• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#2881


จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ยายได้สั่งของผ่านแอพพลิเคชั่นสั่งอาหารชื่อดัง และโอนเงินผิด เมื่อติดต่อขอคืนไรเดอร์ระบุว่าใช้เงินไปหมดแล้ว และติดต่อไม่ได้

ล่าสุด แกร็บได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า จากกรณีที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่สั่งอาหารผ่าน GrabFood ซึ่งได้โอนเงินค่าบริการเกินจำนวนไปให้พาร์ตเนอร์คนขับนั้น แกร็บ ประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงในข้อเท็จจริงประเด็นต่างๆ ดังนี้
• บริษัทฯ ได้รับทราบถึงกรณีดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 และไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าได้ทำการติดต่อผู้ใช้บริการในทันทีเพื่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือ
• ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พยายามติดต่อพาร์ตเนอร์คนขับซึ่งถูกอ้างถึงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าของกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยในระหว่างที่มีการตรวจสอบและติดตามผล บริษัทฯ ได้ทำการระงับสัญญาณการให้บริการของพาร์ตเนอร์คนขับรายดังกล่าวเป็นการชั่วคราว
• จากการติดตามและประสานงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด (วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.18 น.) พาร์ตเนอร์คนขับรายดังกล่าวได้ทำการโอนเงินส่วนเกินเพื่อคืนให้กับผู้ใช้บริการแล้ว โดยได้ส่งสลิปการโอนเงินผ่านทางธนาคารให้กับบริษัทฯ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยืน ซึ่งผู้ใช้บริการได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
• ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพิสูจน์ และระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือเข้าข่ายการก่ออาชญากรรม บริษัทฯ จะดำเนินการระงับสัญญาณการให้บริการกับพาร์ตเนอร์คนขับเป็นการถาวร ซึ่งถือเป็นมาตรการขั้นสูงสุด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่า แกร็บให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจโดยเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยได้ส่งเสริมให้พาร์ตเนอร์คนขับปฏิบัติตาม "จรรยาบรรณของพาร์ตเนอร์คนขับแกร็บ" ซึ่งครอบคลุมถึงประเด็นด้านการปฏิบัติตามกฏหมาย เพื่อรักษามาตรฐานที่ดีและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการทุกคน

ขอแสดงความนับถือ
แกร็บ ประเทศไทย
#2882



ธอส.เผยผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 106,231 ล้านบาท 69,705 บัญชี เพิ่มขึ้น 5.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 สินเชื่อคงค้างรวม1,375,663 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,441,928 ล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม ตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรับผลกระทบจาก COVID-19 จำนวน 104,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 176.13% พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 ล่าสุดมีลูกค้าได้รับความช่วยเหลือผ่านทั้ง 18 มาตรการของ ธอส. ตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบันเป็นจำนวนรวมสูงสุดมากกว่า 925,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 796,500 ล้านบาท

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ว่า แม้ประเทศไทยจะยังคงอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และรายได้ของประชาชน แต่ ธอส. ยังคงสามารถทำหน้าที่ตามพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง



โดยณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 106,231 ล้านบาท 69,705 บัญชี เพิ่มขึ้น 5.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นเกือบ 50% ของเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2564 ที่ 215,641 ล้านบาท สินเชื่อ 6 เดือนแรกที่ปล่อยไปเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท

สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางจำนวน 50,183 บัญชี ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,375,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.17% สินทรัพย์รวม 1,441,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.46% เงินฝากรวม 1,205,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 59,268 ล้านบาท คิดเป็น 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2563 ที่มี NPL อยู่ที่ 3.75% ของสินเชื่อรวม โดยมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ 104,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 176.13% เพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบจาก COVID-19 ในอนาคต โดยธนาคารยังคงมีกำไรสุทธิตามเป้าหมายตัวชี้วัดของธนาคารที่ 5,993 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ในระดับแข็งแกร่งที่ 15.63% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนด



ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ธนาคารยังคงปล่อยสินเชื่อใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง คือ มาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคาร และการจัดโปรโมชั่นของผู้ประกอบการ ช่วยให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มีบ้านเป็นของตนเองและครอบครัวได้ง่ายขึ้น โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อของ ธอส. ที่มีลูกค้าเลือกใช้บริการสูงสุด 3 ลำดับแรกคือ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.75% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสมสูงถึง 23,620 ล้านบาท รองลงมาคือสินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส. ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.60% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 11,998 ล้านบาท และโครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 11,215 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ธอส. ยังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ผ่านโครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ผ่าน 2 มาตรการเร่งด่วนล่าสุดที่บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ ลูกค้าทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการทั้งในและนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ มาตรการที่ 15 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ และมาตรการ 16 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะ NPL หรืออยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ จะได้รับความช่วยเหลือโดยการพักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม-31 ตุลาคม 2564 เปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ล่าสุด ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น. มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 15 จำนวนเงินต้นคงเหลือ 48,880 ล้านบาท และมาตรการที่ 16 จำนวน 2,485 ล้านบาท ทำให้นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ธอส. สามารถช่วยเหลือลูกค้าผ่าน 18 มาตรการ รวมเป็นจำนวนสูงสุดมากกว่า 925,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 796,500 ล้านบาท

โดยมาตรการที่ 15 และ 16 ลูกค้าสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ส่วนลูกค้าที่ต้องการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อขอขยายระยะเวลาความช่วยเหลือตามมาตรการที่ 9,10,11 และ 11 New Entry : แบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดต้น ตัดดอก) มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน และมาตรการที่ 14 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ย ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ลูกค้าสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) เช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564

ทั้งนี้นอกจากความช่วยเหลือในมาตรการด้านการเงิน ธอส. ยังคงให้ความช่วยเหลือสังคมไทยสู้ภัยโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ด้วยงบประมาณสนับสนุนรวมกว่า 5,000,000 บาท ให้กับหลายหน่วยงานที่ทั้งสถานพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน เป็นต้น เพื่อนำไปดำเนินการในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็น อาทิ การจัดสร้างหอผู้ป่วยไอซียูความดันลบแบบห้องแยกที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยวิกฤตที่มีอาการรุนแรง การจัดซื้อเครื่องฮีโมเปอร์ฟิวชั่นใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 การจัดสร้างไอซียูสนาม การจัดหาเก้าอี้นั่งจุดพักคอย น้ำดื่มธนาคารกว่า 100,000 ขวด รวมถึงหน้ากากอนามัยพร้อมสายคล้อง ถุงยังชีพ และอาหารกล่อง สอดคล้องกับนโยบายการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร ด้วยความห่วงใยและตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

 
#2883


'วัคซีนโควิด 19' กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไทยกำลังประสบอยู่ และเกิดคำถาม ข้อเรียกร้องจากประชาชนมากมาย ให้รัฐบาล จัดหาจัดสรรวัคซีนที่มีคุณภาพฉีดให้ครอบคลุมประชาชนทุกคน

 จากการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (โควิด - 19) (ศบค.) ครั้งที่ 10/2564 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบถึงแนวทางการจัดสรรวัคซีน แผนการกระจายวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ระหว่างวันที่ 19 ก.ค.- 31ส.ค. 2564

13 ล้านโดสเร่งกระจายวัคซีนใน 3 กลุ่มจังหวัด 
โดยการพิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับผู้ที่ได้จองฉีดวัคซีนล่วงหน้า คือ กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มจังหวัด ประกอบด้วย

1.กลุ่มจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และจังหวัดควบคุมสูงสุดบางจังหวัด จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และชลบุรี

2.จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือมีความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภายหลังการระบาด และแผนเปิดการท่องเทียวระยะถัดไป จำนวน 18 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก หนองคาย สระแก้ว บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาเต่า) ตรัง พังงา และกระบี่

3.จังหวัดอื่น ๆ จำนวน 48 จังหวัด

เกณฑ์การจัดสรรวัคซีน 15 ก.ค.-31 ส.ค.2564
มีการพิจารณา ดังนี้

1.จำนวนประชากรที่นำมาคำนวณมาจากฐานข้อมูลประชากรจากทะเบียนบ้านและประชากรแฝง

2.เป้าหมายฉีดให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรจากทะเบียนบ้านและประชากรแฝงทุกกลุ่มอายุในแต่ละจังหวัด ทั้งผู้มีสัญชาติไทยและ ไม่มีสัญชาติไทย

3.เป้าหมายให้บริการวัคซีน 13,000,000 โดส (จำนวนวัคซีนที่จัดสรรจริงอาจปรับเปลี่ยนตามปริมาณวัคซีนที่ประเทศไทยจัดหาได้)

4.ประเภทการจัดสรรเป็นไปตามมติศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19  เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2564 แบ่งเป็น 3 กลุ่มจังหวัดตามที่เสนอ โดยเกณฑ์การจัดสรรจะพิจารณาจากปัจจัย ได้แก่ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ได้ลงทะเบียนจองวัคซีนล่วงหน้าในเดือนก.ค. – ส.ค.2564 การให้วัคซีนเพื่อป้องกันเชิงรุกในพื้นที่ระบาดใหม่  โควตาประกันสังคม สำหรับผู้ประกันตน (กทม. + 12 จังหวัด) และจำนวนประชากรแต่ละจังหวัด

5.กรณีจัดหาวัคซีนได้ไม่ถึง 13,000,000 โดส จะลดลงตามสัดส่วนวัคซีนที่ได้

ทั้งนี้  ที่ประชุมมีความเห็นว่าควรลดระยะเวลาการฉีดวัคซีน AstraZeneca จำนวน 2 โดส เป็น 8 สัปดาห์ ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 สูง และให้ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 เพิ่มเติม

แนวทางการฉีดวัคซีนในประเทศไทย
แนวทางการฉีดวัคซีนแบบผสมสูตร ตามแนวทางมาตรฐาน ได้แก่

1.กรณีรับวัคซีน Sinovac เข็มที่ 1 และวัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 2 ให้ฉีดห่างกัน 3 - 4 สัปดาห์

2.กรณีรับวัคซีน AstraZeneca จำนวน 2 เข็ม ให้ฉีดห่างกัน 10 - 12 สัปดาห์ โดยทั่วไปผู้รับวัคซีนจะมีภูมิคุ้มกันสูงเพียงพอหลังจากฉีด ครบ 2 เข็ม แล้ว 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ กรณีการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุให้พิจารณารับวัคซีน AstraZeneca จำนวน 2 เข็ม และการฉีดวัคซีน Sinovac จำนวน 2 เข็ม จะฉีดเฉพาะกรณี


แนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) ให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ในบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม โดยสามารถได้รับการฉีดวัคซีน AstraZeneca หรือ Pfizer เป็นเข็มกระตุ้น 1 เข็ม หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ (สูตร Sv-Sv-Az หรือ Sv-Sv-Pf) ทั้งนี้ เมื่อมีวัคซีนเพียงพอและกลุ่มเสี่ยงได้รับวัคซีนแล้ว จะมีการพิจารณาการฉีดเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปในระยะถัดไป

แนวทางการจัดหาวัคซีน ในปี 2565  การจัดหาวัคซีนในกรอบ 120,000,000 โดส ต้องเร่งรัดการจัดหาวัคซีน โดยพิจารณาดำเนินการกับผู้ผลิตวัคซีนที่มีการพัฒนาวัคซีนรุ่นที่สองที่สามารถจะครอบคลุมไวรัสที่มีการกลายพันธุ์

โดยให้มีเป้าหมายการส่งมอบได้ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 รวมทั้งการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต การสนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนต้นแบบเพื่อรองรับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส การกำหนดแนวทางการขึ้นทะเบียนวัคซีนที่และพัฒนาในประเทศ และสนับสนุนการศึกษาภูมิคุ้มกันระยะยาวของผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ตลอดจนการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ไวรัสกลายพันธุ์ในปี 2565 และความก้าวหน้าของการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด  19 เพิ่มเติม
 

ไทมไลน์แผนจัดสรรวัคซีนถึงสิ้นเดือนส.ค. 2564
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ส.ว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สาธารณสุข วุฒิสภา ได้โพสผ่าน Blockdit 'ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย' โดยข้อมูลจากศูนย์ปฎิบัติการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศไทม์ไลน์การฉีดวัคซีนโควิด ในช่วงตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.ถึงวันที่ 31 ส.ค.แล้ว โดยจะระดมฉีดวัคซีนจำนวน 13 ล้านโดส ภายใน 44 วัน คิดเป็นเฉลี่ยวันละ 2.95 แสนโดส แบ่งเป็นวัคซีน AstraZeneca 8 ล้านโดส  Sinovac 5 ล้านโดส ตามพื้นที่ต่างๆ ดังนี้

1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จำนวน 33%

2.พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) + ท่องเที่ยว จำนวน 10%

3.พื้นที่ 48 จังหวัดที่เหลือ จำนวน 15%

4.ระบบประกันสังคม จำนวน 15%

5.หน่วยงานของรัฐและสำรองตอบโต้กรณีฉุกเฉิน จำนวน 12%

6.ฉีดเข็มสอง ให้ผู้ที่ได้เข็มหนึ่งของ AstraZeneca แล้วจำนวน 12%

7.ฉีดกระตุ้นให้บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 3%

โดยจะให้เน้นไปที่ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรังเป็นหลัก

แผนจัดหาวัคซีน ไม่พอกับเป้าหมาย 100 ล้านโดส
นพ.เฉลิมชัย ระบุต่อว่าเมื่อดูจากตัวเลขดังกล่าว จะพบว่า ได้มีการฉีดวัคซีนมาแล้วจนถึงวันที่ 18 ก.ค.2564 จำนวน 14.22 ล้านโดส เมื่อรวมกับที่จะฉีดภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ อีก 13 ล้านโดส จึงรวมเป็น 27.22 ล้านโดส  

เป้าหมายที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมูในการฉีดถึงสิ้นปีนี้ ธ.ค.2564 คือ 100 ล้านโดส จึงจะต้องฉีดเพิ่มอีก 72.78 ล้านโดส ในช่วงเวลาที่เหลือ ตั้งแต่  1 ก.ย.-31 ธ.ค.2564 รวมเป็นเวลา 122 วัน คงต้องฉีดให้ได้เฉลี่ย 5.96 แสนโดสต่อวัน  ซึ่งโดยศักยภาพของโรงพยาบาลรัฐ สามารถฉีดได้วันละ 5-7 แสนโดส จึงไม่ใช่ปัญหาเรื่องความสามารถในการฉีด แต่น่าจะเป็นประเด็นเรื่องปริมาณของวัคซีนที่จะจัดหามาให้ได้ครบ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้

โดยพบว่า วัคซีนที่จะต้องจัดหามาเพิ่มอีก 72.78 ล้านโดสนั้น ประกอบไปด้วย

1.AstraZeneca 20 ล้านโดส คือเดือนละ 5 ล้านโดส จำนวน 4 เดือน

2.Sinovac  12 ล้านโดส คือ เดือนละ 3 ล้านโดส

3.Pfizer 20 ล้านโดส บวกที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐฯอีก 1.5 ล้านโดส รวมเป็น 21.5 ล้านโดส

4.Moderna 5 ล้านโดส

5.Sinopharm 2 ล้านโดส

รวมเป็น 61.5 ล้านโดส ยังคงขาดวัคซีนที่ต้องเร่งจัดหามาภายในสิ้นปีอีก 11.28 ล้านโดส เฉลี่ยเดือนละ2.82 ล้านโดส  ซึ่งสามารถดำเนินการได้หลายวิธี อาทิเช่น เจรจากับ AstraZeneca ให้จัดสรรวัคซีนเพิ่มให้กับไทย หรือนำเข้าวัคซีน Sinopharm เพิ่มขึ้น หรือนำเข้าวัคซีน johnson & Johnson  หรือวัคซีน Sputnik V จากรัสเซีย  ตลอดจนวัคซีน Novavax เข้ามาเสริม คงจะต้องรอดูแผนและวิธีการดำเนินการต่อไป
#2884


"ไทยพาณิชย์" ร่วมกับ "โรบินฮู้ด" ฟู้ดเดลิเวอรี ประกาศต่อมาตรการ "เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน" ขยายระยะเวลาส่งฟรีทุกออเดอร์อีก 8 วัน เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายฝ่าวิกฤตช่วงล็อกดาวน์


"ธนาคารไทยพาณิชย์" และ "โรบินฮู้ด" แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย ในเครือธนาคารฯ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของสังคมไทยที่มีต่อสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงล็อกดาวน์ที่เศรษฐกิจหยุดชะงัก จึงได้ขยายระยะเวลามาตรการ "เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน" ส่งฟรีทุกออเดอร์ต่ออีก 8 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2564 มุ่งหวังช่วยร้านเล็กให้รอด ไรเดอร์มีงานมีรายได้ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า รวมถึงชวนคนในสังคมร่วมแบ่งปันและส่งต่อกำลังใจให้กันและกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้


จากมาตรการพิเศษ "เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน" ส่งฟรีทุกออเดอร์ในช่วงที่ผ่านมา มีลูกค้าให้ความสนใจ ช่วยกันสั่งอาหารจากร้านค้าโดยเฉพาะร้านเล็ก ๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้อาจจะมีความไม่สะดวกเกิดขึ้น ซึ่งทางโรบินฮู้ดต้องขออภัยลูกค้า ร้านค้า รวมถึงไรเดอร์ที่ได้รับผลกระทบทุกท่าน โดยได้เร่งปรับปรุงและพัฒนาระบบ รวมถึงเปิดรับไรเดอร์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้

"โรบินฮู้ด" ขอเชิญชวนมาร่วมกันช่วยร้านอาหารเล็ก ๆ ที่กำลังเดือดร้อน ผ่านมาตรการ "เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน" และหวังว่าผู้สั่งอาหารจะช่วยสั่งจากร้านเล็ก ๆ เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนร้านเล็กให้รอดไปด้วยกัน... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/90951/
#2885


เปิดโปรแกรมแข่งขันโอลิมปิก "โตเกียว2020" ประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2564
โปรแกรม "นักกีฬาไทย" ในโอลิมปิก "โตเกียว2020" ประจำวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. 2564

เทเบิลเทนนิส 07.00 น.

สุธิสินี เสวตบุตร
แบดมินตัน รอบแบ่งกลุ่ม เริ่มเวลา 07.00 น. 

หญิงคู่ : จงกลพรรณ กิติธรากุล และ รวินดา ประจงใจ พบ คิม โซยอง และ คอง ฮียอง (เกาหลีใต้) ลงแข่งขันเวลา 08.40 น. โดยประมาณ

 
คู่ผสม : เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย พบ ทอม กีเซล และ เมลฟิน เดอรูร์ (ฝรั่งเศส) ลงแข่งขันเวลา 10.40 น. โดยประมาณ

 
หญิงเดี่ยว : รัชนก อินทนนท์ พบ ลอร่า ซาโรซี่ (ฮังการี) ลงแข่งขันเวลา 17.20 น. โดยประมาณ

 
ชายเดี่ยว : กันตภณ หวังเจริญ พบ ไค แชเฟอร์ (เยอรมนี) ลงแข่งขันเวลา 18.00 น. โดยประมาณ
 

มวยสากล รอบแรก เริ่มเวลา 09.00 น.

รุ่นฟลายเวต 51 กก. หญิง จุฑามาศ จิตรพงศ์ พบ รูเมซ่า บูอาลัม  (แอลจีเรีย)
 

จักรยาน ชิง 1 เหรียญทอง เริ่มเวลา 09.00 น.

ประเภทถนน บุคคลหญิง จุฑาทิพย์ มณีพันธ์
 

ยูโด ชิง 2 เหรียญทอง เริ่มเวลา 09.00 น. 

รุ่น 52 กก. หญิง กชกร วรสีหะ พบ ซูมิย่า (โมร็อกโก)
 

ยิงปืน ชิง 2 เหรียญทอง เริ่มเวลา 07.00 น.

ยิงเป้าบิน สกีตหญิง รอบคัดเลือก สุธิยา จิวเฉลิมมิตร, อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข 
#2886
แม่ค้าออนไลน์สั่งของจากไหนกันhttps://www.chatstickmarket.com/single-post/wheredoonlinesellersorderfrom

#2887


อัพเดท ตรวจสอบเช็คสิทธิรับเงินเยียวยา "ประกันสังคม" www.sso.go.th ยืนยันสมัคร "ผู้ประกันตนมาตรา 40" ไม่กระทบสิทธิ "บัตรทอง" และ "บัตรคนจน" แถมสมัครแล้ว ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เพิ่มขึ้นด้วย 

อัพเดทมาตรการจ่าย "เงินเยียวยา" สำหรับ "ผู้ประกัน" ใน "ประกันสังคม" มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์สถานการณ์โควิด-19 พื้นที่สีแดงเข้มรวม 13 จังหวัด ก็มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะประกันสังคมมาตรา 40 ที่เปิดให้ผู้ประกอบ "อาชีพอิสระ" สามารถสมัครเข้าเป็น "ผู้ประกันตนมาตรา 40" เพื่อรับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐได้

แต่หลายคนยังมีข้อสงสัยว่าการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้ประโยชน์อะไร แล้วจะเสียโอกาสในการรักษาพยาบาล "บัตรทอง" อย่างที่โซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกตหรือไม่

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวบรวมรายละเอียดเพื่อไขข้อข้อใจว่าการเป็น "ผู้ประกันตนมาตรา 40" จะได้ประโยชน์อะไร แล้วจะเสียโอกาสใน "บัตรทอง" และ "บัตรคนจน" หรือไม่ดังนี้

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ชี้แจงถึงกรณีที่ผู้ถือบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ เมื่อสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 แล้ว ยืนยัน ไม่มีผลกระทบ และใช้สิทธิการรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง และสวัสดิการแห่งรัฐต่างๆ ที่เคยได้รับได้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่ได้เพิ่ม เช่น มีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิต ได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท จากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

  • สมัคร 'ประกันสังคม ม.40' ได้สิทธิอะไรบ้าง แล้วจะเสียสิทธิ 'บัตรทอง' ไหม?
  • เช็คสิทธิรับเงินเยียวยา 'ประกันสังคม' www.sso.go.th ม.33 ม.39 ม.40 ที่นี่
  • รับสิทธิ 'ประกันสังคม' ผ่านระบบ 'SSO e-Service' หรือ www.sso.go.th ต้องทำอย่างไร
  • เช็คเลย! เยียวยา 'ประกันสังคม' แต่ละกลุ่ม โอนเงินวันไหนบ้าง? 
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าววันนี้ (21 ก.ค.64) ว่า กระทรวงแรงงาน โดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญแก่แรงงานภาคอิสระหรือผู้ประกอบ "อาชีพอิสระ" ให้เข้าถึงหลักประกันสังคมอย่างทั่วถึง เพื่อแบ่งเบาภาระและเป็นหลักประกันในชีวิต ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยสำนักงาน "ประกันสังคม" ได้เปิดโอกาสให้แรงงานภาคอิสระหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีสัญชาติไทย หรือเป็นผู้ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ที่มีเลขประจำตัวหลักแรกเป็นเลข 0 หรือ 6 หรือ 7 มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ รวมถึงผู้พิการทางร่างกายที่รับรู้สิทธิ สามารถสมัครขึ้นทะเบียนเป็น "ผู้ประกันตนตามมาตรา 40" ได้

เงินสมทบที่ต้องจ่ายทุกเดือน 

  • ทางเลือก 1 : 70 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65 ลดเงินสมทบเหลือ 42 บาท )
  • ทางเลือก 2 : 100 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65 ลดเงินสมทบเหลือ 60 บาท)
  • ทางเลือก 3 : 300 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65 ลดเงินสมทบเหลือ 80 บาท )
สิทธิการคุ้มครอง 
- ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 จะได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 3 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และค่าทำศพ

- ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 4 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ และเพิ่มบำเหน็จชราภาพอีกหนึ่งกรณี

- ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 ได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 5 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ บำเหน็จชราภาพ และสงเคราะห์บุตร 
#2888


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า  ในการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 22 ก.ค.นี้  ส.อ.ท. และ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยจะเสนอ 4 แนวทางช่วยเหลือเอสเอ็มอีเพิ่มเติม แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการเสนอแนวทางต่อภาครัฐไปแล้วหลายอย่างโดยเฉพาะด้านการเงิน แต่ก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่

 ประกอบด้วย 1.เพิ่มสัดส่วนการค้ำประกันความเสียหายผ่านบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมเพิ่มขึ้นเป็น 60% เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาในช่วงนี้ได้มากขึ้น 2. พิจารณาให้ผู้ประกอบการที่เป็นลูกหนี้สถาบันการเงินที่เข้าเกณฑ์ NPL ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิดจนถึง 3 ปี นับจากสิ้นสุดช่วงโควิด ไม่มีประวัติข้อมูลที่บ่งบอกถึงประวัติการชำระหนี้หรือสินเชื่อใน Credit Bureau

3.ให้พิจารณาผ่อนคลายเงื่อนไขการปล่อยกู้ตามประกาศ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เขียนไว้ว่า "ให้สภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการที่ยังพอมีศักยภาพ" โดยให้เป็นดุลยพินิจของสถาบันการเงิน ซึ่งการเข้มงวดกับคำว่าศักยภาพที่ยึดโยงกับรายได้ในอนาคตที่ไม่แน่นอนจากสถานการณ์วิกฤติไม่ปกติจะเป็นอุปสรรคลำดับแรก ที่สถาบันการเงินจะยังไม่พิจารณาปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็น NPLs จากผลกระทบของโควิด-19 และ 4. ให้ความช่วยเหลือในเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนด้านสาธารณสุข โดยการจัดหา Rapid Test ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี


นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่า  สมาคมฯร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินแนวทางเร่งด่วนในการช่วยเหลือเอสเอ็มอี เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจให้สามารถผ่านพ้นช่วงโควิด โดยขอความร่วมมือจากบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพให้ชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้าบางส่วน ขยายระยะเวลาเรียกเก็บหนี้ ลดระยะเวลาชำระหนี้ และเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ลูกจ้างและพนักงาน โดยจ่ายเงินเดือนทุก 15 วัน


ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้จัดตั้งกองทุน ส.อ.ท. ช่วยไทยสู้ภัยโควิด-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนด้านสาธารณสุข ทั้งการจัดหา Rapid Test ให้กับผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และประชาชน, สร้างห้องความดันลบ, จัดหาวัคซีนเพิ่มเติมและสภาอุตสาหกรรมฯ ยังจะเข้าไปสนับสนุนโครงการ Rescue Box สำหรับผู้ป่วยโควิดของสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยเพิ่มเติม โดยจัดหาสิ่งของที่จำเป็นและยาเข้าไปสมทบ หรือการช่วยเหลืออื่นๆ ที่ภาคสาธารณสุขมีความจำเป็น

รวมถึงขอความร่วมมือจากบริษัทจดทะเบียน เพื่อระดมความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการจัดทำ Rescue Box สำหรับผู้ป่วยโควิดที่แยกกักตัวที่บ้านหรือผู้ป่วยโควิดที่แยกกักตัวในชุมชนและให้ภาครัฐเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มธุรกิจเพื่อประคองเศรษฐกิจของประเทศ เช่น ภาคส่งออก ภาคก่อสร้าง และโรงงานต่างๆ 

 

นอกจากนี้ ยังหารือแนวทางความช่วยเหลือเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจ อาทิ การผลักดันโครงการ Faster Payment ให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะลดระยะเวลา Credit term ให้แก่คู่ค้าของบริษัทโดยเฉพาะกลุ่ม เอสเอ็มอี ในระยะเวลา 30 วันต่อไปจนถึงสิ้นปี และความร่วมมือกันในการจัดทำสินเชื่อ Supply Chain Factoring เพื่อช่วย SMEs โดยจะหารือร่วมกับสถาบันการเงินเพื่อให้เกิดขึ้นให้ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วยการสนับสนุนสินค้าที่ได้ขึ้นทะเบียน Made in Thailand แล้ว
#2889


    เงื่อนไขการ "เดินทางเข้า-ออก" ตามมาตรการ "ล็อกดาวน์" ตั้งแต่ 20 ก.ค.64 โดยจำกัด "พื้นที่สีแดงเข้ม" รวมทั้งหมด 13 จังหวัด หากใครต้องการเดินทางต้องเตรียมเอกสารดังนี้

    หลังจากที่มีคำสั่ง "ล็อกดาวน์" จากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) โดยสาระสำคัญคือ "จำกัดการเดินทาง" โดยเฉพาะ 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)

    โดยศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ได้เปิดเว็บไซต์ "หยุดเชื้อ ช่วยชาติ"ทาง covid-19.in.th ที่จะให้ประชาชนใช้ลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตเดินทาง (กรณีมีความจำเป็นอย่างยิ่ง) เพื่อช่วยลดการสัมผัสของเจ้าหน้าที่หน้าด่าน ที่ต้องตรวจเอกสาร และประชาชนไม่ต้องเข้าคิวในการร้องขอออกนอกพื้นที่

    กรุงเทพธุรกิจออนไลน์สรุปเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการการจำกัดการเดินทางของ "มาตรการล็อกดาวน์" เดือนกรกฎาคม 2564 

    สมัครผ่อนของ 0% 40 เดือนกับ Citi คลิกเลย
    รวมจังหวัดที่จำกัดการเดินทาง
    การจำกัดการเดินทางถูกบังคับใช้แก่พื้นที่สถานการณ์เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 13 จังหวัด 
    [list=1]
    • กรุงเทพฯ 
    • นครปฐม
    • นนทบุรี 
    • ปทุมธานี 
    • สมุทรปราการ 
    • สมุทรสาคร 
    • ฉะเชิงเทรา 
    • ชลบุรี 
    • พระนครศรีอยุธยา 
    • นราธิวาส 
    • ปัตตานี 
    • ยะลา 
    • สงขลา

    ต้องการเดินทางเข้า-ออก ต้องทำอย่างไร
    สำหรับการลดการเดินทางในพื้นที่ งดการเดินทางข้ามจังหวัด โดยงดเว้นเฉพาะกรณีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า มีการใช้การสนธิกำลังทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ในการจัดตั้งด่านตรวจเข้มแข็ง บนเส้นทาง หลัก/รอง ดังนั้นหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ จะต้องลดการเดินทางลง เพราะ จนท.จะมีมาตรการอย่างเข้มข้น มีการตั้งด่านจำนวนมากเกิดขึ้น 


    สิ่งที่เตรียมเพื่อใช้เดินทางเข้า-ออก
    การเดินทางเข้าออกพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ต้องมีเอกสารรับรองการเดินทาง หรือ QR Code เพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าที่ใน โดยเอกสารมีดังนี้ 

    1. เอกสารรับรองที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการเขต

    2. ถ้าไม่มีข้อ 1 ให้ลงทะเบียนการเดินทางข้ามพื้นที่ ผ่านทางเว็บไซต์ "หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" https://covid-19.in.th เพื่อนำ QR code แสดงแก่เจ้าหน้าที่

    3.ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ไทยชนะ ที่ด่านตรวจ

    ที่มา: ศบค. 20 ก.ค. 64 
    #2890
    เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

    "ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
    พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





    111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

    1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


    2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


    111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
    เติมคอยส์ MICO, KittyLive




    Add Line : @111Topup


    วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


    1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


    2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


    3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


    4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


    5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


     


     


    รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


     


    สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


    มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


    ** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


    สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf


     
    #2891


    นับจากข้อตกลงปารีส หรือ "COP 21" ในปี 2558 ที่มีเป้าหมายลดภาวะโลกร้อนทำให้หลายประเทศให้ความสำคัญกับการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประกาศการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเ และในการประชุม "COP 26" ในปีนี้ไทยจะประกาศเป้าหมาย Zero Carbon เช่นกัน

    เป้าหมายปีที่จะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในประเทศให้เหลือ 0 หรือ "Zero Carbon" หรือ "Carbon neutral" นโยบายดังกล่าวถือว่าเป็นเทรนด์สำคัญที่ประเทศไทยจะต้องนำเอามากำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ รวมไปถึงนโยบายเปิดรับการลงทุน เพราะในการเลือกประเทศที่จะเข้ามาลงทุนของบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จะพิจารณาถึงการให้ความสำคัญต่อนโยบายด้านนี้ด้วย ประเทศไทยจึงต้องมการปรับนโยบายของประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของโลก

    การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติปี 2564 หรือที่เรียกว่า "COP26"ซึ่งสหประชาชาติจะจัดประชุมร่วมกับสมาชิกที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. – 12 พ.ย.ที่จะถึงนี้ถือว่ามีความสำคัญในการประกาศจุดยืนเรื่อง Zero Carbon ของประเทศไทยในเวทีระดับโลก

    สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยระหว่างการปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ"Restart เศรษฐกิจไทยฝ่าภัยโควิด" จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)เมื่อเร็วๆนี้ว่าประเทศไทยจะใช้เวทีการประชุมระดับโลกดังกล่าวประกาศเป้าหมายปีที่จะสิ้นสุดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์โดยอยู่ระหว่างช่วงปี ค.ศ.2065 - 2070 ซึ่งขณะนี้กำลังหารือกันถึงปีที่แน่นอนที่จะมีการประกาศต่อประชาคมโลก โดยจะเร็วขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ในปี ค.ศ.2100 30 – 35 ปี ส่วนปีที่ประเทศไทยจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในจุดสูงสุดคือปี ค.ศ.2030 และจะลดลงสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอน เป็นศูนย์ในที่สุด

    ทั้งนี้การที่ประเทศไทยกล้าที่จะขยับเป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ได้รวดเร็วขึ้นจะมาจากแรงสนับสนุนเรื่องเทคโนโลยี และแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากญี่ปุ่นซึ่งประเทศ G7 มอบหมายให้ญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว 

    "สุพัฒนพงษ์" ระบุว่าเป้าหมายดังกล่าวของประเทศไทยเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่หนดทิศทางเศรษฐกิจของไทยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศตามแนวทางนโยบาย "4D" โดยเน้นในส่วนที่ไทยมีโอกาสและศักยภาพที่จะเติบโตได้แก่

     1.ยกระดับการพัฒนาดิจิทัล (Digitalization)

    2. การมุ่งเน้นการส่งเสริมการผลิตที่ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และมลภาวะ (Decarbonization)

    3.โมเดลเศรษฐกิจที่ใช้ประโยชน์จากการกระจายฐานการผลิตของบริษัท และอุตสาหกรรมชั้นนำที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการมีฐานการผลิตอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง (Decentralization )

    และ 4.โมเดลลดความเสี่ยงในเรื่องของการซื้อที่อยู่อาศัยในต่างประเทศ โดยเราจะดึงดูดให้ผู้มีรายได้สูง และทักษะสูงในกลุ่มอาชีพต่างๆมาอยู่ในไทยในระยะยาว (D-risk)

    ทั้งนี้นโยบาย "Decarbonization" จะถือเป็นนโยบายสำคัญที่ช่วยให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศไทยจากบริษัทชั้นนำที่มาจากกลุ่มประเทศพัฒนา  แล้วอย่างกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งมีทั้งเม็ดเงินลงทุนมหาศาล และมีองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ประเทศไทยต้องการให้เข้ามาลงทุนและช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อช่วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในอนาคต

    โดยในการประชุมของกลุ่มประเทศ G7 ล่าสุดนั้นให้ความสำคัญในเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจากในกระบวนการผลิต ทำให้บริษัทชั้นนำจากประเทศในกลุ่มนี้ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศอื่นๆ รวมทั้งลงทุนในไทยก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน หากมีการประกาศเป้าหมายและมีนโยบายที่ชัดเจนที่จะผลักดันเรื่องนี้จะช่วยส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยให้เติบโตได้มากขึ้น 

    ทั้งนี้มีหลายๆนโยบายเริ่มมีการขับเคลื่อนไปสู่นโยบายดังกล่าว เช่น นโยบายการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของภูมิภาค นโยบายเศรษฐกิจชีวภาพโดยใช้โมเดล BCG ที่เน้นเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ทั้งพลังงานหมุนเวียน และพลังงานทดแทน ที่ไม่ได้สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่จะต้องทำควบคู่กันไปเพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมด้านอื่นๆที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนธุรกิจ อุตสาหกรรมมีแหล่งพลังงานที่สะอาดใช้อย่างพอเพียง 

    การขับเคลื่อนนโยบาย Zero Carbon นั้นจึงมีความสำคัญต่อทิศทางการพัฒนาประเทศหลังโควิด รวมทั้งเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการลงทุนของประเทศไทย สามารถสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ มีการสร้างงาน อาชีพใหม่ เป็นแนวทางที่จะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศได้ในอนาคต
    #2892
    แนะนำ!! สติกเกอร์ใหม่ในแอพ ChatStick Market และ LINE ประจำวันที่ 15/07/2021 จัดเต็มทั้งสติกเกอร์ดารา Youtuber และ สติกเกอร์น่ารักๆ ประจำสัปดาห์ทั้ง 8 ชุด โหลดใช้ได้ทั้งในแอพ LINE (สติ๊กเกอร์ไลน์) และแอพ ChatStick Market ซึ่งคุณจะสามารถส่งสติกเกอร์ไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, WeChat, KakaoTalk, Messenger, Whatsapp, Skype หรือในทุกช่องทางการแชทไหนก็ทำได้ ไปโหลดสติกเกอร์ใหม่ๆ ไว้ใช้กันได้เลย มีสติ๊กเกอร์ฟรีให้โหลดเพียบ

    https://www.chatstickmarket.com/single-post/recommend-newstickersinchatstickmarketandlineappon15-07-2021

    #2893
    นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





    1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

     

    2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
    จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
     


    นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

    สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
     
    #2894


    "กลุ่มดุสิตธานี" เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรมต่อเนื่อง หลังเข้ารับบริหารโรงแรม "ดุสิตดีทู หัวหิน" ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งที่ 3 ในหัวหิน พร้อมเปิดให้บริการ 16 ก.ค.นี้ ชูจุดเด่นท่องเที่ยววิถีใหม่ พร้อมเปิด "เพ็ทโซน" เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง

    นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มดุสิตธานีพร้อมเปิดให้บริการโรงแรม "ดุสิตดีทู หัวหิน" ในวันนี้ (16 ก.ค.) โดยนับเป็นโรงแรมในเครือดุสิตแห่งที่ 3 ในหัวหิน นอกเหนือจากโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ที่สร้างชื่อมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี และสถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก สวนสนประดิพัทธ์ ที่กลุ่มดุสิตธานีเข้าไปรับบริหารให้เมื่อเร็วๆ นี้

    "เราเชื่อว่า หัวหินยังเป็นจุดหมายปลายทางที่อยู่ในใจนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเสมอ เพราะสามารถเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ และหัวหินเป็นเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว"

    โรงแรมดุสิตดีทู หัวหิน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหัวหิน สามารถเดินไปที่ชายหาดได้ภายใน 7 นาที อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองหัวหินหลายแห่ง เช่น ตลาดซิคาด้า และห้างบลูพอร์ตหัวหินรีสอร์ท มอลล์ โดยเราตั้งใจให้โรงแรมแห่งนี้ เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือคู่รัก ที่ต้องการพักผ่อนอย่างไร้กังวล ด้วยการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเทคโนโลยี Nanoe™ X ที่ช่วยกำจัดกลิ่นและยับยั้งแบคทีเรียในอากาศเสริมเข้าไปในห้องพักทุกห้อง เพื่อความสะอาดและปลอดภัย  และเปิดโซนห้องพักสำหรับลูกค้าที่ต้องการนำสัตว์เลี้ยงคู่ใจมาด้วย

    สำหรับห้องพักของ "ดุสิตดีทู หัวหิน" ถูกออกแบบและตกแต่งแบบร่วมสมัย ประกอบด้วย ห้องพักและห้องสวีทรวม 152 ห้อง ขนาดตั้งแต่ 30 ถึง 92 ตารางเมตร ห้องพักทุกห้องมีกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติที่มีความสูงตั้งแต่เพดานจรดพื้น ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย โรงแรมนำเสนอสิ่งอำนวยครบครัน เช่น อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง สมาร์ททีวี 4K UHD ขนาด 55 นิ้วที่ให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อความบันเทิงได้อย่างง่ายดาย สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้บนชั้นดาดฟ้าและสระสำหรับเด็ก สวนขนาดใหญ่ ห้องออกกำลังกาย และห้องประชุม "ดอกจอก" ที่รองรับได้มากถึง 76 คน นอกจากนี้ ลูกค้ายังจะได้รับบริการเสริมจากโปรแกรม 'ดุสิตแคร์' ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยทุกครั้งที่เข้าพัก ซึ่งประกอบไปด้วยมาตรฐานใหม่ในการบริการ เช่น เช็คอินตามเวลาที่ลูกค้าสะดวก เลือกรับประทานอาหารเช้าได้ทุกเวลา และชำระเงินผ่านมือถือ เป็นต้น


    ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นของโรงแรมที่เหมาะสำหรับกลุ่มครอบครัว คือ "เดอะแบรี่ คลับ" ซึ่งเป็นโซนสำหรับเด็ก นำเสนอกิจกรรมให้ครอบครัวได้ร่วมสนุกตลอดการเข้าพัก อาทิ กระบะทราย บ้านต้นไม้ การเพ้นท์กระเป๋า ปลูกต้นไม้ เรียนทำอาหาร และเกมส์ล่าขุมทรัพย์ที่มีสัญลักษณ์ 'แบร์รี่' มาสคอตลูกครึ่งหมีและเนื้อทรายคอยสร้างความเพลินเพลิน และให้ความรู้เด็กๆ เกี่ยวกับสัตว์ที่กำลังจะสูญพันธุ์ โดยลูกค้ารุ่นเยาว์จะได้รับแผนที่หมีน้อยเพื่อทำกิจกรรมสะสมแสตมป์และลุ้นรับไอศกรีม

    ในด้านของบริการอาหาร ทางโรงแรมมีห้องอาหาร "คาเฟ่ซอย" ที่จะเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน นำเสนออาหารใต้แบบดั้งเดิม เช่น อาหารจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา และกระบี่ นอกจากนี้ ยังมี "ส้มบาร์" บาร์บนชั้นดาดฟ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปาร์ตี้ฮอลลีวูด ที่ให้ลูกค้าเพลิดเพลินกับวิวทะเลแบบพาโนรามาขณะจิบค็อกเทล รวมถึง "ดุสิตกูร์เมต์" ร้านเบเกอรี่และคอฟฟี่ช็อปอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิต ที่นำเสนออาหารไทยและอาหารนานาชาติจานโปรดที่ปรุงด้วยวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม

    และเพื่อเป็นการฉลองการเปิดโรงแรม ดุสิตดีทู หัวหิน กลุ่มดุสิตธานีนำเสนอแพคเกจ "The Journey has Begun" ในราคาเริ่มต้นคืนละ 2,499 บาทสุทธิ รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน และเตียงเสริมสำหรับลูกค้าที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ส่วนลด 20% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม โดยลูกค้าที่เข้าพักต่อเนื่อง 2 คืน จะได้รับเซ็ทอาหารใต้สูตรต้นตำรับมื้อเย็นสำหรับ 2 ท่านด้วย แพคเกจนี้สามารถเข้าพักได้ตั้งแต่ 16 ก.ค.-31 ส.ค.2564
    #2895
    บ้านนี้ขายแค่ 1.98 ล้านเท่านั้น  
    โทร 086.364.0995 คุณดา
    โทร 095.626.5932 คุณขนิษฐา

    ขาย ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น หลังมุม ลำปลาทิว ลาดกระบัง หมู่บ้านพฤกษา 78


    แต่งใหม่พร้อมอยู่ หมู่บ้านพฤกษา 78 ฉลองกรุง - นิคมลาดกระบัง ซอย1 หลังมุม ขายของได้ !!

    ที่ตั้ง : ถเลียบคลองลำกอไผ่ แขวงลำปลาทิว  เขตลาดกระบัง  กรุงเทพมหานคร

    - ขายบ้านสวย หลังมุม ตกแต่ใหม่สวย !
    มีพื้นที่ด้านข้าง !!  #พร้อมอยู่ 
     3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 
    จอดรถได้ 2 คัน เนื้อที่ 24.9 ตรว พื้นที่ใช้สอย 150 ตรม 
    ฟรี !! แอร์ 3 เครื่อง 
    โครงการ : พฤกษา 78 ฉลองกรุง - นิคมลาดกระบัง

    - จุดเด่นของบ้านหลังนี้ : ต่อเติมสวยพร้อมอยู่ , หลังมุม มีพื้นที่ด้านข้าง
    CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

    การเดินทาง
    บนถนนฉลองกรุง จากบริเวณหน้าตลาดนัดนครฉลองกรุง มุ่งหน้าไปทางโรงเรียนลำพะอง (ราษฎร์จำเริญบำรุง) ประมาณ 900 เมตร เลี้ยวซ้ายไปทางถนนเลียบคลองลำกอไผ่ ประมาณ 25 กิโลเมตร โครงการอยู่ด้านซ้ายมือ

    - ทำเลที่ตั้งการเดินทาง
    - เชื่อมต่อกับถนนสุวินทวงศ์ และถนนร่มเกล้า-ศรีนครินทร์ตัดใหม่
    - ใกล้จุดขึ้น-ลงทางมอเตอร์เวย์-พระราม9

    #บ้านพฤกษา 78 ฉลองกรุง-นิคมฯลาดกระบัง ทาวน์เฮาส์ขนาดใหญ่ สไตล์โมเดิร์น พร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโล่งสบาย ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ 

    ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ใกล้นิคมฯลาดกระบัง การเดินทางสะดวกสบายแระรวดเร็ว ใกล้ สถานนีรถไฟฟ้า Airport link และมอเตอร์เวย์พระราม 9 พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม
    ==================
    - ฟรีประเมิน
    - ฟรียื่นสินเชื่อ
    - เครดิตดีมีเงินเหลือหลักแสน
    =========
    "คนเลือกบ้าน บ้านเลือกคน" 
    ขอแสดงความยินดีกับ "ว่าที่เจ้าของบ้านหลังนี้"

    ราคาประเมิน 23 ล้านบาท
    บ้านนี้ขายแค่ 1.98 ล้านเท่านั้น  

    ขายบ้าน มีนบุรี-หนองจอก รวม 18 หลัง ราคาเพียงหลังละ 1-2 ล้านเท่านั้น !!  ยื่นกู้ฟรี !! เครดิตดีมีเงินเหลือหลักแสน

    **โปรดติดต่อก่อนเข้าชมทรัพย์ทุกครั้งค่ะ

    โทร 0863640995 คุณดา
    โทร 095-626-5932 คุณขนิษฐา

    https://www.prakard.com/viewtopic.php?f=50&t=7816856






























    #2896
    เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
    เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
    ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
    เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
    เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
    เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
     Made in JAPAN 
    สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
    Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
    ไลน์ไอดี: valaiporn25
    website:https://www.cleanicethailand.com
    facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
    #เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
     

     

     
     
    #2897
    เป็นที่รู้กันดีว่า ตัวเลือกเครื่องแต่งหน้าจำพวกรองพื้นนั้นมีอยู่มากมาย ทว่ารองพื้นดีๆที่ใช้แล้วตรงใจกลับมีอยู่น้อยกว่าที่คิด ในการเลือกซื้อ รองพื้นปกปิดสักชิ้น ก็เลยจำเป็นต้องเลือกเฟ้นอย่างใส่ใจและให้ความพิถีพิถัน

    เพื่อช่วยทำให้คุณได้เลือกรองพื้นดีๆที่ใช่และก็ตรงใจ ก็จำต้องขอบอกเทคนิคกันเสียหน่อย สำหรับการเลือกซื้อรองพื้นแต่ละครั้ง ขอให้คุณลองเช็คกันเสียก่อน ว่ารองพื้นที่คุณกำลังจะซื้อนั้น ครบถ้วนสมบูรณ์ด้วย 5 คุณสมบัติสำคัญตามแบบฉบับของ Lancôme Teint Idole Ultra Wear Foundation อยู่หรือไม่




    .1. ปกปิดระดับสูง
    เพราะว่ารองพื้นคือผู้ที่ทำหน้าที่เสมือนเครื่องเสริมความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้กับคุณ จะทารองพื้นปกปิดไปเพราะเหตุใด ถ้ารองพื้นที่ใช้ไม่ได้ปกปิดอะไรเลย? รองพื้นมีประสิทธิภาพจะต้องสามารถช่วยปกปิดปัญหาผิวให้คุณได้ ไม่ว่าจะปัญหาสิว สีผิวไม่เท่ากัน กระ ฝ้า หรือริ้วรอย รองพื้นที่ดีจะต้องให้การปกปิดเพื่อให้คุณได้เปิดเผยผิวสวยแลดูเป็นธรรมชาติ

    Lancôme Teint Idole Ultra Wear Foundation รองพื้นจาก Lancôme มีคุณลักษณะเด่นเรื่องการปกปิดปัญหาผิวได้แนบเนียน สามารถสร้างผิวในอุดมคติ เพื่อการเปิดผิวในทุกๆวัน ได้อย่างมั่นใจ

    .2. บางเบา มอบความรู้สึกเบาสบายผิว
    นอกเหนือจากการที่จะจำต้องปกปิดได้ดี รองพื้นที่ดีจำต้องมอบความรู้สึกเบาสบายให้กับผิว Lancôme Teint Idole Ultra Wear Foundation คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์เรื่องความบางเบา ช่วยทำให้ผิวรู้สึกเสมือนหายใจได้ เนื้อรองพื้นเน้นความบางเบา ไม่หนาหนัก ช่วยมอบผิวที่ดูเหมือนจริง เน้นย้ำความเป็นธรรมชาติ




    .3. เนื้อแมตต์ไม่มันเงา ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมัน
    เพราะรองพื้นสำหรับในการใช้ในชีวิตประจำวันควรจะเป็นรองพื้นที่เน้นย้ำความเป็นธรรมชาติเป็นสำคัญ ดังนั้นรองพื้นที่เหมาะสมเพื่อเปิดเผยผิวควรมีเนื้อแมตต์ไม่มันเงา รองพื้น Lancôme มีความโดดเด่นที่มีคุณลักษณะทำหน้าที่เป็น "รองพื้นคุมมัน" ตัวรองพื้นไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันปัจจัยปัญหาผิวดรอป หมองคล้ำระหว่างวัน

    .4. ติดทนยาวนานตลอดวัน
    จะดียิ่งกว่าไหม ถ้าหากสามารถทารองพื้นในช่วงเวลาเช้าแล้วก็ปกปิดได้ยาวนานไปตลอดทั้งวัน คุณสมบัติข้อนี้ คือคุณลักษณะเด่นของรองพื้น Lancôme เพราะไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน  Lancôme Teint Idole Ultra Wear Foundation ก็สามารถปกปิดผิวได้แนบเนียน คงทนได้ตลอดวันตอนเช้าจรดเย็น

    .5. เกลี่ยง่ายเนียนลื่น
    ด้วยเนื้อลิควิดที่เปล่งประกายที่นอกเหนือจากที่จะช่วยให้ผิวดูผ่องใส นุ่มนวล ตัวเนื้อครีมของ รองพื้น Lancôme ขวดนี้ยังเกลี่ยง่ายเนียนลื่น แล้วก็มีส่วนผสมของสารกันแดดช่วยคุ้มครองปกป้องผิวจากแสงแดดตัวการความหมองคล้ำ และริ้วรอย

    Lancôme Teint Idole Ultra Wear Foundation (30 ml. ราคา 1,950 บาท) มีจัดจำหน่ายกว่า 35 เฉดสี ณ เคาน์เตอร์ลังโคมใกล้บ้านคุณ





    #2898
    เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
    เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
    ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
    เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
    เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
    เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
     Made in JAPAN 
    สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
    Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
    ไลน์ไอดี: valaiporn25
    website:https://www.cleanicethailand.com
    facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
    #เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
     

     
     
    #2899
    **cash back 200,000.- ** หลังจากยอดโอนห้อง
    ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ https://line.me/ti/p/Q4De1HQ9SZ
    ห้อง 716 ชั้น 7 ราคา 1,580,000 ยอดโอน 1,388,600
    แบบห้อง B1-01 1bedroom 22 sqm.
    รายการของแถมจากทางโครงการ
    1.digital door lock
    2.home automation
    3.voucher ทำความสะอาดฟรีเดือนละ 1 ครั้ง จำนวน 12 เดือนมูลค่า 6,000 บาท
    4.ก๊อกอ่างล้างจาน
    5.เครื่องดูดควัน
    6.เครื่องปรับอากาศ 12,000 btu /1 รายการ
    7.ฉากกั้นอาบน้ำ
    8.ชั้นวางทีวี
    9.ชุดครัว
    10.ตู้แขวนชุดครัว
    11.ตู้เสื้อผ้า
    12.เตาไฟฟ้า
    13.เตียงนอน 5 ฟุต
    14.โต๊ะแต่งตัว
    15.อ่างล้างจาน
    โทร 0848072778
    ติดต่อสอบถามต่อรองได้เลย
    https://line.me/ti/p/Q4De1HQ9SZ
    Line kozcm

    #2900
    ขายที่ดินแถมบ้าน แม่ออน เชียงใหม่ใกล้บ้านกำปอง  เหมาะทำโฮมสเตย์ รีสอร์ท ร้านอาหาร ที่ดินอำเภอแม่ออน-เชียงใหม่ขายถูกกู้ได้สูง

    ขายที่ดินแถมบ้าน แม่ออน เชียงใหม่ ใกล้บ้านกำปอง 2ไร่2งาน47 ตรว ขายถูกกู้ได้สูง กู้ได้เต็ม  ตำบลบ้านสหสกรณ์ อำเภอแม่ออน เชียงใหม่  ที่ดินอำเภอแม่ออน-เชียงใหม่ขายถูกกู้ได้สูง อยู่ใกล้น้ำพุร้อนสันกำแพง ใกล้หมู่บ้านแม่กำปอง ใกล้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เชียงใหม่ เหมาะทำโฮมสเตย์ รีสอร์ท ร้านอาหาร

    ขายที่ดินแถมบ้าน  แม่ออน เชียงใหม่ ใกล้บ้านกำปอง แม่ออน เชียงใหม่ เหมาะทำโฮมสเตย์ รีสอร์ท ร้านอาหาร ขายถูกกู้ได้สูง กู้ได้เต็ม
    ขายถูกที่ดินแถมบ้านใกล้บ้านกำปอง เนื้อที่ดิน 2ไร่2งาน47 ตรว ตำบลบ้านสหสกรณ์ อำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ อยู่ใกล้น้ำพุร้อนสันกำแพง ใกล้หมู่บ้านแม่กำปอง ใกล้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เชียงใหม่ เหมาะทำโฮมสเตย์ รีสอร์ท ร้านอาหาร

    ขายบ้านพร้อมที่ดินตำบลบ้านสหสกรณ์ อำเภอแม่ออน ราคาพิเศษ ถูกเหมือนซื้อที่ดินแถมบ้าน คุ้มสุดๆ มีบ้าน  2 หลัง สไตล์ล้านนา บนเนื้อที่ 1,047 ตร.วา (2 ไร่ 2 งาน 47 ตร.วา)  ลักษณะที่ดินเป็นพื้นทางราบและเนิน ขายพร้อมต้นสักอายุ 10 ปีขึ้นไป เกือบร้อยต้น  เหมาะทำโฮมสเตย์ รีสอร์ท ร้านอาหาร ไร่ฟาร์มออแกนิค ร้านคาเฟ่แนวๆหรือทำบ้านเป็นหลังๆ จัดสรรขายก็ได้ เพราะเป็นโฉนดแบ่งเป็นหลายแปลง อยู่ใกล้น้ำพุร้อนสันกำแพง ใกล้หมู่บ้านแม่กำปอง

    ที่ดิน อำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ ขายที่ดินแถมบ้าน ใกล้บ้านกำปอง อยู่ใกล้น้ำพุร้อนสันกำแพง เชียงใหม่

    กู้ได้เต็มขายที่ดินแถมบ้านอำเภอแม่ออน รายละเอียด : จากถนนหลวงสายหลัก สายสันกำแพงสายใหม่-น้ำพุร้อน แม่ออน (1317) ถึงโรงเรียนบ้านสหกรณ์ 2 (อยู่ขวามือ) เข้าซอยข้างโรงเรียน จนถึงบ้าน ระยะทางประมาณ 800 เมตร (อยู่ซ้ายมือ)

    บ้านจำนวน 2 หลัง
    บ้านหลังที่ 1  เป็นลักษณะ ครึ่งปูน ครึ่งไม้ สไตล์ล้านนา มีห้องนอน 2 ห้อง , ห้องน้ำ 2 ห้อง , 1 ห้องเก็บของ , ห้องครัว โถงรับแขก , ระเบียงชั้น 2 มี ศาลานั่งพักผ่อน
    บ้านหลังที่ 2  เป็นลักษณะ ครึ่งปูน ครึ่งไม้ สไตล์ล้านนา เป็นโถงกว้าง มี 1 ห้องน้ำ , ห้องครัว 

    บริเวณหน้าบ้าน มีบ่อน้ำ เหมาะทำคาเฟ่ หรือร้านอาหาร เพราะลักษณะเป็นเนินลาดขึ้น-ลง บริเวณบ้านประกอบด้วย ต้นสัก เกือบ 100 ต้น อายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป มีโรงเรือนบ้านพักคนงาน หลายห้อง 1 โรง  มีโรงไม้ มุงหลังคาไว้ 2 โรง มีระบบเดินน้ำ ทำสวนผักออแกนนิค 1 โรง

    หมายเหตุ  
    ปัจจุบันเป็น บ้านพักทั้ง 2 หลังนี้  ปิดไว้ไม่ได้ใช้งาน  จึงมีความเสื่อมโทรมบ้างตามกาลเวลา  แต่หากซื้อแล้วมาปรับปรุงใหม่ จะใช้งบประมาณไม่มาก รับรองสวยงามมากกก บรรยากาศดีสุดๆ  และคุ้มสุดๆ  เหมือนซื้อที่ดิน แถมบ้าน  บนเนื้อที่ 1,047 ตารางวา (2 ไร่ 2 งาน 47 ตร.วา)  เอกสารสิทธิ์โฉนด 

    เดินทางสะดวก
    -ใกล้น้ำพุร้อนสันกำแพง แม่ออน ประมาณ 5 นาที ( 3 กม. )
    -โรงพยาบาลแม่ออน  ใกล้ ประมาณ 8 นาที  ( 5 กม. )
    -จากเชียงใหม่ อาร์ต มิวเซียม เพียง ประมาณ 12 นาที  ( 9.2 กม.)
    -ใกล้สนามบินแห่งใหม่ ประมาณ  17 นาที  ( 18 กม. )
    -จากโรงพยาบาลสันกำแพง  ประมาณ 17 นาที ( 18 กม. )
    -ถนนคนเดินสายวัฒนธรรมสันกำแพง ทุกวันเสาร์  ประมาณ  18 นาที ( 19 กม. )
    -ห้างสรรพสินค้าพรอมเมนาดา ประมาณ Promenada  23 นาที ( 25 กม. )
    -ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล  Central Festival ประมาณ 35 นาที ( 37 กม. )
    -สนามบินเชียงใหม่  ประมาณ 37 นาที  ( 38 กม. )

    สถานท่องเที่ยวในอำเภอแม่ออน
    -ถ้ำเมืองออน
    -อ่างวังเย็น
    -บ้านแม่กำปอง
    -ผาน้ำลอด
    -หินคอน หรือ หินมหัศจรรย์
    -อุทยานแห่งชาติแม่ตระไคร้
    -อุทยานการเรียนรู้ชุมชนคนรักษ์ป่าบ้านปางจำปี
    -น้ำตกย่าจันทร์
    -โครงการหลวงตีนตก
    -น้ำพุร้อนสันกำแพง
    -น้ำพุร้อนดอยสะเก็ด

    ขายที่ดินแถมบ้าน ใกล้บ้านกำปอง ขอเสนอขาย ราคาพิเศษ เพียง 5.8 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมการโอน คนละครึ่ง

    นใจติดต่อสอบถาม

    พัณณ์ชิตา  097- 9926561

    065-0569511


    ดูแผนที google earth

    https://www.google.com/maps/@18.7875317,99.2480963,3a,75y,113.45h,75.23t/data=!3m6!1e1!3m4!1sZL7n5SaWCbqn4KoiNm23QQ!2e0!7i13312!8i6656


    รายละเอียดเพิ่มเติม
    https://postasungha.com/?p=3384


    คำค้น
    คำค้น
    ที่ดินอำเภอแม่ออน-เชียงใหม่ขายถูกกู้ได้สูง, กู้ได้เต็มขายที่ดินแถมบ้านอำเภอแม่ออน,  ถูกกว่าทั่วไปใกล้เคียงที่ดินอำเภอแม่ออน- เชียงใหม่, ขายบ้านพร้อมที่ดินตำบลบ้านสหสกรณ์, ขายที่ดินแถมบ้านอำเภอแม่ออน-เชียงใหม่, ขายที่ดินอำเภอแม่ออน-เชียงใหม่, ขายที่ดินตำบลบ้านสหสกรณ์ใกล้บ้านกำปอง เชียงใหม่ , ขายที่ดินแถมบ้านอำเภอแม่ออน-เชียงใหม่, ขายที่ดินอำเภอแม่ออน-เชียงใหม่, ขายที่ดินอยู่ใกล้น้ำพุร้อนสันกำแพง, ขายที่ดินแถมบ้านใกล้หมู่บ้านแม่กำปอง, ขายที่ดินแม่ออนเชียงใหม่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวม เชียงใหม่, ขายที่ดินแม่ออน-เชียงใหม่เหมาะทำโฮมสเตย์, ขายที่ดินแม่ออน-เชียงใหม่เหมาะทำรีสอร์ท, ขายที่ดินแม่ออน-เชียงใหม่เหมาะทำร้านอาหาร,