• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - luktan1479

#2741



ถือได้ว่าการปล่อยอัลบั้มเต็มครั้งแรกในชีวิตของ มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ กับอัลบั้ม "365" (Three Six Five) ในวันแรกบน iTunes ช่างร้อนแรงและสั่นสะเทือนทุกชาร์ตของ iTunes ทั่วโลก เพราะหลังจากที่ปล่อยอัลบั้มออกมาในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง ทั้งตัวอัลบั้มและเพลงต่างๆ ล้วนทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 และ Top10 ในหลายประเทศทั่วโลก

และยังเป็นเพียงศิลปินไทยหนึ่งเดียวที่สามารถพุ่งทะยานเข้าสู่ อันดับ 13 Global Digital Artists Rankings ท่ามกลางศิลปินอินเตอร์ระดับโลกในอันดับ Top20 นี้

เรียกได้ว่า มิว ศุภศิษฏ์ สร้างสถิติใหม่อันน่าทึ่งขึ้นอีกครั้ง กับการปล่อยอัลบั้ม "365"(Three Six Five) บน iTunes เพราะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนคลับทั่วโลก จนสามารถไต่อันดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ Top10 และติดอันดับ 1 ในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในส่วนของตัวเพลงในอัลบั้ม และตัวอัลบั้มเอง

ดูได้จากชาร์ตล่าสุดในตอนนี้ที่เพลงฮิตมาแรงน่าจะเป็น Drowning ขึ้นอันดับ 1 ทั้งของประเทศไทยและในหลายที่ เช่น สิงคโปร์, ไต้หวัน, มาเลเซีย และยังทะยานขึ้นสู่ชาร์ตต่างๆ ในอีกกว่า 28 ประเทศทั่วโลก และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ การเข้าสู่อันดับที่ 13 บน Global Digital Artists Rankings ที่ยังไม่เคยเห็นมีศิลปินไทยได้ขึ้นมาสูงผ่านเข้ามาในอันดับ Top20 ได้


ก็ต้องเรียกว่าการที่ มิว ศุภศิษฏ์ ขึ้นมาสู่อันดับ 13 อยู่ท่ามกลางศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมายในชาร์ตนี้ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในฐานะนักร้องอย่างสุดๆ และนับว่าแฟนคลับต่างภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่มีศิลปินไทยสามารถเข้าสู่ชาร์ตนี้และติด 1 ใน Top20 ได้ ถือว่าได้รับการยอมรับในการเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวจากอัลบั้มนี้

นี่ถือเป็นเพียงก้าวแรกของ อัลบั้ม "365" (Three Six Five) เท่านั้น เพราะในวันที่ 1 สิงหาคม จะสามารถฟังอัลบั้มนี้กันได้แบบเต็มๆ ผ่านทุกแพลตฟอร์ม ถึงเวลานั้น สถิติต่างๆ น่าจะเกิดการขยับขึ้นอีกครั้ง.
#2742
สำหรับการประชุมหรือ เรียนออนไลน์ โปรแกรมมีให้ใช้งานหลากหลายมากๆ ครับ แต่วันนี้ ทางผู้เขียนอยากแนะนำโปรแกรม Zoom หรือชื่อในการค้นหาคือ Zoom meeting นั่นเองครับทำไมโปรแกรม Zoom meeting ถึงมีคนนิยมใช้ทั่วโลก ..?สาเหตุส่วนใหญ่ก็คือ มันตอบโจทย์ ใช้งานง่าย แชร์สกรีนได้ทั้งภาพและมิเดีย แต่ที่ผู้เขียนชอบที่สุดก็น่าจะเป็นการใช้งานแบนด์วิทอินเตอร์เน็ตน้อยมากเมื่อเทียบกับ โปรแกรมอื่นๆ เพราะความเร็วเน็ตในแต่ละที่ก็แตกต่างกัน แล้วแต่ผู้ใช้งานด้วย อันนี้สามารถช่วยได้มากทีเดียว


 การเข้าใช้งาน zoom join ก่อนที่เราจะเข้าใช้งาน Zoom เราจะต้อง sign in เพื่อสมัครก่อนครับ โดยไปที่https://zoom.us/signin   แล้วกด Sign in อาจเลือกเป็น sign in ด้วย google หรือ Facebook ก็ได้นะครับ





 1.      ผ่านทางหน้าเว็ป https://zoom.us/signin
 2.      ผ่านโปรแกรมที่ดาวน์โหลดติดตั้งไว้ในเครื่อง (ทั้งคอมพิวเตอร์ , Notebook , Tablet , มือถือ)ในทีนี้ ผู้เขียน เลือกที่จะเข้าแบบที่ 2 นะครับ เพราะมันง่ายดี เลือกโปรแกรม zoom meeting ในคอมฯของคุณเปิดขึ้นมาจะเป็นหน้าต่างแบบนี้ครับ เข้าใช้งานด้วย Email ที่สมัครไว้ครับ ก็จะสามารถใช้งานได้แล้วครับผม
#2743



เมื่อเร็วๆนี้บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้เปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell โดยใช้เทคโนโลยี SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia) ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 MWh (เมกะวัตต์ชั่วโมง) ต่อปี ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง

โดยโรงงานแบตเตอรี่แห่งนี้ ถือเป็นแห่งแรกของประเทศไทย และแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียฯ กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ชั่วโมง(MW) ด้วยทุน 1,100 ล้านบาท และในอนาคตจะขยายขึ้นเป็น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง(GWh) ต่อปี ตามเป้าหมายของ GPSC ที่จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน อยู่ที่ 8,000 เมกะวัตต์ 

ภายในปี 2573 ตามนโยบายของบริษัทแม่ คือ ปตท. ซึ่งคาดหวังว่า โรงงานแห่งนี้ จะเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมไทยมุ่งสู่พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคต และสนับสนุนการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ตามเป้าหมายของรัฐบาล
#2744



สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (Global Compact Network Thailand – GCNT) ได้จัดเสวนาออนไลน์เรื่อง "บทบาทภาคเอกชนไทยในการส่งเสริมการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืน" เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 เพื่อยกระดับการจัดการด้านระบบอาหารที่ยั่งยืนจากภาคธุรกิจเอกชนไทยสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบการประชุมสุดยอดด้านระบบอาหารของสหประชาชาติ

โดยข้อสรุปจากเสวนาครั้งนี้จะรวบรวมเป็นข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจไทยสู่การประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก (UN Food Systems Summit 2021) ที่จะจัดขึ้นในปลายปีนี้ เพื่อพัฒนาระบบอาหารโลกให้เกิดความแข็งแรงและยั่งยืน โดยในงานมีผู้เข้าร่วมจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม กว่า 100 คน

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้ประสานงาน UN Food System Summit National Convener กล่าวว่า ภาคเอกชนมีส่วนสำคัญในการเสนอแนวทางการพัฒนาการจัดระบบอาหารโลกให้ยั่งยืน โดยข้อเสนอแนะจากงานเสวนานี้จะนำไปเชื่อมโยงกับข้อเสนอจากผู้ที่มีบทบาท และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบการผลิตในแต่ละภาคส่วนของประเทศไทย เพื่อนำไปเป็นแนวทางและข้อเสนอจัดทำนโยบายแผนงานการปฏิรูประบบอาหารและการเกษตรอย่างมั่นคงในการประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก UN Food Systems Summit 2021 เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายในปี 2573

โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบความมั่นคงและเป็นจุดเปลี่ยนทางด้านอาหารโลกที่หลายประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยประเทศไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นครัวของโลก จะต้องนำประสบการณ์การจัดการระบบอาหารของประเทศไทยภายใต้นโยบาย 3 S คือ Safety, Security และ Sustainability ของภาคเกษตรและระบบอาหารให้มีความยั่งยืน ผู้ประกอบการทางด้านภาคเกษตรจะต้องปรับตัวนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ต่อกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

และเน้นไปสู่รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่ โดยมุ่งเป้าหมายด้าน Zero Waste ลดขยะให้เป็นศูนย์เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน พร้อมกับการพัฒนาอาหารในอนาคต Future Food ที่จะต้องเน้นในเรื่องของการพัฒนาสมุนไพรไทย และการพัฒนาอาหารจากพืช รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการอาหารสัตว์ ซึ่งจะเป็นการจัดการทั้งระบบของอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน


นายนพปฏล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ในฐานะเลขาธิการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจเอกชนต่างๆได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ดำเนินการตามแนวทางพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืน หรือ Food Systems Sustainability ภายใต้กรอบของสหประชาชาติที่มีความท้าทายในเรื่องการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนต่อประชากรทั้งโลก 9 พันล้านคนภายในปี 2050 โดยมีความท้าทายตั้งแต่การผลิตอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการจำนวนมาก

ตลอดจนการผลิตและจัดการอาหารให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมให้มากที่สุด ซึ่งในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา แม้โลกจะพัฒนาด้านความยั่งยืนดีขึ้นหลายด้านตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะประเทศไทยที่ได้พัฒนาตามแนวทาง SDGs เป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน และอยู่ในลำดับต้นๆของเอเชีย แต่การจะบรรลุสู่เป้าหมาย SDGs ในปี 2030 ไม่ใช่เรื่องง่าย และขณะนี้เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนต่างๆถดถอย อาทิ

เป้าหมายที่ 2 ของ SDGs คือ No Hunger ที่ผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนประชากรโลกที่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามสหประชาชาติได้พยายามสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนที่เป็นระบบมากขึ้นผ่าน UN Food Systems Summit ที่กำลังจะมีการจัดประชุมเร็วๆนี้ และเล็งเห็นว่าประเด็นการจัดการอาหารโลกที่ยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญระดับโลกเช่นเดียวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ


ดร.วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงภาพรวมของกระบวนการ UN Food Systems Summit ซึ่งเป็นการประชุมที่เน้นให้ความสำคัญการร่วมมือของทุกภาคส่วนในการร่วมกันจัดการระบบอาหารโลกตลอดห่วงโซ่อุปทานให้เกิดความยั่งยืน โดยเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กฯ เป็นกลุ่มภาคเอกชนที่มีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจที่ควบคู่กับความยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือและข้อเสนอแนะจากประเทศไทยสู่การประชุมระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นภายใต้กรอบแนวทางการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืนทั้ง 5 แนวทางที่จะเป็นแนวทางสร้างเครือข่ายความร่วมมือยกระดับการเติบโตของภาคเกษตร การจัดการระบบอาหารไทยสู่ระบบอาหารโลกให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ขณะที่ตัวแทนกลุ่มธุรกิจจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยนางสาวอินทิรา พฤกษ์รัตนนภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักพัฒนาและประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมเสวนาใน Action Track 1 :อิ่มถ้วนหน้า ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ โดยกล่าวว่า เครือซีพีและซีพีออลล์ให้ความสำคัญกับระบบอาหารที่ยั่งยืนทำให้ประชากรเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อช่วยลดอัตราการป่วยจากการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม

อย่างไรก็ตามยังมีประชากรบางกลุ่มประสบปัญหาทุพโภชนาการ ซึ่งการสร้างสุขภาพและสุขภาวะประชากรที่ดีต่อประชาชนในแต่ละประเทศเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศนั้นๆ ประเทศไทยในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมธุรกิจอาหารและเกษตรในภูมิภาคนี้จึงมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันสิ่งเหล่านี้ให้ประเทศพัฒนา ซึ่งนโยบายของเครือซีพีและซีพีออลล์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เราร่วมสร้างระบบอาหารโลกที่ยั่งยืนตั้งแต่การสร้างสรรค์สินค้าที่มีโภชนาการที่ดี เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลาย และสร้างความมั่นคงอาหารให้ประเทศไทย โดยนำนวัตกรรมที่ได้ศึกษามาต่อยอดสร้างอาหารที่ถูกหลักโภชนาการมีความปลอดภัยตลอดจนร่วมสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานด้วยการบริหารจัดการคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

นางสาวศิรภัสสร สกุลวิวรรธน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้ร่วมเสวนาใน Action Track 5: อิ่มทุกเมื่อ เสริมสร้างความมั่นคงเข้มแข็งของระบบอาหาร กล่าวว่า ซีพีเอฟได้ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารมาโดยตลอดตามแนวทางอาหารมั่นคง สังคมมั่นคง ดินน้ำป่าคงอยู่ โดยเฉพาะการสร้างแหล่งอาหารให้ชุมชนที่ดำเนินการมากว่า 30 ปี โดยการสร้างองค์ความรู้ให้ชุมชนมีศักยภาพผลิตอาหารได้ด้วยตัวเอง ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในภาวะวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้

นอกจากนี้ยังได้นำองค์ความรู้เข้าสู่ชุมชนเพื่อร่วมพัฒนาระบบอาหารยั่งยืนผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน โครงการอิ่มสุขปลูกอนาคต โดยสร้างองค์ความรู้ให้เยาวชนได้เข้าใจการผลิตอาหารที่ถูกโภชนาการได้ด้วยตัวเอง และร่วมรักษาเสถียรภาพความมั่นคงในระบบห่วงโซ่อุปทาน แบ่งปันและถ่ายทอดเทคโนโลยีร่วมกับเกษตรกรรายย่อยโดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนดูแลความหลากหลายทางชีวภาพ
#2745



ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแพร่ รายงานการลงทุนทางตรงในต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai ปี 2563 ว่า ณ สิ้นปี 2563 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET และ mai ที่มีสถานะการลงทุนในต่างประเทศมีจำนวนรวม 278 บริษัท มีจำนวนเท่ากับปีก่อนหน้า และคิดเป็น 37% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในปี 2563

ทั้งนี้เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ SET จำนวน 251 บริษัท และเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai จำนวน 27 บริษัท ในจำนวนดังกล่าวเป็นบริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมการบริการ (Services) มากที่สุด และภูมิภาคที่มีจำนวนบริษัทที่มีสถานะการลงทุนต่างประเทศในภาพรวมสูงสุดคือภูมิภาคอาเซียน โดยลงทุนมากที่สุดในประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ และเมียนมา ตามลำดับ

มูลค่าจากกิจกรรมการลงทุนทางตรงในต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET และ mai ที่เกิดขึ้นในปี 2563 รวม 1.39 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 1.56 แสนล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 53 ในจำนวนนี้เป็นมูลค่าการลงทุนจากบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ SET รวม 1.37 แสนล้านบาท และเป็นมูลค่าการลงทุนจากบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai รวม 2 พันล้านบาท โดยรวมสัดส่วนการลงทุนทางตรงในต่างประเทศของทั้งสองตลาดคิดเป็นร้อยละ 9 ของมูลค่าเงินลงทุนของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในปี 2563

มูลค่าเงินลงทุนทางตรงในต่างประเทศปี 2563 ส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมการลงทุนของบริษัทขนาดใหญ่ 50 อันดับแรกในตลาดหลักทรัพย์ SET คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 1.13 แสนล้านบาท และภูมิภาคที่เป็นเป้าหมายการลงทุนมากที่สุดคือกลุ่มประเทศอาเซียน คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 1.32 แสนล้านบาท หรือราวร้อยละ 95 ของมูลค่าเงินลงทุนทางตรงในต่างประเทศปี 2563 ซึ่งประเทศที่มีมูลค่าเงินลงทุนมากที่สุดคือ อินโดนีเซีย จากธุรกรรมการเข้าซื้อกิจการ PT Bank Permata ด้วยมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท


รายได้จากต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET และ mai ปี 2563 มีมูลค่ารวม 2.96 ล้านล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าลดลงประมาณ 5 หมื่นล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 1.7 จากปีก่อนหน้า เมื่อเทียบกับมูลค่ารายได้โดยรวมของบริษัทจดทะเบียน สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศคิดเป็นประมาณร้อยละ 26 โดยรายได้จากต่างประเทศส่วนใหญ่มากจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET มูลค่าประมาณ 2.94 ล้านล้านบาท

รายได้จากต่างประเทศในปี 2563 ของกลุ่มบริษัทที่มีขนาดใหญ่ 50 อันดับแรกของตลาดหลักทรัพย์ SET มีมูลค่า 2.1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 67 ของรายได้จากต่างประเทศทั้งหมดในปี 2563 และเมื่อพิจารณาตามภูมิภาคที่มาของรายได้ พบว่าบริษัทกว่าครึ่งไม่ระบุที่มาของแหล่งรายได้ให้ชัดเจน ทำให้รายได้มูลค่าราว 1.85 ล้านล้านบาท หรือ ร้อยละ 60 ของรายได้รวม ไม่สามารถระบุภูมิหภาคหรือประเทศแหล่งที่มาของรายได้ได้

แต่หากพิจารณาราเฉพาะข้อมูลที่มีรายละเอียดแหล่งที่มาของรายได้ พบว่ากลุ่มประเทศอาเซียนเป็นภูมิภาคที่บริษัทมีรายได้มากที่สุด คิดเป็น 4.86 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3 จากปีก่อนหน้า โดยประเทศที่สร้างรายได้สูงสุดคือประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และประเทศสิงคโปร์ ตามลำดับ
#2746



วันที่ 23 ก.ค.64 องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) โดยนายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC)  โดย ดร.ปราศรัย ประวัติรุ่งเรือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC สะพานใหม่) และดร.ประสาน ประวัติรุ่งเรือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC นนทบุรี) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงทางวิชาการและวิชาชีพเพื่อการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษา ผ่านระบบ Zoom โดยมีรศ.ดร. วรสัณฑ์ บูรณากาญจน์ กรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และ ประธานอนุกรรมการด้านการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี
 
​ สำหรับความร่วมมือในการพัฒนา องค์ความรู้ร่วมกันครั้งนี้ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของทั้งสองหน่วยงานที่ต้องการให้เกิดภูมิปัญญาและต่อยอดนวัตกรรมและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ของบุคลากร นักศึกษาด้านวิชาการและเทคโนโลยี ตลอดจนส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมด้านการพัฒนางานวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการดำเนินงานตามภารกิจหลักของทั้งสองหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
#2747
นาฬิกานับเวลา Digital จับเวลาเดินหน้า-ถอยหลัง 

LED Count Down Timer ตัวเลขขนาด 10 cm x 6 cm

นาฬิกาจับเวลา Digital จับเวลาเดินหน้า ถอยหลัง

- LED Count Down Timer 
- แถมรีโมทไร้สาย คู่มือภาษาไทย 
- ขนาด : ยาว 70 cm. สูง 16 cm. หนา 4 cm. 
- ใช้จับเวลาตามโรงยิม,สนามมวย,โรงงาน,สนามชนไก่ เป็นต้น
- ใช้ไฟ220 v
- มีรีโมทพควบคุมไร้สาย
- รับประกัน1ปี

ติดตอสอบถาม
โทร 094-5102033 
line@ : @gentech
Facebook : Gentechshop


#2748
การเงินติดขัด การงานสะดุด ธุรกิจมีปัญหา ความรักไม่สมดังใจ สุขภาพทรุดโทรม โชคลาภไม่มี ปรึกษาเราสิค่ะ


รับดูดวงผ่านไพ่ยิปซี ออราเคิล โดยใช้จิตสัมผัส และรับสอนการดูดวงผ่านศาสตร์ไพ่ยิปซี ออราเคิล
รับประกันความแม่นยำ และชัดเจนในทุกคำถาม พยากรณ์ได้ทุกเรื่อง เช่น เช็คดวงรายวัน การเงิน การงาน ธุรกิจ ความรัก เนื้อคู่ สุขภาพ โชคลาภ อีกทั้งมีแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ โดยใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาสามารถดูต่อเนื่องได้วันต่อวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือน รับพยากรณ์ทั้งทางโทรศัพท์ และพยากรณ์แบบส่วนตัว(พื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียง)
ค่าครู 299 บาท (ปกติ 599 บาท)

สนใจติดต่อ อ.อนัตตา เทพพยากรณ์
โทร. 0914441569
Line ID : 0944824293

ข้อมูลเพิ่มเติม =AT2aYc9PaeU2TIKg1MwOOnVXBr_9O1l7vOLmz0s4BDMSB1YITXRuefb3qDSOYxydIpvZE4RkOEwmEuXMWkjUeb-v_tPirUQmWbahLiNk_ISJe-JwJqcVCzqJeMmiHIr32r_LLPNlkhtL4PPnmLMWWH2DS9Kh_o_HW_xX5S9ty3kqcbLw58fpn7ouNGaMWYvX2XGeuvzh]http://porntaywa99.lnwshop.com/p/208
แฟนเพจ =AZUK5w_cAH-0MmZpnEaDXILy46nGgqLSfcotjN3tEDH-xv7qsrN93K1QBKcH1c3tAfWUfpJpUZwgQlD4gaAsW2HqhjMoCCoBq53cjHg9MRGbXaFCxn-9n6HSCNZ7BOWEqjOrmH62FJ_n7tp11H0lXEuZKDnwerb0mJrC5tJ03bKQQqlEuTxQB8WNdSYmZ4dr92g&__tn__=kK-R]https://web.facebook.com/porntaywa
#2749

ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีมานี้ เชื่อว่าคงไม่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติคนไหนไม่รู้จัก "ฉลอง เบย์" (Chalong Bay) รัมระดับโลกที่ผลิตขึ้นที่ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เมื่อมาเยือนภูเก็ตจะต้องแวะเวียนมาสัมผัสประสบการณ์ที่ ฉลอง เบย์ สักครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งที่นี่มีทั้งศูนย์การเรียนรู้ บาร์ และร้านอาหาร


"เล็ก - ชินวิช รัตนชินกร" หุ้นส่วน ฉลอง เบย์ ประเทศไทย เหล้ารัมสัญชาติไทยที่โด่งดังในระดับโลก เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนที่เป็นร้านอาหารและบาร์ ได้ปิดให้บริการลูกค้าไปและจะยังไม่เปิดให้บริการในช่วงนี้ แต่ในส่วนที่เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องการผลิตเหล้ารัมในประเทศไทย เปิดให้นักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะ ได้เข้ามาเยี่ยมชมพื้นที่ได้เป็นปกติ เพียงแค่ต้องติดต่อล่วงหน้าไว้ก่อน ดังนั้น ในวันที่เริ่มนโยบายเปิดเกาะนี้ ภายในศูนย์เรียนรู้แทบไม่ต้องเตรียมความพร้อมอะไรเลย เพราะที่ผ่านมาได้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขทุกประการอยู่แล้ว


"ถึงแม้ว่าร้านอาหารเราจะปิดให้บริการ แต่ก็มีการเช็ดถูทำความสะอาดพ่นยาฆ่าเชื้อตลอดเวลา โดยเฉพาะ ที่ศูนย์การเรียนรู้การผลิตเหล้ารัม ซึ่งเราได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นปกติ เพียงแค่เปลี่ยนจากการวอล์กอินเข้ามา เป็นการแจ้งการเข้าเยี่ยมชมล่วงหน้า และปรับเป็นการเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้ปฏิบัติตามหลักนิวนอร์มอลทุกประการอยู่แล้ว ที่สำคัญ พนักงานทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ดังนั้น นักท่องเที่ยวทุกคนจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย"


ชินวิชเล่าต่อว่า เมื่อ 7 ปีที่แล้วอาจจะมีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่รู้จัก "ฉลอง เบย์" (Chalong Bay) เพราะแนวคิดในการผลิต "ฉลอง เบย์" เกิดขึ้นมาจากผู้หญิงชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง ที่เคยติดอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งในภูเก็ต ช่วงที่ประเทศไทยประสบกับภัยพิบัติสึนามิ ซึ่งเธอได้รับความช่วยเหลือและดูแลจากคนไทยเป็นอย่างดี จึงเกิดความประทับใจต่อคนไทยเป็นอย่างมาก และคิดว่าอยากตอบแทนคนไทยด้วยการทำอะไรสักอย่าง จึงเริ่มผลิตเหล้ารัมแบรนด์ของคนไทยขึ้นมา และที่ผ่านมามีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชมวิธีการผลิตจำนวนมาก แต่ช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ลดลง ขณะเดียวกัน กลับมีนักท่องเที่ยวชาวไทยสนใจมาศึกษาการผลิตเหล้ารัม และการผสมเครื่องดื่มค็อกเทลมากขึ้น

"ก่อนหน้านี้ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาศึกษาการผลิตเหล้ารัมเป็นจำนวนมาก จนต้องจัดคิวในการเข้าชมแต่ละวัน เพราะส่วนใหญ่อยากมาชมการผลิตเหล้ารัมที่มีส่วนผสมธรรมชาติ 100% เราได้คัดเลือกน้ำอ้อยออร์แกนิคมาเพียงแค่สายพันธุ์เดียว และส่วนผสมอื่นจากประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยวัตถุดิบทุกชนิดล้วนมาจากเกษตรกรในท้องถิ่น โดยยึดเทคนิคและกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม พิถีพิถันและใส่ใจในทุกกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนตามแบบงานฝีมือ แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงไม่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชมเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังโชคดีที่ยังมีนักท่องเที่ยวชาวไทยบางกลุ่ม ที่สนใจเรื่องการมิกซ์เครื่องดื่มเข้ากับรัมในหลากหลายรสชาติมาเรียนรู้บ้าง จึงทำให้เรายังคงเปิดศูนย์การเรียนรู้เรื่อยมา แม้จะมีนักท่องเที่ยวบางตาไปกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก"

เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จึงทำให้ ฉลอง เบย์ ไม่สามารถทำการโปรโมทส่งเสริมการขาย ดึงดูดลูกค้าให้มาเที่ยวชมได้เหมือนสินค้าอื่นทั่วไป แต่เขาได้จับมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำการโปรโมทการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ภายในศูนย์การเรียนรู้ ที่เน้นกระบวนการผลิตรัมจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ


"เมื่อก่อนเราจะโปรโมทสินค้าผ่านทางร้านอาหารเป็นหลัก แต่ตอนนี้ร้านอาหารปิดเราจึงโปรโมทศูนย์การเรียนรู้ของเราผ่านทางโซเชียลต่างๆ โดยเฉพาะ การร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำสกู๊ปประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ภายในศูนย์ที่เน้นการดูแลจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ซึ่งเราจะเน้นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเรา ที่ได้นำผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ โดยเฉพาะ ภายในชุมชน มาเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเครื่องดื่มทุกชนิด อันเป็นการแสดงออกถึงความเคารพต่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนของชุมชน (Sustainable) ในระยะยาว โดยหลอมรวมมรดกอันล้ำค่าจากสองซีกโลก ด้วยการนำวัฒนธรรมอันยาวนานในการเพาะปลูกต้นอ้อยของไทย ผสมผสานกับกรรมวิธีและความเชี่ยวชาญในการผลิตสุราอันเลื่องชื่อจากฝรั่งเศส"



ท่ามกลางแสงสว่างรำไรกำลังจะก่อตัวขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ ในรูปแบบภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ชินวิชคาดหวังว่าจะเห็นเศรษฐกิจประเทศไทย โดยเฉพาะ การท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัว เป็นสัญญาณที่ดีให้อีกหลายจังหวัดได้นำไปปรับใช้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกันต่อไป



"เราอยากให้การเปิดเกาะภูเก็ตในครั้งนี้ เป็นต้นแบบให้อีกหลายจังหวัดนำไปปรับใช้กันในรูปแบบต่างๆ ต่อไป เราไม่ได้คาดหวังว่า การเปิดประเทศรอบนี้ จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวหนาตาเหมือนดังแต่ก่อน เพราะช่วงนี้ภาคใต้อยู่ในช่วงโลว์ซีซันส์ เป็นฤดูฝน ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปเข้ามาหนาตาอยู่แล้ว ช่วงที่ไฮซีซันส์ของบ้านเราจะอยู่ประมาณเดือนตุลาคมถึงธันวาคม แต่การที่ได้ทดลองเปิดเกาะก็เป็นนิมิตหมายอันดี ที่ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ช่วงแรกอาจมีปัญหาบ้างแต่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็จะเริ่มต้นไม่ได้"
#2750
 สีผึ้งว่านดอกทอง ฝังดอกว่านดอกทองและตะกรุดนะเมตตามหานิยม

พุทธคุณ เน้นเรื่อง เสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขายก่อนว่าคาถาก็ให้นึกขอบารมีพระพุทธเจ้า และคุณครูบาอาจารย์คาถากำกับโอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)แล้วใช้นิ้วชี้ข้างขวาป้าย แล้วทาที่ปากตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ

 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย
หรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
https://pdp.lazada.co.th/products/i2632497251.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfF8zGh5  
#2751

   

เรื่องย่อ ภูผาผีคุ้ม ตื่นเต้นไปกับภารกิจการผจญภัย เพื่อออกตามหาเจ้าของสมบัติของชายหนุ่มยอดกตัญญู การันตีความสนุก โดยผู้กำกับ เสกสรรค์ สิงอุไร ทางช่องวัน 31


ผา เด็กหนุ่มผู้มีความสามารถในการมองเห็นวิญญาณ เมื่อครั้งยังเด็ก ผามีเหตุให้ต้องพลัดพรากจากบ้านเมืองเกิด จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด

แต่โชคดีที่ได้ภูตผี 8 ตน ที่ถูกจองจำให้เฝ้าสมบัติและพระขรรค์ศักดิ์สิทธิ์ในหุบเขาหมอก มานานนับ 100 ปี ช่วยชีวิตและคอยเลี้ยงดู ถ่ายทอดพลังวิเศษมากมาย

เมื่อผาโตเป็นหนุ่ม เขาอยากตอบแทนบุญคุณภูตผีทั้ง 8 ตน ที่เลี้ยงดูเขามา จึงอาสาเดินทางไปยัง "เมืองสุบรรณ" เพื่อตามหาเจ้าของสมบัติที่แท้จริง มาปลดปล่อยเหล่าวิญญาณให้ไปเกิด


โดยมี เดือน หญิงสาวชาวบ้าน ขออาสาเป็นผู้นำทาง เพราะต้องการหาเงินไปรักษาแม่ที่ล้มป่วย และ แท่น เพื่อนรักของเดือน ร่วมออกเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย


ซึ่งทั้งสามหารู้ไม่ว่าการผจญภัยไปยังเมืองสุบรรณนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย ที่จะมาคอยขัดขวางภารกิจในครั้งนี้

มาลุ้นและเอาใจช่วยพวกเขาไปพร้อมๆ กันได้ในละคร "ภูผาผีคุ้ม"

รายชื่อนักแสดง ภูผาผีคุ้ม
เพชร โบราณินทร์ รับบท ทินกร / ผา
ภาลฎา ฐิตะวชิระ รับบท เดือน
อัครวุฒิ มังคลสุต รับบท เทพ
พลอยไพลิน ลิมปนเวทยานนท์ รับบท ปิ่น
ฝน ธนสุนธร รับบท ผีบัว
ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม รับบท ผีกล้า
อาณัตพล ศิริชุมแสง รับบท ขุนสิงห์
ยุทธพิชัย ชาญเลขา รับบท พระฑศราชา
สุพจน์ จันทร์เจริญ รับบท พระยาชัยยศ
กลศ อัทธเสรี รับบท ผีอิน
ณัฏฐริณีย์ กรรณสูต รับบท ชม
จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม รับบท แท่น
สมจิตร จงจอหอ รับบท ผีอ่ำ
ณัฐภัสสร สิมะเสถียร รับบท ผีรำเผย
จอห์น บราโว่ รับบท หมอผีเดช
สร้อย สารคาม รับบท ผีเที่ยง
โสรยา ศรีมิตร รับบท ผีประไพ
ณัฐผี รับบท ผีเรือง
โมฬีวรรณ พันธรักษ์ รับบท เฟื่อง
วรัทภพ รักษ์ศิริ รับบท เหม

รายชื่อนักแสดงเด็ก
ด.ช.พีรณัฐ วัฒนกิจพิศาล รับบท ผา(เด็ก)
ด.ญ.ธมกร เมอไกวร์ รับบท ปิ่น(เด็ก)
ด.ญ.มาชิดา สุทธิกุลพานิช รับบท เดือน(เด็ก)
ด.ช.วรัชต์ธิปต์ กิตติสิริไพศาล รับบท เทพ(เด็ก)
ด.ช.แดนไตร ชัยภักดิ์เตชะ รับบท แท่น(เด็ก)
#2752



นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ สานต่อนโยบาย รมว.พาณิชย์ เร่งช่วยเหลือชาวสวนมังคุดในพื้นที่ภาคใต้แก้ไขปัญหาราคามังคุดตกต่ำจากวิกฤติโควิด-19 เน้นความร่วมมือ เกษตรฯ-พาณิชย์-ภาคเอกชน

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์โดยการนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายชัยชนะ เดชเดโช และ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.ปชป. จ.นครศรีธรรมราช ถึงปัญหาราคามังคุดตกต่ำเนื่องจากวิกฤติโควิด ซึ่งพบว่าสาเหตุสำคัญเกิดจากการที่มังคุดในภาคใต้ออกผลผลิตพร้อมกันหลายจังหวัดและตรงกับช่วงที่ศบค. สั่งล็อกดาวน์พอดี จึงทำให้พ่อค้าคนกลาง (ล้ง) ไม่สามารถส่งแรงงานเข้าไปแพ็คและรับซื้อมังคุดจากชาวสวนได้ เพราะติดขัดเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัดที่ส่วนใหญ่ต้องเดินทางมาจากภาคตะวันออก ราคาเลยตกลงต่ำกว่าปกติอย่างรวดเร็ว



พรรคประชาธิปัตย์ทราบดีถึงความเดือดร้อนดังกล่าวของพี่น้องชาวสวนมังคุด และได้หาแนวทางช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โดยเบื้องต้นนายจุรินทร์ได้ขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาไปบ้างแล้ว ผ่านการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด กรมแรงงาน กองทัพบก และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคใต้ โดยได้ผ่อนปรนการเข้าพื้นที่ อำนวยความสะดวกให้ล้งสามารถพาแรงงานเข้า – ออกจังหวัดต่าง ๆ และเชิญผู้ส่งออกลงพื้นที่ เพื่อมารับซื้อมังคุดได้ง่ายขึ้น และทำให้ราคารับซื้อกลับมาเป็นเหมือนปกติโดยเร็วที่สุด ภายใต้การกำกับดูแลของมาตรการด้านสาธารณสุข รวมทั้งรณรงค์ให้ค่ายทหารในภาคใต้และช่องทางการตลาดของ ททบ. อุดหนุนมังคุดสำหรับบริโภค เพิ่มดีมานด์ให้ตลาด ควบคู่ไปกับการใช้งบประมาณอุดหนุนจากภาครัฐ เช่น โครงการกล่องไปรษณีย์ฟรี 200,000 ใบจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ชาวสวนส่งมังคุดถึงบ้านลูกค้าได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยติดต่อขอรับกล่องได้ที่พาณิชย์จังหวัด เป็นต้น



และเพื่อให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนธุรกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ จึงได้เดินหน้าสานต่อนโยบายดังกล่าว โดยเชื่อมโยงกลไกระหว่าง ก.พาณิชย์ ก.เกษตรฯ ภาคเอกชน และ ส.ส.ชัยชนะ ส.ส.พิมพ์ภัทรา ในพื้นที่ จัดทำแนวทางการช่วยเหลือเพิ่มเติม อาทิ ประสานให้ผู้ทำธุรกิจส่งออกรายใหญ่เข้าไปตั้งจุดรับซื้อผลผลิตด้วยตนเอง สนับสนุนชาวสวนให้ขายมังคุดผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อช่วยชาวสวนระบายสินค้าในราคาที่เหมาะสม และช่วยให้ประชาชนได้บริโภคผลไม้คุณภาพต่อเนื่องหลังจากที่ได้ทำโครงการสนับสนุนการตลาดเพื่อชาวสวนมังคุดมาตลอดสองปีนี้ รวมถึงจัดประชุมวาระเร่งด่วนระหว่างรัฐ-เอกชน ผ่านระบบออนไลน์ในเช้าวันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคมนี้เพื่อพิจารณามาตรการและแนวทางการช่วยเหลือชาวสวนมังคุดทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่เหมาะสมต่อไป



"กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ และทีมเศรษฐกิจทันสมัย ปชป. ได้ให้การช่วยเหลือเรื่องราคามังคุดตกต่ำมาตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ระลอกแรก ตอนนี้เมื่อชาวสวนเจอปัญหาอีกครั้ง เรายินดีที่จะช่วยเหลือทุกคนเช่นเดิม โดยจะสานต่อโครงการสนับสนุนการตลาดจากแนวทางครั้งก่อน ไปพร้อม ๆ กับหารือนโยบายใหม่ เพื่อพาชาวสวนมังคุดก้าวผ่านวิกฤติไปได้" นายปริญญ์กล่าว
#2753
 
ชื่อดีเสริมมงคล เกื้อหนุนให้ประสบความเจริญรุ่งเรืองดังใจหวัง

รับวิเคราะห์ชื่อให้ฟรี !!!!

รับตั้งชื่อ ตั้งชื่อเด็ก เปลี่ยนชื่อ หาชื่อมงคล
ใช้ทั้ง 3 ศาสตร์ คือตามหลักทักษา เลขศาสตร์ อายตนะ

ตามความเชื่อแบบไทย "ชื่อ" เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะไม่เพียงจะเป็นคำที่ใช้แทนตัวเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้คุณให้โทษแก่เราอีกด้วย ดังนั้นการ "ตั้งชื่อ" ให้แก่เด็กหรือแม้แต่เปลี่ยนชื่อให้ตัวท่านเอง ต้องทำตามตำราจึงจะเป็นมงคล

การตั้งชื่อมงคลให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ตามเงื่อนไขของทุกศาสตร์ทุกตำรา เพื่อจะได้ชื่อดี ๆ สักชื่อนึงไม่ง่ายเลย ต้องมีการวิเคราะห์ชื่อแยกแยะอักขระ คำนวณวิเคราะห์ร้อยชื่อพันชื่อหากโชคดีอาจได้มาสักชื่อนึงก็เป็นได้ ได้ชื่อแล้วจะต้องดูผลคำทำนายรวมกับนามสกุลอีก ใช้แต่ละศาสตร์กลั่นกรองชื่อ แต่ละชื่อใช้เวลาในการคำนวณพอสมควร

ค่าครูในการตั้งชื่อ 299 บาท (จากปกติ 599 บาท) ท่านจะได้รับ

รับชื่อมงคล 2-3 ชื่อ มีคำอ่านและคำแปลของชื่อ
วิเคราะห์ชื่อใหม่ให้ทั้ง 3 ศาสตร์ ไม่ว่าหลักทักษา หลักเลขศาสตร์ หลักอายตนะ
ชื่อที่ได้รับจะผ่านการทำพิธีเสริมดวง เสริมมงคลให้ด้วย
ฤกษ์ในการเปลี่ยนชื่อ
พิธีกรรมที่ส่งเสริมการใช้ชื่อใหม่ ให้เกิดความเป็นสิริมงคล

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม วิเคราะห์ชื่อฟรี ตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662
id line : teerapat999

แฟนเพจ https://web.facebook.com/porntaywa
เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/3
  
 
 
#2754


จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐได้เพิ่มขึ้นทั้ง 50 รัฐ รวมทั้งในกรุงวอชิงตัน ดีซี ขณะที่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตากลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) แถลงว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้พุ่งขึ้นในสหรัฐ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาคิดเป็น 83% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด สูงกว่าระดับ 50% ที่พบในช่วงวันที่ 27 มิ.ย.-3 ก.ค.

สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 35 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 626,000 ราย

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตายังได้ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 48% เมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้

องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตาสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 43-90% และขณะนี้มีการแพร่ระบาดไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 43,700 รายต่อวัน โดยสูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ถึง 65% และสูงเกือบ 3 เท่าเมื่อเทียบกับเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

ทั้งนี้ รัฐหลุยเซียนา อาร์คันซอ มิสซูรี ฟลอริดา และเนวาดา เป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยทุกรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า

นอกจากนี้ รัฐในกลุ่มดังกล่าวต่างก็มีอัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ในอัตราต่ำ โดยเฉพาะรัฐหลุยเซียนา ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนเพียง 47% เทียบกับระดับเฉลี่ย 65.9% ในรัฐอื่นๆทั่วสหรัฐ
#2755


GPSC เดินเครื่องโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานด้วยเทคโนโลยี กระบวนการผลิตขั้นสูงแบบ SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชู 3 จุดเด่นตอบโจทย์การใช้งานทั้งความปลอดภัย เสถียรภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมก้าวสู่ผู้นำด้านแบตเตอรี่เทคโนโลยีและโซลูชั่นการบริหารจัดการพลังงานแบบครบวงจร ภายใต้การขับเคลื่อนนวัตกรรมพลังงานของกลุ่ม ปตท. ตั้งเป้าเสริมศักยภาพการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนป้อนกลุ่มโรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และ SME ลุยต่อยอดแผนการผลิตแบตเตอรี่เพื่อยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้เปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell โดยใช้เทคโนโลยี SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง  โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี ผ่านระบบออนไลน์


ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้กล่าวถึงโรงงานแห่งนี้ ถือเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ Lithium แบบ SemiSolid แห่งแรกของไทย และภูมิภาคอาเซียน ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี โดยโรงงานแห่งนี้ตั้งขึ้นตามวัตถุประสงค์ในการสร้างนวัตกรรมและอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่ Lithium ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และกระตุ้นให้เกิด Ecosystem ของการใช้พลังงานสะอาด และพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ ที่มากขึ้นในทุกภาคส่วน โดยวางแผนขยายกำลังการผลิตขึ้นเป็น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีในอนาคต เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายของ GPSC ที่มุ่งพัฒนาพลังงานทดแทน ให้สามารถขยายกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ 8,000 เมกะวัตต์ต่อปี ภายในปี 2573

โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell ว่า ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทย ในการเริ่มต้นเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านพลังงาน ที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยรักษาจุดยืนการเป็นผู้นำฐานการผลิตยานยนต์ในภูมิภาค และเป็นการต่อยอดเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ได้เร็วขึ้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของอาเซียน ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการมุ่งหน้าพาประเทศลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ Net Zero Carbon Country ในอนาคต สอดรับกับทิศทางด้านพลังงานของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่ต่างได้กำหนดเป้าหมายเดียวกัน ภายในปี ค.ศ. 2050 และยังสอดคล้องกับเป้าหมายการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย

โดยปัจจุบัน มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (รถอีวี) ตามท้องถนนมากขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ยานยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น คือ การทำให้ราคารถยนต์ลดลง เพื่อเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมรองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้เกิดขึ้น


ด้านนายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GPSC กล่าวว่า GPSC พร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการผลักดันประเทศลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ ส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและการลดช่องว่างของระบบพลังงานทดแทน ด้วยนวัตกรรมการผลิตแบตเตอรี่ SemiSolid เทคโนโลยีการผลิตของบริษัท 24M Technologies Incorporation หรือ 24M จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทฯ ได้รับสิทธิในการดำเนินการผลิตและจัดจำหน่าย


โดยบริษัทฯ จะเริ่มจากการผลิต G-Cell ในแบบ LFP (Lithium Iron Phosphate) ที่มีจุดเด่นในเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานสูง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า จึงเหมาะสมกับแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย รวมทั้งยังสามารถรีไซเคิลได้ง่ายเมื่อแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน จึงเป็นแบตเตอรี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น ที่ 30 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งสามารถขยายกำลังการผลิตของโรงงานนี้ ได้ถึง 100 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี

โดยแผนระยะยาว ใน 10 ปีข้างหน้า วางเป้าสู่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาด Giga-scale กำลังผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและพิจารณาแผนการลงทุนในช่วงต่อไป คาดว่าจะเห็นข้อสรุปของพื้นที่ตั้งในปีหน้า ซึ่งเบื้องต้นได้มองถึงพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และตั้งอยู่ใกล้โรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง เพื่อรองรับต่อแผนยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ด้วยเงินทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท


"แผนการดำเนินงานครั้งนี้ จะเสริมสร้างความพร้อมด้านพลังงานให้กับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (S-CURVE) โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) การเพิ่มขึ้นของการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ฯลฯ ซึ่งจะสร้างศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศ และเสริมคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนคนไทยตามนโยบายรัฐบาล" นายวรวัฒน์ กล่าว


สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของโรงงานแห่งนี้ มีขีดความสามารถผลิตแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงานได้ใน 3 ระดับ คือ 1.G-Cell ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นพื้นฐานในรูปแบบ Battery Pouch Cell 2.ผลิตภัณฑ์ G-Pack ที่มีการนำ Battery Pouch Cell มาเชื่อมต่อกันในรูปแบบ Battery Module และ Pack พร้อมทั้งติดตั้งระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ หรือ Battery Management System (BMS) ร่วมด้วย สำหรับการใช้งานในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ (Mobility Application–Light Duty and Heavy Duty) เช่น รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รถตุ๊กต๊กไฟฟ้า รถไฟฟ้าสี่ล้อขนาดเล็ก รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (Stationary Application) และ 3.กลุ่ม G-Box ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งาน สำหรับระบบสำรองไฟฟ้า (Uninterruptible Power Supply หรือ UPS) และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System หรือ ESS) ที่มีขนาดตั้งแต่ 10-1,000 กิโลวัตต์ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งสามารถนำเทคโนโลยี IOT (Internet of Things) AI (ระบบปัญญาประดิษฐ์) และ Blockchain เข้ามาพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มการให้บริการ


โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมด พร้อมรองรับลูกค้าทั้งในกลุ่ม ปตท. กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (SME) รวมถึงผู้ประกอบการที่ต้องใช้แบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบของสินค้า โดยในระยะแรกจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ผลิตและใช้งานระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) และยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ด้วยลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมกับจุดแข็งของ G-Cell แบบ LFP (Lithium Iron Phosphate)


ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่ม Passenger EV ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ประเทศไทยให้การส่งเสริม และมีเป้าหมายการผลิตให้ได้ 30% ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ในปี 2573 ซึ่งมักจะนิยมใช้แบตเตอรี่แบบ NMC (Lithium Nickel Manganese Cobalt Oxide) นั้น ในเบื้องต้นบริษัทฯ สามารถนำเข้าแบตเตอรี่แบบ NMC ที่ผลิตจากเทคโนโลยีเดียวกัน โดยบริษัท Anhui Axxiva New Energy Technology Co., Ltd. (AXXIVA) ประเทศจีน ที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนก่อนหน้านี้ ป้อนให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการได้เช่นกัน


ทั้งนี้ แบตเตอรี่ G-Cell ที่ผลิตโดย GPSC นับเป็นการตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของบริษัทฯ ในฐานะแกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. ที่ได้มองเห็นโอกาสในการให้บริการด้านแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน และมุ่งสู่การเป็นผู้พัฒนาโซลูชั่นเพื่อบริหารจัดการพลังงานชั้นนำของประเทศ โดยการนำนวัตกรรมใหม่ที่คิดค้นและถูกพัฒนา โดย 24M เป็นแบตเตอรี่ชนิดกึ่งแข็ง ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถป้องกันเหตุไฟฟ้าลัดวงจรจากภายในเซลล์แบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี ด้วยโครงสร้างที่มีชั้นฟิล์มพิเศษห่อหุ้มภายใน Unit Cell และด้วยสูตรการผลิตแบบ SemiSolid ส่งผลให้ G-Cell มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยความสามารถในการเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ง่ายกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของ GPSC เมื่อนำมาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ G-Pack และ G-Box จำหน่ายให้กับลูกค้าแล้วคาดว่าจะสามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานของลูกค้าได้อย่างดี
#2756


จากกรณี นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาพยาบาลอาการโรคโควิด 19 ในถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ออกไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีช่วงหนึ่ง ระบุว่ามีแพทย์โทรมาบอกว่า ให้ย้ายออกจากโรงพยาบาลให้ไปรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ทั้งที่ตนเองยังไม่หาย ได้ยายังไม่ครบโดส แต่หมออ้างว่าเปลี่ยนแผนการรักษาได้ ให้ไปรักษาที่บ้าน โดยให้อยู่โรงพยาบาลต่ออีก 24 ชั่วโมง นั้น


นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลดังกล่าวได้ชี้แจงข้อมูลในเบื้องต้นว่า ในส่วนของคุณณวัฒน์ฯ นั้น ทางโรงพยาบาลได้ประเมินแล้วว่าเป็นผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่อาการพ้นวิกฤต และมีอาการดีขึ้นอยู่ในระยะพักฟื้น (Step Down) ทางโรงพยาบาลจึงดำเนินการให้ผู้ป่วยไปพักฟื้นที่สถานพยาบาลชั่วคราว (Hospitel) หรือให้กลับบ้านเพื่อรักษาต่อเนื่อง โดยวิธีกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ตามแนวทางการรักษาแบบ Step-down care ซึ่งจะทำได้โดยความสมัครใจของผู้ป่วย เพื่อจัดเตียงให้กับผู้ป่วยโควิด 19 รายอื่นซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้เตียงรักษาตัวในสถานพยาบาล 

และเมื่อผู้ป่วยเข้าพักที่ Hospitel หรือกลับไปที่พักที่บ้านแล้ว สถานพยาบาลเองก็จะมีการติดตามอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดทุกวันผ่านระบบ Video Call หรือ Teleconference มีอุปกรณ์วัดไข้และออกซิเจนส่งไปให้ มีช่องทางติดต่อกรณีฉุกเฉิน หากผู้ป่วยมีอาการทรุดลงก็จะมีการรับตัวผู้ป่วยกลับไปรักษา ณ สถานพยาบาลโดยทันที ซึ่งในกรณีของคุณณวัฒน์ฯ ได้ครองเตียงผู้ป่วยมาแล้วเป็นเวลา 22 วัน ซึ่งแพทย์ก็ได้มีการประเมินแล้วว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นสามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ จึงมีการแจ้งให้ผู้ป่วยทราบแต่อาจจะด้วยการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ จึงทำให้คุณณวัฒน์ฯ เกิดความเข้าใจผิดว่าทางโรงพยาบาลให้ออกจากโรงพยาบาลทั้งที่อยู่ระหว่างการรักษา 

ซึ่งแพทย์ก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับคุณณวัฒน์ฯ แล้วว่าขั้นตอนดังกล่าวเป็นกระบวนการรักษาตามแนวทาง Step-down care ที่ใช้กับผู้ป่วยทุกราย มิได้เลือกปฏิบัติเฉพาะกับคุณณวัฒน์ฯ แต่อย่างใด รวมทั้ง ขณะนี้คุณณวัฒน์ฯ ก็ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล โดยกรม สบส.ก็ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ติต่อขอข้อมูลจากคณณวัฒน์ฯ ต่อไป

นายแพทย์ธเรศฯ กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและผู้เสียชีวิตในแต่ละวัน ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วยและญาติพี่น้อง รวมถึงประชาชนที่ติดตามข่าวสาร ตนจึงอยากฝากให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลเอกชนทุกราย ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด 19 ดำเนินการด้วยความทุ่มเท เสียสละ ทั้งในด้านของการรักษาพยาบาล รวมถึงการสื่อสารกับผู้ป่วยหรือญาติ ก็จะต้องมีความชัดเจนถึงกระบวนการรักษา และมีการชี้แจงถึงความจำเป็นในกรณีที่ต้องให้ผู้ป่วยรักษาตัว ณ ที่พัก เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยและญาติเกิดความวิตกกังวล และขาดความเชื่อมั่นต่อระบบสาธารณสุข
#2757


"ประกันสังคม" เข้มมาตรการรัฐ ขอประชาชนงดเดินทางติดต่อตรง ต้องติดต่อรับสิทธิประกันสังคมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ "SSO e-Service" หรือระบบออนไลน์ www.sso.go.th ต้องทำยังไง มีเงื่อนไขสำคัญอะไรที่ต้องทำความเข้าใจ เช็ค!

ภายหลังสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ศบค. ประกาศยกระดับล็อกดาวน์ ให้ 3 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เพิ่มเติมคือ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่ง 3 จังหวัดดังกล่าวเคยถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 

ทั้งนี้คำประกาศศบค. เมื่อ 9 กรกฎาคม ได้ประกาศจังหวัดเขตสีแดงเข้ม แค่ 10 จังหวัด เท่านั้น ได้แก่  จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนราธิวาส จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสงขลา ทำให้พื้นที่สีแดงเข้ม มียอดรวมจังหวัดทั้งสิ้น 13 จังหวัด และจำกัดการเดินทาง
ล่าสุด สำนักงานประกันสังคม จึงขอความร่วมมือนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน งดการมาติดต่องานหรือทำธุรกรรม ณ สำนักงานประกันสังคมในช่วงนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ "SSO e-Service" หรือระบบออนไลน์ www.sso.go.th แทนนั้น

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จึงรวบรวมช่องทางการติดต่อ "ประกันสังคม" และดูขั้นตอนการกรอกข้อมูล และข้อควรรู้ต่างๆ ดังนี้


ติดต่อ "ประกันสังคม" ผ่านระบบ "SSO e-Service" หรือออนไลน์ www.sso.go.th 

กรณีผู้ประกันตน ขอรับประโยชน์ทดแทน

  • กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ว่างงาน และชราภาพ
  •  
  • สามารถรับแบบขอรับสิทธิประโยชน์ได้ที่ช่องทาง download แบบฟอร์มขอรับประโยชน์ทดแทนใน www.sso.go.th
  •  
  • ส่งแบบพร้อมเอกสารได้ที่ไปรษณีย์ลงทะเบียน (AR ตอบรับ) โทรสาร (Fax) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) แอพพลิเคชั่น (Line)
  •  
  • รายละเอียดของแต่ละหน่วยงานท่านสามารถเข้าดูได้ที่ www.sso.go.th
  •  
  • มีข้อสงสัยเกี่ยวกับงานประกันสังคมสามารถติดต่อสอบถามที่หน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
  •  
  • ผ่านช่องทาง E-mail : info@sso1506.com
  •  
  • Webboard (กระดานสนทนา) Live Chat
  •  
  • Facebook : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
กรณีนายจ้างขอทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ให้นายจ้างเข้าช่องทาง e-Service ในเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th

ในหัวข้อบริการอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขอ User สถานประกอบการ และ Password เพื่อการนำส่งข้อมูลเงินสมทบ แจ้งผู้ประกันตน เข้า - ออก จากงาน หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ประกันตน

พร้อมชำระเงินสมทบของผู้ประกันตน ผ่านระบบ e-payment ได้ตลอดเวลา

กรณีการตรวจสอบข้อมูลของ "ผู้ประกันตน"

สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตนส่งเงินสมทบยอดเงินชราภาพ และการรับสิทธิประโยชน์รวมถึงเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทุกกรณี

สามารถตรวจสอบข้อมูลและสิทธิประโยชน์ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่

  • ช่องทางระบบสมาชิกผู้ประกันตนในเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
  •  
  • สามารถดาวน์โหลด Application SSO Connect
  •  
  • สอบถามผ่าน facebook Messenger ของ สำนักงานประกันสังคม
  •  
  • โทรสายด่วน 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า กรณีเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (สปส) แท้จริงแล้วเว็บไซต์ไม่ได้ล่ม เพียงแต่สำนักงานประกันสังคมได้ปิดปรับปรุงเว็บไซต์ 1 วัน เพื่อปรับปรุงระบบฐานข้อมูลให้สอดคล้องกับประกาศ ศบค.ที่จากเดิมกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 6 จังหวัดและเพิ่มเติมเป็น 10 จังหวัด

รวมทั้งขยายประเภทกิจการที่ให้ความช่วยเหลือจากเดิม 4 เป็น 9 ประเภทกิจการ เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งเป็นคนละส่วนกับข้อมูล ผู้ประกันตนมาตรา 33,39 และ 40 ที่มีรายชื่อทั้งหมดอยู่ในระบบฐานข้อมูลอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร

"อาชีพอิสระ" สมัครได้หลายช่องทาง

นางเธียรรัตน์ ยังกล่าวถึง กรณีที่สำนักงานประกันสังคมให้ผู้ที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมและต้องการรับ "เงินเยียวยา" 5,000 บาท ได้สมัครมาตรา 40 นั้น ในเรื่องการสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 นั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่สามารถมี 3 ทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบรายเดือนระยะยาว เพื่อรับการคุ้มครองที่ต่างกัน คือ

  • ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาท
  •  
  • ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาท
  •  
  • ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาท
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคมให้ได้สมัครมาตรา 40 เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยการออมในระยะยาวเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิต
#2758

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รับลูก "จุรินทร์" โชว์แผนจัดกิจกรรมออนไลน์ปั๊มยอดส่งออกครึ่งปีหลัง 2564 เกือบ 100 กิจกรรม ทั้งจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ พาเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ จัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบเสมือนจริง จัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เร่งดำเนินกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มรายได้เข้าประเทศ โดยมีแผนที่จะจัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกให้กับสินค้าไทย ทั้งการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching – OBM) การพาผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ การจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง การจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และแพลตฟอร์มชื่อดัง รวมแล้วประมาณเกือบ 100 กิจกรรม ครอบคลุมทุกประเทศทั่วโลก ที่เป็นตลาดส่งออกของไทย

สำหรับการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ มีกำหนดจัดกิจกรรมอีก 20 ครั้ง ในช่วงเดือนก.ค.-พ.ย.2564 ในกลุ่มสินค้าต่าง ๆ เช่น สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ 60+ การพิมพ์ ผลไม้สด แปรรูป ผลิตภัณฑ์เกษตร ของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารแปรรูป ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความเย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนอะไหล่และอปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร วัสดุก่อสร้าง เครื่องดื่ม เครื่องมือแพทย์ ของใช้ภายในบ้าน และธุรกิจบริการ เช่น ดิจิทัลคอนเทนต์ ธุรกิจการศึกษานานาชาติ ธุรกิจบริหารการจัดงาน ธุรกิจบริการ Tech Startup และแฟรนไชส์

นายสมเด็จ กล่าวว่า ส่วนการนำผู้ประกอบการไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ทั้งรูปแบบออนไลน์ Mirror Mirror (ส่งแต่สินค้าไปจัดแสดงและเจรจาธุรกิจผ่านออนไลน์) และ Pop Up Store (ส่งสินค้าและบริการไปจัดแสดง) ประมาณ 16 ครั้ง ได้แก่ งานภาพยนตร์ที่เมืองคานส์ , ดิจิทัลคอนเทนต์ ที่สิงคโปร์ , อาหารและธุรกิจโรงแรมที่เมืองโกยาง เกาหลีใต้ , ไลฟ์สไตล์ที่ลาสเวกัส สหรัฐฯ , เครื่องสำอางที่กวางโจว , อาหาร ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย , สินค้าอุปโภคบริโภคที่หนานหนิง , ไลฟ์สไตล์และของใช้ของตกแต่งบ้าน ที่ปารีส ฝรั่งเศส , ก่อสร้าง ที่ดูไบ , สินค้าอุปโภคบริโภค ที่เซี่ยงไฮ้ , การแพทย์ ที่เยอรมนี , ยานยนต์ ที่ลาสเวกัส สหรัฐฯ , ภาพยนตร์ ที่สหรัฐฯ เกม ที่ปูซาน เกาหลีใต้ , ชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ที่ดูไบ , ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง ที่ยุโรปและ CIS

การจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง เหลือจัดงานอีก 6 ครั้ง คือ งาน  Bangkok International Digital Content Festival 2021 4-6 ส.ค.2564 (ดิจิทัลคอนเทนต์) TILOG VE 2021  25-27 ส.ค.2564 (โลจิสติกส์) , Thai G.R.O.O.V.E Online Business Matching ส.ค.2564 (สินค้าแบรนด์ไทยชั้นนำ) , THAIFEX Virtual Trade Show พ.ค.–ก.ย.2564 (อาหาร) และ  THAIFEX-ANUGA ASIA–Hybrid Edition 29 ก.ย.–3 ต.ค.2564 (อาหาร)

นอกจากนี้ จะจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ และเจรจาธุรกิจออนไลน์ ในอาเซียน 4 ครั้ง ได้แก่ ย่างกุ้ง เมียนมา พนมเปญ กัมพูชา เกิ่นเทอ เวียดนาม พระตะบอง กัมพูชา และเอเชียใต้ 3 งาน ได้แก่  อินเดียตะวันตก (มุมไบ สุรัต อินดอร์) เจนไน และนิวเดลี (เป็นลักษณะ OBM เฉพาะนิวเดลี ที่เป็น Virtual Event )และจีน 1 ครั้ง ที่คุนหมิง

 ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ จะจัดประมาณ 44 ครั้ง โดยโปรโมตผลไม้ไทยทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ในเมืองต่าง ๆ ของจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กวางโจว ฝอซาน จ้านเจียง อู่ฮั่น ชิงต่าว ต้าเหลียน เซียะเหมิน ฉางซา คุนหมิง เฉิงตู และฉงชิ่ง , ร่วมมือกับ AEON , Beisia , DONKI และผ่านรายการ TV Shopping จัดส่งเสริมการขายสินค้าอาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป ผลไม้พรีเมี่ยม เครื่องปรุงรส เครื่องดื่ม , จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สินค้าผลไม้ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องปรุงรส ขนมคบเคี้ยว ของใช้ ของตกแต่งบ้าน เครื่องสำอาง สปา และผลิตภัณฑ์ยางพารา ผ่านช่องทางการค้าปลีกสมัยใหม่ ใน 12 เมืองของจีนรวมฮ่องกง (ชีอาน เฉิงตู เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หนานหนิง ไป่เซ่อ ฮาร์บิน เทียนจิน กวางโจว จงซาน เซี่ยเหมิน และฮ่องกง) , จัดงาน Taste of Thailand 202

ส่งเสริมสินค้าอาหารไทย ณ ห้าง Hyundai กรุงโซล , จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สินค้าข้าว อาหารแปรรูป เกษตรแปรรูป โดยร่วมกับห้างซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชีย และฮิสแปนิก ในสหรัฐฯ อาทิ Hmart, Lotte Plaza, 99 Asian Supermarket, Emart, Food Fair Wholesale, Price Rite, Western Beef, C-Town , จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าเครื่องประดับของนักออกแบบไทยสู่ Showroom ในนครเซี่ยงไฮ้ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สินค้านวัตกรรมที่มีการออกแบบและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สู่ตลาดญี่ปุ่นในรูปแบบ Pop Up Store  

ขณะเดียวกัน จะส่งเสริมสินค้าไทยใน TOP THAI Store บนแพลตฟอร์ม e-Commerce ชั้นนำของต่างประเทศ เช่น Tmall Global จีน , Bigbasket อินเดีย , Klangthai กัมพูชา และ Amazon สหรัฐฯ และส่งเสริมสินค้าไทย กลุ่มสินค้าแนวดีไซน์ และ Craft สู่ตลาดการค้าออนไลน์ในยุโรป ผ่านแพลตฟอร์ม meisterstrasse.com
#2759


วันนี้ (16 ก.ค.) นายเสกสันต์ พยัคฆ์ อายุ 56 ปี ตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านบางคลอง หมู่ 6 ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย นำลอตเตอรี่ หมายเลข 556725 ของตนเอง ที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ ได้เงินรางวัล 12 ล้านบาท เข้าลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.อ.กสิพงษ์ เกตุขาว พงส.สภ.เมืองสุโขทัย เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายเสกสันต์ พยัคฆ์ หรือ ผู้ใหญ่เสก พบว่า กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับญาติๆ โดย ผู้ใหญ่เสก กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ปกติตนจะซื้อลอตเตอรี่เลขท้าย 25-52 เป็นประจำทุกงวดเพราะรักเลขนี้อยู่แล้ว ประกอบกับแม่น้ำหนึ่งได้ให้เลขที่ตนชอบอยู่แล้ว

โดยตนเองได้ไปหาซื้อลอตเตอรี่ที่แผงขายลอตเตอรี่ในปั๊ม ปตท. สายบายพาส ม.1 ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย ได้มาทั้งหมด 4 ใบ ปรากฏว่าเมื่อผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมา ตนได้ตรวจดูก็พบว่า ถูกรางวัลที่ 1 เลข 556725 ถึง 2 ใบ ได้เงินรางวัล 12 ล้านบาท จึงรีบนำมาลงบันทึกประจำวันทันที

สำหรับเงินรางวัลที่ได้มานั้น หลังจากนำไปใช้หนี้สินที่มีอยู่แล้ว ตนก็จะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้แก่บุตรชายคนเล็ก ซึ่งยังเรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านบางคลองราษฎร์อุทิศ ให้ได้ศึกษาต่อสูงสุด และส่วนหนึ่งก็จะนำไปสร้างบ้านให้กับลูกชาย และเก็บไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิตต่อไป

ส่วนญาติๆ ก็มาแสดงความยินดี และดีใจที่ผู้ใหญ่เสกถูกรางวัลที่ 1 โดยผู้ใหญ่จะได้นำไปใช้หนี้และเก็บไว้ใช้ต่อไป

สาวหัวหน้าช่างเทศบาลดวงเฮง จากทะเบียนรถ ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ

หลังจากที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกาศผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ก.ค. 64 โดยรางวัลที่ 1 ได้แก่หมายเลข 556725

ปรากฏล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ศรีราชาชลบุรี โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า...

สาวราชการดวงดี ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ ดีใจรับทรัพย์ ระบุซื้อตามเลขทะเบียนรถยนต์

วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคนถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 จำนวน 2 ใบ มูลค่ากว่า 12 ล้ายบาท ซึ่งทำงานอยู่ที่ สำนักงานเทศบาลนครแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

จากการตรวจสอบพบว่าผู้โชคดีคือ น.ส.นุชจรี วีรพิพัฒน์ อายุ 46 ปี เป็นหัวหน้าฝ่ายสำนักการช่าง เทศบาลนครแหลมฉบัง ซึ่งได้ถ่ายภาพตัวเองคู่กับสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2 ใบ เลขที่ถูกรางวัล 556725 งวดที่ 28 ชุดที่ 31 ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และดีใจ

ทั้งนี้ภายหลังจากที่รู้ว่าถูกรางวัล ผู้โชคดีก็ได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับดังกล่าว ไปแจ้งความลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมกับระบุไว้แต่เพียงว่า ซื้อตามเลขทะเบียนรถยนต์ของตนเอง ก่อนที่จะรีบเดินทางกลับบ้าน และไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ
#2760



นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเริ่มกลับมาเป็นสัญญาณบวกทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค หลังจากได้รับปัจจัยหนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ออกมาย้ำชัดว่าจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป โดยเฟดจะไม่รีบร้อนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและไม่รีบร้อนลดวงเงินทำ QE เพราะแม้เศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้น แต่ตัวเลขการฟื้นตัวเศรษฐกิจยังไม่เป็นไปตามเป้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นการเพิ่มขึ้นชั่วคราว

ปัจจัยนี้สนับสนุนให้ทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสามารถแตะจุดสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ที่ 1,835 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากที่ก่อนนี้ปรับลดลงจากปัจจัยความกังวลเรื่องการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดจนปรับลดลงไปที่ 1,750 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ล่าสุดก็สามารถปรับตัวทะลุแนวต้าน 1,818 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และมีแรงซื้อต่อเนื่องจนสามารถทำจุดสูงสุดดังกล่าวได้ ทั้งนี้ จากถ้อยแถลงของเฟด ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง สวนทางกับสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวพุ่งขึ้น

สำหรับปัจจัยที่น่าติดตามหากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาราคาทองคำจะยังคงปรับขึ้นตามปัจจัยพื้นฐาน ขณะที่ปัจจัยทางเทคนิคสามารถกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน และ 200 วัน จึงมีมุมมองเชิงบวกระยะยาวมากขึ้น 

หากราคาทองคำยังทรงตัวได้เช่นนี้โอกาสในการปรับตัวขึ้นก็มีมากขึ้น ส่วนระยะสั้นก็เป็นสัญญาณการแกว่งตัวขึ้น และทดสอบแนวต้าน 1,835 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งหลังจากนี้หากมีการปรับตัวลดลงไป แต่สามารถยืนเหนือ 1,812-1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,100-27,900 บาทต่อบาททองคำ ได้ ก็ถือว่ายังเป็นสัญญาณที่ดี ใช้เป็นจังหวะซื้อได้

และหากผ่าน 1,835 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,450 บาทต่อบาททองคำ มีโอกาสไปทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยา 1,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,700 บาทต่อบาททองคำ

อย่างไรก็ดีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงจากการขายทำกำไรใกล้ๆ แนวต้าน 1,835-1,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ยังมีอยู่ แต่หากไม่หลุด 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 27,900 บาทต่อบาททองคำยังไม่น่ากังวล