• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - dreamyies

#31


เราคือผู้ผลิต ล็อคกิ้งคีย์ กิ๊บล็อค อุปกรณ์ติดตั้งงานระบบฝ้าเพดาน ใช้ยึดโครงซีลายน์โครงคร่าวเพดานเข้าด้วยกัน สินค้าคุณภาพมาตรฐาน ราคาถูก

'' แข็งแรง ทนทาน ไม่คลายตัว ''



เราคือโรงงานผู้ผลิตล็อคกิ้งคีย์

เราคือโรงงานผู้ผลิตโดยตรง ล็อคกิ้งคีย์ กิ๊บล็อคฝ้า โดยเลือกใช้ วัสดุคุณภาพสูง มาผ่านกระบวนการผลิต ตัด-ปั๊ม ขึ้นรูป ด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย ควมคุมการผลิตโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี รองรับการผลิตจำนวนมาก เพื่อรองรับตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ






สนใจติดต่อสอบถาม

บริษัท เลอเลิศ คอร์ปเรชั่น จำกัด(สำนักงานใหญ่)

50 ซอยเทียนทะเล 26 แยก 5 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0115561002901

วันและเวลาทำการ

จันทร์-เสาร์ 08.00-17.00 น. ( หยุดวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ )

ติดต่อเรา(ฝ่ายขาย)

Tel. 02-004-3409

Tel. 088-555-6328
 
ช่องทางออนไลน์

Line ID: @lerlert

FB: facebook.com/LerLertCorp

Email: lerlertcorp@gmail.com


คุยกับเราทางไลน์



Website : https://www.lerlertcorp.com/locking-key/


 
#32
วิกติดกาวผมแท้ วิกผม หนังศรีษะเทียมbyช่างองุ่น&ช่างเมย์




ปัญหา​ "ผมร่วง" เป็น อีกหนึ่งสาเหตุ​ ที่ทำให้​ ผมบาง​ วิกติดกาว​  หัวเถิก​ หน้าผากเว้าเป็นรูปตัวM

***ปัญหาที่ทำให้หลายคนกังวนใจ***

-ทำให้สูญเสียบุคลิกภาพ

-ขาดความมั่นใจ

-วิตกกังวล

-มีภาวะเครียด



วิกผมติดกาวผมแท้ฐานPu​​เกรดพรีเมี่ยม​ เนียนเสมือนหนังศรีษะจริง​ ผมดำธรรมชาติ​   เกรดพรีเมี่ยม​ คุณภาพสูง ที่มีการถักทอด้วยความละเอียด​ ไลน์ทอ มีความเนียน​ เสมือนผมจริง​

สามารถตัดแต่งทรงผมได้​ ตามต้องการ​  ตัววิกเสมือนผมจริง​ จะแสก​ แหวก​ เสย​ ก็เนียนเป็นธรรมชาติ​  ซึ่งฐานPU​มีความบางติดเนียนไปกับหนังศีรษะ

วิกผมติดกาว​สามารถใส่ทำกิจกรรมได้ทุกอย่าง​ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย​ ว่ายน้ำ​  สระผม​ ไดร์ผม​ หรือใส่นอนได้โดยไม่ต้องถอดวิก
 
*** เปลี่ยนจากวิธีเดิมๆ​ ​ มาลองติดวิกผมติดกาวดูไหมค่ะ / ปัญหาน้อย​ ตอบโจทย์​สำหรับผู้ที่มีปัญหา​ ผมบาง​ ศรีษะล้าน ***

-เนียน​ เป็นธรรมชาติ

-เบาสบายหนังศรีษะ

-ใช้เวลาน้อย​ ติดปุ๊บ​ หล่อเลย

-ดูแลรักษาง่าย

-เซ็ทผม​ เป่าไดร์​ หนีบได้​ (ผมแท้)​

-ปลอดภัยไม่ต้องเสี่ยง

-สระผม​ ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตได้ปกติ

** มีบริการติดวิกผม​ /ตัดผมชาย​ /ตัดผมหญิง **

*** อยากหล่อเท่ห์ดูดี​ เพิ่มความมั่นใจให้กับตัวสนใจ​ นัดคิว​ล่วงหน้า​ #วิกติดกาวช่างองุ่น ​#วิกติดกาวช่างเมย์​ ***



Tel : 061-8298898​

Line@ : https://lin.ee/VRLRMQ0

Tiktok​ : Dara_hairwig​

FanPage : https://www.facebook.com/meinakaaa/



 
#33
ปกป้องผิวสวยจากฝุ่นจิ๋ว PM 2.5


ฝุ่น PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ฝุ่นจิ๋วนี้เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น การเผาไหม้ในโรงงาน การเผาไหม้เครื่องยนต์และการก่อสร้าง ส่งผลให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะทางเดินหายใจและปอด ก่อให้เกิดโรคตามมา เช่น หอบหืด โรคปอด หัวใจทำงานผิดปกติ เป็นต้น

นอกจากนี้ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นมลพิษในอากาศบ้านเราอยู่ทุกวันนี้นอกจากจะส่งผลต่อระบบหายใจ ทำให้สุขภาพกายแย่ลง "แล้วยังทำให้สุขภาพผิว ทั้งผิวหน้าและผิวกายแย่ลงอีกด้วย" เพราะสามารถทำลายเซลล์ผิวหนังของคนเราได้ โดยฝุ่นจิ๋วนี้จะทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ซึ่งทำลายทั้งเซลล์ผิวชั้นนอกและเซลล์ผิวชั้นใน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผิวเกิดการเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอย ผิวแลดูแก่ก่อนวัย เกิดจุดด่างดำบนใบหน้า รวมถึงการอุดตันในรูขุมขนทำให้เกิดสิวตามมาอีกด้วย

สาเหตุของปัญหาผิวแพ้ง่าย

ปัญหาผิวแพ้ง่ายอาจเกิดได้จากหลายหลายสาเหตุและ ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ โดยอาการผิวแพ้ง่ายสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย แต่มักจะเกิดขึ้นกับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และพบมากในวัยเด็กทารก และผู้ใหญ่ที่เริ่มมีอายุ หรือผู้สูงวัย



ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดอาการผิวแพ้ง่าย

-เนื่องจากเด็กทารกมีผิวที่บางกว่าผู้ใหญ่ถึง 5 เท่า และภูมิคุ้มกันหรือเกราะป้องกันผิวก็ยังไม่ทำงานอย่างเต็มที่ ทางด้านผู้ใหญ่ที่เริ่มมีอายุ หรือผู้สูงวัยผิวหนังและเกราะป้องกันผิวก็เริ่มเสื่อมสภาพ ผิวของทั้งสองช่วงอายุนี้จึงไวต่อสิ่งกระตุ้นที่อาจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายกว่าช่วงอายุอื่น ๆ

ปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดอาการผิวแพ้ง่าย

-สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง อากาศเย็นหรือมีความชื้นในอากาศต่ำ ก็จะทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และกระตุ้นให้เกิดอากาศแพ้ได้ ในขณะเดียวกันหากอากาศร้อนเกินไป ทำให้เหงื่อออกมาก ก็ทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน

-ฝุ่น ควัน และมลพิษต่าง ๆ ในอากาศก็เป็นอีกปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PM 2.5 ที่เป็นฝุ่นจิ๋วขนาดเล็กที่สามารถลอดผ่านเข้ามาภายในบ้านหรือออฟฟิศได้ง่ายดาย นอกจากก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวแล้ว ยังอันตรายต่อร่างกายในระยะยาวอีกด้วย

-การใช้สกินแคร์ หรือยารักษาโรคบางชนิดที่อาจมีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น น้ำหอม, แอลกอฮอล์, เรตินอยด์ และยาปฏิชีวนะที่ไปทำลายแบคทีเรียดีบางชนิด



เราสารถตรวจสอบคุณภาพอากาศได้อย่างไร ?

เทคโนโลยี Virus Index ในuHoo Advance Air Sensor ช่วยตรวจสอบสภาพอากาศว่า มีความเหมาะสมต่อการเติบโตของไวรัสหรือไม่ เพื่อลดความความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสในอากาศ สามารถวัดค่าอากาศได้ครอบคลุมที่สุดถึง 9 ค่า ได้แก่ อุณหภูมิ, ความชื้น, ฝุ่น PM2.5, คาร์บอนไดออกไซด์, คาร์บอนมอนอกไซด์, สารอิทรีย์ระเหย (VOC), โอโซน และความดันอากาศ



วิธีปกป้องผิวจากฝุ่น PM 2.5

1.ใส่หน้ากากอนามัย N95 ก่อนออกไปข้างนอกทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM 2.5 สัมผัสผิวหน้าโดยตรง

2.เมื่อต้องออกไปข้างนอก หากเป็นไปได้ควรสวมใส่เสื้อแขนยาวปกปิดให้มิดชิดและพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่อากาศมีฝุ่นพิษ PM 2.5 หนาแน่น เช่น ทางเดินข้างถนน บริเวณที่มีการก่อสร้าง เป็นต้น

3.หลังออกไปเผชิญฝุ่น PM 2.5 อย่าละเลยการทำความสะอาดควรล้างทำความสะอาดผิวหน้าทันทีด้วยคลีนเซอร์ และทำความสะอาดหน้าต่อด้วยโฟมล้างหน้าอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน เพื่อกำจัดฝุ่นที่ตกค้างบนผิวหนังให้มากที่สุด ป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตัน ซึ่งทำให้ผิวแพ้ง่ายตามมา

4.ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่ช่วยในการปกป้องผิวจากมลพิษ รวมถึง UVA UVB และ Invisible Light เช่น  Astaxanthin, Vitamin C, Vitamin E หรือ CoQ10 ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพื่อสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ต่อสู้กับมลภาวะได้

5.พยายามไม่แกะเกาหรือสัมผัสใบหน้าขณะอยู่ในบริเวณที่มีฝุ่น PM 2.5 หนาแน่นเพื่อป้องกันการระคายเคืองและสัมผัสกับใบหน้าด้วยสิ่งสกปรก

6.ประทานอาหารที่มีประโยชน์  เช่น ผักใบเขียวและผลไม้ที่อุดมไปด้วย Vitamin C ประเภท ส้ม แตงโม สัปปะรด เยอะ ๆ  ช่วยให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระจากฝุ่น PM 2.5

นอกจากการทาครีมบำรุงผิวแล้ว ควรดูแลผิวจากภายในด้วยอาหารเสริมที่ช่วยสร้างสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น Hydroxytyrosol ที่พบในผลและใบของต้นมะกอก, Astaxanthin จากสาหร่ายสีแดง หรือสารสกัดจากเมล็ดองุ่นและเปลือกสน

หากใครอยากมีผิวสวยท้าฝุ่น ลองนำ 7 เคล็ดลับปกป้องผิวจาก PM 2.5 ที่เราแนะนำในวันนี้ไปปรับใช้ กุญแจสำคัญคือการหลีกเลี่ยงและป้องกันตัวเองให้ดีจากบริเวณที่ฝุ่น PM 2.5 ปริมาณมาก เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องสัมผัสหรือสูดฝุ่นพิษเข้าไปโดยตรง เท่านี้เราก็จะมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวที่สมบูรณ์แข็งแรง ไร้ปัญหาผิวกวนใจในทุกสภาวะอากาศแล้ว


Website : https://kudos.co.th/protect-skin-from-air-pollutions/




 
#34
สาเหตุของปัญหาผิวเสียจากมลภาวะที่ต้องเผชิญโดยไม่รู้ตัว


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยมลภาวะและฝุ่นควัน และคุณเองอาจจะต้องตื่นขึ้นมาทุกวันพร้อมกับความจริงที่ว่า "สภาพแวดล้อมรอบตัวคุณ กำลังทำร้ายผิวพรรณที่คุณหวงแหนให้เสื่อมโทรมลงทุกวันแบบที่คุณนั้นไม่รู้ตัว !"

จากรายงานของ Health Effects Institute และ Institute of Health Metrics and Evaluation's Global Burden of Disease เกี่ยวกับ State of Global Air ในปี 2020 ได้กล่าวถึง ความอันตรายจากมลพิษทางอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพและชีวิตของมนุษย์โดยตรง ซึ่งมลพิษทางอากาศถือเป็นสาเหตุสำคัญสูงสุดติดอันดับที่ 4 ที่สามารถคร่าชีวิตผู้คนกว่า 6 ล้านคนทั่วโลก และที่น่าตกใจไปกว่านั้น ยังพบว่าประเทศในแถบเอเชีย เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีระดับฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในสภาพแวดล้อมสูงสุดอีกด้วย

นอกจากนี้ จากการศึกษาของประเทศเยอรมัน ยังพบว่า สาว ๆ ที่ดำรงชีวิตในพื้นที่ที่มีการจราจรติดขัดหนาแน่น จะมีปัญหาผิวที่หมองคล้ำมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับสาว ๆ ในพื้นที่ชนบทอีกด้วย ดังนั้น ให้คุณลองนึกภาพตามว่า แล้วมลพิษที่อยู่รอบตัวในขณะนี้ จะกำลังทำร้ายผิวของคุณมากมายขนาดไหน !!! จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมากที่คุณจะต้องทำความรู้จักว่า ปัญหาผิวเสียจากมลภาวะเกิดขึ้นได้อย่างไรและจะป้องกันอย่างไร ?

[มลพิษ ! ภัยร้ายต่อผิวที่อยู่ใกล้ตัวคุณที่สุด

ก่อนอื่นเลย คุณต้องรู้จักก่อนว่า มลพิษคืออะไร ? "มลพิษ คือ การปนเปื้อนของสภาพแวดล้อมจากทั้งธรรมชาติ และจากกิจกรรมของมนุษย์" ซึ่งพบเจอได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง มลพิษเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในอากาศ ดิน น้ำ ความร้อน แสง และเสียง ซึ่งมลพิษทางอากาศถือเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยและใกล้ตัวคุณมากที่สุด

ภัยร้ายของมลพิษทางอากาศ ส่วนใหญ่มาจากส่วนประกอบและสารปนเปื้อน ทั้งรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ (UV), โพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs), สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs), ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx), ฝุ่นละออง (PM), โอโซน (O3) และควันบุหรี่ รวมถึงสารเคมีที่ติดอยู่กับแหล่งต่าง ๆ เช่น สารพิษจากวัสดุทำความสะอาดในครัวเรือน ยาฆ่าแมลง และเชื้อเพลิง เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อผิวหนังของคุณทั้งสิ้น

แล้วมลพิษทางอากาศจะเข้าไปทำร้ายชั้นผิวของคุณได้อย่างไร ?

ผิวหนังของมนุษย์ ส่วนใหญ่จะเป็นชั้นบนของหนังกำพร้า ทำหน้าที่เป็นเกราะกำบังให้กับเนื้อเยื่อชั้นอื่น ๆ ของร่างกาย เมื่อใดที่คุณได้รับมลพิษทางอากาศ มันจะเข้าทำร้ายผิวหนังของคุณ โดยเริ่มจากการทำลายชั้นผิว ผ่านการกระตุ้นปฏิกิริยาออกซิเดชัน ถึงแม้ว่าผิวหนังของมนุษย์จะมีเกราะป้องกันโดยธรรมชาติอยู่แล้วก็ตาม แต่การได้รับมลพิษในระดับที่สูงเป็นเวลานาน ๆ หรือบ่อยครั้ง อาจส่งผลเสียอย่างลึกซึ้งต่อผิวหนังของคุณ ซึ่งจะทำให้อนุภาคมลพิษในอากาศ สามารถเข้าสู่โครงสร้างชั้นลึกของผิวหนังที่จะทำหน้าที่ออกซิไดซ์ไขมัน และเข้าสู่เนื้อเยื่อรอบข้างได้ในที่สุด




นอกจากมลพิษอย่างฝุ่นและควันที่เห็นได้ชัดแล้ว อนุภาคเถ้าและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจราจรที่หนาแน่น ก็เป็นอันตรายต่อผิวหนังไม่แพ้กัน เพราะมันมีความคงที่และมีขนาดเล็กพอที่จะเข้าสู่ผิวหนังได้ ทำให้คุณเกิดอาการแพ้และผิวพรรณดูมีอายุมากขึ้นหากได้รับมลพิษเหล่านี้เป็นเวลานาน ๆ นอกจากนี้ ในอากาศยังประกอบไปด้วยสารพิษและอนุภาคอื่น ๆ มากมาย ซึ่งชนิดของอนุภาคมลพิษในอากาศแต่ละตัว ส่งผลกระทบต่อผิวหนังแตต่างกัน ดังนี้

รังสีอัลตราไวโอเลต (UV)
มาจากแสงอาทิตย์และแสงจากแหล่งอื่น ซึ่งทั้ง UVA และ UVB จะเจาะเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อไปทำลาย DNA ผ่านกลไกต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่จะถูกดูดซับในส่วนของเซลล์ผิวหนังชั้นนอกและไฟโบรบลาสต์ของผิวหนัง ส่งผลกระทบต่อผิวหนัง โดยตรงทั้งการมีส่วนทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพ กดภูมิคุ้มกันทางผิวหนังเอาไว้ และก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง เช่น มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา มะเร็งเซลล์ต้นกำเนิด (BCC) และมะเร็งเซลล์สความัส(SCC) ได้

ฝุ่นละออง (PM)
สารมลพิษทางอากาศที่ซับซ้อนและมีองค์ประกอบและขนาดแตกต่างกัน PM เกิดจากการเผาไหม้ของโรงงาน โรงไฟฟ้า เตาเผาขยะ รถยนต์ จากกิจกรรมการก่อสร้าง ไฟไหม้ และฝุ่นลมธรรมชาติอื่น ๆ ซึ่งใน PM จะประกอบไปด้วยโลหะ สารประกอบอินทรีย์ ไอออน และก๊าซคาร์บอน เป็นต้น อนุภาคในช่วงขนาดนาโน หรือที่รู้จักกันในนามของ PM 2.5 ถือเป็นองค์ประกอบที่เป็นอันตรายที่สุด เพราะสามารถทำฏิกิริยาต่อผิวหนังได้สูง ทำให้เกิดริ้วรอยบนผิวภายนอก เช่น จุดสีบนใบหน้า ร่องจมูก และริ้วรอยต่าง ๆ เป็นต้น

โพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs)
เป็นหนึ่งในสารก่อมลพิษที่แพร่หลายที่สุด เกิดจากส่วนที่เหลือจากการเผาไหม้ ทั้งจากควันไอเสียรถยนต์ โดยเฉพาะจากเครื่องยนต์ดีเซล และจากการเผาไหม้ของสารอินทรีย์ รวมถึงควันบุหรี่ด้วย ซึ่ง PAHs มักจะมาควบคู่กับฝุ่นละออง PM ส่งผลทำให้ผิวหนังที่ได้สัมผัส เกิดอาการเป็นพิษได้ เป็นสาเหตุทำให้เกิดการปะทุของสิว และยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของเซลล์ผิวหนังและสามารถพัฒนาเป็นมะเร็งผิวหนังได้

สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
เกิดขึ้นจากการใช้สีเคลือบเงา ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพสีรถยนต์ ควันบุหรี่ เชื้อเพลิงที่สะสมไว้ ไอเสียจากรถยนต์ โดยเฉพาะจากเครื่องยนต์เบนซิน และจากการปล่อยมลพิษโดยโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งสารประกอบประเภทนี้ เป็นที่มาของการเกิดการอักเสบของผิวหนัง ปฏิกิริยาการเกิดภูมิแพ้ และเป็นที่มาของโรคผิวหนังภูมิแพ้หรือกลากอีกด้วย

โอโซน (O3)
มีอยู่ในชั้นบรรยากาศโดยทั่วไป อาจเกิดขึ้นจากกิจกรรมบางอย่างของมนุษย์และเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ฝุ่น เถ้าภูเขาไฟ และละอองไฟป่า โอโซนมีผลต่อการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนัง และเป็นสาเหตุในการเกิดลมพิษ กลาก และโรคผิวหนังอักเสบได้

ควันบุหรี่
นอกจากมลภาวะทางอากาศแล้ว มลพิษทางน้ำก็ยังมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญในการทำลายผิวด้วย เช่น คลอรีนในน้ำประปาที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง และนำไปสู่ปัญหาริ้วรอยก่อนวัยได้เช่นเดียวกัน

สัญญาณร้ายต่อผิวเมื่อได้รับมลภาวะเป็นเวลานาน

อนุภาคมลพิษในอากาศที่กล่าวมาข้างต้น จะซึมซาบเข้าสู่โครงสร้างของผิวหนังชั้นลึกผ่านกระบวนการออกซิเดชัน ส่งผลกระทบต่อผิวหนัง ผิวเสีย ทั้งในการสร้างเม็ดสี การเกิดสิว และการเกิดริ้วรอยก่อนวัย อนุมูลอิสระเหล่านั้นจะทำร้ายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้เกิดรอยดำและริ้วรอย รวมทั้งยังเพิ่มการอักเสบของสิวที่รุนแรงขึ้น และในท้ายที่สุด เมื่อได้รับการกระตุ้นจากปัจจัยอื่น ๆ ทั้งเรื่องอาหารการกินและการใช้ชีวิต จนทำให้เกิดการรบกวนอย่างรุนแรงของระบบการทำงานปกติของชั้นไขมัน ดีเอ็นเอ และโปรตีนของผิวหนังมนุษย์ จนทำให้เกิดการอักเสบหรือภาวะภูมิแพ้ เช่น โรคผิวหนังภูมิแพ้ โรคสะเก็ดเงิน สิว และอาจเกิดผลกระทบที่ร้ายแรง จนเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ในที่สุด

ทั้งนี้ผลกระทบของมลภาวะต่อผิวหนัง ก็มีความแตกต่างกันตามสภาพผิวของแต่ละคน

สำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย สิ่งเจือปนในอากาศและน้ำจะเข้าสู่รูขุมขนพร้อมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ความมัน และเหงื่อ ซึ่งจะนำไปสู่การอุดตันรูขุมขน และสิวอุดตัน และไปกระตุ้นการผลิตซีบัมของผิวหนังที่เพิ่มมากขึ้นจนนำไปสู่ปัญหาการเกิดสิวได้อีกด้วย

สำหรับผิวแห้ง ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมลภาวะเช่นเดียวกัน เพราะมลภาวะในชั้นบรรยากาศจะกระตุ้นปฏิกิริยาออกซิเดชันบนผิวหนัง ซึ่งส่งผลให้เกิดผิวหมองคล้ำและผิวขาดน้ำได้ ทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง มีอาการอักเสบ และความแห้งกร้านได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย

สำหรับผิวแก่ก่อนวัย การรวมกันของรังสียูวีตัวร้ายและมลภาวะ จะไปทำลายเซลล์ผิวที่แข็งแรงและลดความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองของผิว และขัดขวางการเชื่อมกันของคอลลาเจนและอีลาสติน จนนำไปสู่การเกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยในที่สุดนั่นเอง

แล้วเราจะมีวิธีการปกป้องและดูแลผิวจากมลภาวะได้อย่างไร ?

นอกจากมลพิษที่อันตรายต่อสุขภาพร่างกายของคนเราแล้ว ยังลามไปอาละวาดและเป็นภัยคุกคามสำคัญ ต่ออุตสาหกรรมความงามทั่วโลก ที่จะต้องคิดค้นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อตอบสนองปัญหาด้านมลภาวะเหล่านี้ด้วย ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ล้ำลึกไปจนถึงสครับขัดผิว และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และความเชื่อที่ว่า ครีมกันแดดช่วยคุณได้ ตอนนี้การทาครีมกันแดดอย่างเดียว ไม่เพียงพออีกต่อไป และไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบไหน ผู้เชี่ยวชาญก็ได้แนะนำให้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลผิวที่ดีและครบถ้วนอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ ดังนั้น เพื่อให้ผิวของคุณสามารถต่อสู้กับมลภาวะให้ได้ ผ่านขั้นตอนง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ จะมีอะไรบ้าง ดูแลสุขภาพผิวไปพร้อมกัน !



-การทำความสะอาดผิว ทำความสะอาดผิวของคุณทุกวันในตอนเช้าและตอนเย็นเพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน และอาจใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทสครับขัดผิว หรือการดีท็อกซ์ผิวตามความเหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสาหร่ายสีแดงและสารสกัดจากธาราผลไม้ เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวและขจัดการสะสมของมลพิษ และที่สำคัญ อย่าลืมลบเครื่องสำอางค์จากการแต่งหน้าก่อนล้างหน้าด้วย โดยการใช้ ฝักบัว KUDOS MIST หรือ ฝักบัวแรงดันสูง สามารถช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกหมดจด โดยไม่ทำร้ายผิวหน้า

-การใช้โทนเนอร์หลังจากทำความสะอาดผิว เป็นสิ่งที่จำเป็นที่หลายคนมักจะละเลย เพราะการใช้โทนเนอร์ที่มีค่า pH ที่เหมาะสมจะช่วยปรับสภาพผิวให้เป็นกลางและพร้อมต่อการบำรุงในลำดับถัดไป ทั้งนี้โทนเนอร์ที่เลือกใช้ควรจะอ่อนโยนต่อผิวและมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย ลดปัญหาผิวเสีย ช่วยขจัดน้ำมัน และร่องรอยสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่ตกค้างบนผิวหน้า

-การปลอบประโลมผิว ด้วยการทาครีมหรือเซรั่มระหว่างวัน และทาครีมบำรุงที่เข้มข้นในตอนกลางคืน เพื่อเพิ่มมอยส์เจอไรเซอร์ให้แก่ผิว โดยเฉพาะการนำวิตามินกลับคืนสู่สภาพผิว เพื่อเสริมสร้างเกราะป้องกันและส่งเสริมการต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ซึ่งสำหรับสภาพผิวที่แตกต่างกัน ย่อมต้องการการดูแลด้วยส่วนประกอบที่แตกต่างกัน เพื่อการบำรุงที่ล้ำลึก ดังนี้

1.สำหรับผิวแห้ง ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน และอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสามารถใช้มาสก์วิตามิน สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นได้ สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ให้เน้นที่มีส่วนประกอบของ Oligopeptides, Antioxidants, Hyaluronic acid, Vitamin B5, Plant butters and essential oils และ Cucumber and cilantro

2.สำหรับผิวผสมหรือผิวธรรมดา ควรใช้โลชั่นที่ปราศจากน้ำมันเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นเฉพาะบริเวณที่แห้งในช่วงกลางวัน และสามารถใช้มาส์กประเภทชาร์โคลเพื่อดีท็อกซ์ผิวสัปดาห์ละ 1 ครั้งได้ เพื่อช่วยขจัดสารพิษที่นำไปสู่การเกิดสิว สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ให้เน้นที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic acid, Activated, Charcoal, Kaolin clay, Glycolic acid, Vitamin C และ Aloe vera

3.สำหรับผิวมัน ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อด้านเพื่อป้องกันไม่ให้ต่อมผลิตน้ำมันส่วนเกินมากไป แนะนำให้ใช้ครีมประเภท Salicylic-Glycolic ในเวลากลางคืน เพื่อลดความมันของผิว และสามารถใช้สครับเม็ดเล็ก ๆ ได้ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ให้เน้นที่มีส่วนประกอบของ Niacinamide, Activated, Charcoal, Salicylic acid, Mandelic acid, Vitamin C และ Calendula

4.สำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย ทำตามขั้นตอนที่คล้ายคลึงกันกับผิวมัน แต่สามารถเพิ่มครีมป้องกันสิวเพื่อช่วยลดการเกิดสิวได้ สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ให้เน้นที่มีส่วนประกอบของ Tea tree, Menthol, Sulfur, Retinol, Vitamin C, Cinnamon bark และ Extract

5.สำหรับผิวแก่ก่อนวัย ควรใช้เซรั่มเพื่อปกป้องและป้องกันไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย ใช้ครีมชะลอริ้วรอย และครีมทาใต้ตาในเวลากลางคืนได้ สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ให้เน้นที่มีส่วนประกอบของ Retinol, Vitamin C, Vitamin E, Ferulic acid, Peptides และ Ginger leaf

-การปกป้องใบหน้าด้วยครีมกันแดด ควรใช้ครีมกันแดดที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และมีค่า SPF ที่เหมาะสม เพื่อการปกป้องผิวอย่างเต็มที่ รวมถึงการปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะผ่านการสวมใส่หรือใช้อุปกรณ์เพื่อป้องกันแดด เช่น ร่ม หมวก เสื้อแขนยาวป้องกัน UV เป็นต้น

-การเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ด้วยวิตามินที่จำเป็น ได้แก่ E, C และ B และสารต้านอนุมูลอิสระ สิ่งเหล่านี้จะช่วยรักษาผิวที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระและรักษาภูมิคุ้มกันผิวให้แข็งแรงอีกด้วย ซึ่งวิตามินเหล่านี้อาจมาจากการรับประทานอาหารเสริม หรือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ได้แก่ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว บีทรูท ออริกาโน แอปเปิ้ล อะโวคาโด บลูเบอร์รี่ ผักใบเขียว และถั่ว เป็นต้น

-การรักษาความชุ่มชื้นของผิว ด้วยการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอตลอดทั้งวัน เพื่อช่วยลดอาการขาดน้ำ อาการอักเสบ และระคายเคืองผิว นอกจากนี้ การดื่มน้ำยังช่วยล้างสารพิษในระบบร่างกายได้อีกด้วย

บอกลาปัญหาผิวเสียจากมลภาวะที่ต้องเผชิญโดยไม่รู้ตัว

มลภาวะเป็นเหมือนศัตรูตัวฉกาจที่ใหญ่ที่สุดของผิวคุณ แม้ว่าผลกระทบของมลภาวะที่มีต่อผิวจะมากมายจนน่าตกใจ และคุณเองก็ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขปัญหาผิวที่เกิดขึ้นแล้วได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สามารถทำได้ คือ การป้องกันดีกว่าการรักษา คุณสามารถป้องกันไม่ให้มลภาวะมาสร้างอันตรายต่อผิวเพิ่มขึ้นได้ด้วยการดูแลอย่างดีจากนี้ไป ทั้งการรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ การลดระดับความเครียดของตนเอง รวมถึงการดูแลผิวอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอตามวิธีการที่ได้แนะนำไปข้างต้น  เมื่อพยายามทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ ในที่สุด ปัญหาผิวของคุณก็จะลดลง มีภูมิต้านทาน และมีเกราะป้องกันที่แข็งแรงขึ้น พร้อมสำหรับมลภาวะอื่น ๆ ที่จะต้องเผชิญต่อไป ดังนั้น อย่าลืมปกป้องผิวของตนเองจากมลภาวะในสิ่งแวดล้อมกันด้วย

Website : https://kudos.co.th/pollutions-cause-skin-problems/



 
#35
เคล็ดไม่ลับของการอาบน้ำที่คนผิวแห้งต้องรู้


ทำไมอายุมากขึ้นแล้วผิวจึงแห้งง่าย ? เมื่อเราอายุมากขึ้น การทำงานของร่างกายก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยผิวหนังชั้นนอกจะมีการกักเก็บน้ำในชั้นผิวหนังลดลง ต่อมไขมันที่ผิวหนังก็มีการผลิตไขมันลดน้อยลง ทำให้เกิดภาวะผิวแห้ง โดยเฉพาะในหน้าหนาว, ช่วงที่อากาศแห้งกว่าปกติ หรือเมื่อใช้เวลาอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน

ภาวะผิวแห้งนอกจากจะเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง, อายุ, โรคประจำตัว หรือ พันธุกรรม แล้ว ยังมีสาเหตุจากกิจวัตรประจำวันที่เราอาจคาดไม่ถึง "การอาบน้ำ" เป็นกิจวัตรประจำวันที่อาจทำให้เกิดภาวะผิวแห้งได้มากเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว แต่หากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอาบน้ำอย่างถูกวิธี นอกจากจะสามารถบรรเทาภาวะผิวแห้งได้แล้ว ยังสามารถกู้คืนสภาพผิวสวย ชุ่มชื้น กลับมาได้อีกด้วย

หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน

ในวันที่เหนื่อยล้า สาว ๆ หลายคนอาจชอบการนอนแช่น้ำร้อนหรืออาบน้ำร้อนให้ผ่อนคลาย แต่ความจริงแล้วน้ำร้อนเป็นตัวร้ายทำลายผิวที่เราคาดไม่ถึง เพราะน้ำที่ร้อนเกินไปจะชะล้างไขมันและโปรตีนที่เคลือบปกป้องผิวหนังออกไป ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นและแห้งกร้านได้ง่าย



โปรตีนในเส้นผมและผิวหนัง นั้นถูกทำลายโดยง่าย จากคลอรีน (Chlorine) ที่คงเหลืออยู่ในนํ้า การอาบน้ำด้วย ฝักบัวกรองคลอรีน KUDOS PUREBLISS ที่ช่วยกรองคลอรีนอิสระคงเหลือในน้ำให้มีปริมาณเหลือน้อยที่สุด จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวให้มีสุขภาพดีได้

สลับอาบน้ำเย็นบ้าง

ใครที่ติดการอาบน้ำอุ่นจริง ๆ แล้วกังวลกับปัญหาผิวแห้ง แนะนำว่าช่วงท้ายของการอาบน้ำให้อาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำเย็นสักนิด เท่านี้ก็จะช่วยปิดรูขุมขนบนผิวหนังและป้องกันความชื้นภายในผิวหนังไม่ให้ระเหยออกไป ทำให้ผิวเรายังคงความนุ่มชุ่มชื้นและตื่นตัวมากขึ้น



ไม่อาบน้ำนานเกินไป

การอาบน้ำเป็นช่วงเวลาในการผ่อนคลาย ทำให้หลายคนชอบใช้เวลาในห้องน้ำนาน ๆ แต่การอาบน้ำที่นานจนเกินไปจะทำให้ความชุ่มชื้นในผิวของเราระเหยไปและทำให้ผิวลอก แห้งกร้าน โดยเวลาที่เหมาะสมคือเพียง 5 – 10 นาทีในการอาบน้ำก็เพียงพอแล้ว



อย่าขัดผิวบ่อยเกินไป

ใคร ๆ ก็บอกว่าถ้าอยากผิวสวยให้ขัดผิวอย่างสม่ำเสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ควรขัดผิวบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผิวบาง เซลล์ผิวถูกทำลายและขาดความชุ่มชื้น ลองใช้มะขามหรือขมิ้นขัดผิวเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็เพียงพอที่จะทำให้เรามีผิวพรรณสวยกระจ่างใสน่ามองได้แล้ว


ใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มี PH เหมาะสม

สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำแต่ละยี่ห้อจะมีค่า pH ที่แตกต่างกัน สบู่ที่มีสาร SLS ที่มีค่า pH สูงจนเกินไป แม้จะมีฟองเยอะทำให้อาบสนุก และรู้สึกสะอาด แต่ก็มีสารชำระล้างที่มีค่าความเป็นเบสสูงด้วย ซึ่งจะทำลายความชุ่มชื้นภายในชั้นผิวหนังออกไปทำให้ผิวแห้งเป็นขุย [/size]


ทาออยล์บำรุงผิวหลังอาบน้ำ

ขณะเช็ดตัวหลังอาบน้ำ ไม่ควรเช็ดจนผิวแห้งสนิทแล้วจึงทาครีมบำรุง แต่ควรปล่อยให้ผิวยังมีน้ำหรือความชื้นอยู่หมาด ๆ แล้วจึงทาออยล์หรือครีมบำรุง เพราะน้ำจะเป็นตัวกลางที่ทำให้ครีมหรือออยล์ที่เราบำรุงผิวหนังซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวยังคงความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน



อย่าเช็ดตัวแรงเกินไป

ยิ่งเช็ดตัวแรงมากเท่าไร ยิ่งเพิ่มโอกาสในการทำร้ายผิวมากขึ้นเท่านั้น การเช็ดตัวควรเลือกใช้ผ้าเช็ดตัวที่มีความนิ่มและค่อย ๆ เช็ดอย่างเบามือ ไม่ควรถูแรง ๆ ด้วยผ้าเช็ดตัวที่มีความแข็ง เพราะจะทำให้ผิวหนังชั้นนอกเสียหายจนกลายเป็นสาเหตุของผิวแห้งแตก หยาบกร้าน



ไม่เพียงแต่เฉพาะพฤติกรรมการอาบน้ำ ที่จะช่วยคุณสาว ๆ กู้คืนสภาพผิวสวย ให้กลับมาชุ่มชื้น แต่เราไม่ควรมองข้าม ปัญหาผิวเสียจากมลภาวะ  เพราะผิวพรรณที่ชุ่มชื้น สุขภาพดีคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราดูดียิ่งขึ้น เราจึงมองข้ามวิธีการดูแลผิวเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้

ลองนำ 7 เคล็ดไม่ลับในการอาบน้ำที่คนผิวแห้งต้องรู้ ที่เรานำมาฝากในวันนี้ไปปรับใช้ รับรองว่าสาว ๆ จะมีผิวสวย เนียนนุ่มชุ่มชื้นอยู่กับเราไปนาน ๆ อุปสรรคอะไรก็ไม่สามารถทำลายผิวสวยของเราได้อย่างแน่นอนค่ะ

Website : https://kudos.co.th/dry-skin-shower-routines/


#36
จิตวิทยาแห่งรักจีบสาวใน 10 วินาทีแรกที่เจอ l บทสรุปฉบับแฮมแฮม EP.3



 
#37
ไม่ใช่แค่สวย แต่ปลอดภัย ใช้งานได้ทุกคน กับการออกแบบห้องน้ำด้วยแนวคิด Universal Design


ห้องน้ำอาจเป็นที่ที่อันตรายมากกว่าที่คิด จากการสำรวจของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) พบว่าในแต่ละปี มีคนมากกว่า 235,000 คนที่ต้องเข้าห้องฉุกเฉิน เพราะประสบอุบัติเหตุในห้องน้ำ และ 14% ของกลุ่มคนเหล่านั้น ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขนาดต้องนอนโรงพยาบาล

เช่นเดียวกับการที่หลายประเทศทั่วโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่กลุ่มของคนอายุมากกว่า 60 ปี มีมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงอายุอื่นๆ แน่นอนว่า ด้วยวัยที่สูงขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น การเดิน การลุก การนั่ง ทำได้ยากขึ้นด้วย รวมถึงผู้สูงวัยหลาย ๆ คนอาจต้องใช้วีลแชร์ ทำให้ผู้สูงอายุใช้ห้องน้ำได้ยากกว่าเดิมอย่างมาก

จะดีกว่าไหม ถ้าห้องน้ำของคุณได้รับการออกแบบเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะมีช่วงอายุ เพศ หรือ สภาพร่างกายอย่างไร และนั่นทำให้แนวคิด "Universal Design" หรือการออกแบบเพื่อทุกคน ได้รับการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง เพราะหัวใจสำคัญของ Universal Design คือ การออกแบบที่ไม่ได้คำนึงถึงเพียงความสวยงาม แต่ใส่ใจถึงการใช้งานจริงของคนทุกกลุ่ม เพื่อให้คนทุกกลุ่มสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเท่าเทียม


แนวคิด UNIVERSAL DESIGN คืออะไร ?

แนวคิด Universal Design การออกแบบเพื่อทุกคน หรือ "อารยสถาปัตย์" เป็นแนวคิดในการออกแบบที่เป็นมิตรสำหรับทุกคน ทั้งการออกแบบสถานที่ การออกแบบของใช้ต่าง ๆ  เพื่อให้ตอบโจทย์ในการใช้งานของคนทุกรูปแบบ โดยไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ คนปกติและเด็กเล็ก

เมื่อนักออกแบบนำแนวคิด  Universal Design มาเป็นหลักในการออกแบบ ก็จะส่งผลให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ได้อย่างกว้างขวาง ไม่มีข้อจำกัดในการใช้งาน การใช้ชีวิตร่วมกันของคนทุกกลุ่มนั้น ก็จะมีความเสมอภาคหรือเท่าเทียมกัน โดยไม่มีข้อจำกัดเกิดขึ้น

"แนวคิดของ Universal Design คือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็นการคิดแบบเห็นอกเห็นใจ ผมว่าโลกปัจจุบันเราก็ต้องการแค่นี้แหละ" – ซาโตชิ คานากาว่า –


UNIVERSAL DESIGN กับการออกแบบห้องน้ำสำหรับทุกคนในครอบครัว

การนำแนวคิด Universal Design มาร่วมในการออกแบบห้องน้ำนั้น นอกจากจะเพิ่มอัตถประโยชน์ให้กับสมาชิกในครอบครัวในปัจจุบันได้อย่างมากแล้ว การออกแบบด้วยแนวคิดนี้ ยังคงคิดเผื่อไปยังครอบครัวที่จะมีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรองรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว หรือการออกแบบเผื่อไปยังสมาชิกในครอบครัวที่กำลังเข้าสู่ช่วงอายุที่สูงขึ้น





และนี่คือตัวอย่างของประโยชน์ที่ครอบครัวจะได้รับ จากการออกแบบห้องน้ำด้วยแนวคิด Universal Design

-เพิ่มความปลอดภัยในบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ

-มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้โดยง่าย

-นอกจากใช้งานได้ง่ายแล้ว ยังมีทัศนียภาพที่สวยงามอีกด้วย

-เพราะการออกแบบห้องน้ำนั้น ไม่ได้คำนึงถึงเพียงความสวยงามเท่านั้น แต่ยังใส่ใจถึงการใช้งานจริงของสมาชิกทุกคนในครอบครัวอีกด้วย

ปัจจัยต่าง ๆ ที่ควรพิจารณาเมื่อจะเริ่มต้นสร้างหรือรีโนเวทห้องน้ำ

เมื่อถึงเวลาที่จะทำการรีโนเวทห้องน้ำ หรือต้องการที่จะปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นในการใช้งาน นี่คือตัวอย่างการออกแบบห้องน้ำ ด้วยหลัก Universal Design ที่ผู้ใช้งานทุกคนสามารถใช้ได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัย

ประตู
-ประตูห้องน้ำทั่วไปจะมีความกว้างประมาณ 76 – 82 เซนติเมตร ซึ่งแคบไปสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ แนะนำให้ขยายขนาดของประตูเป็น 91 เซนติเมตร เช่นเดียวกับการออกแบบประตูให้เปิดออกจากตัว แทนที่จะเปิดเข้าหาตัว จะช่วยให้ผู้ใช้วีลแชร์เข็นรถเข้า – ออกห้องน้ำได้สะดวกขึ้น และเปลี่ยนลูกบิดประตูจากแบบหมุน เป็นแบบก้านโยก จะช่วยให้ผู้สูงอายุที่อาจมีปัญหากล้ามเนื้อมืออ่อนแรง เปิดประตูห้องน้ำได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

ธรณีประตู
-ทางเข้าห้องน้ำไม่ควรมีธรณีประตูกั้น เพื่อให้ผู้ที่ใช้วีลแชร์สามารถเข็นรถเข้าไปได้ และป้องกันปัญหาการสะดุดล้มอีกด้วย และยังรวมไปถึงการใช้งานห้องน้ำของเด็กเล็ก ที่อาจจะไม่มีความระมัดระวังในการก้าวข้ามธรณีประตูมากเพียงพอ

ผนัง
-ผนังและบริเวณประตูควรมีสีที่แตกต่างจากพื้นอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาทางการมองเห็น สามารถกะระยะของห้องน้ำได้อย่างถูกต้อง

พื้นที่ในห้องน้ำ
-ห้องน้ำควรมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 152 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้ใช้วีลแชร์สามารถกลับรถเข็นได้ หรือในบ้านที่มีเด็กทารก อาจจะต้องการพื้นที่เพิ่มเติมในการดูแล เพราะอุปกรณ์ของเด็กบางอย่างนั้นไม่สามารถใช้ร่วมกันกับผู้ใหญ่ได้

พื้นห้องน้ำ
-พื้นห้องน้ำต้องป้องกันการลื่นล้มได้ ควรเลือกใช้กระเบื้องที่ผิวด้าน และเป็นแผ่นเล็ก ๆ มาต่อกัน เพราะกาวยาแนวที่มาเชื่อมกระเบื้องให้ติดกันจะช่วยป้องกันการลื่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ควรปูกระเบื้องให้เรียบเสมอกัน เพื่อป้องกันปัญหาการสะดุดล้ม และไม่ควรวางของไว้ที่พื้นห้องน้ำ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้

แสงสว่าง
-คนอายุเกิน 60 ต้องการแสงสว่างมากกว่าคนอายุ 20 ถึง 3 เท่า ด้วยเหตุนี้ จึงควรติดตั้งไฟให้ส่องสว่างได้ทั่วทั้งห้อง ไม่ให้มีมุมมืดอยู่ เพื่อป้องกันปัญหาการสะดุดล้ม หรือการเดินไปเตะขอบผนัง

ชั้นวางของ
-ไม่ควรใช้ชั้นวางของแบบติดผนังใกล้กับฝักบัว เพราะอาจเกิดปัญหาคนเดินชนและบาดเจ็บได้ ควรเปลี่ยนเป็นชั้นวางของแบบเจาะผนังจะดีกว่า และถ้าบ้านไหนมีเด็กทารกจะพบว่าอุปกรณ์สำหรับเด็กนั้น ค่อนข้างใช้พื้นที่ในการจัดเก็บ มีจำนวนชิ้นที่มาก และยังต้องการความสะดวกในการหยิบมาใช้งานอีกด้วย

ตะขอแขวนผ้าเช็ดตัว
-กรณีที่พื้นที่ขอห้องน้ำจำกัด ควรเปลี่ยนมาใช้ตะขอติดผนังเพื่อแขวนผ้าเช็ดตัวแทนการใช้ราว เพราะใช้เนื้อที่น้อยกว่า และควรติดตั้งตะขอแขวนผ้าเช็ดตัวที่ความสูง 120 เซนติเมตร เพื่อให้เด็ก ผู้ใช้วีลแชร์ หรือผู้มีปัญหาที่หัวไหล่สามารถใช้งานได้สะดวก

อ่างล้างมือ
-ควรใช้อ่างล้างมือแบบติดผนัง เพื่อให้ใต้อ่างล้างมือมีพื้นที่ว่างให้ผู้ใช้วีลแชร์สามารถสอดขาเข้าไปได้ และใช้หัวก๊อกน้ำแบบก้านโยกแทนแบบหมุน จะช่วยให้ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อมืออ่อนแรงใช้งานได้สะดวกขึ้น

-ในปัจจุบันนั้นมีการใช้เทคโนโลยีในการออกแบบ ก๊อกน้ำอัตโนมัติ หรือ ปากก๊อกน้ำที่สามารถ เปิด-ปิดน้ำด้วยระบบเซ็นเซอร์ สามารถอำนวยความสะดวกแก่เด็กและผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี

โถสุขภัณฑ์
-โถสุขภัณฑ์ทั่วไปจะมีความสูงอยู่ที่ 35 – 38 เซนติเมตร ซึ่งมีระดับต่ำกว่าเก้าอี้ทั่วไป ลองเปลี่ยนมาใช้โถสุขภัณฑ์ที่มีความสูง 43 – 48 เซนติเมตร (รวมฝารองนั่ง)  ซึ่งเป็นความสูงเดียวกับเก้าอี้ จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องก้มหลังและงอเข่ามากนัก และช่วยให้ผู้ใช้วีลแชร์สามารถย้ายตัวเองจากรถเข็นไปนั่งบนโถสุขภัณฑ์ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

และถ้าเป็นไปได้ควรเลือกใช้ โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ ช่วยอำนวยความสะดวกและความสะอาด แถมยังลดพื้นที่ในการติดตั้งและใช้งานสายชำระได้อีกด้วย

ฝักบัว
-หลาย ๆ บ้านใช้ฝักบัวแบบติดผนัง แบบที่เราคุ้นเคยกันตามโรงแรม ถึงอย่างนั้นควรมีฝักบัวแบบสายอ่อน ที่ผู้ใช้สามารถถือไว้ในมือเอาไว้ด้วย เพื่อใช้อาบน้ำเด็กเล็ก หรือ สัตว์เลี้ยง หรือ ใช้เพื่อชำระล้างเฉพาะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ง่ายขึ้น

-ปัจจุบันทางแบรนด์ KUDOS  ได้จำหน่าย ฝักบัวกรองคลอรีน นอกจากจะประหยัดน้ำกว่าฝักบัวทั่วไปแล้ว ยังสามารถทำความสะอาดผิวได้ดีกว่าฝักบัวทั่วไปอีกด้วย

ที่นั่งสำหรับอาบน้ำ
-ควรติดตั้งที่นั่งสำหรับอาบน้ำที่มั่นคง แข็งแรง เช่น การทำที่นั่งอาบน้ำแบบติดผนัง หรือใช้เก้าอี้ที่แข็งแรงไม่โยกและไม่เคลื่อนที่ไปมาบนพื้นเปียก เพื่อให้ผู้ใช้วีลแชร์ หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องการยืน ได้อาบน้ำอย่างสะดวก

ราวจับ
-บริเวณฝักบัว ซึ่งเป็นพื้นที่เปียกของห้องน้ำ มักก่อให้เกิดปัญหาการลื่นล้ม ควรติดตั้งราวจับข้างฝักบัว เพื่อช่วยในการทรงตัว โดยที่ราวจับต้องไม่ได้ติดเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ต้องติดตั้งกับผนังอย่างมั่นคง



ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของการใช้หลัก Universal Design มาใช้ในการออกแบบห้องน้ำ เพื่อให้ห้องน้ำเป็นพื้นที่ให้สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก สบาย ปลอดภัย ได้เหมือนกันทุกคน

KUDOS (คูโดส) แบรนด์นวัตกรรมอุปกรณ์ในห้องน้ำคุณภาพสูง ให้ความสำคัญในคุณภาพสินค้าและฟังก์ชั่นการใช้งาน ควบคู่ไปกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์

Website : https://kudos.co.th/universal-design-bathroom-for-all/
#38
กระเบื้องยางลายไม้กับพื้นสำนักงาน ทนแรงกระแทกและรอยขีดข่วน กันน้ำได้100% รวมกระเบื้องยางลายไม้มากกว่า 100 รูปแบบ


5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนการตัดสินใจเลือก พื้นไม้ลามิเนตและกระเบื้องยางลายไม้

1. รู้จักวัสดุพื้นไม้ลามิเนต และกระเบื้องยาง ข้อดี-ข้อเสีย  

 2.ทราบข้อแนะนำและวิธีการติดตั้งพื้นแต่ละชนิด

 3.สร้างไอเดียในการออกแบบพื้นที่เป็นตัวคุณ

 4.คัดเลือกผู้ผลิตพื้นและทีมติดตั้งที่มีคุณภาพ

 5.สรุปชนิดพื้นและเลือกรูปแบบลายไม้



เปรียบเทียบ 5 วัสดุพื้นไม้,พื้นไม้แบบไหนโดนใจคุณ 

 -พื้นไม้เป็นที่นิยมใช้เพราะ มีความสวยงาม ติดตั้งได้รวดเร็ว ปัจจุบันปรับราคาลงมาใกล้เคียงพื้นกระเบื้อง ส่งผลให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เมื่อรู้จักพื้นไม้แต่ละชนิดแล้ว เรามาดูข้อมูลเปรียบเทียบวัสดุพื้นไม้แต่ละชนิด

- พื้นไม้ลามิเนต กระเบื้องยางลายไม้ปูกาว กระเบื้องยางลายไม้คลิกล็อคLVT กระเบื้องยางลายไม้คลิกล็อคSPC และพื้นไม้เอ็นจิเนียร์  


เปรียบเทียบข้อดี 5 วัสดุพื้นไม้ยอดนิยม (ดูทั้งหมด)


เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย กระเบื้องยางลายไม้กับพื้นไม้ลามิเนต

-กระเบื้องยางลายไม้ และพื้นไม้ลามิเนต มีรูปแบบและลวดลายที่เหมือนกัน อะไรคือความแตกต่าง ที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกระหว่าง พื้นกระเบื้องยางลายไม้กับพื้นไม้ลามิเนต 


เปรียบเทียบข้อดีพื้นกระเบื้องยางลายไม้กับพื้นไม้ลามิเนต(ดูทั้งหมด)


เปรียบเทียบข้อดี กระเบื้องยางลายไม้คลิกล็อคSPCกับกระเบื้องยางลายไม้คลิกล็อคLVT

-กระเบื้องยางลายไม้ระบบคลิกล็อคSPC และกระเบื้องยางลายไม้ระบบคลิกล็อคLVT เป็นพื้นกระเบื้องยางลายไม้ระบบคลิกล็อคเหมือนกัน อะไรคือความแตกต่างของกระเบื้องยางลายไม้ทั้ง2ชนิด


เปรียบเทียบกระเบื้องยางลายไม้SPCกับLVT (ดูทั้งหมด)

วิธีการปูกระเบื้องยาง การเตรียมพื้นก่อนปู (ดูทั้งหมด)



4 ชนิดกระเบื้องยางลายไม้ยอดนิยม (ราคาโปรโมชั่น รวมติดตั้ง)









#39
รับสร้างบ้านขอนแก่น บ้านเดี่ยว มินิมอลราคาเพียง 1 ล้านบาท




ต้อนรับปีใหม่ 2565 ด้วยแบบบ้านใหม่ แบบบ้านน่ารัก สไตล์คาเฟ่ ด้วยราคาที่พิเศษสุดๆ

 เคเคซี  KKC Property #รับสร้างบ้านขอนแก่น

*** บ้านเดี่ยวชั้นเดียว มินิมอล มูจิ ขนาดกำลังดี ด้วยฟังก์ชั่น ครบครัน ***
- 2 ห้องนอน
- 2 ห้องน้ำ
- 1 ห้องครัว
- 1 ห้องรับแขก
- 1 ที่จอดรถ

ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.1 ล้าน (ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,xxx/เดือน)

-สามารถปรับเปลี่ยนแปลนบ้านได้ตามความต้องการ

-เครดิตดี ยื่นกู้ / มีเงินทอน

*** ยินดีให้คำปรึกษาการดำเนินการสินเชื่อ ฟรี!!! ***

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
-ฟรี ออกแบบใหม่ทุกหลัง  
-ฟรี ออกแบบเขียนแบบฟรี
-ฟรี ดำเนินการยื่นขออนุญาตปลูกสร้าง
-ฟรี ดำเนินการยื่นแบงค์ได้เต็ม 100%
-ฟรี ดำเนินการขอมิเตอร์ไฟฟ้า - ประปา
-ฟรี ดำเนินการขอเลขที่บ้าน
------------------------------------------

*** ปรึกษาฟรี ***

-ติ๊ก 063-264-2565

-เปรียว 092-951-9956

Line : https://line.me/R/ti/p/%40384mfmar

Fanpage : บริษัทรับสร้างบ้านขอนแก่น อีสาน KKC Property



 
#40
ชีวิตดี คอมมูนิตี้มากมาย ที่ทองหล่อ


"ทองหล่อ"เป็นย่านที่มีความพิเศษและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นศูนย์รวมของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ครบเครื่อง เป็นย่านที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน แฮงค์เอาท์ ทำกิจกรรมคอมมูนิตี้ดื่มด่ำกับบรรยากาศทั้งตอนกลางวันและกลางคืน

ความบันเทิงครบรส


ย่านทองหล่อ เป็นย่านที่เต็มไปด้วย ร้านอาหารมากมายหลายสไตล์ เช่น ไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เเละอาหารฟิวชั่นอีกมากมาย ที่มีตั้งแต่ระดับธรรมดาจนถึง Fine Dining คาเฟ่ต่าง ๆ ห้างสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Donki Mall ทองหล่อ และพื้นที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยบรรกาศดี ๆ ในตอนกลางวัน และหากเป็นตอนกลางคืนบรรกาศก็จะต่างออกไปตามคอนเซปของแต่ละร้าน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง หรือ แนวดนตรี สถานบันเทิงต่าง ๆ ก็ครบเครื่อง ไม่แพ้ที่อื่นเลย

ศูนย์กลางคอมมูนิตี้


ทองหล่อ มีห้างสรรพสินค้าอย่าง "J Avenue" ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งแบบครบวงจร หรือจะเป็น "มาร์เก็ตเพลส" ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าซอยทองหล่อ 4 และยังมี "The Commons ทองหล่อ" คอมมูนิตี้มอลขนาดใหญ่มีโซน play yard ที่มีกิจกรรมและ Workshop ให้ทำมากมาย เช่น กิจกรรมสันทนาการด้านดนตรีและศิลปะสำหรับเด็กหรือจะเป็นโซนสุขภาพ ที่มีโยคะและพิลาทิส และด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ทองหล่อ เป็นย่านไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัวยุคใหม่อย่างแท้จริง

การเดินทางแสนสะดวก



"ทองหล่อ" สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ รถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย เพราะซอยทองหล่อสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสุขุมวิทเพื่อเข้าสู่โซนสยาม เเละถนนเพชรบุรี ที่สามารถเดินทางเชื่อมไปยังพญาไท เเละพัฒนาการได้ นอกจากนี้ซอยทองหล่อยังมีจุดลัดเลาะที่เดินถึงกันได้

มีโรงพยาบาลหลายแห่ง



ย่านทองหล่อนอกจากจะมีแต่แหล่งท่องเที่ยว และร้านอาหาร หนึ่งปัจจัยที่ทำให้หลายคนอยากมาอยู่ก็คือ มีโรงพยาบาลรายล้อม ไม่ว่าจะเป็น รพ.กรุงเทพ , รพ.สมิติเวช ,รพ.บำรุงราษฎร์นั่นทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านนี้หายห่วงเรื่องคุณภาพชีวิตและความปลอดภัย เจ็บป่วยไม่ต้องห่วง

เป็นย่านที่น่าอยู่อาศัย



ด้วยทำเล ของย่านทองหล่อ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ที่หลายคนอยากเข้ามาอยู่อาศัย ทำให้มีนักลงทุนต้องการเข้ามาลงทุนอสังหาฯ ปล่อยเช่าคอนโด ขายคอนโด ที่พักต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาเช่า ซื้อคอนโด ทำให้คอนโดบางแห่งก็มีราคาสูงมาก ๆ แต่นั่นก็เป็นคอนโดระดับ High-End ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็มีคอนโดใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยหลาย ๆ รูปแบบ หลายราคาให้เลือก

5 คอนโดน่าสนใจย่านทองหล่อ

1.เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ [The Strand Thonglor]

2.ลาวีค สุขุมวิท 57 [LAVIQ Sukhumvit 57]

3.ดิ เอส สุขุมวิท 36 [The Esse Sukhumvit 36]

4.โนเบิล รีมิกซ์ [Noble Remix]

5.คีนน์ บาย แสนสิริ [Keyne By Sansiri]

ทองหล่อ หนึ่งในย่านที่หน้าสนใจมาก ๆ ใจกลางกรุงเทพ ที่เหมาะกับคนหลากหลายไลฟ์สไตล์ เป็นศูนย์กลางของคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ ที่พักและแหล่งบันเทิงใจมากมาย มีห้างสรรพสินที่ครบครัน การเดินก็แสนจะสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า หากคุณได้เข้ามาใช้ชีวิตในย่านทองหล่อนี้ รับรองได้เลยค่ะว่า ชีวิตในทุกวันของคุณจะมีแต่ความสุขและความบันเทิง ที่คุณจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแสง สี เสียงเพลงที่น่าหลังไหล ในย่านทองหล่อนี้ค่ะ


Propsoคือ เป็นเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อที่ช่วยให้ ซื้อ-ขาย-เช่า ที่ดิน บ้าน คอนโดได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยมีทีมงานมืออาชีพ ปลอดภัย มีมาตรฐาน

จุดเด่นของ Propso

•สามารถฝากขายคอนโด ฝากขายบ้านหรือฝากขายในรูปแบบอื่นๆ ได้ทั้งหมด

•Call Center TH/ENG บริการตลอด 24 ชม.

หาคอนโดที่ต้องการได้ด้วย Location Base




สนใจฝากขายคอนโดลองมาคุยกันคะ

sitemap : ฝากขายคอนโด , ฝากขายที่ดิน , ฝากขายบ้าน



 
#41
พระราม 9 ทำเลทองใจกลางเมือง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์


เมื่อพูดถึงย่าน 'พระราม 9' หลายคนอาจจะนึกถึงบริเวณหัวมุมถนนพระราม 9 ที่เคยเป็นศูนย์กลางของย่านพระราม 9 ในอดีต ซึ่งเป็นบริเวณที่มีทั้งคาเฟ่และร้านอาหารชื่อดัง อาคารสำนักงานหลายแห่งที่ตั้งอยู่จุดตัดระหว่างถนนรัชดาภิเษก กับถนนอโศก-ดินแดง คอนโดมิเนียมและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้พระราม 9 เป็นทำเลที่น่าจับตามองของนักลงทุน นักธุรกิจ รวมถึงคนที่ต้องการจะเข้ามาสร้างครอบครัวและใช้ชีวิตในย่านที่มีความเจริญอย่างพระราม 9

ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่


พื้นที่ย่านพระราม 9 ถูกออกแบบโครงสร้างมาอย่างสมบูรณ์แบบเหมาะแก่การขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น ทำให้มีนักธุรกิจและนักลงทุนเลือกพื้นที่บริเวณในการก่อตั้งสถานประกอบการ นอกจากนี้พระราม 9 ยังมีถนนที่เชื่อมยาวไปจนถึงรัชดาภิเษก ทำให้กลายเป็นพื้นที่ ที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย  ทำให้พื้นที่พระราม 9 กลายเป็น New CBD หรือ  ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่

แหล่งช้อปปิ้งมากมาย


ย่านพระราม 9 นั้นเต็มไปแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำมากมาย เช่น Central Plaza Grand Rama 9 EsplanadeThe Street Ratchadaและแหล่งรวมสินค้าไอทีที่ใหญ่ที่สุดอย่างฟอร์จูน นอกจากนี้ยังมีห้างและร้านอาหารอื่น ๆ นั่นก็ทำให้พื้นที่ย่านพระราม 9 เป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวกันมากมาย

พักอาศัยและคอนโด


การที่พื้นที่ย่านพระราม 9 เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง สถานประกอบการ รวมไปถึงสถานศึกษาต่าง ๆ และความเจริญนี้ทำให้มีนักลงทุนมากมายเข้ามาลงทุนอสังหาฯ ในพื้นบริเวณนี้ ที่พักและคอนโดย่านพระราม 9 จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกรวดเร็ว การขายคอนโดย่านพระราม 9ก็มีตั้งแต่ระดับกลางจนไปถึงระดับไฮเอนด์ ทั้งนี้พื้นที่ฝั่งอโศก ยังเป็นจุดที่ตลาดขายคอนโดขยายตัวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับทั้งฝั่งพระราม 9 และอโศก ทำให้ได้รับความต้องการจากคนทั้ง 2 ฝั่ง

การเดินทางสัญจร


ในยุคที่ผู้คนต้องการความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยและเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ พื้นที่บริเวณพระราม 9 นั้นเป็นสิ่งตอบโจทย์ผู้คนยุคนี้ได้ หากคุณอาศัยอยู่ในที่พักหรือคอนโดใกล้สถานีรถไฟ MRT พระราม 9 จะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยสบายใจได้เรื่องการเดินทางไม่ว่าจะไปทำงานก็ไม่ต้องกลัวสาย จะไปช้อปปิ้งก็สะดวก หรือเดินทางไปย่านอื่น ๆ ก็สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้าเช่นกัน และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้ม ตลิ่งชัน – มีนบุรี ที่จะตัดกันที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เหมาะอย่างมากสำหรับการหลบเลี่ยงปัญหาการจราจรในวันทำงานเป็นอย่างดี

ใกล้โรงพยาบาล


แน่นอนว่าการที่พื้นที่ย่านพระราม 9 ได้รับความนิยมนั้น ไม่ได้มีดีแค่แหล่งช้อปปิ้งหลากหลายหรือที่พักและคอนโดใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 อีกหนึ่งปัจจัยด้านความปลอดภัยก็คือ การอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ใกล้โรงพยาบาลนั่นเอง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ เราก็สามารถเดินไปโรงพยาบาลได้ทันที เพราะบริเวณนี้จะมีโรงพยาบาลพระรามเก้าและโรงพยาบาลปิยะเวท โดยหากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจาก สถานีรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 จะใช้เวลาเดินทาง 10-15 นาทีโดยประมาณ


ด้วยพื้นที่ย่านพระราม 9 นั้นเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และความเจริญทางธุรกิจเหมาะกับการลงทุนและการใช้ชีวิต สิ่งสำคัญอีกอย่างที่คุณต้องคำนึงถึงคือ การมีที่อยู่อาศัยหรือคอนโดที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 ก็จะทำให้ชีวิตและการเดินทางของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ของผู้คนในยุคปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตแข่งกับเวลานั่นเอง

Credit : https://www.propso.com/news/พระราม_9_ทำเลทองใจกลางเมือง_ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

Propsoคือ เป็นเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อที่ช่วยให้ ซื้อ-ขาย-เช่า ที่ดิน บ้าน คอนโดได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยมีทีมงานมืออาชีพ ปลอดภัย มีมาตรฐาน

จุดเด่นของ Propso

•สามารถฝากขายคอนโด ฝากขายบ้านหรือฝากขายในรูปแบบอื่นๆ ได้ทั้งหมด

•Call Center TH/ENG บริการตลอด 24 ชม.

หาคอนโดที่ต้องการได้ด้วย Location Base




สนใจฝากขายคอนโดลองมาคุยกันคะ

sitemap : ฝากขายคอนโด  ฝากขายที่ดิน  ฝากขายบ้าน




 
#42
ซิเดกร้า สุดยอดไวอากร้าสัญชาติไทย
 
 
ประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปี คนวัยนี้ฮอร์โมนทางเพศจะต่ำลง แถมยังมีโรคอื่นเข้ามาแทรกซ้อนอีกหลายโรค ส่งผลให้เกิดปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศตามมา
 
ปัญหาเซ็กซ์เสื่อม ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อชีวิตคู่ ไวอากร้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศมีราคาค่อนข้างสูง อภ.ผลิตยาซิเดกร้า หรือยาแก้ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ออกมาจำหน่ายมานานกว่า 3 ปีแล้ว

สามารถช่วยลดปัญหาการแพร่ระบาดของยาปลอม ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาใช้ยาซิเดกร้าแทน กรซิเดกร้า มีตัวยาสำคัญคือ ยาซิเดนาฟิล ช่วยกระตุ้นการขยายหลอดเลือดอันส่งผลต่อการแข็งตัว 



ซิเดกร้าทำการออกฤทธิ์ปรับเปลี่ยนการตอบสนองของร่างกายในการกระตุ้นทางเพศ  เพิ่มไนตริกออกไซด์ ซึ่งเป็นสารเคมีที่หลั่งออกมาตามปกติในระหว่างการกระตุ้นทางเพศ ทำให้กล้ามเนื้อในองคชาตคลายตัว

ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในบริเวณองคชาตดีขึ้น  ส่วนผลข้างเคียงของยานั้น อาจทำให้ผู้ใช้บางคน รู้สึกตัวร้อนและหัวใจเต้นเร็ว ปวดหัวหรือสายตามัว ซึ่งอาการดังกล่าวจะหายไปในระยะ 3-6 ชั่วโมง
 
สำหรับท่านใดที่สนใจในสรรพคุณของ ซิเดกร้า แม้ว่า ซิเดกร้าจะปลอดภัยแน่นอน แต่ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวหากท่านรับประทานยาตัวอื่นร่วมด้วย


Website : https://sidegra-viagrathai.com/


 
#43
อ่างอาบน้ำขนาดเล็ก ในปัจจุบัน พื้นที่อาศัยภายในเมืองมักมีพื้นที่ภายในห้องน้ำจำกัด


คริสตินาเล็งเห็นความสำคัญของการแช่อ่างอาบน้ำที่ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ซึ่งเป็นวิธีที่หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ)

เราจึงออกแบบอ่างอาบน้ำขนาดเล็ก ให้สามารถติดตั้งได้แม้ในพื้นที่ๆจำกัด ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ อ่างอาบน้ำธรรมดา(ไม่มีระบบ) และ อ่างอาบน้ำวน ที่ทางคริสตินา ขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพ และ บริการที่ครบวงจร







อ่างอาบน้ำขนาดเล็ก ซึ่งตอบโจทย์ในเรื่อง การสร้างความผ่อนคลายจากความเมื่อยล้า ทางร่างกายและจิตใจ ด้วยการแช่น้ำอุ่นๆในอ่างอาบน้ำ อีกทั้ง เรายังออกแบบให้ภายในอ่างอาบน้ำตอบรับกับสรีระทำให้นอนแล้วรู้สึกสบาย รวมถึงดีไซน์ที่สวยงามช่วยให้ห้องน้ำดูมีระดับขึ้น

Website : https://www.cristina.co.th/collection/small-size-bathtubs



 
#44
กรอบเเม่เหล็ก,ซองใส่การ์ด,Toploader Magnetic,ขาตั้งการ์ด,อุปกรณ์ปกป้องการ์ดเกมส์



*** นักสะสม ***

-อุปกรณ์มีหลายเกรดหลายราคาให้เลือก
-ราคาเหมาะสมตามคุณภาพ
-สอบถามการ์ใช้งานอุปกรณ์ ฟรี !!


*** Breaker ***

-มีราคาส่งให้ครับ
-ลดต้นทุนในการเบรค


#45
ใครกำลังหาข้อมูล "เรียนต่อต่างประเทศ" เชิญทางนี้จ้า


เราได้รวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับคนที่สนใจเรียนต่อในต่างประเทศโดยเฉพาะและยังมีสาระน่ารู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างประเทศเยอะแยะมากมาย


ทั้งข้อมูลเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศ เรื่องทุนการศึกษา ทุนเรียนต่อต่างประเทศ การเตรียมตัว และเรื่องราวประสบการณ์ของนักเรียนไทยในต่างแดน


รวมให้น้องๆได้อ่านและเตรียมไปเรียนต่อต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ เว็บไซต์ Owl Campus คลังความรู้คุณภาพด้านการศึกษาในประเทศไทย

Website : https://owlcampus.com/study-abroad/