• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - deam205

#2901


อย. ตรวจพบผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร 6 รายการ ฉวยโอกาสหลอกประชาชน มีทั้งไม่ขออนุญาต สวมเลข อย. ของผลิตภัณฑ์อื่น อ้างว่ามีฟ้าทะลายโจรเป็นส่วนประกอบแต่ไม่มีจริง และใช้วัตถุดิบอื่นแทน เตือนประชาชนระวัง ก่อนซื้อขอให้ตรวจสอบเลข อย. ที่ www.fda.moph.go.th หัวข้อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ หรือ Oryor Smart Application หากพบผลิตภัณฑ์ต้องสงสัย แจ้งได้ที่สายด่วน อย. 1556

วันนี้ (4 ส.ค.) เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข และรักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจพบมีผู้ฉวยโอกาสนำผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรผิดกฎหมายมาหลอกขายให้ประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ มีทั้งที่ไม่ได้ขออนุญาตกับ อย. เป็นผลิตภัณฑ์ปลอมที่สวมเลข อย. ของผลิตภัณฑ์อื่น หรืออ้างว่ามีฟ้าทะลายโจร แต่ตอนได้รับอนุญาตไม่มีฟ้าทะลายโจรเป็นส่วนประกอบแต่อย่างใด หรือใช้วัตถุดิบอื่นแทน จึงขอเตือนให้ประชาชนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ ดังนี้

ผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย.

1. ฟ้าทะลายโจร ตราโนนทรี ระบุทะเบียนเลขที่ TAS-PR : 104 ซึ่งเป็นเลขที่รหัสรับรองการแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ ไม่ใช่เลขทะเบียนตำรับสมุนไพร

ผลิตภัณฑ์ปลอม สวมเลข อย. ของผลิตภัณฑ์อื่น หรืออ้างว่ามีฟ้าทะลายโจรเป็นส่วนประกอบ

1. ผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร ตราอินทารา ฉลากระบุเลข อย. 63-1-17262-5-0005 และโฆษณาสรรพคุณเสริมภูมิคุ้มกันโรค ป้องกันไม่ให้ติดไวรัสในกลุ่มทางเดินหายใจ และช่วยป้องกันไวรัสโควิด-19 ตรวจสอบแล้วพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับอนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในชื่อ อินทรา-015 (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) ไม่มีฟ้าทะลายโจรเป็นส่วนประกอบแต่อย่างใด

2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วีโอดี เฮิร์บ พลัส สารสกัดจาก ฟ้าทะลายโจร ฉลากระบุเลข อย. 10-1-15662-5-0019 ตรวจสอบแล้วพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับอนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งไม่มีสารสกัดจากฟ้าทะลายโจรเป็นส่วนประกอบ

3. ผลิตภัณฑ์ "ฟ้า fA Andrographis Paniculata Cordata 600 mg" ฉลากระบุเลข อย. 13-1-27660-5-0029 ส่วนประกอบระบุว่ามี Andrographis paniculata 400 mg ฟ้าทะลายโจร 60% ตรวจสอบแล้วพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับอนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในชื่อ ฟ้า (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) ซึ่งไม่มีฟ้าทะลายโจรเป็นส่วนประกอบ

4. ยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรสกัด (ANDROGRAPHIS EXTRACT CAPSULES) ฉลากระบุทะเบียนเลขที่ G1/61 (พจ) และระบุชื่อผู้จำหน่าย สี่พระยาโอสถ วัดโพธิ์ แขวงพระราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ไม่ระบุชื่อผู้ผลิต ตรวจสอบแล้วพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสวมเลขทะเบียนตำรับสมุนไพรของห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ้าพระยาโอสถ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดพิจิตร

ผลิตภัณฑ์ปลอม สวมเลข อย. ของผลิตภัณฑ์อื่นและใช้วัตถุดิบอื่นแทนฟ้าทะลายโจร

1. ฟ้าทะลายโจร ฉลากระบุทะเบียนเลขที่ G255/63 ตรวจสอบแล้วพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสวมเลขทะเบียนตำรับของผลิตภัณฑ์สมุนไพร โรงงานแม่คำป้อโอสถ อ.เชียงดาว จ. เชียงใหม่ และใช้บอระเพ็ดซึ่งมีรสขมคล้ายฟ้าทะลายโจรบรรจุลงในแคปซูล หลอกขายเป็นฟ้าทะลายโจร

เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม กล่าวย้ำว่า ขอให้ประชาชนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรข้างต้นมาใช้โดยเด็ดขาด เพราะเสี่ยงได้รับอันตรายจากสถานที่ผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพและประสิทธิผล ซึ่ง อย. จะประกาศรายชื่อผลิตภัณฑ์ที่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนเช่นนี้เป็นระยะ ๆ ขอให้ติดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th หัวข้อ "COVID-19" แล้วคลิกไปที่ "ข่าวประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง" หรือกดติดตามที่ "แฟนเพจเฟซบุ๊ก Fda Thai หรือ ไลน์ @Fda Thai" ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจซื้อขอให้ตรวจสอบการได้รับอนุญาตที่ www.fda.moph.go.th หัวข้อ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ หรือ Oryor Smart Application ตามกฎหมายผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรต้องขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร จะต้องมีเลขทะเบียนตำรับสมุนไพร ขึ้นต้นด้วย อักษร "G" หากพบผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าจะผิดกฎหมาย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรืออีเมล์ 1556@fda.moph.go.th
#2902


นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ. ทหารไทย (TMBAM Eastspring) ได้ให้ความเห็นว่า ในปัจจุบันแม้การระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าจะยังเดินหน้าระบาดอย่างไม่ลดละ หลายประเทศต้องเริ่มปรับวิธีต่างๆเพื่อรับมือกับการระบาดรอบใหม่ แต่สำหรับกลุ่มประเทศที่มีการได้รับวัคซีนในสัดส่วนที่สูง แม้อัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นใหม่ แต่อัตราการเสียชีวิตอยู่ในระดับต่ำกว่าการระบาดในรอบก่อนหน้ามาก จากผลของวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้

"ในเรื่องการลงทุน โดยส่วนตัวยังมั่นใจในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจ ประกอบกับมาตรการทางเศรษฐกิจและการคลังที่ยังคงทยอยออกมาซึ่งมีมูลค่ามหาศาล ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มดูดีขึ้นอย่างชัดเจน"

ในปัจจุบันเราจะเห็นว่าตลาดหุ้นโลก นำโดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯและยุโรป ต่างเเดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสวนทางตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นจีนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากตลาดหุ้นจีนที่มีการปรับฐานแรงในเดือนที่ผ่านมา จากการออกกฎระเบียบควบคุมบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆจากทางการจีนนั้น อาจยากที่จะประเมินถึงผลกระทบต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องว่าจะลากยาวแค่ไหน

สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้น ทีมกลยุทธ์เชื่อว่ามีโอกาสทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มสูงขึ้น และตัวเลขเศรษฐกิจที่เริ่มลดความร้อนแรง เพียงแต่ในช่วงปลายเดือน อาจต้องจับตาการประชุมประจำปีของเฟด (Jackson Hole) ในวันที่ 26-28 สิงหาคม ซึ่งมีโอกาสที่ตลาดจะผันผวนได้บ้าง เพราะมีความเป็นไปได้อยู่ที่ทางประธานธนาคารกลางสหรัฐฯอาจใช้เวทีการประชุมนี้ในการกล่าวถึงแนวทางการลดวงเงิน QE จากการคาดการณ์ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯแต่หากพิจารณาภาพเศรษฐกิจโดยรวม เชื่อว่ายังคงเติบโตได้

ภาพการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ คาดว่าจะยังได้แรงหนุนและมีโอกาสเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่จากงบของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี โดยบริษัทในดัชนี S&P500 ในไตรมาส2/2021ที่มีการประกาศผลการดำเนินงานออกมาแล้วถึงช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม จำนวน 294 บริษัท มียอดขายที่เติบโตกว่า 27% และมีกำไรที่เติบโตกว่า 97%

"เราคาดว่าสำหรับการลงทุนในหุ้นโลกและสหรัฐอเมริกานั้น บริษัทขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง มีกระแสเงินสดสูงและยังสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ซึ่งขอแนะนำกองทุนหุ้นโลกอย่าง TMBGQG, TMB-ES-GCG, T-ES-GCG ,T-Premium Brand และกองทุนหุ้นสหรัฐฯกลุ่มเติบโตขนาดใหญ่อย่าง TMB US Bluechip"
#2903












ขายบ้านเดี่ยว ริมน้ำ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เนื้อที่ 126.8 ตารางวา ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ราคา 850,000 บาท ติดถนนคอนกรีต ถนนดำ มีทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามทำเขื่อนแล้ว น้ำไม่ท่วม เนื้อที่ระดับสูงเท่าถนนคอนกรีต พร้อมโอน ร่มรื่น ชุ่มฉ่ำ วิวดี ที่สวย เหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างสงบสุข อุดมสมบูรณ์ตามวิถีไทยพื้นบ้าน ห่างถนนสายเอเชีย ถนนพหลโยธิน เพียง 800เมตร ติดถนนคอนกรีต ใกล้สถานที่ราชการสำคัญ ไม่ไกลตัวเมือง อยู่ในแหล่งชุมชนเจริญ มีสาธารณูปโภคครบครัน 

โทร 083-712-4115
line id : 0837124115

https://www.google.com/maps/place/15%C2%B010'22.6%22N+100%C2%B013'47.1%22E/@15.1729469,100.2297417,17z

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=108667977897412&id=100062626307647
 
#2904

เมื่อ "เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว" กลายเป็นสิ่งจำเป็นในยุคโควิดระบาด หลายคนสงสัยว่าเครื่องที่ซื้อมา ตรวจวัดได้แม่นยำแค่ไหน วิธีตรวจที่ถูกต้องทำอย่างไร แบบไหนที่บ่งชี้ว่าผลตรวจคลาดเคลื่อน ชวนหาคำตอบที่นี่

เมื่อผู้ติดเชื้อในไทยวันนี้ (4 ส.ค.64) ทำนิวไฮอีกครั้ง โดยพบยอดผู้ติดเชื้อทะลุ 2 หมื่นกว่าราย ทำให้ทั้งบุคลาการทางการแพทย์ และอาสาสมัครด่านหน้า ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้นอีกหลายเท่า โดยเฉพาะอุปกรณ์และยาจำเป็นต่างๆ ก็มีความต้องการพุ่งสูงตามไปด้วย หนึ่งในไอเทมจำเป็นคงหนีไม่พ้น "เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว"

หลายคนยอมควักเงินซื้อ "เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว" ด้วยตนเอง เพราะไม่อยากนั่งรอความช่วยเหลืออย่างเดียว แต่ในท้องตลาดตอนนี้พบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีทั้งแบบราคาแพง ราคาถูก บางครั้งพบยี่ห้อเดียวกันแต่ราคาต่างกันมาก ทำให้หลายคนไม่แน่ใจว่าควรเลือกซื้อแบบไหน? ถึงจะแม่นยำที่สุด และมีวิธีการใช้งานอย่างไร? กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว ดังนี้


1. รู้หลักการทำงาน "เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว" 

นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด การปลูกถ่ายปอด และวิกฤติบำบัด สหรัฐอเมริกา ได้แชร์ความรู้ผ่านช่องทาง Doctor Tany (2 ส.ค. 64) เกี่ยวกับหลักการทำงานของเครื่องวัดออกซิเจนฯ และวิธีใช้งานเอาไว้ว่า 

เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว มีหลักการทำงานคือ ตัวเครื่องจะปล่อยคลื่นแสงออกมา ไปกระทบกับเส้นเลือดฝอยที่ปลายนิ้วมือ แล้วมันก็จะวัดแสงสะท้อนที่ได้ออกมา แสงสะท้อนดังกล่าวจะเป็นตัวบอกว่าในเส้นเลือดของร่างกายมีปริมาณออกซิเจนอยู่มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความถี่ของแสงสะท้อน ที่สะท้อนกลับมาให้ตัวเครื่องวัดค่าได้

2. เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว มีประโยชน์ยังไง?

คำถามต่อมาที่หลายคนอาจสงสัยคือ ทำไมต้องใช้ "เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว" มาตรวจค่าออกซิเจนกับผู้ป่วย "โควิด-19" ?

คำตอบคือ เพื่อต้องการดูว่าผู้ป่วยโควิดมีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำหรือไม่ ซึ่งมีประโยชน์มากในกรณีที่ป่วยเป็นโควิด เนื่องจากเมื่อป่วยโควิดแล้ว ผู้ป่วยมักจะเกิดภาวะหนึ่งที่เรียกว่า "Happy Hypoxia" หมายความว่า คนไข้มีภาวะออกซิเจนต่ำแต่กลับดูปกติสบายดี ตรงข้ามกับการป่วยด้วยโรคอื่นๆ ที่หากผู้ป่วยมีภาวะออกซิเจนต่ำขนาดนี้ ร่างกายจะแย่ลงทันทีอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้น การใช้เครื่องมือนี้มาตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือด จึงจะช่วยให้คนป่วยได้รู้ตัวว่าตอนนี้ร่างกายของเขามีภาวะขาดออกซิเจน หรือเชื้อลงปอด หรือเริ่มมีการอักเสบในปอดแล้วหรือยัง นั่นเอง

3. แนะนำวิธีการตรวจวัดที่ถูกต้อง

หมอธนีย์ ยังได้แนะนำถึงวิธีการใช้งานเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ดังนี้

- ควรตรวจวัดที่นิ้วมือที่ไม่ได้ทาเล็บ เพราะสีทาเล็บอาจจะทำให้วัดค่าได้ผิดเพื้ยนไป ต้องล้างเล็บก่อนตรวจวัด

- ควรตรวจขณะที่มืออุ่น ถ้ามือเย็นจะวัดค่าออกซิเจนได้ต่ำลง ดังนั้นก่อนตรวจต้องทำให้มืออุ่นก่อนเสมอ

- ระหว่างตรวจวัดให้หายใจลึกๆ เข้าออก 2-3 ครั้ง วางมือนิ่งและรอผลแสดงที่หน้าจอ

- ควรสลับนิ้วและตรวจวัดซ้ำๆ ด้วย เพื่อผลที่แม่นยำมากขึ้น

- เมื่อผลตรวจโชว์ที่หน้าจอ ต้องเห็นว่าระบุทั้งค่าออกซิเจน และค่าชีพจร ให้สังเกตจุดแสดงผลค่าชีพจรต้องเคลื่อนที่ไปมาตลอดเวลา เพื่อแสดงว่าเครื่องมือใช้ได้ปกติ


4. วิธีอ่านผลตรวจค่าออกซิเจนในเลือด

สิ่งต่อมาที่ต้องรู้คือ วิธีอ่านผลและแปลผลการตรวจ โดยหมอธนีย์มีคำแนะนำ ดังนี้

วัดได้ 95-97% ขึ้นไป คือ ค่าปกติ ออกซิเจนในร่างกายปกติ
วัดได้ 94% ลงไป คือ ผิดปกติ มีภาวะออกซิเจนต่ำ
ทั้งนี้ เครื่องตรวจเหล่านี้โดยปกติจะวัดค่าได้ไม่ตรงเป๊ะๆ จะมีความคลาดเคลื่อนบวกลบอยู่ประมาณ 2%-3% แล้วแต่ตัวเครื่อง ใครที่วัดได้ 100% อาจจะไม่ใช่เรื่องปกติ โดยทั่วไปไม่มีใครที่จะสามารถมีออกซิเจนในเลือดได้ 100% เว้นแต่กำลังได้รับการให้ออกซิเจนด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ดังนั้นหากวัดค่าได้ 100% เป็นไปได้ว่าเครื่องตรวจมีความคลาดเคลื่อนนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อน่ากังวลใดๆ

แต่หากวัดค่าออกซิเจนในเลือดได้ 94% หรือต่ำว่านั้น ก็ต้องมาเช็คอาการของตนเองก่อนว่า มีอาการป่วยโควิดอยู่หรือไม่ เช่น มีไข้ ไอ หอบเหนื่อย เพลีย ท้องเสีย ไม่ได้กลิ่น ไม่รับรส แบบนี้จึงจะชัดเจนว่าติดโควิด ซึ่งการวัดออกซิเจนได้ต่ำขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าเชื้อลงปอดแล้ว

ถ้าวัดค่าออกซิเจนในเลือดได้ต่ำกว่า 94% แต่ไม่มีอาการป่วยโควิดเหล่านี้เลย เป็นไปได้ว่าตรวจผิดวิธี เช่น อาจจะทาสีเล็บมืออยู่ หรือนิ้วที่ใช้ตรวจเย็นเกินไป ต้องแก้ไขก่อนแล้วตรวจซ้ำอีกที หรืออีกอย่างคือไม่ได้ป่วยโควิด แต่สงสัยได้ว่ามีภาวะของโรคอื่นๆ อยู่ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด ซึ่งก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและวินิจฉัยให้แน่ชัด


5. เลือกซื้อ "เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว" ยี่ห้อไหนดี?

สำหรับวิธีการเลือกซื้อเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว มีคำแนะนำเรื่องนี้จากอาสาสมัครมูลนิธิกระจกเงา ที่เคยโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลไว้ว่า ทางมูลนิธิต้องการรับบริจาคเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วเพิ่มเติม เนื่องจากบางเครื่องที่มีอยู่ไม่ได้มาตรฐาน วัดค่าไม่ได้ เปิดเครื่องไม่ติด หรือวัดค่าได้คลาดเคลื่อนมากๆ จึงแนะนำเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วที่ทางทีมงานมูลนิธิได้ตรวจสอบความแม่นยำแล้ว ว่ามี 5 ยี่ห้อ คือ Yuwell, Beurer, Jumper, Microlife, Contec

ทั้งนี้ ราคาของแต่ละยี่ห้อ ทางทีมข่าวฯ ได้สำรวจตามเว็บไซต์ E-Marketplace หลากหลายแห่ง พบว่ามีราคาแตกต่างกันไปดังนี้ 

Yuwell ราคาประมาณ 790-990 บาท
Beurer/Beurer po30 ราคาประมาณ 1,990-2,650 บาท
Jumper ราคาประมาณ 890 - 1,200 บาท
Microlife ราคาประมาณ 2,400-2,700 บาท
Contec ราคาประมาณ 890 - 1,500 บาท
-------------------------

อ้างอิง : 

นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน (2 ส.ค. 64)

มูลนิธิกระจกเงา

ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจรวบรวมราคา
#2905


นายพูน พานิชพิบูลย์  นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.04 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย

จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.01 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.95-33.10 บาทและดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าอยู่จากปัญหาการระบาดของโควิด-19 ในวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทะลุ20,000รายในขณะที่เงินดอลลาร์โดยรวมมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways

ดังนั้นเราจึงยังมองไม่เห็นโอกาสที่เงินบาทจะพลิกกลับเทรนด์มาแข็งค่าได้ในเร็วนี้ เนื่องจากปัญหาการระบาดของ โควิด-19 ในไทยยังมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ ค่าเงินบาทยังเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้อย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์การระบาดจะเริ่มมีทิศทางดีขึ้น ซึ่งก็อาจจะต้องรอในช่วงต้นเดือนกันยายน จากโมเดลคาดการณ์ยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดของทางรัฐบาลหรือภาคเอกชน

ทั้งนี้ ในระยะสั้น หากตลาดคลายกังวล ปัญหาการระบาด โคะวิด-19 ทั่วโลก และกล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หนุนโดยรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาแข็งแกร่งและดีกว่าคาด ก็อาจทำให้ เงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง หลังผู้เล่นในตลาดไม่จำเป็นต้องถือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) เพื่อหลบความผันผวนในตลาด ซึ่งการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ก็อาจทำให้ เงินบาทไม่อ่อนค่าหนัก ทะลุ 33 บาทต่อดอลลาร์ ไปมาก

โดยเรามองว่า แนวต้านสำคัญของค่าเงินยังอยู่ในโซน 33.10-33.20 บาทต่อดอลลาร์ ในขณะที่แนวรับของเงินบาทก็ปรับขึ้นมาสู่ระดับ 32.80-32.90 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่วงราคาที่ผู้นำเข้าต่างรอจังหวะย่อตัว เพื่อทยอยปิดความเสี่ยงค่าเงิน


ตลาดการเงินโดยรวมพลิกกลับมาเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง หนุนโดยรายงานผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียนในฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปที่ออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดการเงินบางส่วนยังคงมีความกังวลว่าปัญหาการระบาดระลอกใหม่ของ โควิด-19 อาจกดดันให้การฟื้นตัวเศรษฐกิจเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ดังจะเห็นได้จากการที่ผู้เล่นในตลาดยังคงต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยและทรงตัวที่ระดับ 1.17% ขณะที่เงินดอลลาร์ รวมถึงเงินเยนญี่ปุ่นก็ยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าขึ้น

ทั้งนี้ ในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดการเงินให้น้ำหนักรายงานผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียนออกมาแข็งแกร่งและดีกว่าคาด มากกว่าปัจจัยความกังวลปัญหาการระบาดระลอกใหม่ในสหรัฐฯ ส่งผลให้ ดัชนี Dowjones และ ดัชนี S&P500 ต่างปรับตัวขึ้นราว 0.80% ส่วน หุ้นเทคฯ ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ หลังบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ยังทรงตัวในระดับต่ำต่อไป หนุนให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปิดบวก +0.55%

ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX50 ของยุโรป ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.03% โดยตลาดหุ้นยุโรปเผชิญทั้งแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด พร้อมกับแรงกดดันจากรายงานผลประกอบการบริษัทใหญ่ที่ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อาทิ BMW -5.04% หลังรายงานผลประกอบการล่าสุด สะท้อนว่าบริษัทมองช่วงครึ่งหลังของปีมี Profit Margin ลดลง ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความหวังต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของหุ้นในกลุ่ม Cyclical อาทิ หุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม Adidas +1.43%, Louis Vuitton +1.30%

ทางด้านตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดบอนด์ยังมีมุมมองที่ระมัดระวังตัวอยู่ จากความกังวลปัญหาการระบาดของเดลต้า ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยยังเป็นที่ต้องการของตลาด ดังจะเห็นได้จากการที่ บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง สู่ระดับ 1.17%

ส่วนในฝั่งตลาดค่าเงิน แม้บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ จะปรับตัวลดลง ทว่า เงินดอลลาร์โดยรวมยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เนื่องจากตลาดยังคงมีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อหลบความผันผวนในช่วงที่ปัญหาการระบาดของโควิด-19 อาจทวีความรุนแรงมากขึ้นได้ หลังเริ่มพบการระบาดในสหรัฐฯและจีนมากขึ้น ทำให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ยังทรงตัวใกล้ระดับ 92.03 จุด นอกจากนี้ ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยยังช่วยหนุนให้ เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) กลับมาแข็งค่าขึ้น แตะระดับ 109 เยนต่อดอลลาร์ อีกครั้ง

สำหรับวันนี้ ตลาดจะติดตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงเศรษฐกิจจีน ผ่านการติดตามรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (Services PMI) ในเดือนกรกฎาคม

โดยในฝั่งสหรัฐฯ ตลาดมองว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจกดดันให้ภาคการบริการขยายตัวในอัตราชะลอลง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (ISM Services PMI) เดือนกรกฎาคม อาจชะลอลงสู่ระดับ 60 จุด

เช่นเดียวกันกับฝั่งจีน ตลาดอาจเริ่มกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งอาจสะท้อนผ่าน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (Caixin Services PMIs) ในเดือนกรกฎาคม ที่จะลดลงสู่ระดับ 50.2 จุด ตามลำดับ (ดัชนีเกิน 50 จุด หมายถึง ภาวะขยายตัว) นอกจากนี้ ปัญหาการระบาดของ Delta ล่าสุดในเมืองใหญ่ อาทิ กรุงปักกิ่งและนครฉงชิ่ง ก็อาจสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจีนในระยะสั้นได้

ส่วนในฝั่งไทย ปัญหาการระบาดโควิด-19 ที่มีแนวโน้มเลวร้ายต่อเนื่องจะกดดันให้เศรษฐกิจซบเซาลงมากกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเคยประเมินไว้ ทำให้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เลือกที่จะคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% และเน้นย้ำถึงการใช้นโยบายการเงินเฉพาะจุด อาทิ การเร่งเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจที่ต้องการ ผ่านโครงการพักทรัพย์พักหนี้ หรือ Soft loans เป็นต้น
#2906


วันที่ 4 ส.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยรายชื่อจังหวัดที่มีคำสั่ง และประกาศให้มีการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่รวม 62 จังหวัด จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2564 เวลา 15.00 น. ประกอบด้วย

• ภาคเหนือ 17 จังหวัด

1. กำแพงเพชร

2. เชียงราย

3. เชียงใหม่


4. ตาก

5. นครสวรรค์

6. น่าน

7. พะเยา

8. พิจิตร

9. พิษณุโลก

10. เพชรบูรณ์

11. แพร่

12. แม่ฮ่องสอน

13. ลำปาง

14. ลำพูน

15. สุโขทัย

16. อุตรดิตถ์

17. อุทัยธานี

• ภาคกลาง-ตะวันออก 14 จังหวัด

1. กาญจนบุรี

2. จันทบุรี

3. ฉะเชิงเทรา

4. ชัยนาท

5. นครนายก

6. ประจวบคีรีขันธ์

7. ปราจีนบุรี

8. ระยอง

9. ราชบุรี

10. ลพบุรี

11. สระบุรี

12. สิงห์บุรี

13. สุพรรณบุรี

14. อ่างทอง

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

• ภาคใต้ 11 จังหวัด

1. กระบี่

2. ชุมพร

3. ตรัง

4. นครศรีธรรมราช

5. พังงา

6. พัทลุง

7. ยะลา

8. ระนอง

9. สงขลา

10.สตูล

11. สุราษฎร์ธานี

• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด

1. กาฬสินธุ์

2. ขอนแก่น

3. ชัยภูมิ

4. นครราชสีมา

5. นครพนม

6. บึงกาฬ

7. บุรีรัมย์

8. มหาสารคาม

9. มุกดาหาร

10. ยโสธร

11. ร้อยเอ็ด

12. เลย

13. ศรีสะเกษ

14. สกลนคร

15. สุรินทร์

16. หนองคาย

17. หนองบัวลำภู

18. อำนาจเจริญ

19. อุดรธานี

20. อุบลราชธานี
#2907


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ทำการศึกษาแนวโน้มตลาดของสินค้าต่าง ๆ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้นำมาแจ้งทิศทางและช่วยแนะนำให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยได้มีการปรับตัว และเพิ่มโอกาสในการทำตลาด โดยได้ทำการศึกษาแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งพบว่าแนวคิดแฟชั่นหมุนเวียน (Circular Fashion) กำลังเป็นที่นิยมที่นำมาใช้ในการวางแผนและออกแบบการผลิตเพื่อลดการเกิดของเสียและมลพิษ การผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุที่ปลอดภัยและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การเพิ่มระยะเวลาใช้งานเสื้อผ้า รวมทั้งการนำเสื้อผ้าเก่ามาผลิตเป็นเสื้อผ้าใหม่ เกิดการหมุนเวียนเป็นวงจรต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรได้อย่างสูงสุด

ทั้งนี้ นอกจากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้ว สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เพราะการที่ร้านค้าต้องปิดตัวลง ผู้คนต้องทำงานที่บ้าน และลดการใช้ชีวิตทางสังคม ทำให้ยอดการจำหน่ายเสื้อผ้าลดลง ซึ่งผลการสำรวจข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคทั่วโลกในปี 2563 ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคมีรายได้ลดลง และอุตสาหกรรมแฟชั่นถูกคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากผู้บริโภคกว่า 51% จะลดการใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้ารองเท้าลงและมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่าในการใช้จ่ายมากขึ้น และต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ยาวนานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกจากนี้ ได้มีผลการสำรวจว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Millennial (ผู้ที่อายุระหว่าง 24-37 ปี) และ Gen Z (ผู้ที่อายุระหว่าง 13-23 ปี) ใส่ใจเป็นพิเศษต่อสินค้ารักษ์โลก และกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอุตสาหกรรมที่มีต่อสิงแวดล้อม รวมทั้งมีความตระหนักถึงการลดการใช้พลาสติกและคาดหวังให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ สนับสนุนแนวคิดเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

นายภูสิตกล่าวว่า จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้เห็นว่าแฟชั่นหมุนเวียน เป็นแนวคิดที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในสถานการณ์ปัจจุบันไปพร้อม ๆ กับช่วยลดขยะและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเห็นได้จากในวงการแฟชั่นเริ่มเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจบ้างแล้ว เช่น ธุรกิจให้เช่าเสื้อผ้า ธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสอง รวมไปถึงการผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิล หรือวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย ก็ควรที่จะศึกษาและวางแผนการทำตลาดภายใต้แนวคิดนี้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม สนค.เห็นว่า ในส่วนของผู้บริโภค หากตระหนักถึงการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาจทำได้โดยเลือกสินค้าที่มีคุณภาพหรือเลือกใช้เสื้อผ้าจากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนทิ้งเสื้อผ้า พยายามซ่อมแซมเสื้อผ้าเพื่อใช้งานให้นานขึ้น บริจาคเสื้อผ้า และแยกขยะเสื้อผ้า สิ่งทอ เมื่อต้องการทิ้ง เพราะเสื้อผ้าสิ่งทอเหล่านี้ สามารถนำไปรีไซเคิลให้กลายเป็นเสื้อผ้าใหม่หรือสินค้าประเภทอื่นได้

ปัจจุบัน ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมตามการเติบโตของธุรกิจแฟชั่น โดยเฉพาะกระแส Fast Fashion ซึ่งเป็นเทรนด์เสื้อผ้าที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและผู้ประกอบการต้องผลิตสินค้าออกมาให้ทันความต้องการ เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความทันสมัยและซื้อบ่อยขึ้น อาจกลับทำให้สินค้าคุณภาพด้อยลง ใช้งานได้ไม่นาน และใช้ซ้ำได้น้อยครั้ง เสื้อผ้าปริมาณมหาศาลจึงต้องกลายเป็นขยะในที่สุด โดยแต่ละปีจะพบว่ามีเสื้อผ้าและสิ่งทอกว่า 85% ถูกทิ้ง และมีเพียง 15% ที่ได้รับการรีไซเคิลหรือนำไปบริจาค
#2908
Program Zoom เป็นโปรแกรมสำหรับการประชุมออนไลน์ และเป็นเครื่องมือสุดปัง ในยามวิกฤตโควิท 19 ในตอนนี้ โดย Zoom ที่เป็นที่นิยมใช้กันในตอนนี้คือ Program Zoom Meeting ซึ่งมีให้เลือกติดตั้งได้หลายแบบ ทั้งProgramลงในPersonal Computer หรือ  Application  ในmobile phone จากการใช้งานจริง แล้วลองผิดลองถูกหลายโปรแกรมมาแล้วในช่วงนี้ พอสรุปได้ว่า มันใช้งานแล้วดียังไง ตรงไหนที่น่าสนใจ

1.ใช้งานง่ายมาก  ไม่จำเป็นต้องเก่งโปรแกรมมากมาย
2.การแชร์ภาพ แชร์วิดีโอ หรือ แม้แต่หน้าจอการสอน การประชุมทำง่ายมาก
3.ใช้งานได้หลายอุปกรณ์
4.คุณภาพภาพและเสียง คมชัด ไม่กระตุก
5.การเชื่อมต่อกล้อง ไมค์ และอุปกรณ์ภายนอก ทำได้ง่าย

แต่ก่อนจะใช้งานได้นั้น ทุกท่านจะต้องสมัครการใช้งานก่อน แนะนำสมัครด้วยเมล์จะดีกว่าครับ 
โดยไปสมัครที่  zoom.us  จากนั้นก็ดาวน์โหลดโปรแกรม หรือ APP Zoom Meeting มาลงในเครื่องเราได้เลย ส่วนวิธีการติดตั้ง และ ดาวน์โหลดโปรแกรม ผมไม่ได้กล่าวถึงนะครับ สามารถหาอ่านได้เลยในกระทู้ต่างๆซึ่งมีอยู่มากมาย 


Tag :  Zoom / Zoom Meeting
#2909


รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า โครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายใน จ.ภูเก็ต แบบไม่กักตัวช่วง 1 เดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค.ที่ผ่านมา จำนวนสะสมรวม 14,055 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 14,022 คน คัดกรองพบผู้ติดเชื้อ 32 คน แบ่งเป็นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 1 จำนวน 15 คน ครั้งที่ 2 จำนวน 7 คน และครั้งที่ 3 จำนวน 3 คน ผู้สัมผัสและเสี่ยงสูงตรวจพบอีก 7 คน ส่วนรอผลตรวจมีจำนวน 1 คน

และเมื่อดูเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยววานนี้ (31 ก.ค.) เดินทางเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จำนวน 773 คน จาก 7 เที่ยวบิน ได้แก่ การบินไทย 3 เที่ยวบิน, กาตาร์แอร์เวย์ส 1 เที่ยวบิน, เอมิเรตส์ 1 เที่ยวบิน และสิงคโปร์แอร์ไลน์ 2 เที่ยวบิน โดยไม่พบผู้ติดเชื้อ 772 คน รอผลตรวจ 1 คน ขณะที่สถิติผู้ติดเชื้อใหม่รายวันของ จ.ภูเก็ต วานนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 41 คน แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 39 คน และต่างประเทศอีก 2 คน

สำหรับยอดการจองโรงแรมในภูเก็ตที่ได้มาตรฐาน SHA+ ล่าสุดพบว่าในช่วงไตรมาส 3 ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.นี้ มีจำนวน 309,719 คืน แบ่งเป็นเดือน ก.ค. 190,843 คืน เดือน ส.ค. 109,694 คืน และเดือน ก.ย. 9,182 คืน ส่วนช่วงไฮซีซั่นเดือน ต.ค.2564-ก.พ.2565 มีจำนวน 6,857 คืน ทำให้ยอดจองโรงแรมตั้งแต่เดือน ก.ค.2564-ก.พ.2565 มีจำนวนรวม 318,901 คืน

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952243
#2910



รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้ง ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงต่อเนื่อง ล่าสุดวันที่31 ก.ค.ติดเชื้อเพิ่ม18,912 ราย เสียชีวิต 178 ราย ขณะที่มาตรการตามข้อกำหนดฉบับที่28 ให้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่20 ก.ค.จะครบเวลาประเมินสถานการณ์อย่างน้อย14 วัน ตามประกาศ ในวันที่2 ส.ค.นี้ 

 ในวันที่1 ส.ค.นี้ เวลา13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19)หรือศบค. จะเป็นประธานประชุมศบค. ครั้งที่11/2564 ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ผ่านระบบซูมจากบ้านพักกรมทหารราบที่1 


โดยจะพิจารณาวาระต่างๆ และมาตรการที่ประกาศตามข้อกำหนด ฉบับที่28 ที่มีผลบังคับใช้มาแต่วันที่20 ก.ค.โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ที่จะยังคงมาตรการไว้ต่อเนื่องไประยะเวลาหนึ่ง ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ หากล็อกดาวน์เข้มข้นและมีประสิทธิภาพจะลดจำนวนการติดเชื้อลงได้ หากไม่ล็อกดาวน์ตัวเลขจะยิ่งพุ่งสูงขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีหารือปรับระดับพื้นที่จ.สีแดงเข้ม เพิ่มเติมหลังพบว่าหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากการเดินกลับภูมิลำเนา


รวมถึงจะพิจารณาผ่อนปรนบางมาตรการ เช่น ขายอาหารในห้างสรรพสินค้า ให้ขายแบบเดลิเวอรี่สั่งกลับบ้านเท่านั้น โดยจะเข้มงวดมาตรการป้องกันส่วนบุคคลของพนักงานในครัวมากขึ้น นอกจากนั้นติดตามการจัดสรรวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนในกลุ่มเสี่ยง กลุ่มแรงงาน รวมถึงจัดสรรวัคซีนให้บุคลากรการแพทย์ด่านหน้าและกลุ่มเป้าหมาย และการติดตามความคืบหน้าหลังการปรับแผนการฉีดวัคซีน
#2911



จากการที่ศาลปกครองมีคำพิพากษา เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง โครงการ "แอชตัน อโศก" ที่ออกให้แก่ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด เมื่อวันที่ 30 ก.ค.64 จนกลายเป็นประเด็นร้อน เพราะปัจจุบันโครงการ "แอชตัน อโศก" สร้างเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์มาได้กว่า 2 ปีแล้ว แม้ว่าจะยังมียูนิตเหลือขายอยู่แต่ก็เพียงไม่กี่ยูนิตจากจำนวนทั้งหมด 783 ยูนิต

การเพิกถอนใบอนุญาตครั้งนี้ เท่ากับว่าโครงการนี้ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตมาตั้งแต่หลายปีที่แล้ว และขั้นตอนต่างๆ ที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ต้นนั้นก็ผิดด้วยเช่นกัน 

การที่มีคำพิพากษาแบบนี้ออกมานั้นสร้างความวิตกกังวลให้กับคนที่มียูนิตอยู่ในโครงการนี้แน่นอน..

ล่าสุด วันที่ 31 ก.ค.64 ชานนท์ เรืองกฤติยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน ) ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊คเพจ Ananda Development  เพื่อชี้แจงถึงลูกบ้าน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า เตรียมจะยื่นอุทธรณ์ และมั่นใจว่าจะชนะ

     
เนื้อความทั้งหมด มีดังนี้..

สวัสดีครับ ท่านลูกค้าอนันดา ชาวแอชตัน อโศก ทุกท่าน ครับ

ผม ชานนท์ เรืองกฤติยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน ) ผมหวังว่า ท่านหลายๆคนมีสุขภาพที่แข็งแรงปลอดภัยจากโควิดช่วงนี้นะครับ สำหรับวันนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่จะบอกกล่าวท่านครับ เมื่อวานทางศาลปกครองก็ได้มีการพิพากษาในกรณีที่เกี่ยวข้องกับโครงการของเรานะครับ ท่านคงเห็นในสื่อและไม่สบายใจ

เป้าหมายวันนี้ ผมอยากบอกท่านว่า ผมมั่นใจว่าเราต้องสู้ชนะครับ ผมไม่ยอมนะครับ ผมและผู้บริหารอนันดาทุกท่านจะอยู่เคียงข้างท่าน สู้ต่อไปครับ เราจะยื่นอุทธรณ์ ที่ศาลปกครองสูงสุด เราเชื่อว่าในกระบวนการยุติธรรม ที่จะต้องคุ้มครองผู้ประกอบการอย่างเราที่สุจริตและผลที่ออกมาน่าจะเป็นธรรมเพื่อดำรงให้สังคมเราอยู่อย่างสงบสุข

ผมขอยืนยันอีกหนึ่งครั้งนะครับว่าบริษัททำตามกฏหมายทุกประการประสานงานกับทุกหน่วยงานทุกต้องตามกฏหมาย ผมอยากให้ท่านสบายใจนะครับ


ในภาวะนี้ผมก็เห็นใจหลายๆ คนคงนอนไม่หลับเช่นเดียวกับผม ผมจะใช้ความสามารถสุดฝีมือของผมและทีมงานและประสานงานกับสำนักงานกฏหมาย เพื่อความยุติธรรม ให้พวกเราทั้งหมด เราอยู่รวมกัน เรือลำเดียวกัน เราต้องสามัคคีกันนะครับ

แล้วเราต้องแก้ไขปัญหาสังคมด้วยกันนะครับ ผมก็เห็นใจรัฐเช่นเดียวกันครับ กฏระเบียบของรัฐเองก็ซับซ้อน แต่เราต้องช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองเราต่อนะครับ ผมเป็นหนึ่งคนที่มีความหวังในประเทศไทยแต่เราต้องเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เอาใจเราใส่ใจเขาด้วยกันนะครับเพื่อประโยชน์ส่วนรวมทั้งหมดนะครับ

ผมเชื่อมั่นจริงๆนะครับว่า ระบบยุติธรรมจะมีมุมมองเพื่อสร้างความสงบให้พวกเราทั้งหมด หากท่านอยากติดต่อมา สามารถติดต่อได้ที่อนันดาคอลเซ็นเตอร์ 02-3162222 อนันดาเฟซบุ๊กหรืออีเมล์ของผม chanond@ananda.co.th/csc@ananda.co.thได้นะครับ

ผมหวังว่า แมสเสจนี้ก็จะทำให้ท่านสบายใจผมขอให้ท่านให้โอกาสอนันดาแก้ไขปัญหาต่อ

ขอขอบคุณครับ
#2912
ป้ายไฟวิ่ง LED ดิจิตอล 2 รูปแบบ กันน้ำ 100% - รับประกัน 1 ปี

**** Single color ****** ราคา 2,900 .- 

**** FULL color ****** ราคา 4,200 .-

- กันน้ำ 100% - รับประกัน 1 ปี










#2913



ผักติ้วคือไม้ยืนต้นพื้นบ้านที่นิยมเด็ดยอดอ่อน และใบมาทำอาหาร มีชื่อเรียกว่า "ผักติ้ว" "ผักแต้ว" ยางและใบใช้เป็นยาสมุนไพร และเปลือกไม้ใช้เป็นสีย้อมผ้า และใช้ทำเป็นถ่าน

ต้นผักติ้ว คืออะไร
ผักติ้วมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cratoxylum formosum. เว็บไซต์องค์การสวนพฤกษศาสตร์ แสดงข้อมูล "ติ้วขน" อยู่ในวงศ์ CLUSIACEAE สูง 10-20 ม. ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรีหรือรูปขอบขนาน กว้าง 3-4.5 ซม. ยาว 7-10 ซม. ผิวใบด้านล่างมีสีนวล มีขนทั้งสองด้าน ดอกเดี่ยว หรือเป็นกลุ่ม ออกที่ซอกใบหรือตามกิ่ง กลีบดอกสีชมพูอ่อน ขอบกลีบมีขนชายครุย ร่วงง่าย เกสรเพศผู้มี 3 มัด แต่ละมัดปลายแยกคล้ายพู่ ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ ถึงมิถุนายน

ผักติ้วพบได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศไทย, เมียนมา, กัมพูชา, ลาว, เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

ดอกของผักติ้วมีกลีบดอก 5 กลีบ เกสรตัวเมียติดกัน 3 ก้าน และมีเกสรตัวผู้สั้นๆ ล้อมรอบ เมื่อติดผลจะมีลักษณะผลเป็นแคปซูลสีน้ำตาล หรือสีดำ เรียวยาวประมาณ 1.3 - 1.8 เซนติเมตร เมื่อผลแตกออกจะเป็น 3 แฉก มีเมล็ดสีน้ำตาล

สรรพคุณของผักติ้วทางสมุนไพร
ภาพจากองค์การสวนพฤกษศาสตร์ (qsbg.org)
ภาพจากองค์การสวนพฤกษศาสตร์ (qsbg.org)
ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้บรรยายสรรพคุณของผักติ้วไว้ตามตำรับยาไทย ดังนี้

ราก ผสมกับหัวแห้วหมู และรากปลาไหลเผือก ต้มน้ำดื่มวันละ 3 ครั้ง เพื่อขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะขัด
น้ำยาง ใช้ทาแก้รอยแตกของส้นเท้า
รากและใบ ใช้แก้ปวดท้อง
ต้น ยางจากเปลือกต้น ยาทาแก้คัน
น้ำต้มเปลือกต้น กินแก้ธาตุพิการ
เปลือกและใบ ตำผสมกับน้ำมันมะพร้าว ทาแก้โรคผิวหนังบางชนิด
สรรพคุณของผักติ้วด้านโภชนาการ
ผักติ้ว 100 กรัม ให้พลังงาน 58 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย

- แคลเซียม 67 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 19 มิลลิกรัม
- เหล็ก 2.5 มิลลิกรัม
- เบตาแคโรทีน 4,500 ไมโครกรัม
- วิตามินเอ 750 ไมโครกรัมของเรตินอล
- วิตามินบีหนึ่ง 0.04 มิลลิกรัม
- วิตามินบีสอง 0.67 มิลลิกรัม
- ไนอาซิน 3.1 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 58 มิลลิกรัม
- เส้นใย 1.5

ผักติ้วกินอย่างไร

ส่วนประกอบของผักติ้วที่นำมาใช้ประกอบอาหาร คือ ช่อดอกสด ยอดอ่อน ใบ ใบอ่อน เพราะมีรสชาติเปรี้ยว ซึ่งให้คุณประโยชน์ด้านเส้นใยอาหาร และวิตามิน ดังนี้

ใช้เป็นผักแกล้ม ยอดอ่อนสดๆ นำมากินแกล้มกับเมนู ลาบ ก้อย น้ำตก แจ่ว เมนูน้ำพริก ทางเวียดนามใช้กินในเมนูแหนมเนือง

ใช้ต้มแกง ผักติ้วมีรสเปรี้ยว ใช้แทนมะนาวในบางเมนู เช่น แกงเห็ด

ใช้ผัด ใส่กับไข่เจียว หรือผัดกับผักอื่นๆ เพิ่มรสชาติ

ผักติ้วกับใบชะมวงใช่ต้นเดียวกันหรือไม่
ต้นผักติ้วขนกับชะมวงจัดอยู่ในวงศ์เดียวกับมังคุด CLUSIACEAE เหมือนกัน ลักษณะใบต้นผักติ้วกับใบชะมวงนั้นต่างกันตรงที่ ใบอ่อนของชะมวงจะมีสีน้ำตาลอมม่วงที่เข้มกว่า และลักษณะโคนใบจะสอบเข้าหากัน ขอบใบเรียบ ผู้ที่เคยลิ้มลองชิมใบอ่อนของทั้งสองต้นนี้มักจะเล่าว่าใบชะมวงมีรสฝาดกว่าเล็กน้อย ประโยชน์ของใบผักติ้วกับใบชะมวงให้ใยอาหารสูง
#2914



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศยกเลิกเกมอุ่นเครื่องกับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ในวันเสาร์นี้ หลังมีรายงานว่านักเตะและสตาฟฟ์โค้ช รวม 9 คน มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก

ขุนพลทีม "ปีศาจแดง" มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังเกมอุ่นเครื่องที่เจอกับ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยทีมลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ราว 30,000 คน และผลการแข่งขันจบลงที่ผลเสมอ 2-2

ซึ่งการทดสอบหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นหลังเกมดังกล่าว โดยมีการตรวจเจอผลเป็นบวกในการทดสอบหาเชื้อครั้งแรก และพวกเขาได้ทำการ PCR เพื่อยืนยันอีกครั้ง สรุปว่ามีผู้ติดเชื้อ 9 คนจริง ทั้งนักเตะและสตาฟฟ์โค้ช

โดย แมนฯ ยูไนเต็ด มีการฝึกซ้อมกันในช่วงเช้าที่สนามซ้อมแคร์ริงตัน แต่หลังจากมีข่าวดังกล่าวพวกเขาได้หยุดซ้อมทันที และนักเตะทุกคนถูกส่งตัวกลับบ้านในช่วงบ่ายสองเพื่อทำการกักตัว ก่อนจะมีการตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดกันอีกครั้ง
#2915



นายนิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า บริษัท อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม จากปัจจุบัน ได้ลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ (CCE) กำลังการผลิต 8.63 เมกะวัตต์ ซึ่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) ไปแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนธ.ค.ปี 2562 และปัจจุบันการดำเนินงานในโรงไฟฟ้าดังกล่าวก็เป็นไปด้วยดี และมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีมาตรฐานยุโรป อีกทั้งยังสะอาด ไม่มีกลิ่น และบริษัท คาดหวังให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโชว์รูมต้นแบบที่ตั้งอยู่กลางนิคมฯ แล้วเป็นที่ยอมรับของชุมชนในพื้นที่

ดังนั้น หากภาครัฐมีนโยบายเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม บริษัทก็พร้อมที่จะขยายการลงทุน เนื่องจากมีความพร้อมด้านที่ดินในบริเวณใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้าเดิมที่ยังสามารถขยายเพื่อรองรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมประเภทโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก หรือ VSPP ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ หรือ ไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ต่อแห่ง ซึ่งจะก่อสร้างได้อีกอย่างน้อย 4 แห่ง หรือ มีกำลังการผลิตรวมไม่เกิน 40 เมกะวัตต์

บริษัทมั่นใจว่า พื้นที่ตรงนี้มีความเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม เพราะมีระบบสาธารณูปโภค มีสายส่ง และกระแสการตอบรับจากชุมชนก็ไม่มีปัญหา อีกทั้งโครงการที่ผ่านมาก็ทำได้ดี จึงคากว่าจะพัฒนาได้อีกหลายโครงการ



"เราเตรียมที่ไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่รอนโยบายรัฐบาลเปิดรับซื้อเพิ่ม อย่างน้อยพื้นที่รองรับได้อีก 4 โรงแต่จะเกิดได้จริงเท่าไหร่ ยังต้องรอดูนโยบายและปริมาณขยะในพื้นที่ด้วย"


นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ภาครัฐเตรียมทบทวนอัตราเงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (Feed-in-Tariff) หรือ FiT สำหรับเชื้อเพลิงขยะว่า ปัจจัยดังกล่าวก็จะต้องนำมาคำนวณความเป็นไปได้ในการลงทุนในอนาคตด้วย เพราะหากปรับลด FiT ลงแล้ว ต้นทุนค่าก่อสร้างเป็นอย่างไร มีความคุ้มค่าในการลงทุนหรือไม่ ซึ่งในส่วนของโรงไฟฟ้าขยะ ปกติแล้วจะมีรายได้จาก 2 ส่วน คือ รายได้จากการขายไฟฟ้า และรายได้จากค่ากำจัดขยะ โดยข้อมูลเหล่านี้ก็ต้องนำมาประกอบการพิจารณาต่อไป


"จริงๆแล้วที่ผ่านมา การใช้ FiT ของภาครัฐ ก็คำนวณมาจากการลงทุนของภาคเอกชน เฉพาะหากรัฐจะปรับ FiT ลงก็มีความเป็นไปได้ เพราะต้นทุนเทคโนโลยีก็มีแนวโน้มลดลง แต่ก็เชื่อว่ารัฐจะพิจารณาอย่างรอบครอบ เพราะหาก FiT ต่ำไปก็จะไม่เอื้อให้เกิดการลงทุน"

สำหรับเม็ดเงินลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมนั้น ปัจจุบัน คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ ซึ่งจะสูงกว่าการผลิตไฟฟ้าเชื้อเพลิงประเภทอื่น เพราะจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงเพื่อดูแลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม


ทั้งนี้ ในส่วนของโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ (CCE) กำลังการผลิต 8.63 เมกะวัตต์ เป็นการลงทุนร่วมระหว่าง บริษัทดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (WHAUP) บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) และ บริษัทสุเอซ (SUEZ) เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2560 กำลังการผลิตขนาด 8.63 เมกะวัตต์ ตามข้อตกลงการซื้อขายพลังงาน (power purchase agreement- PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่าการลงทุนในโครงการนี้ อยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท หรือประมาณ 57 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ตามแผนพัฒนากาลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580. 12. ฉบับปรับปรุงครั้งที่1 (PDP2018 Revision 1) ทางกระทรวงพลังงาน กำหนดเป้าหมายจะรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม เพิ่มเติมอีก 44 เมกะวัตต์ จากแผน PDP เดิมมีการรับซื้อไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมไปแล้ว 31 เมกะวัตต์ หรือ รวมปลายแผนปี 2580 ประเทศไทยจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม รวมอยู่ที่ 75 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันนั้น ทางกระทรวงพลังงาน ยังไม่มีการประกาศนโยบายเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม
#2916



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์   รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร และผู้ประกอบการส่งออกผลไม้  ผู้ประกอบการด้านขนส่งโลจิสติกส์ รวมทั้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาการขนส่งผลไม้ส่งออก ว่า  ขณะนี้การส่งออกมังคุดข้ามแดนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประสบปัญหารถบรรทุกผลไม้ไทยติดค้างที่ด่านเวียดนามก่อนเข้าจีน ที่ด่านโหยวอี้กว่าน หลาย 100 คันเป็นเวลาหลายวัน จึงมีผลกระทบต่อการส่งออกมังคุดไปยังประเทศจีน ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายแล้วหลังจากทูตเกษตร-ทูตพาณิชย์ได้เจรจากับทางการจีนและร่วมกันแก้ปัญหาทำให้การจราจรเริ่มดีขึ้น

ทั้งนี้ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ส่งออกผ่าน"ด่านโหยวอี้กว่าน "  ซึ่งด่านนี้มีศักยภาพจำกัดเพราะมีช่องทางผ่านเต็มที่แค่ 67 ช่องทาง ทางการจีนประสงค์ให้ไทยไปใช้บริการที่ด่านตงซิงและด่านรถไฟผิงเสียงมากขึ้น หากไปใช้อีก 2 ด่านมากขึ้นจะได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำการอำนวยความสะดวกให้ เพราะ"ด่านตงซิง"ซึ่งเป็นด่านรถบรรทุกมีรถของไทยไปใช้บริการแค่วันละ 10-20 คัน ยังมีศักยภาพรองรับอีกเป็นจำนวนมาก  ตนจึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์คุยกับสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทยและผู้เกี่ยวข้องในการหาลู่ทางใช้"ด่านตงซิง"กับ"ด่านรถไฟผิงเสียง"มากขึ้น

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ส่วนปัญหาเรื่องล้งรับซื้อผลไม้กับแรงงานที่ไปกับล้ง  เนื่องจากล้งส่วนใหญ่รับซื้อผลไม้อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ขณะนี้หมดฤดูแล้วซึ่งจำหน่ายได้ราคาดีมากถึงกิโลกรัมละ 100-200 บาท แต่ช่วงเวลานี้มังคุดภาคใต้ออกเยอะกว่าหลายปีที่ผ่านมากับเกิดการล็อกดาวน์จากปัญหาโควิด ล้งจากจังหวัดจันทบุรีพร้อมแรงงานติดปัญหาในการเคลื่อนย้ายไปที่นครศรีธรรมราชและชุมพรไม่ได้ จึงได้หารือร่วมกันกับผู้ว่าจังหวัดจันทบุรี จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดชุมพร พร้อมกันผ่านทางโทรศัพท์ (Phon in)  โดยทั้ง 3 จังหวัดได้รับทราบปัญหาแล้ว และได้มีการดำเนินการอนุญาตให้ล้งและแรงงานจากจันทบุรีสามารถเคลื่อนย้ายไปรับซื้อมังคุดที่นครศรีธรรมราชและจังหวัดชุมพรจังหวัดอื่นๆที่ต้องการได้โดยมอบหมายให้ จัดหางานจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัดร่วมกันดำเนินการซึ่งภาคเอกชนพอใจมากและตัวแทนล้งรวมทั้งสมาคมล้งแจ้งให้ทราบว่าหลังการประชุมจะรีบประชุมล้งในการรีบเคลื่อนย้ายล้งไปเพิ่มจากปัจจุบันที่มีประมาณ 100 ล้ง

ส่วนมาตรการอื่น ๆก็ได้มีการสนับสนุนให้ล้งที่ไปรับซื้อหรือกลุ่มเกษตรกรที่รวบรวมมังคุดกิโลกรัมละ 3 บาท และสำหรับผู้รวบรวมส่งออกกิโลกรัมละ 5  จัดทำกล่องบรรจุมังคุด 200,000  กล่องไปให้ไปรษณีย์กับกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการ และจะร่วมรณรงค์ให้คนไทยบริโภคมังคุดมากขึ้น พร้อมประสานงานกับห้างโมเดิร์นเทรด เช่น แม็คโคร บิ๊กซีเทสโก้ รวมทั้งปั๊มปตท.และบางจากเปิดพื้นที่รับมังคุดจากเกษตรกรมาจำหน่าย   ใช้เกษตรพันธสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้ผู้ส่งออกหรือผู้ค้ามังคุดทำสัญญากับเกษตรกรล่วงหน้ามีเป้าหมาย 20,000 ตันขณะนี้ทำสัญญาล่วงหน้าแล้ว 17,600 ตัน นอกจากนี้ยังได้ประสานกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก หรือ ททบ. 5 รณรงค์ขายมังคุด ผ่านแพลตฟอร์ม Ohlala shopping  และให้เซลล์แมนจังหวัดระบายมังคุดไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีการระบายแล้วทั้งพิษณุโลก เชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดอื่นๆ ช่วงที่ผ่านมาถึง 200 ตันและมาตรการสุดท้าย ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสินิตย์ เลิศไกร นำคณะเดินทางไปในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับจังหวัดร่วมกับกลุ่มเกษตรกรช่วยคลี่คลายปัญหา
#2917




นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเจรจาเข้าซื้อหุ้น  (Mergerand Partnership: M&P)ในต่างประเทศอีก 2 ดีล  โดยจะเข้าถือหุ้น 75%

ในบริษัท Intan Group ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกในประเทศอินโดนีเซีย และการเข้าถือหุ้น 85 ในบริษัท Deltalab, S.L ซึ่งประกอบธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์จดทะเบียนในสเปน คาดว่าจะปิดดีลสำเร็จในไตรมาส 3 ของปี 2564  และจะมาช่วยหนุนให้ผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับในครึ่งแรกปี2564 บริษัทดำเนินการปิดดีลไปแล้ว 3 ดีล คือ การเข้าถือหุ้น 70% ในบริษัท Duy TanPlastics Man.cturingCorporation ผู้ผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบคงรูปในเวียดนาม ,การเข้าถือหุ้น 100% ในบริษัท Go–Pak ผู้นำการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์อาหารแถบสหราชอาณาจักรยุโรป และการถือซื้อหุ้น 94% ใน SOVI ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ใน. เวียดนาม 

ดังนั้น จากแผนการเข้าซื้อกิจการทั้ง 5 บริษัทดังกล่าว  คาดว่า จะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทราว  18,000 ล้านบาทต่อปี  แบ่งเป็นรายได้จาก 3 บริษัท ได้แก่ Duy Tan, SOVI และ Go-Pak  ราว 12,000 ล้านบาทต่อปี และ 2 บริษัท  Deltalab กับIntan ราว 6,000 ล้านาบาท ต่อปี ซึ่งจะเริ่มเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ 


ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจM&P อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา  เชื่อว่า จะเป็นกลยุทธ์ที่สร้างฐานการเติบโตของบริษัทในระยะยาว แต่บริษัทจะพิจารณาการลงทุนอย่างระวัดระวัง ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะมีอีกกี่ดีล  แต่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 รุนแรงขึ้น  มองว่า ไม่กระทบกับการเจรจาการซื้อกิจการในต่างประเทศ  เนื่องจากสถานการณ์ในสหรัฐและยุโรปเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นสามารถเดินทางไปเจรจาทางธุรกิจได้และเมื่อเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในไทย น่าจะทำให้การเดินทางเจรจาทางธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ในกลยุทธ์ส่วนอื่นๆ เช่น โครงการขยายกำลังการผลิต ยังดำเนินการตามแผนที่วางไว้ต่อเนื่อง  ได้แก่ การขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารจากกระดาษเพิ่มขึ้นอีก 1,615 ล้านชิ้นต่อปี ที่ประเทศไทยและประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ รวมถึงการขยายกำลัง การผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ในฟิลิปปินส์อีก 220,000 ตันต่อปี และการขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์พอลิเมอร์แบบอ่อนตัวในประเทศไทยอีก 53 ล้านตารางเมตรต่อปี ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ปีนี้


นายวิชาญ กล่าวว่า  ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทยังคงรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายรายได้จากการขายรวมทั้งปีนี้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท หรือเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 93,388.33 ล้านบาท   ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทสามารถทำรายได้รวมแล้วกว่า 57,148 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

 ในปีนี้บริษัทยังคงงบลงทุนไว้ที่ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้ทำดีล M&P ในส่วนของ 3 บริษัทก่อนหน้านี้ ได้แก่ Duy Tan ,SOVI และGo-Pak ราว 11,000 ล้านบาท และใช้ปรับปรุงเครื่องจักรและขยายกำลังการผลิตราว 4,000 ล้านบาท ส่วนครึ่งหลังปีนี้ใช้สำหรับดีล M&P Deltalab กับIntan ราว 5,000 ล้านบาทและกำไร หลังจากครึ่งปีแรกใช้งบลงทุนไปแล้วราว 6,300ล้านบาท 

 ขณะที่ฐานะการเงินบริษัทยังแข็งแกร่ง ด้วยกระแสเงินสดในปัจจุบันราว 30,000 ล้านบาท และด้วยหนี้สินต่อทุนที่อยู่ในระดับต่ำที่ 0.6 เท่า ทำให้ยังมีศักยภาพในการกู้เงินอีกมาก มีต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยที่ 2.5% รองรับการลงทุนในอนาคต หากบริษัทมีโครงการลงทุนที่ดีก็สามารถกู้เงินเพิ่มได้ หรือใช้จากกระแสเงินสดที่มีและการกู้เงินได้

"ทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง แม้สถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นปัจจัยที่กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจอยู่ แต่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ถือเป็นกลุ่มสำคัญต่อการบริโภค พบว่า ยอดขายในประเทศสหรัฐ เริ่มฟื้นตัวเกือบเท่ากับก่อนมีโควิด-19 แล้วและในยุโรป คาดจะฟื้นตัวตามมาได้เร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ อยู่ที่สภาพตลาด ยังต้องรอดูต่อไป แต่เชื่อมั่นว่ายังเติบโตได้ตามแผน"  
#2918




นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบในหลักการมาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนและประชาชน ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษา ภาครัฐและเอกชน ดังนี้

1. มาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ) กรอบวงเงิน 23,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียนในระบบการศึกษาไทย ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 ดังนี้


-สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง 2,000 บาท/นักเรียน 1 คน


-จัดสรรค่าใช้จ่ายให้แก่สถานศึกษาเพื่อช่วยจัดการเรียนรู้


-ลดหรือตรึงค่าใช้จ่ายในโรงเรียนเอกชนให้เท่ากับปีการศึกษา 63



2. มาตรการการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนิสิตนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชน ของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตกรรม (อว) กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท


กลุ่มเป้าหมาย คือ นิสิต/นักศึกษาชาวไทย ระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชน ระยะเวลา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
แนวทางการดำเนินการ


-สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ จะได้รับส่วนลดเป็นลักษณะร่วมจ่ายระหว่างรัฐและสถาบันอุดมศึกษาในอัตรา 6:4 โดยค่าเล่าเรียน/ค่าธรรมเนียมการศึกษาส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาท ลดร้อยละ 50 / 50,001 - 100,000 บาท ลดร้อยละ 30 และเกิน 100,000 บาท ลดร้อยละ 10 โดยส่วนลดสูงสุดรวมกันไม่เกินร้อยละ 50


-สถาบันอุดมศึกษาของเอกชน ค่าเล่าเรียน/ค่าธรรมเนียมการศึกษา รัฐสนับสนุนในอัตรา 5,000 บาท/คน


นอกจากนี้ กระทรวง อว. ยังขอให้พิจารณาเพิ่มเติม ทั้งขยายเวลาผ่อนชำระ จัดหาอุปกรณ์/โปรแกรมสำหรับยืมเรียนออนไลน์ รวมทั้งลดค่าหอพักด้วย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า ศธ. และ อว. จะได้เร่งจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับสนับสนุนแหล่งเงิน ตามขั้นตอนของ พ.ร.ก. กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 รวมทั้ง จะมีการกำหนดกลไกการตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือและการจ่ายเงินให้ความช่วยเหลือผ่านระบบบัญชีธนาคาร พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจถึงหลักการและแนวทางการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนและประชาชนต่อไป
#2919



ตลาดหุ้นมาเลเซีย ซึ่งปีที่แล้วถือเป็น"ผู้ชนะ"เพราะราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างมาก จากแรงหนุนของบริษัทต่างๆที่มีผลประกอบการสดใสเพราะยอดขายปรับตัวขึ้น ผลกำไรพุ่งมหาศาลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ตอนนี้ ตลาดหุ้นมาเลเซียกลายเป็น"ผู้แพ้"ในฐานะเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่มีผลประกอบการย่ำแย่ที่สุดของภูมิภาคเอเชีย

ปีที่แล้ว ราคาหุ้นของบรรดาผู้ผลิตถุงมือยางของมาเลเซียปรับตัวขึ้นอย่างคึกคัก ขณะที่นักลงทุนก็พากันลงทุนในหุ้นกลุ่มบริษัทเหล่านี้ท่ามกลางความต้องการเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ ถุงมือยาง หน้ากากอนามัยตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆทะยานขึ้นทั่วโลกเพื่อรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19

ราคาหุ้นท็อปโกรฟ,ซูเปอร์แม็กซ์ และฮาร์ตาเลกา ซึ่งผลิตถุงมือยางรวมกันคิดเป็นสัดส่วนกว่า50% ของถุงมือยางทั่วโลก ทะยานขึ้นประมาณ 170% ,1,233% และ 147% ตามลำดับ ในช่วงเดือนพ.ค.และธ.ค.ปีที่แล้ว โดยราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้ช่วยหนุนให้ดัชนีคอมโพสิตกัวลาลัมเปอร์ (เคแอลซีไอ)ทะยานขึ้น 22% ในช่วงเวลาดังกล่าว

แต่ภาวะขาขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มผู้ผลิตถุงมือยางมาเลเซียมีอันต้องสะดุดหยุดลงเพราะข้อกล่าวหาว่าบังคับใช้แรงงาน โดยท็อปโกรฟ ถูกห้ามส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐ ขณะที่ซูเปอร์แม็กซ์ และฮาร์ตาเลกา กำลังถูกตรวจสอบจากหน่วยงานศุลกากรสหรัฐ (ซีบีพี) (United States Customs and Border Protection) ที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการนำเข้า การส่งออก และการเก็บภาษีอากร

การที่ราคาหุ้นบริษัทผลิตถุงมือยางร่วงลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ดัชนีหุ้นเคแอลซีไอ ในปีนี้ร่วงลงเกือบ 7% สวนทางกับดัชนีหุ้นในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ที่ขยายตัวขึ้น 0.4% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นและไทย ขยายตัวขึ้น 9.6%


"ดูเหมือนว่าดัชนีตลาดหุ้นมาเลเซียเป็นตลาดหุ้นเพียงแห่งเดียวของภูมิภาคที่ผลประกอบการไม่ดีในปีนี้"เอ็มไอดีเอฟ อามานาห์ อินเวสต์เมนต์แบงก์ ระบุในรายงานวิจัย

รายงานวิจัยชิ้นนี้ ยังระบุถึงตัวแปรต่างๆที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง ซึ่งรวมถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกที่สี่ ที่นำไปสู่การล็อกดาวน์ และการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

ขณะที่มูดี้ส์ อนาไลติคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจมาเลเซียในปี 2564 ลงสู่ระดับ 4.7% จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 5.6% หลังมาตรการจำกัดการเดินทางได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเป็นผลพวงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

"สตีเวน โคชแรน" นักเศรษฐศาสตร์จากมูดี้ส์ อนาไลติคส์ ระบุว่า "ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน จึงมีความเสี่ยงที่คำสั่งจำกัดการเดินทางในปัจจุบันอาจต้องขยายไปถึงเดือนส.ค. ซึ่งเราจะติดตามอย่างใกล้ชิด และอาจมีการปรับลดเพิ่มเติมอีกในปี 2564 นี้"


นอกจากนี้ โคชแรนยังปรับลดคาดการณ์จีดีพีของมาเลเซียในปี 2565 ลงเหลือ 3.4% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 4%

"การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาขัดขวางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของมาเลเซียและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในไตรมาสที่ 3 โดยได้รับแรงกดดันจากทั้งความรุนแรงของการระบาดระลอกใหม่ และนโยบายที่ใช้ควบคุมโรค" เขากล่าว

นอกจากปัญหาด้านเศรษฐกิจแล้ว ปัญหาความแตกแยกทางการเมืองในมาเลเซียก็มีส่วนทำให้การรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า โดยล่าสุด พรรคอัมโน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่สุดในมาเลเซียและเป็นแกนนำสำคัญของรัฐบาลผสม ตัดสินใจถอนตัวสนับสนุนนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซีย พร้อมทั้งเรียกร้องขอให้นายมูห์ยิดดินลาออกเพราะล้มเหลวในการบริหารจัดการแก้ปัญหาโควิด-19

การตัดสินใจของพรรคอัมโนเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนายมูห์ยิดดินแต่งตั้งสมาชิกอาวุโสคนหนึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่ม ส.ส.ของพรรคอัมโนบางคน

"อาห์หมัด ซาฮิด ฮามิดี" ประธานพรรคอัมโน แถลงชี้แจงเกี่ยวกับการถอนตัวสนับสนุนนายมูห์ยิดดินว่า เพื่อทำให้เกิดเสถียรภาพทั้งทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งทันทีที่รัฐบาลดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว
#2920



"พิพัฒน์" เผย "โค้ชเช" เปิดข้อมูลสุดทึ่ง! เยาวชนไทยแห่เรียนเทควันโดมากถึง 1 ล้านคนในปัจจุบัน หลังเกิดกระแสความสนใจ นักกีฬาเทควันโดรุ่นพี่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกจุดประกาย คาดพอ "น้องเทนนิส" คว้าเหรียญทองมาครอง หนุนคนสนใจเรียนเทควันโดอีกล้นหลาม

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับนายชเว ยองซอก (Choi Young Seok) หรือ "โค้ชเช" หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย นอกเหนือจากเรื่องขอเปลี่ยนเป็นสัญชาติไทย และความมุ่งมั่นของโค้ชเชที่ต้องการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่มาเสริมทัพนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยแล้ว ยังได้รับทราบข้อมูลน่าทึ่งจากโค้ชเชด้วยว่าปัจจุบันมีเยาวชนไทยมาเรียนและฝึกซ้อมเทควันโดมากถึง 1 ล้านคน

"ผมฟังแล้วถึงกับประหลาดใจอย่างมาก เมื่อทราบว่าปัจจุบันมีตัวเลขเยาวชนไทยเรียนและฝึกซ้อมเทควันโดมากถึง 1 ล้านคน จากกระแสความสนใจกีฬาเทควันโดในไทย เยาวชนมีนักกีฬารุ่นพี่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกและมีนางสาวพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือ "น้องเทนนิส" เป็นหนึ่งในไอดอล จึงคาดว่าหลังจากน้องเทนนิสประสบความสำเร็จได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 น่าจะมีเยาวชนสนใจกีฬาเทควันโดเพิ่มขึ้นอีกมาก พร้อมแจ้งเกิดไอดอลเก่งๆ คนใหม่มาประดับวงการกีฬาไทย" รมว.การท่องเที่ยวฯกล่าว