• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Fern751

#7337
อีกหนึ่งความสำคัญของ ประตู ที่ใช้งานภายในบ้านนั้นแม้ว่ามองโดยผิวเผินอาจจะคิดว่าเป็นอุปกรณ์ธรรมดาๆที่ไม่มีความสำคัญอะไรมากนัก แต่ความจริงแล้ว ประตูบ้านเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกๆเลยทีเดียว เพราะมีส่วนช่วยในเรื่องของคุณปลอดภัยและคุณภาพชีวิตภายในบ้านของเราเป็นอย่างมาก ความแน่นหนาของผลิตภัณฑ์ การเลือกประเภทใช้งานได้อย่างเหมาะสม รวมถึงราคาค่าใช้จ่ายและสีสันความสวยงามของประตูนั้น เรียกได้ว่าไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว มีชนิดไหนบ้างตามมาดูกันได้เลย

1. แบบบานเลื่อน

ประตูบานเลื่อน นั้นเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เพราะนอกจากจะมีความทันสมัยแล้วยังสามารถใช้งานได้ง่ายอีกด้วย ลวดลายและสีสันสวยงามที่สามารถปรับได้ตามโทนสีของบ้านที่อยู่อาศัย รวมถึงสามารถประหยัดพื้นที่และสามารถใช้งานกับห้องต่างๆได้ เช่น ห้องน้ำ, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า รวมถึงหน้าบ้าน ทำให้มีความน่าสนใจและเป็นที่นิยม

2. แบบไม้จริง

ด้วยลวดลายที่มีความขลัง เป็นเอกลักษณ์ และส่งเสริมให้ห้องต่างๆดูคลาสสิคขึ้นมาได้ จึงทำให้ได้รับความนิยมมากเช่นกัน แต่ข้อจำกัดก็มีอยู่ไม่น้อยเพราะบางครั้งโทนของบ้านที่ทันสมัยอาจไม่เหมาะสมสำหรับการใช้ในรูปแบบนี้ รวมถึงสีสันต่างๆก็มีให้เลือกไม่มากนัก จึงทำให้ไม่สามารถตกแต่งอะไรได้มากมายเท่าที่ควร รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการโดนพวกแมลงรำคาญเช่น ปลวกแทะหากเกิดความชื่นอีกด้วย

3. แบบไม้สังเคราะห์

มีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบกว่าไม้จริง และยังมีวัสดุที่แข็งแรงใช้ได้นานไม่หนัก และไม่เสี่ยงต่อการโดนปลวกแทะแม้จะถูกความชื้นอีกด้วย มีราคาที่หลากหลายแล้วแต่เกรดของวัสดุ โดยยิ่งวัสดุมีความคงทนมากเท่าไหร่ก็จะมีราคาแพงมากขึ้นเท่านั้น สามารถปรับใช้ได้กับห้องต่างๆได้มากมายหลากหลายเช่น ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว เป็นต้น

4. ผิวลามิเนต

เป็นพื้นผิวที่เน้นไปที่ความสวยงามและมีลวดลายคล้ายไม้ มีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบพร้อมโทนสีที่มีมากกว่าปกติ จึงเป็นประเภทที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลแบบครีเอทและมีความทันสมัยเป็นอย่างมากดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้น การเลือกใช้ ประตูแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมของผู้ใช้งาน ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่ามีหลากหลายเกรดและหลากหลายราคา โดยคุ้มอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิต หากต้องการวัสดุที่มีความคงทนก็อาจจะมีราคาสูงแต่แม่เทียบกับอายุ ความสวยงาม และความคุ้มค่าต่อการใช้งานแล้วนั้นก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะต้องมีการใช้งานในระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อทุกครั้งควรคำนึงให้ละเอียดถี่ถ้วนและศึกษาให้ดีอยู่เสมอ
#7338


คณะทำงานจัดการความรู้เพื่อพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ด้านพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการวิจัย (สกสว.) ได้จัดประชุมหารือเรื่อง "ทิศทางการพัฒนาพลังงานสะอาดในอุตสาหกรรมน้ำมันและการกลั่น" โดยมี รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. เป็นประธานการประชุม ร่วมหารือกับภาคีภาครัฐ ด้านพลังงาน ผู้แทนสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ตลอดจนตัวแทนจากภาคเอกชน

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยข้อมูลว่า ด้วยปัญหาภาวะโลกร้อนที่นำไปสู่สนธิสัญญาระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิด Net Zero Carbon Emission ในปี 2050 ทำให้ทั่วโลกเริ่มเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานปิโตรเลียมมาสู่การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพมากขึ้นในอนาคต โดยประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2030 ประเทศไทยจะลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20%


แม้ว่าความต้องการน้ำมันของโลก (Global oil demand) น้ำมันยังคงเป็นแหล่งพลังงานหลักในปัจจุบัน ซึ่งถูกใช้ในภาคส่วนการขนส่ง เป็นภาคส่วนหลักที่มีความต้องการใช้น้ำมันสูงสุด แม้ปัจจุบันจะมีพลังงานทดแทนอย่างอื่นก็ไม่อาจทำให้ความต้องการน้ำมันของโลก (Global oil demand) ลดน้อยลง เรียกได้ว่าน้ำมันยังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาดของพลังงานโลกอยู่ อย่างไรก็ตามหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ได้ให้ความสนใจกับการผลิต "พลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ" มาทดแทนน้ำมัน โดยคาดการณ์ว่าเชื้อเพลิงชีวภาพจะถูกนำมาใช้ในภาคการขนส่ง และอุตสาหกรรมการบินมากขึ้น แต่จะเป็นเชื้อเพลงชีวภาพแบบดั้งเดิมน้อยลง และใช้เทคโนโลยีผลิตพลังงานชีวภาพขั้นสูง (Advanced Biofuel) เช่น เทคโนโลยีผลิตพลังงานจากเศษวัสดุทางเกษตร หรือของเสียจากอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) ทดแทนมากขึ้นในอนาคต



สำหรับประเทศไทยพบว่ามีกำลังการผลิต (Supply) หลัก คือ ไบโอดีเซล และไบโอเอทานอลซึ่งเมื่อวิเคราะห์แล้วพบว่าประเทศไทยมีกำลังการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเหล่านี้มากกว่าความต้องการ (Demand) ทำให้ยังคงมีส่วนเกินในภาคการผลิต ซึ่งมองว่านี่คือโอกาสของประเทศที่สามารถรองรับสู่การผลิตสารเคมีชีวภาพมูลค่าสูงได้ ดังในสถานการณ์โควิด-19 ไบโอแอลกอฮอลล์นิยมถูกนำไปใช้ในการเจือจางเป็นเจลแอลกอฮอลล์ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อีกอันที่เป็นโอกาส คือ การผลิตสุรา แต่มีข้อจำกัดเรื่องกฎระเบียบที่ไม่สามารถผลิตแอลกอฮอลล์เพื่อมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้ และมีข้อเสนอให้ควรวางแผนการวิจัยและพัฒนาของประเทศเพื่อการขับเคลื่อนจากโมเดล BCG ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงขยับตัวให้เร็วขึ้น สิ่งที่ประเทศไทยควรดำเนินการเพื่อทำให้การวิจัยพัฒนาในเรื่องของพลังงานชีวภาพและเคมีชีวภาพเป็นรูปธรรมมากขึ้นอันนำไปสู่การยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้อย่างแท้จริง คือ



• จัดการรวบรวมองค์ความรู้ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology) ด้านพลังงานที่เคยศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาแล้วคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับชีวมวลของประเทศไทย
• สร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้รองรับการขยายขนาดจากงานวิจัยในห้องปฏิบัติการเพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม
• เพิ่มทักษะแรงงานและนักวิจัยของประเทศ ในทำการตลาด การคำนวณความคุ้มทุน โดยเร่งสร้างบุคลากรวิจัยทักษะสูงที่มี

ความเชี่ยวชาญจำเพาะเจาะจงในสารเคมีชีวภาพหรือเชื้อเพลิงนั้นๆ และอาจจำเป็นต้องร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อเกิดความร่วมมือแล้วเราจะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้เข้ามาอยู่ในประเทศ และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เรา ดังนั้นการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ในด้านพลังงานชีวภาพขึ้นมาใหม่จึงเป็นสิ่งที่ประเทศควรทำ

โดยการประชุมวันนี้ถือเป็นการหารือ โดยสกสว. จะนำข้อมูลและข้อเสนอแนะสำคัญจากผู้เข้าร่วมไปสู่กระบวนการจัดการความรู้ และพัฒนาแผนวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงานต่อไป
#7339


ตัวแทนของ "เอมมา สโตน" เปิดเผยว่าเธอตัดสินใจที่จะเซ็นสัญญา เล่นหนังภาคต่อ Cruella 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังเคยมีข่าวลือว่าดาราสาวกำลังพิจารณาฟ้อง Disney เรื่องผลประโยชน์ แต่สุดท้ายก็ตกลงกันได้

เคยมีข่าวว่า เอมมา สโตน อาจจะตัดสินใจยื่นฟ้อง Disney ตามรอย "สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน" เกี่ยวกับเรื่องที่บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ละเมิดสัญญานำหนังของพวกเธอ เผยแพร่ลงสตรีมมิ่งโดยไม่ได้รับอนุญาต

แต่สำหรับกรณีของ เอมมา สโตน ดูเหมือนว่า สตูดิโอและฝ่ายนักแสดงจะจบลงก็ลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะนอกจากจะไม่ฟ้องร้องแล้วยังมีข่าวว่า เอมมา สโตน ได้ตกลงที่จะเล่นภาคต่อของหนัง Cruella แล้วด้วย

สืบเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดหลายแห่ง ตัดสินใจ ส่งหนังเผยแพร่ผ่านระบบสตรีมมิ่งพร้อมกับการฉายในโรงภาพยนตร์ เพื่อทดแทนที่โรงภาพยนตร์จำนวนไม่สามารถเปิดกิจการได้



แต่กลายเป็นว่าแผนการดังกล่าว ได้สร้างความไม่พอใจให้กับดาราหลายคน ที่เซ็นสัญญารับส่วนแบ่งจากการขายตั๋วหน้าโรงภาพยนตร์ไว้ด้วย เพราะจะทำให้พวกเขาขาดรายได้ในส่วนแบ่งจากการขายตั๋วไป

ซึ่งดาราที่แสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจนที่สุดก็คือ สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน พี่ฟ้องร้อง Disney ว่าละเมิดสัญญา ที่เธอเซ็นเอาไว้ตอนทำหนัง Black Widow

โดยในตอนนั้นมีข่าวตามออกมาว่ามีดาราหลายคนก็อาจจะฟ้อง Disney เหมือนกัน หนึ่งในนั้นก็คือ เอมมา สโตน ที่สูญเสียผลประโยชน์จากการที่ Cruella ฉายโรงพร้อมปล่อยลงสตรีมมิ่งเช่นเดียวกัน

แต่ล่าสุดตัวแทนของ เอมมา สโตน ได้เปิดเผยว่าดาราสาวแล้ว Disney สามารถตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว และ เอมมา สโตน ก็ได้ตอบตกลงที่จะเล่นหนัง Cruella 2 ของทาง Disney เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย



ตัวแทนของ เอมมา สโตน ยอมรับว่าปัจจุบัน ธุรกิจบันเทิงและสื่อเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ทำให้บริษัทจัดจำหน่าย, ผู้สร้างสรรค์งาน รวมถึงตัวนักแสดงต้องปรับตัวเพื่อหาความลงตัวในการทำงานร่วมกันให้ได้

ซึ่งตัวแทนของ เอมมา สโตน เชื่อว่าข้อตกลงล่าสุดที่ดาราสาวทำกับ Disney มีความลงตัว และให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายอย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งตัวแทน เอมมา สโตน ยังคาดหวังว่านี่จะเป็นการเปิดประตูบานแรกไปสู่ การทำงานร่วมกันในยุคสมัยใหม่ในวงการบันเทิงของคนบันเทิงคนอื่น ๆ ต่อไปด้วย
ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดีลล่าสุดของ เอมมา สโตน และ Disney ประสบความสำเร็จลุล่วงด้วยดีก็น่าจะมาจากความสำเร็จของหนัง Cruella เองที่ทำเงินในการฉายทั่วโลกไป 226 ล้านเหรียญฯ ซึ่งถือว่าน่าพอใจไม่น้อยในภาวะเช่นนี้

แต่ที่สำคัญหนังยังทำยอดการขายผ่านสตรีมมิง Disney + ได้น่าพอใจมาก มีคนซื้อหนังไปนั่งชมที่บ้านในสัปดาห์แรกถึง 686,000 หลังคาเรือน และทำเงินให้กับ Disney แบบเต็ม ๆ ไม่ต้องแบ่งใครในสัปดาห์เดียวถึง 20.57 ล้านเหรียญฯ
#7340
6 วัน 6 วิชา ขายออนไลน์อย่างไร...ให้ปัง
#7342
การสั่งจองคัมภีร์พระเวทย์
โดยประสิทธิ์ให้เป็นรายบุคคล ท่านใดต้องการจอง ค่าครู 399 บาท



คัมภีร์พระเวทย์ มีวิชาต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

บทนำ บทสวดมนต์ การอัญเชิญบรมครู การขึ้นพานครู บทไหว้ครู บทอัญเชิญครู วิชาเชิญแม่คุ้มครอง วิชากันภัย ๘ ทิศ

วิชากำลังช้างสาร วิชาเสกน้ำปลุกตัว วิชากำแพงแก้ว วิชาตาข่ายเพชรพระเจ้า ๕ พระองค์ วิชาผูกหุ่นพยนต์เฝ้าบ้าน

วิชากันขโมย วิชาปล่อยปลาต่ออายุ การทำสังฆทาน วิชาแก้กรรมทำแท้ง วิชาแก้อาถรรพ์ (ไปรับวัตถุมงคลที่ไม่ดี, รับขันธ์ ฯลฯ) วิชาทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาด้วยตนเอง วิชาตั้งหิ้งพระค้าขาย วิชาการแก้กรรมเฉพาะกิจ วิชาทวงหนี้

วิชาแก้ไฝในที่ลับ วิชาพฤกษาชาติเสริมชะตา วิชาขอขมาพ่อแม่ วิชาลอยสรรพเคราะห์ด่วน วิชาทำน้ำมนต์ประทุมทิพย์

วิชาแก้เคล็ดเสริมลาภ วิชามงกุฎยอดทรัพย์ วิชาไหว้ผีปู่ผีย่า วิชาสร้างปราณเสริมลาภ การทำน้ำมนต์ถอนคุณไสย

วิชาถอนของ ของสมเด็จโต วิชาแก้ของในร้านค้า วิชาเรียกของหาย พระคาถาต่าง ๆ พระคาถาขุนแผน พระคาถาคิ้วทอง

พระคาถาพระลักษณ์หน้าทอง พระคาถาสาลิกาลิ้นทอง พระคาถาเขี้ยวแก้ว พระคาถาราศีทอง พระคาถาสาลิกามัดจิต

พระคาถาไม้สวรรค์ พระคาถาเมตตาอ่อนใจ พระคาถาผูกใจ พระคาถาเสกสีผึ้ง พระคาถาพ่นบุหรี่ พระคาถามหาระรวย

พระคาถามหานิยม พระคาถาเทพรัญจวน พระคาถานะหน้าทอง พระคาถานกแขกเต้า พระคาถาเสกสีผึ้งสีปาก

พระคาถาการะเวกเสียงทอง พระคาถาสาลิกาดลใจ พระคาถาพญาไก่แก้วทั้ง ๑๖ ลืมรัง วิชาฤามหานิยม

การทำเสน่ห์ด้วยใบรักซ้อน วิชาทำหุ่น ทำรัก-ทำเลิก การทำเสน่ห์การ้องทัก (เรียกจิต) วิชาฤาษีมัดใจ(เสกของกิน)

มนต์เสน่ห์มัดใจ(รักกันจนวันตาย) มนต์ปู่จ้อยมหาเสน่ห์ วิชาหงส์ร่อนมังกรรำ วิชามนต์เทพมัดจิตบังคับใจ

วิชากลับธาตุกลับใจ วิชากรงทอง คาถาเสริมลาภ เสกธูปเรียกขนหงส์ทอง คาถาขอลาภ เสกธูปเรียกคน

พระคาถาเรียกเงิน การทำน้ำมนต์ค้าขาย มนต์ขุนแผนเรียกคน บทสวดขอลาภ การทำเทียนสะเดาะเคราะห์

คาถาเรียกเลข วิชาลงทอง เสกน้ำล้างหน้า เหตุใดคาถาถึงศักดิ์สิทธิ์และไม่ศักดิ์สิทธิ์ มนต์ทำงัวธนู การบูชาท้าวเวสสุวรรณ คาถาแก้ฝันร้าย รวมทั้งนิมิตร้าย และลางร้ายต่างๆ เชิญอาคมเข้าสู่ตัว คาถาอาวุธ ๔ ประการ คาถาขอทรัพย์พญานาคราช คาถาบูชาจ้าวปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธมัจฉราชจริยาคาถา คาถาปลาช่อน (คาถาขอฝน) การบูชาพระราหู พระคาถาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เปิดโลก (เรียกบุญบารมีเดิม) คาถาเงินล้าน คาถาชินบัญชร การฝึกสมาธิ



ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่



โทร. 0846623662

id line : teerapat999



ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i2632506885.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfMp9Zq0



#7345


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ "น้องเทนนิส" เรืออากาศตรีหญิงพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย สามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยถือเป็นเหรียญทองแห่งความสุขและความภาคภูมิใจหนึ่งเดียวของประเทศไทยที่ได้จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ นับเป็นเหรียญทองเหรียญที่ 10 ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยจากการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และเป็นเหรียญทองเหรียญแรกที่ได้จากการแข่งขันกีฬาเทควันโดอีกด้วย ในวันนี้ (16 สิงหาคม 2564) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน จึงได้มอบเงินรางวัลพิเศษรวม 4,000,000 บาท ให้แก่นักกีฬาและผู้ฝึกสอน ที่มุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักจนนำมาซึ่งความสำเร็จได้ในที่สุด โดยมีรายละเอียด ดังนี้​ 1.มอบเงินรางวัลพิเศษ จำนวน 3,000,000 บาท ให้แก่ "น้องเทนนิส" เรืออากาศตรีหญิงพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก. หญิง


2.มอบเงินรางวัลพิเศษ จำนวน 500,000 บาท ให้แก่ "น้องจูเนียร์" นายรามณรงค์ เสวกวิหารี นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 58 กก. ชาย

3.มอบเงินรางวัลพิเศษ จำนวน 500,000 บาท ให้แก่ "โค้ชเช" ชเว ย็อง-ซ็อก หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย

โดยหลังจากรับมอบเงินรางวัลแล้ว ทั้ง 3 คน ยังได้นำเงินรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ แบ่งไปเก็บออมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ด้วยการซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว หน่วยละ 5,000 บาท โดยน้องเทนนิสซื้อสลากจำนวน 200 หน่วย หรือมูลค่า 1 ล้านบาท ขณะที่​ โค้ชเช และน้องจูเนียร์ ซื้อสลากคนละจำนวน 20 หน่วย หรือ 100,000 บาท ซึ่งทุกหน่วยจะได้สิทธิ์ลุ้นเงินรางวัลสูงสุดมูลค่า 1 ล้านบาท/หมวด พร้อมด้วยรางวัลอื่น ๆ รวมถึงรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว รางวัลเลขสลับเลขท้าย 2 ตัวและ 3 ตัว ลุ้นรางวัลได้ต่อเนื่องนาน 24 เดือน และยังได้รับผลตอบแทนหน้าสลาก 0.40% ต่อปี นอกจากนี้ดอกเบี้ยและเงินรางวัลยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย

"ธอส. ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ได้ให้การสนับสนุนปีละ 17 ล้านบาท รวมแล้วกว่า 260 ล้านบาท รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยพัฒนาวงการกีฬาเทควันโดให้โดดเด่น และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีการแข่งขันระดับโลกมากกว่า 160 รายการ รวมถึงการคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเทควันโด ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 มาได้สำเร็จในครั้งนี้ ถือเป็นการทำให้คนไทยมีความสุขท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในขณะนี้ และ ธอส. ยืนยันว่าพร้อมให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโด แห่งประเทศไทยในการพัฒนาวงการกีฬาเทควันโดต่อไป เพื่อนำความภาคภูมิใจให้กับคนไทยให้ได้อย่างต่อเนื่อง"นายฉัตรชัย กล่าว

นอกจากการสนับสนุนทางด้านกีฬาให้กับสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยแล้ว ธอส. ยังคงมุ่งมั่นตามภารกิจหลักในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตลอดระยะเวลาเกือบ 68 ปี ธนาคารสร้างโอกาสให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 3.7 ล้านครอบครัว ควบคู่ไปกับการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร ทั้งทางด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา สังคมและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์/ศาสนา/ศิลปวัฒนธรรม
#7346
ขายดาวน์ 215,800 (เดือน กค 2564) ห้อง 1017
#7348
6 วัน 6 วิชา ขายออนไลน์อย่างไร...ให้ปัง
#7349


นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สศก.ได้ดำเนินการติดตามและประเมินผลโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ ภายใต้การใช้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการรวมกลุ่มในรูปแบบที่เหมาะสมกับพื้นที่ รวมทั้งเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้มีความกินดี อยู่ดี มีสันติสุข และสร้างความเข้มแข็งในชุมชน

จากการลงพื้นที่เพื่อประเมินผลโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก.จ.สระแก้ว ที่ได้ดำเนินการจัดที่ดินให้ผู้ยากไร้เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา พบว่ามีเนื้อที่ประมาณ 1,960 ไร่ เป้าหมายในการจัดเกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์ 313 ราย ขณะนี้มีเกษตรกรเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่แล้ว 156 ราย โดยเป็นการจัดสรรที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์รายละ 6 ไร่ แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยรายละ 1 ไร่ และเป็นที่ทำกินรายละ 5 ไร่ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทุกรายเป็นสมาชิกสหกรณ์ทางการเกษตรที่ได้จัดตั้งขึ้นในพื้นที่

นอกจากนี้ เกษตรกรได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการสร้างบ้าน มูลค่ารายละ 40,000 บาท ขณะนี้เกษตรกรมีการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ที่ได้รับ เช่น ปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน รวมทั้งเลี้ยงสัตว์ (โคเนื้อ) ในพื้นที่บริเวณบ้าน ส่วนที่ทำกิน 5 ไร่ ส่วนใหญ่เกษตรกรจะเพาะปลูกมันสำปะหลังเป็นหลัก ควบคู่กับการปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการจัดหาอาหารสัตว์ ทั้งนี้ มีเกษตรกรบางรายเพาะปลูกข้าวเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือนด้วย

ด้านผลสำรวจรายได้ปีเพาะปลูก 2563/64 พบว่าเกษตรกรที่เพาะปลูกมันสำปะหลังมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเฉลี่ย 2,968 บาทต่อไร่ สำหรับการเพาะปลูกข้าวและหญ้าเลี้ยงสัตว์นั้น เกษตรกรไม่ได้มีการจำหน่าย แต่นำข้าวมาบริโภคในครัวเรือน และนำผลผลิตจากหญ้าเลี้ยงสัตว์ใช้เป็นอาหารสำหรับโคเนื้อ ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนลงได้เฉลี่ย 4,657 บาทต่อครัวเรือนต่อปี ทั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้รวม 2.015 ล้านบาทต่อปี

"ภาพรวมเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพึงพอใจการดำเนินโครงการเป็นอย่างมาก เกษตรกรสามารถทำการเกษตรเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ รู้สึกถึงความมั่นคงในที่ดิน เนื่องจากเป็นการให้สิทธิในการเข้าใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง รวมทั้งได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐได้เท่าเทียมกับพื้นที่อื่น อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไป นอกเหนือจากการจัดที่ดินและส่งเสริมพัฒนาอาชีพทางการเกษตรในพื้นที่แล้ว ควรส่งเสริมให้เกิดการดำเนินงานของการรวมกลุ่มสหกรณ์เพื่อการผลิตและการตลาดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะก่อให้เกิดผลประโยชน์แก่เกษตรกรในพื้นที่อย่างเต็มที่" รองเลขาธิการ สศก.กล่าว
#7350


นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า สำหรับแผนการเพิ่มทุนมูลค่า  30,000 ล้านบาท  เพื่อรองรับการเติบโตใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 2564-2568 )หนุนกำลังการผลิตที่10,000 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน คาดว่าแล้วเสร็จได้ภายในต้นปี2565

ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศหลายโครงการ ขนาดกำลังผลิตเกิน 100 เมกะวัตต์ขึ้นไป โดยขณะนี้มี 2  ดีล ทีี่มีความชัดเจน คาดสรุปหรือปิดดีลอย่างน้อย 1 ดีลในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศ คาดใช้เงินลงทุนราว 4,000-5,000 ล้านบาท 

ส่วนอีก 1 ดีล คาดปีดดีลได้ในกลางปี 2565 เป็นโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ทั้งพลังงานทดแทนและก๊าซธรรมชาติ คาดใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มทุนดังกล่าว และยังใช้เวลาเจรจรพอสมควร

"แผนขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศสอดคล้องกับแผน 5 ปี มุ่งขยายโครงการโรงไฟฟ้าในอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก เรา สนใจลงทุนเพิ่มเติมในไต้หวันและเกาหลีใต้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา จากปัจจุบันได้ลงทุนในเวียดนาม ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ แล้ว"   


ขณะที่งบลงทุนในปีนี้และปีหน้า บริษัทเตรียมไว้ปีละ ่ 15,000 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินอีกราว 40,000-45,000 ล้านบาท และสามารถระดมทุนออกหุ้นกู้ในและต่างประเทศ ในจังหวะที่เหมาะสมได้อีก พร้อมรองรับการลงทุนในช่วงดังกล่าว 

สำหรับงบลงทุนปีนี้ที่ 15,000ล้านบาท เป็นลงทุนในโครงการเดิม 8,000 ล้านบาท และโครงการใหม่ 7,000 ล้านบาท โดยครึ่งหลังปีนี้ยังเหลืออีกราว 9,560 ล้านบาท ไว้รองรับการลงทุนโครงการใหม่และเดินหน้าโครงการลงทุนที่มีอยู่ ทั้งโรงไฟฟ้า และไม่ใช่โรงไฟฟ้า 

"ธุรกิจระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ธุรกิจเกี่ยวเนื่องพลังงาน และธุรกิจด้านสุขภาพ กำลังขับเคลื่อนโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาให้ไปสู่การร่วมทุนและดำเนินการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการร่วมทุนนวัตกรรมด้านไฟฟ้ากับกลุ่ม กฟผ.โครงการจัดตั้งโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่งในประเทศและสปป. ลาว ด้านสุขภาพขยายการลงทุนร่วมกับ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เป็นต้น" 

นายกิจจา กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังคาดดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่กำไรพุ่ง 72%  โดยครึ่งปีหลังในแง่ของรายได้พยายามบริหารจัดการ โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ให้พร้อมจ่ายไฟให้มากที่สุด  ถ้าโรงไฟฟ้าพร้อมจ่ายผลตอบแทนก็เป็นไปตามเป้า จึงเชื่อมั่นว่าที่ตั้งไว้จะเป็นไปตามเป้าหรือมากกว่าเป้าหมาย เพราะครึ่งปีแรกยังทำได้ดีกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก             

ขณะที่กำลังผลิตในปีนี้มั่นใจว่าเป็นไปตามเป้าวางไว้ที่ 8,874เมกะวัตต์ จากครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 8,290.34 เมกะวัตต์  และปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 7,053เมกะวัตต์ คาดครึ่งปีหลังนี้จะ COD เพิ่มอีก 160 เมกะวัตตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว อินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม ที่จะ COD ในไตรมาส 4ปีนี้ รวมสิ้นปีจะมีโรงไฟฟ้า COD แล้ว 7,213เมกะวัตต์