข้อมูลแบ่งตามโซนภูมิภาค ครึ่งปีแรก พ.ศ. 2564 ลอรีอัล กรุ๊ปได้ปรับการจัดภูมิภาคขึ้นใหม่ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ยอดขายตามโซนภูมิภาครายงานตามการจัดโครงสร้างดังกล่าว โดยภูมิภาคที่จัดขึ้นใหม่ คือ ยุโรป อเมริกาเหนือ เอเชียเหนือ SAPMENA (เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และแอฟริกาใต้ซาฮารา) และละตินอเมริกา

SAPMENA เติบโต 19.9% ประเทศแถบแปซิฟิก และกลุ่มประเทศรอบอ่าวอาหรับเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่สถานการณ์โควิด-19 ในอินเดียยังคงส่งผลกระทบต่อยอดขายในไตรมาส 2 ขณะที่หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ยังมีการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ส่วนเวียดนามยังเติบโตต่อเนื่อง การเติบโตของตลาด SAPMENA ได้รับแรงหนุนจากแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคจากแบรนด์การ์นิเย่ และเมย์เบลลีน นิวยอร์ก รวมทั้งจากแผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูงในกลุ่มน้ำหอม และสกินแคร์ และแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่มีแบรนด์ลา โรช-โพเชย์ช่วยเสริม ขณะที่อี-คอมเมิร์ซเติบโตอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินเดีย ช่วยผลักดันให้ทุกแผนกเติบโตขึ้นเช่นกัน ส่วนในแอฟริกาใต้ซาฮารานั้นยอดขายตลาดแอฟริกาใต้สูงขึ้นสองหลัก

ส่วนเอเชียเหนือเติบโต 27.3% ขณะที่ยุโรปเติบโต 11.9% (ครอบคลุมถึงยุโรปตะวันตก และยุโรปตะวันออก และเป็นโซนที่ใหญ่ที่สุดของลอรีอัล กรุ๊ป ในแง่ยอดขาย) ทางด้านอเมริกาเหนือเติบโต 23.2% และละตินอเมริกาเติบโต 32.8%



ทั้งนี้ ลอรีอัล กรุ๊ป มีพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ความงาม 35 แบรนด์ มียอดขายผลิตภัณฑ์ 2.799 หมื่นล้านยูโร ในปี 2563 มีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง
ส่วนลอรีอัล ประเทศไทย นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ระดับสากล ใน 4 แผนกผลิตภัณฑ์
1. แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค : ลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่ และเมย์เบลลีน นิวยอร์ก
2. แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง : ลังโคม, ไบโอเธิร์ม, จิออร์จิโอ อาร์มานี, คีลส์, ชู อูเอมระ, อีฟส์ แซงต์ โลรองต์, เออเบิน ดีเคย์ และอิท คอสเมติกส์
3. แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ : ลอรีอัล โปรเฟสชันแนล และเคเรสตาส
4. แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง : ลา โรช-โพเซย์, วิชี่ และเซราวี
#6142
Sharisma ตัวช่วยลดอายุเซลล์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ครบเครื่องเรื่องสุขภาพ 

สัมผัสกับศาสตร์แห่งรางวัลโนเบลครั้งแรกในประเทศไทย ให้คุณได้ฟื้นฟูสุขภาพและผิวพรรณในทุกมิติ รวมถึงผิวหน้า ผิวกาย ระบบภูมิคุ้มกัน กับการลดอายุที่ระดับเซลล์ 

Talos95  สารสกัดสำคัญที่สำคัญใน Sharisma ที่แรกที่เดียวในประเทศไทย ศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบลถึง 3รางวัล ช่วยลดอายุเซลล์ได้จริงมีงานวิจัยรองรับ Telomere Health Support

Astaxanthin จาก AstaReal
 ราชาแห่งสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซีมากถึง 6000 เท่า เกราะป้องกันผิวและร่างกาย จากมลพิษและสิ่งเร้าภายนอก

Pure collagen dipeptide จาก Wellnex โมเลกุลเล็กที่สุด ดูดซึมได้ทันที เข้มข้นด้วยกรดอะมิโน po-og กระตุ้นการสร้ๅงคอลลาเจนได้ดีถึง 10 เท่า เป็นcollege อันดับหนึางในญี่ปุ่น

Camucanu King of Natural VitaminC วิตามินซีเข้มข้นกว่าส้มถึง 60 เท่า ปกป้องเซลล์และปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดบำรุงตับ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส

Gos�  สารสำคัญในน้ำนมแม่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากภายใน #Prebiotic และผลวิจัยด้านความงามพบว่า สามารถลดริ้วรอยได้

MitoActive บูสท์การเผาผลาญระดับเซลล์ กระชับสัดส่วน กล้ามเนื้อทนทาน ออกกำลังกายได้นานขึ้น

สารสกัดเข้มข้นจากทั่วโลกอีก 20 ชนิดอัดแน่นเต็มกล่อง 


No sugar No Cholesterol > ปราศจากสารให้ความหวานและน้ำตาล จึงไม่ทำให้เกิดไขมันที่ก่อตัวในเส้นเลือด

วิธีการทาน ทานตอนท้องว่าง 
ทานวันละ 1 ซอง ลดอายุเซลล์ได้ถึง 7.4 ปี
ทานวันละ 2ซอง ลดอายุเซลล์ได้ถึง 8.5 ปี
เมื่อทานต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน 

โปรโมชั่นพิเศษ
จากปกติกล่องละ 1,290 บาท
 1 890 บาท รวมส่ง 950 บาท ประหยัดไป 400 บาท
 2 กล่อง 1,780 บาท รวมส่ง 1,840 บาท ประหยัดไป 820 บาท 
 3 กล่อง 2,670 บาท รวมส่ง 2,700 บาท ประหยัดไป 1,270 บาท 
 4 กล่อง 3,560 บาท รวมส่ง 3,600 บาท ประหยัดไป 1,700 บาท 
 5 กล่อง 4,450 บาท รวมส่ง 4,500 บาท ประหยัดไป 2,100 บาท 

ช่องทางการส่งของเรา มีทุกช่องทางนะคะ
ส่งไปรษณีย์ Kerry flash เริ่มต้นที่ 60 บาท
Grab หรือ line man คิดตามระยะ ทางนะคะ

ทางทีมกำไร
-  เปิดรับ Holding มาร่วมทีม สร้างรายได้ไปด้วยกัน 
-  ทางทีมมีการเทรน Holding ในทีมแบบ private 
-  Holding ทีมกำไรมีแผนโปรโมทเฉพาะทีม 
-  มี Add เฉพาะทีม 
-  ไม่ทิ้ง Holding ให้เคว้งคว้าง
-  ปั้น Holding แม้ไม่มีพื้นฐานหรือประสบการณ์การขายออนไลน์มาก่อน เพียงแค่ตั้งใจพอค่ะ เชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า และลงมือทำ ถึงเป้าหมายแน่นอน 

สนใจติดต่อ 
Line@ : @gumrai (มี@) 

https://lin.ee/L2ygeGr


IG : Gumrai_kaikong 

https://www.instagram.com/p/CSDqkpeHY5O/?utm_medium=copy_link

Facebook Sharisma เพจดีลเลอร์รายใหญ่ 

https://www.facebook.com/100369412341981/posts/112206244491631/?d=n

Call : 090-9914691





























 
#6143
สนใจติดต่อคุณเป้ง  087-347-6299
บริษัท  สบายใจการบัญชี  จำกัด

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#6144


เอกสารไวท์เปเปอร์ที่ Tencent (เทนเซ็นต์) บริษัทอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลก สร้างสรรค์ร่วมกับ Newzoo (นิวซู) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกของเกมและอีสปอร์ต เผยว่า อีสปอร์ตที่กำลังมาแรงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ช่วยให้เกิดโมเดลธุรกิจที่สร้างสรรค์ พร้อมสร้างโอกาสทางอาชีพใหม่ขึ้นภายในภูมิภาค

ข้อมูลจาก Newzoo (นิวซู) ระบุว่า อัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) ของรายได้จากอีสปอร์ตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ +20.8 (จากปี 2562 ถึงปี 2567) และมีแนวโน้มทำรายได้ถึง 72.5 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 อัตราการเติบโตนี้เป็นการโตเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับการเติบโตของรายได้จากอีสปอร์ตของทั่วโลกซึ่งมีอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) ที่ร้อยละ +11.1

เอกสารไวท์เปเปอร์ที่จัดทำขึ้นภายใต้หัวข้อ "เกมและอีสปอร์ต: กีฬาที่แท้จริง (Games & Esports: Bona Fide Sports)" ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเทียบกับประเทศที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้วในแถบอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก ซึ่งเป็นถิ่นที่อีสปอร์ตเติบโตขึ้นมาจากการที่มีโครงสร้างทางไอทีที่พัฒนากว่า การเติบโตของตลาดอีสปอร์ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นเกิดจากความนิยมในการเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือที่คนทั่วไปมีกำลังซื้อได้มากกว่า โดยการศึกษาผู้บริโภคเชิงลึกในปี 2564 ที่ Newzoo (นิวซู) ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมตอบคำถามจากแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แสดงให้เห็นว่าร้อยละ 82 ของประชากรออนไลน์ในภูมิภาคนี้เล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ ในขณะที่ร้อยละ 39 ของผู้เข้าร่วมตอบคำถามเป็นผู้เล่นที่ใช้ โทรศัพท์มือถือเป็นตัวเลือกอันดับแรกในการเล่นเกม และใช้เวลาส่วนใหญ่เล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ

ในงานเสวนาข้อมูลเชิงลึกจากผู้นำในวงการซึ่งจัดโดย Tencent (เทนเซ็นต์) และ Newzoo (นิวซู) ผู้ร่วมอภิปรายจากวงการอีสปอร์ต เห็นพ้องต้องกันว่าภูมิภาคจะได้รับประโยชน์จากเทรนด์และการพัฒนาที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเกม

เจมส์ ยาง (James Yang) ผู้อำนวยการของ PUBG MOBILE Global Esports (พับจี โมบาย โกล. อีสปอร์ต) ประจำ Tencent Games (เทนเซ็นต์เกมส์) กล่าวว่า "เราเห็นได้ว่าอีสปอร์ตกำลังอยู่ในขาขึ้น โดยมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนจากการเล่น อีสปอร์ตบนคอมพิวเตอร์ PC และบนคอนโซล มาเป็นบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ได้รับอิทธิพลจากการพัฒนา ด้านฮาร์ดแวร์ รวมไปถึงการเล่นเกมผ่านคลาวด์ และเครือข่าย 5G ในมือถือที่พัฒนาขึ้น"

- อีสปอร์ตในฐานะตัวคูณทางเศรษฐกิจ
ผู้ร่วมอภิปรายรายอื่นซึ่งรวมไปถึง Riot Games ผู้พัฒนาและประชาสัมพันธ์เกม Bigetron Esports หนึ่งในองค์กรอีสปอร์ตชั้นนำในประเทศอินโดนีเซีย และ VIRESA หรือสมาคมนันทนาการและอีสปอร์ตแห่งเวียดนาม รวมไปถึง มหาวิทยาลัยเอเชียแปซิฟิกแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศมาเลเซีย (Asia Pacific University of Technology & Innovation: APU) ได้อธิบายว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นภูมิภาคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีสปอร์ตกำลังสร้างผลดีในทางเศรษฐกิจให้กับภูมิภาค พร้อมกับการเกิดโมเดลธุรกิจที่สร้างสรรค์และเปิดโอกาสใหม่ๆ ในสายอาชีพให้กับวงการอีสปอร์ตด้วย

ฮิวโก้ ทริสเทล (Hugo Tristão) หัวหน้าแผนกอีสปอร์ต ของ Newzoo กล่าวว่า "อีสปอร์ตกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและกำลังกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดเกมภายในภูมิภาคนี้ มีการคาดการณ์ไว้ว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีผู้ชมอีสปอร์ต ถึง 42.5 ล้านคนภายในสิ้นปี 2564 และจะมีการก่อตั้งองค์กรอีสปอร์ตใหม่ๆ รวมถึงจะมีผู้จัดทัวร์นาเมนต์ที่จะเริ่มเข้าสู่ตลาด ซึ่งรวมไปถึงบริษัทที่ถ่ายทอดการแข่ง และบริษัทที่เชี่ยวชาญทางการตลาดอีกด้วย"

ความสนใจด้านอีสปอร์ตที่เพิ่มขึ้นของประชาชนยังเปลี่ยนแปลงวิธีการในการแชร์และเสพคอนเทนต์ ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงจากการเข้าชมการถ่ายทอดการแข่งขัน ซึ่งค่ายเกมเป็นผู้จัดทำและเป็นเจ้าของ ไปเป็นการเข้าชมการแข่งขันผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวิธีการจัดการสิทธิของสื่อ และจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของตลาดและการสนับสนุนของสปอนเซอร์ในวงการอีสปอร์ตต่อไป

- การขับเคลื่อนเชิงบวก
นอกจากนี้ การเติบโตของอีสปอร์ตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เปิดโอกาสให้มีสายอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้น นอกจากผู้เล่นเกมจะสามารถสร้างอาชีพจากสิ่งที่ชอบได้แล้ว ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีการเกิดอาชีพหรือสายอาชีพใหม่ๆ เช่น คอนเทนต์ครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย นักพากย์เกม ผู้จัดการ และโค้ช รวมถึงองค์กรอีสปอร์ตระดับใหญ่ที่ต้องตั้งทีมหลังบ้านขึ้นมารองรับการทำธุรกิจสำคัญๆ เช่น การตลาดและการเงิน

นอกจากนี้ อีสปอร์ตยังได้รับความน่าเชื่อถือและการยอมรับในแวดวงวิชาการ ดังเช่นที่มหาวิทยาลัยเอเชียแปซิฟิกแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศมาเลเซีย (Asia Pacific University of Technology & Innovation: APU) ได้มีการจัดทำหลักสูตรประกาศนียบัตรทักษะทางอีสปอร์ต ส่วนในประเทศอินโดนีเซีย อีสปอร์ตก็กำลังเติบโตและสร้างสายอาชีพที่หลากหลายสำหรับคนที่มีความสามารถทางนี้ด้วย

การที่อีสปอร์ตได้รับการบรรจุให้เป็นกีฬาที่สามารถชิงเหรียญได้ครั้งแรกในซีเกมส์ปี 2562 นั้น ยิ่งทำให้เห็นความสำคัญและความน่าดึงดูดใจของวงการนี้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอีสปอร์ตบนมือถือนั้นจะมีการเติบโตอย่างมากในอีกไม่กี่ปีหลังจากนี้ จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี การลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งไปสู่การรักษาอีโคซิสเต็มนี้ และความยอมรับที่เพิ่มขึ้นว่าอีสปอร์ตเป็นกีฬาจริงๆ ที่ต้องใช้ทั้งทักษะ ความสามารถ การแข่งขัน และความบันเทิง

- ผลกระทบจากโรคระบาด
แม้ว่าจะมีโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง วงการอีสปอร์ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ยังดำเนินต่อไปท่ามกลางความท้าทายต่างๆ โดยผู้ให้บริการ ผู้พัฒนา ค่ายเกม และผู้จัดงานอีเวนท์ ได้มีการลงทุนในเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเล่นเกม การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเล่นเกมที่เป็นธรรม รวมทั้งการสร้างประสบการณ์การชมทัวร์นาเมนต์ออนไลน์ให้ดีขึ้นไปด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ตลอดปี 2563 ที่ผ่านมา มียอดการเข้าชมการแข่งขัน PUBG MOBILE (พับจี โมบาย) มากกว่า 200 ล้านชั่วโมง เจมส์ ยาง (Yang) ตั้งข้อสังเกตว่า มีผู้คนจำนวนมากที่เข้าชมการเล่นเกมและการแข่งขันอีสปอร์ตออนไลน์ ถึงแม้ว่าผู้เข้าชมบางส่วนนั้นไม่ได้เป็นผู้เล่นเกมก็ตาม นายยางคาดว่าฐานจำนวนผู้ใช้และผู้ติดตามใหม่ที่ได้มาในช่วงโรคระบาดจะคงอยู่ หลังจากที่ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตในวิถีใหม่ โดยผู้เข้าร่วมการเสวนานี้ยังเชื่อว่า การจัดงานในรูปแบบไฮบริด ที่ผสมทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ น่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นหลังโรคระบาดนี้หมดไป

เอกสารไวท์เปเปอร์ดังกล่าวได้สรุปใจความไว้ว่า ความชอบในการเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือที่ไม่เหมือนใครของคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าวงการนี้จะยังคงเติบโตขึ้นในปีต่อๆ ไป และอีสปอร์ตบนโทรศัพท์มือถือจะยังเป็นอันดับหนึ่งของการเล่นเกมในภูมิภาคนี้

นายยาง (Yang) กล่าวว่า "อีสปอร์ตเป็นเทรนด์สำคัญที่ยากจะมองข้าม และจะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและนอกวงการ จากการร่วมมือกันในการพัฒนาและเสริมสร้างอีโคซิสเต็มของอีสปอร์ต ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและนวัตกรรมทั้งในภูมิภาคและทั่วโลกอย่างอย่างแน่นอน"
#6145
ส่งภาพภายนอก ภายใน พร้อมรายละเอียดของรถมาที่
ID Line : nopcartoday
#6146


ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโควิด-19 ยังแพร่ระบาดทั่วโลก แต่หลายประเทศเริ่มปรับตัวและรับมือเพื่อให้ภาคธุรกิจดำเนินต่อไปได้ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัวได้สูงถึง 6% โดยได้อานิสงส์จากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาทิ สหรัฐฯ จีน และบางประเทศในยุโรป โตมากกว่า 6% ซึ่งประเทศเหล่านี้มีสัดส่วนเกินกว่า 50% ของ GDP โลก เป็นผลจากความพร้อมในการผลิตวัคซีนเองและฉีดให้แก่ประชาชนของตนเองได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับความพร้อมของเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยต่อไปว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้น เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศมาตรการล็อกดาวน์ โรงงานในบางพื้นที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากจนต้องหยุดการผลิต ท่ามกลางอุปสงค์ในประเทศที่ยังมีความเปราะบาง จนหน่วยงานเศรษฐกิจสำคัญหลายแห่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวเพียงราว 1% ขณะที่การท่องเที่ยวยังรอวันฟื้น "การส่งออก" จะกลายเป็นพระเอกประคับประคองและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังปี 2564 ต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวถึง 15.5% โดยได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาดี สินค้าไทยบางส่วนตอบรับกระแส New Normal ได้ดี และเงินบาทอ่อนค่า โดยคาดว่าในปี 2564 ภาคส่งออกจะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่า 10% ขณะที่ปัจจัยลบที่ยังต้องจับตามองได้แก่ การแพร่ระบาดของโควิด-19 และการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย การขาดแคลนวัตถุดิบและตู้คอนเทนเนอร์สำหรับธุรกิจส่งออก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดความชะงักงันของกิจการ Logistics ที่มีผู้ติดเชื้อและการตรวจสอบที่เข้มงวด จนทำให้จำนวนตู้คอนเทนเนอร์กลับเข้าสู่ภาวะไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน

ดร.รักษ์ กล่าวว่า EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีภารกิจส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกและการลงทุนระหว่างประเทศ ตลอดจนธุรกิจของผู้ประกอบการไทยที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ จึงขานรับนโยบายกระทรวงการคลัง เร่งขับเคลื่อนการฟื้นตัวของภาคส่งออกและเศรษฐกิจไทยอย่างรวดเร็วตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการค้าระหว่างประเทศ โดย "พัฒนา 4 ปัจจัยสู้วิกฤตโควิด-19 ควบคู่กับการตอบโจทย์โลกวิถีใหม่" เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของภาคส่งออกและเศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังปี 2564 ดังนี้



1. พัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ ตอบรับกระแส New Normal EXIM BANK จะเป็น Lead Bank สนับสนุนการลงทุนทั้งในและต่างประเทศในอุตสาหกรรมใหม่ อาทิ พลังงานทดแทน พาณิชยนาวีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และอุตสาหกรรมสีเขียว ดิจิทัล และสุขภาพ (Green, Digital, Health : GDH)

2. พัฒนา SMEs ให้เป็นผู้ส่งออกรายใหม่เพิ่มมากขึ้น จากจำนวนผู้ส่งออก SMEs ของไทยในปัจจุบันมีไม่ถึง 1% ของ SMEs ทั้งประเทศซึ่งมีจำนวน 3.1 ล้านราย EXIM BANK พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำและอบรมบ่มเพาะผู้ประกอบการ SMEs ในทุกระดับ ผ่านกิจกรรมของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้าของ EXIM BANK (EXIM Excellence Academy : EXAC) รวมทั้งให้บริการทางการเงินรูปแบบใหม่ ๆ ที่จะทำให้ SMEs เข้าสู่ธุรกิจส่งออกได้ทันที อาทิ สินเชื่อเครือข่ายครบวงจร (EXIM Supply Chain Financing Solution) เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ SMEs ที่เป็น Suppliers ของผู้ประกอบการรายใหญ่โดยไม่ต้องใช้หลักประกันเพิ่ม

3. พัฒนา Pavilion สำหรับการค้าออนไลน์ ภายใต้ชื่อ "EXIM Thailand Pavilion" เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยรายเล็กซึ่งมีข้อจำกัดในการเข้าถึงช่องทางดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นวิธีการค้าขาย การโพสต์สินค้า ตลอดจนขีดจำกัดด้านเงินทุน มีโอกาสค้าขายกับคู่ค้าในต่างประเทศทางออนไลน์ได้อย่างประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รับการสนับสนุนทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงินจาก EXIM BANK และหน่วยงานพันธมิตรควบคู่ไปด้วย

4. พัฒนาผลิตภัณฑ์ครบวงจรเพื่อเสริมสภาพคล่องและป้องกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ไทย รวมทั้งมาตรการ "พักหนี้" และ "เติมทุน" เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและผู้ประกอบธุรกิจส่งออกและเกี่ยวเนื่อง ผู้นำเข้า และนักลงทุนจากผลกระทบของโควิด-19 ตามนโยบายของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวต่อไปว่า การพัฒนาดังกล่าวข้างต้นสอดคล้องกับนโยบาย Dual-track Policy ของ EXIM BANK ในการทำหน้าที่เป็น "ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank)" ขับเคลื่อนการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยให้ก้าวผ่านภาวะวิกฤตและมีโมเมนตัมการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และยั่งยืน มุ่งสู่อุตสาหกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจในโลกยุค ใหม่

ขณะเดียวกัน EXIM BANK ยังทำหน้าที่เป็น
"ศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศให้แก่ SMEs (One Stop Trading Facilitator for SMEs)" ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของภาคธุรกิจสามารถผันตัวเป็นผู้ส่งออกและขยายธุรกิจส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืน โดย EXIM BANK จะเร่ง 'ซ่อม' ด้วยการช่วยเหลืออุตสาหกรรมที่วิกฤตและกระตุ้นให้ตลาดกลับมาน่าสนใจ 'สร้าง' อุตสาหกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตและการดำเนินธุรกิจในโลกอนาคต 'เสริม' ความสมดุลของการค้าและการลงทุนในตลาดหลักควบคู่กับตลาด New Frontiers รวมทั้งบุกเบิกโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศ ขณะเดียวกัน จะเป็นผู้ให้บริการครบวงจรร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรในการเติมความรู้ ทุน และศักยภาพ เพื่อช่วยให้ SMEs ค้าขายระหว่างประเทศได้อย่างประสบความสำเร็จและเป็นส่วนหนึ่งของ Supply Chain ของผู้ส่งออกที่แข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างมั่นใจ

"EXIM BANK จะเร่งพัฒนาปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้ภาคการส่งออกและเศรษฐกิจไทยเติบโตได้แม้ในภาวะวิกฤตและยั่งยืนต่อไปในอนาคต ซึ่ง EXIM BANK พร้อมเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและให้เครื่องมือทางการเงินสำหรับบริหารจัดการธุรกิจของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการนำเข้าเครื่องจักร และเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้า แม้ว่าผู้ส่งออกจะได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าลงในระยะสั้น แต่ภูมิคุ้มกันของผู้ส่งออกคือ ความแตกต่างอย่างโดดเด่นของสินค้าและบริการที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในโลกยุคใหม่ภายใต้วิถีใหม่ในระยะข้างหน้าได้" ดร.รักษ์ กล่าว
#6148












ขายบ้านเดี่ยว บ้านไม้ 2 ชั้น ต.สระแจง อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี 116 ตารางวา ขาย 900000 บาท  ติดถนนคอนกรีต คสล. หน้ากว้าง รถสวนกันได้  ทางหลวงชนบท สห 4037 น้ำไฟพร้อม  ใกล้ตัวเมือง  ใกล้สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์  ใกล้แหล่งเจริญ อยู่ในแหล่งชุมชน  ดินดีอุดมสมบูรณ์ อยู่ในจังหวัดที่ผืนแผ่นดินมีคุณค่าทั้งทางใจและทางประวัติศาสตร์ ที่บรรพบุรุษเสียเลือดเนื้อปกป้องผืนแผ่นดินมาเพื่อลูกเพื่อหลาน จังหวัดสิงห์บุรีแม้นเป็นจังหวัดเล็กๆแต่ก็ถือเป็นจังหวัดทางภาคกลางที่มีความเจริญรุ่งเรือง  มีโบราณสถานและโบราณวัตถุหลายสิ่งอย่างให้น่าศึกษาค้นหา ที่ตั้งสิ่งปลูกสร้างอยู่บนโฉนดเลขที่ 29551 เลขที่ดิน 255 หน้าสำรวจ  1372 ต.สระแจง อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ตัวบ้านออกแนวโบราณเก่าแก่  เน้นอาศัยตสมวิถีไทยพื้นบ้าน เป็นลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้น ใต้ถุนสูง   ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเจริญแหล่งชุมชนสถานที่สำคัญๆ

สนใจโทร  083-712-4115
LINE  ID : 0837124115

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=122558699841673&id=100062626307647

https://www.google.com/maps/place/14%C2%B053'41.2%22N+100%C2%B014'48.8%22E/@14.894775,100.2468791,17z
#6149


นักวิชาการ อธิบาย "ฟาวิพิราเวียร์" ลุ้นวิกฤตขาดแคลน ระบุ เหตุขั้นต่ำ 15 ล้านเม็ดต่อเดือนในภาวะควบคุมได้ดี แต่ที่น่ากังวล คือ ราคาต่อเม็ดแพงกว่า 100 บาท ผู้ป่วย 1 คนไม่น้อยกว่า 75 เม็ด กลายเป็นต้นทุนที่ยากต่อการกระจายให้ประชาชนทุกระดับเข้าถึงการรักษา

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 4 ผศ.ดร.อนุภาพ สมบูรณ์สวัสดี อาจารย์ประจำภาควิชาสถิติ ผู้อำนวยการศูนย์ให้คำปรึกษาและวิจัยทางสถิติ ภาควิชาสถิติ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า งานวิจัยนี้ ใช้ข้อมูลตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. ถึง 18 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อคาดการณ์จำนวนการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ 3 แบบตามสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 คือ

Best แทนความหมายของสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด คือ ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรัดกุม วัคซีนมีประสิทธิภาพ มาตรการคลอบคลุม ประชาชนให้ความร่วมมือ เราควรมียาฟาวิพิราเวียร์ ประมาณ 15,027,913 เม็ด

.ter : สถานการณ์แพร่ระบาดระดับกลาง เราควรมียาฟาวิพิราเวียร์ ประมาณ 25,161,217 เม็ด

Base : การแพร่ระบาดไม่มีอะไรดีขึ้น เมื่อเทียบกับสถานการณ์เมื่อ มิถุนายน เราควรมียาฟาวิพิราเวียร์ ประมาณ 55,413,106 เม็ด

ส่วนสถานการณ์ที่แย่ไปกว่านี้ อาจารย์อานุภาพ กล่าวว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะ Max ที่มีการเสียชีวิตนับล้านคน ที่เชื่อว่า ก่อนจะถึงภาวะแบบร้ายแรงเช่นนี้ รัฐบาลประกาศมาตรการสกัดไว้ได้อย่างแน่นอน

ผศ.ดร.อนุภาพ กล่าวถึงกำลังการผลิตที่จะเกิดขึ้นว่า ไม่น่าจะเพียงพอจากที่ระบุไว้เพียง 5 แสนเม็ด เมื่อเทียบกับจำนวนยา ขั้นต่ำ 22 ล้านเม็ด แต่เชื่อว่ารัฐบาลสามารถแก้ปัญหานี้ได้ แต่ที่น่าตกใจ คือ ราคาที่สูงและมากกว่า 100 บาท ถือเป็นต้นทุนที่ไม่อาจรับมือกับกันทุกคน เพราะ ผู้ป่วย 1 คน อาจต้องรับประทานยา 75 – 99 เม็ด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อไวรัสที่เข้าสู่ร่างกาย
#6150
สนใจติดต่อคุณเป้ง  087-347-6299
บริษัท  สบายใจการบัญชี  จำกัด

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี