• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Fern751

#2721


นายสาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19ที่เกิดขึ้นเปรียบได้กับสงครามโลก เพราะทุกคนต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก การจะผ่านไปได้ต้องผนึกองค์กรความรู้ของสหวิชาชีพด้านการแพทย์ร่วมกัน ทั้งการแบ่งปันข้อมูล แชร์ริ่ง องค์ความรู้ เพราะการรักษาคนไข้หนึ่งคนจำเป็นต้องผสานความรู้ ความสามารถทั้งจากอายุรกรรม แพทย์ที่เชี่ยวด้านโรคปอด โรคไต หรือการติดเชื้อ และแพทย์ด้านระบาดวิทยา ซึ่งโรงพยาบาลปริ้นซ์เองมีการหารือร่วมกับโรงพยาบาลอื่น เพื่อทำการรักษาให้ได้ผลอย่างดีสุด

จุดพลุดิจิทัลแพลตฟอร์ม

นอกจากนี้ ในอนาคตจะได้เห็นก้าวกระโดดหรือ Jump Start ของการนำเอาเทคโนโลยีมาพัฒนาในอุตสาหกรรมทางการแพทย์หรืออุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ในหลายๆมิติ ซึ่งจะได้เห็นเวอร์ชั่ล ฮอทปิทอล และ ดิจิทัล เฮลท์แคร์ ซึ่งจะเกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย เพราะโควิด-19 เข้ามาเป็นตัวเร่ง ซึ่งจะเป็นโอกาสให้อุตสาหกรรมด้านสุขภาพจำเป็นต้องเร่งพัฒนาและปรับตัวอยู่เสมอ

"การทำ Home Isolation คือการดิสรัปชั่นการรักษาตัวในโรงพยาบาล 100% เพราะคนไข้ไม่ต้องมาพบหมอ แต่ใช้เทคโนโลยีในการปรึกษา ตรวจรักษาตลอด 14 วันที่ต้องกักตัว ใช้ระบบไอทีในการส่งยา ตรวจเชื้อผ่านแลป ตรงนี้เองคือโอกาสที่เราต้องมองว่าเมื่อจบโควิดหรือสถานการณ์คลี่คลายแล้วนั้น การประยุกต์ใช้ดิจิทัล แพลตฟอร์ม ด้านเฮลท์แคร์จะมีความสำคัญอย่างที่สุด"

ผนึกพาร์ทเนอร์เสริมแกร่ง

เขา กล่าวเสริมอีกว่า ในฐานะของโรงพยาบาลปริ้นซ์ที่มองเรื่องสุขภาพต้องผนึกกับเทคโนโลยีมาโดยตลอด โรงพยาบาลเองมีการวิจัยอาร์แอน์ดีในเรื่องดังกล่าว เพื่อจะพัฒนาตัวเองไปถึงการทำเฮลท์แคร์แพลตฟอร์ม 4.0 เกิดการประยุกต์ของเทคโนโลยีผ่านการบูรณาการในทุกๆด้านที่เกี่ยวข้อง เพราะเทรนด์ของดิจิทัล เฮลท์แคร์ของโลกเติบโตอย่างมาก มีการใช้เอไอในการอ่านฟิลม์ เอ็กซ์เรย์ มีการนำเอาเครื่องมือมาช่วยสนับสนุน

ดังนั้น กุญแจแห่งความสำเร็จ (Key Succes) ส่วนตัวมองว่า การพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วมจะเป็นทางที่สร้างโอกาสให้เกิดความสำเร็จมากที่สุด ทั้งการทำพันธมิตรกับเด็กรุ่นใหม่ สตาร์ทอัพ เราอาจมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ แต่ในด้านความรู้เท่าทันเอไอ บลอกเชน แมชชีน เลิร์นนิ่ง อาจจะไม่ได้ชำนาญเท่าเด็กรุ่นใหม่ ตรงนี้คือสิ่งที่เรามองว่าจะเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ

"การทำธุรกิจในยุคใหม่การมองหาพาร์ทเนอร์ ชิพ ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางมาเสริมให้กับองค์กรของเรา เป็นสิ่งที่ต้องรับเอามาปรับใช้ การโตได้หรืออยู่รอดในธุรกิจหากเราไม่เก่งเรื่องใดก็หาคนเก่งๆมาช่วยทำ"

นายสาธิต กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับอุตสาหกรรมทางด้านสาธารณสุขแล้ว การปกป้องข้อมูลหรือเรื่องความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวของคนไข้ก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ เพราะข้อมูลการรักษาพยาบาลก็มีความสำคัญอย่างมากไม่แพงข้อมูลส่วนบุคคลด้านๆอื่น

ปัจจุบัน โรงพยาบาลเองได้นำเอาคลาวด์ เทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลคนไข้ที่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดต้องมีการรักษาผ่านสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ เพื่อไม่ให้เกิดภัยด้านไซเบอร์ ซิเคียวริตี้
#2722
เพราะ "จุดด่างดำ" ที่เป็นอุปสรรคความสวยใสของผิวพรรณเกิดขึ้นได้จากสาเหตุที่หลากหลาย ทั้งการเผชิญหน้ากับแสงแดดมลภาวะ การมีปัญหาสิวอักเสบ ไปจนถึงฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป คงจะดีไม่น้อยหากเรามีผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยปรับโทนสีผิว ลดความหมองคล้ำพร้อมปกป้องการเกิดจุดด่างดำใหม่ได้ในหนึ่งเดียว





ขอแนะนำ Clearly Corrective™ Dark Spot Solution  เซรั่มเพื่อผิวกระจ่างใสที่ติดอันดับขายดีในไทยมาแล้วถึง 4 ปีซ้อน ตัวช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนและป้องกันการเกิดจุดด่างดำอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว


Dark Spot Serum กับประสิทธิภาพลดเลือนจุดด่างดำและรอยสิวได้ฉับไว 

  • "จุดด่างดำ" เป็นภาวะที่ผิวหนังบางจุดมีสีเข้มขึ้นกว่าปกติ โดยมีสาเหตุจากร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไปในบางตำแหน่ง ซึ่งอาจเกิดได้ทั้งจากแสงแดด กรรมพันธุ์ อายุ การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน รวมไปถึงอาการบาดเจ็บหรืออักเสบของผิวกรณีที่เป็นสิว ส่งผลให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ สีผิวไม่กระจ่างใส ไม่สม่ำเสมอ

  • การรับมือกับปัญหาจุดด่างดำ รอยสิว และสีผิวไม่สม่ำเสมอคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากแอคติเวเต็ดซี (ACTIVATED C) ซึ่งเป็นวิตามินซีออกฤทธิ์เร็ว ช่วยลดความเข้มและปรับสีของเม็ดสีที่ปรากฏ วิตามินซีตัวนี้มีคุณลักษณะพิเศษคือการซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้การปรับสีผิวเป็นไปได้อย่างฉับไว ผู้ใช้สามารถสัมผัสได้ถึงผลลัพธ์ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ใช้งานและสามารถเห็นผลลัพธ์คือใบหน้าที่ขาวกระจ่างใสมากขึ้นเมื่อใช้เซรั่มลดจุดด่างดําเป็นประจำครบ 2 สัปดาห์
เซรั่มลดรอยสิว จาก Kiehl's เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสพร้อมปกป้องจุดด่างดำไม่ให้เกิดขึ้นใหม่

  • ซาลิไซลิกแอซิด (Salicylic Acid) ใน Clearly Corrective™ Dark Spot Solution เป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนละเอียดขึ้นกว่าเดิม เมื่อผสานเข้ากับพลังของ ACTIVATED C ยังสามารถมอบคุณสมบัติควบคุมค่าความเป็นกรดด่าง(pH) มีประสิทธิภาพป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่และการเปลี่ยนสีของผิวรูปแบบอื่น ๆ ได้ในอนาคต

  • นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ยังมีการเติมส่วนผสมสำคัญจากสารสกัด White Birch ที่ช่วยฟื้นฟูและมอบสารอาหารให้แก่ชั้นผิว ช่วยสร้างคอลลาเจน เพิ่มความเนียนนุ่มอิ่มฟูให้ผิวคุณ
 เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เช็ดให้แห้งและปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์ก่อนทา เซรั่ม Dark spot ให้ทั่วใบหน้า นวดเบาๆ เพื่อช่วยการซึบซาบสู่ผิว ภายในเซรั่มคีลส์ขวดนี้มีสีใส เนื้อเหลวบางเบา มีกลิ่นสมุนไพรหอมอ่อนๆ บรรจุในขวดแก้วใสหรูเป็นเอกลักษณ์ มีหัวดรอปเปอร์ช่วยดูแลความสะอาดและช่วยให้ใช้งานได้สะดวก
#2723


caverta ราคา ถูก ของแท้ ออกฤทธิ์ภายใน 30 นาที คาเวอร์ต้า อาหารเสริมผู้ชาย แข็งตัวต่อเนื่อง ต่อรอบได้หลายรอบ ส่งฟรี เก็บเงินปลายทาง

caverta ราคา
1 แผง 4 เม็ด

ส่งฟรี เก็บเงินปลายทาง

1 แผง ราคา 200 บาท / แผงละ 200 บาท

3 แผง ราคา 450 บาท / แผงละ 150 บาท

5 แผง ราคา 700 บาท / แผงละ 140 บาท

7 แผง ราคา 910 บาท / แผงละ 130 บาท

9 แผง ราคา 1,080 บาท / แผงละ 120 บาท

25 แผง ราคา 2,500 บาท / แผงละ 100 บาท

50 แผง ราคา 4,500 บาท / แผงละ 90 บาท

100 แผง ราคา 8,000 บาท / แผงละ 80 บาท

วิธีรับประทาน
ทาน 1 เม็ด ขณะท้องว่าง ดีที่สุด.
ยาจะออกฤทธิ์ ประมาณ 12 ชม
ดื่มน้ำตามเยอะๆเป็นน้ำอุ่นจะดี ยาออกฤทธิ์ไว.
ใน 1 วัน ห้ามทานยาเกิน 1 เม็ด (เพราะเป็นปริมาณยาที่ร่างกายสามารถขจัดได้เอง โดยไม่สะสมในร่างกาย).
ห้ามดื่มแอลกอฮอลล์ประสิทธิภาพของยาจะลดลง

caverta ให้ผลอย่างไร
ช่วยทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้น
ยืดเวลาการมีเพชสัมพันธุ์ ชะลอหลั่งไว
จะมีกิจกรรมตอนไหนก็ได้แค่มีการกระตุ้น
อาการข้างเคียง

สำหรับคนที่ร่างกายปกติ ที่เกิดจากทานยาไวอากร้า ก็มี ปวดหัว หน้าแดง ตาพร่า ใจเต้นแรง แล้วก็ตาแพ้แสงผลข้างเคียงนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละบุคคล บางคนก็ไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ

คำเตือนยา คาเวอร์ต้า
ห้ามใช้ยากับเด็ก สตรีที่ให้นมบูตร
ห้ามใช้ยาปลุกเซ็กส์กับบุคคลที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคความดัน และมีโรคประจำตัวอื่นๆ
ไม่แนะนำให้ใช้ในเด็ก และไม่มีข้อบ่งใช้ในเพศหญิง

วิธีสั่งซื้อสินค้า คาเวอร์ต้า
1. ทัก ไลน์ หรือ ข้อความ แจ้งแอดมิน เลือกของที่ท่านอยากได้ บอกจำนวนสินค้า
2. รอรับสินค้า 1-2 วันทำการ ท่านสามารถรับสินค้าก่อน แล้วจ่ายเงินกับพนักงานขนส่งที่หน้าบ้านได้เลยครับ

Tags :: caverta ราคา,คาเวอร์ต้า ราคา,caverta เก็บเงินปลายทาง
#2724


วันนี้ (18 ส.ค.) องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมเฉลิมฉลองวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย รัชกาลที่ 4 เปิด "กิจกรรมเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2564" จัดเต็มกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในรูปแบบออนไลน์ เต็มอิ่มกับกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ที่สนุกสนานและหลากหลายที่จะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านทาง Facebook : NSM Thailand

โดยปีนี้ อพวช. ได้จัด "กิจกรรมเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2564" ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งขนกิจกรรมความสนุกด้านวิทยาศาสตร์มาไว้ในงานนี้มากมาย โดยจัดขึ้นตลอดเดือนสิงหาคม เพื่อเผยแพร่ความรู้ ประสบการณ์ และโอกาสการมีส่วนร่วมกับประชาชนในกิจกรรมรูปแบบออนไลน์ โดยผ่านช่องทางสื่อสารของ อพวช. ได้แก่ Facebook : NSM Thailand , Website : www.nsm.or.th , YouTube : NSM Thailand และ Facebook พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ของ อพวช. ที่จะนำความรู้ควบคู่กิจกรรมความสนุกมาสลับหมุนเวียนให้ชมและร่วมสนุกกันตลอดเดือนวิทยาศาสตร์ไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม แก่เยาวชนและประชาชนทั่วประเทศ

ด้าน ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า "เนื่องในวันที่ 18 สิงหาคมของทุกปี อพวช. ได้จัดกิจกรรมเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อ ร่วมเทิดพระเกียรติพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย รัชกาลที่ 4 และร่วมเฉลิมฉลองวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ อีกทั้งเป็นการสร้างความตระหนักและสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ให้แก่สังคมไทย แต่ปีนี้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมได้ตามปกติ จึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานขึ้นใหม่ในรูปแบบออนไลน์ในครั้งนี้ขึ้น

สำหรับกิจกรรมพิธีเปิดในวันที่ 18 สิงหาคม 2564 วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ อพวช. ได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมฯ ดังกล่าว นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมความสนุกมากมายภายในงาน อาทิ ชมภาพยนตร์สารคดี เรื่อง "ตามรอยเสด็จฯ ร.4 สู่การชมสุริยุปราคา ณ หว้ากอ" , งานเสวนาวันวิทยาศาสตร์ไทย โดย อ.จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา เรื่อง "ย้อนรอยวิทย์ศิลป์ถิ่นบางกอก" และถือเป็นโอกาสพิเศษที่ อพวช. มีการเปิดตัว YouTube NSM Thailland อย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมยังมีการประกาศผลรางวัล NSM Junior Science Influencers ภายในงานนี้อีกด้วย

สำหรับกิจกรรมในเพจ Facebook พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ของ อพวช. ต่างๆ ยังเตรียมกิจกรรม ที่ส่งเสริมประสบการณ์ในด้านวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจตลอดเดือนสิงหาคม 2564 ได้แก่ กิจกรรมเที่ยวทิพย์กับตึกลูกเต๋า โดยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ , กิจกรรม Explore Technology โดยพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ,กิจกรรม Hands on เรื่องกระดูก โดย พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา,กิจกรรมโหลดภาพธรรมชาติจากมุมมอง นักธรรมชาติวิทยา โดยพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า , กิจกรรม Explorium @Home ชวนสวมบทบาทนักสำรวจธรรมชาติ โดย จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. @ เดอะสตรีท รัชดา เป็นต้น

สำหรับผู้สนใจร่วมสนุกใน "กิจกรรมเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2564" ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : NSM Thailand
#2725


นางสุดปรารถนา ดำรงชัยธรรม ผู้อำนวยการ - ทรัพยากรบุคคล "เคทีซี" กล่าวว่า "เนื่องจากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในวงกว้างรุนแรงมากขึ้น เคทีซีจึงได้ปรับแผนการเรียนการสอนของโครงการ "เรียนรู้ ต่อยอด ยั่งยืน" ปี 3 ในรูปแบบออนไลน์ และบันทึกวีดิโอผ่านช่องทางของโรงเรียน โดยใช้หลักสูตรและสานต่อแนวคิดการแบ่งปันความรู้จากรุ่นสู่รุ่น (Train the Trainer) โดยวิทยากรภาษามือจากคุณครูและนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษา ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเคยเป็นผู้รับในปีทื่ 2 จะเป็นผู้ร่วมส่งต่อความรู้ในปีที่ 3 ให้กับเพื่อนๆ โรงเรียนโสตศึกษา นนทุบรี ซึ่งเป็นโรงเรียนการศึกษาพิเศษ สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 จำนวน 49 คน"

"ความสำเร็จของโครงการฯ สองครั้งที่ผ่านมา มีนักเรียนและครูที่เข้าร่วมในโครงการรวม 156 คน จากโรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ และโรงเรียนโสตศึกษา ทุ่งมหาเมฆ โดยเคทีซีเน้นให้ความสำคัญกับการแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์ให้แก่สังคม โดยเฉพาะการส่งเสริมให้คนในสังคมพัฒนาอาชีพสร้างรายได้เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ตลอดจนสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยให้มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม"

"โครงการ "เรียนรู้ ต่อยอด ยั่งยืน" ริเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2562 ด้วยเชื่อมั่นว่าการบกพร่องทางกายของเยาวชนมิใช่อุปสรรคในการเรียนรู้ หากได้รับโอกาสในการพัฒนาที่เหมาะสม จึงได้นำการเรียนรู้เพาะเห็ด ออร์แกนิค ตามวิถีเกษตรพอเพียง และความรู้ทางการเงิน เข้ามาเป็นหลักสูตรการสอน โดยเน้นการลงมือปฏิบัติและพัฒนาความรู้ไปสร้างอาชีพ ตลอดจนสามารถส่งต่อเครือข่ายองค์ความรู้ให้กับสังคมต่อไป"

นายสมชาย บ้านไร่ ผู้อำนวยการ โรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า "โครงการเรียนรู้ ต่อยอด ยั่งยืน" ปี 3 นี้จะเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ได้ศึกษาเรียนรู้ในเรื่องการเพาะเห็ด และการทำผลิตภัณฑ์จากเห็ดเต็มรูปแบบ ทั้งการเพาะ การดูแล การแปรรูป การออกแบบผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย ซึ่งถือว่านักเรียนที่ได้เข้าร่วมโครงการจะสามารถนำความรู้พื้นฐานนี้ไปต่อยอดพัฒนาการเรียนรู้ในวิชาอื่นๆ และประกอบอาชีพต่อไป ขอขอบคุณเคทีซี โรงเรียนโสตทุ่งมหาเมฆ และฟาร์มเห็ดโพธิ์ทอง ที่ให้โอกาสและสนับสนุนนักเรียนได้เข้าร่วมโครงการนี้ ทางโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนนทบุรีจะพยายามเรียนรู้ สร้างองค์ความรู้ ทักษะการประกอบอาชีพอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้นักเรียนได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้"

"นางจุฑารัตน์ เรืองเดช รักษาการผู้อำนวยการ โรงเรียนโสตศึกษา ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า "ในปีการศึกษา 2563 โรงเรียนได้รับเกียรติจากเคทีซี และโรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ ส่งต่อโครงการ "เรียนรู้ ต่อยอด ยั่งยืน ปี 2" ซึ่งนอกจากโรงเรียนจะได้รับโรงเพาะเห็ดที่มีมาตรฐาน และก้อนเชื้อเห็ดที่มีคุณภาพแล้ว สิ่งที่มีคุณค่าและประโยชน์ยิ่งก็คือ การส่งมอบความรู้ ประสบการณ์ และกระบวนการจัดการ จากโรงเรียนเศรษฐเสถียรและเคทีซี รวมถึงฟาร์มเห็ดโพธิ์ทองที่เคทีซีจัดให้นักเรียนไปศึกษาดูงาน เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจ โดยตลอดระยะเวลาที่ร่วมโครงการ นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการทำโรงเพาะเห็ด การบริหารจัดการโครงการ การดูแล-เก็บเกี่ยวผลผลิต การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารต่างๆ ก่อให้เกิดรายได้ ทั้งยังสร้างให้นักเรียนเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ มีภาวะผู้นำ เป็นประโยชน์โดยตรงแก่นักเรียน ในขณะที่คณะครูผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันจัดประสบการณ์ เพื่อผลักดันให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ จนทำให้ "เห็ด" เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของโรงเรียนที่สร้างรายได้ เป็นแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน และเป็นแนวทางสร้างอาชีพให้แก่นักเรียนได้เป็นอย่างดี และในปีนี้เป็นความยินดียิ่งของโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ ที่จะได้ส่งต่อโครงการที่มีประโยชน์นี้ให้กับเพื่อนต่างโรงเรียนคือ โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนนทบุรี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ "เรียนรู้ ต่อยอด ยั่งยืน" ปี 3 จะยั่งยืนส่งต่ออย่างต่อเนื่องไปอีกนานเท่านาน"

นางสาวเนตรนภา ขวัญสุข หนึ่งในทีมวิทยากรนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษา ทุ่งมหาเมฆ สื่อสารผ่านล่ามภาษามือถึงประสบการณ์ตอนที่เข้าร่วมเรียนรู้ในโครงการฯ ครั้งที่ 2 ว่า "ตอนที่คุณครูบอกว่า เคทีซีจะมาสร้างโรงเพาะเห็ดให้โรงเรียนของเรา และคุณครูกับเพื่อนๆ หูหนวกจากโรงเรียนเศรษฐเสถียรจะมาเป็นวิทยากรให้ความรู้ พวกเรารู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก เพราะพวกเราไม่เคยเห็น ไม่เคยทำโรงเพาะเห็ดมาก่อน โรงเพาะเห็ดที่สร้างสวยงามมาก ติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบพ่นละอองน้ำพร้อมใช้งาน"

"เมื่อฟาร์มเห็ดโพธิ์ทองมาส่งก้อนเชื้อเห็ดรอบแรก เราตกใจมาก ก้อนเชื้อเห็ดมีจำนวนมากถึง 1,800 ก้อน และเพื่อนๆ จากโรงเรียนเศรษฐเสถียร สอนให้เราเปิดปากถุง เรียงก้อนเชื้อเห็ด รดน้ำ จนวันที่เห็ดทั้งโรงพากันออกดอก เราตื่นเต้นมาก ทำไมมากมายขนาดนี้ เก็บขายครั้งละหลายกิโลกรัม เราขายกิโลกรัมละ 100 บาท โดยขายให้โรงครัวของโรงเรียน ชุมชนรอบโรงเรียน ตลาดสวนพลู และให้เป็นของที่ระลึกแก่ผู้มาบริจาค สัปดาห์ต่อๆ มาเรายังได้เรียนรู้การทำอาหารจากเห็ด สนุกและอร่อยมาก ทำบิ๊กบุ๊ค และพี่ๆ จากเคทีซียังมาสอนการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย คำนวณต้นทุน-กำไร รวมถึงออกแบบโลโก้เห็ดให้พวกเราด้วย ขอบพระคุณครูและเพื่อนๆ จากโรงเรียนเศรษฐเสถียร พี่ๆ จากเคทีซี และครูรัตน์จากฟาร์มเห็ดโพธิ์ทองมาก ที่นำสิ่งดีๆ มาให้พวกเรา และยินดีมากที่ทราบว่าปี 2564 นี้จะได้มีโอกาสนำความรู้และประสบการณ์ของพวกเรา ไปถ่ายทอดให้เพื่อนๆ และน้องๆ ที่โรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนนทบุรี เราจะทำให้ดีที่สุด ขอบคุณเคทีซีที่ให้โอกาส ให้ความรู้และประสบการณ์ดีๆ แก่พวกเรา"
#2726


รายงานข่าวจากศาลปกครองแจ้งว่า วันที่ 18 สิงหาคม 2564 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น ให้จำหน่ายคดีในข้อหาที่ฟ้องขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ที่ให้ใช้การประเมินซองที่ 2 ข้อเสนอทางเทคนิค และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน รวมกันแล้วแบ่งสัดส่วนเป็นคะแนนซองที่ 2 จำนวน 30 คะแนน และคะแนนซองที่ 3 จำนวน 70 คะแนน ในการดำเนินการคัดเลือกเอกชนเพื่อร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)

และให้คำสั่งศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ที่ให้ทุเลาการบังคับตามหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราว สิ้นผลบังคับลงไปด้วย

เนื่องจากในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองชั้นต้น คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36ฯ ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 เห็นชอบให้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีผลเท่ากับยกเลิกโครงการคัดเลือกเอกชนเพื่อร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ในครั้งนี้ไปแล้ว

โดยมติของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36ฯ ที่เห็นชอบให้แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอซองที่ 2 ข้อเสนอทางเทคนิค และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน รวมทั้งหลักเกณฑ์การประเมินดังกล่าวตามที่ระบุไว้ในเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุน เอกสารเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 อันเป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีในข้อหาที่หนึ่งจึงไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้วเช่นกัน

ดังนั้น เมื่อเหตุแห่งการฟ้องคดีในข้อหาที่หนึ่งไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว จึงไม่มีการกระทำที่ศาลปกครองจะพิจารณาพิพากษาต่อไป อันเป็นเหตุที่ศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดีในข้อหานี้ได้

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น ให้จำหน่ายคดีที่บีทีเอสฟ้องขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์การประมูล หลังจากบีทีเอสอุทธรณ์ไปตามขั้นตอน แต่ยังมีคดีที่บีทีเอสฟ้องเพิกถอนยกเลิกการคัดเลือกประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม และขอให้คุ้มครองไม่ให้คัดเลือกใหม่ ซึ่งศาลไม่คุ้มครอง แต่รับคดีไว้พิจาณา

นอกจากนี้ บีทีเอสยังยื่นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฟ้องผู้บริหาร รฟม. และพวก จำนวน 7 คน ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในคดีหมายเลขดำที่ อท 30/64 ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 165 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ซึ่งศาลยังไม่รับฟ้อง

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร วงเงิน 1.4 แสนล้านบาทนั้น รฟม.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน (Market Sounding) ประกอบการพิจารณาจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน เมื่อเดือน มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 แต่เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ยังมีความรุนแรง ประกอบกับ พ.ร.ก.ว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไม่บังคับใช้กับกรณีการคัดเลือกเอกชน และล่าสุดคณะรัฐมนตรีมีมติให้นำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับโครงการด้วย รฟม.จึงทำหนังสือขอบรรจุโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในข้อตกลงคุณธรรม ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนรอรายชื่อผู้ร่วมสังเกตการณ์ เข้าร่วมประชุม
#2727
อีกหนึ่งความสำคัญของ ประตู ที่ใช้งานภายในบ้านนั้นแม้ว่ามองโดยผิวเผินอาจจะคิดว่าเป็นอุปกรณ์ธรรมดาๆที่ไม่มีความสำคัญอะไรมากนัก แต่ความจริงแล้ว ประตูบ้านเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกๆเลยทีเดียว เพราะมีส่วนช่วยในเรื่องของคุณปลอดภัยและคุณภาพชีวิตภายในบ้านของเราเป็นอย่างมาก ความแน่นหนาของผลิตภัณฑ์ การเลือกประเภทใช้งานได้อย่างเหมาะสม รวมถึงราคาค่าใช้จ่ายและสีสันความสวยงามของประตูนั้น เรียกได้ว่าไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว มีชนิดไหนบ้างตามมาดูกันได้เลย

1. แบบบานเลื่อน

ประตูบานเลื่อน นั้นเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เพราะนอกจากจะมีความทันสมัยแล้วยังสามารถใช้งานได้ง่ายอีกด้วย ลวดลายและสีสันสวยงามที่สามารถปรับได้ตามโทนสีของบ้านที่อยู่อาศัย รวมถึงสามารถประหยัดพื้นที่และสามารถใช้งานกับห้องต่างๆได้ เช่น ห้องน้ำ, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า รวมถึงหน้าบ้าน ทำให้มีความน่าสนใจและเป็นที่นิยม

2. แบบไม้จริง

ด้วยลวดลายที่มีความขลัง เป็นเอกลักษณ์ และส่งเสริมให้ห้องต่างๆดูคลาสสิคขึ้นมาได้ จึงทำให้ได้รับความนิยมมากเช่นกัน แต่ข้อจำกัดก็มีอยู่ไม่น้อยเพราะบางครั้งโทนของบ้านที่ทันสมัยอาจไม่เหมาะสมสำหรับการใช้ในรูปแบบนี้ รวมถึงสีสันต่างๆก็มีให้เลือกไม่มากนัก จึงทำให้ไม่สามารถตกแต่งอะไรได้มากมายเท่าที่ควร รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการโดนพวกแมลงรำคาญเช่น ปลวกแทะหากเกิดความชื่นอีกด้วย

3. แบบไม้สังเคราะห์

มีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบกว่าไม้จริง และยังมีวัสดุที่แข็งแรงใช้ได้นานไม่หนัก และไม่เสี่ยงต่อการโดนปลวกแทะแม้จะถูกความชื้นอีกด้วย มีราคาที่หลากหลายแล้วแต่เกรดของวัสดุ โดยยิ่งวัสดุมีความคงทนมากเท่าไหร่ก็จะมีราคาแพงมากขึ้นเท่านั้น สามารถปรับใช้ได้กับห้องต่างๆได้มากมายหลากหลายเช่น ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว เป็นต้น

4. ผิวลามิเนต

เป็นพื้นผิวที่เน้นไปที่ความสวยงามและมีลวดลายคล้ายไม้ มีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบพร้อมโทนสีที่มีมากกว่าปกติ จึงเป็นประเภทที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลแบบครีเอทและมีความทันสมัยเป็นอย่างมากดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้น การเลือกใช้ ประตูแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมของผู้ใช้งาน ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่ามีหลากหลายเกรดและหลากหลายราคา โดยคุ้มอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิต หากต้องการวัสดุที่มีความคงทนก็อาจจะมีราคาสูงแต่แม่เทียบกับอายุ ความสวยงาม และความคุ้มค่าต่อการใช้งานแล้วนั้นก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะต้องมีการใช้งานในระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อทุกครั้งควรคำนึงให้ละเอียดถี่ถ้วนและศึกษาให้ดีอยู่เสมอ
#2728


คณะทำงานจัดการความรู้เพื่อพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ด้านพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการวิจัย (สกสว.) ได้จัดประชุมหารือเรื่อง "ทิศทางการพัฒนาพลังงานสะอาดในอุตสาหกรรมน้ำมันและการกลั่น" โดยมี รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. เป็นประธานการประชุม ร่วมหารือกับภาคีภาครัฐ ด้านพลังงาน ผู้แทนสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ตลอดจนตัวแทนจากภาคเอกชน

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยข้อมูลว่า ด้วยปัญหาภาวะโลกร้อนที่นำไปสู่สนธิสัญญาระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิด Net Zero Carbon Emission ในปี 2050 ทำให้ทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานปิโตรเลียมมาสู่การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพมากขึ้นในอนาคต โดยประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2030 ประเทศไทยจะลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20%


แม้ว่าความต้องการน้ำมันของโลก (Global oil demand) น้ำมันยังคงเป็นแหล่งพลังงานหลักในปัจจุบัน ซึ่งถูกใช้ในภาคส่วนการขนส่ง เป็นภาคส่วนหลักที่มีความต้องการใช้น้ำมันสูงสุด แม้ปัจจุบันจะมีพลังงานทดแทนอย่างอื่นก็ไม่อาจทำให้ความต้องการน้ำมันของโลก (Global oil demand) ลดน้อยลง เรียกได้ว่าน้ำมันยังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาดของพลังงานโลกอยู่ อย่างไรก็ตามหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ได้ให้ความสนใจกับการผลิต "พลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ" มาทดแทนน้ำมัน โดยคาดการณ์ว่าเชื้อเพลิงชีวภาพจะถูกนำมาใช้ในภาคการขนส่ง และอุตสาหกรรมการบินมากขึ้น แต่จะเป็นเชื้อเพลงชีวภาพแบบดั้งเดิมน้อยลง และใช้เทคโนโลยีผลิตพลังงานชีวภาพขั้นสูง (Advanced Biofuel) เช่น เทคโนโลยีผลิตพลังงานจากเศษวัสดุทางเกษตร หรือของเสียจากอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) ทดแทนมากขึ้นในอนาคต



สำหรับประเทศไทยพบว่ามีกำลังการผลิต (Supply) หลัก คือ ไบโอดีเซล และไบโอเอทานอลซึ่งเมื่อวิเคราะห์แล้วพบว่าประเทศไทยมีกำลังการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเหล่านี้มากกว่าความต้องการ (Demand) ทำให้ยังคงมีส่วนเกินในภาคการผลิต ซึ่งมองว่านี่คือโอกาสของประเทศที่สามารถรองรับสู่การผลิตสารเคมีชีวภาพมูลค่าสูงได้ ดังในสถานการณ์โควิด-19 ไบโอแอลกอฮอลล์นิยมถูกนำไปใช้ในการเจือจางเป็นเจลแอลกอฮอลล์ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อีกอันที่เป็นโอกาส คือ การผลิตสุรา แต่มีข้อจำกัดเรื่องกฎระเบียบที่ไม่สามารถผลิตแอลกอฮอลล์เพื่อมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้ และมีข้อเสนอให้ควรวางแผนการวิจัยและพัฒนาของประเทศเพื่อการขับเคลื่อนจากโมเดล BCG ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงขยับตัวให้เร็วขึ้น สิ่งที่ประเทศไทยควรดำเนินการเพื่อทำให้การวิจัยพัฒนาในเรื่องของพลังงานชีวภาพและเคมีชีวภาพเป็นรูปธรรมมากขึ้นอันนำไปสู่การยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้อย่างแท้จริง คือ



• จัดการรวบรวมองค์ความรู้ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology) ด้านพลังงานที่เคยศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาแล้วคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับชีวมวลของประเทศไทย
• สร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้รองรับการขยายขนาดจากงานวิจัยในห้องปฏิบัติการเพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม
• เพิ่มทักษะแรงงานและนักวิจัยของประเทศ ในทำการตลาด การคำนวณความคุ้มทุน โดยเร่งสร้างบุคลากรวิจัยทักษะสูงที่มี

ความเชี่ยวชาญจำเพาะเจาะจงในสารเคมีชีวภาพหรือเชื้อเพลิงนั้นๆ และอาจจำเป็นต้องร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อเกิดความร่วมมือแล้วเราจะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้เข้ามาอยู่ในประเทศ และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เรา ดังนั้นการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ในด้านพลังงานชีวภาพขึ้นมาใหม่จึงเป็นสิ่งที่ประเทศควรทำ

โดยการประชุมวันนี้ถือเป็นการหารือ โดยสกสว. จะนำข้อมูลและข้อเสนอแนะสำคัญจากผู้เข้าร่วมไปสู่กระบวนการจัดการความรู้ และพัฒนาแผนวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงานต่อไป
#2729


ตัวแทนของ "เอมมา สโตน" เปิดเผยว่าเธอตัดสินใจที่จะเซ็นสัญญา เล่นหนังภาคต่อ Cruella 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังเคยมีข่าวลือว่าดาราสาวกำลังพิจารณาฟ้อง Disney เรื่องผลประโยชน์ แต่สุดท้ายก็ตกลงกันได้

เคยมีข่าวว่า เอมมา สโตน อาจจะตัดสินใจยื่นฟ้อง Disney ตามรอย "สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน" เกี่ยวกับเรื่องที่บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ละเมิดสัญญานำหนังของพวกเธอ เผยแพร่ลงสตรีมมิ่งโดยไม่ได้รับอนุญาต

แต่สำหรับกรณีของ เอมมา สโตน ดูเหมือนว่า สตูดิโอและฝ่ายนักแสดงจะจบลงก็ลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะนอกจากจะไม่ฟ้องร้องแล้วยังมีข่าวว่า เอมมา สโตน ได้ตกลงที่จะเล่นภาคต่อของหนัง Cruella แล้วด้วย

สืบเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดหลายแห่ง ตัดสินใจ ส่งหนังเผยแพร่ผ่านระบบสตรีมมิ่งพร้อมกับการฉายในโรงภาพยนตร์ เพื่อทดแทนที่โรงภาพยนตร์จำนวนไม่สามารถเปิดกิจการได้



แต่กลายเป็นว่าแผนการดังกล่าว ได้สร้างความไม่พอใจให้กับดาราหลายคน ที่เซ็นสัญญารับส่วนแบ่งจากการขายตั๋วหน้าโรงภาพยนตร์ไว้ด้วย เพราะจะทำให้พวกเขาขาดรายได้ในส่วนแบ่งจากการขายตั๋วไป

ซึ่งดาราที่แสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจนที่สุดก็คือ สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน พี่ฟ้องร้อง Disney ว่าละเมิดสัญญา ที่เธอเซ็นเอาไว้ตอนทำหนัง Black Widow

โดยในตอนนั้นมีข่าวตามออกมาว่ามีดาราหลายคนก็อาจจะฟ้อง Disney เหมือนกัน หนึ่งในนั้นก็คือ เอมมา สโตน ที่สูญเสียผลประโยชน์จากการที่ Cruella ฉายโรงพร้อมปล่อยลงสตรีมมิ่งเช่นเดียวกัน

แต่ล่าสุดตัวแทนของ เอมมา สโตน ได้เปิดเผยว่าดาราสาวแล้ว Disney สามารถตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว และ เอมมา สโตน ก็ได้ตอบตกลงที่จะเล่นหนัง Cruella 2 ของทาง Disney เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย



ตัวแทนของ เอมมา สโตน ยอมรับว่าปัจจุบัน ธุรกิจบันเทิงและสื่อเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ทำให้บริษัทจัดจำหน่าย, ผู้สร้างสรรค์งาน รวมถึงตัวนักแสดงต้องปรับตัวเพื่อหาความลงตัวในการทำงานร่วมกันให้ได้

ซึ่งตัวแทนของ เอมมา สโตน เชื่อว่าข้อตกลงล่าสุดที่ดาราสาวทำกับ Disney มีความลงตัว และให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายอย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งตัวแทน เอมมา สโตน ยังคาดหวังว่านี่จะเป็นการเปิดประตูบานแรกไปสู่ การทำงานร่วมกันในยุคสมัยใหม่ในวงการบันเทิงของคนบันเทิงคนอื่น ๆ ต่อไปด้วย
ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดีลล่าสุดของ เอมมา สโตน และ Disney ประสบความสำเร็จลุล่วงด้วยดีก็น่าจะมาจากความสำเร็จของหนัง Cruella เองที่ทำเงินในการฉายทั่วโลกไป 226 ล้านเหรียญฯ ซึ่งถือว่าน่าพอใจไม่น้อยในภาวะเช่นนี้

แต่ที่สำคัญหนังยังทำยอดการขายผ่านสตรีมมิง Disney + ได้น่าพอใจมาก มีคนซื้อหนังไปนั่งชมที่บ้านในสัปดาห์แรกถึง 686,000 หลังคาเรือน และทำเงินให้กับ Disney แบบเต็ม ๆ ไม่ต้องแบ่งใครในสัปดาห์เดียวถึง 20.57 ล้านเหรียญฯ
#2730


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ "น้องเทนนิส" เรืออากาศตรีหญิงพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย สามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยถือเป็นเหรียญทองแห่งความสุขและความภาคภูมิใจหนึ่งเดียวของประเทศไทยที่ได้จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ นับเป็นเหรียญทองเหรียญที่ 10 ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยจากการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และเป็นเหรียญทองเหรียญแรกที่ได้จากการแข่งขันกีฬาเทควันโดอีกด้วย ในวันนี้ (16 สิงหาคม 2564) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน จึงได้มอบเงินรางวัลพิเศษรวม 4,000,000 บาท ให้แก่นักกีฬาและผู้ฝึกสอน ที่มุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักจนนำมาซึ่งความสำเร็จได้ในที่สุด โดยมีรายละเอียด ดังนี้​ 1.มอบเงินรางวัลพิเศษ จำนวน 3,000,000 บาท ให้แก่ "น้องเทนนิส" เรืออากาศตรีหญิงพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก. หญิง


2.มอบเงินรางวัลพิเศษ จำนวน 500,000 บาท ให้แก่ "น้องจูเนียร์" นายรามณรงค์ เสวกวิหารี นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 58 กก. ชาย

3.มอบเงินรางวัลพิเศษ จำนวน 500,000 บาท ให้แก่ "โค้ชเช" ชเว ย็อง-ซ็อก หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย

โดยหลังจากรับมอบเงินรางวัลแล้ว ทั้ง 3 คน ยังได้นำเงินรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ แบ่งไปเก็บออมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ด้วยการซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว หน่วยละ 5,000 บาท โดยน้องเทนนิสซื้อสลากจำนวน 200 หน่วย หรือมูลค่า 1 ล้านบาท ขณะที่​ โค้ชเช และน้องจูเนียร์ ซื้อสลากคนละจำนวน 20 หน่วย หรือ 100,000 บาท ซึ่งทุกหน่วยจะได้สิทธิ์ลุ้นเงินรางวัลสูงสุดมูลค่า 1 ล้านบาท/หมวด พร้อมด้วยรางวัลอื่น ๆ รวมถึงรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว รางวัลเลขสลับเลขท้าย 2 ตัวและ 3 ตัว ลุ้นรางวัลได้ต่อเนื่องนาน 24 เดือน และยังได้รับผลตอบแทนหน้าสลาก 0.40% ต่อปี นอกจากนี้ดอกเบี้ยและเงินรางวัลยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย

"ธอส. ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ได้ให้การสนับสนุนปีละ 17 ล้านบาท รวมแล้วกว่า 260 ล้านบาท รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยพัฒนาวงการกีฬาเทควันโดให้โดดเด่น และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีการแข่งขันระดับโลกมากกว่า 160 รายการ รวมถึงการคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเทควันโด ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 มาได้สำเร็จในครั้งนี้ ถือเป็นการทำให้คนไทยมีความสุขท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในขณะนี้ และ ธอส. ยืนยันว่าพร้อมให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโด แห่งประเทศไทยในการพัฒนาวงการกีฬาเทควันโดต่อไป เพื่อนำความภาคภูมิใจให้กับคนไทยให้ได้อย่างต่อเนื่อง"นายฉัตรชัย กล่าว

นอกจากการสนับสนุนทางด้านกีฬาให้กับสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยแล้ว ธอส. ยังคงมุ่งมั่นตามภารกิจหลักในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตลอดระยะเวลาเกือบ 68 ปี ธนาคารสร้างโอกาสให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 3.7 ล้านครอบครัว ควบคู่ไปกับการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร ทั้งทางด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา สังคมและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์/ศาสนา/ศิลปวัฒนธรรม
#2731


นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สศก.ได้ดำเนินการติดตามและประเมินผลโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ ภายใต้การใช้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการรวมกลุ่มในรูปแบบที่เหมาะสมกับพื้นที่ รวมทั้งเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้มีความกินดี อยู่ดี มีสันติสุข และสร้างความเข้มแข็งในชุมชน

จากการลงพื้นที่เพื่อประเมินผลโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก.จ.สระแก้ว ที่ได้ดำเนินการจัดที่ดินให้ผู้ยากไร้เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา พบว่ามีเนื้อที่ประมาณ 1,960 ไร่ เป้าหมายในการจัดเกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์ 313 ราย ขณะนี้มีเกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่แล้ว 156 ราย โดยเป็นการจัดสรรที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์รายละ 6 ไร่ แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยรายละ 1 ไร่ และเป็นที่ทำกินรายละ 5 ไร่ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทุกรายเป็นสมาชิกสหกรณ์ทางการเกษตรที่ได้จัดตั้งขึ้นในพื้นที่

นอกจากนี้ เกษตรกรได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการสร้างบ้าน มูลค่ารายละ 40,000 บาท ขณะนี้เกษตรกรมีการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ที่ได้รับ เช่น ปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน รวมทั้งเลี้ยงสัตว์ (โคเนื้อ) ในพื้นที่บริเวณบ้าน ส่วนที่ทำกิน 5 ไร่ ส่วนใหญ่เกษตรกรจะเพาะปลูกมันสำปะหลังเป็นหลัก ควบคู่กับการปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการจัดหาอาหารสัตว์ ทั้งนี้ มีเกษตรกรบางรายเพาะปลูกข้าวเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือนด้วย

ด้านผลสำรวจรายได้ปีเพาะปลูก 2563/64 พบว่าเกษตรกรที่เพาะปลูกมันสำปะหลังมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเฉลี่ย 2,968 บาทต่อไร่ สำหรับการเพาะปลูกข้าวและหญ้าเลี้ยงสัตว์นั้น เกษตรกรไม่ได้มีการจำหน่าย แต่นำข้าวมาบริโภคในครัวเรือน และนำผลผลิตจากหญ้าเลี้ยงสัตว์ใช้เป็นอาหารสำหรับโคเนื้อ ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนลงได้เฉลี่ย 4,657 บาทต่อครัวเรือนต่อปี ทั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้รวม 2.015 ล้านบาทต่อปี

"ภาพรวมเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพึงพอใจการดำเนินโครงการเป็นอย่างมาก เกษตรกรสามารถทำการเกษตรเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ รู้สึกถึงความมั่นคงในที่ดิน เนื่องจากเป็นการให้สิทธิในการเข้าใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง รวมทั้งได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐได้เท่าเทียมกับพื้นที่อื่น อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไป นอกเหนือจากการจัดที่ดินและส่งเสริมพัฒนาอาชีพทางการเกษตรในพื้นที่แล้ว ควรส่งเสริมให้เกิดการดำเนินงานของการรวมกลุ่มสหกรณ์เพื่อการผลิตและการตลาดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะก่อให้เกิดผลประโยชน์แก่เกษตรกรในพื้นที่อย่างเต็มที่" รองเลขาธิการ สศก.กล่าว
#2732


นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า สำหรับแผนการเพิ่มทุนมูลค่า  30,000 ล้านบาท  เพื่อรองรับการเติบโตใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 2564-2568 )หนุนกำลังการผลิตที่10,000 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน คาดว่าแล้วเสร็จได้ภายในต้นปี2565

ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศหลายโครงการ ขนาดกำลังผลิตเกิน 100 เมกะวัตต์ขึ้นไป โดยขณะนี้มี 2  ดีล ทีี่มีความชัดเจน คาดสรุปหรือปิดดีลอย่างน้อย 1 ดีลในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศ คาดใช้เงินลงทุนราว 4,000-5,000 ล้านบาท 

ส่วนอีก 1 ดีล คาดปีดดีลได้ในกลางปี 2565 เป็นโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ทั้งพลังงานทดแทนและก๊าซธรรมชาติ คาดใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มทุนดังกล่าว และยังใช้เวลาเจรจรพอสมควร

"แผนขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศสอดคล้องกับแผน 5 ปี มุ่งขยายโครงการโรงไฟฟ้าในอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก เรา สนใจลงทุนเพิ่มเติมในไต้หวันและเกาหลีใต้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา จากปัจจุบันได้ลงทุนในเวียดนาม ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ แล้ว"   


ขณะที่งบลงทุนในปีนี้และปีหน้า บริษัทเตรียมไว้ปีละ ่ 15,000 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินอีกราว 40,000-45,000 ล้านบาท และสามารถระดมทุนออกหุ้นกู้ในและต่างประเทศ ในจังหวะที่เหมาะสมได้อีก พร้อมรองรับการลงทุนในช่วงดังกล่าว 

สำหรับงบลงทุนปีนี้ที่ 15,000ล้านบาท เป็นลงทุนในโครงการเดิม 8,000 ล้านบาท และโครงการใหม่ 7,000 ล้านบาท โดยครึ่งหลังปีนี้ยังเหลืออีกราว 9,560 ล้านบาท ไว้รองรับการลงทุนโครงการใหม่และเดินหน้าโครงการลงทุนที่มีอยู่ ทั้งโรงไฟฟ้า และไม่ใช่โรงไฟฟ้า 

"ธุรกิจระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ธุรกิจเกี่ยวเนื่องพลังงาน และธุรกิจด้านสุขภาพ กำลังขับเคลื่อนโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาให้ไปสู่การร่วมทุนและดำเนินการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการร่วมทุนนวัตกรรมด้านไฟฟ้ากับกลุ่ม กฟผ.โครงการจัดตั้งโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่งในประเทศและสปป. ลาว ด้านสุขภาพขยายการลงทุนร่วมกับ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เป็นต้น" 

นายกิจจา กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังคาดดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่กำไรพุ่ง 72%  โดยครึ่งปีหลังในแง่ของรายได้พยายามบริหารจัดการ โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ให้พร้อมจ่ายไฟให้มากที่สุด  ถ้าโรงไฟฟ้าพร้อมจ่ายผลตอบแทนก็เป็นไปตามเป้า จึงเชื่อมั่นว่าที่ตั้งไว้จะเป็นไปตามเป้าหรือมากกว่าเป้าหมาย เพราะครึ่งปีแรกยังทำได้ดีกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก             

ขณะที่กำลังผลิตในปีนี้มั่นใจว่าเป็นไปตามเป้าวางไว้ที่ 8,874เมกะวัตต์ จากครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 8,290.34 เมกะวัตต์  และปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 7,053เมกะวัตต์ คาดครึ่งปีหลังนี้จะ COD เพิ่มอีก 160 เมกะวัตตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว อินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม ที่จะ COD ในไตรมาส 4ปีนี้ รวมสิ้นปีจะมีโรงไฟฟ้า COD แล้ว 7,213เมกะวัตต์ 
#2733


แม้จะยังไม่ได้รับอิสรภาพอย่างสมบูรณ์แต่ล่าสุด "บริตนีย์ สเปียร์ส" ก็น่าจะได้หลุดจากการควบคุมดูแลของ "เจมี สเปียร์ส" พ่อของเธอซะที เมื่อฝ่ายผู้เป็นพ่อได้ประกาศตัดสินใจยุติการทำหน้าที่ผู้ดูแลตามกฎหมายของลูกสาว หลังมีกระแสกดดันจากทุกฝ่าย

ข่าวดังกล่าวได้รับการยืนยันจากเอกสารทางกฎหมายที่ระบุว่า เจมี สเปียร์ส ต้องการที่จะออกจากตำแหน่งและยืนยันว่า เขาจะขอเปลี่ยนผ่านหน้าที่ให้กับผู้ดูแลคนใหม่ต่อไป หลังเขาทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่ปี 2008

โดยการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังแฟน ๆ ได้พยายามกดดัน เพื่อเรียกร้อง สภาพให้กับศิลปินเจ้าของฉายา "เจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป๊อป" ด้วยโครงการ #FreeBritney ซึ่งพวกเขามองว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริตนีย์ สเปียร์ส ถูกคนรอบตัวใช้อำนาจของกฎหมายเอาเปรียบเธอมานาน

อย่างไรก็ตาม เจมี สเปียร์ส ก็ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง และเชื่อว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ที่เขาต้องยอมสละนาที ก็เพราะรู้สึกว่าตัวเองได้กลายเป็นเป้าโจมตี โดยไม่มีเหตุมีผลจากสาธารณชน

สุดท้ายแล้วเขาจึงมองว่าการยุติหน้าที่เป็นผู้ดูแล น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกสาวในขณะนี้



อย่างไรก็ตามแหมแม้ตัวเองจะไม่ได้ทำหน้าที่แล้วผู้เป็นพ่อก็ยังเชื่อว่าลูกกสาวยังมีภาวะทางอารมณ์ที่ไม่มั่นคง และยังคงต้องการผู้ดูแลที่จะคอยจัดการเรื่องต่างๆในชีวิตให้ต่อไป ซึ่งเขาก็พร้อมที่จะส่งผ่านหน้าที่ให้กับผู้ดูแลคนใหม่

นอกจากนั้นเขายังกล่าวว่าแม้ตนจะไม่ได้ทำหน้าที่ผู้ดูแลตามกฎหมายแล้ว แต่เขาก็ คือพ่อของลูกตลอดไป จึงจะรักเธอโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ แล้วจะทำทุกอย่าง ให้ดีที่สุดเพื่อเธอ เหมือนเดิม

ฝ่ายทนายความของ บริตนีย์ ได้แสดงความเห็นว่าทั้งฝ่ายเขารู้สึกยินดี กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทีมกฎหมายของก็ยังรู้สึกผิดหวังที่คู่กรณียังคงใส่ความ และให้ข่าวโจมตีต่อไป ทีมกฎหมายยังมองว่า เจมี สเปียร์ส ควรจะเลิกถ่วงเวลา และออกจากตำแหน่งไปทันทีในตอนนี้ด้วยซ้ำไป และทีมทนายจะยังคงสืบสวนหาหลักฐาน เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ เจมี สเปียร์ส สูบเงินจากลูกสาวไปหลายล้าน เหรียญสหรัฐ ฯ ในตลอด 13 ปี ที่ผ่านมาต่อไปด้วย

ตลอดปีที่ผ่านมา บริตนีย์ สเปียร์ส ได้พยายามต่อสู้เพื่ออิสรภาพของตัวเอง แล้วเพิ่งให้ข่าวว่าเธออาจจะไม่กลับขึ้นเวทีคอนเสิร์ตอีกแล้ว ถ้าต้องใช้ชีวิตภายใต้การบงการของคนอื่นแบบนี้
#2734
ใครที่ตอนนี้ได้รับผลกระทบจากโควิด ตกงาน ปิดกิจการ รายได้ลดลง หนี้สินท่วมตัว เงินไม่พอใช้

อยากมาศึกษาออนไลน์ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร กลัวเจ๊ง คอร์สนี้มีคำตอบ

ออนไลน์ ไม่ใช่ทางเลือก แต่คือ "ทางรอด"

คอร์สออนไลน์  6 วัน 6 วิชา        
- 6 เสาหลักสร้างเพจปัง       
- ยิงแอด facebook ให้ได้ผล        
- แต่งภาพสวยง่าย ๆ จากมือถือ         
- การตลาดบน Tik Tok ให้มีคนติดตามหลักแสน       
- เปิดร้านบนไอจี Instragram
- เคล็ดลับแม่ค้าออนไลน์ร้อยล้าน

สอนแบบจับมือทำ ตั้งแต่พื้นฐาน จนเป็นมืออาชีพ
สอนจากประสบการณ์จริง โดยอาจารย์ที่มีรายได้กว่า 100 ล้านบนโลกออนไลน์
สอนสด ผ่านแอปซูม เรียนได้จากที่บ้าน

เวลาเรียน 19.00 - 22.30

ปรกติคอร์สนี้ราคา 9,800.-
พิเศษ !!!  เฉพาะช่วงโควิด ปรับโปรช่วยชาติ เหลือเพียง 98 บาท!!!
ย้ำ !!! รับจำนวนจำกัดเพียง 20 ท่าน ที่จัดสรรเวลาได้ !!!

คลิ๊กดูรายละเอียดคอร์ส
https://drive.google.com/file/d/1fZIP-BhrqgnSHAb-4HZezzgtKL9qKHFR/view?usp=drivesdk

สนใจ สามารถแอดไลน์สอบถามที่ @049dhubr หรือลิงค์ไลน์
https://lin.ee/4zIaPti

หรือโทร 098-378-1371, 098-378-1373

***เรียนไม่คุ้ม คืนเงินทันที ***
#2735


เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟสาวขวัญใจชาวไทย พลาดเสีย 2 โบกีติดๆ ในหลุม 17 และ 18 ทำสกอร์อีเวนต์พาร์ รวมสามวันมี 9 อันเดอร์พาร์ ยังเป็นผู้นำ แต่มี 2 ก้านเหล็กทำสกอร์ขึ้นมาทาบ ด้าน อาฒยา ฐิติกุล รั้งที่ 4 ร่วม ตามแค่ 1 สโตรก ศึกสกอตติช โอเพ่น 

ศึกกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ "ทรัสต์ กอล์ฟ วีเมนส์ สกอตติช โอเพ่น" ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 50 ล้านบาท ที่สนามดุมบาร์นีย์ ลิงค์ส ประเทศสก็อตแลนด์ ระยะ 6,584 หลา พาร์ 72 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยในวันที่สาม

ปรากฎว่า "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล ก้านเหล็กสาวขวัญใจชาวไทย อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2018 ที่ขึ้นมาเป็นผู้นำเดี่ยวในวันที่สอง วันนี้มาพลาดเสีย 2 โบกีติดๆ ในหลุม 17 และ 18 จบที่อีเวนต์พาร์ รวมสกอร์สามวันมี 9 อันเดอร์พาร์ ยังคงเป็นผู้นำ แต่มีอีก 2 โปรกอล์ฟ ที่ขึ้นมาทาบนำร่วม ได้แก่ ไรอันน์ โอ ทูเล่ จากสหรัฐอเมริกา และชาร์ลีย์ ฮัลล์ จากอังกฤษ

ขณะที่ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล ดาวรุ่งสาววัย 18 ปี วันนี้ทำไป 2 อันเดอร์ รวมสกอร์สามวันมี 8 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 4 ร่วมกับ แอชเลจ์ บูไฮ ก้านเหล็กจากแอฟริกาใต้

ส่วนผลงานของโปรกอล์ฟสาวไทยคนอื่นๆ "โปรจูเนียร์" จัสมิน สุวัณณะปุระ เก็บเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ รวมสามวัน 4 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 12 ร่วม, "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ วันนี้เก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ รวมสามวัน 3 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 15 ร่วม, "โปรพริม" พริมา ธรรมรักษ์ วันนี้จบอีเวนต์พาร์ รวมสามวัน 2 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 25 ร่วม ด้าน "โปรเหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ สกอร์รวมสามวันมีอีเวนต์พาร์ รั้งอันดับ 37 ร่วม
#2736


ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เผยว่า จากที่ธนาคารได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการยกระดับป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของทางการ ผ่านมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน โดยเปิดให้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา และกำหนดปิดรับแจ้งความประสงค์ในวันที่ 15 สิงหาคม 2564 นี้

ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธนาคารเข้าถึงมาตรการได้ครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น ธนาคารได้ขยายระยะเวลาแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน ออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 นี้ โดยลูกค้าธนาคารสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ของธนาคาร เช่น เว็บไซต์ https://www.smebank.co.th , LINE OA : SME Development Bank และแอปพลิเคชัน SME D Bank ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357
#2737


นายสมหมาย ภาษี อดีต รมว.คลัง โพสต์ข้อความระบุว่า การดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในปีนี้น่าจะจบกัน เมื่อวันพุธที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ในสื่อมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายสำหรับคนไทย ข่าวดีคือท่านนายกรัฐมนตรียอมยกเลิกประกาศปิดปากสื่อโดยใช้การอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกข้อกำหนดให้ยกเลิกข้อกำหนดฉบับที่ 29 ที่ออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.เดียวกันนี้ ฟังดูมันเหมือนเรื่องตลกสำหรับคนทั่วไป

จะเอาอะไรกันกับเรื่องแค่นี้ ในประวัติศาสตร์ไทยเมื่อ 46–47 ปีที่แล้ว สมัยที่ท่านจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี ยังได้นำทหารออกมาทำการปฏิวัติตัวเองเลย เรื่องนี้คนไทยสมัยนี้ที่ยังไม่เกษียณคงจำเหตุการณ์ไม่ได้ น่าจะมีการลองทำแบบนี้กันอีกไหมครับ จะทำอะไรก็สุดแท้แต่ผู้มีอำนาจและนักการเมืองทั้งหลายเถอะครับ เพราะตอนนี้ที่พึ่งของประชาชนเหมือนไม่มีแล้ว

สำหรับข่าวร้ายที่ได้ปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ในวันพุธที่ 11 นี้ ก็คือข่าวที่ว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (US Centers for Disease Control and Prevention) หรือ CDC ได้ออกคำเตือนแก่ชาวสหรัฐให้เลี่ยงการเดินทางไปหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยนั้น CDC ได้ปรับให้อยู่ในระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด คือ ห้ามการเดินทาง เพราะมีการระบาดและติดโควิดสูงในไทย!

บางคนอาจจะทำเป็นรู้ดีบอกว่าเราไม่ต้องเป็นกังวล เพราะนักท่องเที่ยวสหรัฐปกติมาเที่ยวไทยน้อยมากอยู่แล้ว แต่ผมว่าเขาพูดถูกแค่นิดเดียวเอง เพราะข้อเท็จจริงคือเมื่อสหรัฐพูดคนทั่วโลกเขาก็ได้ยินด้วยว่าไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงสุดถึงขนาดห้ามการเดินทางเข้ามา

ถ้าผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวพอจำกันได้ว่า เมื่อประมาณกลางเดือนกรกฎาคมที่แล้ว กลุ่มประเทศ EU ก็เคยปรับมาตรการไม่รับคนไทยเข้าประเทศกลุ่ม EU มาแล้ว ซึ่งเท่ากับบอกประชาชนของกลุ่ม EU ที่หน้าหนาวนักท่องเที่ยวชอบมาเมืองไทยกันมากให้รู้ว่าเมืองไทยไม่ควรมานะ

ADVERTISEMENT


เมื่อการท่องเที่ยวไม่มีโอกาสฟื้นในปีนี้ ความพยายามที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวดูเหมือนจะจบแล้ว ความหายนะของประเทศก็จะแผ่ออกไปมากขึ้น นับตั้งแต่การจ้างงานในด้านการท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากสุดของประเทศจะไม่เกิด อาชีพอื่นๆที่เกี่ยวโยงที่มีการจ้างงานมากก็ไม่มีทางฟื้นเช่น ธุรกิจการบิน ธุรกิจทัวร์ ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจนวดแผนโบราณและสปา แม่ค้าแม่ขายของที่ระลึก และรวมถึงร้านอาหารที่มีสภาพล้มทั้งยืนกันให้เห็นทุกจังหวัดตายหมด

ความหวังที่อุตส่าห์คิด อุตส่าห์ทำ เพื่อสร้างโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โครงการสมุยพลัส และยังมีการคิดชื่อล่วงหน้าที่หรูไว้อีกมาก สำหรับกระบี่ พัทยา และที่จังหวัดอื่นๆ ล้วนต้องเป็นฝันกลางวันไปหมด

ใครเป็นคนทำให้ความหวังที่จะฟื้นของการท่องเที่ยวซึ่งเป็นสาขาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศต้องคลานจนโงหัวไม่ขึ้นมาจะสองปีแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อหรือถามชื่อกันอีกแล้ว สาเหตุที่เศรษฐกิจพังพินาศมาจากโควิด-19 จากการแพร่ระบาดที่มีไม่มากตอนต้นปี 2563 มาถึงขณะนี้จะสองปีแล้วกลับระบาดจนวิกฤตติดอันดับต้นของโลก ใครกันที่รับทำงานสู้รบกับมัน ในทางการเมืองประชาชนเขาต้องชี้ไปที่ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุขเท่านั้นแหละ ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักและเหนื่อยมากนั้น ไม่มีใครไปโทษเขาเหล่านี้หรอก แต่พวกท่านๆทั้งหลายนี่ซิที่คนเขาสาปแช่งวันละสามเวลา

ทำยังไงๆ อธิบายยังไงๆ ประชาชนก็ยังยากที่จะคิดว่าพวกท่านๆทั้งหลายจะเอาอยู่ เพราะแค่ในคุกที่อยู่ในอุ้งมือของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงมหาดไทยยังมีการระบาดได้ และยังเอาไม่อยู่ หรือในแคมป์คนงานก่อสร้างใหญ่ๆใน กทม.ที่ต้องอยู่ในสายตาและการควบคุมของหน่วยงานราชการหลายหน่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเทพมหานครก็ยังเอาไม่อยู่

ในช่วงนี้จะได้ข่าวกันว่ายังมีการระบาดของโควิด-19 ชุกชุมมากในโรงงานทั้งเล็กและใหญ่รอบๆ กทม. ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร ชลบุรี อยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ถ้าเอาไม่อยู่ ปล่อยให้การระบาดทอดยาวออกไปก็จะเกิดผลกระทบกับกระบวนการผลิตเพื่อการส่งออกของประเทศแน่

อย่างไรก็ดียังมีข่าวดีที่เพิ่งผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ ศบค. ซึ่งนำไปปฏิบัติได้แล้ว คือข้อเสนอของกระทรวงแรงงงาน เรื่อง Factory Sandbox เพื่อทำการตรวจ รักษา ควบคุม และดูแล สถานประกอบการที่ผลิตเพื่อการส่งออกสำหรับโรงงานขนาดพนักงาน 500 คนขึ้นไป ทั้งนี้ต้องให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องหลัก เช่น มหาดไทย สาธารณสุข แรงงาน และอุตสาหกรรม ร่วมดำเนินการด้วยกันอย่างกระชับและรวดเร็วเป็นระบบ ถือว่าเป็นข่าวดีอีกชิ้นหนึ่งที่เพิ่งคิดกันได้

แต่อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่ายังมีจุดอ่อนที่ใหญ่มากอยู่เรื่องหนึ่ง คือแม้ไม่ใช่โรงงานผลิตเพื่อการส่งออกก็ควรต้องรวมเข้าไปด้วย และโรงงานที่มีขนาดพนักงานต่ำกว่า 500 คน เช่น 200 คน ที่มีการติดโควิด-19 กันระนาวก็ควรนำมารวมเข้าไปในโครงการนี้ด้วยเช่นกัน มิฉะนั้น จะทำให้เกิดการขว้างงูไม่พ้นคอเป็นแน่

เมื่อไม่กี่วันมานี้ เผอิญผมได้ฟังแนวนโยบายการปราบโควิด-19 ของท่านประธานาธิบดีไบเดนว่า "เรื่องต่อสู้กับโควิด-19 นี้จะไม่มีคนหนึ่งคนใดปลอดภัย ตราบใดที่คนอื่นๆ ยังไม่ปลอดภัย" ผมเห็นว่า แม้ผู้นำของเราจะมีความเก่งและความฉลาดเท่าผู้นำของชาติอื่น ก็ไม่ควรทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับนโยบายดีๆ ของชาติอื่น
#2738
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#2739


วันที่ 11 ส.ค. 2564 รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "วิกฤตโควิด เรียนออนไลน์ หรือ หยุดเรียน 1 ปี ?"

โดย รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวว่า ระบบการศึกษาของไทยเป็นระบบ.สูง สอบได้สอบตก แล้วเด็กแต่ละคนมีความถนัดต่างกัน แต่ถูกจับเข้าระบบคล้ายกับอุตสาหกรรมการศึกษา ทำให้เด็กมีความตึงเครียดสูง ปกติเวลาไปโรงเรียน เด็กก็จะคลายเครียดด้วยการเล่นในเวลาพักเบรก แต่ตอนนี้ต้องอยู่หน้าจอตลอดเวลา

แล้วตอนนี้น่าเห็นใจพ่อแม่มาก ภาระทุกอย่างอยู่ที่บ้าน ตนพูดตั้งแต่ปีที่แล้ว สถานการณ์โควิดควรพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ไม่ใช่เอาวิชาทั้งหมดมาทำเป็นเรียนออนไลน์ เด็กวันนึงอยู่หน้าจอหลายชั่วโมง ไม่สามารถออกนอกบ้านได้ ไม่สามารถเจอเพื่อนฝูงได้ แถมเรื่องไหนที่ไม่เข้าใจ พ่อแม่ก็ต้องช่วยลูก มันจึงไม่ใช่ตึงเครียดแค่เด็ก แต่เครียดทั้งบ้าน

รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวอีกว่า สิ่งที่กระทรวงศึกษาฯ ควรทำ คือต้องปลดล็อก ถ้ายังมีทัศนคติให้เอาเนื้อหาวิชาที่เรียนอยู่ตอนไม่มีโควิด เอาทั้งหมดมาแปรรูปไว้ในออนไลน์ ให้เด็กเรียนแต่เช้าจนบ่ายสาม แล้วให้การบ้าน ถ้ายังทำลักษณะนี้ อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่มานั่งเรียนแบบนี้ก็เครียด

ยิ่งเด็กเล็กปฐมวัย ผิดหลักพัฒนาการอีก เพราะเด็กเล็กสมาธิสั้น เรียนคุณครูทุกท่าน เด็กเล็กสมาธิสั้นทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะเด็กไทย การเรียนของเด็กอนุบาล ควรเรียนรู้ผ่านการเล่น การนั่งหน้าจอผิดหลักการแน่นอน

ตนเสนอให้สำรวจพ่อแม่ ซึ่งควรทำตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่ามีกี่ครอบครัวที่พร้อมเป็นโฮมสคูลได้ กี่ครอบครัวไม่มีอินเตอร์เน็ต กี่ครอบครัวที่พ่อแม่ไม่มีเวลา จากนั้นจัดให้มีอาสามัครการศึกษาขึ้นมา ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แล้วโรงเรียนคอยให้คำแนะนำพ่อแม่ว่าต้องเรียนอะไรบ้าง โดยให้แต่ละครอบครัวไปใช้เวลาว่างของตัวเอง ไม่ใช่ต้องเข้าเรียนเลิกเรียนตามเวลา

สอง ยกเลิกระบบแพ้คัดออก ยกเลิกการตัดเกรดออกทั้งหมด โดยเฉพาะในเด็กอนุบาลและประถมทั้งหมด โดยเด็กอนุบาลให้ดูที่พัฒนาการของเขาเอา

ระดับ ป.1-6 กระทรวงต้องใจกล้าประกาศเป็นหลักสูตรสมรรถนะ ยกเลิกรายวิชาที่มันมีกี่สาระการเรียนรู้เต็มไปหมด และหลักสูตรตามชั่วโมง ยกเลิกให้หมด และยกเลิกการตัดเกรดไปด้วย โดยให้ครูมาเป็นช่วง ๆ แล้วมีจังหวะให้พักได้ เช่นชั่วโมงเช้าเรียนรู้อะไร ช่วงบ่ายให้เวลาเด็กไปเรียนรู้ ทดลอง โดยใช้ข้าวของในบ้านเลยก็ได้

ระดับมัธยม วิชาไหนไม่มีความจำเป็น ยกเลิกได้ก็ดี ในวัยนี้เขาสามารถเรียนออนไลน์ได้ แต่มันไม่ใช่การเรียนเต็มเหนี่ยว ควรปล่อยครึ่งวันให้โล่ง ให้เขาไปทบทวนบทเรียน

อีกอันที่ตนเสนอไปที่รัฐมนตรีแล้วด้วย คือควรแปรรูปกิจกรรมโฮมรูมเป็น 3 คำถาม คือ ถามลูกว่าเรียนมาทั้งวันรู้สึกอย่างไรบ้าง ได้เรียนอะไร แล้วสิ่งที่เรียนมาจะเอาไปปรับใช้ทำอะไรได้บ้าง

รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวต่ออีกว่า โรงเรียนต้องเป็นศูนย์กลางโฮมสคูล คอยสนับสนุนพ่อแม่ คนที่พร้อมก็ช่วยอัปสกิลให้ ส่วนคนที่ไม่พร้อมก็มีอาสามัครลงพื้นที่

รศ.นพ.สุริยเดว กล่าวอีกว่า เรื่องข้อเสนอหยุดเรียน 1 ปี ถ้ากระทรวงทำเท่ากับยกธงขาวยอมแพ้ ทำไมถึงไม่ทำตามที่ตนเสนอ ทำไมโรงเรียนจะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้แห่งโลกออนไลน์ไม่ได้ โดยที่ไม่ต้องเข้าแถวเวลาพร้อมกัน ให้เป็นเรื่องของแต่ละบ้านแต่ละท้องถิ่น

การเรียนรู้หยุดไม่ได้ แต่อย่าทำผิดหลักธรรมชาติ หลักจิตวิทยาพัฒนาการ และต้องต้องไม่ผิดหลักสังคม พ่อแม่มีภาระมากมาย อะไรที่ติดขัดเพราะกฎหมายก็ล้างมันซะ นี่มันเป็นสงครามโรค เลิกยึดติดกรอบเดิม ๆ
#2740
ข้าวหอมมะลิปลอดสาร  ข้าวหอมมะลิออแกนิคส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" / ข้าวมะลินิลอินทรีย์ คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ข้าวเกษตรอินทรีย์หอมมะลิข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice) ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก ข้าวปะกาอำปึลเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวหอมมะลิแดงปลอดสารพิษ เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก ข้าวกล้องหอมมะลินิลเพื่อสุขภาพ แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6daqhyo0am1a6t.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารก
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลอินทรีย์
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิคจังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออร์แกนิค7.  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์