ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โฆษณาสินค้าฟรี => อสังหาริมทรัพย์ => Topic started by: luktan1479 on January 22, 2022, 05:22:22 PM

Title: CPANEL ชูกลยุทธ์ Technology Driven ลุ้นทำนิวไฮ 2 ปีซ้อน
Post by: luktan1479 on January 22, 2022, 05:22:22 PM
CPANEL ชูกลยุทธ์ Technology Driven ลุ้นทำนิวไฮ 2 ปีซ้อน ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 25%

CPANEL เปิดแผนธุรกิจปี 65 ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี (https://www.punpunsutatta.com/%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b9%87%e0%b8%84%e0%b8%95%e0%b8%b5%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b9%8a%e0%b8%9a%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b5%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%95/) (Technology Driven) ยกระดับความสามารถการแข่งขัน ลุ้นผลประกอบการทำนิวไฮ ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 25% พัฒนาเครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการดำเนินงาน หนุนความสามารถการทำกำไร พร้อมขยายฐานลูกค้าอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ โชว์ Backlog 1,190 ล้านบาท ไตรมาสแรกจ่อเซ็นสัญญาลูกค้าเพิ่มกว่า 200 ล้านบาท

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด มหาชน (CPANEL) ผู้ผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในปีนี้บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี (Technology Driven) เพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการดำเนินงาน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายผลประกอบการทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 25%

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 65 บริษัทจะดำเนินการพัฒนาเครื่องจักรที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งเรื่องการออกแบบ ความรวดเร็ว ปริมาณ และคุณภาพ Precast Concrete เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงลดความผิดพลาด ความสูญเสียในการผลิต

นอกจากนี้ ยังมีแผนนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในการประสานงานกับลูกค้า การบริหารจัดการภายใน ลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่างๆ ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถการทำกำไรมากขึ้น

ส่วนแผนการขยายฐานลูกค้า บริษัทยังคงรักษากลุ่มลูกค้าเดิมและเดินหน้าทำตลาดแนะนำผลิตภัณฑ์กับลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นกลุ่มผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ที่มีแนวโน้มขยายโครงการทั้งแนวราบและแนวสูง ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 1,190 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 74% แนวสูง 16% ทยอยรับรู้ภายใน 3 ปี นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 1/65 บริษัทอยู่ระหว่างรอสัญญาจากลูกค้าแนวราบ 4 ราย แนวสูง 2 ราย มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาท

ขณะที่ ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์มีสัญญาณที่ดี เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศเริ่มทยอยฟื้นตัว กำลังซื้อผู้บริโภคกลับมาในหลายพื้นที่ ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการปลดล็อค LTV ส่งผลให้โครงการบ้านยังเป็นที่ต้องการ โดยเฉพาะระดับกลาง-บน ซึ่งเป็นฐานลูกค้าของบริษัท ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จึงวางแผนการลงทุนโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะใช้ Precast Concrete มากขึ้น

"จากแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าการแข่งขันของผู้ประกอบการจะยิ่งสูงขึ้น โดยต้องการความรวดเร็วในการส่งมอบงานได้ทันเวลา ลดต้นทุนการก่อสร้าง ลดจำนวนแรงงาน อีกทั้งสามารถรักษาเงินทุนหมุนเวียน (Working Cap) ในการดำเนินงานได้

Precast Concrete สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ดี เนื่องจากเทคโนโลยีกระบวนการผลิตที่สั้น ตั้งแต่ออกแบบจนถึงส่งมอบบ้านหลังแรกได้ภายใน 15 วันและหลังถัดไปได้ประมาณ 7 วันนับจากวันที่ลูกค้ายืนยันแบบ CPANEL จึงได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้" นายชาคริต กล่าว