• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Joe524

#2701
ข้าวออร์แกนิกปลอดสารแท้ 100% ข้าวปลอดสารพิษ  ข้าวสุขภาพส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  กลุ่มข้าวมะลินิลอินทรีย์ คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ปลูกข้าวหอมมะลิออแกนิคข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิสุขภาพ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิคเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิค เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคสำหรับทารก แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--12cbh7f2bxa6ba6b0a4lsdyb.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิก
3.  ข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์
4.  ข้าวอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์จังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิก6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์7. ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 

 

 

 

 
 
#2702


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังโปรตุกีส ยอมหั่นค่าจ้างปีละ 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 270 ล้านบาท) เพื่อย้ายจาก ยูเวนตุส กลับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จอร์จ เมนเดน เอเยนต์ส่วนตัว เรียกร้องค่าเหนื่อยของ โรนัลโด้ 20 ล้านปอนด์ (900 ล้านบาท) ต่อปี ตกสัปดาห์ละ 385,000 ปอนด์ (17 ล้านบาท) เพื่อให้การเจรจาแบบสายฟ้าแล่บเสร็จสิ้นก่อนปิดตลาด วันที่ 31 สิงหาคม เปรียบเทียบกับค่าแรง ที่อิตาลี สัปดาห์ละ 500,000 ปอนด์ (22.5 ล้านบาท) รวมปีละ 26 ล้านปอนด์ (1,170 ล้านบาท)

ด้วยมูลค่าดังกล่าว ยังเพียงพอผลักดันให้ เจ้าของรางวัล "บัลลง ดอร์" 5 สมัย กลายเป็นผู้เล่นค่าจ้างแพงสุดของสโมสร แทน ดาบิด เด เคอา นายทวารชาวสเปน ซึ่งรับอยู่ 375,000 ปอนด์ (ประมาณ 16.9 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์

แหล่งข่าววงใน เผยว่า "เขาได้รับค่าเหนื่อยน้อยกว่า ที่ยูเวนตุส เมนเดส ติดต่อสโมสรชอง พรีเมียร์ ลีก หลายแห่ง เกี่ยวกับการย้ายทีมและเงื่อนไขของ โรนัลโด้ ชั่วขณะหนึ่งเกิดความเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี จะเป็นตัวเต็ง"

ทว่า ทันทีที่ ยูไนเต็ด รับทราบว่า ปีกจอมถล่มประตูวัย 36 ปี จะแยกทาง "เบียงโคเนรี" จริงจัง ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ (900 ล้านบาท) จึงดำเนินการซื้อ-ขายอย่างรวดเร็ว

"ปิศาจแดง" ยังคงรอเปิดตัว กัปตันทีมชาติโปรตุเกส อย่างเป็นทางการ ถึงแม้ประกาศบรรลุข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว วันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ส.ค.)

คาดว่า โรนัลโด้ จะรับการตรวจร่างกาย ที่เมืองลิสบอน และลงเล่นเกมแรก พบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด วันที่ 11 กันยายน ขณะที่นักเตะสำรองอย่าง แดเนียล เจมส์ อาจถูกปล่อยยืมตัว
#2703
 
 ข้าวกล้องอินทรีย์สำหรับคุณแม่ตั้งท้อง 

 ข้าวอินทรีย์สำหรับแม่ตั้งท้อง
กลุ่มข้าวอินทรีย์สุรินทร์ ส่งออกข้าวอินทรีย์  การผลิตข้าวอินทรีย์ต้นทุนต่ำ  โครงการข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค (ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์)
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ  ข้าวจังหวัดสุรินทร์ " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ข้าวมะลินิลปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.   ปลูกข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ปลูกข้าวหอมมะลิออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5. ข้าวปะกาอำปึลเพื่อสุขภาพ  , ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6. ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคคือ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.  ข้าวผกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.  ข้าวหอมมะลิแดงเพื่อสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9. ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเพื่อสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวหอมมะลิอินทรีย์
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์
3.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิค  ข้าวผกาอำปึล(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารพิษ จ.สุรินทร์
5. กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์ 6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลสุขภาพ
7.  ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ ข้าวไรซ์เบอร์รี่organic

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 
 
#2704


นางสาวรัดดาวรรณ สุวรรณขัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอริส แล็บ จำกัด เปิดเผยว่า  ตามที่ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และตัวเลขผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น สร้างความลำบากในการทำมาหากินหนึ่งในนั้น มีร้านค้าที่ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ และส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนธุรกิจต้องมีการปรับตัวเข้าสู่การขายสินค้าผ่านออนไลน์ ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคยุค  new normal โดยเฉพาะการขายสินค้าในรูปแบบของ Live-Commerce ส่งผลให้มีร้านค้ามาใช้ Live Commerce Platform ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างรายได้กันจำนวนมาก 

บริษัท เอริส แล็บ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์การถ่ายทอดสด หรือ Live Streaming e-Commerce รายเดียวในประเทศไทย ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการไลฟ์สดขายของผ่านเฟซบุ๊กโดย "ไม่ถูกปิดกั้นการมองเห็น" ซึ่งเป็นบริษัทเดียวในไทย ที่จัดทำ Facebook Acceletor เพื่อช่วยเหลือ กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ผ่านการขายสิ้นค้าได้ทุกประเภทบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยอาศัยแอพพลิเคชัน "Aris live" เป็นตัวเชื่อมเปิดการมองเห็นให้กับ เพจร้าน หรือ Facebook ส่วนตัว สามารถแอดไลน์ @arislab เข้าไปแจ้งชื่อ-นามสกุล สินค้า หรือ แจ้งชื่อร้านค้า กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับสิทธิ์ใช้บริการฟรีนาน 1 เดือน



นางสาวรัดดาวรรณ กล่าวด้วยว่า บริษัท เอริส แล็บ ได้พัฒนาโซลูชั่นขายสินค้าออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม Live Commerce ที่นอกจากจะเชื่อมโยง E-commerce และ Streaming Platform เข้าไว้ด้วยกันแล้ว ยังมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยบริหารจัดการระบบหลังบ้านได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนสามารถปิดการขายด้วยระบบ Chatbot ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหา ให้กับผู้ค้าออนไลน์ได้อย่างตรงจุด ส่งผลให้ที่ผ่านมา ArisLab กลายเป็น Live Commerce Platform รายเดียวของไทย ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถสื่อสารกันได้แบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางโซเชี่ยล คอมเมิร์ซ อย่าง Facebook และยังสามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 30%

ดังนั้นการเปิด แอพพลิเคชัน Aris Live ให้ประชาชนทุกคนได้เข้าใช้บริการฟรีนาน 1 เดือน จะช่วยให้ทุกคนสามารถมีรายได้เพิ่มเติมและผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง.
#2705


นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิตยังคงมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ ภายใต้นโยบาย "MTL Trusted Lifetime Partner" และด้วยสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ พร้อมดูแลลูกค้าคนสำคัญ เพื่อให้สามารถผ่านสถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน

โดยบริษัทฯ ขอมอบความอุ่นใจสำหรับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต ด้วยความคุ้มครองการรักษาผ่านเครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญา 337 แห่ง รวมถึงหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ที่เครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญา เปิดให้บริการ และโรงพยาบาลสนาม (Field Hospital) ตามเกณฑ์การส่งตัวจากโรงพยาบาลต้นทางและได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยให้คุ้มครองกรณีการเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน (IPD) สำหรับผู้ป่วย COVID-19 ตามผลประโยชน์ความคุ้มครอง ทั้งประกันสุขภาพรายบุคคลและรายกลุ่ม ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

สำหรับผู้ป่วยโรคทั่วไป บริษัทฯ ยังได้จัดเตรียมทีมงาน "MTL Health Buddy" ซึ่งเป็นบริการผู้ช่วยด้านสุขภาพครบวงจร สิทธิพิเศษที่มอบให้เฉพาะลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต ที่พร้อมให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ ค้นหาศูนย์แพทย์เฉพาะทาง ค้นหาแพทย์ที่เหมาะกับโรค ทำการ นัดหมาย ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสิทธิพิเศษแบบเหนือระดับอีกมากมาย เพียงโทรเข้ามาที่ 02-290-2424 จากนั้นแจ้งข้อมูลและความต้องการใช้บริการหรือข้อมูลด้านสุขภาพที่ต้องการแก่ MTL Health Buddy ได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลคู่สัญญาที่มี Hospitel ให้บริการ ได้ที่ www.muangthai.co.th หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญาได้โดยตรง

หมายเหตุ:
- การพิจารณาเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และ Hospitel เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และได้รับการประเมินอาการโดยสถานพยาบาลต้นทางแต่ละแห่ง
- เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
#2706


โพล เอสปาร์กาโร่ นักบิดจอมฝีมือของ เรปโซล ฮอนด้า คัมแบ็กตำแหน่งกริดสตาร์ทแถวหน้าสุดครั้งแรกในรอบปี หลังทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในด่านควอลิฟายของศึก บริติช กรังด์ ปรีซ์ ที่อังกฤษ

ศึกรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนามที่ 12 ของปี รายการ บริติช กรังด์ ปรีซ์ ณ สนาม ซิลเวอร์สโตน อังกฤษ โดยวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา เป็นรอบควอลิฟาย จัดกริดสตาร์ทให้นักแข่งก่อนชิงชนะเลิศวันถัดไป

ปรากฏว่า โพล เอสปาร์กาโร่ จอมบิดวัย 30 ปีของ เรปโซล ฮอนด้า ได้ออกสตาร์ทคันแรกสุดหลังทำความเร็วต่อรอบไว้ที่ 1 นาที 58.889 วินาที ส่งให้เจ้าตัวได้ครอง โพล โพซิชัน ครั้งแรกนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ทำได้คือศึกยูโรเปียน กรังด์ ปรีซ์ ที่สเปน เมื่อปีก่อน

ขณะที่กริดที่ 2 สตาร์ทโดย ฟรานเชสโก้ บานาญ่า นักบิดเลือดอิตาเลียนของทีมดูคาติ ด้านกริดที่ 3 คือ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ มือ 1 แห่ง มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ส่วน มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า ได้กริดที่ 5 มีลุ้นแซงขึ้นโพเดียมในวันชิง

สำหรับรอบชิงชนะเลิศ โมโตจีพี รายการ บริติช กรังด์ ปรีซ์ จะชิงชัยกันในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ แข่งเวลา 19.00น. ของเมืองไทย
#2707
ข้าวกล้องอินทรีย์ตัวช่วยของคุณแม่ตั้งครรภ์ข้าวหอมมะลิแท้สุรินทร์  ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ส่งทั่วไทย การรับประทาน "#ข้าวกล้อง" ( ข้าวหอมมะลิออแกนิค) นอกจาก   ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ จะส่งผลดีโดยตรงต่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วยังส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย ข้าวกล้องออแกนิคถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงานต่อร่างกายในการใช้พลังงานต่อวันของเรา คุณแม่ตั้งครรภ์ยังมีความต้องการสารอาหารจาก  กลุ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์ที่มากกว่าคนปกติ เพราะต้องน้ำสารอาหารที่จำเป็นหลายๆส่วนไปใช้ในการสร้างพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์   ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ถือเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ อีกตัวช่วยหนึ่ง เนื่องจาก ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสี มีจมูกข้าว มีเยื่อหุ้มข้าว มีกาบา ซึ่งมีและสารอาหารต่างๆครบ ทั้งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ซึ่งมีอะไรบ้างมาดูกัน..




1. ปัญหาหลักของคุณแม่ตั้งครรภ์ คือ ภาวะท้องผูก ข้าวกล้องมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้ได้เป็นอย่างดี
ปัญหาต่อมา คุณแม่ตั้งครรภ์ชอบเป็นตะคริว เมื่อคุณแม่รับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2 บรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
2. นอกจากคุณแม่จะทานยาที่คุณหมอให้สริมธาตุเหล็กมา ข้าวกล้องยังมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง จาก  ปลูกข้าวปะกาอำปึลออแกนิค
3. ในข้าวกล้อง   ข้าวกล้องมะลินิลอินทรีย์ มีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผมของลูกและคุณแม่ที่ผมร่วงบ่อย
4. ใน  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์ มีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ ป้องการให้คุณแม่ไม่เป็นโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุมากขึ้นอีกด้วย
5. ในข้าวกล้องมีไขมันที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ในข้าวกล้องเป็นไขมันดีที่ไม่มีคอเลสเตอรอล (Cholesterol)
6. ในข้าวกล้องมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ใน  ขายข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ มีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8. ในข้าวกล้องแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน ส่วนคนที่ผอมก็แข็งแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

เห็นไหมว่าข้าวกล้อง เช่น   ข้าวไรซ์เบอรี่เกษตรอินทรีย์ มีคุณค่าและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคุณแม่และคุณลูกมากแค่ใหน เวลาเลือกซื้อข้าวกล้อง อย่าลืมเลือกซื้อข้าวกล้องอินทรีย์ เพราะทุกกระบวนการผลิตไม่มีการใช้สารเคมีดีต่อสุขภาพคุณแม่และคุณลูกอย่างปลอดภัย

เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิค   ขายข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์  ที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR)   รูปภาพสำหรับข้าวอินทรีย์
ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   หลักปฏิบัติในการผลิตข้าวอินทรีย์   การทำนาข้าวอินทรีย์  
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  กลุ่มข้าวอินทรีย์
Facebook : การปลูกข้าวออร์แกนิค
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวออร์แกนิค  เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1. ขายข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิ
3.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคสำหรับทารก (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิก
6.  กลุ่มข้าวมะลินิลอินทรีย์
7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวกล้องอินทรีย์ตัวช่วยของคุณแม่ตั้งครรภ์ #ข้าวกล้องสำหรับคนท้อง #ข้าวกล้องสำหรับคุณแม่ตั้งครภ์ #คนท้อง #ตั้งครรภ์ #ตั้งท้อง
 
#2708


นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยในงานสัมมนา "กลางวิกฤต COVID โอกาสทางธุรกิจยังมีอยู่ไหม?" จัดโดย ศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันวิทยาการตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทมีการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) มาอย่างต่อเนื่อง และยังมีเป้าหมายขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในอนาคต

โดยช่วงแรกที่เริ่มลงทุนในประเทศกัมพูชา และลาว บริษัทใช้วิธีการจัดตั้งบริษัทย่อยที่ถือหุ้นเอง 100% และใช้วิธีส่งออกสินค้าออกไปจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักผลิตภัณฑ์ของบริษัทก่อน เพื่อให้เกิดการทดลองใช้ และเกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ ก่อนจะเข้าไปจัดตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกน้ำมันให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงยางมะตอยเพื่อจัดทำถนน ฯลฯ

อย่างไรก็ดี ช่วงแรกประมาณ 5-8 ปี พบว่า กำไรสุทธิยังติดลบ ซึ่งบริษัทต้องใช้กลยุทธ์ปรับผลิตภัณฑ์ วิธีการทำงาน และการขยายสาขา กว่าที่จะได้การประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) อีกทั้งพบว่าการเป็นเจ้าของ 100% มีอุปสรรคในการขอใบอนุญาตที่นานกว่าปกติ และนานกว่าการที่ตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ของบริษัทในแต่ละประเทศเข้าไปขอใบอนุญาตเอง

ส่งผลให้การลงทุนในระยะต่อมาในประเทศเมียนมา และเวียดนาม บริษัทจึงปรับจากการจัดตั้งบริษัทเองเป็นการแสวางหาพันธมิตรผ่านการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) กับบริษัทท้องถิ่นที่มีจุดแข็งที่บริษัทไม่มี ซึ่งช่วยให้การขอใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจ การจัดหาแรงงาน และการติดต่อกับหน่วยงานราชการมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือการปรับอัตลักษณ์ของสาขาให้เข้ากับท้องถิ่ง เพื่อสร้างความผูกพันกับคนในพื้นที่ รวมถึงให้คนื้องถิ่นเข้ามาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ให้ตรงกับความต้องการของคนในประเทศนั้นๆ มากขึ้น


ทั้งนี้ ปัจจุบัน OR ให้บริการสถานีน้ำมันในกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งสิ้น 161 แห่ง ร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอน 261 สาขา ร้านค้าสะดวกซื้อ Jiffy 100 สาขา ศูนย์บริการรถยนต์ FIT Auto 5 แห่ง ร้านชานมไข่มุก Pearly Tea 4 สาขา และร้านอาหารข้าวเปียกปูปากเซ 1 แห่ง

'เยียวยาประกันสังคมมาตรา 40' เช็คโอนพร้อมเพย์-ทบทวนสิทธิ์ ยังไม่ได้เงินทำไง?
ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยังตายสูง! พบเสียชีวิต 292 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 17,984 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,535 ราย
เตรียมตัวให้พร้อม "ร้านนวด-เสริมสวย" คลายล็อก 1 ก.ย. นี้
นายปณิธาน ปวโรฬารวิทยา ประธานกรรมการ บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BTNC กล่าวว่า การทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ต้องมี "3 Knows" ได้แก่ 1. Know How ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการของตนเอง 2. Know Who บริษัทต้องรู้ว่าควรเข้าหาใคร ซึ่งผู้ที่ต้องเข้าหาอาจไม่ใช่คนใหญ่คนโตของประเทศเสมอไป เช่น ผู้ที่มีความสามารถด้านภาษา หรืออาชีพที่รู้จักคนกว้างขวางอย่างไกด์ เป็นต้น และ 3. Know GU ต้องรู้ว่าตนเองสามารถทำอะไรได้บ้าง

"และที่สำคัญคือไปไหนต้อง 'เทียวไล้เทียวขื่อ' หรือไปมาหาสู่อย่างสม่ำเสมอ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่คบหากับพันธมิตรอย่างจริงใจ รวมถึงผูกพันช่วยเหลือผ่านการลงนามความร่วมมือ (MOU) โดยตนในฐานะที่ปรึกษาสภาธุรกิจไทย-เมียนมา ได้สนับสนุนการลงนาม MOU มากถึง 14 ความร่วมมือเพื่อทำธุรกิจในประเทศดังกล่าว"

ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น นายปณิธาน กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตดังกล่าว การดำเนินธุรกิจใน CLMV ยังทำต่อเนื่องได้ เพราะคนที่ไม่ป่วยยังทำงานตามปกติ อีกทั้งมีมาตรการ Bubble and Seal เพื่อแยกผู้ติดเชื้อกับคนปกติออกจากกัน แต่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อป้องกัน และเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะสามารถคลี่คลายได้ในระยะข้างหน้า
#2709


สถานการณ์โควิด-19 ยังคงอยู่กับประเทศไทยอีกยาวนาน การดูแลผู้ป่วยเพื่อไม่ให้กลุ่มสีเขียว กลายเป็นสีเหลืองและแดงคือการได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทว่าในสถานการณ์ที่ผู้ป่วยมีจำนวนมาก โรงพยาบาลในการรองรับการรักษารวมถึงบุคลากรทางการแพทย์มีไม่เพียงพอ ทำให้ต้องมีการสร้างโรงพยาบาลสนามกระจายไปยังสถานที่ต่างๆให้มากที่สุดเพื่อให้ได้รับการรักษาและพบแพทย์แบบทางไกลผ่านการสื่อสารด้วยระบบสื่อสารที่ทันสมัย

ดังนั้นนอกจากเรื่องเตียง ยารักษาโรค และอาหารในการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามแล้วสิ่งสำคัญคือการติดต่อสื่อสารกับแพทย์ผ่านระบบโทรคมนาคม การดูแลผู้ป่วยเรื่องความปลอดภัย ผ่านกล้อง CCTV รวมถึงฟรีไวไฟสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลสนาม ล้วนต้องได้รับการสนับสนุนและดูแลจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมซึ่งบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT หน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ก็มีโอกาสทำหน้าที่ให้สมกับการเป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติจริงๆ ด้วยการสนับสนุนระบบสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อให้โรงพยาบาลสนามสามารถให้บริการประชาชน ผู้ป่วยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

***อาสานำศักยภาพระบบสื่อสารหนุนรพ.สนาม

นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ NT ระบุว่าในสถานการณ์เช่นนี้ NTต้องเข้ามาช่วยเหลือด้วยสรรพกำลังด้านบริการสื่อสารโทรคมนาคมที่มีอยู่ โดยได้ดำเนินการสนับสนุนติดตั้งระบบ Internet Wi-Fi โทรศัพท์ IP Phone รวมถึงกล้องวงจรปิด (CCTV)ให้บริการแก่เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ใช้ในการติดต่อสื่อสารพร้อมอำนวยความสะดวกในการใช้งานให้แก่โรงพยาบาลสนามทุกแห่งที่แจ้งความประสงค์เข้ามาที่ NTซึ่งปัจจุบัน NT ได้ดำเนินการติดตั้งให้บริการระบบสื่อสารให้แก่โรงพยาบาลสนามแล้วในหลายจังหวัดตามที่มีการขอรับการสนับสนุน



เริ่มจากการสนับสนุนระบบสื่อสารภายในโรงพยาบาลสนามที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ7รอบพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2554 จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นพื้นที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนามสามารถรองรับได้ 280 เตียง แบ่งเป็นผู้ชาย 140 เตียงและผู้หญิง 140 เตียง ด้วยการติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็ว 1000/500 Mbps จำนวน 2 วงจรและโทรศัพท์ IP Phone จำนวน 24 เลขหมาย

รวมถึงพื้นที่ในบริเวณปตอ.1 กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน แจ้งวัฒนะ จำนวน 300 เตียง ซึ่งพบว่าสัญญาณโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปกติแต่มีปัญหาในพื้นที่บางจุดซึ่งสัญญาณจะดรอป ลง ดังนั้นจะมีการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อขยายสัญญาณและ อุปกรณ์ Fixed Wireless Broadband ซึ่งเป็นอุปกรณ์ติดตั้งง่ายทุกที่ไม่ต้องเดินสายที่ผ่านมาแม้ดำเนินการไปบ้างแล้วแต่จากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์รองรับความต้องการใช้งานที่มากขึ้น



ปัจจุบัน NT ได้สนับสนุนโรงพยาบาลสนามไปแล้วกว่า 100 แห่งทุกภาคของประเทศไทยในหลายจังหวัด อาทิจ.นครสวรรค์, จ.ฉะเชิงเทรา,จ.ขอนแก่น,จ.ประจวบคีรีขันธ์,จ.สงขลา,จ.เพชรบูรณ์ และ จ.สุรินทร์ เป็นต้น ซึ่งนอกจากอินเทอร์เน็ตแล้ว NT ยังมีการเพิ่มระบบ CCTV ติดตามอาการผู้ป่วย รวมถึงการส่งมอบอุปกรณ์ my 3G Router สำหรับติดตั้งประจำรถพระราชทานให้แก่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 จ.เชียงใหม่และส่งมอบอุปกรณ์ my 3G Router ให้แก่ รพ.ลำปาง,รพ.ลำพูน,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกนอกจากนี้ NT ยังเข้าไปสนับสนุนระบบโทรคมนาคมพร้อมคอมพิวเตอร์ จำนวน 400 เครื่อง พรินเตอร์จำนวน 50 เครื่องที่ศูนย์ฉีดวัคซีน สถานีกลางบางซื่อ ด้วย

***รุกช่วยเหลือรพ.สนามในกทม.

การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ทำให้ NT ต้องรีบสนับสนุนระบบโทรคมนาคมกับโรงพยาบาลสนามอย่างเร่งด่วนโดยล่าสุดได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในการติดตั้งระบบสื่อสารโทรคมนาคมชั่วคราวครอบคลุมพื้นที่ศูนย์พักคอยในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวนกว่า 10 แห่งโดยเริ่มจากศูนย์พักคอยสถานีกลางบางซื่อ ด้วยการสร้างโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมชั่วคราวเป็นระยะทาง 1.5 กิโลเมตรพร้อมติดตั้ง FTTx (ระบบเคเบิลใยแก้ว) จำนวน 7 วงจร AP (access point) 5 ตัวแบ่งเป็นในห้องวอร์รูม 1 วงจร สำหรับใช้เชื่อมกล้อง cctv 1 วงจร และบริเวณโรงนอนจำนวน 5 วงจรเพื่อให้บริการแก่เจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์รวมถึงผู้ป่วยโควิด-19 ได้ใช้ในการปฏิบัติงานและรักษาตัวได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดย





ทั้งหมดนี้หวังผลให้ระบบทั้งหมดสามารถสนับสนุนภารกิจหลักของศูนย์ในการเป็นจุดรองรับผู้ป่วยติดเชื้อให้มาพักรักษาตัวแยกออกมาจากบ้าน ระหว่างรอส่งต่อรักษาในโรงพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย CCTV Dome จำนวน 32 ตัว CCTV Bullet จำนวน 8 ตัว NVR 16 Ch (Network video recorder) จำนวน 2 ตัว NVR 8 Ch จำนวน 1 ตัว HDD (Hard Disk Drive) 4 TB จำนวน 5 ตัว Switch 16 Port จำนวน 3 ตัว ทีวี 43 นิ้ว จำนวน 3 ตัว Intercom Master จำนวน 1 ตัว และ Intercom Sub จำนวน 5 ตัวเพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในส่วนต่างๆ ดำเนินการได้อย่างสะดวก รวดเร็วและสามารถรองรับผู้ป่วยจำนวน 400 เตียงได้อย่างเต็มศักยภาพ

ส่วนศูนย์พักคอยที่เหลืออีกจำนวน 10 แห่งประกอบด้วยศูนย์กีฬารามอินทรา เขตบางเขน,ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์เขตจตุจักร, ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตจตุจักร,ศูนย์เยาวชน เขตดอนเมือง,ศูนย์พักคอยวัดมัชฌินติการาม เขตบางซื่อ,ศูนย์พักคอยส่งเสริมและสนับสนุน เขตลาดพร้าว1,ศูนย์พักคอยวัดราษฎร์นิยมธรรม เขตสายไหม,ศูนย์พักคอยส่งเสริมและสนับสนุน เขตลาดพร้าว2,ศูนย์พักคอยอาคารคลังสินค้าบริษัท อาร์ บี เอส โลจิสติกส์ จำกัด และศูนย์พักคอยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เขตหลักสี่

นอกจากนี้ NT ยังได้รับมอบหมายจาก ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอสให้ NT ประสานกับกรมการแพทย์เพื่อปรับปรุงระบบโทรสายด่วน 1668,1646 และเพิ่มคู่สายให้สามารถรองรับปริมาณการโทรจำนวนมากได้

ศักยภาพของ NT ในการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมแห่งชาติหลังจากการควบรวมทีโอทีและกสท โทรคมนาคมเป็นองค์กรเดียวกันแล้วทำให้เห็นได้ชัดว่าทรัพยากรที่ NT มีอยู่นั้นสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ในเชิงธุรกิจที่ต้องหารายได้เท่านั้นแต่ในมุมของการช่วยเหลือสังคม NT ก็ทำงานได้เต็มศักยภาพเพื่อลดช่องว่างทางสังคมให้ทุกคนเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
#2710
ทำไมข้าวปลอดสารราคาแพง
ทำไม  ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์    (SURIN Organic Rice)  ถึงดีกว่าข้าวทั่วๆไปที่ใช้สารเคมีอย่างไร ?  ข้าวปลอดสารพิษ หรือ ข้าวออร์แกนิค (Organic Rice)  คือ ขายข้าวอินทรีย์, กลุ่มข้าวอินทรีย์ทีได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นระบบการจัดการด้านการเกษตรแบบองค์รวมที่เกื้อหนุนต่อระบบนิเวศน์ วงจรชีวภาพ และความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติในนา ข้าวกล้องหอมมะลินิลปลอดสารพิษ ไม่ใช้วัตถุดิบที่ได้จากการสังเคราะห์  สารเคที สารพิษ ยาฆ่าหญ้า ว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโตของขายข้าวอินทรีย์, กลุ่มข้าวอินทรีย์ สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าว ตลอดจนสารเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็บ และไม่ใช้พืช สัตว์ หรือจุลินทรีย์ที่ได้มาจากการดัดแปลงพันธุกรรม หรือพันธุวิศวกรรม  เราเน้นปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินโดยการปลูกพืชหมุนเวียน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในไร่นาหรือจากแหล่งอื่น ควบคุมโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวโดยวิธีผสมผสานที่ไม่ใช้สารเคมี การเลือกใช้พันธุ์ข้าวที่เหมาะสมมีความต้านทานโดยธรรมชาติ รักษาสมดุลของศัตรูธรรมชาติ การจัดการพืช ดิน และน้ำ ให้ถูกต้องเหมาะสมกับความต้องการของต้นข้าว เพื่อทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้ดี มีความสมบูรณ์แข็งแรงตามธรรมชาติ การจัดการสภาพแวดล้อมไม่ให้เหมาะสมต่อการระบาดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าว เป็นต้น มีการจัดการกับผลผลิตและผลิตภัณฑ์ด้วยความระมัดระวัง เพื่อรักษาสภาพการเป็นเกษตรอินทรีย์ และคุณภาพที่สำคัญในทุกขั้นตอนการผลิตและการแปรรูป ข้าวจังหวัดสุรินทร์

 
ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวอินทรีย์กรมการข้าวส่งทั่วไทย
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
Facebook : https://www.facebook.com/Hor.Product
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ  ข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย
1. ข้าวหอมมะลิออแกนิค
2. ข้าวกล้องหอมมะลิเพื่อสุขภาพ
3.  ขายข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิคสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์สุรินทร์
6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์
7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์กรมการข้าว


#ข้าวออร์แกนิก #ข้าวออแกนิค #ข้าวออแกนิก  #ข้าวอินทรีย์ #ข้าวสุขภาพ
 

 

 

 

 

 
 
#2711


ตามที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 25-30 ส.ค. 64 จะมีร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ นั้น

นายจุมภฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า MEA มีความห่วงใยประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดพายุฝนลมแรง โดยขอแนะนำให้ตรวจสอบโครงสร้างป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรงมั่นคงปลอดภัย และตรวจสอบระยะห่างของป้ายโฆษณากับสายไฟฟ้าให้มากขึ้น เพราะอาจส่งผลกระทบกับระบบไฟฟ้าอาจทำให้ไฟฟ้าดับ และขอให้ประชาชนอยู่ห่างจากป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงใกล้แนวสายไฟฟ้า เพราะกิ่งไม้อาจหักโค่นจากลมกระโชกแรงและพาดลงมาทำให้เสาไฟฟ้าล้ม หรือสายไฟฟ้าขาด เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งขอแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าหากชำรุดเร่งซ่อมแซมแก้ไข และสำรวจต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านของตนเอง ให้กิ่งไม้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่ระสายไฟฟ้า เพราะอาจทำให้ไฟฟ้าดับ รวมไปถึงอาจจะทำให้มีกระแสไฟฟ้ารั่วมาตามกิ่งไม้ที่เปียกน้ำจากฝนฟ้าคะนองได้ พร้อมทั้งควรติดตามข่าวสารสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านระบบไฟฟ้านั้น MEA ดำเนินการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์โดย จัดเจ้าหน้าที่ดูแลระบบไฟฟ้า และลงพื้นที่บำรุงรักษาระบบจำหน่าย ตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า ตลอดจนมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าสำรองในสถานที่สำคัญ เพื่อให้ระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของ MEA มีประสิทธิภาพ มั่นคงและปลอดภัยอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นสายไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าของ MEA ชำรุด หรืออยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งเหตุได้ที่ MEA Smart Life Application ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนระบบ iOS และ Android ของ MEA ดาวน์โหลดฟรี คลิก https://onelink.to/measmartlife หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter: @mea_news,Instagram : meafanclub และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร
Energy for city life, Energize smart living
#2712


มหกรรมกีฬา 'พาราลิมปิก โตเกียว 2020' จะเปิดฉากการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ค่ำวันที่ 24 สิงหาคม นี้ โดย สมเด็จพระจักรพรรดิ นารุฮิโตะ เสด็จเป็นประธานพิธีเปิด ณ โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค 'โควิด-19' มีผู้ชมเข้าสนามได้ 75 คน

ขณะที่พิธีเปิดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.64 พิธีเปิดการแข่งขันนั้น สมเด็จพระจักรพรรดิ นารุฮิโตะ ได้เสด็จเป็นประธานพิธี พร้อมด้วย โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี)  และ แอนดรูว พาร์สัน ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (ไอพีซี)  ซึ่งกำหนดการเริ่มจากสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ได้ประกาศถ้อยคำแถลงการแข่งขัน 'พาราลิมปิก โตเกียว 2020' โดยทางญี่ปุ่น และไอพีซี นำเสนอรูปแบบพิธีเปิดแสดงถึง 'การก้าวไปข้างหน้าด้วยกันด้วยปีกของเรา' เป็นการสร้างจิตสำนึกในความกล้าหาญของนักกีฬาพาราลิมปิกที่พยายามจะกางปีกไม่ว่าลมจะพัดไปทางไหน

ต่อด้วยการแสดงของทางเจ้าภาพที่เน้นสื่อความหมายถึงการจับมือกันของมวลหมู่ชาติสมาชิกพาราลิมปิกเกมส์ การให้เกียรติ และความกล้าหาญของนักกีฬา ความสามัคคีกันโดยใช้ดนตรีเป็นสื่อถึงเสียงของความปรองดอง สมานฉันท์ ภายใต้คอนเซปต์ 'หลากทำนองสอดประสาน'

จากนั้นเข้าสู่ขบวนพาเหรดของทัพนักกีฬาจาก 183 ประเทศเข้าสู่สนาม โดยทัพนักกีฬาไทย เดินเข้าสู่สนามเป็นลำดับที่ 91 มี พล.ต.โอสถ ภาวิไล หัวหน้าคณะนักกีฬาพาราลิมปิกไทย นำขบวน และมี 'กร' พงศกร แปยอ นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งเจ้าของ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน พาราลิมปิกเกมส์ 2016 วัย 25 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น และ 'นก' สุบิน ทิพย์มะณี นักกีฬาบอคเซียเจ้าของเหรียญทองประเภททีมบีซี 1-2 พาราลิมปิกเกมส์ 2016 ร่วมกันถือธงไตรรงค์นำคณะนักกีฬาไทยเข้าสู่สนามเพื่อแสดงออกถึงความเท่าเทียมกันทางเพศ

ช่วงสุดท้ายนักกีฬาทุกชาติร่วมกันประกาศสัตยาบันร่วมกันให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ความสามัคคีกัน รักใคร่ปรองดอง ก่อนที่จะมีพิธีจุดไฟในกระถางคบเพลิงซึ่งเจ้าภาพเน้นเรียบง่าย และปิดท้ายที่การจุดพลุไฟเฉลิมฉลองเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
#2713


ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ประเมินผลกระทบของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้ประชากรราว 80 ล้านคนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเอเชียเข้าสู่ "ความยากจนขั้นรุนแรง" (extreme poverty) และอาจเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายขจัดปัญหาความยากจนและความหิวโหยระดับโลกภายในปี 2030

แบบจำลองของ ADB ระบุว่า อัตราความยากจนขั้นรุนแรงในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเอเชีย ซึ่งหมายถึงสัดส่วนประชากรที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน จะลดลงเหลือเพียง 2.6% ในปี 2020 จากระดับ 5.2% ในปี 2017 หากไม่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ทว่า วิกฤตสาธารณสุขที่เกิดขึ้นทำให้อัตราความยากจนขั้นรุนแรงพุ่งสูงกว่าที่ประเมินไว้ราว 2%

รายงานของ ADB ย้ำว่า ตัวเลขอาจจะสูงยิ่งกว่านี้ หากพิจารณาถึงความไม่เท่าเทียมในด้านต่างๆ เช่น สุขภาวะ การศึกษา และการหยุดชะงักของงาน (work disruptions) ที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากโควิด-19 ทำให้การเคลื่อนย้ายของประชากรและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ หยุดชะงัก

"ผลกระทบในด้านเศรษฐกิจและสังคมจากมาตรการควบคุมโรคยังคงปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ประชากรจำนวนมากต้องดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงปากท้อง และสุ่มเสี่ยงที่จะเข้าสู่วงจรของความยากจน" ADB ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงมะนิลา ระบุ

ในบรรดาประเทศกำลังพัฒนา 46 ชาติ และประเทศพัฒนาแล้ว 3 ชาติในเอเชียแปซิฟิกที่เป็นสมาชิกของ ADB มีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่เศรษฐกิจยังคงเติบโตได้ในปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการจ้างงานที่ลดลงส่งผลให้ชั่วโมงการทำงานในภูมิภาคนี้ลดลงประมาณ 8% ซึ่งส่งผลกระทบมากเป็นพิเศษต่อครัวเรือนที่มีฐานะยากจน และแรงงานนอกระบบ (informal sector)

ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19 ยังเพิ่มความท้าทายให้ภูมิภาคนี้ในการที่จะบรรลุซึ่งเป้าหมายด้านการพัฒนาที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้กำหนดไว้เมื่อปี 2015

รัฐสมาชิกยูเอ็นได้มีมติเป็นเอกฉันท์รับรองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (sustainable development goals : SDGs) 17 ประการ ซึ่งเป็นกรอบการดำเนินงานด้านการพัฒนาที่ท้าทายตั้งแต่การขจัดปัญหาความยากจน เรื่อยไปจนถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศ รวมถึงขยายโอกาสทางการศึกษาและบริการด้านสาธารณสุขให้ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มภายในปี 2030

"เอเชียและแปซิฟิกมีระดับความก้าวหน้าเป็นที่น่าพอใจ ทว่า สถานการณ์โควิด-19 เผยให้เห็นรอยแยกทางเศรษฐกิจที่อาจจะบั่นทอนการพัฒนาอย่างยั่งยืนแบบองค์รวมของภูมิภาคนี้" ยาสุยุกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADB ระบุในถ้อยแถลง

ที่มา : รอยเตอร์
#2714


กทม. โดยสำนักงานเขต และศูนย์บริการสาธารณสุข เพิ่มศักยภาพรองรับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียว จัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation: Semi CI) ในพื้นที่ 5 กลุ่มเขต มุ่งหวังช่วยลดการแพร่ระบาดและติดเชื้อในครัวเรือน ดูแลเข้มตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมส่งต่อโรงพยาบาลทันทีหากอาการรุนแรง

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย เดือนสิงหาคมนี้พื้นที่กรุงเทพฯ พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่กรุงเทพมหานครเร่งค้นหาผู้ป่วยโดยตรวจคัดกรองเชิงรุกอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงยิ่งขึ้น รวมถึงการลงพื้นที่ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชนโดยทีม Bangkok CCRT ขณะเดียวกันโรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัดกรุงเทพมหานครจะเพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดง รวมทั้งการเพิ่มศูนย์พักคอยฯ ให้ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ

"สำหรับมาตรการรองรับผู้ติดเชื้อในขณะนี้ ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation: CI) กทม. เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียว สามารถเปิดให้บริการศูนย์พักคอยฯ ไปแล้ว 64 แห่ง จากทั้งหมด 70 แห่งใน 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ส.ค. 64)  รวมทั้งได้มีการยกระดับศูนย์พักคอยฯ ให้เป็นโรงพยาบาลสนามระดับกลุ่มเขต หรือ CI PLUS จำนวน 7 แห่ง โดยติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือเพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเหลือง ได้มากขึ้น ปัจจุบันรองรับผู้ป่วยได้มากกว่า 1,000 เตียง   นอกจากนี้ กทม. ยังได้รับความร่วมมือจากภาคประชาสังคมในการร่วมจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation: Semi CI) โดยปัจจุบันเปิดแล้ว 55 แห่ง จากทั้งหมด 125 แห่ง โดย กทม.จะขยายแนวคิดนี้ไปสู่ชุมชนอื่นที่มีความพร้อมต่อไป" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าว

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า "นอกจากสำนักงานเขตจะดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ หรือ (Community Isolation) เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียว อย่างน้อย 1 เขต 1 ศูนย์พักคอยฯ แล้ว ยังมีศูนย์พักคอยฯ ขนาดย่อมที่ชาวชุมชนได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้น หรือที่เรียกว่าศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation : Semi CI) เพื่อแยกกักรักษาผู้ป่วยจากชุมชน ปัจจุบันได้มีการจัดตั้งแล้ว จำนวน 55 แห่ง  ซึ่งการจัดตั้งศูนย์พักคอยฯ ดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการโดยชุมชนเพื่อชุมชนอย่างแท้จริง ต้องขอขอบคุณหลาย ๆ หน่วยงานที่อนุญาตให้ใช้สถานที่ ไม่ว่าจะเป็นอาคารเรียน สถานที่ราชการ หอพัก หอประชุม วัด รวมทั้งให้การสนับสนุนระบบสื่อสาร ไฟฟ้า น้ำประปา เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ของใช้จำเป็นสำหรับผู้ป่วย ตลอดจนเอื้อเฟื้อบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วย ที่ขาดไม่ได้เลยคือ อาสาสมัคร จิตอาสา กล่าวได้ว่า ศูนย์พักคอยฯ นี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ หากชุมชนใดมีความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน สามารถติดต่อสำนักงานเขตพื้นที่ได้ค่ะ"



ทั้งนี้  จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564  ระบุว่า กทม. ได้จัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชนแล้วจำนวน 125 แห่ง  ในพื้นที่ 5 กลุ่มเขต เปิดแล้ว 55 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้กว่า 1,000 เตียง สำหรับกลุ่มเขตที่มีการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย คือ กรุงเทพตะวันออก จำนวน 27 แห่ง กรุงธนใต้ จำนวน 14 แห่ง กรุงเทพกลางและกรุงเทพใต้ จำนวน 5 แห่ง และกรุงธนเหนือ จำนวน 4 แห่ง



นายธนาชิต  ชูติกาญจน์  ผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ ได้เปิดเผยข้อมูลการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation : Semi CI) ในพื้นที่ว่าเป็นนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปลัดกรุงเทพมหานคร ที่ให้เขตจัดหาสถานที่ภายในชุมชนเพื่อจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน ลดการแพร่ระบาดในครัวเรือน เนื่องจากภายในชุมชนแต่ละชุมชนมีสถานที่ที่เหมาะสมต่อการจัดตั้งศูนย์ฯ ตัวอย่างเช่น ที่ทำการของชุมชน มัสยิด สถานที่รับเลี้ยงเด็ก เป็นต้น

การจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation : Semi CI)   เป็นความร่วมมือกันระหว่างกรุงเทพมหานคร   โดยฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม ของสำนักงานเขต ร่วมกับ ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ คณะกรรมการชุมชน จิตอาสาในชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) คอยให้การดูแลผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมส่งต่อทันทีหากมีอาการรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ กทม.ยังได้งบประมาณจากเงินสนับสนุนชุมชน โดยนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เตียง ที่นอน ชุดเครื่องนอน เครื่องใช้จำเป็น ผ้าห่ม ยา อาหาร ให้กับผู้ป่วยที่อยู่ในศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation: Semi CI)



ศูนย์แยกกักในชุมชน เป็นการแยกผู้ป่วยออกมาจากบ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดภายในครอบครัว โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วน คือ
1. คณะกรรมการชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) ในพื้นที่ และประชาชนจิตอาสา มีหน้าที่หลักในการดูแลผู้ป่วย จัดทำทะเบียนผู้ป่วย ตลอดจนการประสานงานกับสำนักงานเขตและศูนย์บริการสาธารณสุข ในการดูแลผู้ป่วย และนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล
2. สำนักงานเขตมีหน้าที่สนับสนุนอุปกรณ์ต่าง ๆ  เช่น  ชุดเครื่องนอน  เครื่องใช้  อาหาร  ยา  และสนับสนุนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวมถึงการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยนำส่งโรงพยาบาล และจัดการขยะติดเชื้อต่าง ๆ
3. ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ มีหน้าที่ในการสอบสวนโรค ตรวจวินิจฉัย จ่ายยา และให้คำปรึกษากับผู้ป่วย



"ปัจจุบัน เขตทุ่งครุได้เปิดศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation: Semi CI) แล้วทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ ชุมชนอัตตักวา รองรับได้ 10 เตียง ชุมชนดารีซีน รองรับได้ 25 เตียง ชุมชนใต้สะพาน รองรับได้ 20 เตียง และเร็ว ๆ นี้ จะเปิดอีก 1 แห่ง ที่ชุมชนซอยประชาอุทิศ 72 (มัสยิดเนียะมะตุลลอฮ์)  รองรับได้ 30 เตียง   โดยขณะนี้จำนวนผู้ป่วยสะสมที่กักตัว ณ ศูนย์แยกกักในชุมชน  มีดังนี้  ชุมชนอัตตักวา มีผู้ป่วยสะสม 8 คน หายป่วยแล้ว 3 คน  ชุมชนดารีซีน มีผู้ป่วยสะสม 8 คน หายป่วยแล้ว  6 คน ชุมชนใต้สะพาน โซน 1  มีผู้ป่วยสะสม 12 คน หายป่วยแล้วทั้งหมด ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ยังรักษาคงเหลืออยู่ทั้งหมด 7 คน"

ผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ กล่าวเพิ่มเติมถึงประโยชน์ในการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation: Semi CI) ว่าเป็นการช่วยลดการแพร่ระบาดได้ เพราะปัจจุบันมีผู้ป่วยมากขึ้น  ทำให้เตียงรักษาไม่เพียงพอ  ซึ่งหากผู้ป่วยรู้ผลเร็ว  จะรักษาได้เร็ว และปัญหาการแพร่ระบาดก็จะลดลงไปได้

"จากข้อมูลของเขตทุ่งครุในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา   พบว่ามีผู้ป่วยมากขึ้น  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการแพร่ระบาดในครอบครัว     ผมมองว่าศูนย์แยกกักในชุมชนจึงมีความจำเป็น เพราะถ้าเราช้าไปหนึ่งวัน เท่ากับว่าผู้ป่วยอาจจะนำเชื้อไปติดต่อกับคนอื่นหรือติดคนในครอบครัวได้อีก ซึ่งศูนย์แยกกักในชุมชน จะช่วยตัดวงจรนี้ได้ ถ้าเราแยกผู้ป่วยออกมา จะเป็นการลดการแพร่ระบาดได้ รู้เร็ว หยุดเร็ว ปัญหาการแพร่ระบาดก็จะลดลงไปได้" ผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ กล่าว



ด้าน นายชำนาญ โนรัญประธานชุมชนอัตตักวา เล่าว่า ได้เริ่มจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation: Semi CI)  เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา  โดยก่อนการจัดตั้ง  มีการประชาสัมพันธ์และหารือเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในชุมชนก่อน  เพราะการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation: Semi CI)  ค่อนข้างใกล้ชิดกับชุมชน   ชาวบ้านอาจจะกังวลเรื่องความปลอดภัย  เช่น  เรื่องขยะติดเชื้อ หรือเชื้อโรคต่าง ๆ
"ก่อนการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน  จะมีการประชาสัมพันธ์  ถามความคิดเห็น และพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไร โดยเราจะให้เหตุผลความจำเป็นว่าทำไมถึงต้องมีศูนย์แยกกักในชุมชน ตอนแรก ๆ ประชาชนเขากังวลเรื่องเชื้อโรคที่อาจจะแพร่กระจายไปในอากาศ ซึ่งตรงนี้ สำนักงานเขตก็ได้เข้ามาสนับสนุนด้วยการมอบหมายฝ่ายโยธา นำอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาปิดกั้นสถานที่ให้มิดชิด และมีมาตรการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเล็งเห็นว่าการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน จะสามารถทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลได้อย่างทั่วถึงและลดการแพร่ระบาดในชุมชนได้" ประธานชุมชนอัตตักวา กล่าว   



ขณะที่ นางพนมไพร  ทองดี  อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ศูนย์สาธารณสุข 59 ทุ่งครุ ประจำชุมชนใต้สะพาน โซน 1 ได้ให้ข้อมูลถึงการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation : Semi CI) ของชุมชนใต้สะพาน โซน 1 ว่า มีการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชนที่ศูนย์เด็กเล็กภายในชุมชน โดยก่อนการจัดตั้งจะประชาสัมพันธ์ให้ชาวชุมชนทราบก่อน สำนักงานเขตและศูนย์บริการสาธารณสุขมาให้ความรู้และข้อเสนอแนะ ซึ่งประชาชนยินดีให้ความร่วมมือและเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่จะมีศูนย์แยกกักในชุมชน

"การจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน สามารถดูแลและรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว เช่น ใครที่เจ็บคอนิดหน่อย เราจะทำการตรวจหาเชื้อทันที มีทีมหมอเชิงรุกเข้ามาช่วยตรวจ ถ้าใครที่ผลตรวจเป็นบวก จะแยกกักตัวทันที ซึ่งผู้ติดเชื้อในชุมชนเองก็ดีใจที่มีการจัดตั้งศูนย์ฯ   นอกจากนี้  เราเข้าไปทำความเข้าใจกับผู้ป่วยด้วยว่า  ไม่ต้องกังวล  ที่นี่ก็สามารถรักษาหายได้ ดูแลใกล้ชิด  
ไม่ต่างจากโรงพยาบาล ซึ่งหากผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่สามารถแยกกักตัวรักษาที่บ้านได้ ก็มากักตัวที่ศูนย์แยกกักในชุมชนได้ แต่สำหรับคนที่เริ่มเป็นกลุ่มสีเหลือง เราจะส่งไปอยู่ในโรงพยาบาลสนามระดับกลุ่มเขต หรือหากเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองที่ค่อนไปทางผู้ป่วยกลุ่มสีแดง จะประสานที่ 1669 เพื่อส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลสนามหรือโรงพยาบาลหลักต่อไป จะเห็นว่า ศูนย์แยกกักในชุมชนก็สามารถช่วยคัดกรองและดูแลผู้ป่วยในเบื้องต้นได้เหมือนกัน"



นางพนมไพร ทองดี กล่าวเพิ่มเติมว่า "ตอนนี้ชุมชนใต้สะพาน โซน 1 มีผู้ป่วยที่อยู่ภายในศูนย์ฯ 2 คน ต้องขอบคุณสำนักงานเขตและศูนย์บริการสาธารณสุขที่จัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชนให้ อีกทั้งเรายังได้ให้กำลังใจ ดูแลรักษากันอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว คนที่มารักษาที่นี่ก็ค่อย ๆ หายป่วยกลับบ้านกันไปทุกคนแล้วค่ะ"

อย่างไรก็ตาม กทม. มีแผนที่จะเดินหน้าเรื่องการจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชน (Semi Community Isolation : Semi CI) ในพื้นที่เขตอื่น ๆ ของกรุงเทพฯ ต่อไป โดยชุมชนหรือภาคเอกชนใดที่มีความพร้อมสามารถร่วมจัดตั้งศูนย์แยกกักในชุมชนกับทาง กทม.ได้เช่นกัน โดยติดต่อได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่ ทั้งนี้ความมุ่งหวังก็เพื่อช่วยลดการแพร่ระบาดและติดเชื้อในครัวเรือน รวมถึงประชาชนที่ป่วยจะได้เข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
#2715


รายงานข้อมูลจากแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง)สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ระบุ บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV กำหนดราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) ที่ 3.90 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E) เท่ากับ 32.5 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิใน 4 ไตรมาสย้อนหลังของบริษัทฯ (ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564)

ทั้งนี้จะเสนอขายหุ้นจำนวน 320 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 0.50 บาท แบ่งเป็น เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของบริษัทหลักทรัยพ์ที่จัดจำหน่ายหุ้น จำนวน 240 ล้านหุ้น เสนอขายแก่ผู้มีอุปการคุณ จำนวนไม่เกิน 48 ล้าน หุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวน32 ล้านหุ้น เปิดจองซื้อวันที่ 25-27 ส.ค2564

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จำนวน 1,248 ล้านบาท จะนำไปขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย การเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก กำลังการผลิตติดตั้ง 7.36 เมกะวัตต์ คาดใช้เงิน 110 ล้านบาท ภายในปี 2564

ใช้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลในญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้ง 39.8 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุน 450 ล้านบาท ภายในปี 2564-2566 และใช้พัฒนาโครงการ และหรือเข้าลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด รวมถึงลงทุนในกิจการด้านงานวิศวกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งในไทยและต่างประเทศ มูลค่า 180 ล้านบาท ภายในปี2564-2566


รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน และเงินกู้ยืมกรรมการ 330 ล้านบาทภายในปี 2564 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท 125 ล้านบาท ภายในปี2564-2565

'เงินเยียวยาประกันสังคมมาตรา 40' เช็คด่วน www.sso.go.th โอนวันนี้รับ 5,000 บาท
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยังทรงตัว! ติดเชื้อเพิ่ม 17,165 ราย พบเสียชีวิต 226 ราย ไม่รวม ATK อีก 314 ราย
'โผทหาร' ระเบิดเวลากองทัพ  วัฏจักร "พรรคพวก-ผลประโยชน์"
สำหรับเป้าหมายในปี 2564 - 2566 กลุ่มบริษัทมุ่งเน้นขยายการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานหมุนเวียนและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ทั้งประเทศไทยและประเทศที่กำลังเติบโตด้านอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้น เน้นลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนควบคู่กับงานด้านวิศวกรรม Valued EPC แบบครบวงจร ในกลุ่มเทคโนโลยีพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ ชีวมวล ขยะ และก๊าซชีวภาพ รวมถึงพลังงานสะอาด ได้แก่ แสงอาทิตย์ พลังงานลม และก๊าชธรรมชาติ เป็นต้น
#2716


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงเกณฑ์เกี่ยวกับงบการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) โดยกำหนดให้ไม่ต้องผ่านการรับรองโดยที่ประชุมใหญ่สมาชิก เพื่อลดภาระ ต้นทุน และขั้นตอนการดำเนินการของบริษัทจัดการลงทุนและคณะกรรมการกองทุน โดยที่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ยังคงมีช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนที่เพียงพอ

ก.ล.ต. ได้หารือกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุนและผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเกณฑ์ข้างต้นช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเห็นว่า การจัดทำงบการเงินของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่กำหนดให้บริษัทจัดการลงทุนต้องจัดทำ พร้อมรายงานการสอบบัญชีต่อที่ประชุมใหญ่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อรับรองงบการเงิน และนำส่งสำเนางบการเงินและรายงานการสอบบัญชีดังกล่าวต่อ ก.ล.ต. ภายในเวลาที่กำหนด ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันภายใต้พัฒนาการของเทคโนโลยีที่มีความรุดหน้า ทำให้สมาชิกสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านช่องทางใหม่ ๆ ได้ง่ายและทั่วถึงมากขึ้นโดยไม่ต้องพึงพาช่องทางการจัดประชุมใหญ่สมาชิก

โดยคณะกรรมการกำกับตลาดทุน (ก.ต.ท.) ในการประชุมครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ได้มีมติเห็นชอบให้ ก.ล.ต. ดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อยกเลิกข้อกำหนดที่ให้งบการเงินต้องผ่านการรับรองจากที่ประชุมใหญ่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่อไป

ทั้งนี้ งบการเงินดังกล่าวยังคงต้องผ่านการรับรองจากผู้สอบบัญชี โดยให้บริษัทจัดการลงทุนต้องจัดทำงบการเงินของกองทุน และเผยแพร่พร้อมรายงานการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีให้แก่สมาชิกรับทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน เป็นต้น หรือช่องทางอื่นใดที่สมาชิกสามารถเข้าดูข้อมูลได้อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งนำส่งสำเนางบการเงินและรายงานการสอบบัญชีดังกล่าวให้สำนักงานภายใน 3 เดือนนับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีประจำปีของกองทุน จากเดิมที่กำหนดภายใน 5 เดือน

นอกจากนี้ เพื่อให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีช่องทางในการรับฟังรายงานสรุปผลการดำเนินงาน รวมทั้งมุมมองต่อภาวะตลาด เศรษฐกิจ และการลงทุนจากบริษัทจัดการ ก.ล.ต. จึงเสนอให้บริษัทจัดการจัดลงทุนต้องจัดให้มีการรายงานดังกล่าวอย่างน้อยทุก ๆ รอบเดือนมิถุนายน และเดือนธันวาคม โดยให้ดำเนินการภายใน 2 เดือน นับจากวันสิ้นรอบระยะเวลาดังกล่าวด้วย โดยคาดว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเริ่มใช้สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีประจำปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป
#2717
แซนดีสุจิตราต่างหูแฮนเมด  ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์



แซนดีสุจิตราต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์  แซนดีสุจิตราเครื่องประดับแฮนเมด
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ โดย แซนดีสุจิตรา แนะนำผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม เป็นผลงานศิลปะในตัวเอง และ เป็นงานฝีมืออย่างพิถีพิถันโดยศิลปินท้องถิ่น

แซนดีสุจิตราต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ มีของฝากมากมายให้ซื้อในประเทศไทย หัวของคุณจะหมุนแน่นอนเมื่อตัดสินใจว่าจะซื้ออะไร คุณภาพในราคาที่ไม่แพงนอกจากนี้คุณยังพบกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะทำให้คุณประหลาดใจว่าศิลปะไทยมีความพิเศษอย่างไร แนะนำ ชิ้นนี้ ต่างหูแฮนเมด-โดยแซนดีสุจิตรา Trust Pearl & Rose Quartz

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา และสินค้าอืนๆมากมาย แนะนำ สินค้าอืนๆอีกมาก https://www.sandysujittra.com/
The most beautiful product that we prod of and recommend, Handman Earing By Sandysujittrahandcrafted by local artist
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา 

Handman Earing By Sandysujittra

One of the most beautiful product that we proud of and recommend, These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.

There are a lot of souvenir items to buy in Thailand.Your head will surely spin when trying to decide on what to buy.here are selected items which is unique and will surely remind you of your wonderful time at Thailand.

Handman Earing By Sandysujittra

Recommend, product

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.
Our products have made by thai local people who love art & have much experience
Please visit Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop
https://www.sandysujittra.com/


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kaaiduan.com/เครื่องประดับ/ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุ/


คำค้น
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, Handman Earing By Sandysujittra

 
#2718


นางสาวพฤกษา เอี่ยมธงทอง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการลงทุน ตลาดหุ้นเอเชีย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสเม้นท์ เปิดเผยว่า แม้แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2564 ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวลงจากครึ่งปีแรก2564  สาเหตุจากเฟดเริ่มส่งสัญญาณลดคิวอีภายในปีนี้ และแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ เดลตา ที่สร้างความกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไปทั่วเอเชีย 

รวมถึงการปรับตัวลงของตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มร้านขายออนไลน์และร้านยา ยังคงได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลจีนคุมเข้ม  โดยบลจ. อเบอร์ดีน คาดการณ์กำไรบนดัชนี MSCI AC Asia ex Japan (ดัชนีอ้างอิง) ปี 2564 จะปรับตัวลงจากตลาดคาดการณ์ ณ ครึ่งปีแรก2564 คาดจะเติบโต 33% ในปีนี้  

 
ทั้งนี้แม้จะปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว แต่บริษัทยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนหุ้นเอเชียในระยะยาว 3 ปีขึ้นไป เชื่อมั่นว่าภูมิภาคเอเชียในปี2565 เมื่อมีวัคซีนเข้ามาเพียงพอ ซึ่งจะทำให้ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียรวมถึงไทยสามารถกลับมาเริ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจและลดช่องว่างกับประเทศที่พัฒนาแล้วให้แคบลงได้


ขณะเดียวกันราคาหุ้นเอเชีย ค่าเฉลี่ย 12 month Forward P/E อยู่ที่15.9 เท่า ยังถูกกว่าเมื่อเทียบตลาดหุ้นสหรัฐที่ 20.3 เท่า  โดยการลงทุนระยะยาว นับว่าเป็นโอกาสเข้าลงทุนรับผลตอบแทนที่ดีเมื่อตลาดฟื้นตัว ผ่าน 6 ธีมลงทุนหุ้นเอเชียแห่งอนาคต คือ กลุ่มบริโภคที่เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การศึกษา บริการทางการเงิน ,ธุรกิจก่อสร้างที่เติบโตตามความต้องการใช้โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ,ธุรกิจสุขภาพ,หุ้นอนาคตดิจิทัล ,ธุรกิจขับเคลื่อนเทคโนโลยี เช่น 5G บิ๊กดาต้า และพลังงานทดแทน  โดยเลือกลงทุนบริษัทที่มีสถานะเงินสดที่ดีและมีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ระดับสูง รับมือกับความไม่แน่นอนระยะสั้นได้ดีที่สุด 

นางสาวพฤกษา กล่าวว่า  บริษัทในฐานะนักลงทุนระยะยาว ยังคงกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นเอเชีย โดยบริษัทยังคงให้ความสนใจกับบริษัทที่มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนแนวโน้มการได้ประโยชน์จากการเติบโตเชิงโครงสร้าง ทำให้ปัจจุบันผลการดำเนินงานกองทุนหุ้นเอเชียของบริษัท สามารถมีผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด แม้ปัจจุบันตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง4.5%ก็ตาม

พร้อมกันนี้แนะนำนักลงทุนไทยว่า สามารถแบ่งกำไรจากการลงทุนหุ้นยุโรปและสหรัฐที่ราคาปรับตัวขึ้นมา โยกมาลงทุนหุ้นเอเชียสัดส่วน20-30 %ของพอร์ต รับผลตอบแทนที่ดี 3 ปีขึ้นไป จากการกระจายลงทุนหุ้นทั่วเอเชีย เช่น จีน อินเดีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย เป็นต้น 
#2719


บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด (Settrade) เปิดตัว Streaming Fund+ แอปพลิเคชันใหม่ล่าสุดเพื่อผู้ลงทุนในกองทุนรวม เปิดบัญชี ซื้อขาย สร้างและติดตามพอร์ต เพื่อการลงทุนในกองทุนรวมที่สะดวกง่ายดายมากขึ้น พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ ทั้ง iOS และ Android

นายพุฒิพงศ์ สกนธวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด (Settrade) กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ประชาชนให้ความสนใจในเรื่องการลงทุนเพื่อบริหารผลตอบแทนจากเงินออมเพิ่มมากขึ้น โดยกองทุนรวมนับเป็นทางเลือกให้ผู้สนใจลงทุนและผู้ลงทุนบุคคลใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน หรือผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาลงทุนด้วยตนเอง Settrade จึงได้พัฒนาเครื่องมือเพื่อการลงทุนในกองทุนรวมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว Streaming Fund+ เป็นการพัฒนาแอปพลิเคชันที่เน้นตอบโจทย์ผู้ลงทุนอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเปิดบัญชีกองทุนรวม ซื้อขาย และสร้างแผนการลงทุนและบริหารพอร์ตได้อย่างสะดวกรวดเร็วในแอปเดียว

"Streaming Fund+ เป็นแอปใหม่ที่พัฒนาต่อยอดจาก Streaming for Fund ให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายและทันสมัยมากขึ้น ประกอบด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ตอบโจทย์ลูกค้าที่สนใจการลงทุนในกองทุนรวม ให้จัดการการลงทุนได้ครบ จบ ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีออนไลน์กับตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน (selling agent) 20 ราย เลือกลงทุนในกองทุนรวมหลากหลายจาก 22 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำ ส่งคำสั่งซื้อ-ขาย และรองรับการลงทุนแบบตั้งลงทุนล่วงหน้า รวมถึงการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ติดตามภาพรวมพอร์ตการลงทุนได้ในหน้าเดียว นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกลงทุนผ่านแผนการลงทุนที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งสามารถเลือกแผนลงทุนในระดับความเสี่ยงที่รับได้ โดยจะมีการสรุปผลการลงทุนให้อย่างสม่ำเสมอ และปรับแผนการลงทุนได้ตลอดเวลา Settrade เชื่อว่า Streaming Fund+ จะช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น ส่งเสริมการวางแผนการออมการลงทุน เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนสำหรับอนาคตอีกด้วย" นายพุฒิพงศ์กล่าว

ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอป Streaming Fund+ ได้แล้ววันนี้ ทั้งใน iOS และ Android สำหรับผู้ใช้ Streaming for Fund ปัจจุบัน สามารถดาวน์โหลดและใช้งาน Streaming Fund+ ได้ทันทีด้วย Username และ Password เดิม หรือยังคงใช้งาน Streaming for Fund ได้จนถึงช่วงเดือนมกราคมต้นปีหน้า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3gah2JB
#2720


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุในเดือนก.ค. ตัวเลขการส่งออกไทยยังคงขยายตัวแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 20.27%YoY ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี และสูงกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 19.7% โดยใน 7 เดือนแรกของปี 2564 ตัวเลขส่งออกไทยเติบโตที่ 16.2% ซึ่งเติบโตไปในทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาคแต่ระดับของการเติบโตยังคงต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ที่สามารถขยายตัวได้มากกว่า 20% ทั้งนี้ เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธยุทธปัจจัย การส่งออกใน 7 เดือนแรกของปีขยายตัวได้ที่ 21.47% ซึ่งสะท้อนภาคเศรษฐกิจจริงที่เติบโตอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ อัตราการฉีดวัคซีนที่รวดเร็วส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของคู่ค้าสำคัญของไทยหลายประเทศกลับสู่ภาวะปกติช่วยหนุนภาคการส่งออกของไทย โดยในเดือนก.ค. การส่งออกไปในประเทศคู่ค้าสำคัญเติบโตแข็งแกร่งในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะการส่งออกไปสหรัฐฯ (+22.2%) ที่ขยายตัวได้ 14 เดือนต่อเนื่อง รวมถึงสหภาพยุโรป 28 (+20.4%) ขยายตัวได้ 5 เดือนติดต่อกัน ในฝั่งของเอเชียแม้ว่าสถานการณ์การระบาดจะยังมีแนวโน้มยืดเยื้อแต่การส่งออกไปจีนขยายตัวได้ถึง 41.0% ด้านญี่ปุ่นแม้จะเผชิญกับการประกาศภาวะฉุกเฉินภายในประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูง แต่การส่งออกไปญี่ปุ่นยังสามารถขยายตัวได้ 9 เดือนติดต่อกันโดยในเดือนก.ค.ขยายตัวที่ 23.3% เมื่อพิจารณารายสินค้าพบว่าสินค้าหลักที่หนุนภาคการส่งออกยังคงเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เช่น ผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อย่างไรก็ตาม คลัสเตอร์ติดเชื้อจากตลาดอาหารทะเลยังคงส่งผลกระทบการส่งออกต่ออาหารทะเลสด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป แต่ภาครัฐได้เข้ามาแก้ไขปัญหาโดยดำเนินนโยบายในการสร้างความเชื่อมั่นสินค้าไทยปลอดโควิด เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้านและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของภาคการผลิตยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่กำลังซื้อของประเทศคู่ค้าได้กลับมาต่อเนื่องสะท้อนจากการขยายตัวของสินค้าสิ้นเปลืองที่มีราคาสูง เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ)

สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2564 ภาคการส่งออกที่เป็นปัจจัยหลักในขับเคลื่อนเศรษฐกิจเริ่มเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งปัจจัยภายนอกประเทศที่เริ่มมีการเผชิญการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าที่มีแนวโน้มรุนแรง ขณะที่ปัจจัยในประเทศเองภาคการผลิตเผชิญความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการแพร่ระบาดในโรงงาน โดยหากการแพร่ระบาดยังคงไม่สามารถควบคุมได้ อาจส่งผลให้เกิดการปิดโรงงาน และมีผลต่อเนื่องไปยังห่วงโซ่การผลิต ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมายังภาคการส่งออกของไทย จากข้อมูลล่าสุดการระบาดในคลัสเตอร์โรงงานมีการกระจุกตัวอยู่ใน 5 อุตสาหกรรมหลัก คือ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมโลหะ และอุตสาหกรรมพลาสติก อย่างไรก็ดี โครงการนำร่องการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน (Factory Sandbox) น่าจะเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้บ้าง อีกทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ และยุโรป ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า น่าจะยังส่งผลให้การส่งออกไทยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะยังคงขยายตัวได้ในระดับสูง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงปรับประมาณการส่งออกของไทยในปีนี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12.4% จาก 11.5%