• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chanapot

#6871


2 สิงหาคม 2564 เวลา 10.29 น. รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการที่สถานีกลางบางซื่อ แบ่งเป็น 2 เส้นทาง ได้แก่ บางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร มี 10 สถานี และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร มี 3 สถานี

พร้อมกับ สถานีกลางบางซื่อ ที่ตั้งเป้าหมายจะเป็นศูนย์กลางคมนาคมระบบรางที่ใหญ่ที่สุด รองรับทั้งรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในอนาคต

แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จะเปิดให้บริการจากสถานีกลางบางซื่อ เที่ยวแรก 06.00 น. เที่ยวสุดท้าย 19.30 น. ตามมาตรการของภาครัฐ แต่ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น ก็มีแผนที่จะเปิดให้บริการไปถึงเวลา 24.00 น.

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโอกาสใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงครั้งแรก แม้จะช้ากว่าคนอื่นบ้าง แต่ก็พยายามสังเกต และเก็บเล็กผสมน้อยเพื่อที่จะบอกเล่าคุณผู้อ่านให้ฟัง เป็นประโยชน์ในการเดินทางไม่มากก็น้อย

ถึงแม้ว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงจะใช้เวลายาวนาน 12 ปี กว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง นับตั้งแต่ก่อสร้างงานโยธาช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันในปี 2552 แต่ยอมรับว่า กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทำการบ้านไว้ดีมาก

โดยเฉพาะปัญหาหลักคือ "เมื่อถึงปลายทางแล้วจะไปยังไงต่อ?" จำเป็นต้องมีระบบฟีดเดอร์ (Feeder) เชื่อมต่อกัน

นอกจาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะก่อสร้างอุโมงค์เชื่อมสถานีกลางบางซื่อ กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางซื่อแล้ว องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยังเพิ่มเส้นทางรถเมล์ 4 สาย รองรับรถไฟฟ้าสายสีแดง

ขณะที่กระแสสังคม โดยเฉพาะบรรดาคนรักรถไฟ ต่างช่วยกันผลักดันรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วยกันสื่อสารและบอกต่อเพื่อให้ประชาชนสนใจทดลองใช้บริการ แม้ว่ามาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ จะทำให้ช่วงนี้ผู้โดยสารเดินทางไม่มากก็ตาม

น่าสนใจว่า รถไฟฟ้าสายสีแดงจะเติมเต็มการเดินทางและคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างไร ขอพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง



เราตั้งต้นมาที่ สถานีชุมทางตลิ่งชัน ที่เป็นทั้งสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟทางไกลสายใต้ จากสถานีกรุงเทพและสถานีธนบุรี ถ้านั่งรถไฟจากภาคใต้หรือภาคตะวันตก ก็ลงที่สถานีนี้ และเปลี่ยนมานั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงได้

ส่วนรถประจำทาง ปัจจุบัน ขสมก. ได้เพิ่มเส้นทาง สาย 79 (เสริม) ออกจากอู่บรมราชชนนี ผ่านสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ผ่านสถานีตลิ่งชัน สถานีบางบำหรุ ไป MRT สิรินธร, MRT บางยี่ขัน สิ้นสุดที่สถานีขนส่งสายใต้เดิม (ปิ่นเกล้า)

แต่ถ้าไม่อยากรอรถเมล์นาน ยังมีอีกวิธีหนึ่ง คือ ลงรถเมล์ที่ ป้ายไปรษณีย์ตลิ่งชัน ถนนบรมราชชนนี เดินย้อนไปปากทางถนนฉิมพลี ก่อนถึงสะพานลอย แล้วต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างจะใกล้กว่าและเร็วกว่า

รถเมล์สายที่ผ่านป้ายไปรษณีย์ตลิ่งชัน ได้แก่ รถที่ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ตลิ่งชัน (สาย 28, 35, 40, 66, 507, 511) จากถนนบรมราชชนนี (สาย 79, 123, 124, 515, 539, 556) ถนนกาญจนาภิเษก (สาย 127, 516)

รวมทั้งคนที่นั่งรถตู้จากบางบัวทองไปปิ่นเกล้า หรือรถตู้ บ.ข.ส. จากนครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี ฯลฯ ที่จะไปสายใต้เดิม ปิ่นเกล้า ก็บอกคนขับให้จอดที่ป้ายไปรษณีย์ตลิ่งชัน แล้วเดินย้อนมาที่ถนนฉิมพลี ต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้เช่นกัน

แต่สำหรับคนที่นั่งรถเมล์ สาย 515 ศาลายา-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือ สาย 539 อ้อมน้อย-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แนะนำให้ใช้บริการสถานีบางบำหรุ จะสะดวกกว่า โดยลงรถเมล์ที่ ป้ายสถานีบางบำหรุ แล้วเดินย้อนไปที่สถานีไม่กี่ก้าวเท่านั้น

ส่วนคนที่ลงรถไฟที่สถานีชุมทางตลิ่งชัน สามารถรอรถเมล์สาย 79 (เสริม) ได้ที่จุดจอดรถเมล์ด้านหน้าสถานี ส่วนสถานีบางบำหรุ ป้ายรถเมล์จะอยู่ฝั่งถนนเลียบทางรถไฟ ใต้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก









ด้านในสถานีชุมทางตลิ่งชันจะมี เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ 7 เครื่อง เครื่องเติมเงินอัตโนมัติ (Add Value Machine) 1 เครื่อง น่าสังเกตว่าเติมเงินได้ทั้งเหรียญ ธนบัตร รวมทั้งบัตรเครดิตได้ด้วย แต่ช่วงนี้เครื่องทั้งหมดยังไม่เปิดให้บริการ

หลังสแกนไทยชนะ ตรวจวัดอุณหภูมิแล้ว ตรงประตูกั้นอัตโนมัติ พนักงานจะให้สแกนคิวอาร์โค้ด เข้าสู่ Google Forms ตอบคำถามเพียงแค่จะไปลงที่สถานีไหนก็พอ ไม่ถามข้อมูลส่วนตัว เพื่อเก็บข้อมูลผู้โดยสารนำไปพัฒนาบริการ

เมื่อเข้าประตูกั้นอัตโนมัติแล้ว จะลงบันไดเลื่อนไปชั้นใต้ดิน ไปตามทางเดินเพื่อลอดอุโมงค์ไปยังชานชาลาที่ 1 แล้วขึ้นบันไดเลื่อนอีกครั้ง จะเห็นขบวนรถไฟฟ้าที่คนรักรถไฟเรียกกันว่า "หนูแดง" จอดอยู่

สัมผัสแรกที่พบเห็น พลันนึกถึง ตอนข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย นั่งรถไฟ กอมมูเตอร์ (Komuter) จากสถานีปาดังเบซาร์ ไปสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ระยะทาง 170 กิโลเมตร เป็นรถปรับอากาศขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า นั่งแล้วรู้สึกชอบมาก

เคยนึกฝันว่า ประเทศไทยน่าจะมีแบบนี้ วันนี้ได้เกิดขึ้นจริง แม้ระยะทางจะสั้นไปหน่อยก็ตาม









ด้านในขบวนรถจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ เก้าอี้พลาสติกสีแดง ด้านบนจะมีชั้นวางของ มีป้ายบอกสถานี และหน้าจอบอกสถานะสถานีที่มาถึง เสียงแจ้งเตือนปิดประตูจะคล้ายกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ แต่เวลาปิดประตู เสียงจะดังน้อยกว่า

เมื่อนึกถึงเสียงประกาศบนรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงินและสีม่วง แอ้ม-สโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ประกาศข่าว จะออกแนวขึงขัง หนักแน่น ส่วนเสียงประกาศบนของรถไฟฟ้าบีทีเอส โหน่ง-พิมพ์ลักษณ์ กมลเพชร นักร้องชื่อดัง จะออกแนวหวานแหลม

แต่สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง ทราบว่าใช้เสียงของ แอน-นันทนา บุญหลง นักร้อง นักพากษ์ชื่อดัง และ นงอร มาสมบูรณ์ อดีตแอร์โฮสเตสสาว เสียงจะออกแนวหวานละมุนปนหนักแน่นเล็กน้อย







จากสถานีชุมทางตลิ่งชัน ใช้เวลาประมาณ 4 นาที แวะจอดที่สถานีบางบำหรุ ก่อนที่จะวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แวะจอดที่สถานีบางซ่อน ซึ่งเป็นสถานีสุดท้าย ก่อนที่จะเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ เบ็ดเสร็จใช้เวลาประมาณ 15 นาทีพอดี

เมื่อลงจากขบวนรถ ทีแรกรู้สึกงงเล็กน้อยว่าจะไปทางไหน เพราะต้องการเปลี่ยนขบวนรถไปรังสิต ไม่ได้ต้องการออกจากสถานี กระทั่งตัดสินใจลงบันไดเลื่อนก็ถึงบางอ้อ มีป้ายบอกทาง "รถไฟฟ้าชานเมือง บางซื่อ-รังสิต ไปชานชาลา 3-4"

จำไว้ว่า ถ้าจะเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีกลางบางซื่อ ให้ลงบันไดเลื่อนแล้วสังเกตป้าย ก่อนขึ้นบันไดเลื่อนไปชานชาลาอีกครั้ง "รถไฟฟ้าชานเมือง บางซื่อ-รังสิต ไปชานชาลา 3-4" และ "รถไฟฟ้าชานเมือง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ไปชานชาลา 9-10"







ปัญหาอย่างหนึ่งของสถานีกลางบางซื่อ รวมถึงสถานีอื่นๆ คือ ป้ายบอกทางไม่มีความโดดเด่น สีกลืนกันหมด ทำให้เวลาอ่านมองไม่ชัด ถ้าเปลี่ยนรูปแบบให้ตัวหนังสือชัดเจนขึ้นก็จะดีกว่านี้

เราขึ้นมายังชานชาลา 3-4 ซึ่งเป็นชานชาลาขบวนรถที่จะมุ่งหน้าไปรังสิต ใช้เวลารอรถไฟเข้าสู่ชานชาลาประมาณ 10 นาที รถไฟฟ้าจากรังสิตก็มาถึง และเปิดให้ผู้โดยสารขึ้น-ลงจากขบวนรถ โดยไม่ต้องรอตรวจความเรียบร้อย

รถไฟจะจอดที่สถานีชุมทางบางซื่อประมาณ 5 นาที จากนั้นจะปิดประตู และเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังรังสิต สถานีแรกที่จอดคือสถานีจตุจักร ต่อด้วยสถานีวัดเสมียนนารี แนวเส้นทางจะขนานไปกับถนนวิภาวดีรังสิต

ผ่านสถานีบางเขน สถานีทุ่งสองห้อง สถานีหลักสี่ สถานีการเคหะ และ สถานีดอนเมือง ที่หากนับจากสถานีกลางบางซื่อ จะใช้เวลาประมาณ 18 นาที ต่อไปจะนั่งเครื่องบินไปต่างจังหวัด ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองได้ที่สถานีนี้

โดยจะมีทางเชื่อมสกายวอล์ก ที่ทางออกหมายเลข 6 (ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก) จะเห็นทางเลื่อนใต้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ให้เดินเข้าไปตามป้ายบอกทาง ก็จะไปออกอาคารจอดรถ 7 ชั้น และอาคารผู้โดยสารในประเทศ (Terminal 2)







เดิมเวลาไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง ปกติจะขึ้นรถ A1 หรือ A2 ที่สถานีสวนจตุจักร เสียค่าโดยสาร 30 บาท รถจะขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปลงที่ทางลงสนามบินดอนเมือง จอดที่หน้าอาคาร 1 แล้วเดินเท้าไปเข้าอาคาร 2

นับจากนี้ คนที่นั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จะไปสนามบินดอนเมืองก็สะดวกขึ้น เพียงแค่ลงที่สถานีบางซื่อ ออกจากระบบแล้วเดินเข้าทางเชื่อมสถานีกลางบางซื่อ ซื้อตั๋วเข้าระบบเสร็จเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชานชาลา 3-4 แล้วรอรถได้เลย

แต่ต้องกะเวลาเดินทางสัก 2-3 ชั่วโมง เผื่อรถไฟฟ้าขัดข้อง และสกายวอล์กเดินไกลมาก แต่ถ้ามีเวลาเหลือ จะมีศูนย์อาหารราคาประหยัด Magic Food Point อยู่ตรงนั้น ถัดมามีร้านยาเอ็กซ์ตร้า กาแฟมวลชน และร้านเซเว่นอีเลฟเว่น

เมื่อออกจากสถานีดอนเมือง ขบวนรถจะลงมายังทางระดับดิน สังเกตได้ว่ารถไฟจะเร่งความเร็วขึ้น ผ่านตลาดสี่มุมเมือง ถึงสถานีหลักหก จุดนี้จะมีสกายวอล์กไปยังสะพานเอกทักษิณ มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านเมืองเอก และมหาวิทยาลัยรังสิต

จากนั้นรถไฟจะไต่ระดับลอยฟ้าอย่างช้าๆ ข้ามถนนรังสิต-ปทุมธานี เข้าสู่ปลายทางสถานีรังสิต หากนับจากสถานีตลิ่งชันจะใช้เวลารวมกัน 55 นาทีเท่านั้น ซึ่งรวมเวลาเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีกลางบางซื่อด้วย



สถานีรังสิต เป็นทั้งสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟทางไกลสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ โดยแบ่งออกเป็นชานชาลาด้านล่างรถไฟทางไกล ชั้น 2 ห้องจำหน่ายตั๋ว และชั้น 3 ชานชาลารถไฟฟ้าสายสีแดง

บริเวณตรงข้ามประตูกั้นอัตโนมัติ จะมีห้องจำหน่ายตั๋วรถไฟทางไกล ถ้าจะนั่งรถไฟต่อไปอยุธยา ชุมทางบ้านภาชี หรือสถานีอื่นๆ สามารถซื้อตั๋วรถไฟแล้วลงไปที่ชั้นล่าง รวมทั้งมีตู้จำหน่ายตั๋วรถไฟอัตโนมัติสำหรับรถไฟชานเมืองอีกด้วย

เวลาคนที่นั่งรถไฟจากภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือมาจากลพบุรี ชุมทางแก่งคอย ชุมทางบ้านภาชี อยุธยา จะไปต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง ก็ลงที่สถานีรังสิต แล้วขึ้นไปชั้น 2 เข้าระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง แล้วขึ้นไปชั้น 3 รอรถไฟที่ชานชาลาได้

เหมือนกับเวลานั่งรถไฟจากภาคตะวันออก หรือมาจากฉะเชิงเทรา จะไปต่อรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 ซื้อเหรียญหรือแตะบัตรโดยสาร แล้วขึ้นไปชั้น 3 แต่ที่ตั้งสถานีลาดกระบัง รถไฟธรรมดากับแอร์พอร์ตลิงก์จะแยกกัน

ทราบมาว่าในอนาคต รถไฟทางไกลสายเหนือและสายอีสาน มีแผนจะไปเริ่มต้นที่สถานีรังสิต โดยจะมีขบวนรถที่ให้บริการสถานีกลางบางซื่อ เฉพาะขบวนรถพาวเวอร์คาร์ (รถกำลังไฟฟ้า) มี 4 ขบวน ไป-กลับ รวม 8 ขบวน

ได้แก่ ขบวนรถอุตราวิถี (กรุงเทพ-เชียงใหม่) อีสานวัตนา (กรุงเทพ-อุบลราชธานี) อีสานมรรคา (กรุงเทพ-หนองคาย) และทักษิณารัถย์ (กรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่) เท่านั้น เพราะไม่มีปัญหาเรื่องควันรถและมลพิษในสถานี

อีกส่วนหนึ่งจะเป็นขบวนรถไฟชานเมือง ได้แก่ กรุงเทพ-ชุมทางบ้านภาชี, กรุงเทพ-ลพบุรี, กรุงเทพ-ชุมทางแก่งคอย จะใช้ทางรถไฟยกระดับ แต่จะไม่เข้าสถานีกลางบางซื่อ ลงมาระดับดินผ่านสถานีบางซื่อเก่า เพื่อไปยังสถานีหัวลำโพง

เรื่องนี้ต้องรอให้การรถไฟฯ ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่บอกไว้ก่อนเพื่อจะได้เตรียมตัว
#6874
สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด
#6876
รับถมดิน ราคาถูก ติดต่อ 080-022-3804  หรือ www.mmee2000.com
#6877


นิตยสาร Forbes เลือก"โลกา" สตาร์ทอัพผู้ให้บริการแท็กซี่ผ่านแอพของลาว เข้าในทำเนียบ 100 บริษัทในเเอเชียที่ต้องจับตา เหตุสามารถสร้างรายได้เพิ่มแม้เจอวิกฤตโควิด-19

วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์นิตยสาร Forbes ได้เผยแพร่ทำเนียบ 100 บริษัทในเอเซียที่ต้องจับตา โดย 1 ในนั้นมีบริษัทโลก้า ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพของลาว ติดอยู่ในรายชื่อดังกล่าวด้วย ถือเป็นธุรกิจขนาดย่อมแห่งแรก ของลาวที่ได้ขึ้นมาติดทำเนียบระดับโลก

ทำเนียบ 100 บริษัทที่ต้องจับตาจัดทำโดยทีมงาน Forbes เอเซีย โดยคัดเลือกจากกิจการขนาดย่อมและบริษัทสตาร์ทอัพกว่า 900 บริษัทในเอเซีย ที่มีผลประกอบการเติบโตขึ้นท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย Forbes จะตีพิมพ์รายละเอียดของบริษัททั้งหมดในทำเนียบนี้ลงในนิตยสาร Forbes ฉบับเดือนสิงหาคม 2564

เหตุผลที่ Forbes เลือกโลกาเข้ามาในทำเนียบ 100 บริษัทในเอเชียที่ต้องจับตา

บริษัทโลกาทำธุรกิจให้บริการแท็กซี่รับส่งผู้โดยสารโดยผ่านแอปพลิเคชั่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2561 โดยนายสุลิโย วงดาลา นักธุรกิจหนุ่มที่เติบโตมาจากสายเทคโนโลยี่และการสื่อสารในลาว ปัจจุบันโลกามีให้บริการอยู่ใน 3 แขวง คือนครหลวงเวียงจันทน์ หลวงพระบาง และจำปาสัก

เหตุผลที่ให้ Forbes เลือกโลกาเข้ามาอยู่ในทำเนียบนี้ เนื่องจากบริษัทสามารถปรับแผนการตลาดเพื่อรับมือกับวิกฤตโควิด-19 โดยตัดสินใจเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จากเดิมที่ให้บริการแก่นักนักท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นหลักในช่วง 2 ปีแรก มาให้บริการแก่คนลาว โดยใช้จุดขายเรื่องความสะดวกและปลอดภัย และให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

การตัดสินใจครั้งนั้น ทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศในลาวจะหายไปทั้ง 100% จากโควิด-19 นอกจากนี้ รายได้ของโลก้ายังเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงที่โควิด-19 ยังไม่ระบาด จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่

ปัจจุบัน นอกจากให้บริการแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นโดยมีรถให้บริการอยู่ประมาณ 500 คัน ใน 3 พื้นที่แล้ว โลกายังขยายกิจการออกไปอีกหลายแขนง ได้แก่ ธุรกิจโฆษณาเคลื่อนที่ โดยใช้รถแท็กซี่เป็นสื่อ ธุรกิจซื้อ-ขายสินค้าทางออนไลน์ ธุรกิจขนส่งสินค้า รวมถึงให้บริการรถรับส่งพนักงานแบบเหมาเป็นรายเดือนสำหรับองค์กร

ก่อนหน้านี้ ระหว่างวันที่ 8-9 ตุลาคม 2562 นายสุลิโย วงดาลา เคยนำโมเดลธุรกิจของโลกา มาร่วมแข่งขันในรายการ Mekong Innovative Startups in Tourism ในกรุงเทพ ซึ่งมีธุรกิจสตาร์ทอัพจากหลายประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเข้าร่วม โดยบริษัทโลกาได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1
#6878


คาริม เบนเซมา เหมาคนเดียวสองประตู ก่อนที่นาโช จะมาบวกอีกหนึ่งลูก พา รีล มาดริด บุกไปเอาชนะ อลาเบส ถึงถิ่น 4-1 เก็บสามคะแนนประเดิมลาลีกา สเปน ซีซั่นใหม่

ศึกฟุต.ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2021/22 วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 เกมที่น่าสนใจ "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด ยกพลไปเยือน อลาเบส ที่เอสตาดิโอ เมนดิซอร์รอตซ่า

"ราชันชุดขาว" ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ เกมนี้จัด 3 ประสานในแดนหน้า อย่าง คาริม เบนเซมา, เอเด็น อาซาร์ และแกเร็ธ เบล ลงสนาม โดยมี ลูกา โมดริช กับ คาเซมิโร คุมเกมแดนกลาง 

ขณะที่ อลาเบส นำทัพโดย โฆเซลู หัวหอกตัวเก่ง, มานู การ์เซีย, เอ็ดการ์ เมนเดซ และหลุยส์ ริโอฆา โดยมี ฟาคุนโด เปลลิสตรี ปีกดาวรุ่งที่ยืมตัวมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นตัวทีเด็ดบนม้านั่งสำรอง 

ครึ่งเวลาแรกแม้ รีล มาดริด จะเป็นฝ่ายครอง.ได้เหนือกว่า มีโอกาสลุ้นประตูหลายต่อหลายครั้ง แต่จังหวะจบสกอร์ยังทำได้ไม่ดีพอ ขณที่อลาเบส ยังแทบตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ หมดเวลา 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง รีล มาดริด มาได้ประตูออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 48 จากจังหวะที่ แกเร็ธ เบล เปิดจากริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายมาให้ ลูคัส บาซเกซ ที่ฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางมาให้ เอเด็น อาซาร์ กระดก.หนึ่งจังหวะให้ คาริม เบนเซมา วิ่งมาซัดเต็มข้อเข้าไป

น.56 รีล มาดริด มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่ ลูกา โมดริช เปิด.จากบริเวณหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางฝั่งขวาไปให้ นาโช วิ่งมาตวัดยิงด้วยขวาผ่านมือนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไป

น.62 "ราชันชุดขาว" ขยับนำเป็น 3-0 จากจังหวะที่ เฟเดริโก บัลเบร์เด ลาก.มาคนเดียวจากครึ่งสนามหลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนตบเข้ากลางให้ คาริม เบนเซมา ยิงจังหวะแรก.ขลุกขลิกไปติดเซฟของผู้รักษาประตูถิ่น แต่ยังเด้งมาเข้าทางเจ้าตัวซ้ำด้วยซ้ายเข้าไป เป็นประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้

น.64 อลาเบส มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ จอห์น กุยเดตติ โดน ธิโบต์ กูร์ตัวส์ สะกิดล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ และเป็น โฆเซลู กองหน้าตัวเก่ง ซัดเข้าไปไม่พลาด ช่วยให้เจ้าถิ่นตีตื้นมาเป็น 1-3

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+2 รีล มาดริด มาได้ประตูตอกฝากโลงหนีห่าง 4-1 จากจังหวะที่ ดาวิด อลาบา บรรจงเปิด.จากริมเขตโทษฝั่งซ้ายมาให้ วินิซิอุส จูเนียร์ โหม่งระยะเผาขนเข้าไป 

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำประตูกันเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที รีล มาดริด บุกชนะ อลาเบส ถึงถิ่น 4-1 คว้าสามคะแนนเปิดหัวลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2021/22 ได้สำเร็จ

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทีมรีล มาดริด
ธิโบต์ กูร์ตัวส์ (GK), ลูคัส บาสเกซ, เอแดร์ มิลิเตา, นาโช, ดาวิด อลาบา, คาเซมิโร, เฟเดริโก บัลเบร์เด, ลูกา โมดริช, แกเร็ธ เบล, เอเด็น อาซาร์, คาริม เบนเซมา


ผลฟุต.าลีกา สเปน วันที่ 14 สิงหาคม 2564 คู่อื่นๆ
บาเลนเซีย 1-0 เกตาเฟ
มายอร์กา 1-1 รีล เบติส
กาดิซ 1-1 เลบานเต
โอซาซูนา 0-0 เอสปันญอล
 
#6880


ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ วินด์แฮม แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 212 ล้านบาท ที่สนาม เซดเกฟิลด์ คันทรี คลับ ระยะ 7,127 หลา พาร์ 70 เมืองกรีนส์โบโร รัฐนอร์ธ คาโรไลนา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยในวันที่สาม

ปรากฎว่า รัสเซลล์ เฮนลีย์ โปรกอล์ฟหนุ่มชาวอเมริกัน เก็บเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ รวมสกอร์สามวันมี 15 อันเดอร์พาร์ รั้งตำแหน่งผู้นำต่อไป โดยมี ไทเลอร์ แม็คคัมเบอร์ โปรกอล์ฟเพื่อนร่วมชาติ รั้งอันดับ 2 มี 12 อันเดอร์พาร์ ตามหลังอยู่ 3 สโตรก

ส่วนผลงานของโปรกอล์ฟรายอื่นๆ ที่น่าสนใจ อดัม สก็อตต์ ก้านเหล็กออสเตรเลีย มี 10 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 9 ร่วม เช่นเดียวกับ จัสติน โรส โปรกอล์ฟอังกฤษ, เซบาสเตรียน มูญอซ มี 9 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 15 ร่วม

ด้าน "โปรอาร์ม" กีรเดช อภิบาลรัตน์ โปรกอล์ฟหนึ่งเดียวจากประเทศไทย วันนี้ตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ รวมสกอร์สามวัน 5 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับที่ 39 ร่วม
#6881
ท่อเฟล็กซ์สแตนเลส
#6882


กลายเป็น TALK OF THE TOWN ในทันที่ สำหรับ "ฟ้าทะลายโจร" หลังจากมีข่าว "การถอนผลวิจัย" ที่ชื่อว่า "Efficacy and safety of Andrographis paniculata extract in patients with mild COVID-19: A randomized controlled trial" ของคณะวิจัยจากประเทศไทย ซึ่งกำลังได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ และเผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์ "เมดอาซีฟ" (www.medrxiv.org) เว็บไซต์คลังงานวิจัยที่เป็นต้นฉบับที่ยังไม่ตีพิมพ์เกี่ยวกับการแพทย์ การทดลองทางคลินิก และวิทยาศาสตร์สุขภาพอื่น ๆ

งานวิจัยชิ้นนี้ เป็นผลงานของนักวิจัย 7 คน โดย 5 คนมาจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข อีก 2 คนมาจากโรงพยาบาลสมุทรปราการ และสาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

เมื่อเรื่องปรากฏต่อสาธารณชน ความสับสนอลหม่านก็เกิดขึ้นไปทั่วประเทศ เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา "คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ" ได้เพิ่มยาสารสกัดจากฟ้าทะลายโจร และยาจากผงฟ้าทะลายโจร เป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ให้เป็นยาที่ใช้กับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อย และประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาต่างก็พากันไปซื้อฟ้าทะลายโจรมาใช้เป็นจำนวนมาก

กระทั่ง "พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์" อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ว่า การขอถอนข้อมูลงานวิจัยชิ้นดังกล่าวไม่ได้เป็นการถูกปฏิเสธจากวารสารวิชาการ แต่นักวิจัยไทยได้ขอถอนงานวิจัยกลับมาชั่วคราว เนื่องจากพบ "ความผิดพลาดของสถิติหนึ่งจุด" และระบุว่าผลลัพธ์การทดลองที่มีความคลาดเคลื่อนทางสถิติดังกล่าวไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงวิธีการกินยาหรือจ่ายยาฟ้าทะลายโจรในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19

หรือแปลไทยเป็นไทยก็คือ ยังสามารถใช้ "ฟ้าทะลายโจร" ในการต่อสู้กับโควิด-19 ได้ต่อไป

อย่างไรก็ดี ถ้าหากสังคมพินิจพิเคราะห์ "ปรากฏการณ์ถอนงานวิจัยฟ้าทะลายโจร" ที่เกิดขึ้นก็จะพบ "ความผิดปกติ" โดยเฉพาะกรณี "ความผิดพลาดของสถิติจุดหนึ่ง" ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้กับ "งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์" ที่ต้องมีความแม่นยำก่อนที่จะเผยแพร่ผลงานออกไปสู่สาธารณชน ยิ่งเป็นการตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศด้วยแล้ว ยิ่งไม่ใช่เรื่องที่จะทำ "มั่วซั่ว" ได้ เพราะต้องไม่ลืมว่านี่คือ "งานวิจัยทางการแพทย์ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์" ซึ่งไม่ใช่ "งานวิจัยทางสังคมศาสตร์" ที่สามารถมีข้อโต้แย้งในภายหลังหากพบ "หลักฐานใหม่"

หลายคนตั้งคำถามว่า หรือจะเป็นเพราะ "คณะวิจัย" ทำด้วย "ความเร่งรีบ" หรือทำงานภายใต้ "ภาวะกดดันบางประการ" จนทำให้เกิด "ความผิดพลาดของสถิติหนึ่งจุด" ซึ่งก็มีความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้

ขณะที่อีกหลายคนก็อาจตั้งคำถามว่ามี "อะไรในกอไผ่" หรือไม่ดังสมมติฐานและเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น เหมือนดังที่ "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งคำถามเอาไว้ว่า "มีคำถามอยู่ว่างานระดับที่ป้อนข้อมูลและใช้การคำนวณโดยโปรแกรมเช่นนี้ เกิดความผิดได้อย่างไร? จนถึงขั้นแปลผลผิดจากแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กลายเป็นแตกต่างกันแต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ" (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมหน้า 48)

ทีนี้ มาดูรายละเอียดในงานวิจัยชิ้นนี้กันว่า เป็นอย่างไร

พญ.อัมพร อธิบายรายละเอียดเอาไว้ว่า งานวิจัยนี้นี้เริ่มต้นในช่วงที่ยังไม่มียาตัวใดเลยที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการว่าสามารถฆ่าไวรัสโคโรนาหรือรักษาโรคโควิด-19 ได้โดยตรง จึงมีการทดลองและเก็บข้อมูลการใช้ยาชนิดต่าง ๆ ที่คาดว่าจะใช้รักษาโควิดได้ เช่น ฟาวิพิราเวียร์ เรมเดซิเวียร์ และสมุนไพรฟ้าทะลายโจร โดยเป็นการทดลองแบบสุ่มโดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบ ใช้ผู้ป่วยโควิดอาการเล็กน้อยอายุตั้งแต่ 18-60 ปี จำนวน 57 คน ที่ยืนยันการตรวจพบเชื้อไวรัสด้วยวิธี RT-PCR แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งกินสารสกัดฟ้าทะลายโจร อีกกลุ่มกินยาหลอก หรือเม็ดยาเปล่า ๆ ที่ไม่ได้มีฟ้าทะลายโจร

"พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์" อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
"พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์" อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

จากผู้ป่วย 57 ราย ในกลุ่มผู้ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจร 29 ราย ไม่พบอาการปอดอักเสบ แต่ในกลุุ่มที่ได้ยาหลอก 28 ราย พบอาการปอดอักเสบ 3 ราย คิดเป็น 10.7%

สำหรับเรื่องความคงอยู่ของตัวไวรัสในวันที่ 5 พบผู้ป่วยกินสารสกัดฟ้าทะลายโจร ใน 29 ราย ไวรัสอยู่แค่ 10 ราย (34.5%) ส่วนผู้ป่วยกลุ่มกินยาหลอก 28 ราย เจอว่าไวรัสยังอยู่ 16 ราย (57.1%)

ขณะที่ในเรื่องความคลาดเคลื่อนนั้นอยู่ที่ค่านัยสำคัญทางสถิติในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้ยาหลอกในการทดลอง โดยค่านัยสำคัญทางสถิติที่คำนวณได้ครั้งแรกมีความคลาดเคลื่อน กล่าวคือตอนแรกคำนวณได้ว่าเป็น 0.03 และได้นำเสนอไป แต่เมื่อได้กลับพิจารณาอีกครั้ง จึงค้นพบว่ามีจุดอ่อนอยู่จุดหนึ่งแทนที่จะเป็น 0.03 ก็เป็น 0.112 หรือหมายความว่า หากมีการทดลอง 100 ครั้ง การค้นพบว่าผลลัพธ์คงเดิมจะอยู่ที่ประมาณ 97 ครั้ง ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมาก แต่ตัวเลขที่คำนวณถูกต้อง หรือ 0.112 จะหมายความได้ว่า หากมีการทดลอง 100 ครั้ง ผลลัพธ์ที่เจอว่าเหมือนเดิมจะอยู่ที่ 90 ครั้ง ความคงที่จะลดลงมาในระดับหนึ่ง

วิญญูชนก็น่าจะ "คิด วิเคราะห์ แยกแยะ" พร้อมตั้งคำถามได้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยแม้แต่น้อย

เอาเป็นว่า หลังจากที่ถอนผลวิจัยออกมาแล้ว คงต้องติดตามกันต่อไปว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับการปรับปรุง "ความผิดพลาดทางสถิติหนึ่งจุด" ดังกล่าว การวิจัยจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่และจะมีการนำเสนอเพื่อกลับไปตีพิมพ์เหมือนเดิมด้วยข้อมูลที่ออกมาในลักษณะไหน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ "ไม่อาจกระพริบตา" ได้เลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ติดตามเรื่องฟ้าทะลายโจรมาอย่างต่อเนื่อง คงต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะ "ด้อยค่าฟ้าทะลายโจร" จาก "แพทย์แผนปัจจุบัน" ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่ "นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์" ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว ซึ่งออกมาโพสต์เรื่องการถอนผลวิจัยฟ้าทะลายโจรเป็นรายแรกๆ จนต้องออกมาโพสต์แก้ไขซ้ำอีกครั้ง

นพ.สันต์โพสต์เอาไว้ว่า "คณะผู้วิจัยชาวไทยที่ทำวิจัยฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้ขอถอนต้นฉบับของตัวเองกลับออกมาจากเว็บไซต์งานวิจัยรอตีพิมพ์ (medRxiv) เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในการคำนวณเชิงสถิติในประเด็นการคิดค่านัยสำคัญทางสถิติ (p-value) คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ตัดเอาบทความของตนครึ่งบรรทัดไปโพนทะนาผ่านทางหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ ว่า ฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโควิดไม่ได้ ผลเสียแล้วควรต้องเลิกใช้ ซึ่งเป็นการตัดบทความเอาไปแค่บรรทัดเดียวแล้วเอาไปกระเดียดที่ได้ผล ทั้งนี้ ตนขอแก้ไขคำพูดใหม่ เป็นหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนให้ใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ในคนยังมีไม่มากพอ เพราะยังขาดงานวิจัยระดับ RCT จึงต้องทำวิจัยซ้ำโดยการขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้น เพราะการที่กลุ่มตัวอย่างเล็กได้ค่า p มากกว่า 0.05 ก็บอกได้แค่ว่ายังบอกไม่ได้ว่าความแตกต่างในผลการรักษา คือการเกิดปอดบวม ในทั้งสองกลุ่มมันต่างกันจริงหรือไม่ การจะรู้ได้ก็ต้องมีกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่านี้ ไม่ได้บ่งชี้ว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ไม่ได้ผล ซึ่งยาคู่แข่งกันที่ใช้ในเมืองไทยอีกตัว คือ Favipiravir ก็มีข้อมูลน้อยประมาณเดียวกัน คือทุกอย่างติดอยู่ที่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ"

"แต่ฟ้าทะลายโจรมีความพิเศษกว่า Favipiravir ตรงที่แค่ทำวิจัยซ้ำขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้นอีกนิดเดียว ก็จะเห็นดำเห็นแดงแล้วว่าได้ผลหรือไม่ได้ผลต่างจากยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ อีกทั้งฟ้าทะลายโจรเป็นพืชสามัญในท้องถิ่น หาง่ายกว่า ราคาถูกกว่า มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของชาติมากกว่า ในแง่การค้าขายระดับนานาชาติ หากจะขายฟ้าทะลายโจรก็ต้องมีงานวิจัยระดับ RCT สนับสนุน ตัวหมอสันต์จึงลุ้นตัวโก่งให้ทำงานวิจัยนี้ต่อให้เบ็ดเสร็จสะเด็ดน้ำ โดยยินดีช่วยทุกอย่างเท่าที่หมอแก่คนหนึ่งจะช่วยได้"

หรือแม้กระทั่ง "กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก" เอง โดยเฉพาะตัว "อธิบดี" เองที่ให้สัมภาษณ์ในการแถลงข่าวเรื่องการถอนผลงานวิจัยเอาไว้ว่า "เราไม่ได้ต้องการให้เชื่อมั่นในฟ้าทะลายโจรจนเกินความพอดี ใช้กันอย่างพร่ำเพรื่อโดยไม่ระมัดระวัง อันนี้ถือเป็นแรงกระตุกที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม" ซึ่งฟังดูแล้วต้องใช้คำว่า "แปลกๆ" ทั้งๆ ที่ "คณะทำงานหลัก" ของการวิจัยชิ้นนี้ก็มีถึง 5 คนที่มาจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเอง

คำว่า "อันนี้ถือเป็นแรงกระตุกที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม" หมายความว่า ดีแล้วที่มีการถอนการวิจัยออกมาเช่นนั้นหรือ?

แล้วที่เป็น "ดรามา" ไม่แพ้กันคือ "หมอแล็บคนดัง" ที่ไปแชร์ข้อความจากเฟซบุ๊กของแพทย์คนหนึ่ง พร้อมระบุว่า งานวิจัยฟ้าทะลายโจรชิ้นนี้ผู้วิจัยขอถอนออกไปแล้ว เพราะคำนวณสถิติผิดพลาด สรุปที่ถูกต้องสำหรับงานวิจัยนี้คือ "ฟ้าทะลายโจรไม่แตกต่างจากยาหลอก" ซึ่งมีคนวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียดอย่างที่ "หมอสันต์" ว่า จนเกิดปรากฏการณ์ "ทัวร์ลง" ทว่า "หมอแล็บคนดัง" ก็ออกมาโพสต์ข้อความในเพจว่า "เสียใจ หาฟ้าทะลายโจรมาให้ผู้ป่วยเยอะมาก ล่าสุดแชร์งานวิจัยที่ถูกถอนแค่งานวิจัยเดียว โดนหาว่าด้อยค่าฟ้าทะลายโจรไปอีกครับ ชีวิตอดสูมาก นอนแพ้บ"

แต่ความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำ เพราะความจริงก็คือ ในเฟซบุ๊กหมอแล็บคนดังได้ลบข้อความที่ระบุว่า "งานวิจัยฟ้าทะลายโจรชิ้นนี้ถูกถอดออกไปแล้วครับ เพราะคำนวณสถิติผิดพลาด สรุปที่ถูกต้องสำหรับงานวิจัยนี้คือ ฟ้าทะลายโจรไม่แตกต่างจากยาหลอก" ออกจากเพจไป ซึ่งมิอาจมองเป็นอื่นได้ว่า ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด ด้วยมีผู้ "แคปข้อความ" เอาไว้ได้เป็นหลักฐานชัดเจน

ความจริง ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่โตมากนักสำหรับ "หมอแล็บคนดัง" ถ้าหากจะยอมรับความผิดพลาดอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่การที่แถไถและลบข้อความออกไป ทำให้นักเทคนิคการแพทย์ผู้นี้ถูกมองว่า "ด้อยค่าฟ้าทะลายโจร" อย่างที่เจ้าตัวบ่นพึมพำในเพจเฟซบุ๊กของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่สำคัญคือ การใช้คำว่า "ฟ้าทะลายโจรไม่ต่างจากยาหลอก" ถือเป็นคำที่นัยสำคัญมาก

ในทางการแพทย์ "ยาหลอก" (Placebo) ก็คือยาที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยทำให้มีลักษณะ สี และขนาดต่าง ๆ ให้ดูคล้ายกับยาทั่วไป แต่ไม่มีสารออกฤทธิ์ทางการแพทย์ มีส่วนประกอบหลักที่ทำมาจาก แป้งหรือน้ำตาล จากนั้นก็นำไปให้ผู้ป่วยรับประทานเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่คนไข้มีอาการต่างๆ ดีขึ้น จากการให้ยาที่ไม่ได้มีตัวยาอยู่จริง โดยมีการนำมาใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1785

ที่สำคัญคือ ในการทดลองพบว่า ยาหลอกก็มีผลต่อการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เช่นกันแม้ไม่มีสารออกฤทธิ์ทางการแพทย์

แต่ในความเข้าใจของประชาชนคนทั่วไป เมื่อเห็นคำว่า "ยาหลอก" มักเข้าใจว่าคือ "ยาปลอม" ซึ่งไม่ถูกต้อง

ดังนั้น การที่ใช้คำว่า "ไม่ต่างจากยาหลอก" จึงเสมือนเป็นการ "ด้อยค่าฟ้าทะลายโจร" ทั้งในทางการแพทย์คือมองว่าเป็นยาที่ไม่มีสารออกฤทธิ์กับโควิด-19 ทั้งในความรู้สึกของประชาชนที่อาจเข้าใจว่าเป็น "ยาปลอม" ไปเลยก็ได้

ทั้งๆ ที่มีผลวิจัยและผลการศึกษามากมายที่ยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของฟ้าทะลายโจร หนึ่งในนั้นก็คือสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์

สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์เผยแพร่ผลการศึกษาเรื่อง "ฟ้าทะลายโจร" เอาไว้ดังนี้

"สืบเนื่องจากมีผู้เผยแพร่ข้อมูลว่าใช้ฟ้าทะลายโจรแล้วทำให้ตับพัง จากงานวิจัยฟ้าทะลายโจรในต่างประเทศที่ใช้ฟ้าทะลายโจรทั้งชนิดผงและสารสกัด ในการรักษาอาการหวัด หลอดลมอักเสบ ไม่มีรายงานว่าฟ้าทะลายโจรก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อตับ นอกจากนั้นในการศึกษาทางคลินิกเกี่ยวกับความปลอดภัยและการเปลี่ยนแปลงสภาพยาของการใช้ผงฟ้าทะลายโจรปริมาณ 12 แคปซูล (4.2 กรัม) ต่อวัน ติดต่อกัน 3 วัน (มีปริมาณสาร Andrographolide 97 มิลลิกรัมต่อวัน) ไม่พบว่าการทำงานของเอนไซม์ตับ AST (Aspartate Aminotransferase) และ ALT (Alanine Aminotransferase) ผิดปกติ (Suriyo et al., 2017) สำหรับการศึกษาความปลอดภัยและการเปลี่ยนแปลงสภาพยาของสารสกัดฟ้าทะลายโจรปริมาณ 9 แคปซูล ต่อวัน (มีปริมาณสาร Andrographolide ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน) [อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษา] ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นการเพิ่มทั้งขนาดและระยะวันการได้รับฟ้าทะลายโจร ก็ไม่พบการเปลี่ยนแปลงการทำงานของเอนไซม์ตับเช่นกัน

"แต่หากใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสาร Andrographolide ในขนาดสูงถึง 360 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกัน 7 วัน จะพบการเปลี่ยนแปลงของ AST เล็กน้อย ในอาสาสมัคร 1 คนใน 12 คน ซึ่งค่าเอนไซม์ตับที่สูงขึ้นนี้จะกลับเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนค่าเอนไซม์ ALT จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในอาสาสมัคร 4 คน ซึ่งคิดเป็น 33.33% แต่การทำงานของเอนไซม์ก็จะกลับเป็นปกติภายใน 1-3 สัปดาห์ ดังนั้นขนาดของสาร Andrographolide ที่เหมาะสม คือ 180 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 5 วัน จึงไม่ควรใช้ในขนาดและระยะเวลานานเกินกว่านี้

"เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมากที่ต้องการยารักษาโรคโควิด-19 และยาฟ้าทะลายโจรก็เป็นสมุนไพรที่ได้มีการศึกษาอย่างกว้างขวาง ทั้งกลไกการออกฤทธิ์ อาการข้างเคียง และการศึกษาในทางคลินิกในผู้ติดเชื้อจริง ทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน ซึ่งได้มีการใช้ในรูปแบบผง สารสกัด และการพัฒนาสารอนุพันธ์ Andrographolide ให้อยู่ในรูปแบบยาฉีด ดังนั้นหากมีการพบการติดเชื้อโควิด-19 จึงควรใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรทั้งรูปแบบผงและสารสกัดทันที ในขนาดและระยะเวลาที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นยาที่มีประโยชน์มากและมีความปลอดภัยในระดับที่รับได้ เป็นการช่วยลดภาระของรัฐบาลและช่วยระบบสาธารณสุขของชาติได้"

จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นเกี่ยวกับ "ฟ้าทะลายโจร" ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและเต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปการ ฟันธงแบบไม่กลัว "ธงหัก" ได้เลยว่า สงครามโควิด-19 ซีซั่นใหม่นี้ ไม่อาจกระพริบตาด้วยมีความลึกลับซับซ้อนและปริศนาในทุกมิติเลยทีเดียว.
#6884


เรียกว่าเป็นเจ้าแม่นักจัดกิจกรรมตัวยงจริงๆ สำหรับบอสใหญ่ "ประวีรัตน์ เทวอักษร" เจ้าแม่อาณาจักร บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) ที่ล่าสุด ลุกขึ้นมาสร้างความสุขให้กับคนในครอบครัวคุณาลัย โดยขอเปลี่ยนบ้านให้เป็นโลกแห่งดนตรี ยุคNew Normalโควิด-19 แบบอยู่บ้าน กักตัว ไม่กักใจ ซึ่งงานนี้ขอเกี่ยวก้อย "พี่ป๊อด ธนชัย อุชชิน" มาร้องเพลงเพราะๆให้ฟังแบบชิลๆใกล้ชิดถึงบ้าน กับ LIVE มินิคอนเสิร์ต 12 สิงหาคมนี้ "รักแม่ไม่มีวันหยุด" ผ่านทาง FB KUNALAI (https:// www.facebook.com/VillaKunalai/) ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป งานนี้เรียกว่าสร้างความสุขแบบอบอุ่นให้ทุกคนในครอบครัวจริงๆ สมกับคอนเซ็ปต์ที่ว่า " ความสุขสร้างบ้าน " จริงๆนะคะ KUN


"ASW" ผลประกอบการโตทะยาน ยอดขายทะลุเป้า

หุ้นอสังหาฯผลประกอบการแกร่งตอนนี้ ต้องยกให้กับ บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) สมกับเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ รุ่นใหม่ เดินหน้าเติบโตด้วยกลยุทธ์ "Best Choice" โดยนำกลยุทธ์ขายแบบออนไลน์ ผนึกกับโปรโมชั่นสุดคุ้ม จนสามารถผลักดันยอดขายทะลุเป้า สะท้อนได้จากผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ออกมาดูดี มีอนาคต กำไรเพิ่มขึ้นกว่า 76.1% แถมยังมีเซอร์ไพรส์ด้วยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เป็นหุ้นในอัตรา 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และเงินสด 0.02206 บาทต่อหุ้น ดีต่อใจจริงๆ แบบนี้สามารถฝ่ากระแสวิกฤติโควิด-19 ไปได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ เอาเป็นว่า ผลงานโค้งหลังปีนี้ จะสดใสขนาดไหน มารอฟังจากซีอีโอคนเก่ง "กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์" ในงาน Opportunity Day ผ่านแพลตฟอร์มระบบออนไลน์ https:// www.set.or.th/streaming/vdos-oppday ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ เวลา 10.15-11.00 น. งานนี้เกาะติดกันไว้ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลแน่นๆกันเลย
#6885
สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด