• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Fern751

#2761



"มาร์ก กูดดิ้ง" ว่าที่เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย ทวีตข้อความในค่ำวานนี้ (28 ก.ค.) @markgooding ระบุว่า  สหราชอาณาจักรประกาศบริจาควัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า 415,000 โดสแก่ประเทศไทย

"วันนี้ สหราชอาณาจักรมีวัคซีนบริจาคให้ประเทศไทย จำนวน 415,000 โดส ผลิตโดสบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในสหราชอาณาจักร และจัดส่งถึงประเทศไทยในอีก 1 - 2 สัปดาห์ข้างหน้า" ว่าที่ทูตกูดดิ้งกล่าว และระบุว่า ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 สหราชอาณาจักรได้หาทางนำทั่วโลกต่อสู้เพื่อป้องกันโรคร้าย กว่าหนึ่งปีมาแล้วที่เราได้ให้ทุนสนับสนุนพัฒนาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า - ออกซ์ฟอร์ด โดยยึดหลักต้องแจกจ่ายให้คนทั่วโลกในราคาทุน โดยไม่หาผลกำไร มีเป้าหมายเดียวคือ ขอให้กระจายวัคซีนนี้ไปทั่วโลกอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรม 

ว่าที่เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร กล่าวอีกว่า วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพสูง จนถึงวันนี้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 500 ล้านโดสใน 160 ประเทศทั่วโลก และเนื่องจากโครงการวัคซีนโควิด-19 ในสหราอาณาจักรประสบความสำเร็จอย่างมาก ขณะนี้เรามีวัคซีนเพียงพอส่งต่อให้กับประเทศอื่นๆ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร และไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ได้รับวัคซีนเหล่านี้ ในช่วงที่ไทยเผชิญกับการระบาดสาหัสเช่นนี้ ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าสหราชอาณาจักรอยู่เคียงข้างประเทศไทยเสมอ


ในเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศ มีข้อความระบุว่า ขอขอบคุณในไมตรีจิตของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ประกาศมอบวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 415,000 โดส ให้แก่ประชาชนชาวไทย เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด สะท้อนถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร
#2762



ผ่านมาแล้วกว่าครึ่งปีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายการทำงานในปี 2564 ให้แก่กรมต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์รับไปปฏิบัติ โดยมีนโยบายเร่งด่วนรวม 14 ข้อ ได้แก่ ประกันรายได้, ลดค่าครองชีพ, เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด, อาหารไทยอาหารโลก, การค้าออนไลน์, ส่งเสริมธุรกิจบริการ, พัฒนา SMEs และ Micro SMEs, เร่งรัดการส่งออก, ผลักดันการค้าชายแดน, เจรจาการค้าระหว่างประเทศ, จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา, บริการด้วยอิเล็กทรอนิกส์, ทำงานร่วมกับภาคเอกชนในนาม กรอ.พาณิชย์ และให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว

ผลการขับเคลื่อนงานที่ผ่านมา แต่ละกรมในกระทรวงพาณิชย์ได้เร่งทำงานตามนโยบาย ปรากฏผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการช่วยเหลือเกษตรกร ประชาชน และภาคธุรกิจ จนเป็นกระทรวงเศรษฐกิจที่ติดอันดับต้นๆ ที่ประชาชนพอใจในผลการทำงาน

ล่าสุด "กรมพัฒนาธุรกิจการค้า" ได้สรุปผลการทำงานครึ่งปี และแผนการทำงานในช่วงครึ่งปีหลัง ปรากฏผลการทำงานตามนโยบายที่ประสบความสำเร็จหลายด้าน โดยเฉพาะการผลักดันเกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย หรือที่เรียกกันว่า "คนตัวเล็ก" ให้มีโอกาสทางการตลาด ให้มีโอกาสในการทำมาค้าขาย ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ

ใช้ออนไลน์ช่วยเกษตรกรทำตลาด

ในการขับเคลื่อนการทำงานภายใต้นโยบาย "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้แปลงนโยบายลงสู่การปฏิบัติด้วยการร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานพันธมิตร 24 หน่วยงาน ทำแพลตฟอร์มกลาง "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" ในรูป B2B (Business-to-Business) ต่อยอดจากแพลตฟอร์มที่มีอยู่ ได้แก่ "Thaitrade.com ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ" และแพลตฟอร์ม "Phenixbox.com ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มศูนย์ค้าส่งครบวงจรภายในประเทศ

ผลการดำเนินงานในส่วนของตลาดต่างประเทศ ได้คัดเลือกและพัฒนาสหกรณ์ที่มีความพร้อมในการจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม และมีกำลังการผลิตที่เพียงพอต่อการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ จำนวน 9 สหกรณ์ ให้มีร้านค้าออนไลน์บน Thaitrade.com รวมสินค้าทั้งสิ้น 45 รายการ เช่น ข้าว นม และโคเนื้อ โดยแพลตฟอร์ม Thaitrade.com ได้สร้างหน้าเฉพาะสำหรับสินค้าจากสหกรณ์ภายใต้ชื่อ "Thai Agricultural Trade Center" (https://www.thaitrade.com/online-exhibition/thai_agricultural) และกำหนดจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างสหกรณ์กับผู้ค้าต่างประเทศ ในวันที่ 29-30 ก.ค. 2564 นี้

สำหรับตลาดในประเทศ ได้ร่วมกับแพลตฟอร์ม Phenixbox.com จัดทำ Profile สินค้าเกษตร เพื่อเชื่อมโยงไปยัง Phenixbox.com จำนวน 28 สหกรณ์ รวมสินค้าทั้งสิ้น 37 รายการ เช่น ข้าวสาร นมโค ผลไม้ และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ โดยแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ได้สร้างหน้าเฉพาะสำหรับสินค้าจากสหกรณ์ภายใต้ชื่อ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" (https://www.phenixbox.com/Thai_agricultural) โดยจะมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ระหว่างกลุ่มสหกรณ์กับบริษัทในเครือ TCC Group ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ ของบริษัทแอสเสท เวิร์ด คอร์ป จำกัด (มหาชน) ในเดือน ส.ค. 2564

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ได้กำชับให้เพิ่มความเข้มข้น และเพิ่มจำนวนเกษตรกร และรายการสินค้าให้มีโอกาสเข้าไปจำหน่ายในแพลตฟอร์มทั้ง 2 แพลตฟอร์มให้มีจำนวนมากขึ้นต่อไป

สอนคนตัวเล็กค้าขายออนไลน์

การเพิ่มโอกาสในการค้าขายออนไลน์ เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่นายจุรินทร์สั่งการให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์เร่งขับเคลื่อน และให้ความช่วยเหลือคนตัวเล็ก โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย ให้มีโอกาสในการค้าขายออนไลน์ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เข้าไปช่วยเหลือตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น ด้วยการให้ความรู้ สอนเทคนิคการตลาดออนไลน์ ด้วยการจัดทีมผู้เชี่ยวชาญลงไปสอนถึงที่ แต่ด้วยข้อจำกัดของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องปรับแผนเป็นการฝึกสอน อบรมผ่านช่องทางออนไลน์แทน

ที่ผ่านมาได้สอนความรู้การทำการค้าและเทคนิคการตลาดออนไลน์ไปแล้ว 2,175 ราย, สร้าง Smart Trader Online ด้วยการบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้เป็นนักการค้าออนไลน์ และจับคู่เชื่อมโยงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Trader Online กับสินค้าและบริการที่มีศักยภาพ เข้าสู่ช่องทางการตลาดบนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมแล้ว 406 ราย

ส่วนแผนระยะถัดไป ช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค. 2564 มีเป้าหมายที่จะพัฒนาสินค้าชุมชน กลุ่มเกษตรกร สู่ช่องทางการตลาด (Offline 2 Online) โดยจะคัดเลือกสินค้าชุมชน ของดีของเด่นประจำจังหวัด จากผู้ประกอบการฐานรากที่มีศักยภาพทั้ง 18 กลุ่มจังหวัด ครอบคลุม 77 จังหวัด เพื่อเข้าสู่กระบวนการให้ความรู้และผลักดันสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ จำนวนเป้าหมาย 1,260 ราย และจะสร้างโอกาสทางการตลาดออนไลน์แก่ผู้ประกอบการฐานราก ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบออฟไลน์ ภายใต้งานมหกรรม Thailand e-Commerce Expo ที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. 2564

นอกจากนี้ ได้เข้าไปช่วยพัฒนาศักยภาพทางการตลาดให้แก่ภาคการผลิตฐานราก ทั้ง SMEs และ Micro SMEs โดยอบรมให้ความรู้หาตลาดและเปิดโอกาส เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในตลาดที่กว้างขึ้น ส่งเสริมศักยภาพการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน ส่งเสริมศักยภาพนักการตลาด OTOP มืออาชีพ เพื่อเป็นตัวแทนหรือผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดเชื่อมโยงการตลาดผลิตภัณฑ์ OTOP เข้าสู่ช่องทางการตลาด 332 ราย สร้างโอกาสทางการค้าและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชน (MOC Biz Club) เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศมาเชื่อมโยงต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มโอกาสการค้า ปัจจุบันมีสมาชิก 12,721 ราย ทั้งนี้ ยังมีกำหนดจัดงาน MOC Biz Club Fair 2021 ที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล จำนวน 4 ครั้ง ระหว่างเดือน ส.ค.-ต.ค. 2564 เพื่อการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า การเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ และการให้คำปรึกษาทางธุรกิจด้วย



พัฒนาโชวห่วยเพิ่มรายได้ฐานราก

สำหรับธุรกิจบริการ ที่เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและเพิ่มรายได้เข้าประเทศ นายจุรินทร์ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งพัฒนาศักยภาพทางการตลาดให้กับภาคบริการ ทั้งผู้ค้าปลีก ค้าส่ง สมาร์ทโชวห่วย กลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่มบริการสุขภาพ และกลุ่มร้านอาหาร โดยให้เข้าไปช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มช่องทางการตลาดให้ภาคบริการ

ผลการดำเนินงานตามนโยบาย ได้ช่วยพัฒนาร้านค้าปลีกสู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย ด้วยการสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการ พัฒนาภาพลักษณ์ ส่งเสริมการนำเทคโนโลยี POS ไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทั่วประเทศ มีเป้าหมายในการพัฒนา 3,500 รายทั่วประเทศ และผลักดันให้สมาร์ทโชวห่วยนำระบบ POS มาใช้ในการบริหารจัดการร้าน 500 ราย

นอกจากนี้ ยังได้ใช้ร้านค้าปลีกค้าส่ง ร้านโชวห่วยในเครือข่ายที่ผ่านการอบรมพัฒนาแล้ว มาช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ในการจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดผ่านร้านโชวห่วยจำนวน 2,040 ราย ซึ่งสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนลงลึกถึงระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้านได้เป็นอย่างมาก

สร้างเครือข่าย-เพิ่มมาตรฐานธุรกิจบริการ

ส่วนธุรกิจบริการที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ สำนักงานบัญชี ได้พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการ การตลาด เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงการเชื่อมโยงเครือข่าย Startup กับ SMEs ด้วยนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ นำไปสู่การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงแหล่งตลาด และการบริหารจัดการระบบคลังสินค้าและขนส่งแบบครบวงจร 2,453 ราย

ขณะเดียวกัน ได้สร้างความเข้มแข็งและการเติบโตให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ไทย สร้างธุรกิจแฟรนไชส์รายใหม่ (B2B Franchise) รุ่นที่ 24 จำนวน 158 ราย รวม 98 กิจการ และเสริมสร้างมาตรฐานคุณภาพด้านบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ไทย 235 ราย

พร้อมกันนี้ ได้ให้ความรู้ด้านบริหารจัดการธุรกิจผ่าน e-Learning จำนวน 7 หลักสูตร 30 วิชา ได้แก่ หลักสูตรการเริ่มต้นธุรกิจ หลักสูตรการเงินและการบัญชี หลักสูตรวิชาบัญชี หลักสูตรพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น หลักสูตรพัฒนากลยุทธ์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หลักสูตรการประกอบธุรกิจใน AEC หลักสูตรการพัฒนาระบบบริหารจัดการธุรกิจโลจิสติกส์ ผ่านเว็บไซต์ http://dbdacademy.dbd.go.th มีผู้สมัครเข้ามาเรียนแล้ว 28,658 ราย

สำหรับแผนงานช่วงเดือน ก.ค.-ธ.ค. 2564 จะเน้นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ธุรกิจบริการที่ผ่านการคัดเลือก ช่วยสร้างแรงจูงใจ และผลักดันให้ผู้ประกอบธุรกิจปรับตัวกับวิถีการค้ายุคใหม่ โดยเฉพาะการขายและการตลาดออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.ของดีทั่วไทย.com ในเดือน ส.ค. 2564, ส่งเสริมร้านอาหารไทยในประเทศให้ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป้าหมาย 300 ราย ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยในประเทศได้รับตราสัญลักษณ์ 940 ราย และจัดประกวดธุรกิจแฟรนไชส์ไทย (Thailand Franchise Award 2021 : TFA 2021) ในเดือน ส.ค. 2564

พลิกโฉมหน้างานบริการด้วยดิจิทัล

ทางด้านการปรับปรุงพัฒนาการให้บริการภาคธุรกิจและประชาชน นายจุรินทร์ได้กำชับให้มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วในการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตอบสนองนโยบายกระทรวงพาณิชย์ดิจิทัล และนโยบาย E-Government ของรัฐบาล โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ยกระดับการเริ่มต้นธุรกิจของประเทศ โดยดำเนินการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

เริ่มจากการจองชื่อนิติบุคคลด้วยระบบ AI ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการตรวจสอบและผลอนุมัติการจองชื่อ โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 2564 และส่งเสริมการใช้ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) เพิ่มช่องทางการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) และปรับปรุงแบบฟอร์มการกรอกให้ง่ายขึ้น เปิดให้บริการ 27 เม.ย. 2563 และยังได้ลดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบ e-Registration จากเดิมลดให้ร้อยละ 30 เป็นลดให้ร้อยละ 50 เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 2564

นอกจากนี้ ได้เพิ่มช่องทางให้ผู้แทนสามารถกรอกและยื่นคำขอจดทะเบียนแทนผู้ประกอบการได้ เปิดให้บริการ 8 มี.ค. 2564 และพัฒนาระบบการให้บริการออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Foreign Certificate) โดยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร 2 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุนต่างชาติ ให้สามารถยื่นขอรับบัตรส่งเสริมลงทุนจาก BOI และหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้ ณ จุดเดียว (Single Unit) ที่ BOI ทำให้ลดระยะเวลาจากเดิมตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 30 วัน เหลือเพียงภายใน 5 วัน และลดต้นทุนการดำเนินการของผู้ประกอบธุรกิจชาวต่างชาติโดยเปิดให้บริการเดือน ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา

ไม่เพียงแค่นั้น ยังได้เปิดให้บริการระบบออกเลขประจำตัวนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการขอมีเลขประจำตัวนิติบุคคล แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูล และแจ้งยกเลิกการประกอบธุรกิจให้แก่นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย และเป็นธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งคนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจได้โดยไม่ต้องขออนุญาต โดยสามารถดำเนินการได้ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564

ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามนโยบายเร่งด่วน ที่นายจุรินทร์ได้กำหนดเป็นแผนการทำงานสำหรับปี 2564 ซึ่งสามารถช่วยให้ "คนตัวเล็ก" ได้มีโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้น มีโอกาสในการทำมาค้าขายเพิ่มขึ้น มีโอกาสในการเพิ่มรายได้ในกระเป๋าเพิ่มขึ้น และมีโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของการทำรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ยืนยันว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังคงเพิ่มความเข้มข้นและช่วยผลักดันให้คนตัวเล็กมีโอกาสเพิ่มขึ้นต่อไป
#2763



นายธนาวุฒิ พรโรจนางกูร รองกรรมการผู้จัดการหัวหน้าสายงานบริหารการลงทุน  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล หรือ BCAP เปิดเผยถึงกรณีที่ ประเทศจีน ได้ออกมาตรการควบคุมกิจการของบริษัท Consumer Technology มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปลายปี 2563 ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นเทคฯจีนโดยรวม จากความกังวลเรื่องนโยบายของภาครัฐว่า จะเพ่งเล็งธุรกิจใดต่อไป

โดยผู้จัดการกองทุน ประเมินว่ารัฐบาลกลางมี 2 เป้าหมายสำคัญในการออกมาตรการควบคุมกลุ่ม Consumer Technology เรื่องแรกคือการสร้างการเติบโตที่มีคุณภาพและลดความเหลื่อมล้ำของระบบเศรษฐกิจของประเทศจีน และเรื่องที่สองคือความมั่นคงทางการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยมาตรการต่าง ๆ ที่ทยอยออกมาต่างมุ่งเน้นไปสู่ 4 เสาหลักแห่งความมั่นคง (four pillars of stability) กล่าวคือ 1) เสถียรภาพทางด้านการเงิน 2) การแข่งขันอย่างเสมอภาคและป้องกันการกีดกันทางการค้า 3) การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการนำข้อมูลไปใช้อย่างเป็นธรรม และ 4) การสร้างความเท่าเทียมกันทางสังคม

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา การพัฒนาของเทคโนโลยี ทำให้เกิดผู้ประกอบการรายใหญ่ขึ้น จนนำมาสู่การผูกขาดทางการค้า การนำข้อมูลของผู้บริโภคมาใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการและเอาเปรียบผู้บริโภค การให้ผลตอบแทนที่ไม่เป็นธรรมแก่ลูกจ้าง ซึ่งหากปล่อยปัญหาทิ้งไว้นานอาจทำให้เกิดปัญหาความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะต่อไป ตัวอย่างเช่น บริษัท Alibaba ใช้ฐานข้อมูลที่มี และพยายามเสนอเงินกู้เกินความจำเป็นแก่ผู้บริโภค โดยไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลด้านเสถียรภาพจากภาครัฐ หรือบริษัท Meituan ที่ใช้อำนาจผูกขาดในธุรกิจจนเกิดการจ้างพนักงานในอัตราที่ไม่เป็นธรรม


กลุ่ม China Consumer Tech กำลังเข้าสู่ new growth regime ที่อาจจะถูกปรับฐานเพื่อสะท้อนการเติบโตที่ลดลง เชื่อว่าทางการจีนจะยังคงมีนโยบายในเชิงควบคุมกลุ่ม Consumer Tech ออกมาอีกเป็นระยะ ๆ แต่การพัฒนานวัตกรรมยังมีความจำอย่างยิ่งสำหรับประเทศจีน เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลกภายใต้แผนแม่บทในการพัฒนาประเทศ

ดังนั้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เราเรียกว่า China Non-consumer Tech อาทิเช่น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Clean Energy กลุ่ม Biotech ที่เป็นฐานการผลิตของโลก และกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อการอุตสาหกรรม จะยิ่งมีความน่าสนใจมากขึ้น จากการที่ราคาปรับลงมาจากปัจจัยแวดล้อมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง และจากนโยบายสนับสนุนต่อเนื่องจากภาครัฐจึงเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดังกล่าว


นายธนาวุฒิ กล่าวว่า  เราประเมินว่าหุ้นกลุ่ม China Consumer Tech ยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีในระยะยาว แต่จะมีการปรับฐานเพื่อสะท้อน new growth regime ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ตามมาตรการควบคุมต่างๆสำหรับ 4 เสาหลักแห่งความมั่นคงของจีนทยอยกันมีความชัดเจนขึ้น ดังนั้นเราแนะนำโยก จากกลุ่ม China Consumer Tech ไปสู่กลุ่ม Non-consumer Tech ซึ่งราคาย่อตัวลงบางส่วนจาก sentiment ลบของหุ้นกลุ่ม china consumer tech" 

สำหรับ กอง BCAP-XHEALTH และ BCAP-CLEAN เป็นตัวเลือกสองกองทุนของ BCAP ที่มีสัดส่วนการลงทุนใน China Non-consumer Technology ที่ว่านี้อย่างมีนัยยะ และมีการกระจายกลุ่มอุตสาหกรรมและภูมิภาคทั่วโลกที่สมดุลซึ่งจะช่วยบริหารความเสี่ยงของความผันผวนของราคาได้ดีขึ้นในช่วงนี้และที่สำคัญหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสุขภาพและพลังงานสะอาดไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายป้องกันการผูกขาดทั้งฝั่งสหรัฐฯและจีน
#2764


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 29 กรกฎาคมนี้ คณะทำงาน ส.อ.ท. เตรียมหารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทาง ส.อ.ท. จะสอบถามความคืบหน้าการจัดสรรวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดให้กับภาคอุตสาหกรรมล่าสุดเป็นอย่างไร รวมทั้งจะแจ้งมาตรการที่ ส.อ.ท. กำลังดำเนินการในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ตัวเลขการติดเชื้อในโรงงานขนาดใหญ่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ต้องเร่งกันช่วยกันป้องกัน ไม่เช่นนั้นจะกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งกระทบการแพร่ระบาดในชุมชน หากต้องปิดโรงงาน จะกระทบต่อกระบวนการผลิตสินค้า ซึ่งจะกระทบทั้งสินค้าในภาคการส่งออก และสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในประเทศ เป็นเรื่องใหญ่มาก หรือถ้ารัฐสั่งปิดเอง ต้องจ่ายเงินเยียวยาอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. ได้เร่งผลักดันให้ทุกโรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข ประเมินตนเอง และโรงงาน ผ่านไทย สต็อป เซอร์วิส พลัส และไทย เซฟ ไทย รวมทั้งล่าสุดได้ยกระดับให้เข้มข้นขึ้น ให้โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทุกแห่งดำเนินการมาตรการ บับเบิล แอนด์ ซีล (bubble and seal) ซึ่งเป็นการควบคุมคนในโรงงาน ให้มีกิจกรรมปะปนกันเอง และกับคนนอกโรงงานให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดการติดเชื้อ โดยแรงงานที่อาศัยนอกโรงงานต้องควบคุมการเดินทางระหว่างที่ทำงานกับที่พักอาศัย ไม่แวะทำธุระระหว่างเดินทาง และเมื่อกลับถึงที่พัก ต้องอยู่ภายในที่พักอาศัยเท่านั้น ขณะที่แรงงานที่พักอาศัยในโรงงาน ต้องมีการควบคุมไม่ให้แรงงานออกนอกพื้นที่แรงงาน

นอกจากนี้ ได้แจ้งให้โรงงานขนาดใหญ่เตรียมพร้อมแผนรับมือหากมีการติดเชื้อในโรงงานจำนวนมาก โดยให้จัดโรงพยาบาลสนาม และพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อ จัดเตรียมสถานที่พักในโรงงานหรือในชุมชน เป็นที่พักสำหรับผู้สัมผัสผู้ป่วย แต่ยังตรวจไม่พบเชื้อหรือยังไม่มีอาการ จัดเตรียมระบบเดินทางรับ-ส่ง คนงาน จากที่พักถึงโรงงานหรือสถานประกอบการ ป้องกันการแวะระหว่างทาง จัดหาร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค ราคาย่อมเยา ในบริเวณโรงงานหรือที่พัก ลดการสัมผัสระหว่างคนงานและคนในชุมชน และให้จัดหาสถานพยาบาลที่พร้อมให้บริการตรวจหาเชื้อ ด้วยพีซีอาร์ (PCR) และแอนทิเจน เทสต์ คิต (Antigen Test Kit)

ส่วนการบริหารจัดการคนทำงานร่วมกันในพื้นที่โรงงาน ให้จัดพนักงานแยกเป็นกลุ่มย่อย หรือแยกเป็นบับเบิล แต่ละกลุ่มสามารถทำงานร่วมกันโดยป้องกันตนเอง แต่ไม่ให้มีการทำงานหรือกิจกรรมข้ามกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มมีสัญลักษณ์แสดงชัดเจน ไม่ให้มีกิจกรรมข้ามกลุ่มจำนวนคนแต่ละกลุ่มยิ่งน้อยยิ่งดี เช่น โรงงานมีพนักงาน 500 ราย กลุ่มหนึ่งไม่เกิน 20 ราย ถ้าเป็น 1-5 คน จะดีที่สุด หากบับเบิลใดมีผู้ติดเชื้อ กลุ่มผู้มีสัมผัสเสี่ยงสูงก็จะถูกจำกัดในบับเบิลนั้น ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง คนที่มีน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม หญิงตั้งครรภ์ ให้จัดทำงานที่ไม่สัมผัสคนจำนวนมาก หากให้อยู่ในบับเบิลเฉพาะกลุ่มนี้ได้ จะทำให้เกิดความปลอดภัยสำหรับกลุ่มนี้มากขึ้น

รวมทั้งให้มีการสุ่มคนงานตรวจหาเชื้อในสถานประกอลการขนาดใหญ่ ให้สุ่ม 75 ราย ต่อคนงานทุกๆ 500 ราย สถานประกอบการขนาด 100-500 ราย สุ่ม 75 ราย โดยกระจายการสุ่มให้ครอบคลุมกลุ่มต่างๆ ที่แยกไว้ หากพบผู้ติดเชื้อ ให้แยกไปอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย หรือรักษาตนเองที่บ้าน ส่วนคนงานที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับผู้ติดเชื้อ ถือว่าเป็นผู้สัมผัส ให้หยุดงานและกักตัว 14 วันทุกราย
#2765



โควิด-19 ฉุดธุรกิจรายได้หาย กำไรหด ชิ่งการจ้างงาน คนตกงาน ว่างงานมโหฬาร แมนพาวเวอร์ กรุ๊ป ชี้ช่ององค์กร นายจ้าง ยังต้องการคนทำงานทั้งสายไอที การตลาดดิจิทัล โลจิสติกส์ รับอีคอมเมิร์ซโต แต่จ้างงานเน้น "ชั่วคราว" สัญญาจ้าง ลดเสี่ยง ความไม่แน่นอนในอนาคต

นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระยะยาวข้ามปี ส่งผลต่อตลาดแรงงานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ซึ่งจากการสำรวจและประเมินภาพรวมตลาดพบว่านายจ้างและแรงงานต่างได้มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น แต่ในห้วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ตลาดงาน สายงานต่างๆ เป็นสิ่งที่แรงงานต้องการมากสุด เพื่อสร้างโอกาสการมีอาชีพ รายได้ในยามวิกฤติ  

ทั้งนี้ เจาะลึกตลาดงานยังเป็นที่ต้องการขององค์กรต่างๆ มีดังนี้ 1.กลุ่มงานสายไอทีเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงมาก เพราะปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือทำงานมากขึ้นในยุคโควิด โดยตำแหน่งงานที่ต้องการ ได้แก่ Application Developer, IT Network, IT Engineer, Programmer & Developer, IT Sales, IT Support และ IT Specialist เป็นต้น 2.สายงานที่สร้างรายได้ให้ธุรกิจ ได้แก่  งานด้านการขาย  ทั้งงานขายออนไลน์ รองรับการเติบโตตลาดอีคอมเมิร์ซ  งานพัฒนาธุรกิจ  เพื่อหาตลาดใหม่รวมถึงการเพิ่มฐานลูกค้ารับมือการเปลี่ยนแปลงทุกสถานการณ์   

3.สายงานด้านการตลาดดิจิทัล รองรับธุรกิจในยุคที่เทคโนโลยี ดิจิทัลทรงพลัง หนึ่งในอาชีพใหม่ยอดฮิตคือการเกิดขึ้นของเหล่า "ยูทูปเบอร์"  (YouTuber) และบล็อกเกอร์ (Blocker) เป็นเครื่องมือเสริมศักยภาพในการสื่อสารการตลาดและเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าบริการต่างๆ และยังมีอาชีพ เทรนเนอร์ออนไลน์ ,ติวเตอร์ออนไลน์ ,ธุรกิจให้คำปรึกษาออนไลน์ เป็นโอกาสของคนมองหางานและรายได้เพิ่มเติม


4.สายงานด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการเติบโตของการค้าขายอีคอมเมิร์ซ การบริหารงานคลังสินค้าและการขนส่ง โดยตำแหน่งมีหลากหลายทั้งการจัดการคลังสินค้า การจัดส่งสินค้าหรือไรเดอร์ พนักงานขับรถส่งอาหารเดลิเวอรี่, งานขับรถส่งสินค้าและพัสดุ เป็นต้น 5.สายงานบัญชีและการเงิน เช่ย พนักงานบัญชี  พนักงานการเงิน และงานที่ปรึกษาด้านการเงิน 6.สายงานผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะทาง ได้แก่ แพทย์  พยาบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์


"ในห้วงวิกฤติโรคโควิด-19 บุคลากรทางการแพทย์ เป็นอีกอาชีพที่ความตลาดแรงงานมีความต้องการสูง เพื่อเป็นด่านหน้าในการรับมือกับโรคระบาด" 

นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจ คือการจ้างในสายโรงงานอุตสาหกรรม แม้ว่ามีความต้องการวิศวกรและพนักงานฝ่ายผลิตจำนวนมาก แต่บางอุตสาหกรรม เลือกรูปแบบการ "จ้างงานชั่วคราว" หรือเป็นสัญญาจ้าง เพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ต่างทีไม่แน่นอน ส่วนสายงานอื่นๆที่ยังมีความต้องการสูง เช่น งานบริการลูกค้าให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ งานด้านประกันภัย รองรับธุรกิจที่เติบโตค่อนข้างมาก  เป็นต้น 

ขณะที่คุณสมบัติที่นายจ้างต้องการจากแรงงาน สำหรับงานระยะสั้น คือทักษะการทำงานข้ามสายงานได้ ใช้เทคโนโลยีได้ดี มีการปรับตัวยอมรัและเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว  รวมทั้งพนักงานต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองสูง สามารถทำงานโดยไม่มีหัวหน้าทำงานเพื่อติดตามและแนะนำ พร้อมยังต้องแก้ปัญหาเฉพาะได้ดี และมีมุมมองของความเป็นผู้นำในตัวเอง

"การปรับตัวของแรงงานท่ามกลางยุคโควิด-19 ระบาด เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ควร คนทำงานจะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเอง พร้อมปรับตัว การเรียนรู้สิ่งใหม่ ทั้งทั้งเทคโนโลยี  ระบบใหม่ๆ  การทำงานผ่านแพลตฟอร์มต่างๆมากขึ้น ขณะเดียวกันแรงงานควรทำความเข้าใจ ปรับเปลี่ยนทัศนคติ ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ มีความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และสื่อสารอย่างเหมาะสม  เพื่อให้การทำงานกับผู้อื่นเป็นไปด้วยความราบรื่นและบรรลุวัตถุประสงค์ ภายใต้ข้อจำกัดมากมาย ทั้งระยะห่างทางกายภาพและการทำงานระยะไกลผ่านเทคโนโลยีต่างๆ"
#2766



น้ำมันทรงตัวในวันอังคาร(27ก.ค.) ก่อนสหรัฐฯรายงานคลังปิโตรเลียมสำรอง ท่ามกลางความกังวลว่าเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นจะกระทบต่ออุปสงค์พลังงาน ส่วนวอล์สตรีทปิดลบ จับตาผลประกอบการบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ขณะที่ทองคำปิดบวกในกรอบแคบๆ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 71.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 2 เซนต์ ปิดที่ 74.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ(อีไอเอ) มีกำหนดเผยแพร่ข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองในวันพุธ(28ก.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าพวกนักวิเคราะห์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบน่าจะลดลงราว 2.9 ล้านบาร์เรลและเบนซินลดลง 900,000 บาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 กรกฎาคม

สหราชอาณาจักรรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตและคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) แนะนำอเมริกันชนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วกลับมาสวมหน้ากากยามอยู่ในร่มในบางกรณี

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(27ก.ค.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน นักลงทุนระมัดระวังการรายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ และถ้อยแถลงจากที่ประชุมเฟดในวันพุธ(28ก.ค.)

ดาวโจนส์ ลดลง 85.79 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,058.52 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 20.84 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,401.46 จุด แนสแดค ลดลง 180.14 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,660.58 จุด

แนสแดคเป็นตัวฉุดรั้งสำคัญของตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(27ก.ค.) โดยช่วงหนึ่งร่วงลงคิดเป็นเปอร์เซ็นต์หนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม อย่างไรก็ตามทั้ง 3 ดัชนีฟื้นตัวในช่วงท้ายของการซื้อขายและกลับมาปิดลบในกรอบแคบๆ

หุ้นของแอปเปิ้ล อิงค์ ไมโครซอฟต์ คอร์ปและอัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล ซึ่งรายงานผลประกอบการหลังปิดตลาด ต่างปิดลบถ้วนหน้าและเป็นตัวถ่วงสำคัญของแนสแดคและเอสแอนด์พี 500 เช่นเดียวกับแอมะซอน ดอทคอม ซึ่งคาดหมายว่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ในช่วงปลายสัปดาห์

ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(27ก.ค.) ปิดบวกในกรอบแคบๆ แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 1,799.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์)
#2767



และร่วมกันนำองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยไปต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงนโยบาย เชิงสาธารณะ และเชิงพาณิชย์ ตลอดจนถ่ายทอดเทคโนโลยีและส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการกับภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานได้มีการดำเนินงานในการวิจัยพัฒนาและส่งเสริมในเรื่องของกัญชงมาอย่างต่อเนื่อง


นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยและและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ร่วมกับ มูลนิธิโครงการหลวง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้วิจัยและพัฒนากัญชง (Hemp) เพื่อให้เป็นพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี พ.ศ.2549 จนถึงปัจจุบัน ผลการวิจัยและพัฒนา ทำให้จากอดีตที่แม้แต่การใช้ประโยชน์ตามภูมิปัญญาและวิถีของชนเผ่าม้ง เพื่อทำเครื่องนุ่งห่มและใช้สอยในครัวเรือนนั้น ยังผิดกฎหมาย คือ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มีข้อมูลและองค์ความรู้ที่นำมาสู่แก้ไขกฎหมาย เพื่อส่งเสริมกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ  

โดยอาศัยความร่วมมือของหลายภาคส่วน และผลการวิจัยและพัฒนาจำนวนไม่น้อย นับจากปีพ.ศ. 2549-จนถึงปัจจุบัน กว่า 15 ปี เริ่มจากการพัฒนาพันธุ์เพื่อให้มีสารเสพติดต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด การพัฒนาวิธีการเพาะปลูก การแก้กฎหมาย และสร้างการตลาด เพื่อให้สามารถปลูกเป็นอาชีพได้จริง ในช่วงแรกๆ มุ่งการใช้ประโยชน์จากเส้นใยสำหรับในครัวเรือน ต่อมาขยายการศึกษาวิจัยสู่การใช้ประโยชน์จากแกน ลำต้น เมล็ด และเส้นใยในเชิงอุตสาหกรรม และนำไปสู่การศึกษาวิจัยที่มุ่งการใช้ประโยชน์ครอบคลุมทุกส่วน ทั้งเส้นใย เมล็ด และช่อดอก สำหรับอาหาร เวชสำอาง และการแพทย์ ในขณะนี้ โดยมีผลงานที่สำคัญคือ

ระยะที่ 1 ปี พ.ศ.2549-2554 ปรับปรุงและขึ้นทะเบียนพันธุ์ 4 พันธุ์ เป็นพันธุ์ที่มีปริมาณ THC ต่ำกว่า 0.3% คือ RPF1, RPF2, RPF3 และ RPF4 ควบคู่กับวิจัยและพัฒนาวิธีการเพาะปลูกที่เหมาะสม ได้แก่ ระยะปลูก ช่วงเวลาปลูก อายุเก็บเกี่ยว และระบบการปลูกเฮมพ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การตลาด และนำข้อมูลไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการปลูกเฮมพ์เป็นพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง (2552-2556) แผนปฏิบัติการพัฒนาเฮมพ์บนพื้นที่สูง ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2553-2557) และแผนปฏิบัติการพื้นที่นำร่องส่งเสริมการปลูกเฮมพ์ใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่น่าน เชียงราย ตาก และเพชรบูรณ์


ระยะที่ 2 ปี พ.ศ.2555-2559 สวพส. ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ วิจัยและพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการปลูกเฮมพ์เป็นพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง ได้แก่ กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ดำเนินการเพื่อแก้ไขกฎหมายให้สามารถปลูกเฮมพ์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พัฒนาระบบควบคุมการปลูกที่เหมาะสม และสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Institute of Small and Medium Enterprises Development, ISMED) กระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนิน "โครงการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเฮมพ์อย่างสร้างสรรค์แบบครบวงจร" เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากส่วนต่างๆ ของกัญชงที่เชื่อมโยงสู่ภาคปฏิบัติในโรงงานอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป และ สวพส. ได้ศึกษาวิจัยต่อเนื่อง ในด้านการศึกษาระบบส่งเสริมการปลูกภายใต้ระบบควบคุม ในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด

การพัฒนาระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์เฮมพ์ภายใต้ระบบควบคุม การพัฒนาชุดตรวจปริมาณ THC ภาคสนาม (THC test kit) ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเส้นใยเฮมพ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เช่น เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์ วัสดุก่อสร้าง การวิจัยและพัฒนาต้นแบบอาหารสุขภาพจากเมล็ดเฮมพ์ เช่น น้ำมันในแคปซูล และโปรตีนอัดเม็ด ซึ่งพบว่าเมล็ดกัญชงที่มีอยู่ในปัจจุบัน 4 พันธุ์ มีน้ำมัน 28.06-29.62 % และเมื่อสกัดด้วยวิธีการบีบเย็นจะได้ผลผลิตน้ำมัน 22.29% ซึ่งมีกรดไขมันได้แก่โอเมก้า 3, โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 เท่ากับ 20.91, 58.23, 9.74 กรัมต่อน้ำมันเฮมพ์ 100 กรัม และมีโปรตีนที่ในกากเมล็ดเฮมพ์ 33.25 % 


ระยะที่ 3 ปี พ.ศ.2560-ปัจจุบัน มุ่งศึกษาวิจัยเพื่อปรับปรุงพันธุ์และพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะปลูก ในการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ประโยชน์ โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานรัฐ และเอกชน เพื่อขยายผลและผลักดันเฮมพ์เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทยตามนโยบายรัฐบาล ทั้งด้านเส้นใย อาหาร เวชสำอาง และการแพทย์ เช่น ร่วมกับสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก และกรมพลาธิการทหารบก วิจัยและพัฒนาเครื่องแต่งกายทหารจากเส้นใยเฮมพ์ 3 ชนิด คือ ชุดพราง เสื้อยืด และถุงเท้า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 เชียงใหม่ พัฒนาชุดตรวจวัดปริมาณ THC อย่างง่าย (THC strip test) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการส่งตัวอย่างตรวจในห้องปฏิบัติการ ประมาณ 15-25 เท่า รวมทั้งการถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้ให้กับเกษตรกร ภาครัฐ และเอกชน ผ่านการจัดฝึกอบรม สัมมนา ศึกษา ดูงาน ผลงานทางวิชาการ เอกสาร และคู่มือต่างๆ

ข้อจำกัดที่สำคัญของการสนับสนุนให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศไทยคือ ข้อมูล พันธุ์ และ การเตรียมการด้านการตลาด ซึ่งกฎหมายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเปิดโอกาสให้ใช้ประโยชน์ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น แต่ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน เป็นผลการวิจัยที่เน้นใช้ประโยชน์จากเส้นใยเป็นหลัก จึงยังไม่สมบูรณ์มากพอสำหรับวัตถุประสงค์อื่นๆ ซึ่งความสนใจปลูกขณะนี้ส่วนใหญ่มุ่งใช้ประโยชน์จาก CBD และเมล็ด และข้อจำกัดที่สำคัญมากอีกประการหนึ่ง คือเมล็ดพันธุ์ที่ยังผลิตได้ปริมาณน้อยมากสำหรับปี พ.ศ.2564 นี้ 

เพราะมีการผลิตจำนวนน้อยเพื่อใช้ในงานวิจัย ไม่สอดคล้องกับความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน ทั้งนี้จะสามารถการผลิตเมล็ดพันธุ์ให้พอเพียงได้เร็วที่สุด คือในปี พ.ศ.2565 การใช้ข้อมูลและเมล็ดพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศอาจจะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามคงต้องทำอย่างรอบครอบ โดยมีการศึกษาทดลองก่อนนำมาใช้อย่างจริงจัง
#2768
นาฬิกานับเวลา Digital จับเวลาเดินหน้า-ถอยหลัง 

LED Count Down Timer ตัวเลขขนาด 10 cm x 6 cm

นาฬิกาจับเวลา Digital จับเวลาเดินหน้า ถอยหลัง

- LED Count Down Timer 
- แถมรีโมทไร้สาย คู่มือภาษาไทย 
- ขนาด : ยาว 70 cm. สูง 16 cm. หนา 4 cm. 
- ใช้จับเวลาตามโรงยิม,สนามมวย,โรงงาน,สนามชนไก่ เป็นต้น
- ใช้ไฟ220 v
- มีรีโมทพควบคุมไร้สาย
- รับประกัน1ปี

ติดตอสอบถาม
โทร 094-5102033 
line@ : @gentech
Facebook : Gentechshop


#2769



ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง สำหรับนางเอกหน้าหวาน มิน พีชญา วัฒนามนตรี ที่ก่อนหน้านี้ลงครัวทำอาหารไปมอบให้กับคนงานที่แคมป์ก่อสร้างต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร

แต่ล่าสุดนางเอกคนดังก็ครีเอทไอเดียเจ๋งช่วยประชาชนที่เดือดร้อนกับพิษโควิด-19 แบบคูณสอง กับการเหมาอาหาร ขนมและเครื่องดื่มจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของไม่ได้เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้เดือดร้อนจากโรคระบาดดังกล่าวได้กินฟรีรอบกรุงฯค่ะ

"กับโครงการนี้จริงๆ มินได้มีโอกาสทำมาพักนึงแล้วค่ะ คือตอนแรกอย่างที่ทุกคนได้เห็นว่ามินทำอาหารแจกพี่ๆ น้องๆ ที่แคมป์คนงาน แต่ตอนนี้เราก็ลองปรับมาดูว่าเราสามารถช่วยอะไรได้มากกว่านั้นไหม


มินเลยลองเปลี่ยนจากการทำอาหารเองมาเป็นการซื้ออาหาร ไปเหมาอาหารจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของไม่ได้ดีกว่า แล้วมินก็เอาของที่ซื้อมาแจกจ่ายให้กับพี่ๆ น้องๆ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิดแทน

ถือว่าเราได้ช่วยคนแบบสองต่อเลยค่ะ เพราะบางร้านค้าขายของไม่ได้เลย บางร้านก็ขายได้แต่ก็ไม่พอค่าเช่าที่ แถมพ่อค้าแม่ค้าบางคนยังมีลูกเล็กๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอีก

คือเราเห็นแล้วก็สงสารพ่อค้าแม่ค้าทุกคนค่ะ เราเลยมาช่วยตรงจุดนี้ เพราะพอเราซื้อของเค้า เหมาของเค้าพ่อค้าแม่ค้าเองก็ยิ้มได้ มีเงินกินเงินใช้เลี้ยงดูครอบครัว

มินเห็นเค้ามีความสุขเราเองก็ดีใจ ส่วนคนที่มารับของที่เราซื้อไว้ทุกคนก็ยิ้มได้ ได้กินของอร่อย ได้ยินแค่คำขอบคุณเราเองก็ปลื้มใจเช่นกันค่ะ


เพราะเรารู้ว่าตอนนี้พี่ๆ น้องๆ บางคนก็ตกงาน บางคนทำงานเป็นรายวัน ตอนนี้โรงงานปิดก็ขาดรายได้ บางคนก็โดนลดเงินเดือน เราก็ถือว่าเราได้ช่วยให้เค้ามีความสุข ได้อิ่มท้องในแต่ละวัน

เราเองก็มีความสุขมากแล้วค่ะ เพราะถ้าทุกคนมีข้าวกินในแต่ละวัน ทุกคนก็จะมีแรงต่อสู้กับปัญหาที่จะเข้ามาและมินก็คิดว่าจะทำโครงการดีๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ" 
#2770



ลิเวอร์พูล เผยว่า เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังคนสำคัญว่าจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในเกมอุ่นเครื่องกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้

แนวรับชาวดัตช์ ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าอย่างหนักตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เขาต้องพักยาวตลอดทั้งฤดูกาล แม้กลับมาซ้อมได้พักใหญ่แต่ก็ยังไม่ได้ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องสามเกมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามล่าสุด ลิเวอร์พูล ยืนยันผ่านเว็บไซต์สโมสร ระบุว่า ฟาน ไดจ์ค มีสภาพร่างกายที่ดีพอจะกลับคืนสนามในเกมอุ่นเครื่องพบ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน วันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่ โจ โกเมซ กองหลังอีกคนที่พักยาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ก็ใกล้ที่จะกลับคืนสนามได้แล้วเช่นกัน

ลิเวอร์พูล ลงอุ่นเครื่องมาแล้ว 3 นัด เสมอ วัคเกอร์ อินน์สบรู๊ค และสตุ๊ตการ์ท 1-1 ซึ่งเป็นรูปแบบมินิเกม 30 นาที เมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม ต่อด้วยเกมปกติ 90 นาที เอาชนะ ไมนซ์ 1-0 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และจะเล่นเกมต่อไปเจอกับ แฮร์ธ่า ที่ติโวลี่ สตาดิโอน ติโรล วันที่ 29 กรกฏาคมนี้
#2771



น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าจากกรณีที่ผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ สมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย เรียกร้องให้มีการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย และจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ยเพื่อนำมาปรับปรุงสภาพรถว่า ที่ผ่านมา คลัง และธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีมาตรการช่วยเหลืออยู่แล้ว โดยให้ลูกหนี้แบงก์รัฐ และธนาคารพาณิชย์พักต้นพักดอกในพื้นที่สีแดงเข้ม 2 เดือน

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการช่วยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล โดยเปลี่ยนเป็นหนี้ระยะยาว หรือลดค่างวด ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ รวมถึงสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยเพิ่มทางเลือกการพักชำระค่างวด และสำหรับลูกหนี้เช่าซื้อรถ จักรยานยนต์ ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงให้มีทางเลือกในการคืนรถ  หรือพักค่างวดได้ โดยแจ้งความประสงค์ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.64

น.ส.กุลยา กล่าวว่า คลังยังมีมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือ เช่น ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีมาตรการสินเชื่อสู้ภัย วงเงิน 10,000 บาท ดอกเบี้ย 0.35%  สินเชื่อฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย  สำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็ก  วงเงิน 500,000 บาทต่อราย และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) สินเชื่อ เอ็กซ์ตร้า แคช วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับเอสเอ็มอี  บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลวงเงิน 3 ล้านบาท
#2772
การสั่งจองคัมภีร์พระเวทย์
โดยประสิทธิ์ให้เป็นรายบุคคล ท่านใดต้องการจอง ค่าครู 399 บาท



คัมภีร์พระเวทย์ มีวิชาต่าง ๆ ดังต่อไปนี้บทนำ บทสวดมนต์ การอัญเชิญบรมครู การขึ้นพานครู บทไหว้ครู บทอัญเชิญครู วิชาเชิญแม่คุ้มครอง วิชากันภัย ๘ ทิศวิชากำลังช้างสาร วิชาเสกน้ำปลุกตัว วิชากำแพงแก้ว วิชาตาข่ายเพชรพระเจ้า ๕ พระองค์ วิชาผูกหุ่นพยนต์เฝ้าบ้านวิชากันขโมย วิชาปล่อยปลาต่ออายุ การทำสังฆทาน วิชาแก้กรรมทำแท้ง วิชาแก้อาถรรพ์ (ไปรับวัตถุมงคลที่ไม่ดี, รับขันธ์ ฯลฯ) วิชาทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาด้วยตนเอง วิชาตั้งหิ้งพระค้าขาย วิชาการแก้กรรมเฉพาะกิจ วิชาทวงหนี้วิชาแก้ไฝในที่ลับ วิชาพฤกษาชาติเสริมชะตา วิชาขอขมาพ่อแม่ วิชาลอยสรรพเคราะห์ด่วน วิชาทำน้ำมนต์ประทุมทิพย์วิชาแก้เคล็ดเสริมลาภ วิชามงกุฎยอดทรัพย์ วิชาไหว้ผีปู่ผีย่า วิชาสร้างปราณเสริมลาภ การทำน้ำมนต์ถอนคุณไสยวิชาถอนของ ของสมเด็จโต วิชาแก้ของในร้านค้า วิชาเรียกของหาย พระคาถาต่าง ๆ พระคาถาขุนแผน พระคาถาคิ้วทองพระคาถาพระลักษณ์หน้าทอง พระคาถาสาลิกาลิ้นทอง พระคาถาเขี้ยวแก้ว พระคาถาราศีทอง พระคาถาสาลิกามัดจิตพระคาถาไม้สวรรค์ พระคาถาเมตตาอ่อนใจ พระคาถาผูกใจ พระคาถาเสกสีผึ้ง พระคาถาพ่นบุหรี่ พระคาถามหาระรวยพระคาถามหานิยม พระคาถาเทพรัญจวน พระคาถานะหน้าทอง พระคาถานกแขกเต้า พระคาถาเสกสีผึ้งสีปากพระคาถาการะเวกเสียงทอง พระคาถาสาลิกาดลใจ พระคาถาพญาไก่แก้วทั้ง ๑๖ ลืมรัง วิชาฤามหานิยมการทำเสน่ห์ด้วยใบรักซ้อน วิชาทำหุ่น ทำรัก-ทำเลิก การทำเสน่ห์การ้องทัก (เรียกจิต) วิชาฤาษีมัดใจ(เสกของกิน)มนต์เสน่ห์มัดใจ(รักกันจนวันตาย) มนต์ปู่จ้อยมหาเสน่ห์ วิชาหงส์ร่อนมังกรรำ วิชามนต์เทพมัดจิตบังคับใจวิชากลับธาตุกลับใจ วิชากรงทอง คาถาเสริมลาภ เสกธูปเรียกขนหงส์ทอง คาถาขอลาภ เสกธูปเรียกคนพระคาถาเรียกเงิน การทำน้ำมนต์ค้าขาย มนต์ขุนแผนเรียกคน บทสวดขอลาภ การทำเทียนสะเดาะเคราะห์คาถาเรียกเลข วิชาลงทอง เสกน้ำล้างหน้า เหตุใดคาถาถึงศักดิ์สิทธิ์และไม่ศักดิ์สิทธิ์ มนต์ทำงัวธนู การบูชาท้าวเวสสุวรรณ คาถาแก้ฝันร้าย รวมทั้งนิมิตร้าย และลางร้ายต่างๆ เชิญอาคมเข้าสู่ตัว คาถาอาวุธ ๔ ประการ คาถาขอทรัพย์พญานาคราช คาถาบูชาจ้าวปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธมัจฉราชจริยาคาถา คาถาปลาช่อน (คาถาขอฝน) การบูชาพระราหู พระคาถาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เปิดโลก (เรียกบุญบารมีเดิม) คาถาเงินล้าน คาถาชินบัญชร การฝึกสมาธิ

 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่
 โทร. 0846623662
id line : teerapat999

 ลาซาด้า
https://pdp.lazada.co.th/products/i2632506885.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfMp9Zq0  
#2773



วันนี้ (26ก.ค.) พันโทหญิง พัชรินทร์ บุศยกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา กองทัพบกระดมสรรพกำลัง ทั้งกำลังพล สิ่งอุปกรณ์ ยานพาหนะ และยุทโธปกรณ์สนับสนุนรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดบุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพบก ทำหน้าที่ ดูแลรักษากำลังพล ครอบครัวและประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อลดภาระงานของกระทรวสาธารณสุข ถือเป็นการระดมกำลังพลเหล่าแพทย์ครั้งใหญ่ของกองทัพบก ทั้งส่วนกลาง จากกรมแพทย์ทหารบกโดย รพ.พระมงกุฎเกล้า ซึ่งเป็นกำลังหลักในการทำหน้าที่และเพิ่มเติมด้วยกำลังพลจากหน่วยขึ้นตรงของกรมแพทย์ทหารบก ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยตรงแต่เป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ซึ่งเรียกว่ากำลังพลสายแพทย์ แถว 2 ได้แก่ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า, โรงเรียนเสนารักษ์ กรมแพทย์ทหารบก, วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก, สถาบันพยาธิวิทยา และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แพทย์ทหาร  

ทั้งนี้เป็นการนำความรู้และทักษะในวิชาชีพ แพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ และเภสัชกร มาทำหน้าที่เสริมให้กับส่วนอื่นๆที่มีความต้องการบุคลากรทางการแพทย์มาทำหน้าที่ อาทิสนับสนุนศูนย์ห่วงใยคนสาคร รพ.สนามวัฒนาแฟคตอรี่, รพ.สนามบางขุนเทียน กทม., รพ.สนามกองทัพบก เกียกกาย และ รพ.สนามกองทัพบก กรมยุทธศึกษาทหารบก ปัจจุบัน ในส่วนของรพ.สนามกองทัพบกทั้ง 2 แห่ง รับดูแลผู้ติดเชื้อ จำนวน 224 ราย (25 ก.ค.64) ล่าสุด ได้จัดชุดตรวจเชิงรุกเคลื่อนที่ดำเนินการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Rapid test ให้กับกำลังพลและครอบครัวอย่างเร่งด่วน ในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตามนโยบายของกองทัพบก ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ วันที่ 11 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ดำเนินการตรวจไปแล้ว จำนวน 23,567 ราย (25 ก.ค.64)  

นอกจากนี้ สนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจ"วาระแห่งชาติ ฉีดวัคซีนโควิค"  ซึ่งจำเป็นต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก โดยเฉพาะวิชาชีพพยาบาลเพื่อเร่งฉีดวัคซีนโควิดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประชาชนโดยเร็ว กองทัพบกจึงได้จัดกำลังพลที่มีขีดความสามารถ แต่ไม่ได้ทำหน้าที่ในหน่วยแพทย์ (กำลังพลแถว 3) ที่สมัครใจและมีจิตอาสาช่วยเหลือประชาชน จำนวน 85 นาย มาทำหน้าที่ฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชน ณ รพ.พระมงกุฎเกล้า ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.64 เป็นต้นมา และปัจจุบันได้เข้าร่วมการฉีดวัคซีนให้กับศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด ณ สถานีกลางบางซื่ออีกด้วย  

พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้ความสำคัญและเห็นถึงความทุ่มเท เสียสละของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถมาโดยตลอด พร้อมกำชับให้หน่วยทหารทุกแห่งสนับสนุนงานของรัฐบาลในทุกเรื่อง ทั้งนี้กองทัพบกขอส่งกำลังใจให้บุคลากรทางแพทย์ทั่วประเทศ ที่เสียสละทำงานอย่างหนักตลอด 24 ชม.และพร้อมสนับสนุนเคียงข้าง เพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชนและประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิดไปได้อย่างปลอดภัย
#2775


เปิดหมดทุกวีรกรรมความเจ้าชู้ สมรักษ์ จากปากคุณอ้อย ภรรยาที่เผยว่ามีคนมาจ้างหย่าให้ราคาถึง 2 ล้าน พร้อมแนะวิธีเด็ดของเมียหลวง ที่กำราบเหล่าเมียน้อยให้ยอมถอยห่างครอบครัว

นับเป็นอีกคู่รักที่มีความเข้าใจ ให้อภัยซึ่งกันและกันเพื่อรักษาคำว่า ครอบครัวที่อบอุ่น เพื่อลูกๆ สำหรับ บาส สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยทีมชาติไทย ฮีโร่เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 1996 ที่จูงมือภรรยาคนสวย อ้อย เสาวนีย์ คำสิงห์ มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ที่คุณอ้อย ได้เปิดเรื่องราวชีวิตอย่างหมดเปลือกถ้าวีรกรรมความเจ้าชู้ของสามี ที่มีเข้ามากวนใจอยู่นับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็สามารถผ่านมาได้ด้วยสติและความรักที่มีต่อลูกๆ พร้อมยังเผยถึงขนาดที่ว่ามีคนมาจ้างให้หย่าถึงสองล้าน พร้อมแนะวิธีเด็ดของเมียหลวง ที่กำราบเหล่าเมียน้อยให้ยอมถอยห่างครอบครัว



เริ่มต้นคือไปเจอกันได้ยังไงเอ่ย แล้วความใจกล้าตอนนั้นไปจีบอย่างไร
สมรักษ์ : คือถ้าผมเล่าเดี๋ยวจะหาว่าผมโม้ (หัวเราะ) คือ ผมเป็นนักกีฬาเขต 4 จังหวัดขอนแก่น แล้วคุณอ้อย เขาก็เป็นนักกีฬาเขต 4 ขอนแก่นเหมือนกัน ส่วนผมชกมวย

คุณอ้อย : ตอนนั้นเป็นนักกีฬาบาสเกต.ค่ะ
สมรักษ์ : ตอนนั้นเราก็นั่งรถบัสคันเดียวกันเพื่อที่จะไปแข่งที่ อยุธยา แล้วเพื่อนกลุ่มนักมวยของผมก็บอกว่าคนนั้นหน้าตาดี (บอกว่าคุณอ้อยหน้าตาดี) เขาฟังซาวด์เบาท์อยู่ใครกล้าไปยืมบ้างก็ไม่มีใครกล้าเลย แล้วผมก็อาสาออกตัวว่าจะไปยืมให้(ตอนนั้นผมดังอยู่) เพราะว่าต่อยมวยไทยพิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญก็ดังอยู่ แบบผมชกจนไม่มีคู่ชกเลย แต่ตอนที่เราบอกว่าเราจะไปยืมซาวด์เบาท์ของเขาให้คือ เรายังไม่เห็นหน้าตาเขานะครับ เห็นแต่ด้านหลังแต่ก็ใช้ได้แล้วแหละ (หัวเราะ) เราก็เดินไปสะกิดหลังเขาว่าขอยืมซาวด์เบาท์หน่อย แล้วเขาก็หันมาแบบเหล่สายตามองเราด้วยหางตา

คุณอ้อย : เราก็คิดว่าเธอเป็นใครมายืมของฉัน แล้วเราก็หันไปแล้วบอกว่าไม่ให้
สมรักษ์ : พอเขาไม่ให้เราก็เดินกลับมาบอกเพื่อนว่าเขาไม่ให้ แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าเราเสียหน้าหรืออะไรนะครับ เพราะว่าเราเป็นคนมองโลกในแง่ดีเพราะว่าคนเราต้องมีน้ำใจต่อกันเข้าใจไหม (หัวเราะ)

คุณอ้อย : พอจากตรงรถทัวร์จบแล้วก็ไปพักที่โรงแรมเดียวกัน แต่อยู่คนละตึก ซึ่งเราจะเห็นเขาทุกเช้าผ่านหน้าต่างเพราะว่าเขาจะกระโดดเชือกเพื่อรถน้ำหนักเราก็จำได้ว่าคนนี้นิที่มาสะกิดยืมซาวด์เบาท์เรา เราก็มองธรรมดา แล้วมีวันหนึ่งเขาจะเดินไปทานข้าวแล้วเขาเห็นเรานั่งอยู่ เขาก็ถามว่ากินข้าวหรือเปล่า ไปทานข้าวกันไหม เราก็ส่ายหน้าไม่ไป ไปเถอะเราก็บอกเขาไปแบบนี้ แล้วพอเขาเดินเลยเราไปนิดนึงเราก็เรียกเขาเดี๋ยวๆเธอชื่ออะไร ... เราก็เลยถามแบบนี้



สมรักษ์ : แล้วผมก็หันมาช้าๆแล้วบอกกับเขาว่าเราชื่อ บาส แล้วผมก็เดินไปเลย
คุณอ้อย : เราก็แบบว่าช็อกเลยพอได้ยินชื่อของเขาว่าเขาชื่อ บาส เพราะว่าเรามีความใฝ่ฝันว่าอยากมีแฟนชื่อ บาส ค่ะ เพราะว่าเราชอบเล่น บาส ถึงขนาดที่เรามีความคิดว่าถ้าเราไม่มีแฟนชื่อนี้เราจะไม่มีแฟนเลย พอเราหายช็อกพอรู้ชื่อเขาเราก็รีบตะโกนเรียกเขาเลยว่าเธอๆเดี๋ยวเราไปด้วยแล้วเราก็วิ่งลงจากอาคารแล้วก็ไปทานข้าวกับเขาเลย แล้วเวลาที่ไปทานข้าวเราก็นั่งมองหน้าเขาอย่างเดียวเลยค่ะ คือ ตอนนั้นเหมือนแบบจากซาตานเป็นเทพบุตรเลยค่ะ แล้วเราก็ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี คิดแค่ว่าเราเจอแล้ว เราก็นั่งจ้องเขาแล้วเขาก็โม้ไปเรื่อย แล้วหลังจากนั้นเราก็เป็นฝ่ายที่ไปจีบเขาเลยค่ะ

เมื่อความรักทุกอย่างลงตัว แต่ก็ต้องมีเรื่องให้เสียใจเพราะว่าต้องสูญเสียลูกคนแรกไปช่วงที่ คุณสมรักษ์ ไปแข่งกีฬาโอลิมปิก
คุณอ้อย : คุณหมอก็มาแจ้งเราว่า คุณอ้อยๆลูกเสียแล้วนะ ลูกเสียในครรภ์ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะเสียเราก็ไม่ได้มีอาการอะไรเลยนะคะ เพราะก่อนหน้านี้ก็เพิ่งไปตรวจคุณหมอก็ยังบอกว่าหัวใจของเขายังเต้นปกติแล้วก็มาเสีย พอรู้ว่าลูกไม่ได้อยู่กับเราแล้วตอนนั้นเราเสียใจมาก แล้วเขาก็ไม่อยู่ด้วยเราก็ร้องไห้ คุณหมอก็โทรไปบอกเขาที่อเมริกา
สมรักษ์ : พอผมทราบเรื่องก็ร้องไห้เดินไปร้องไห้ในห้องน้ำเลยทีมมวยเขาก็มาปลอบใจเราว่ากลับไหม แล้วผมก็เลยคิดว่าเออ.... เราต้องเอาเหรียญทองโอลิมปิกมาให้ได้เพราะว่าลูกเนี่ยเอาชีวิตแลกไปแล้ว เพราะถึงเรากลับมาลูกเราก็ไม่ฟื้น ต้องซ้อมเอาเหรียญทองแล้วพอได้เหรียญทองแล้วเราค่อยกลับมาดูแลเขา

เป็นวิธีคิดที่เอาความเสียใจมาเป็นพลังบวกให้ได้ แล้วในมุมของคุณอ้อย ล่ะ
คุณอ้อย : ในมุมของเราคือตอนนั้นเราอยู่คนเดียวเราจะทำอย่างไร เราก็น้อยใจ ไม่เข้าใจเพราะว่าเหตุการณ์อะไรต่างๆกว่าเราจะมาเจอเหตุการณ์นี้มันผ่านมาเยอะ อย่างก่อนหน้านี้เขาไปบาร์เซโลนา เราก็รถยนตร์หายไปคันหนึ่งเหมือนว่ามันเป็นทุขลาภแล้วค่อยมาได้เหรียญทองแต่ครั้งนี้มันเอาชีวิตแลกเลย

ตอนนั้นที่เราไป คุณสมรักษ์ คิดว่าเราน่าจะเป็นผู้ชนะไหม
สมรักษ์ : การไปโอลิมปิกครั้งนั้นคือ ผมมั่นใจมากที่จะได้เหรียญเพราะว่าก่อนที่ผมจะได้คือ สั่งเสื้อไว้ก่อนเลยสั่งสกรีนเสื้อไว้เลย 100 ตัว แล้วบอกภรรยาว่าได้เหรียญทองกลับมาแน่นอน อยากได้อะไรไปดูไว้ อยากได้บ้าน อยากได้รถอะไรไปดูไว้
คุณอ้อย : เขาเคยโดนซื้อตัวจะให้ไปชกแชมป์โลก สากลอาชีพ ซื้อตัวเท่าไหร่เขาก็ไม่ไปเพราะเขาตั้งเป้าว่าเหรียญทองมวย โอลิมปิก ยังไม่มีใครได้เขาต้องเอามาให้ได้ ซึ่งเขาเป็นคนแบบนั้นจริงๆค่ะ เพราะเขาเป็นคนมุ่งมั่น และเขาตั้งใจทำเพื่อประเทศไทย



ซึ่งในวันนั้น คุณสมรักษ์ ก็ทำให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุขและเป็นความสุขของคนไทยจริงๆในรอบที่ชกในวันนั้น ในความเสียใจของผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งสูญเสียลูกไปในวันที่เขาชกตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เราเชียร์อยู่ที่นี่หรือว่าตามไปเชียร์ที่โน้น

คุณอ้อย : ก็เลยมีโอกาสเขาให้ไปเชียร์ เหมือนเขาให้รางวัลปลอบขวัญ ปลอบใจเราให้ไปเชียร์ที่อเมริกาพอได้เหรียญเลยได้คุยกันว่า พี่ได้เหรียญทอง พี่มีเงินแล้วนะ เขาบอกว่าถ้ากลับไปถึงเมืองไทยเขาจะจัดงานแต่งงานให้



แล้วพอมีชื่อเสียงก็จะมีคนเข้ามาถึงขนาดที่ว่ามีคนมาจ้างหย่า 2 ล้าน เขากล้ามาจ้างหย่าเลยเหรอ
คุณอ้อย : เขาน่าจะจ้างคุณสมรักษ์ เราก็บอกว่า 2 ล้านบาทไม่พอหรอกเพราะมูลค่าเขามากกว่านั้น เพราะถ้าคุณเอาเขาไปคุณคุ้ม เราก็บอกเขาไปว่าสัก 10 ล้านบาทได้อยู่นะ เพราะตอนนั้นน่าจะประมาณปี 40 ได้ค่ะ

ฟังดูแล้วเวลาที่เกิดเรื่องแบบนี้ คุณอ้อย ดูแบบมีสติมากเลยนะ เพราะว่าที่จะโต้ตอบให้อีกฝ่ายหงายหน้าไป
คุณอ้อย : ใช่ค่ะ เพราะว่าเขาพูดเยอะค่ะ พวกผู้หญิงพวกนั้นมันขึ้นอยู่กับผู้ชาย ถ้าเราถามว่าคุณอย่างไร ถ้าเขายังเลือกเราอยู่เราจะมีความมั่นใจที่จะไปตอบโต้เพราะว่าเราอย่าไปคิดเลยว่าเราจะเลิกกัน แต่ถ้าเราคิดว่าจะเลิกแล้วเราจะไปอยู่คนเดียวเราเลิก แต่ถ้าเลิกกันแล้วเราคิดอยากจะแต่งงานใหม่ เราอย่าเลิกดีกว่าเพราะว่าเราไม่รู้ว่าผู้ชายที่เราจะไปเจออีกเขาจะดีหรือไม่ดีอะไรอย่างนี้ค่ะ แล้วอีกอย่างเขาเป็นพ่อของลูกเรามองว่าให้เขาอยู่กับลูกเรา คือ เป็นพ่อของลูกเรามันอบอุ่นดีอยู่แล้วเราไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรเลย เพียงแต่ว่าเวลาที่เขาออกนอกลู่นอกทางเราก็ตบๆเขามาเพราะว่ามันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว แล้วเราก็บอกเขาว่าต่อให้เลิกกันยังไง หรือต่อให้เธอย้ายเอาของออกไปจากบ้านอะไรที่เป็นสมบัติของเธอมันมีอยู่ชิ้นเดียวคือ ทะเบียนสมรส แล้อยากจะไปมีเมียใหม่ไปมีเลย แต่ทะเบียนสมรสฉันกอดไว้มันคือ ความสะใจ ของคนที่เป็นเมียหลวง เพราะคนที่เป็นเมียน้อยมันอยากได้อย่างเดียวเลยคือ ทะเบียนสมรส
สมรักษ์ : เป็นครอบครัวนักกีฬาคือ ต้องรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย (หัวเราะ) ฟังไว้นะครับ อันนี้หลายครอบครัวบางทีมีปัญหานี่เอาอย่างภรรยาของผม รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ดีมากคือครอบครัวอยู่ยาว

คือผู้หญิงกลัวที่สุดคือเรื่องการนอกใจ แต่พอมันเกิดขึ้นแบบนี้มันก็ต้องชั่งน้ำหนักว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างของผุ้ชายคนนี้ที่ยังน่ารักมากพอให้เราทน
คุณอ้อย : ใช่ค่ะ เขาอาจจะเป็นสามีที่ดีไม่ได้ แต่เขาเป็นพ่อที่ดีของลูกมากๆ ถามว่าตอนนี้หยุดเจ้าชู้หรือยัง ตอนนี้ เบสบอกว่าแม่ไม่ต้องเดี๋ยว เบส จัดการเอง

สมรักษ์ : ผมก็อยู่ของผมเฉยๆผมก็ไม่เคยปิดบังว่าผมมีครอบครัว
คุณอ้อย : แต่จริงๆนะคะ คือต่อให้ตอนนั้นที่เขาไม่หยุด ผู้หญิงทุกคนก็อยากเป็นหนึ่งคนที่เป็นเมียน้อย ก็คือ อยากเป็นเมียหลวงถูกไหมคะ ตอนนั้นต้องบอกว่าทะเบียนสมรสอันเดียวเลยค่ะ คือมันจะกำราบพวกคนพวกนี้ไปเพราะเราอย่าหย่าต่อให้เขาอยากเลิกกับเราแค่ไหนเราก็อย่าหย่าเพราะมันคือว่า สะใจ ค่ะ

จริงๆแล้วเรื่องสถานบันครอบครัวมันก็จะมีเรื่องอันนี้อยู่เยอะมากในขณะที่ คุณอ้อย เองก็คือคนหนึ่งเลยที่ต้องใช้ความหนักแน่นเยอะมาก และต้องใช้สติเยอะมาก อยากให้เป็นข้อคิดกับหลายๆคนที่อาจจะดูอยู่แล้วกำลังมีปัญหาสามีออกนอกลู่นอกทางแล้วเราต้องพยายามดึงกลับมาให้อยู่ในเส้นทางเราต้องตั้งสติยังไงบ้าง



คุณอ้อย : เราก็ฟูมฟายเหมือนกันนะคะ เราก็สาดเสียเทเสียเหมือนกันแต่เรากับเขาก็มาคุยกัน ถ้าเขายังอยู่กับเราหมายถึงว่า เขายังเลือกอยู่กับเราเราก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว เราก็ดึงเขาให้กลับมา แต่กลับมาในที่นี่คือกลับมาหมดเลยนะคะ เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเราแล้ว พอจะดึงเขากลับมาเนี่ยอันดับแรกเราต้องตั้งสติแล้วก็อย่างี่เง่า แล้วก็อย่าเอาผู้หญิงคนนั้นมาเปรียบเทียบเพราะผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้มีค่าอะไรเท่ากับเราเลย แล้วเราก็มองว่าสามีเราต้องการอะไร แล้วเราก็ต้องปฏิบัติกับเขาอย่างไรเพื่อที่จะให้เขากลับมาอยู่กับเรา (แต่เราไม่ได้มีความคิดว่าเขายังอยากอยู่กับเขาไหมนะคะ ในตอนนั้นไม่มีความคิดตรงนั้นเลย ไม่มีคำว่าอยากหรือไม่อยาก แต่ว่ารักลูก) แล้วพอเขากลับมาแล้วพออะไรมันดีขึ้น ความคิดอยากอยู่มันจะมาเอง



ในความเป็นคุณพ่อที่ดีของ คุณบาส เขาเป็นคุณพ่อที่ดีแบบไหนกับลูกๆบ้าง
สมรักษ์ : ครอบครัวของผมอบอุ่นอยู่แล้ว ครอบครัวอบอุ่นคือ ป้องกันได้ทุกอย่างนะครับ เพราะว่าการเลี้ยงลูกตั้งแต่เล็กจนโตผมก็ใส่ใจเต็มที่แล้วถือว่าอบอุ่นครอบครัวไม่มีพูดหยาบ ไม่มีทะเลาะกัน เพราะเวลาที่เราทะเลาะกันลูกก็ไม่เคยเห็นมีปัญหาก็เข้าห้องเถียงกันก็จบ
คุณอ้อย : ส่วนคนที่ดุที่สุดในบ้านคือ คุณพ่อค่ะ ลูกจะเชื่อฟังเขามากกว่าค่ะ



มาจนถึงวันนี้ก็น่าจะพูดได้ว่าที่ต้องบอกเลยว่าเป็นคุณพ่อ คุณแม่ที่มีความสุขเหลือเกินเพราะว่าคุณลูกถือว่าประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วมาก แล้วก็คือคนที่ย้อนกลับมาดูแลคุณพ่อคุณแม่อย่างเต็มที่มากๆเลยเช่นกันทั้งน้องเบส และ น้องโบ๊ท ทั้งสองคนเลยรู้สึกยังไงบ้างกับลูกที่เขาสามารถดูแลเราได้

สมรักษ์ : ภูมิใจมากแล้วผมยังเชื่อมั่นว่าเพราะเราทำความดีไว้เยอะ แล้วความดีที่เราทำขอให้ส่งไปให้ลูก เรื่องจริงไม่ได้โม้ เป็นอย่างไรลูกผมตอนนี้ทั้งน่ารัก ทั้งเก่ง ทั้งสวย ตอนนี้ก็ลุ้นเกียรตินิยมอันดับหนึ่งยังเหลืออีก 1 เทอมครับ คือไม่ว่าจะเป็นลูกชาย ลูกสาวนะครับ ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆเลยครับ



สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป
#2778


ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์ (23ก.ค.)ปรับตัวขึ้น 238 จุด ทะลุแนว 35,000 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 238.20 จุดหรือ 0.68% ปิดที่ 35,061.55 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น

1.01% ปิดที่ 4,411.79 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 1.04% ปิดที่ 14,836.99 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 0.07% เมื่อวันพฤหัสบดี(22ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของตลาดถูกจำกัดจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยเฉพาะตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวสู่ระดับ 1.3% ในวันนี้ ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรดิ่งลงแตะ 1.13% ในช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน

การซื้อขายในวันนี้ ยังคงได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส โดยบริษัทราว 15% ในดัชนีเอสแอนด์พี 500รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว ซึ่ง 88% จากจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ 84% มีรายได้สูงกว่าคาด

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์หน้า ซึ่งได้แก่ เฟซบุ๊ค แอ๊ปเปิ้ล อเมซอน อัลฟาเบท และไมโครซอฟท์ รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 ก.ค.

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในขณะนี้
#2779


"พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น"เครือออริจิ้น ต่อยอดธุรกิจบริการ ดึงผู้เชี่ยวชาญสายการเงิน-ประกัน ตั้ง "พรีโม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์" บุกตลาดนายหน้าประกันบ้าน-คอนโด-รถยนต์ กางโรดแมปลุยขายประกันชีวิตปีหน้า ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ใน 3 ปี

นางจันทร์เพ็ญ หล่อวิมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีโม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด ในเครือบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์การขยายธุรกิจทั้งเชิงกว้างและเชิงลึกภายใต้แนวคิด ORIGIN NEXT LEVEL ของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ส่งผลให้ทุกบริษัทในเครือมองหาโอกาสในตลาดใหม่ๆ ที่สามารถต่อยอดจากประสบการณ์ องค์ความรู้ และพื้นฐานในธุรกิจดั้งเดิม เพื่อก้าวไปข้างหน้าแบบ Next Level สำหรับพรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น ในฐานะบริษัทในเครือที่มุ่งมั่นให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร จึงได้จัดตั้งบริษัท พรีโม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัย รองรับการเติบโตของตลาด พร้อมทั้งเติมเต็มอีกมิติหนึ่งของอีโคซิสเท็มในการใช้ชีวิตของผู้บริโภค

"จากประสบการณ์ส่วนตัวในแวดวงธุรกิจการเงิน-ประกันภัยกว่า 30 ปี เราเห็นเลยว่ามุมมองต่อธุรกิจประกันภัยของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก ในอดีตคนมองว่าการทำประกันเป็นเรื่องไม่จำเป็น มีบุคคลที่ทำประกันภัยอยู่จริงๆ ไม่ถึง 50% แต่วันนี้มี 2 ปัจจัยที่เร่งให้คนตื่นตัวกับการทำประกันภัย ได้แก่ 1.สถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อต้นปี 2563 และ 2.การเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการวางแผนการเงิน เราเชื่อว่าความตื่นตัวดังกล่าวจะเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจนายหน้าประกันภัยมีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ" นางจันทร์เพ็ญ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มต้นก้าวเข้าสู่ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย นำเสนอประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยคอนโดมิเนียม ประกันภัยบ้าน ก่อนเป็นกลุ่มแรก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่สามารถต่อยอดจากพื้นฐานเดิมของทั้งเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และเครือพรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น ได้ทันที ล่าสุด บริษัทได้รับแต่งตั้งเป็นนายหน้านิติบุคคลที่มีใบอนุญาต ประเภทนายหน้าประกันวินาศภัยโดยตรง จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เรียบร้อยแล้ว จะเริ่มดำเนินธุรกิจทันทีในไตรมาส 3/2564 เจาะทั้งตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร (Corporate) และกลุ่มลูกค้ารายย่อย (Retail)

นางจันทร์เพ็ญ กล่าวอีกว่า นอกจากธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยแล้ว บริษัทยังวางโรดแมปในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์โดยตรง และจะเป็นอีกก้าวหนึ่งของเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่จะขยายตลาดสู่ธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ (Beyond Property Business) ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจนายหน้าประกันภัยอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าว่าจะสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องจนสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายใน 3 ปี
#2780


สายการบิน "กาตาร์ แอร์เวย์ส" ได้รับรางวัล "สายการบินยอดเยี่ยมแห่งปี 2021" จากแอร์ไลน์เรตติงส์ และได้รับรางวัล "สายการบินที่ดีที่สุดในตะวันออกกลาง" "ครัวการบินที่ดีที่สุด" และ "ชั้นธุรกิจที่ดีที่สุด" โดยในปีนี้ นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่กาตาร์ แอร์เวย์ส ได้รับรางวัล "ชั้นธุรกิจที่ดีที่สุด" ซึ่งการันตีคุณภาพของที่นั่งชั้นธุรกิจแบบคิวสวีท (Qsuite)

รางวัล "สายการบินยอดเยี่ยม" จากแอร์ไลน์เรตติงส์ ให้การรับรองสิ่งที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งให้ความสำคัญกับนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ เครือข่ายเส้นทางบินและมาตรฐานความปลอดภัยโดยรวม รางวัลจากแอร์ไลน์เรตติงส์ทุกรางวัลต้องผ่านเกณฑ์การประเมินที่เข้มงวดจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่มีความรู้และประสบการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมการบิน

นายอัคบาร์ อัล บาเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส กล่าวว่า การได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 สายการบินที่ดีที่สุดในตะวันออกกลาง ครัวการบินที่ดีที่สุดและชั้นธุรกิจที่ดีที่สุดจากแอร์ไลน์เรตติงส์ เป็นสิ่งที่พิเศษมากสำหรับกาตาร์ แอร์เวย์ส ในช่วงกว่า 16 เดือนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการบินได้ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด แต่สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สยืนหยัดที่จะให้บริการอย่างต่อเนื่องและอยู่เคียงข้างผู้โดยสาร ในขณะที่สายการบินอื่นๆได้หยุดให้บริการเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เติบโตอย่างต่อเนื่องและกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้โดยสาร เพราะดีเอ็นเอของเราคือการทำทุกอย่างให้ยอดเยี่ยมที่สุด เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการด้วยมาตรฐานสุขอนามัยและความปลอดภัยที่ดีที่สุด ทั้งบนภาคพื้นและในห้องโดยสาร การันตีด้วยการบริการระดับ 5 ดาวซึ่งเป็นพื้นฐานธุรกิจของเรา

คิวสวีท (Qsuite) ที่นั่งโดยสารชั้นธุรกิจเอกสิทธิ์ของสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส มอบประสบการณ์ระดับเฟิร์สคลาสในที่นั่งชั้นธุรกิจ และเป็นรูปแบบแรกในอุตสาหกรรมที่สามารถปรับที่นั่งให้เป็นเตียงคู่ในชั้นธุรกิจ รวมถึงมีฉากกั้นระหว่างที่นั่งที่สามารถปรับลงเพื่อเชื่อมที่นั่งเข้าด้วยกันในรูปแบบห้องส่วนตัวพิเศษ

กาตาร์ แอร์เวย์ส เป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศกาตาร์ที่ได้รับรางวัลมากมายและยืนหยัดขยายเส้นทางบินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันให้บริการแล้วกว่า 140 จุดหมายปลายทางทั่วโลก สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ยืดหยุ่น ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางหรือจุดหมายปลายทางได้ไม่จำกัดครั้งและขอคืนเงินค่าบัตรโดยสารได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม สำหรับบัตรโดยสารที่ซื้อก่อนวันที่ 31 สิงหาคม 2021 และเดินทางก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม 2022