• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Joe524

#2721


อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ นักหวดชาวเยอรมัน ต้อน อังเดรย์ รูเบลฟ 2 เซตรวด ผงาดซิวแชมป์ที่ซินซินเนติ ไปครองได้สำเร็จ คว้าแชมป์รายการที่ 17 ในชีวิต

ศึกเทนนิส เอทีพี ทัวร์ มาสเตอร์ส 1000 รายการ เวสเทิร์น แอนด์ เซาเทิร์น โอเพ่น 2021 ที่เมืองซินซินเนติ สหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัลรวม 5,404,435 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 180 ล้านบาท วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 2564 เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ

ประเภทชายเดี่ยว อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ นักหวดมือ 5 ของโลกชาวเยอรมัน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะ อังเดร รูเบลฟ มือ 7 ของโลกจากประเทศรัสเซีย 2-0 เซต 6-2, 6-3 คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองได้เป็นสมัยแรก รับเงินรางวัลไป 391,240 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 13 ล้านบาท

โดย อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ กลายเป็นนักเทนนิสจากเยอรมนี คนที่ 2 ต่อจาก บอริส เบ็คเกอร์ เมื่อปี 1985 ที่คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองได้สำเร็จ ถือเป็นแชมป์ที่ 17 ในชีวิตของเจ้าตัว และเป็นแชมป์รายการที่ 2 ในปฏิทินปี 2021 ต่อจาก "มาดริด โอเพ่น" เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

"ต้องขอชื่นชม รูเบลฟ ที่เล่นดีมาตลอดทั้งอาทิตย์ ถึงแม้เขาจะยิ้มอยู่ตอนนี้แต่เขาคงรู้สึกผิดหวัง เพื่อนคนนี้เป็นยอดฝืมือ ผมรู้จักเขามาตั้งแต่อายุ 11 ปี เขามีศักยภาพที่ดีพอที่จะคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้แน่ๆ ในอนาคต"

"นอกจากนี้ต้องขอขอบคุณพ่อของผม และพี่ชายของผม ที่สนับสนุนผมมาตลอด ที่สำคัญคือการได้เห็นแฟนๆ เข้ามาเชียร์ในสนาม ผมหวังมาตลอดว่าแฟนๆ จะกลับเข้าสู่สนามได้แบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ขอบคุณฝ่ายจัด และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน" ซเวเรฟ กล่าว
#2722


ภาพจาก https://hanako.tokyo/
คอลัมน์ "เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น" โดย "ซาระซัง"

สวัสดีค่ะเพื่อนผู้อ่านทุกท่าน ช่วงโควิดแบบนี้อาจจะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกอย่างเก่าไม่ได้ แต่ก็มีเรื่องสนุกให้ทำได้จากบ้านมากมาย อย่างการทำ "คาเฟ่ที่บ้าน" นอกจากจะทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังได้ใช้โอกาสนี้พักผ่อนคลายเครียดด้วยนะคะ

ที่ญี่ปุ่นมีร้านคาเฟ่อยู่ทั่วไป และเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในหมู่สาว ๆ เวลาเปิดหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่เน้นกลุ่มผู้อ่านผู้หญิง จึงมักจะเจอร้านคาเฟ่แนะนำอยู่ในนั้นด้วยเสมอ ร้านคาเฟ่เหล่านี้ไม่ได้เน้นขายเฉพาะเครื่องดื่มกับขนมหวานเท่านั้น แต่ยังขายอาหารเป็นมื้อแบบไม่หนักท้องเกินไป และมีบรรยากาศที่น่านั่งเพลิน ๆ ด้วย

จุดเด่นของคาเฟ่ที่ญี่ปุ่นคือ การออกแบบภายในร้านที่สวยงาม สะอาดสะอ้าน โล่ง สว่าง ให้บรรยากาศสบาย ๆ เปิดเสียงดนตรีที่ให้ความรู้สึกสดใสรื่นเริง บางร้านก็มีที่นั่งริมทะเลหรือริมระเบียงด้วย แต่ละร้านจะมีลักษณะเฉพาะในการจัดและออกแบบร้านที่ชวนให้จดจำ อีกทั้งลักษณะการให้บริการของพนักงานก็ยังมีส่วนสร้างบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครให้กับทางร้านอีกด้วย


เมนูอาหารตามคาเฟ่ทั่วไปอาจจะเน้นชากาแฟ แซนวิช พาสต้า ขนมหวาน ของว่าง แต่ถ้าเป็นคาเฟ่ที่ดีหน่อยจะเน้นไปที่อาหารหรือเครื่องดื่มเฉพาะของร้าน เช่น มีเมนูสูตรเด็ดที่ทางร้านคิดขึ้นมาเอง ไม่มีขายที่อื่น หรืออาจใช้วัตถุดิบคัดสรร อย่างเช่น วัตถุดิบเฉพาะของท้องถิ่น วัตถุดิบออแกนิก ใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขาว เป็นต้น รวมทั้งอาจมีเมนูเฉพาะกิจซึ่งมีให้สั่งได้แค่เฉพาะช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วยเช่นกัน

ฉันจำได้ว่าตอนไปเที่ยวโอกินาวา เคยไปคาเฟ่แห่งหนึ่งที่ขายข้าวแกงกะหรี่สูตรพิเศษ ร้านนั้นตั้งอยู่ในมุมเล็ก ๆ ภายในตึกขายสินค้าท้องถิ่น มีที่นั่งเพียง 3-4 โต๊ะเท่านั้น แม้ว่าอาหารและกาแฟร้านนั้นจะอร่อยมาก แต่หลังจากนั้นฉันกลับจำบรรยากาศร้านได้ดีกว่าอาหารเสียอีก อาจเพราะเขาใช้จานและถ้วยที่ทำจากดินเผาซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมืองของโอกินาวา แถมยังมีรูปร่างและสีสันแปลกตา อีกทั้งบรรยากาศร้านก็นั่งสบายเสียจนลืมไปเลยว่าร้านนี้เป็นเพียงมุมหนึ่งในตึกธรรมดาเท่านั้นเอง


คงเพราะคาเฟ่เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศแสนสบายอย่างนี้เอง คนญี่ปุ่นจึงหันมาทำ"โอะอุจิคาเฟ่" (おうちカフェ) หรือ 'คาเฟ่ที่บ้าน' กันมาก กิจกรรมนี้มีมาหลายปีก่อนที่จะเริ่มมีโควิดเสียอีก แต่พอโควิดมาเยือน คนต้องอยู่ติดบ้านกันมากขึ้น กระแสคาเฟ่ที่บ้านเลยยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นไปอีก

พจนานุกรมญี่ปุ่นให้นิยาม "โอะอุจิคาเฟ่" ว่าหมายถึง 'การสร้างบรรยากาศแบบคาเฟ่ในบ้านตนเอง จุดเด่นอยู่ที่การใช้อาหาร เครื่องดื่ม ของกระจุกกระจิก และดนตรี เป็นต้น เพื่อสร้างบรรยากาศหรูและสบาย ๆ แบบคาเฟ่' พูดง่าย ๆ ก็คือ จำลองบรรยากาศแบบคาเฟ่ภายในบ้านนั่นเอง

ฉันเข้าใจว่าการใช้คำว่า "คาเฟ่ที่บ้าน" น่าจะเริ่มมาจากการที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ในญี่ปุ่นออกสินค้าขนมภายใต้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อ "Uchi Café SWEETS" (ขนมหวานคาเฟ่ที่บ้าน) เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 ภายใต้คอนเซ็ปต์ทำบ้านให้เป็นคาเฟ่
แต่เดิม Lawson ก็ทำขนมหวานของตัวเองออกมาวางขายอยู่แล้ว แต่ที่หันมาทำแบรนด์ใหม่ "Uchi Café SWEETS" ก็เพราะทำสำรวจกลุ่มลูกค้าแล้วพบว่า สตรีอายุ 20-30 ปีซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ให้ความสนใจสูงกับเรื่องขนมหวาน มักจะยุ่งกับการทำงานหรือไม่ก็การเลี้ยงลูก และได้รับประทานขนมหวานช่วงเย็นหรือช่วงดึก บริษัทจึงออกความคิดว่าอยากให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับขนมอร่อย ๆ และช่วงเวลาสบาย ๆ แบบคาเฟ่ภายในบ้านหรือที่ทำงาน ก็เลยทำขนมแบรนด์นี้ขึ้นมา ส่วนใหญ่หน้าตาขนมจะดูดีแบบขนมตามร้านคาเฟ่ หรือใช้วัตถุดิบดีหน่อย แต่ราคาไม่แพงมาก ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจาก Lawson แล้ว แฟมิลี่มาร์ทและเซเว่นอีเลเว่นของญี่ปุ่นก็ทำขนมหวานของตัวเองออกมาเช่นกัน เพียงแต่อาจจะไม่ได้เรียกชื่อว่า "คาเฟ่ที่บ้าน" เหมือน Lawson แต่หลายอย่างก็ดูดีและรสชาติใช้ได้ ที่น่าสนใจคือร้านสะดวกซื้อเหล่านี้จะคอยผลัดเปลี่ยนทำสินค้าขนมหน้าตาใหม่ ๆ ออกมาอยู่เรื่อยตามฤดูกาล บางอย่างก็มีขายเฉพาะในบางท้องถิ่นเท่านั้น ทำให้ลูกค้าไม่เบื่อกับขนมหน้าตาซ้ำซากจำเจ

ต่อมาก็มีคนทำคาเฟ่ที่บ้านด้วยการลงมือเข้าครัวทำอาหาร ขนม และเครื่องดื่มเอง จากนั้นก็แปะรูปลงสื่อโซเชียลต่าง ๆ ทำให้กระแสทำคาเฟ่ที่บ้านบูมขึ้นเรื่อย ๆ มีการใช้แฮชแท็ค #おうちカフェ (คาเฟ่ที่บ้าน) ในอินสตาแกรมถึง 6.4 ล้านครั้งเลยทีเดียว (ณ สิงหาคม พ.ศ. 2564)

การที่คาเฟ่ที่บ้านได้รับความนิยมน่าจะมาจากสาเหตุหลายประการ อาทิ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าไปรับประทานที่ร้าน สามารถทำเองได้ไม่ยาก จะต่อเติมเสริมแต่งอะไรเข้าไปให้ดูไม่ซ้ำใครก็ได้ อีกทั้งยังได้สนุกกับช่วงเวลาตระเตรียมของจนกระทั่งทำเสร็จได้รับประทาน แถมใครชอบเล่นโซเชียลก็ได้โอกาสลงรูปกันสนุกอีก


ช่วงนี้คนเครียดกันเยอะแยะ หลายคนก็อยู่บ้านจนเซ็ง ลองหาเวลาทำคาเฟ่ที่บ้านให้ตัวเองหรือคนในครอบครัวกันดีไหมคะ จะได้ถือโอกาสพักผ่อนหย่อนใจบ้าง เผลอ ๆ อาจได้เจองานอดิเรกหรือความชอบใหม่ ๆ ด้วยนา

แน่นอนว่าคอนเซ็ปต์ของคาเฟ่ที่บ้านไม่ได้อยู่ที่การมีของกินและเครื่องดื่มเป็นอันจบ แต่อยู่ที่การสร้างบรรยากาศสบาย ๆ แบบคาเฟ่ เพราะฉะนั้นหากนึกอยากพักผ่อนจิบน้ำชารับของว่าง เพื่อน ๆ ก็อาจจะตระเตรียมอะไรบ้างนิดหน่อยให้ดูดี และสร้างบรรยากาศไปด้วยในตัว

ขั้นแรกก็ต้องเตรียมพื้นที่กันก่อน อาจจะเลือกมุมหนึ่งของห้องหรือของบ้านมาสักมุม แล้วหาโต๊ะเล็ก ๆ มาวาง ใช้แผ่นรองแก้วหรือแผ่นรองจานอาหารสวย ๆ เอาดอกไม้ปักแจกันเก๋ไก๋มาแต่งเสียหน่อย แค่นี้ก็เริ่มได้บรรยากาศร้านคาเฟ่หน่อย ๆ แล้ว

แต่ถ้าใครไม่มีอุปกรณ์ครบครัน ก็ไม่ต้องถึงขนาดไปหาซื้อให้สิ้นเปลืองนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวพอเลิกเห่อแล้วจะมีอะไรก็ไม่รู้เต็มบ้านไปหมด แค่เอาของที่มีในบ้านมาพลิกแพลงใช้ก็ได้แล้ว ถ้าไม่มีโต๊ะ อาจจะหาถาดมาใส่ของกินกับเครื่องดื่มวางแทนโต๊ะ แล้วนั่งกับพื้น แคร่ ตั่ง เฉลียง ชาน หรือบนพื้นหญ้า อย่างนี้ก็ได้ ลองนึกดูว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความรู้สึกพิเศษและสบายอารมณ์ยิ่งกว่าการรับประทานอาหารหรือของว่างในบ้านตามปกติ ก็คงมีไอเดียผุดขึ้นมามากมายให้สนุกกันละค่ะ


บ้านฉันที่ไทยมีเฉลียงอยู่ติดกับบ่อน้ำเล็ก ๆ แม่เคยปลูกบัวในบ่อน้ำนี้อยู่หลายกระถางดูสวยเพลินตาดี เมื่อก่อนฉันชอบมานั่งอ่านหนังสืออยู่แถวเฉลียงที่ว่า ถ้าจะทำคาเฟ่ที่บ้านฉันก็คงจะเลือกมุมนี้แหละ แล้วหาถาดหรือผ้าลายสวย ๆ มาปูที่พื้นเฉลียง แล้วค่อยวางจานของกินกับแก้วเครื่องดื่ม นั่งชิลล์เพลิน ๆ ได้

จานชามก็มีส่วนสร้างบรรยากาศได้นะคะ แต่ถ้ามันไม่ได้สะสวยอย่างที่ใจต้องการ ก็อาจจะใช้วิธีจัดวางอาหารให้ดูเก๋ไก๋ เอาใบตองหรือกระดาษเช็ดปากมีลวดลายมาวางบนจาน แล้วค่อยวางขนมลงไป แค่นี้ก็น่ามองแล้ว อาจจะดูคลาสสิกกว่าใช้จานชามสวย ๆ อีก

หากใครไม่ถนัดทำอาหารและเครื่องดื่ม ก็อาจจะหาซื้อหรือสั่งซื้อเอาก็ได้ เดี๋ยวนี้คนทำขนมขายออนไลน์กันเยอะแยะ มีให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหว จะได้ถือโอกาสอุดหนุนกันในยามยากด้วยนะคะ แต่ถ้าใครอยากลองทำเองฉันก็เชียร์เต็มที่ คือจากประสบการณ์แล้วฉันเคยคิดว่าของกินหรือขนมอร่อย ๆ นี่มันคงต้องทำยากมาก แต่พอได้ลองทำขึ้นมาสักอย่างแล้ว จึงได้อุทานในใจว่า... "ไฮ้! ง่ายปานนี้เชียวรึ ??"  แถมเวลาได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ก็เพลินดี ได้ลับสมองเป็นของแถม แล้วยังได้ลุ้นด้วยเพราะไม่รู้ว่ามันจะออกมาหน้าตาอย่างไร กินได้ไหม ก็เป็นบรรยากาศสนุกไปอีกแบบนะคะ


อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือดนตรี โดยมากร้านคาเฟ่จะเปิดดนตรีแจ๊สหรือบอสซาโนวา คงเพราะให้ความรู้สึกแจ่มใสรื่นเริง และสร้างบรรยากาศสบาย ๆ ได้ง่าย เดี๋ยวนี้มี BGM ทางยูทูปให้ฟังฟรีมากมาย สามารถเปิดคลอไปได้เรื่อย ๆ ตัวฉันเองก็มักเปิดเพลงแจ๊สฟังเวลาทำงาน เพราะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกราวกับบรรยากาศรอบตัวคลายความร้อนลง คงเพราะปกติจะได้ยินเพลงแจ๊สเวลาอยู่ในร้านกาแฟหรือร้านคาเฟ่เย็น ๆ เลยพลอยรู้สึกเหมือนอยู่ในที่เย็น ๆ ไปด้วย ถ้ามีชาหรือกาแฟสักถ้วย หรือโกโก้เย็นสักแก้วละก็ ยิ่งได้บรรยากาศคล้ายนั่งทำงานในร้านกาแฟเลย ทั้งที่ตัวอยู่บ้านนี่แหละ

ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับช่วงเวลาทำคาเฟ่ที่บ้าน ก็คือการที่เราได้พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางบรรยากาศที่บรรจงเสกสรรค์ขึ้นมา เพราะฉะนั้นจึงน่าจะเป็นการดีกว่ากันมากหากเพื่อน ๆ จะวางมือถือหรือแท็บเบล็ตลง ปิดโทรทัศน์ ใช้เวลานี้อยู่กับตัวเอง อยู่กับคนที่นั่งอยู่กับเรา สนทนากัน เพลิดเพลินกับอาหารเครื่องดื่มตรงหน้า และดนตรีสบาย ๆ ภายในช่วงเวลาอันร่มรื่นนี้ แล้วช่วงเวลาของคาเฟ่ที่บ้านจะมีความหมายกว่าที่คิดเยอะเลย ลองดูนะคะ
#2723


นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศไทยที่ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อการให้บริการทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วย COVID-19 ไม่สามารถเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลได้อย่างทันท่วงที ภาครัฐจึงได้นำแนวทางการรักษาแบบ Home Isolation หรือการรักษาตัวเองจากที่บ้านมาใช้ เพื่อช่วยให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือผู้ป่วย COVID-19 กลุ่มสีเขียวที่มีอาการไม่รุนแรง ได้เข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อ COVID-19 ที่อยู่ในกลุ่มสีเขียวได้เข้าถึงการรักษาของแพทย์ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน สมาคมประกันวินาศภัยไทย จึงได้มีแนวทางให้บริการกับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อ COVID-19 และรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation ให้เข้าถึงบริการ Telemedicine ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจากสมาคมนายหน้าประกันภัยไทยในการประสานงานกับผู้ให้บริการ Telemedicine พร้อมทั้งมอบหมายให้คณะทำงานของสมาคมฯ ประกอบด้วย นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ เลขาธิการสมาคมฯ นายปิยะพัฒน์ วนอุกฤษฏ์ ประธานคณะกรรมการประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ และ นายวาสิต ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจและวิชาการประกันภัย เพื่อดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ เลขาธิการ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้กล่าวถึงความร่วมมือกันระหว่าง สมาคมประกันวินาศภัยไทย ทรู ดิจิทัล และ Third Party Administration หรือ TPA ว่า เป็นบริการปรึกษาแพทย์ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH สำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ที่มีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล หากติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เอาประกันภัยสามารถเข้าถึงการดูแลรักษาของแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเบิกค่าสินไหมทดแทนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

สำหรับบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมในบริการ Telemedicine สำหรับผู้เอาประกันภัย COVID-19 มีจำนวน 16 บริษัท ได้แก่
1. บมจ.กรุงเทพประกันภัย
2. บมจ.เจมาร์ท ประกันภัย
3. บมจ.เดอะ วัน ประกันภัย
4. บมจ.ทิพยประกันภัย
5. บมจ.เทเวศประกันภัย
6. บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัย
7. บมจ.ธนชาตประกันภัย
8. บมจ.นวกิจประกันภัย
9. บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์
10. บมจ.ฟอลคอนประกันภัย
11. บมจ.เมืองไทยประกันภัย
12. บมจ.วิริยะประกันภัย
13. บมจ.สินมั่นคงประกันภัย
14. บมจ.อาคเนย์ประกันภัย
15. บมจ.เอเชียประกันภัย 1950
16. บมจ.เอฟดับบลิวดีประกันภัย

ADVERTISEMENT


ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด
ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด


ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล พัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ทรู เฮลท์ เพื่อเพิ่มช่องทางให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ได้ง่าย ๆ จากทุกที่ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล พร้อมมอบประสบการณ์ดูแลสุขภาพในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบครบวงจร ทั้งพบหมอออนไลน์ รับยาที่บ้าน และ เคลมประกันได้ ไม่ต้องสำรองจ่าย ด้วยฟังก์ชันใหม่ล่าสุด "เทเลเมดิเคลม" (TeleMediClaim+) ซึ่งความร่วมมือกับ สมาคมประกันวินาศภัยไทย และ TPA ในครั้งนี้ ทรู เฮลท์ ต่อยอดฟังก์ชัน "เทเลเมดิเคลม" ไปอีกขั้น เพิ่มทางเลือกให้ผู้ป่วย COVID-19 กลุ่มสีเขียวที่มีกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ของบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการ สามารถปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากชีวีบริรักษ์คลินิกเวชกรรม ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH ได้ทั้งในรูปแบบของการโทร แช็ต และวิดีโอคอล (VDO Call) พูดคุยกับแพทย์ได้จากทุกที่แบบเรียลไทม์ พร้อมมีบริการส่งยาตามใบสั่งแพทย์ถึงหน้าบ้านทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ และสามารถเคลมประกันเบิกค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ได้ทันที มั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งพลังในการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ให้สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง สะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาลและค่ายาด้วยความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19

ฐิตาพร ธารากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรี เซอร์วิสเซส จำกัด (THRES) 
ฐิตาพร ธารากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรี เซอร์วิสเซส จำกัด (THRES)


ด้าน นางฐิตาพร ธารากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรี เซอร์วิสเซส จำกัด (THRES) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการภายใต้แบรนด์ TPA ในการจัดการสินไหมทดแทนให้กับบริษัทประกันภัย กล่าวว่า บริษัทมีระบบเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลการตรวจสอบสิทธิและการเคลมของผู้เอาประกันภัย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการเคลมมืออาชีพ ได้ให้การสนับสนุนโครงการของสมาคมประกันวินาศภัยไทยในครั้งนี้ โดยแอปพลิเคชันของบริษัทจะรองรับข้อมูลการประกันภัยโควิดจากบริษัทประกันภัยและจะเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ทรู เฮลท์ แบบ Real Time เพื่อให้ผู้เอาประกันสามารถปรึกษาแพทย์ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH และรับยาได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมี mobile application ที่ชื่อ TPA Care ให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสิทธิความคุ้มครองด้วยตนเองได้อีกด้วย เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการ

ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยที่มีกรมธรรม์ประกันภัยซึ่งให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากโรค COVID-19 สามารถใช้บริการ Telemedicine ได้แล้ววันนี้ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน True HEALTH ที่แอปสโตร์และเพลย์สโตร์ และลงทะเบียนเพื่อเริ่มต้นใช้งาน จากนั้นตรวจสอบสิทธิ์กับเจ้าหน้าที่ผ่าน "แช็ต" และ ปรึกษาแพทย์ได้ทันทีหลังได้รับอนุมัติ โดยเลือกคลินิก "Telemedicine สำหรับผู้เอาประกันภัย" สมาคมประกันวินาศภัยไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในการให้บริการ Telemedicine ผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เอาประกันภัยที่ป่วยด้วยโรค COVID-19 และรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation ได้รับบริการทางการแพทย์ที่ดี สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยทุกคนหายป่วยจากโรค COVID-19 และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติได้โดยเร็ว



#สมาคมประกันวินาศภัยไทย #TGIATelemedicine #ทรูเคียงคู่สู้โควิด #TrueHEALTH #ทรูเฮลท์ #บริการส่งสุขภาพดีถึงที่
#2724


กรุงเทพฯ, 19 สิงหาคม 2564 – เอไอเอ ประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่ง ประกาศรุกตลาดประกันในกลุ่มเด็ก ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ 'AIA Health Happy – UDR' สัญญาเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต AIA Issara Plus โดยเป็นการผสานระหว่างความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพให้ครอบคลุม 360 องศา เพื่อส่งมอบความอุ่นใจแก่ผู้ปกครอง พร้อมตอบโจทย์ครบทุกความต้องการด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของบุตรหลาน โดดเด่นด้วยความคุ้มครองแบบ 'เหมา เบิ้ล คุ้ม' ไม่จำกัดวงเงินต่อการเข้ารักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง เพิ่มความคุ้มครองค่าห้องผู้ป่วยในถึง 365 วัน[1] นอกจากนี้ยังได้รับผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่า[2] ต่อเนื่องรวมเป็น 4 ปีกรรมธรรม์หากเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง รวมถึงบริการเสริมพิเศษจาก Medix[3] เดินหน้าปักธงยืนหนึ่งในด้านผลิตภัณฑ์ประกันในกลุ่มเด็กที่ดีและตอบโจทย์ที่สุด ควบคู่กับการเสริมแกร่งความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจร


นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า "เป็นระยะเวลากว่า 83 ปี ที่เอไอเอ ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจจากคนไทยในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตของประเทศ ด้วยจำนวนกว่า 1 ใน 3 ของกรมธรรม์ประกันชีวิตในประเทศไทยเป็นของเอไอเอ วันนี้เรามองเห็นโอกาสในตลาดประกันสำหรับเด็กในการมอบความคุ้มครองที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละช่วงชีวิต เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ประกันที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพของบุตรหลาน ได้คลายความกังวลใจเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ควบคู่กับการเพิ่มโอกาสให้บุตรหลานได้เข้ารับการรักษาที่ดีขึ้นเมื่อเจ็บป่วย ตามคำมั่นสัญญา 'Healthier, Longer, .ter Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น' ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ 'AIA Health Happy – UDR' ที่เราออกมาใหม่เพื่อเป็นสัญญาสุขภาพเพิ่มเติมแนบไปกับกรมธรรม์หลักนั้น จะทำหน้าที่เป็นเสมือนเกราะป้องกันให้ผู้ที่ถือกรมธรรม์สามารถก้าวผ่านทุกอุปสรรคในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ปัจจุบันยังคงมีความน่าเป็นห่วง และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่"

สัญญาสุขภาพเพิ่มเติม AIA Health Happy – UDR คือทางเลือกสำหรับผู้ที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต AIA Issara Plus ในการรับความคุ้มครองที่มากขึ้นและครอบคลุมยิ่งขึ้น ประกอบด้วย 4 แผนประกัน ที่มีมูลค่าความคุ้มครองเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ล้านบาท และสูงสุดที่ 25 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์ โดยมีอายุรับประกันภัยตั้งแต่ 1 เดือน – 75 ปี สามารถต่ออายุถึง 84 ปี และคุ้มครองต่อเนื่องไปจนอายุ 85 ปี โดยผู้เอาประกันสามารถใช้สิทธิ์ได้ ณ โรงพยาบาลชั้นนำโดยไม่ต้องสำรองเงินสด ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายจะถูกนำไปลงทุนในกองทุนรวม ให้ผู้ถือกรมธรรม์ได้อุ่นใจในระยะยาว พร้อมเพิ่มความมั่นคงให้กับความไม่แน่นอนตลอดทุกช่วงของชีวิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ เหมา-เบิ้ล-คุ้ม

เหมา – รับผลประโยชน์แบบเหมาจ่าย[4] ในส่วนของค่ารักษาพยาบาล

เบิ้ล – รับผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่า ต่อเนื่องรวมเป็น 4 ปีกรมธรรม์ กรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง
ครั้งแรก

คุ้ม – รับบริการจัดการดูแลผู้ป่วยรายบุคคลโดย Medix ที่พร้อมให้คำปรึกษาทางการแพทย์ ตลอดจนการดูแล
รักษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก สำหรับแผนความคุ้มครอง 15 ล้านบาท และ 25 ล้านบาท
รวมถึงเบี้ยประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายจะถูกนำไปลงทุนในกองทุนรวม

โดยผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ AIA Health Happy – UDR เริ่มขายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/3iSAjkG หรือ ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AIA Call Center โทร. 1581 ตลอด 24 ชั่วโมง

หมายเหตุ:

[1] ค่าห้องฯ และค่าห้อง ICU รวมกันแล้วไม่เกิน 365 วัน

[2] ผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัยเมื่อป่วยเป็นโรคร้ายแรงครั้งแรก

[3] รายละเอียดและเงื่อนไขสำหรับการพิจารณา การให้สิทธิประโยชน์ การให้บริการต่างๆ เป็นไปตามนโยบายการให้บริการ
ของ Medix ซึ่ง Medix เป็นบริษัทนอกกลุ่มบริษัทเอไอเอ และอยู่นอกเหนือจากการบริหารงานของเอไอเอ ทางเอไอเอจะ
ไม่รับผิดชอบต่อการบริการผลิตภัณฑ์ และข้อเสนอใดๆ ที่นำเสนอโดย Medix

[4] ผลประโยชน์เหมาจ่ายในบางรายการ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากกรมธรรม์ เมื่อรวมผลประโยชน์ในทุก
หมวดแล้วต้องไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์

*ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดรวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
#2725


นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่คลี่คลายส่งผลให้ผู้บริโภคยังมีความไม่มั่นใจในการซื้อที่อยู่อาศัยเท่าที่ควร แต่บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการในไตรมาส3 เพิ่มอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโต โดยยังคงเปิดตัวโครงการที่วางแผนไว้ว่าทั้งปีจะเปิดโครงการแนวราบจำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ทั้งในรูปแบบของทาวน์เฮ้าส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาทเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค

โดยขยายทำเลเพิ่มครอบคลุมพื้นที่ 4 ทำเลศักยภาพ ทั้งโซนเหนือ , โซนตะวันตก,โซนใต้ และโซนตะวันออก ของกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเพิ่มกำลังการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัย เพื่อลดต้นทุน ลดระยะเวลาในการก่อสร้างเร็วขึ้น ขณะเดียวกันมีการควบคุมเข้มเรื่องการบริหารต้นทุนในองค์กร มีระบบบริการดูแลลูกค้าให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอนวัตกรรมสมาร์ท อีโคและสมาร์ท แคร์

สำหรับผลการดำเนินงานของครึ่งปีแรกปี 2564 มีรายได้จากการขาย 1,401.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 6 เดือนแรกของ ปี 2563 ซึ่งมีรายได้จากการขาย 849.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 552.57 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65.08% บริษัทมีรายได้รวม 522.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.99 ล้านบาท ในไตรมาส2/2564
#2726


ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวว่า เขาและนางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จะเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

"เราจะรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น" ปธน.ไบเดนกล่าวในการสัมภาษณ์สำนักข่าวเอบีซี

ด้านผู้นำด้านสาธารณสุขของสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะเริ่มทำการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้แก่ชาวอเมริกันในเดือนก.ย. หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันไวรัสโควิด-19 จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป


"เราได้เตรียมพร้อมที่จะทำการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ชาวอเมริกันทุกคนเริ่มตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 20 ก.ย." แถลงการณ์ระบุ

แถลงการณ์ดังกล่าวลงนามโดยแพทย์หญิงโรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (ซีดีซี), แพทย์หญิงเจเน็ต วู้ดคอก รักษาการประธานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ), นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว และผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (เอ็นไอเอไอดี) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอีกหลายราย

การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากเอฟดีเอและการพิจารณาทบทวนของคณะกรรมการที่ปรึกษาวัคซีนของซีดีซี ส่วนผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ได้แก่ ผู้ที่เคยได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นามาก่อน

ซีดีซี เปิดเผยว่า ในขณะนี้ ชาวอเมริกันจำนวน 72.2% ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 1 เข็ม ขณะที่จำนวน 61.8% ได้รับการฉีดครบโดสแล้ว
#2727


นายเสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้อำนวยการ ฝ่ายค้าตราสารการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ช่วงกลาง หรือ Mid Cycle หลังผ่านพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว สะท้อนจากภาพรวมเศรษฐกิจของหลายประเทศที่กลับมาฟื้นตัว จากการบริโภคภาคเอกชนและภาคบริการที่ปรับตัวดีขึ้น หลังมีการกระจายฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บางประเทศเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด

โดยเฉพาะสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหรัฐอเมริกาที่สามารถฟื้นตัวได้ก่อนประเทศอื่น ๆ เห็นชัดจากตัวเลขจีดีพี ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ขยายตัว 7.9% และ 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามลำดับ ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาคาดการณ์ว่า ตัวเลขจีดีพี ในปี 2564 ของจีนและสหรัฐฯ อาจเติบโตประมาณ 7% และ 8.4% ตามลำดับ หลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับมาอยู่ในระดับปกติ จากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น จากมุมมองดังกล่าว รายงาน BLS Top Funds แนะนำผู้ลงทุนให้น้ำหนักการลงทุนใน "กองทุนหุ้นจีน" และ "กองทุนหุ้นสหรัฐ" เน้นกองทุนรวมคุณภาพดีที่ลงทุนในบริษัทที่มีรายได้และกำไรแน่นอนเป็นหลัก และกระจายการลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำที่มีอัตราการเติบโตสูง ประกอบด้วย

1. กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) ที่มีการบริหารจัดการพอร์ตแบบยืดหยุ่น โดยสัดส่วน 80% ลงทุนหุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในทุกตลาด เช่น A-Share และ H-Share เป็นต้น ซึ่งผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา สามารถบริหารจัดการได้ดีอยู่ในอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม จากการบริหารพอร์ตแบบเชิงรุก (Active)
"ตลาดหุ้นจีนที่มีการปรับฐานในช่วงที่ผ่านมา บวกกับแนวโน้มเศรษฐกิจระยะยาวที่อาจเติบโตต่อเนื่อง ถือเป็นโอกาสดีในการทยอยสะสมกองทุนหุ้นจีน โดยเฉพาะกอง B-CHINE-EQ เพราะกองนี้มีนโยบายกระจายการลงทุนไปในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ได้โฟกัสเพียงกลุ่มเทคโนโลยีจีนอย่างเดียว ฉะนั้นกองทุนนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลจีนเข้ามาควบคุมวงการเทคโนโลยีมากนัก ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีให้ลงทุนในรูปแบบลดหย่อนภาษีอย่าง กองทุน B-CHINAARFM ซึ่งเป็นกอง RMF เน้นลงทุนหุ้นจีน A-Share และ กอง B-CHINESSF ที่ลงทุนในหุ้นจีนทั่วโลก" นายเสริมศักดิ์ กล่าว

2.กองทุนรวมเปิดบัวหลวงโกล.อินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) และ กองทุนเปิดบัวหลวงโกล.อินโนเวชั่นและเทคโนโลยีเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-INNOTECHRMF) เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯอย่าง"กลุ่ม FAANG" ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย Facebook (FB), Amazon (AMZN), Apple (AAPL), Netflix (NFLX) และ Alpha. (GOOG) โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำเหล่านี้มีพื้นฐานแข็งแกร่งเติบโตล้อไปกับเมกะเทรนด์ของโลก แม้ความคาดหวังการเติบโตไม่สูงเท่ากับบริษัทเทคฯขนาดเล็ก แต่การที่เป็นบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่ย่อมมีความได้เปรียบด้านการแข่งขัน รวมถึงมีความแน่นอนของรายได้และกำไรที่มากกว่า และในยุคนี้เทคโนโลยีถือเป็นสิ่งจำเป็นมาก ที่สำคัญในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองกองทุนสร้างผลตอบแทนได้แล้วประมาณ 47% ในขณะความผันผวนต่ำ เมื่อเทียบกับกองเทคฯ อื่นๆ
ในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะดี ในการเริ่มต้นวางแผนภาษีประหยัดภาษี ด้วยการทยอยสะสมกองทุนคุณภาพที่มี ผลการดำเนินงานดี โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกออมกองทุนรวม เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 รูปแบบ คือ 1.กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) เหมาะกับคนอายุน้อยและต้องการออมเงินระยะยาว ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน ซื้อปีไหนลดหย่อนปีนั้น แต่ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ ซึ่งสามารถนำไปลดภาษีเงินได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ต้องไม่เกิน 2 แสนบาท เมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้อง ไม่เกิน 5 แสนบาท 2. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินระยะยาวไว้ใช้จ่ายยามเกษียณอายุ ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี เว้นได้ไม่เกิน 1ปี ผู้ลงทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีสูงสุด 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และเมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 5 แสนบาท

"ผู้ที่มีอายุยังไม่ถึง 45 ปี แนะนำให้ลงทุนกองทุน SSF ให้เต็มที่ก่อน จากนั้นค่อยลงทุนเพิ่มในส่วนของกองทุน RMF เพราะไม่ต้องรอจนถึงอายุ 55 ปี ส่วนผู้ที่อายุเกินกว่า 45 ปี ให้ลงทุนกองทุน RMF ให้เต็มที่ เนื่องจากไม่ต้องถือถึง 10 ปี โดยเมื่ออายุ 55 ปี และมีการลงทุนต่อเนื่องจนครบเงื่อนไข ก็จะสามารถขายได้ทุกกองที่ลงทุนมา" นายเสริมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถติดตาม BLS Top Funds รายงานอัปเดตสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกแบบ Weekly พร้อมคำแนะนำ "กองทุนตัวท็อป" คุณภาพดี ผลงานเด่น และการจัดพอร์ตกลยุทธ์เชิงเทคนิค (Tactical Funds Portfolio) จากทีมงานมืออาชีพมากประสบการณ์ ที่มาแนะนำให้กับลูกค้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ได้ที่เว็บไซต์หลักทรัพย์บัวหลวง เลือกเมนู "Mutual Funds" เลือกข้อมูลกองทุน และเลือกหัวข้อ "BLS Top Funds" ส่วนบุคคลทั่วไปที่สนใจรับรายงาน BLS Top Funds เพียงเปิดบัญชีกองทุนรวมออนไลน์ที่มีความสะดวก ง่าย ปลอดภัย ซื้อขายกองทุนได้ครบจบที่เดียว 17 บลจ. ได้ที่ www.bualuang.co.th สอบถามเพิ่มเติม 0-2618-1111
#2728


หลังจากออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ส.ค.64 ออกรางวัลที่ 1 หมายเลข 046750 โดยมีผู้โชคดีเป็นเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นในอ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จำนวน 2 ราย โดยหวยออนไลน์รายแรกเดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยมีร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี พนักงานสอบสวนร้อยเวร สภ.วังน้ำเย็น เป็นผู้รับแจ้งความ


จากการสอบถามทราบว่า ผู้ถูกรางวัลที่ 1 คือ นายขวัญประชา หมื่นแสน อายุ 37 ปี ชาวต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น ทำงานอยู่ที่โรงงานน้ำตาลวังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว หลังจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลประกาศผลการออกลอตเตอรี่งวดวันที่ 16 ส.ค.64 และทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 คือสลากงวดที่ 31 ชุดที่ 13 หมายเลข 046750 และสลากงวดที่ 31 ชุดที่ 14 หมายเลข 046750 รวม 2 ใบ ซึ่งซื้อมาจากพ่อค้าเดินขายสลาก ที่ยังเหลือเยอะในแผง จึงได้ถามว่ามีเลขท้าย 750 หรือไม่ คนขายแจ้งว่ามีหวยชุด 2 ใบ มี 3 ชุด แต่ตนเลือกมาชุดหนึ่ง 2 ใบ และโชคดีถูกรางวัลที่ 1 พอดี จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ที่ถูกรางวัลที่ 1 อีกาย ทราบว่าเป็นแม่ค้าในตลาดวังน้ำเย็น บ้านอยู่ที่บ้านสวนป่า ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 046750 เช่นกัน เป็นเงิน 6 ล้านบาท ส่งผลให้งวดนี้ มีคนในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ถูกลอตเตอรี่ถึง 3 ใบ รวมเป็นเงิน 18 ล้านบาท
#2729


ด้วยสำนึกในความเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ในช่วงวิกฤติ COVID-19 จึงไม่อาจนิ่งเฉยต่อความทุกข์ยากของคนในชุมชน เมื่อเร็วๆ นี้ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีที่ตั้ง ณ ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ได้จัดสรรปรับปรุงอาคาร "ห้องเรียนปลายเนิน" ซึ่งเดิมใช้เพื่อการเรียนการสอนของอาจารย์ชาวต่างประเทศ และอาคาร "บ้านกลางน้ำ" ซึ่งใช้ทำกิจกรรมของนักศึกษา เป็น "ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล" (Mahidol University Community Isolation - MUCI) ตรวจคัดกรองและดูแลอาการของผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในเบื้องต้น ขนาด 20 เตียง เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่เป็นชาวชุมชนตำบลเขาทอง ซึ่งเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสีแดงเข้ม 29 จังหวัดของประเทศ และประสบปัญหาโรงพยาบาลชุมชนประจำท้องถิ่นเตียงเต็มจนไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่ม พร้อมจัด 2 สูตรยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนเพื่อการบำรุงและรักษาอาการของโรค COVID-19

อาจารย์ แพทย์หญิงมนทกานติ์ โอประเสริฐสวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า วิทยาเขตนครสวรรค์ มีความพร้อมทั้งในด้านอาคารสถานที่ บุคลากรทางการแพทย์ องค์ความรู้ด้านส่งเสริมสุขภาวะ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น โดยได้มีการจัดตั้ง "ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ " เพื่อเป็นที่พึ่งทางสุขภาวะของประชาชนในชุมชนมาเป็นเวลากว่า 2 ปี เมื่อเร็วๆ นี้ได้ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลเขาทอง โรงพยาบาลพยุหะคีรี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบลเขาทอง และวัดเขาทอง เปิดศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล" (Mahidol University Community Isolation - MUCI) ขึ้น ภายในวิทยาเขตฯ โดยรับผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการไปจนถึงมีอาการเล็กน้อย มาพักคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ในอาคารซึ่งปรับปรุงจากอาคารเรียนและอาคารทำกิจกรรมที่อยู่แยกจากพื้นที่หลักของวิทยาเขตฯ โดยมีนักศึกษาและบุคลากรของวิทยาเขตฯ พร้อมต้อนรับช่วยเหลือ

"ปัญหาโรคระบาด ถือเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดปรากฏการณ์พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วประเทศ จนโรงพยาบาลต่างๆ ไม่สามารถรองรับได้ และมีจำนวนไม่น้อยที่ถูกปฏิเสธจากบางชุมชนที่ตนอยู่ในขณะนี้ ซึ่งการที่ชาวชุมชนตำบลเขาทองได้ร่วมแรงร่วมใจทำ Community Isolation ให้เกิดขึ้นนี้ คาดว่าจะสามารถช่วยจุดประกายให้ชุมชนอื่นๆ ได้ต่อไป โดยจะไม่มองว่าเป็นปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแล และเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ต่อไปได้" อาจารย์ แพทย์หญิงมนทกานติ์ โอประเสริฐสวัสดิ์ กล่าว

นอกจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากการปรับปรุงอาคาร "ห้องเรียนปลายเนิน" และอาคาร "บ้านกลางน้ำ" ให้เป็น "ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล" (Mahidol University Community Isolation - MUCI) แล้ว ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีความโดดเด่นด้านแพทย์แผนจีน ยังได้คิดค้นสูตรยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนสำหรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่มาพำนักที่ ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล" (Mahidol University Community Isolation - MUCI) จากยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนที่มีอยู่แล้วของแผนกแพทย์แผนจีน ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ถึง 2 สูตรด้วยกัน

แพทย์แผนจีน ธนัตเทพ เตระทวีดุลย์ หัวหน้าฝ่ายแพทย์ทางเลือก ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ได้เปิดเผยถึง 2 สูตรยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนที่ทางศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จัดไว้ในลักษณะบรรจุเสร็จสำหรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่มาพำนักที่ ศูนย์พักคอยกันภัยมหิดล" (Mahidol University Community Isolation - MUCI) ตลอด 14 วันว่า ได้มาจากการศึกษาวิจัยของจีนซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย แล้วนำมาปรับเป็นสูตรเฉพาะของศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์

ซึ่งยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนสูตร 1 ที่จัดสำหรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการจะเป็นยาบำรุง ส่วนยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนสูตร 2 จัดสำหรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อย ให้ดื่มได้ตามความสมัครใจ 1 ซอง / 1 มื้อ เช้า - เย็น โดย แพทย์แผนจีน ธนัตเทพ เตระทวีดุลย์ ได้กล่าวถึงตัวยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนหลักที่ใช้เป็นยาบำรุงว่า มี 3 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ "ปักคี้" ที่มีรสหวาน สรรพคุณบำรุงปอด และลดอาการบวม "ไป๋จู๋" ที่มีรสขมและหวาน บำรุงม้าม ขับปัสสาวะ และระงับเหงื่อ และ "ฝางเฝิง" ที่มีรสเผ็ดและหวาน บำรุงตับ ระงับปวด และป้องกันไข้หวัด

โดยยาสมุนไพรแพทย์แผนจีนทั้ง 3 ชนิดนี้รวมกันเป็นตำรับ "ยวี่ผิงเฟิงซ่าน" ซึ่งเป็นตำรับยาที่มีใช้มาอย่างยาวนาน โดยเป็นยาที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน กระตุ้นระบบย่อยอาหาร บำรุงปอด และม้าม มีฤทธิ์ขับพิษอ่อนๆ ส่วนยาเพื่อการรักษาควรจัดโดยแพทย์แผนจีนเท่านั้น ไม่ควรหามารับประทานเอง

แพทย์แผนจีน ธนัตเทพ เตระทวีดุลย์ ได้กล่าวให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงการใช้ยาสมุนไพรแพทย์แผนจีน ควบคู่กับยาสมุนไพรแพทย์แผนไทยว่าสามารถทำได้ โดยยาสมุนไพรบางชนิดที่ใช้ทั้งในแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนไทยก็มี เช่น ดอกคำฝอย (หงฮวา) ชะเอมเทศ (กำเช่า) โกฐเชียง (ตังกุยเหว่ย) ฯลฯ ส่วนยาที่ไม่ควรรับประทานร่วมกันก็มี เช่น ยาสมุนไพรแพทย์แผนจีน "เหลียนฮัวชิงเวินเจียวหนัง" ซึ่งที่มีฤทธิ์เย็นใช้รักษาโรค COVID-19 หากรับประทานร่วมกับยาสมุนไพรแพทย์แผนไทย "ฟ้าทะลายโจร" ซึ่งใช้รักษาโรค COVID-19 และมีฤทธิ์เย็นเช่นเดียวกัน ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการไข้ไม่สูงมาก จะทำให้ร่างกายเกิดความเย็นที่มากจนเกินไป เป็นต้น ทั้งนี้ ควรปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์แผนจีนก่อนการรับประทานยาทุกครั้ง

เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนในวงกว้าง ในเร็ววันนี้จะได้มีการเผยแพร่สูตรสมุนไพรยาแพทย์แผนจีนทั้ง 2 สูตรของศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ทาง Facebook : "ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์" และ "แผนกแพทย์แผนจีน ศูนย์การแพทย์มหิดลบำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์" ต่อไป โดยประชาชนผู้สนใจสามารถติดตามและสอบถามรายละเอียดได้ทาง inbox ของทั้ง 2 เพจดังกล่าว
#2730


นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) (PREB) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 ว่า บริษัทยังคงสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งรายได้และกำไรท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิรวม 61.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.32 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากถึง 85.53% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 33.11 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หรือไตรมาส1 ปี 2564 มีกำไรเพิ่มขึ้น 3.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.53% โดยส่วนใหญ่เป็นกำไรจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีการทยอยโอนบ้านในโครงการ "พรรณนา" เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรสุทธิโดยรวมเพิ่มขึ้น

ขณะที่ไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้ 1,128.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,068.80 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 900.10 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง 85.84 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 142.27 ล้านบาท



นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไตรมาส 2 ปีนี้แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ทุกธุรกิจของบริษัทสามารถรักษารายได้และกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญสามารถสร้างอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและควบคุมต้นทุนด้านต่างๆ และการรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เข้ามาเป็นบวกในไตรมาสแรก

โดยไตรมาส 2 บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 145.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 12.90% สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้อยู่ที่ 9.00% โดยธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีอัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้ 9.31% ดีขึ้นกว่าปีก่อน ที่อยู่ที่ 7.56% เนื่องจากบริษัทสามารถปรับโครงสร้างราคาได้ทันสถานการณ์ที่สอดคล้องกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน รวมถึงสามารถรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ในส่วนของธุรกิจงานขายและผลิตวัสดุก่อสร้างยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 25.81% ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีอัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้ในระดับสูงที่ 27.88%

"ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดในเซ็กเมนต์นี้ยังมีกำลังซื้อและมีความต้องการซื้ออยู่ ซึ่งเอื้อต่อธุรกิจขายและผลิตวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทที่เน้นบ้านแนวราบหรูไฮเอนด์ ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างนั้น บริษัทมีงานสัญญาสร้างในมือ (backlog) มากกว่า 8,000 ล้านบาท แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้างทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้บริษัทมีภาระเรื่องความไม่แน่นอนของการทำงาน รวมถึงต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้นได้ตลอดเวลาจากการสั่งหยุดงานจากมาตรการของภาครัฐ ซึ่งทำให้บริษัทต้องหาวิธีรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนตลอดเวลา จึงได้มีการปรับฐานราคาการรับงาน และปรับราคาสัญญาก่อสร้างรายใหม่ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนด้านต่างๆ ซึ่งส่งผลให้บริษัทยังสามารถสร้างผลกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่องและสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ได้ในระดับสูงในทุกธุรกิจ" นายวิโรจน์ กล่าว



นายวิโรจน์ ยังได้กล่าวถึงธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ไตรมาส 2 นี้ มีรายได้จากยอดโอนถึง 142.27 ล้านบาท สำหรับโครงการ "พรรณนา" บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทลงทุนเองเป็นโครงการแรก และได้ผลตอบรับที่ดีจากเฟส 1 ที่ปิดการขายไปเป็นที่เรียบร้อย และได้เปิดเฟส 2 ทันทีในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งยังคงได้การตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน โดยลูกค้ายังมั่นใจและให้ความสนใจเข้าชมโครงการอย่างต่อเนื่อง แม้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยขณะนี้มีการจองซื้อโครงการแล้วคิดเป็นมูลค่ากว่า 760 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการกว่า 1,250 ล้านบาท ซึ่งทำให้มียอด Backlog สะสม ที่จะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปีหน้า

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการ "พิมนารา ศรีนครินทร์-บางนา" โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทลงทุนเองทั้งหมดเช่นกัน โดยจะเปิดรอบ Exclusive Preview ให้ลูกค้าที่สนใจที่ลงทะเบียนมาก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 จองแปลงสวยโซนด้านหน้าในราคาพิเศษก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า ทั้งจากแบบบ้าน รวมถึง Concept โครงการที่มีอัตลักษณ์ความเป็น JAPANDI ผสมผสานวัสดุร่วมสมัยในงานสถาปัตยกรรม ภายใต้แนวคิด LESS FOR MORE LIVING

ทั้งนี้ มั่นใจว่าจากแผนดำเนินงานต่างๆ ที่เป็นไปตามเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพจะส่งผลให้ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ บริษัทยังสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งรายได้ และกำไรเมื่อเทียบกับปีที่แล้วในทุกๆ ส่วนงาน ทั้งพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง และส่วนงานผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง สวนกระแสจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และปัจจัยลบต่างๆ ตลอดปีนี้
#2731


วันนี้ (16 ส.ค.)​ นายสัคศิษฐ์ มุ่งการ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด เผยถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด -​19 ระลอก 3 ว่าได้ส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะ​การท่องเที่ยวบนเกาะช้าง ที่ในวันนี้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมากถึง 90% 

ส่วนที่เหลือแค่เพียง 10 % ล้วนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทีอาศัยอยู่ในประเทศไทย และลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนเท่านั้น

ขณะที่ค่าใช้จ่ายและต้นทุนของผู้ประกอบการ​โรงแรมยังคงมีเท่าเดิม จนทำให้โรงแรมขนาดเล็ก และรีสอร์ทบางแห่ง รวมทั้งโฮมสเตย์ ต้องปิดตัวไปแล้วกว่า 40% ส่วนที่ปิดอยู่ก็มีนักท่องเที่ยวเพียง 10-20 คนเท่านั้น



" แม้ในวันนี้จะมีชาวตราด ที่ติดเชื้อโควิด-19 เพียง1,340 คน แต่ด้วยมาตรการของ ศบค.ซึ่งผู้ประกอบการ​ท่องเที่ยวต้องปฎิบัติ​อย่างเคร่งครัดในหลายด้านก็ทำให้ได้รับผลกระทบตามไปด้วย และล่าสุดสภอุาตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.ตราด จึงได้ว ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ หามาตรการเพื่อฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวให้ลักลับคืนมาให้ได้เร็วที่สุด "

โดยเฉพาะในวันนี้ที่ธุรกิจท่องเที่ยวใน อ. เกาะช้างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ ส่วนนักท่องเที่ยวไทยแม้จะเดินทางท่องเที่ยวได้แต่ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ ศบค.

" ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด พยายามที่ผลักดันให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัด เร่งสนับสนุนการฉีดวัคซีนในพื้นที่ อ.เกาะช้าง ให้ได้เกิน 70% ซึ่งก็ได้รับการตอบรับแล้ว ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็จะได้หาวัคซีนเพิ่มจากหน่วยงานอื่นๆซึ่งก็ได้รับมาแล้วอย่างชิโนฟาร์ม"



นอกจากนั้นผู้กอบการยังได้สำรวจจำนวนประชากรแฝงทั้งกลุ่มแรงงานต่างด้าว ชาวต่างชาติ และชาวไทยที่เข้ามาทำงานในพื้นที่เพื่อจะได้สร้างระบบ"SHA PLASE"ของเกาะช้าง รองรับการเปิดการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ เพื่อให้สอดรับกับโครงการ"พัทยา มูฟออนน์"อีกด้วย
 
#2732
ใครที่ตอนนี้ได้รับผลกระทบจากโควิด ตกงาน ปิดกิจการ รายได้ลดลง หนี้สินท่วมตัว เงินไม่พอใช้

อยากมาศึกษาออนไลน์ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร กลัวเจ๊ง คอร์สนี้มีคำตอบ

ออนไลน์ ไม่ใช่ทางเลือก แต่คือ "ทางรอด"

คอร์สออนไลน์  6 วัน 6 วิชา        
- 6 เสาหลักสร้างเพจปัง       
- ยิงแอด facebook ให้ได้ผล        
- แต่งภาพสวยง่าย ๆ จากมือถือ         
- การตลาดบน Tik Tok ให้มีคนติดตามหลักแสน       
- เปิดร้านบนไอจี Instragram
- เคล็ดลับแม่ค้าออนไลน์ร้อยล้าน

สอนแบบจับมือทำ ตั้งแต่พื้นฐาน จนเป็นมืออาชีพ
สอนจากประสบการณ์จริง โดยอาจารย์ที่มีรายได้กว่า 100 ล้านบนโลกออนไลน์
สอนสด ผ่านแอปซูม เรียนได้จากที่บ้าน

เวลาเรียน 19.00 - 22.30

ปรกติคอร์สนี้ราคา 9,800.-
พิเศษ !!!  เฉพาะช่วงโควิด ปรับโปรช่วยชาติ เหลือเพียง 98 บาท!!!
ย้ำ !!! รับจำนวนจำกัดเพียง 20 ท่าน ที่จัดสรรเวลาได้ !!!

คลิ๊กดูรายละเอียดคอร์ส
https://drive.google.com/file/d/1fZIP-BhrqgnSHAb-4HZezzgtKL9qKHFR/view?usp=drivesdk

สนใจ สามารถแอดไลน์สอบถามที่ @049dhubr หรือลิงค์ไลน์
https://lin.ee/4zIaPti

หรือโทร 098-378-1371, 098-378-1373

***เรียนไม่คุ้ม คืนเงินทันที ***
#2733


วันนี้ (15ส.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีคนไทยกับตัวเลข/สถิติเกี่ยวกับ โควิด-19 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,270 คน ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2564 พบว่า ในช่วงโควิด-19 ส่วนใหญ่ติดตามข้อมูลตัวเลขและสถิติจากโทรทัศน์ ร้อยละ 71.84 และโซเชียลมีเดีย ร้อยละ 70.49 ใช้เวลาในการติดตามน้อยกว่า 30 นาทีต่อวัน เรื่องที่สนใจติดตาม คือ ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวัน ร้อยละ 92.33 และมองว่าข้อมูลปัจจุบันค่อนข้างน่าเชื่อถือ ร้อยละ 45.87 โดยเห็นว่าข้อมูลเหล่านี้ช่วยสะท้อนให้เห็นแนวโน้ม ระดับความรุนแรงของโควิด-19 ร้อยละ 89.29 และอยากให้นำเสนอข้อมูลที่ชัดเจน ไม่ปกปิด ร้อยละ 92.01 เมื่อติดตามข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลข/สถิติแล้วรู้สึกค่อนข้างเครียดและวิตกกังวลพอสมควร ร้อยละ 57.05

นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยปฏิเสธไม่ได้ว่าในสถานการณ์ใด ๆ ก็ตาม การรายงานข้อมูลแบบตัวเลขและสถิติเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เพราะทำให้ประชาชนเห็นภาพรวมและเข้าใจถึงความหนัก-เบาของสถานการณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการสื่อสารข้อมูลตามความเป็นจริง ชัดเจน ตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
ศาสตราจารย์ธานินทร์ สิทธิวิรัชธรรม คณะวิๆทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผย ตัวเลขเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตมนุษย์ตั้งแต่ตอนที่มนุษย์รู้จัก "การเทียบสิ่งของด้วยวิธีหนึ่งต่อหนึ่ง" เช่น เทียบสัตว์ 1 ตัว กับ นิ้วมือ 1 นิ้วหรือก้อนหิน 1 ก้อน ส่วนคำว่า สถิติ คือวิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific method) ซึ่งจะช่วยในการประเมินและตัดสินใจต่อสถานการณ์หรือปัญหาต่าง ๆ ในสภาวการณ์ปัจจุบัน หากได้รับข้อมูลตัวเลขและสถิติเกี่ยวกับโควิด-19 ก่อนอื่นต้องตรวจสอบแหล่งที่มาการเผยแพร่ก่อนว่าเป็น Fake News หรือไม่ เราทุกคนต้อง อย่าตื่นตระหนกแต่ให้ตระหนักอย่างมีสติ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องเชื่อมั่นในนโยบายของรัฐบาลและปฏิบัติตนตามข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ในขณะที่ทางฝ่ายรัฐบาลเองจะต้องเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา ชัดเจน และตรวจสอบได้ หากประชาชนเชื่อใจในรัฐบาล ก็จะเกิดความเชื่อมั่นในนโยบาย ทำให้เชื่อถือในกฎเกณฑ์ข้อกำหนด ต่าง ๆ เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลทำให้เราทุกคนผ่านวิกฤตินี้ไปได้อย่างแน่นอน
#2734


เมื่อวันที่ 14 ส.ค. แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่าโรงพยาบาลสนามราชานุกูล เพื่อเด็กพิเศษและครอบครัวได้จัดตั้งภายในสถาบันราชานุกูลใช้พื้นที่บริเวณโรงเรียนราชานุกูล 2 อาคาร เบื้องต้นสามารถ รองรับผู้ป่วยได้จำนวน 100 เตียง ถือเป็นโรงพยาบาลสนามเฉพาะเด็กพิเศษ และครอบครัวแห่งแรกที่ติดเชื้อโควิดแต่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อยซึ่งจะให้การดูแลเด็กพิเศษอายุ 3-13 ปี พร้อมสมาชิกในครอบครัวที่อายุไม่เกิน 60 ปี

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดและการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยรอบที่ 3 มีเด็กและวัยรุ่น เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 14 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในประเทศไทยสาเหตุมาจากรูปแบบการแพร่ระบาดเปลี่ยนจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง คลัสเตอร์แรงงานมาเป็นการติดเชื้อภายในครอบครัวแทน

อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวย้ำว่าเด็กพิเศษเมื่อเจ็บป่วยต้องได้รับความรักและความใส่ใจจากคนใกล้ชิดร่วมกับทีมแพทย์ โรงพยาบาลสนามแห่งนี้จึงมีความพิเศษที่จัดรูปแบบการรักษาใกล้เคียงกับบ้านให้มากที่สุดทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและผู้ที่เด็กคุ้นเคย
ด้านแพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวถึงความสำเร็จของการตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ว่าเป็นการประสานความร่วมมือหลายภาคส่วนประกอบด้วยกรุงเทพมหานครสนับสนุนด้านอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อมให้ได้ มาตรฐานบับเบิ้ลแอนด์ซีล (Bubble & Sealed) ภาคเอกชนสนับสนุนนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกระหว่าง รักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม อาทิโปรแกรมแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ระบบกรองเชื้อระบายอากาศ เครื่องฆ่าเชื้อยูวีซี ประจำห้องเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อและฆ่าเชื้อและโปรแกรมครอบครัวแห่งสติเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันทางใจ

ขณะที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทำหน้าที่ ในการประสานส่งต่อและให้ความช่วยเหลือด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการในระหว่างที่เด็กพิเศษและครอบครัวพักรักษาตัว อยู่ในโรงพยาบาลสนามรวมทั้งแผนการให้ความช่วยเหลือและติดตามภายหลังหายจากอาการป่วยและปลอดเชื้อโควิดเดินทาง กลับสู่ชุมชน

กระทรวงสาธารณสุขโดยสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิตเข้ามาดูแลผู้ติดเชื้อที่เป็นเด็กพิเศษร่วมกันกับสถาบันเด็ก แห่งชาติมหาราชินี และโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ที่ต้องการบริการแบบพิเศษด้วยการสนับสนุนทีมผู้ดูแลรักษามืออาชีพ ประกอบด้วย จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กุมารแพทย์ อายุรแพทย์ พยาบาล ทีมสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดเหมาะกับเด็กพิเศษและติดตามภาพถ่าย เอกซเรย์ปอดอย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาที่พักรักษาตัวรวมทั้งวางแผนการส่งต่อกรณีฉุกเฉิน
โรงพยาบาลสนามราชานุกูลเพื่อเด็กพิเศษและครอบครัวพร้อมเปิดให้บริการในวันเสาร์ที่14 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

ครอบครัวที่มีเด็กพิเศษ (สติปัญญาบกพร่อง ออทิสติก สมาธิสั้น และบกพร่องการเรียนรู้) ที่ผลตรวจโควิดด้วย Antigen test kit เป็นบวกสามารถติดต่อสำหรับประสานส่งต่อเข้าโรงพยาบาลสนามฯ ได้ที่ 084-107-8129 , 065-885-0584 และ 097-078-0696
#2735


นางสาวนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพลัสฯ ได้มีมาตรการที่ครอบคลุมทุกมิติด้านการดูแลและป้องกันโควิด-19 ในโครงการที่อยู่อาศัยกว่า 85,000 ครัวเรือน มีการตั้งการ์ดเชิงรุก และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพ อย่างทันท่วงทีในทุกสถานการณ์ สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีในส่วนของการดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน (Home Isolation) พลัสฯ ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือดูแลและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มกำลัง ในกรณีที่มีลูกบ้านที่ติดเชื้อระดับสีเขียวและประสงค์ที่จะกักตัวและรักษาตัวแบบโฮม ไอโซเลชั่น เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนเตียงสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก

พลัสฯ จึงได้เพิ่มการดูแลช่วง โฮม ไอโซเลชั่นผ่าน 4 มาตรการหลัก – ตรวจสอบ, ติดตาม, ประสานงาน, ดูแล ดังนี้ 1.ตรวจสอบ สรุปจำนวนและข้อมูลผู้ติดเชื้อในโครงการ รวมทั้งขอเบอร์ติดต่อญาติหรือผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน เตรียมพร้อมเบอร์ติดต่อโรงพยาบาลที่ดูแลลูกบ้านผู้ป่วยแบบ โฮม ไอโซเลชั่น2.ติดตาม โดยทีมนิติบุคคลมีการโทรหาลูกบ้านหรือติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นในทุก ๆ วัน เพื่อสอบถามอัพเดตอาการ

3.ประสานงาน ช่วยประสานติดต่อสถานพยาบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีลูกบ้านที่เป็นผู้ป่วยมีอาการทรุด รวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกด้านการใช้ชีวิตในเรื่องต่าง ๆ ในระหว่างการ โฮม ไอโซเลชั่นและ 4.ดูแล ด้านการช่วยรับอาหาร พัสดุ และของใช้จำเป็นของลูกบ้าน และนำไปส่งถึงหน้าห้องพัก และมีการทำความสะอาดเข้มข้นในบริเวณโถงทางเดินในชั้นดังกล่าว มีตารางการเก็บขยะถึงหน้าห้องพัก รวมทั้งมีการมอบน้ำเปล่า และเตรียมจัดหาฟ้าทะลายโจรให้ลูกบ้านที่รักษาแบบโฮม ไอโซเลชั่นอีกด้วย

นอกจากนี้ยังตั้งการ์ดเชิงรุกและยังคงเข้มข้นมาตรการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในโครงการอย่างเคร่งครัด มีการตรวจคัดกรองก่อนเข้าพื้นที่โครงการ ทำความสะอาดและพ่นฆ่าเชื้อในโครงการ มีมาตรการเคลื่อนย้ายส่งตัวผู้ป่วย มีการอัพเดตข่าวสารสถานการณ์โควิด-19 ผ่านป้ายประกาศและโฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น รวมทั้งมีการให้ข้อมูลและเบอร์ติดต่อแนะนำสถานพยาบาลและ Hospitel ใกล้เคียง รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น กิจกรรม LIVE พูดคุยกับนักจิตบำบัดลดความกังวลใจช่วงโควิด หรือการแบ่งปันผักผลไม้และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากวัตถุดิบในสวนโครงการ นอกจากนี้พลัสฯ ยังมีการปลูกพืชสมุนไพรอย่างฟ้าทะลายโจรและกระชายในกว่า 230 โครงการอีกด้วย เพื่อเตรียมนำไปแปรรูปและแจกจ่ายให้ลูกบ้านในอนาคต

"พลัสฯ พร้อมเดินหน้าสนับสนุนโครงการ No One Left Behind #แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร โดยร่วมมือกับแสนสิริในการให้ความช่วยเหลือและดูแลทุกครอบครัวในโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งพนักงานพลัสฯ ทุกคนอยู่ในกลุ่ม Vaccinated ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 100% เรียบร้อยแล้ว จึงมีความพร้อมในการดูแลให้ความช่วยเหลือลูกบ้าน ล่าสุดเรามีการนำฟ้าทะลายโจรมาแบ่งปันมอบให้ลูกบ้านที่เป็นผู้ป่วยโฮม ไอโซเลชั่นในโครงการ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราได้มาจากการอุดหนุนเกษตรกร ช่วยสนับสนุนกระจายรายได้ให้ผู้ค้าขายรายย่อยเพื่อดูแลทุกคนในโครงการที่อยู่อาศัยของเราให้เป็นคอมมูนิตี้ที่ปลอดภัย และจะต้องรอดไปด้วยกัน" นางสาวนฤมล กล่าว
#2736


ก่อนหน้านี้ คงเคยได้ยินเรื่องของสินเชื่อเงินทอนหรือว่าการขอสินเชื่อธนาคารเกินวงเงินหรือเกินมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกัน ซึ่งเกิดขึ้นมากมายจนถึงกับมีโค้ชเปิดสอน หรือมีคนรับทำแบบนี้จนธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ต้องออกมาเตือน

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัทฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนคอนซัลแทนซี่ จำกัด อธิบายว่า เรื่องสินเชื่อเงินทอน กลายเป็น 1 ในปัจจัยสำคัญ ที่ธปท.ออกเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่หรือที่เรียกกันสั้นๆ ง่ายๆ ว่า LTV (Loan To Value) โดยกำหนดให้ผู้ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยทุกคนที่ขอสินเชื่อธนาคารจะได้วงเงินสินเชื่อจากธนาคารมาที่ 80 – 90% ไม่ใช่ 100% แบบก่อนหน้านี้

โดยคนที่จะได้สินเชื่อ 90% คือคนที่ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นครั้งแรก หรือสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เคยขอมาก่อนหน้านี้มีระยะเวลาเกิน 3 ปีแล้ว แต่เรื่องของสินเชื่อเงินทอนนี้ก็ไม่ได้หายไปจากตลาดอสังหาริมทรัพย์

แม้ว่าจะมีมาตรการ LTV ออกมาควบคุมสินเชื่อธนาคารได้ 2 ปีกว่าแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของสินเชื่อเงินทอนยังคงมีอยู่ให้เห็นหรือมีคนเล่าให้ฟัง อีกทั้งยังมีการโฆษณาให้เห็นต่อเนื่องในช่องทางออนไลน์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ทันที ผู้ที่สนใจซื้อจะสามารถเข้าชมบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จนั้นได้ทันที จากนั้นก็ดำเนินเรื่องการขอสินเชื่อกับทางพนักงานขายหรือเจ้าหน้าที่ของโครงการ 

โดยเรื่องของ สินเชื่อเงินทอน ที่เกิดขึ้นหลังจากที่มี LTV ควบคุมอยู่ก็ยังสามารถทำได้ เพราะหลายโครงการของหลายผู้ประกอบการมีการลดราคาขายของยูนิตในโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ โดยเป็นการลดราคาขายลงมามากถึง 20 – 30% จากราคาขาย และเมื่อเป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ก็ต้องเป็นโครงการที่มีราคาประเมินราชการพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งราคาขายที่ฝั่งของโครงการเสนอให้กับผู้ซื้อนั้น ต่ำกว่าราคาประเมินราชการ และแม้ว่ามีเกณฑ์ LTV มาควบคุมวงเงินสินเชื่อ ผู้จะซื้อที่ขอสินเชื่อธนาคารก็ยังคงได้รับสินเชื่อธนาคารในวงเงินที่มากกว่าราคาซื้อขายจริง ที่พวกเขาได้รับการนำเสนอจากฝั่งของโครงการเพราะอ้างอิงจากราคาประเมินราชการ ซึ่งวงเงินที่เกินมานี้อาจจะไม่มากแต่ก็หลักแสนบาท เป็นวงเงินที่ทางผู้ซื้อพอใจ และเป็นวงเงินที่ทางธนาคารก็พอใจเช่นกัน

ช่วงปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการหลายรายพร้อมใจกันลดราคาขายที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมอยู่ของพวกเขาซึ่งหลายโครงการที่พวกเขาลดราคานั้นเป็นโครงการที่มีราคาขายสูงมาก หรือเป็นโครงการที่ผู้ประกอบการตั้งราคาขายไว้สูงกว่าราคาขายเฉลี่ยในทำเลนั้นๆ นอกจากนี้ยังเป็นโครงการที่มีต้นทุนเดิมทั้งเรื่องของราคาที่ดิน และต้นทุนการก่อสร้าง เพราะเป็นโครงการที่เปิดขายก่อนหน้านี้ 2 – 3 ปี แต่ตั้งราคาขายไว้สูงกว่าราคาเฉลี่ยแบบที่กล่าวไปแล้ว เพราะฝั่งของผู้ประกอบการก็ต้องการวงเงินสินเชื่อสูงๆ จากธนาคารในการก่อสร้างโครงการเช่นกัน เพราะมูลค่าของโครงการก็อ้างอิงจากราคาขายของทุกยูนิตในโครงการรวมกัน ซึ่งเมื่อโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ราคาประเมินราชการที่จะตั้งสำหรับแต่ละโครงการนั้นก็อ้างอิงหรือสอดคล้องกับราคาขายที่ผู้ประกอบการตั้งไว้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นผู้ซื้อจะเกิดปัญหาได้ ผู้ประกอบการจึงได้รับประโยชน์จากการที่โครงการมีราคาประเมินสูงๆ และมีช่องในการลดราคาเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ซื้อ ด้วยการลดราคาขายลงมา และบอกว่าผู้ซื้อสามารถขอสินเชื่อธนาคารได้โดยอ้างอิงจากราคาประเมินราชการ 

ฝั่งของธนาคารเองก็ไม่ได้เข้มงวดในจุดนี้มากนัก เพราะพวกเขาได้ประโยชน์จากวงเงินสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น และมีอสังหาริมทรัพย์ค้ำประกันอยู่ ฝั่งของผู้ซื้ออาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตอนโอนกรรมสิทธิ์ และจดจำนองกับทางธนาคาร เพราะคิดตามวงเงินสินเชื่อ

ผู้ซื้อบางราย อาจจะขอสินเชื่อธนาคารพร้อมกันหลายยูนิต ซึ่งถ้าทุกยูนิตที่พวกเขายื่นขอสินเชื่อธนาคารได้รับเงินส่วนต่างจากเรื่องนี้ตลอด จะมีผลให้พวกเขาได้เงินมาเป็นจำนวนไม่น้อยเลย

แม้ว่าสุดท้ายแล้ว ผู้ที่ขอสินเชื่อเหล่านี้จะต้องรับผิดชอบเงินสินเชื่อที่ได้รับจากธนาคารก็ตาม แต่ในมุมมองของธปท.คือ การก่อภาระหนี้สินที่มีความเสี่ยง และสร้างความเสี่ยงให้กับภาคธนาคารด้วยเช่นกัน เพราะผู้ซื้อบางส่วนไม่ได้ต้องการที่จะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้จริงๆ พวกเขาแค่ต้องการเงินส่วนเกินนี้เท่านั้นเอง และต้องการขายอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ทันทีไม่ได้ต้องการเป็นเจ้าของในระยะยาว ซึ่งผู้ขอสินเชื่อกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจับตามองสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น แต่ช่วงนี้อาจจะกู้ธนาคารกันยากกว่าช่วงเวลาที่สถานการณ์ปกติ

ตัวอย่างจากธปท.

สมมุติซื้อบ้านที่ผู้ขายบอกราคา 3 ล้านบาท แต่ในทางปฏิบัติสามารถต่อรองได้ เช่น ลดเหลือ 2.5 ล้านบาท แต่สถาบันการเงินเอา 3 ล้านบาทไปเป็นราคาทำสัญญา และให้เงินกู้บวกไปอีกเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ค่าตกแต่ง ดังที่เรียกกันว่าเงินกู้เอนกประสงค์ บวกไปอีก 10% เป็นกู้ทั้งหมด 3.3 ล้านบาท ในขณะที่จ่ายจริง 2.5 ล้านบาท คนกู้เหลือเงินสด 8 แสนบาท สำหรับใช้จ่าย ซึ่งสมมติว่าถ้าคนที่กู้ 4 สัญญา (4 ยูนิต) พร้อมกัน เขาก็ได้เงินจากสินเชื่อเงินทอนถึง 3.2 ล้านบาท.
#2737


มิอุ โกโตะ นักกีฬาซอฟต์.หญิงทีมชาติญี่ปุ่น ได้รับเหรียญทองโอลิมปิกอันใหม่ หลังอันเก่าโดนนายกเทศมนตรีชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งเอาไปกัดเข้าปากออกสื่อ จนโดนด่าเละเทะไม่เป็นชิ้นดี

ก่อนหน้านี้ โกโตะ ได้พบกับ ทาคาชิ คาวามูระ นายกเทศมนตรีเมืองนาโกย่า หลังคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ก่อนจะให้ คาวามูระ ได้ลองเอาเหรียญทองไปคล้องคอ แต่อีกฝ่ายกลับทำเกินกว่านั้นคือเปิดหน้ากากแล้วกัดเหรียญโชว์

แม้นักกีฬาจะมีประเพณีกัดเหรียญโชว์เวลาประสบความสำเร็จ แต่การกระทำของ คาวามูระ ส่งให้เกิดเสียงด่าทอสนั่นบนโลกออนไลน์กว่า 7,000 ครั้ง ทำนองว่าไม่ใช่เหรียญของตัวเองสักหน่อยอยู่ๆ เอาไปกัดทำไม แถมยังละเมิดกฏป้องกันการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่างหาก

ภายหลัง คาวามูระ วัย 72 ปี ได้แสดงความขอโทษต่อ โกโตะ จากพฤติกรรมไม่เหมาะสมนั้น ส่วนฝ่ายจัดการแข่งขัน "โตเกียว 2020" ก็ส่งเหรียญทองอันใหม่ไปให้นักซอฟต์.สาว แทนของเก่าที่โดนกัดจนเปื้อนน้ำลายไปแล้ว
#2738


ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในเช้าวันนี้ เนื่องจากยังคงมีแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และความเคลื่อนไหวจากการที่รัฐบาลจีนยกระดับการใช้มาตรการควบคุมการลงทุนในหลายภาคธุรกิจ ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.)

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,514.47 จุด ลดลง 10.27 จุด หรือ -0.29% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,296.19 จุด ลดลง 221.63 จุด หรือ -0.84% ขณะที่ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,038.96 จุด เพิ่มขึ้น 23.94 จุด หรือ +0.09%

ตลาดภูมิภาคยังคงเผชิญแรงกดดันจากไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดในขณะนี้ โดยทางการจีนได้สั่งล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วนของท่าเรือหนิงโป-โจวซาน (Ningbo-Zhoushan Port) ซึ่งเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก หลังพบพนักงานติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสร้างความกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อซัปพลายเชน และการค้าทั่วโลก

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาความเคลื่อนไหว หลังรัฐบาลจีนเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าควบคุมภาคอุตสาหกรรมต่างๆ โดยล่าสุดมีรายงานว่า จีนได้สั่งระงับกองทุนไพรเวท อีควิตี้ในการระดมทุนเพื่อเข้าลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย
#2739


นางสาวโรจนา สังข์ทอง ผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า "จุดประสงค์ของการเปิดตัวโฆษณารณรงค์ดังกล่าว เนื่องมาจากทุกวันนี้ในประเทศไทยมีช้างราวๆ 2,800 ตัวที่ถูกใช้ในกิจกรรมเพื่อความบันเทิง แต่เบื้องหลังที่นักท่องอาจไม่เคยรู้ คือ การพรากลูกช้างจากแม่ เพื่อนำมาฝึกตั้งแต่ยังเด็ก โดยช้างจะถูกบังคับ กักขัง ถูกขอสับซ้ำๆ ทั้งล่ามโช่ ทำร้าย ใช้งานหนัก เพื่อให้หวาดกลัวมนุษย์และเชื่องพอที่จะแสดงกิจกรรมที่ผิดธรรมชาติ การที่นักท่องเที่ยวร่วมชื่นชมการแสดงของช้างแสนรู้เป็นการสนับสนุนให้ช้างต้องถูกทรมานทางอ้อมโดยที่เราไม่รู้ตัว"

"องค์กรฯ มีเป้าหมายที่อยากเห็นช้างเลี้ยงรุ่นที่มีอยู่ในปัจจุบันได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และไม่มีการผสมพันธุ์เชิงพาณิชย์อีก อยากเห็นช้างที่เป็นสัตว์ป่า ได้รับการปกป้องในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของพวกเขา ถ้าคุณรักช้าง ทุกคนต้องช่วยกันปกป้องพวกเขาให้ได้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ แต่หากอยากเที่ยวอยากชมช้างจริงๆ แนะนำให้ศึกษาช้างในแหล่งธรรมชาติอย่างอุทยานแห่งชาติหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือปางช้างที่เป็นมิตรต่อช้างซึ่งมีมาตรฐานด้านสวัสดิภาพสูง""

โฆษณารณรงค์ชุดนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นเสียงสะท้อนสำหรับช้างเท่านั้น แต่ต้องการสร้างความตระหนักให้กับคนดูเห็นว่า เบื้องหลังของการแสดงช้างที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู จริงๆ แล้วคือช้างเหล่านี้ต้องผ่านการฝึกอย่างหนักและทารุณเพื่อยุติสัญชาตญาณของสัตว์ป่าเพื่อให้ช้างเชื่องและหวาดกลัวพอที่จะออกแสดงโชว์ได้ และถ้าหากเรายังไม่หยุดสนับสนุนกิจกรรมมีเบื้องหลังโหดร้าย วงจรแห่งความทารุณนี้ก็จะสร้างความบอบช้ำไม่รู้จบ เพียงเพื่อแลกกับความบันเทิงชั่วคราวของนักท่องเที่ยว



นายฉัตรณรงค์ เมืองวงษ์ ผู้จัดการแคมเปญสัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย เปิดเผยว่า "ช้างเป็นสัตว์ป่า สมควรได้อยู่ในป่า ผลสำรวจของเราพบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวในไทยเริ่มรับไม่ได้กับกิจกรรมที่เป็นการทำร้ายสัตว์มากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 ยิ่งทำให้เห็นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่สามารถเป็นที่พึ่งของช้างนี้ได้ เห็นได้จากข่าวเกี่ยวกับช้างตกงาน ถูกปล่อยกลับบ้าน และอดอยากมากมาย"

"เมื่อวิกฤติจากโควิด-19 บรรเทาลงแล้ว เรามองว่านี่เป็นโอกาสดีที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะหันมาปรับปรุงสวัสดิภาพช้างให้ดีขึ้น ให้สอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวที่มุ่งไปสู่การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบมากขึ้นเรื่อยๆ ภาครัฐเองก็ควรจริงจังกับเรื่องนี้มากขึ้นเช่นกัน ผ่านการออกกฎหมายและนโยบายที่ปกป้องสัตว์ป่าอย่างเป็นระบบ ถ้าทำได้จริง จะกลายเป็นตัวอย่างที่ดีในสังคมโลกและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย"

ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา องค์กรพิทักษ์สัตวแห่งโลก พร้อมภาคีเครือข่าย นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ ได้ร่วมผลักดันร่างพระราชบัญญัติปกป้องและคุ้มครองช้างไทย พ.ศ.... ซึ่งเป็นร่างกฎหมายฉบับแรกที่จะปกป้องช้างจากการทารุณกรรมช้างในทุกรูปแบบ ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญอย่างการยุติผสมพันธุ์ช้างเชิงพาณิชย์ ยกระดับการจัดสวัสดิภาพช้าง ยุติการใช้กระบวนการฝึกช้างที่โหดร้ายทารุณ และไม่บังคับช้างให้แสดงพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติ เป็นต้น
#2740


ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 4 ของโลกจากสเปน ถอนตัวจากรายการอุ่นเครื่อง ยูเอส โอเพน สองทัวร์นาเมนต์ติด ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเจ้าตัวอาจฟิตไม่ทันสำหรับลุย แกรนด์ สแลม รายการสุดท้ายของปีที่สหรัฐอเมริกา

หวดวัย 35 ปี มีโปรแกรมลงแข่งขันรายการ โรเจอร์ส คัพ ที่แคนาดา กับ ซินซินเนติ มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นรายการระดับมาสเตอร์สทั้งคู่ แต่เจ้าตัวก็ยกเลิกโปรแกรมหวดทั้งหมด ด้วยปัญหาอาการเจ็บขาซ้ายที่เกิดเมื่อเดือนมิถุนายน

โรเจอร์ส คัพ กับ ซินซินเนติ มาสเตอร์ส เป็นสองรายการที่นักหวดทั่วโลกลงสนามลับฝีมือ เพื่อเตรียมพร้อมในการลุย แกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพน ที่จะมีขึ้นวันที่ 30 สิงหาคมนี้ แต่ "เอล มาทาดอร์" ตัดสินใจไม่แข่งเคาะสนิมทั้งสองรายการ

สำหรับ นาดาล การถอนตัวนี้ทำให้แฟนๆ กังวลว่าเจ้าตัวอาจจะฟิตไม่ทันเพื่อลงแข่ง แกรนด์ สแลม ส่งท้ายปีที่นิวยอร์ค เพื่อโอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 5 และแซงสถิติแชมป์ แกรนด์ สแลม จาก โนวัค ยอโควิช กับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่ทำไว้ 20 สมัยเท่ากัน