• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Shopd2

#6586

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)หรือ MAKRO เช้านี้เปิดตลาดที่ 43.75 บาทเพิ่มขึ้น 4.17 % หรือ1.75 บาท  ส่วน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)หรือ CPALL ราคาเปิดที่ 67 บาท เพิ่มขึ้น 3.07% หรือ 2 บาท รับข่าว ปรับโครงสร้างโอนหุ้น"โลตัสส์"ให้กับ MAKRO

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซีย พลัส ระบุ  กลุ่ม CP ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกในเครือ นำ Lotus's มาอยู่ภายใต้MAKRO จากเดิม Lotus's จะถูกถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท CPRH (CPALL Huay 40%, CPG40% และ CPF 20%) ดังรูปล่างซ้าย โดยในส่วนของแหล่งเงินทุน MAKRO จะมาจากการออกหุ้นเพิ่มทุน PP จำนวน 5.01 พันล้านหุ้น (จากเดิม 4.8 พันล้านหุ้น) หุ้นละ 43.5บาท เพื่อแลกกับหุ้น Lotus's ที่ถือโดย CPALL, CPG, CPF ผ่านบริษัท CPRH ดังกล่าว


โดยหลังธุรกรรมแล้วเสร็จ MAKRO จะถือหุ้นทั้งหมดใน Lotus's แทน CPALL, CPFและ CPG ที่บริษัท CPRD ซึ่งเดิมมีการกู้ยืมเพิ่มเติมจากฐานทุนที่มี เพื่อนำไปซื้อLotus's ส่วนทั้ง 3 บริษัทที่เป็นผู้ถือหุ้นเดิม Lotus's (ผ่าน CPRH)จะขึ้นไปถือหุ้นLotus's ทางอ้อมผ่าน MAKRO แทน

กระบวนการโอนธุรกิจทั้งหมดจะเสร็จ ต.ค.64 โดยหลังแล้วเสร็จ CPG + CPF จะต้องทำการ Tender offer ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย MAKRO เดิม 332 ล้านหุ้น หุ้นละ 43.5 บาทเท่ากับราคาหุ้น MAKRO ที่ได้มาผ่านการแลกหุ้น

หลังจากนั้น ในส่วนของ MAKRO จะมีการเสนอขายหุ้น PO โดยเป็นหุ้นใหม่อีกจำนวน1.36 พันล้านหุ้น (เพิ่มจากหุ้นที่รวม PP ที่ 9.81 พันล้านหุ้น) โดยปัจจุบันยังไม่มีการ กำหนดราคา PO ทั้งนี้ จะมีการขายหุ้นของผู้ถือหุ้น MAKRO คือ CPALL และ CPF
ออกมาด้วยในช่วง PO ถือเป็นการ Unlock Value MAKRO และ Lotus's พร้อมกันรวมถึงเป็นการแก้ไขปัญหา Free Float ของ MAKRO และช่วยให้ได้เงินกลับเข้ามาที่ ทั้ง MAKRO, CPALL และ CPF ซึ่งคาดจะไปขยายธุรกิจและลดภาระหนี้ที่มีลง

CPALL เป็นบวก - ผลกระทบการถือหุ้น MAKRO ลดลง เชื่อว่าชดเชยได้จาก MAKRO ที่มีขนาดใหญ่ จากการถือหุ้นใน Lotus's และ Value เดิมที่ของ MAKRO ที่จะเพิ่มขึ้นจาก Synergy ร่วมกับ Lotus's บวกกับ ยังได้เงินที่จะขายหุ้น MAKRO พร้อมกับ POไปลดภาระหนี้สิน ประเมินสร้าง Upside ต่อประมาณการนับจากปี 2565 โดยฝ่ายวิจัย อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ โดยคงแนะนำ ซื้อ


MAKRO เป็นบวกเล็กน้อย แม้มีผลกระทบหลัก คือ Dilution จากการเพิ่มทุน เพื่อรับโอนกิจการจาก CPRH รวมถึง PO ในระยะถัดไปที่สูง ขณะที่กำไรส่วนชดเชยจากLotus's ระยะสั้นยังถูกหักล้างจากดอกเบี้ยจ่ายที่บริษัท CPRD (ตามรูป) แต่ภาพระยะยาว ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าดีขึ้นมีนัยฯ จาก Synergy การขยายตัวร่วมกันทั้งในรูปแบบเดิมและการเปิดสาขาใหม่ๆในต่างประเทศร่วมกันรวมถึง Omnichannel Platform B2C – B2B ขณะที่ราคาหุ้นระยะสั้นยังน่าจะรักษาระดับใกล้เคียงราคา Tender Offer ที่43.5 บาท โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ โดยคงแนะนำ ซื้อทั้งนี้ จากการขายหุ้น PO เพิ่มทั้งในส่วนของ MAKRO, CPALL, CPF คาดจะช่วยแก้ปัญหา FreeFloat ให้ MAKRO และมีโอกาสกลับสู่ SET50 ได้ในระยะถัดไป

CPF เป็นบวก จาก 1) Unlock value จากการลงทุนใน Lotus's มาเป็น MAKROแทน ซึ่งมีสภาพคล่องมากขึ้น และหลังจากนั้นจะได้ผลบวกจากการขายหุ้น MAKROแบบ PO จำนวนไม่เกิน 181.6 ล้านหุ้น หรือ 1.85% ของจำนวนหุ้นของ MAKRO
ทั้งหมดภายหลังการโอนกิจการ Lotus's เพื่อไปลดภาระหนี้สินในอนาคต 2) Synergyในอนาคต จากการขายอาหารสดเข้า MAKRO และ Lotus's ในไทยเพิ่มขึ้นในระยะยาวและหาก MAKRO และ Lotus's ขยายธุรกิจในต่างประเทศ เพราะ CPF มีการลงทุนใน17 ประเทศทั่วโลก จึงสามารถขายอาหารสดระหว่างกันได้ และ 3) ผลบวกทางอ้อมจากการถือหุ้น CPALL 34.12% ของทุนชำระแล้ว ที่จะได้ผลบวกในระยะยาวเช่นกันจึงยังแนะนำซื้อ CPF กำหนด FV ปี 2565 เท่ากับ 31 บาท
#6587


" เจริญโภคภัณฑ์อาหาร" โอนกิจการทั้งหมดของ " ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง" ให้ "สยามแม็คโคร" ขณะ MAKRO ออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อตอบแทน พร้อมแบ่งหุ้นขาย PO เพิ่มฟลีโฟลท " ศุภชัย เจียรวนนท์" แจงเพื่อความคล่องแคล่วรวดเร็วเกิดประโยชน์ด้วยเป้าหมายเพื่อนำบริษัทในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของเครือซีพีขยายธุรกิจและแข่งขันกับผู้ประกอบธุรกิจในเวทีระดับโลก โบรกฯมองเป็นบวก

ราคาหุ้น MAKRO หรือบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 43.75 บาทเพิ่มขึ้น 4.17 % หรือ 1.75 บาท ส่วน MAKRO หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ราคาเปิดที่ 67 บาท เพิ่มขึ้น 3.07% หรือ 2 บาท และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาทหรือ0.93% รับข่าวการโอนกิจการในเครือซีพี

CPF โอนกิจการ CPRH ทั้งหมดให้ MAKRO

กอบบุญ ศรีชัย เลขานุการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัททำกาารโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (CPRH) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมใน 20.00 % ผ่านบริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (CPM) ให้แก่บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) (MAKRO) (Entire Business Transfer หรือ EBT) ซึ่งมีมูลค่ารวม 43,589,814,450 บาท

ทั้งนี้ ภายใต้การทำ EBT นั้น เป็นการโอนกิจการของ CPRH ให้แก่ Makro ด้วยวิธีโอนกิจการทั้งหมด รวมถึงหุ้นในบริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอป เม้นท์ จำกัด (CPRD)ซึ่ง CPRH ถืออยู่ 99.99% ของทุนจดทะเบียนของ CPRD และทรัพย์สินอื่นของCPRH อาทิ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด โดย Makro จะออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้แก่ CPRH ในจำนวนไม่เกิน 5,010,323,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 43.50 บาทต่อหุ้น เพื่อเป็นการชำระค่าตอบแทน

ทั้งนี้ เมื่อการทำ EBT เสร็จสมบูรณ์CPRH จะจดทะเบียนเลิกบริษัทและเริ่มชำระบัญชีโดย CPRH จะโอนทรัพย์สินทั้งหมดของ CPRH รวมถึงหุ้นใน MAKRO ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CPRH ตามสัดส่วนการถือหุ้น ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของCPRH ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ถือหุ้นของ CPRH แต่ละรายจะได้รับหุ้นใน MAKRO และมีสัดส่วนการถือหุ้นใน MAKRO

หลังจากนั้น เมื่อ EBT เสร็จสมบูรณ์และ CPRH ได้ส่งมอบหุ้นใน MAKRO ให้แก่ CPM แล้ว CPM มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Mandatory Tender Offer) ของ MAKRO ร่วมกับ CPHH ในราคาหุ้นละ 43.50 บาท โดยที่ CPM จะรับซื้อหุ้นสามัญใน MAKRO เป็นสัดส่วนหนึ่งในสามและ CPH จะรับซื้อหุ้นสามัญใน Makroสัดส่วนสองในสามของจำนวนหุ้นที่มีผู้ตอบรับคำเสนอซื้อในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน MAKRO ดังกล่าวซึ่งจำนวนหุ้นสูงสุดที่ CPM ต้องรับซื้อจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ครั้งนี้จะมีจำนวนไม่เกิน 110,699,500 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 43.50 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,815,428,250 บาท สุดท้ายคือให้ CPM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CPF ขายหุ้นสามัญMAKRO ที่ CPM จะได้รับจากการคืนเงินลงทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของ CPRH ให้แก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering) 181,600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 1.85ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจ าหน่ายได้แล้วทั้งหมดของMAKRO Makro ภายหลังจากการทำ EBTและคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 1.63 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MAKRO ภายหลัง PO ของ Makroเสร็จสิ้น พร้อมกับการดำเนินการ PO ของ Makro)

MAKRO เพิ่มทุนตอบแทนค่าหุ้น - ขาย PO

ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร และประธานกรรมการ MAKRO  เผยว่า เครือซีพีตั้งเป้าขยายร้านค้าปลีกและร้านค้าส่งของเครือให้ได้อย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค ซึ่งรวมถึงสาขาของสยามแม็คโคร และศูนย์ค้าปลีกค้าส่งรูปแบบอื่นๆ ในเครือซีพี บริษัทจะต้องตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำบริษัทในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของเครือซีพีขยายธุรกิจและแข่งขันกับผู้ประกอบธุรกิจในเวทีระดับโลก หากเมื่อมีการปรับโครงสร้างธุรกิจต่างๆ หลังได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้ว จะทำให้สยามแม็คโคร กลายเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

"การปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความคล่องตัวในการตัดสินใจต่างๆ และยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย ก็คือ จะช่วยทำให้แม็คโคร และโลตัส มีความคล่องแคล่ว รวดเร็ว (Agility) ในการเดินหน้าสู่ความสำเร็จบนเวทีระดับนานาชาติ"  ศุภชัย กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการ MAKRO เมื่อ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน จากปัจจุบัน 2,400 ล้านบาท เป็น 5,586 ล้านบาท โดยการออกหุ้นใหม่ 6,372,323,500 หุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อแบ่งขายให้ประชาชนทั่วไป 1,362,000,000 หุ้น

"การเพิ่มสัดส่วนที่มากขึ้นให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาร่วมเป็นเจ้าของแม็คโคร โดย MAKRO ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการเป็นเจ้าของบริษัทฯ ให้ประชาชนทั่วไปถึง 2 เท่า จากเดิมสัดส่วนที่ประชาชนทั่วไปร่วมเป็นเจ้าของ MAKRO อยู่ที่ 7% จะเพิ่มเป็นมากกว่า 15% ในขณะที่จำนวนการถือหุ้นของเครือซีพีใน MAKRO จะลดลงจาก 93% เหลือ 85% โดยที่การปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทต่างๆ ครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการของ MAKRO และบริษัทอื่นๆ ที่ดำเนินการอยู่"

โดย MAKRO จะได้รับโอนกิจการทั้งหมดของดของ บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้งจำกัด มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 217,949,072,250 บาท ด้วยวิธีโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ซึ่ง MAKRO จะออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ 5,010,323,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 43.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 217,949,072,250 บาท ให้ CPRH เพื่อใช้ชำระเป็นค่าตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมดจากCPRH แทนการชำระด้วยเงินสด (Payment in Kind) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 104.38ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ก่อนการจัดสรรหุ้นเพื่อตอบแทนการรับโอนกิจการทั้งหมด

สำหรับ CPRH ประกอบธุรกิจลงทุน (Investment Holding Company) โดยมีทรัพย์สินหลักคือหุ้นในบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (CPRD) ในสัดส่วน 99.99% ของทุนจดทะเบียนของ CPRD อาทิ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และ CPRD ถือหุ้น (ก) สัดส่วน 99.99 %ในบริษัท โลตัสส์สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้นสัดส่วน 99.99 % ในบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อ Lotus's ในประเทศไทย และ (ข) สัดส่วน 100.00% ใน Lotuss Stores (Malaysia) Sdn. Bhd. ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อ Lotus's ในมาเลเซีย

โบรก ฯ มองป็นบวกต่อ CPALL และ CPF

บล. ทิสโก้ มองหลัง CPFโอน Lotus ให้ MAKRO - CPF ซื้อ MAKRO เพิ่ม ทั้งนี้หลังCPF แจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ ถือหุ้นของ Lotus (CPRH) และได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารแล้ว MAKRO จะได้รับธุรกิจทั้งหมด (EBT) ของ Lotus จาก CPALL/CPF/CPH ซึ่งจะได้รับหุ้น MAKRO ใหม่ หลังการทำ EBT CPF จะทำคำเสนอซื้ออหลักทรัพย์ทั้หมด (MTO) ร่วมกับ CPH หลังจากนั้น MAKRO จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป ทำให้สัดส่วน Lotus อยู่ที่ 20% ส่วน MAKRO อยู่ที่ 7.34-8.33%

ทั้งนี้  ผู้บริหาร CPF เน้นย้ำประโยชน์ที่ได้รับจาก EBT : คือการขยายแพลตฟอร์มเพื่อรวม b2b และ b2c ,ปรับปรุงสภาพคล่องสำหรับการลงทุนในโลตัส ,เพิ่มผลประโยชน์ผ่าน CPALL และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคการถือ MAKRO – CPF จะเปลี่ยนการถือสัดส่วนโลตัสจาก 20% เป็น 10.21% ผ่าน MAKRO หลัง EBT MTO สามารถ เพิ่มสัดส่วนสูงสุด 1.13% ขณะที่ PO อาจส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้น MAKRO ลดลง 1.85% เมื่อเสร็จสิ้น CPF จะถือหุ้น MAKRO ราว 7.34-8.33%

บล.ทิสโก้ ประเมินไม่มีการระบุถึงกำไร/ขาดทุนที่ชัดเจนจากการขายหุ้น Lotus แต่ผู้บริหารคาดหวังเห็นกำไรเบื้งต้นราว 2.62 พันลบ.(ยอดขาย 4.359หมื่นล้านบาท ด้วยราคา 4.097 หมื่นล้านบาท)หาก EBT, MTO และ PO ได้รับการอนุมัติ บล.ทิสโก้ คาดจะเห็นผลบวกต่อกำไรของ CPF ในระยะสั้นเล็กน้อย กำไรของ MAKRO ดีขึ้น vs.Lotus คาดจะเพิ่มผลกำไรระยะสั้น ส่วนในระยะยาวขึ้นอยู่กับความสามารถในการ synergy แนะนำให้ "ซื้อ" โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 40.00 บาท (SOTP)

บล. เอเซียพลัส จำกัด ประเมินผลกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง หลังกลุ่มซีพี ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกในเครือ นำ Lotus's มาอยู่ภายใต้ MAKRO กล่าวคือ CPALL เป็นบวก ผลกระทบการถือหุ้น MAKRO ลดลง เชื่อว่าชดเชยได้จาก MAKRO ที่มีขนาดใหญ่ จากการถือหุ้นใน Lotus's และมูลค่า (Value) เดิมที่ของ MAKRO ที่จะเพิ่มขึ้นจาก Synergy ร่วมกับ Lotus's บวกกับยังได้เงินที่จะขายหุ้น MAKRO พร้อมกับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป( PO) ไปลดภาระหนี้สิน ดังนั้น ประเมินสร้างอัพไซต์(Upside) ต่อประมาณการนับจากปี 2565 โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ คงแนะนำ" ซื้อ"

MAKRO เป็นบวกเล็กน้อย แม้มีผลกระทบหลัก คือ Dilution จากการเพิ่มทุน เพื่อรับโอนกิจการจากบริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (CPRH) รวมถึง PO ในระยะถัดไปที่สูง ขณะที่กำไรส่วนชดเชยจาก Lotus's ระยะสั้นยังถูกหักล้างจากดอกเบี้ยจ่ายที่บริษัท ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (CPRD) แต่ภาพระยะยาว ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าดีขึ้นมีนัยยะจาก Synergy การขยายตัวร่วมกันทั้งในรูปแบบเดิม และการเปิดสาขาใหม่ๆ ในต่างประเทศร่วมกัน รวมถึง Omnichannel Platform B2C – B2B ขณะที่ราคาหุ้นระยะสั้นยังน่าจะรักษาระดับใกล้เคียงราคา Tender Offer ที่ 43.50 บาท โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ คงแนะนำ "ซื้อ"

ทั้งนี้ จากการขายหุ้น PO เพิ่มทั้งในส่วนของ MAKRO, CPALL, CPF คาดจะช่วยแก้ปัญหา ฟรีโฟลต(Free Float) ให้ MAKRO และมีโอกาสกลับสู่ SET50 ได้ในระยะถัดไป

CPF เป็นบวก จาก Unlock value จากการลงทุนใน Lotus's มาเป็น MAKRO แทน ซึ่งมีสภาพคล่องมากขึ้น และหลังจากนั้นจะได้ผลบวกจากการขายหุ้น MAKRO แบบ PO จำนวนไม่เกิน 181.6 ล้านหุ้น หรือ 1.85% ของจำนวนหุ้นของ MAKRO ทั้งหมดภายหลังการโอนกิจการ Lotus's เพื่อไปลดภาระหนี้สินในอนาคต และ Synergy ในอนาคต จากการขายอาหารสดเข้า MAKRO และ Lotus's ในไทยเพิ่มขึ้นในระยะยาว และหาก MAKRO และ Lotus's ขยายธุรกิจในต่างประเทศ เพราะ CPF มีการลงทุนใน 17 ประเทศทั่วโลก จึงสามารถขายอาหารสดระหว่างกันได้ อีกทั้งผลบวกทางอ้อมจากการถือหุ้น CPALL 34.12% ของทุนชำระแล้ว ที่จะได้ผลบวกในระยะยาวเช่นกัน จึงยังแนะนำซื้อ CPF กำหนดราคาเป้าหมาย ปี 2565 เท่ากับ 31 บาท

ทั้งนี้ กระบวนการโอนธุรกิจทั้งหมดจะเสร็จ ต.ค.64 โดยหลังแล้วเสร็จ CPG + CPF จะต้องทำการ Tender offer ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย MAKRO เดิม 332 ล้านหุ้น หุ้นละ 43.5 บาท เท่ากับราคาหุ้น MAKRO ที่ได้มาผ่าน ซึ่งการแลกหุ้นหลังจากนั้น ในส่วนของ MAKRO จะมีการเสนอขายหุ้น PO โดยเป็นหุ้นใหม่ 1.36 พันล้านหุ้น (เพิ่มจากหุ้นที่รวม PP ที่ 9.81 พันล้านหุ้น) โดยปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดราคา PO อีกทั้งจะขายหุ้นของผู้ถือหุ้น MAKRO คือ CPALL และ CPF ออกมาด้วยในช่วง PO ถือเป็นการ Unlock Value MAKRO และ Lotus's พร้อมกัน รวมถึงเป็นการแก้ไขปัญหา Free Float ของ MAKRO และช่วยให้ได้เงินกลับเข้ามาที่ทั้ง MAKRO, CPALL และ CPF คาดจะไปขยายธุรกิจและลดภาระหนี้
#6588


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส กล่าวเปิดใจอย่างเป็นทางการผ่าน MUTV หลังคัมแบ็คกลับมาร่วมทัพ 'ปีศาจแดง' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นคำรบที่สอง

แมนฯ ยูไนเต็ด ปิดดีลคว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทัพ พร้อมเซ็นสัญญากัน 2 ปี และมีอ็อปชั่นขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปี โดยจะเข้าแคมป์ฝึกซ้อมกับทีมอย่างเป็นทางการหลังปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ช่วงสัปดาห์หน้า

'อย่างที่ทุกคนทราบ ตั้งแต่ตอนที่ผมเซ็นสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่ออายุ 18 ปี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถือเป็นกุญแจสำคัญ' โรนัลโด้ เริ่มกล่าวกับ MUTV

'หากย้อนกลับไป ผมจำตอนที่ลงสนามเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในสมัยที่เล่นอยู่กับ สปอร์ติง ลิสบอน ได้ดีเลย'

'สำหรับผมแล้ว เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือพ่อในโลกฟุต.ของผม เขาช่วยเหลือผมเยอะมาก เขาสอนอะไรหลายๆ อย่างให้ผม'

'ในความเห็นผม เขามีบทบาทสำคัญกับเรื่องนี้เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งคู่ คือเราติดต่อหากันตลอด และเขาก็เป็นคนที่สุดยอดมาก'

'ผมจะบอกว่าเขาเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผมมาอยู่ในจุดที่ผมอยู่ ณ ตอนนี้ เขาทำให้ผมตัดสินใจเซ็นสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง' ยอดดาวยิงชาวโปรตุกีส ทิ้งท้าย
#6589
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#6590
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#6591


กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย ตั้งแต่ 1 กันยายน นี้ ศบค. ปรับมาตรการร้านอาหารเปิดให้บริการนั่งกินในร้านได้ ภายใต้ข้อกำหนด "ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม" ออกความในมาตรการ 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 32 ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ปฏิบัติเข้มตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

วันนี้ (1 ก.ย.) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการปรับมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ออกข้อกำหนด "ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม" ออกความในมาตรการ 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 32 นั้น ขอให้ร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่เปิดบริการยึดปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว โดยยังต้องคุมเข้มเปิดบริการได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. ห้ามดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน และจำกัดจำนวนผู้นั่งกินในร้าน หากร้านอาหารเป็นห้องปรับอากาศสามารถนั่งได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งปกติ ส่วนร้านอาหารที่เปิดในพื้นที่ที่มีอากาศระบายถ่ายเทได้ดี เช่น ร้านอาหารขนาดเล็ก หาบเร่ แผลลอย รถเข็น สามารถนั่งได้ 75 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งปกติ นอกจากนี้ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้ยึดตามข้อกำหนดเช่นเดียวกัน

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ร้านอาหารทุกร้านที่เปิดให้บริการต้องเฝ้าระวังเรื่องความเสี่ยงพร้อมยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ดังนี้ 1) ทำความสะอาดโต๊ะทันทีหลังใช้บริการ 2) ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม และห้องน้ำ ทุก 1-2 ชั่วโมง 3) จัดอุปกรณ์กินอาหารเฉพาะบุคคล กรณีที่ต้องรับประทานหม้อ/ภาชนะเดียวกัน ต้องจัดอุปกรณ์ตักอาหารเฉพาะบุคคลเช่นเดียวกัน และต้องไม่ใช้ช้อนกลางร่วมกัน 4) งดจัดบริการอาหารรูปแบบผู้บริโภคบริการตนเอง ในร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์/สลัดบาร์/หมูกระทะ เพราะจะทำให้คนไปรวมกันหนาแน่น เสี่ยงแพร่เชื้อ 5) จัดบริการเจลแอลกอฮอล์ประจำทุกโต๊ะ 6) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลและโต๊ะรับประทานอาหาร 1-2 เมตร หากมีพื้นที่จำกัดมีระยะไม่ถึง 1 เมตร ให้ทำฉากกั้น กรณีพื้นที่มีเครื่องปรับอากาศ เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ 2 เมตร และไม่นั่งตรงข้ามกัน พื้นที่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 50 เปอร์เซ็นต์ พื้นที่เปิด นั่งได้ 75 เปอร์เซ็นต์ เและจำกัดระยะเวลากินอาหารไม่เกิน 1 ชั่วโมง และ 7) เปิดประตู หน้าต่าง อย่างน้อย 30 นาที ก่อนเปิดและปิดระบบปรับอากาศ มีการระบายอากาศที่เหมาะสมต่อจำนวนคน สำหรับพื้นที่ปรับอากาศให้เปิดระบายอากาศในพื้นที่กินอาหารทุก 1 ชั่วโมง ส่วนห้องน้ำควรมีระบบระบายอากาศที่ดี

"ทั้งนี้ ในเดือนกันยายน 2564 นี้ ผู้ประกอบการสามารถเปิดร้านตามปกติ ไม่ต้องตรวจ ATK เป็นประจำ ให้ยึดมาตรการ DMHTT อย่างเข้มข้น ส่วนพนักงานไม่ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม แต่ให้เตรียมการและเตรียมความพร้อมไว้ก่อน ภายในเดือนกันยายนนี้ สำหรับการจะบังคับใช้ในอนาคตตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการปฏิบัตตามมาตรการด้านผู้ให้บริการ โดยให้พนักงานทุกคนฉีดวัคซีนครบโดสหรือมีประวัติการติดเชื้อมาก่อนไม่เกิน 3 เดือน คัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวันด้วยเว็บไซต์ "ไทยเซฟไทย" หรือแอปพลิเคชันอื่นที่ทางราชการกำหนด พร้อมจัดหา ATK ให้พนักงาน และตรวจ ATK ทุก 7 วัน มีผู้รับผิดชอบกำกับติดตามพนักงานทุกคน และงดการรวมกลุ่มหรือกินอาหารร่วมกัน ส่วนมาตรการด้านผู้รับบริการนั้น ให้คัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าร้านด้วยเว็บไซต์ "ไทยเซฟไทย" หรือแอปพลิเคชันอื่นที่ทางราชการกำหนด ต้องมี COVID free pass ก่อนเข้าบริการ เฉพาะร้านที่มีเครื่องปรับอากาศ และสำหรับร้านอาหารแต่ละจังหวัดต้องปฏิบัติตามมาตรการหรือข้อกำหนดของจังหวัดด้วย" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
#6592
Boom Gluta กลูต้า ที่โดมเลือก


ดีและปลอดภัยกลูต้าช็อต ช็อตเดียวรู้เรื่อง!!!

ดำกรรมพันธุ์ ผิวหมองคล้ำ ฝ้ากระ อยากเปลี่ยนลุงป้าเป็นหนุ่มสาวน่ารัก
กลูต้าช๊อต เพียงกล่องเดียว รู้เรื่อง!!!...ดีกว่ากลูกต้าทั่วไป 215 เท่า

ผสมผสานสารสกัดจากธรรมชาติ21ชนิด ปลอดภัย ไร้กังวล ด้วยนวัตกรรมนาโนฟา อินฟาเรด เหรียญเงินระดับนานาชาติ

แค่เทใส่ปาก ละลายและดูดซึมทันที พกพาง่ายไม่ต้องชง!!
1 กล่อง 590 จากปกติ 890.- .
เลขที่จดทะเบียน 1311585950607

 Boom Gluta Shots จึงเป็นที่มาของการแก้ปัญหาด้วยการปกป้องจากภายในด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "Boom Gluta Shots" มีส่วนประกอบสำคัญ FIR Glutathione Complex สุดยอดอาหารผิวแห่งปี ที่ได้รับรางวัลจากงาน "Seoul International Invention Fair 2020" ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และเป็นนวัตกรรมใหม่
ที่ทำให้ผิวขาวกว่ากลูตาทั่วไปถึง 250% .

รับตัวแทนจำหน่าย/สมาชิก รับสิทธิ์ลงทะเบียนเรียนคอร์สออนไลน์มูลค่า 7,990 บาท ฟรี

สนใจติดต่อ
โทร. 0846623662

id line : teerapat999

รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99-gluta.salepage365.com/



#6593


เอลซัลวาดอร์ประกาศตั้งกองทุน Bitcoin Trust มูลค่า 150 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4,800 ล้านบาท เพื่ออำนวยความสะดวก เสริมสภาพคล่องในการแลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐ

จากการเปิดเผยของ coindesk ระบุถึงรายงานของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น El Diario de Hoy ในแถลงการของนายิบ บูเคเล่ ประธานาธิบดีของเอลซัลวาดอร์ ซึ่งได้ตกลงที่จะประกาศจัดตั้งกองทุน Bitcoin Trust มูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนระหว่าง Bitcoin (BTC, 0.88%) และดอลลาร์สหรัฐในประเทศ

ขณะที่ María Luisa Hayém Brevé รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์ กล่าวว่าการจัดสรรขั้นต้นจะใช้เงินประมาณ 150 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเงินของสภานิติบัญญัติเมื่อวันจันทร์

ทั้งนี้ในเดือนมิถุนายน เอลซัลวาดอร์ผ่านร่างกฎหมายที่ถือว่า bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมายควบคู่ไปกับดอลลาร์สหรัฐ ร่างกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 กันยายน และกำหนดให้ธุรกิจต้องยอมรับการชำระเงินเป็น bitcoin แม้ว่าประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศจะกล่าวว่าธุรกิจที่ไม่ได้รับการลงโทษ

นอกจากนี้ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอลซัลวาดอร์ ยังได้อนุญาตให้ผู้ค้าแปลง Bitcoin เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ทันที เพื่อชดเชยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของพวกเขาอีกด้วย
#6594


"ปู พงษ์สิทธิ์" โต้สื่อดัง ใช้รูปพร้อมพาดหัวข่าว "จ่ายคนดังหนุนรัฐบาล" ขณะที่พิธีกรโวยถูกชาวเน็ตแคปภาพจากรายการไปโจมตีศิลปิน โบ้ยเอกสารที่นำเสนอเป็นฝ่ายรัฐบาลจะจ้างศิลปินไปทำปชส. แต่ไม่เคยบอกศิลปินรับงาน

กรณีที่มีสื่อสำนักหนึ่งนำเสนอข่าวเรื่องรัฐบาลใช้งบเกือบ 100 ล้าน "จ่ายคนดังหนุนรัฐ" โดยมีการใช้ภาพศิลปินดังมาประกอบข่าว มีชาวเน็ตแคปภาพนำไปด่าในทวิตเตอร์ จนทำให้เหล่าคนดังถูกด่าทอตามไปด้วย ซึ่งหากใครรับงานก็จะถูกมองว่าเป็นสลิ่มทันที เรียกว่าโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง รับงานก็ด่า ไม่รับก็ด่า

ล่าสุด "ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์" หนึ่งในคนดังที่โดนใช้ภาพประกอบข่าวดังกล่าวรวมกับศิลปินดังอีกหลายคนในหน้าปกข่าว ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านแฟนเพจส่วนตัว Pu Pongsit Official หวั่นทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่ามีการจ้างงานในแคมเปญของรัฐบาล โดยเผยว่า "จากกระแสข่าวในโลกโซเชียลมีเดียเมื่อ2-3 วันที่ผ่านมา มีการนำภาพศิลปิน พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ พาดหัวข่าวเกี่ยวกับเรื่องงานประชาสัมพันธ์ดังกล่าว ทางต้นสังกัดและศิลปินพงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ขอชี้แจงว่า ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ และไม่ทราบเรื่องมาก่อนหน้านี้"

รวมทั้งได้เข้าไปตอบคอมเมนต์ว่าได้ฟังและได้เห็นเอกสารแล้ว คิดว่าถ้าเกิดอ่านหรือเห็นผ่านๆ (ดูแค่รูปและพาดหัวข่าว) อาจจะสร้างความเข้าใจผิดได้ เหมือนกับว่ามีการจ้างงานและติดต่อมาแล้ว ทั้งที่ไม่เป็นความจริง

ขณะที่ "ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์" พิธีกรข่าว overview ทางสถานีโทรทัศน์ Voice TV ที่ได้มีการนำเสนอข่าวดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงว่า

เห็นหลายท่านแสดงความเห็นแล้วเกรงจะเกิดความเข้าใจผิด

1) ภาพสีขาวข้างล่างที่มีรูปคุณประยุทธ์และคุณอนุทินไม่ใช่ของวอยซ์ทีวีครับ ภาพของวอยซ์ทีวีคือภาพบน และในภาพบนและในรายการไม่มีตอนไหนบอกว่าศิลปินในภาพรับงานจากรัฐบาลครับ ส่วนภาพข้างล่างนั้นน่าเกลียด บิดเบือนข้อมูลเกินกว่าเหตุ หาเรื่องด่ารัฐบาลเกินความเป็นจริง

2) เนื้อหาของรายการและเอกสารที่รายการนำมาแสดงคือเอกสารทางรัฐบาลว่าจะจ้างศิลปินไปทำงานประชาสัมพันธ์รัฐบาล เอกสารระบุชัดเจนถึงชื่อศิลปิน 3 ราย ในฐานะสื่อเราจึงรายงานตามเอกสารว่ารัฐบาลมีแนวคิดแบบนี้ แต่เราไม่เคยบอกว่าศิลปินรับงาน รวมทั้งไม่เคยบอกว่าการรับงานเป็นความผิดแต่อย่างใด

3) เรื่องนี้เป็นปัญหาที่คนของรัฐบาลเอาชื่อศิลปินไปกล่าวอ้างเพื่อของบประมาณ แต่ในส่วนของรายการในนาทีที่ 2 ของคลิป https://youtu.be/Rn8SN2Tg_D8 ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลคิดจ้างศิลปิน รวมทั้งไม่มีตอนไหนระบุว่าตัวศิลปินตกลงรับงานจากรัฐบาลแม้แต่ประโยคเดียว

4) เอกสารที่ปรากฎในคลิปคือเอกสารว่าฝั่งผู้เสนอโครงการมีการกล่าวอ้างถึงศิลปินตามไฟล์ที่อยู่ข้างล่างนี้ครับ และต้องย้ำว่าการที่ศิลปินจะรับงานจากใครนั้นเป็นเอกสิทธิ์ของศิลปินโดยสมบูรณ์ ไม่ควรมีการโจมตีศิลปินคนไหนเพียงเพราะเขาทำงานให้ใครหรือไม่ทำงานให้ใคร เพราะปัญหาอยู่ที่ผู้ว่าจ้าง ไม่ใช่ศิลปิน
5) ผมตรวจสอบเรื่องทั้งหมดแล้วพบว่าต้นเหตุจริงๆ เกิดจากวันที่ 29 สิงหาคม มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ท่านหนึ่งแคปภาพจากรายการไปแล้วก็แชร์ความเห็นโจมตีศิลปิน แต่ในการแคปนั้นไม่ได้แปะลิงค์รายการหรือเนื้อหาในรายการไปด้วย การโจมตีศิลปินเกิดจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ซึ่งใช้ภาพรายการ แต่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาสาระของรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการบอกว่าศิลปินรับงานไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้รายการไม่ได้พูดและไม่ได้คิดอย่างแน่นอน และทันทีที่เห็นทวิตเตอร์นี้ ผมได้ทวิตชี้แจงทันทีในวันที่ 1 เวลา 02.25 น. https://twitter.com/sirotek/status/1432793398549770241

สำหรับเอกสารซึ่งเตรียมเสนอของบประมาณที่ระบุชื่อศิลปินไว้ อยู่ที่ไฟล์ใต้ข้อความนี้ครับ

ด้าน "ปู พงษ์สิทธิ์" ก็เมนต์กลับว่า "ขอบคุณสำหรับการชี้แจงครับผม"
#6595
ใคร ๆ ก็ไม่รัก ไปไหนมีแต่คนไม่ชอบหน้า ขาดเสน่ห์ ไม่มั่นใจ

น้ำมันว่านดอกทองใส่ตะกรุดนะอกแตก แค่ท่องคาถา
เจิมที่หน้าผากตัวเรา บังเกิดออร่าน่าจับตามอง
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา
น้ำมันว่านดอกทองใส่ตะกรุดนะอกแตกให้ทุกขวด ขวดละ 399 บาท
ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ
ตะกรุดนะอกแตก เป็นมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม มหาละลวย แก่มนุษย์ทั้งหญิงชายทั้งหลาย
คาถากำกับ
โอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ
อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ
นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ
(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)
ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/34

ลาซาด้า
https://www.lazada.co.th/.../-i1867850932-s5770096982...

shopee https://shopee.co.th/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1...
#6596


วันนี้ (1 ก.ย.) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีแนวโน้มดีขึ้น มีจำนวนผู้หายป่วยรายวันมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ซึ่งมีแนวโน้มลดลง และจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลลดลงชัดเจน เช่น โรงพยาบาลสนามบุษราคัมจากเคยมีผู้ป่วยมากกว่า 3,500 คน ลดเหลือ 1,500 คน ศูนย์นิมิบุตรมีผู้ป่วยรอส่งต่อเหลือไม่ถึง 70 คน ภาพรวมมีผู้ป่วยที่รักษาหายสะสมแล้ว 1,040,768 ราย จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1,219,531 ราย วันนี้ มีผู้ที่หายป่วย 18,996 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 14,802 ราย

นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ในวันนี้เป็นวันแรกที่รัฐบาลอนุญาตให้กิจการ กิจกรรม บางประเภทสามารถเปิดบริการได้ภายใต้มาตรการที่รัฐกำหนด และหลักการ COVID-Free Setting ในพื้นที่สีแดงเข้ม เช่น ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ขนส่งสาธารณะ เป็นต้น เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศสามารถเดินหน้าต่อได้และผ่อนคลายการใช้ชีวิตให้กับประชาชน โดยยังต้องป้องกันตนเองขั้นสูงสุด คิดเสมอว่าคนรอบข้างมีความเสี่ยงหรือติดเชื้อ ให้ปฏิบัติตัวตามมาตรการ Universal Prevention คือ ออกจากบ้านเมื่อจำเป็น /เว้นระยะห่างจากคนอื่น /สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา /ล้างมือบ่อย ๆ /หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัส หน้ากากอนามัย /เลี่ยงการออกนอกบ้านเว้นแต่จำเป็น /ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ /แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด /เลือกทานอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ /และหากสงสัยว่ามีความเสี่ยง ควรรับการตรวจด้วย ATK อย่างไรก็ตามยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์หลังผ่อนคลายใน 2 สัปดาห์อย่างใกล้ชิด หากดีขึ้นรัฐบาลจะพิจารณาเปิดกิจการ กิจกรรมเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติได้ต่อไป นอกจากนี้ขอให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนตามกำหนดนัดหมายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง และหากป่วยจะช่วยลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้

ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนของประเทศไทย ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 มีผู้ได้รับวัคซีนสะสมแล้ว 32,600,001 โดส ถือว่าฉีดได้เกินเป้าหมาย เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 23,975,098 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 8,212,750 ราย เข็มที่ 3 สำหรับบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ต้องสัมผัสผู้ป่วย 592,153 ราย
#6597


วันนี้ (1 ก.ย.) นายสมบูรณ์ โอฬารศิริกุล ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตสมุทรปราการ หรือ MEA นำวิศวกรไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วย ทีมงานโครงการ MEA NOW ที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้ากลุ่มธุรกิจ อุตสาหกรรม ระดมกำลังลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหลังเหตุน้ำท่วมในพื้นที่นิคมอุสาหกรรมบางปู และบริเวณหมู่บ้านเมืองเอก รวมถึงพื้นที่ได้รับผลกระทบของจังหวัดสมุทรปราการ โดยดำเนินการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าระบบจำหน่าย เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่วสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่ดูแลระบบไฟฟ้าของ MEA ให้มีประสิทธิภาพ มั่นคงและปลอดภัยอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตสมุทรปราการ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุฝนตกหนักน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ นั้น MEA ในฐานะรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้ามีความห่วงใยความปลอดภัยประชาชนจึงได้เร่งระดมกำลังลงพื้นที่เพื่อดูแลตรวจสอบระบบไฟฟ้า โดยหากจุดไหนมีความเสี่ยงไม่ปลอดภัยจะดำเนินการงดจ่ายไฟฟ้าชั่วคราว พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ สำหรับในวันนี้ได้นำวิศวกรไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ พร้อมทีมงานโครงการ MEA NOW ที่มีความเชี่ยวชาญมืออาชีพที่ให้บริการระบบไฟฟ้าให้กับผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจ และอุตสาหกรรม มาดูแลตรวจสอบระบบไฟฟ้าของนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สามารถดำเนินการต่อได้ด้วยระบบไฟฟ้าที่มั่นคงปลอดภัย สำหรับข้อแนะนำอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน จึงแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่เป็นลักษณะแอ่งกระทะน้ำท่วมบ่อยครั้ง รวมถึงชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่ราบลุ่ม หากพบว่าระดับน้ำบริเวณบ้านเริ่มท่วมสูงขึ้นจนใกล้ถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าให้รีบดำเนินการย้ายปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นที่สูงให้พ้นจากระดับน้ำท่วมถึงเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุด นอกจากนี้ขอเตือนให้ประชาชนอยู่ห่างจากป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งก่อสร้างที่ ไม่แข็งแรงใกล้แนวสายไฟฟ้า เพราะกิ่งไม้อาจหักโค่นจากลมกระโชกแรงและพาดลงมาทำให้เสาไฟฟ้าล้ม หรือสายไฟฟ้าขาด เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าหากชำรุดเร่งซ่อมแซมแก้ไขให้อยู่ในสภาพปลอดภัย ทั้งนี้ ให้คำนึงเสมอว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมไม่มีความปลอดภัยทั้งสิ้น และหากพื้นที่ที่ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้ายังไม่แห้งสนิท มีความเปียกชื้นหรือมีน้ำท่วมขัง ห้ามยืนแช่น้ำในขณะติดตั้งอุปกรณ์หรือตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้า หรือพบเห็นสายไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งเหตุได้ที่ MEA Smart Life Application ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนระบบ iOS และ Android ของ MEA ดาวน์โหลดฟรี คลิก https://onelink.to/measmartlife หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter: @mea_news รวมถึงผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจ และอุตสาหกรรม หากต้องการใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพโครงการ MEA NOW สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
#6599


จากข้อมูลด้านระบาดวิทยาและการติดเชื้อของโรคโควิด-19 ณ วันที่ 29 ส.ค.64 พบผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้ว จำนวนกว่า 212 ล้านราย และผู้เสียชีวิตกว่า 4 ล้านราย ซึ่งแม้ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา และหลายประเทศในยุโรป ที่มีระบบจัดการด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพก็ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ดี หรือในประเทศที่มีแนวโน้มการระบาดของโรคลดลงแต่ยังมีการระบาดซ้ำต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน รวมไปถึงการขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ และระบบสุขภาพในภาพรวม

ดร.จุไรรัตน์ พรหมใจ ผู้จัดการงานวิจัย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า "จากปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ที่ส่งผลกระทบไปทุกมิติทั่วโลก จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาค้นคว้าวิจัยในเรื่องนี้อีกมากและอย่างเร่งด่วน สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) จึงได้สนับสนุนทุนโครงการ "การศึกษาโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) : งานวิจัยไวรัสวิทยา การศึกษาข้อมูลการตรวจวินิจฉัย การรักษา และการพัฒนาวัคซีน" โดยทีมวิจัยจากภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา, สถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยชีวสารสนเทศและการจัดการข้อมูลวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อทบทวน และสรุป องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 จากงานวิชาการหลากหลายแหล่งในระดับชาติและนานาชาติ ตลอดจนการรวบรวมความคิดเห็นของนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องในระดับประเทศ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนางานวิจัยสร้างองค์ความรู้เชิงโนบายสาธารณและนวัตกรรมเพื่อการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ในประเทศไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อไป" 



ผศ.ดร.ไตรวิทย์ รัตนโรจนพงศ์ นักวิจัยเครือข่าย สวรส. สังกัดภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวถึงงานวิจัยเรื่องนี้ว่า ทีมวิจัยได้รวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติทางชีววิทยา การรักษาป้องกัน และการตรวจวินิจฉัยเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากข้อมูลวิชาการและรายงานจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือที่มีในปัจจุบัน ทั้งงานวิจัยที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการนานาชาติและระดับชาติ มาสรุปในโครงการศึกษาฯ ดังกล่าว ซึ่งมีประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น วิวัฒนาการระดับโมเลกุลและจีโนไทป์ของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งมีรายงานผลการศึกษาระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าในอดีตที่ผ่านมา เช่น โรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือซาร์ส (SARS-CoV) และโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) ล้วนชี้ให้เห็นว่า ไวรัสเหล่านี้มีศักยภาพสูงในการติดและแพร่กระจายเชื้อไปได้ในวงกว้าง ซึ่งพบว่าการกลายพันธุ์ในจีโนมหรือพันธุกรรมของเชื้อที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงลำดับกรดอะมิโนหรือที่เราเรียกว่า nonsynonymous substitution มีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งต่อความสามารถในการติดและแพร่กระจายตัวของเชื้อ ในกรณีของการกลายพันธุ์ในส่วนของโปรตีน Spike ของเชื้อไวรัสโคโรน่านั้น จะมีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มศักยภาพให้เชื้อไวรัสสามารถเปลี่ยนไปติดเชื้อในสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ ได้ และยังพบด้วยว่าการกลายพันธุ์เพียงกรดอะมิโนเดียว ก็ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการทำลายเซลล์ของผู้รับเชื้ออีกด้วย 



แต่เนื่องจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 เป็นเชื้อไวรัสอุบัติใหม่ ที่รู้จักเมื่อปลายปี 2562 ดังนั้นจึงมีการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงวิวัฒนาการระดับโมเลกุล เพื่อค้นหาแหล่งที่มาของเชื้อชนิดนี้ มีการศึกษาจำนวนมากที่พยายามพิสูจน์ว่าเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 มีสารรหัสพันธุกรรม รวมถึงจีโนมคล้ายกับเชื้อไวรัสโคโรน่าของค้างคาว ผลการวิเคราะห์จากนักวิจัยหลายแหล่งข้อมูล ชี้ตรงกันว่าลำดับนิวคลีโอไทด์จากชิ้นส่วนของยีนสำคัญ ๆ ของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 มีวิวัฒนาการใกล้ชิดกับเชื้อไวรัสโคโรน่าที่แยกจากค้างคาวเนื่องจากเชื้อทั้งสองชนิดนี้มีบรรพบุรุษร่วมกัน (common ancestor) ทำให้อนุมานได้ว่าเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 น่าจะวิวัฒนาการมาจากการกลายพันธุ์ ซึ่งทำให้เชื้อมีความสามารถที่จะจับกับโมเลกุลตัวรับบนเซลล์มนุษย์ จนทำให้เกิดการติดเชื้อไปสู่คนในที่สุด

จากการค้นคว้าข้อมูลของทีมวิจัยยังพบว่า การศึกษาเกี่ยวกับจีโนไทป์ (genotyping) หรือข้อมูลทางพันธุกรรมของเชื้อไวรัส เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เข้าใจการระบาดของเชื้อและสามารถช่วยวางนโยบายในการป้องกันการระบาดของโรคได้ด้วย ในทางทฤษฎีการศึกษาจีโนไทป์ของสิ่งมีชีวิตชนิดใดๆ ควรเริ่มต้นจากการเข้าใจวิวัฒนาการเชิงโมเลกุลของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นก่อน ในกรณีของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลสารพันธุกรรม มีบทบาทสำคัญต่อการเข้าใจจีโนไทป์ของเชื้อไวรัส แต่เนื่องจากไวรัส SARS-CoV-2 เป็นไวรัสที่มีจีโนมขนาดใหญ่ ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลตลอดจีโนมไม่ใช่สิ่งง่าย เนื่องจากการวิเคราะห์ดังกล่าวต้องการประสิทธิภาพในการคำนวณด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีกำลังในการประมวลผลสูง และมีการจัดการข้อมูลที่ยุ่งยากพอสมควร ทำให้การวิจัยจำนวนมากเริ่มต้นจากการเลือกใช้ข้อมูลนิวคลีโอไทด์บางส่วน มาเป็นตัวแทนของข้อมูลในการศึกษาวิวัฒนาการระดับโมเลกุลเพื่อลดภาระและเวลาในการประมวลผลทางคอมพิวเตอร์

รายงานฉบับนี้ทางผู้วิจัยยังได้กล่าวว่า "ระบบมาตรฐานของการศึกษาด้านจีโนไทป์หรือข้อมูลทางพันธุกรรมของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ข้อมูลนิวคลีโอไทด์ตลอดจีโนมของเชื้อไวรัสในการเปรียบเทียบวิเคราะห์ยังมีข้อจำกัดว่าต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีกำลังในการประมวลผลสูง ทำให้ข้อมูลจีโนไทป์ของไวรัส SARS-CoV-2 ยังมีการถกเถียงกันอยู่และยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมอีกมาก อย่างไรก็ตามการสร้างแผนภูมิที่แสดงถึงสายวิวัฒนาการ phylogenetic tree เพื่อศึกษาระบาดวิทยาโมเลกุล และความหลากหลายทางชีวภาพของไวรัส ยังเป็นความต้องการของประเทศอย่างมาก เนื่องจากจะช่วยให้เห็นรูปแบบการระบาดของเชื้อแล้ว ยังมีบทบาทต่อการวางนโยบายทางสาธารณสุขเพื่อป้องกันต่อไป"

นอกจากนี้ ในรายงานการศึกษาดังกล่าว ยังได้ทบทวนองค์ความรู้ในด้านการตรวจวินิจฉัยเชื้อด้วยชุดตรวจแบบต่างๆ, การพัฒนายาต้านไวรัส SARS-CoV-2, และปฏิสัมพันธ์ระหว่างไวรัส SARS-CoV-2 กับสิ่งมีชีวิตและการป้องกันโรคที่จะเน้นไปที่ระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 อีกด้วย
#6600
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี