• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jessicas

#2821

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เฮดโค้ชของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงยกย่อง บรูโน แฟร์นันเดส ห้องเครื่องชาวโปรตุกีส รวมไปถึง พอล ป็อกบา มิดฟิลด์เลือดน้ำหอม ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับให้เครดิตนักเตะทุกคน ในเกมที่ "ผีแดง" ไล่ต้อน ลีดส์ ยูไนเต็ด 5-1

"เขาเป็นผู้เล่นของเรา และเมื่อคุณต้องรับผิดชอบต่อสถานการณ์ต่างๆ คุณต้องมีความมั่นใจ ต้องมีความกล้าเสี่ยง" โซลชา เริ่มกล่าว

"ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ พอล (ป็อกบา) ตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก วันนี้ผมแค่บอกกับเขาว่าให้ออกไปสนุกกับตัวเอง ก่อนหน้านี้ เขามีเวลา 45 นาที ในเกมอุ่นเครื่องกับเอฟเวอร์ตัน แต่นั่นไม่ใช่ฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของเขา"

"แต่วันนี้เราให้อิสระแก่เขาในการเล่นทุกอย่าง ให้เขาขึ้น.ด้วยวิธีของตัวเองได้อย่างเต็มที่ และเขาก็ทำได้ดีมาก"

"บรูโน ทำสามประตู ป็อกบา ทำ 4 แอสซิสต์ในเกมเดียว ย่อมกลายเป็นที่พูดถึงสำหรับฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาทั้งคู่ แต่สำหรับผมผู้เล่นทั้งหมดช่วยสนับสนุนให้ 2 คนนั้นเล่นได้ดี"

"ขณะที่เรื่องของขุมกำลัง ผมพอใจกับสถานะของเราในตอนนี้ เราเหลือรอ ราฟาเอล วาราน จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย และนั่นจะมีความหมายกับทีมของเรา และแฟน. ขณะที่ จาดอน ซานโช จะดีขึ้นแน่ๆ และเราก็ยังได้ผู้เล่นกลับมา 2-3 คน ถือเป็นเรื่องที่ดี" เฮดโค้ชทีมปีศาจแดง ทิ้งท้าย

ทั้งนี้ พอล ป็อกบา ถือเป็นผู้เล่นคนที่ 7 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สามารถทำแอสซิสต์ได้ถึง 4 ครั้งในเกมเดียว ขณะที่ บรูโน แฟร์นันเดส สามารถทำแฮตทริกแรกของตัวเองกับทีม "ปีศาจแดง" ได้สำเร็จ ตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพเมื่อปี 2020
#2822


ถึงนาทีนี้ธุรกิจโรงแรมยังมองไม่เห็นหนทางฟื้นจากอาการโคม่า ล่าสุดแบงก์ชาติเผยผลสำรวจผู้ประกอบการโรงแรมยังอ่วมพิษโควิด-19 ทรุดลงต่อเนื่อง สภาพคล่องหดหายอยู่ได้อีกไม่เกิน 3 เดือน ขณะที่อัตราการเข้าพักดิ่งสุดเหลือแค่ 10% ร้องขอวัคซีน-พักหนี้-พยุงการจ้างงาน 

ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม (HSI) ซึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย จัดทำขึ้นเป็นประจำทุกเดือนยังไม่มีทีท่าจะผ่านพ้นวิกฤต หนำซ้ำกลับหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ แม้รัฐบาลจะพยายามกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศและเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ด้วยโครงการนำร่อง  "ภูเก็ตแซนด์บอกซ์"  เชื่อมโยงกับจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ก็ตาม

ล่าสุด ผลสำรวจฯ ในเดือนกรกฎาคม 2564 จากผู้ประกอบการที่พักแรม 304 แห่ง (เป็น ASQ 28 แห่ง Hospitel 4 แห่ง) ระหว่างวันที่ 13-26 กรกฎาคม 2564 พบว่า ผู้ประกอบการที่พักแรมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ต่อเนื่อง โดยอัตราการเข้าพักยังอยู่ในระดับต่ำมาก เฉลี่ยอยู่ที่ 10% ซึ่งทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้เกือบ 60% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่มีสภาพคล่องลดลงจากเดือนก่อน และเพียงพอในการดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน ขณะที่การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติส่งผลบวกต่ออัตราการเข้าพักโดยรวมไม่มากนัก

ทั้งนี้ หากไม่รวมกลุ่มที่ปรับตัวมารับลูกค้าต่างชาติที่ทำงานในไทย และ workation, staycation รวมถึงกลุ่มที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามโครงการ "แซนด์บ็อกซ์" ซึ่งส่วนมากเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคม 2564 จะอยู่ที่เพียง 6.5% เท่านั้น ส่วนคาดการณ์อัตราการเข้าพักทั้งประเทศในเดือนสิงหาคม 2564 จะปรับลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 8% โดยทุกภูมิภาคของประเทศไทยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำกว่า 10%

อัตราการเข้าพักที่ลดลงดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบทำให้ 58% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ มีสภาพคล่องลดลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2564 และเพียงพอในการดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือน และมีอีก 23% ที่มีสภาพคล่องเพียงพอไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ ขณะที่ 57% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด รายได้ยังกลับมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

จากการสำรวจสถานะกิจการของผู้ประกอบการ 272 แห่ง (ไม่รวม ASQ และฮอสพิเทล) มีโรงแรมเพียง 40.1% ที่ยังเปิดกิจการปกติ ที่เหลือ 38.2% เปิดกิจการเพียงบางส่วน และอีกกว่า 21.7% ที่ยังปิดกิจการชั่วคราว โดยสัดส่วนของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย.เล็กน้อย 2.2%

ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่า จากโรงแรมจำนวน 272 แห่ง (ไม่รวมโรงแรมที่เป็น ASQ และ Hospitel) พบว่า 56% ของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวนั้น คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้อีกครั้งในไตรมาส 4/2565 และราว 13.6% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ในไตรมาส 1/2565 ส่วนอีก 6.8% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ในไตรมาส 2/2565 และอีก 11.9% จะกลับมาเปิดดำเนินกิจการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565

 ขณะที่สถานการณ์รายได้ในเดือนกรกฎาคม พบว่าโรงแรมส่วนใหญ่ยังมีรายได้อยู่ในระดับต่ำ โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 56.9% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด มีรายได้กลับมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ส่วนโรงแรมที่มีรายได้ที่ระดับ 11-30% มีสัดส่วน 18.3%, โรงแรมที่มีรายได้ระดับ 31-50% มีสัดส่วน 3.6%, โรงแรมที่มีรายได้ระดับ 51-70% มีสัดส่วน 7.1% และโรงแรมที่มีรายได้ระดับมากกว่า 70% มีสัดส่วน 14.2% 

สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ส่งผลบวกต่ออัตราการเข้าพักโดยรวมไม่มากนัก โดยพบว่า 50% ของโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต มองว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นไปตามที่คาด ซึ่งมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 16% ขณะที่อีก 43% ของโรงแรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มองว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แย่กว่าที่คาด โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่อยู่ในระดับต่ำเพียง 6% เท่านั้น และพบว่าผู้ประกอบการโรงแรมกว่า 69% เห็นด้วยกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่เป็นโรงแรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมกลับมาจ้างงานเฉลี่ย 53% ของช่วงก่อนเกิดโควิด-19 (หากไม่รวมกลุ่มปิดกิจการชั่วคราวจะเฉลี่ยอยู่ที่ 59%)



 นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ระบุว่า ปัจจุบันการจ้างงานในภาคการท่องเที่ยวลดลงแล้วกว่า 50% หากดูตัวเลขในภาวะปกติจะมีโรงจดทะเบียนกับสมาคม 16,282 โรงแรม มีพนักงานในระบบมากกว่า 860,000 คน แต่หลังจากโควิด-19 คาดว่ามีพนักงานตกงานมากกว่า 460,000 คน และออกจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยวไปแล้ว ที่เหลืออีกประมาณ 400,000 คน อาจได้รับเงินเดือนไม่เต็มเดือน ลดเวลาทำงาน เพราะโรงแรมไม่มีรายได้เลย

หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งระบบ สมาคมโรงแรมไทย ได้เรียกร้องต่อรัฐบาลให้เข้ามาช่วยเหลือ เช่น การจัดหาและกระจายวัคซีนให้เร็วกว่าแผน, มาตรการช่วยเหลือเงินกู้และพักชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย เพื่อพยุงไม่ให้ผู้ประกอบการขายกิจการทิ้ง, ขอลดต้นทุนค่าไฟฟ้า รวมทั้งการสนับสนุนค่าจ้างเพื่อพยุงการจ้างงานรอวันธุรกิจฟื้นคืน

อย่างไรก็ตาม สำหรับ  "โครงการโกดังพักหนี้"  ที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมนั้น นายกสมาคมโรงแรมไทย สะท้อนว่า ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการน้อยกว่าเท่าที่ควร เนื่องจากแบงก์พาณิชย์มีเงื่อนไขมากมาย เช่น ให้เฉพาะลูกหนี้ชั้นดี มูลค่าหนี้ต่ำ ทำให้ยากเข้าถึงความช่วยเหลือ

ส่วนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินำร่อง "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" นั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ช่วง 40 วันของโครงการ นับจากวันที่ 1 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 25664 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมโครงการสะสม 18,654 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 18,602 คน คัดกรองพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 52 คน

ด้านยอดจองห้องพักโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA+ พบว่าตลอดไตรมาส 3/2564 มีจำนวน 353,529 คืน แบ่งเป็นเดือนกรกฎาคม 190,843 คืน เดือนสิงหาคม 143,566 คืน และเดือนกันยายน 19,120 คืน ส่วนยอดการจองในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 – กุมภาพันธ์ 2565 มีจำนวน 9,797 คืน

แต่อย่างไรก็ตาม ความพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มียอดผู้ติดเชื้อรายวันทะลุขึ้นหลัก 2 หมื่นคนแล้วนั้น ยังยากที่จะประสบผลสำเร็จ หลายชาติมีคำเตือนต่อพลเมืองที่จะเดินทางมายังไทย โดยล่าสุดหน่วยงานป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐ หรือ ซีดีซี (U.S. Centers for Disease Control and Prevention) ยกระดับให้ไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมากต่อการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังปรับคำเตือนสูงสุดขั้นที่ 4 สำหรับผู้ที่จะเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 70 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มที่ 4 เช่นเดียวกับไทย เช่น บราซิล ชิลี อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ขณะที่ก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรปได้ถอดรายชื่อประเทศไทยออกจากลิสต์ประเทศที่ปลอดภัย (EU White List) จากการระบาดของโควิด-19

 นับเป็นมหาวิกฤตของธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวที่ยังคงมืดมนอนธการ ไม่ต่างไปจากอนาคตของประเทศไทยในยามนี้ 
#2823


นางสาวอรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์  กล่าวว่า  นอกจากมาตรการช่วยเหลือขั้นต่ำตามประกาศของธปท.โดยการพักชำระหนี้ 2 เดือน ที่ผ่านมา ทางธนาคารยังมีมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยได้ให้คำปรึกษาและพิจารณาร่วมกับลูกค้าในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสามารถดำรงชีพได้ในระยะยาว

รวมถึงในช่วงที่ผ่านมา ทางธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารจะประเมินลูกค้าตามสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ เช่น ข้อมูลความเสี่ยง การคาดการณ์กระแสเงินสดใหม่ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจ จากนั้น ธนาคารจะกำหนดแพ็คเกจการช่วยเหลือที่เหมาะสมกับลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึงการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ การปรับอัตราการผ่อนชำระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย การปรับดอกเบี้ยเป็นขั้นบันได (step-up rates) เป็นต้น

รายงานข่าวจากธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. - 10 ส.ค. 2564 มีลูกค้าสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย (sSME) ลงทะเบียนเพื่อเข้ามาตรการพักหนี้ 2 เดือน จำนวน 262,451 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 108,937 ล้านบาท  ทั้งนี้ ธนาคารก็ยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับลูกค้าทุกกลุ่มด้วยมาตรการที่เหมาะสมอย่างตรงจุด

"แอลเอชแบงก์ คุยลูกค้าทุกราย ย้ำช่วยตรงจุด"  

รายงานข่าวจากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH BANK พบว่า  จำนวนลูกค้าที่ขอพักหนี้ตามมาตรการล่าสุด ที่ธนาคารให้พักหนี้ 3 เดือน มากกว่ามาตรการธปท.ให้ 2 เดือน มีจำนวน 49 ราย คิดเป็นยอดหนี้ 3,400 ล้านบาท ซึ่งธนาคารอนุมัติทุกราย

ประกอบกับตอนนี้ธนาคารยังมีมาตรการช่วยเหลือตามมาตรการ premtive ของธปท. อยู่แล้ว เช่น ลดค่างวดจ่ายเท่าที่มีความสามารถจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยพักเงินต้น จ่ายดอกเบี้ยบางส่วน พักเงินต้น พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารจะคุยกับลูกค้าทุกรายเพื่อช่วยเหลือได้ตรงประเด็นในระยะยาว 
#2824


นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะสตีล จำกัด (มหาชน) หรือTHE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 2 ของปี 2564 บริษัทฯ รักษาความสามารถการเติบโตของกำไรต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยมีกำไรสุทธิ 360.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 341.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 1,805.40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 18.90 ล้านบาท

ในงวดไตรมาส 2 ของปี 2564 นี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 4,191.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.92% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จำนวน 1,684.05 ล้านบาท เป็นไปตามปริมาณการขายเหล็กเพิ่มขึ้นราว 83.98% เนื่องจากการนำเข้าวัตถุดิบเหล็กจากต่างประเทศลดลง รับผลจากการขนส่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณเหล็กในประเทศขาดแคลน ราคาขายเหล็กเฉลี่ยทั้งไตรมารถเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ราว 38.84% และส่งผลให้ไตรมาสนี้ มีกำไรขั้นต้น 475.50 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้ามีกำไรขั้นต้นเพียง 38.82 ล้านบาท


เมื่อพิจารณางบ 6 เดือนแรก พบว่าบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 709.73 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 141.82 ล้านบาท และมีรายได้รวม 7,394 ล้านบาท ทำให้คาดว่ารายได้รวมในปีนี้ น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 13,000 ล้านบาท

"ประเทศจะยังคงเผชิญปัญหาวัตถุดิบเหล็กขาดแคลน ภายหลังประเทศปรับลดกำลังการผลิตเหล็กลง และจะทำให้ราคาขายเหล็กม้วนดำ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท ทรงตัวในระดับสูง ต่อไป ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปี 2564 นี้ มีโอกาสจะสร้างสถิติสูงสุด (นิวไฮ)"
#2825


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออกสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียนจำนวน 10,810 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 10,810 ราย เพราะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แยกเป็นนิติบุคคลที่ไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2560-2562 จำนวน 5,795 ราย ซึ่งเป็นเหตุให้เชื่อว่าไม่ได้ทำการค้าขายหรือดำเนินธุรกิจแล้ว และกรณีจดทะเบียนเลิกแล้วแต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่หรือไม่ได้จัดทำรายงานการชำระบัญชี หรือไม่ได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี จำนวน 5,015 ราย โดยจะขีดชื่อนิติบุคคลจำนวนนี้ ให้เป็นสถานะร้างสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ออกประกาศ (16 ก.ค.2564) เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น เพื่อเป็นการปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และปิดช่องว่างของมิจฉาชีพที่จะนำความน่าเชื่อถือของนิติบุคคลไปหลอกลวงประชาชน

ส่วนนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมฯ ได้ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้ดำเนินการตรวจสอบ และขีดชื่อออกเช่นเดียวกัน เพื่อจะได้มีแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ หากพ้นกำหนดเวลา 90 วันนับแต่วันที่ออกประกาศ นิติบุคคลดังกล่าวจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น แต่แม้นิติบุคคลจะมีสถานะร้างและสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลไปแล้ว ความรับผิดชอบยังคงไม่ได้สิ้นสภาพตามไปด้วย และอาจคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน

นายทศพลกล่าวว่า การปรับปรุงฐานข้อมูลสถานะของนิติบุคคล ถือเป็นภารกิจสำคัญที่กรมฯ ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลนิติบุคคลอันจะส่งผลต่อการวิเคราะห์การเจริญเติบโตในภาคธุรกิจและตัดโอกาสการถูกหลอกลวงของประชาชน จึงขอฝากไปยังนิติบุคคลจะต้องดำเนินธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการจัดทำงบการเงินประจำปีและยื่นต่อกรมฯ ถือเป็นหน้าที่สำคัญของนิติบุคคล รวมไปถึงกรณีที่ธุรกิจมีความจำเป็นจะต้องยุติลง แต่ก็ยังคงมีหน้าที่ในการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นเช่นกัน

สำหรับประชาชน และผู้ประกอบการ จะต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาคู่ค้าหรือการเลือกลงทุนกับธุรกิจใด จำเป็นจะต้องตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะให้ดีเพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยประชาชนและธุรกิจที่ต้องการตรวจสอบรายชื่อนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถูกขีดชื่อ สามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th หัวข้อ คู่มือทำธุรกิจ เลือกจดทะเบียนธุรกิจ และประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน และสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง โดยตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th เลือกหัวข้อ บริการออนไลน์ และ DBD Datawarehouse+ หรือแอปพลิเคชั่น DBD Service โดยไม่มีค่ามีค่าใช้จ่าย
 
#2826


วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. เปิดเผยว่า การปลูกพืชสมุนไพรในพื้นที่ส.ป.ก.ได้สนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมมาตั้งแต่ปี 2560 เนื่องจากเห็นว่าการปลูกสมุนไพรจะสามารถสร้างความมั่นคงเชิงคุณภาพชีวิตได้ แต่การขับเคลื่อนเป็นไปตามความประสงค์ของเกษตรกรนั้นไม่ถือเป็นนโยบายหลัก โดยมีเกษตรกรบางกลุ่มที่สามารถเชื่อมโยงกับตลาดและผลิตในเชิงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรในพื้นที่ ส.ป.ก.รวม 4,500 ไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วม 5,000 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 32 จังหวัด แต่ปัจจุบันกระแสการใช้สมุนไพร เพื่อบรรเทาอาการของโรคโควิด-19 มีมากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ และคาดว่าจะมีการวิจัยผลิตตัวยาออกมารักษาในอนาคต ซึ่งส่วนผสมที่สำคัญที่เป็นพืชสมุนไพร ดังนั้นจึงทำให้พืชสมุนไพรมีอนาคตมาก รวมถึงรัฐบาลจึงกำหนดนโยบายเร่งด่วนผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ

ในขณะที่ ส.ป.ก.ได้กำหนดให้ตั้งศูนย์ส่งเสริมและขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดินใน 5 ภูมิภาค ประกอบด้วย จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ลำพูน จ.นครราชสีมา จ. นครศรีธรรมราช และ จ.ฉะเชิงเทรา ที่อยู่ในเขตอีอีซี

สำหรับ จ.ฉะเชิงเทรา นั้น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) มีความสนใจที่จะยกระดับพัฒนาพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการปลูกสมุนไพรเชิงอุตสาหกรรม และร่วมวิจัยสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเกษตรกรรม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งเกษตรกรมีความพร้อมอยู่แล้วสามารถต่อยอดได้ทันที

ศูนย์ส่งเสริมและขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา จะทำหน้าที่เป็นแหล่งศึกษา ค้นคว้า รูปแบบ การใช้ประโยชน์ที่ดินขนาดเล็ก หรือที่ดินแปลงเล็กเพื่อให้ทำการเกษตรให้ได้ผลตอบแทนสูง เพื่อให้เกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้ กับแปลงเกษตรของตนเอง สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้และมีคุณภาพที่ดี เช่น พืชผักปลอดสารพิษตามตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) รวมถึงการทำเกษตรปลอดภัย (การผลิตพืชผักในระบบโรงเรือนมุ้ง การปลูกพืชสมุนไพร)

การพัฒนาตามแนวทางดังกล่าวถือเป็นการพัฒนารูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ มีศักยภาพเหมาะสมต่อการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการส่งเสริม วิจัย พัฒนา ขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดิน ภาคตะวันออก เพื่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงต่อเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก โดยได้กำหนดทิศทางในการดำเนินงานที่เน้นส่งเสริม สนับสนุนองค์ความรู้ในการขยายพันธุ์พืช การผลิต การอนุรักษ์พันธุกรรมเพื่อการใช้ประโยชน์พืชสมุนไพร ตลอดห่วงโซ่อุปทาน

รวมทั้งขยายผลการใช้ประโยชน์พืชสมุนไพรในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่งเสริมการขยายพันธุ์พืชสมุนไพรที่มีแนวโน้มขาดแคลนและหายาก เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งพันธุ์ดี มีคุณภาพ ยกระดับสมุนไพรไทย พัฒนาเป็นอาหารและยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ โดยใช้หลัก "การตลาดนำการผลิต" และมีการวางแผนระบบการผลิตพืชตามมาตรฐาน GAP หรือเกษตรอินทรีย์ (Organic) สืบสานภูมิปัญญาไทย

'ทั้งนี้โครงการศูนย์กลางการส่งเสริม วิจัย พัฒนา ขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.ฉะเชิงเทรา ภาคตะวันออก มีแผนดำเนินโครงการ 5 ปี (2564-2568) โดยเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถเปิดตัวศูนย์ได้ในเดือน ส.ค.นี้ หลังจากนั้นจะรวบรวม ขยายพันธุ์ อนุรักษ์พันธุกรรมพืชสมุนไพรในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม

 

นอกจากนี้ ศูนย์กลางการส่งเสริม วิจัย พัฒนา ขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.ฉะเชิงเทรา จะคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วม 500 ราย ซึ่งหรือพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ต่อรายต่อปี และคาดว่าจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิเฉลี่ยครัวเรือนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3% จากการจำหน่ายวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์และสินค้าจากสมุนไพร

 

รวมทั้งมีแผนการผลิตตามปีปฏิทินการเพาะปลูกพืชสมุนในแปลงปลูก 2 รูปแบบ คือ

1.แปลงสมุนไพรเชิงเศรษฐกิจและมีศักยภาพทางการตลาด พื้นที่ 5 ไร่ จำนวน 17 ชนิด ได้แก่ พริกไทย เคล กระชายดำ กระชายขาว ไพล ขิง ขมิ้น ใบบัวยก พลูคาว กระเทียม ผักชี หญ้าหวาน สะเดา กระทือ กวาวเครือขาว มะแว้งเครือ และเสลดพังพอนตัวเมีย

2.แปลงเรียนรู้ วิจัยและพัฒนา พื้นที่ 6,210 ตารางเมตร จำนวน 11 ชนิด ได้แก่ เคล กระชายดำ กระชายขาว ไพล ขิง ขมิ้น ใบบัวบก พลูคาว กระเทียม ผักชี และหญ้าหวาน โดยมีระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.2564

รายงานข่าวจาก ส.ป.ก.ระบุว่า ที่ผ่านมา ส.ป.ก.ได้ส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรหลายโครงการ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ทดลองปลูก "ฟ้าทะลายโจร" บริเวณสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งวางแผนการปลูกสัปดาห์ละ 1,000 ต้น เพื่อแจกให้เกษตรกรนำไปปลูกในครัวเรือน และใช้รับประทานเป็นยาสมุนไพรเพื่อป้องกันโควิด-19

รวมทั้ง จ.ฉะเชิงเทราเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญเชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์มีศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าการลงทุนและอุตสาหกรรม ซึ่งมีการกำหนดแนวทางการพัฒนา จ.ฉะเชิงเทรา ให้เป็นพื้นที่เชื่อมอีอีซีสู่เมืองที่อยู่อาศัยชั้นดี โดยมีการพัฒนาแบบจำแนกเชิงพื้นที่อุตสาหกรรมสีเขียวท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยสังคมมีคุณภาพป่าและน้ำอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการแข่งขันด้านการผลิตการแปรรูปและการส่งออกของภาคการเกษตร
#2827
สำนักพรเทวะ ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ศูนย์รวมวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ รับทำเทียนสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา รับโชค แก้ชง เสริมดวงเสริมบารมีต่างๆ เรียกคู่ เรียกจิต ให้บูชาน้ำมันว่านสาวหลง น้ำมันว่านดอกทอง อื่น ๆ รับวิเคราะห์ชื่อ(ฟรี) รับตั้งชื่อ จำหน่ายเพนดูลั่มลูกดิ่งพลังจิต ให้บูชาคัมภีร์พระเวทย์ 

สนใจติดต่อ
อ.ทองเอก พรเทวะ
โทร 0846623662
Line : teerapat999 

Shopee
https://shopee.co.th/teerapat992018?categoryId=100636&itemId=5537373349 
#2828


เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชิคาโก สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี(12ส.ค.) รายงานพบเคสผู้ติดเชื้อ 203 รายเกี่ยวข้องกับเทศกาลดนตรีประจำปี "ลอลลาพาลูซา" แต่ระบุไม่เกินความคาดหมาย และยังไม่พบความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรพยาบาลหรือเสียชีวิต

"ไม่มีอะไรที่เกินความคาดหมาย" แพทย์หญิงแอลลิสัน อาร์วาดี คณะกรรมการกรมสุขภาพชิคาโกกล่าวระหว่างแถลงข่าว "ไม่มีสัญญาณว่ามันเป็นกิจกรรมซูเปอร์สเปรดเดอร์" เธอระบุ "แต่ชัดเจนว่าด้วยที่มีประชาชนหลายแสนคนเข้าร่วมลอลลาพาลูซา เราจึงคาดหมายว่าคงมีเคสติดเชื้อโควิด-19 อยู่บ้าง"

เทศกาลดนตรีประจำปี 4 วัน ซึ่งจัดขึ้นเมื่อราวๆ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ดึงดูดผู้คนราวๆ 385,000 คนมายังสวนสาธารณะริมทะเลสาบแห่งหนึ่ง กระตุ้นให้ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ตั้งคำถามว่าทำไมถึงจัดกิจกรรมในช่วงเวลาเกิดโรคระบาดใหญ่เช่นนี้ ทั้งที่ปีที่แล้วได้ยกเลิกไปสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ภาพวิดีโอที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์พบเห็นฝูงชนอัดแน่นตามเวทีคอนเสิร์ตและระบบคนขนส่งสาธารณะ ระหว่างนั้นพบเห็นผูุ้คนสวมหน้ากากป้องกันโควิด-19 แค่ประปราย

อย่างไรก็ตามลอรี ไลท์ฟูต นายกเทศมนตรีและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ปกป้องการตัดสินใจอนุญาตให้จัดกิจกรรม ระบุว่ามีการบังคับใช้กฎระเบียบด้านความปลอดภัยต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงผู้เข้าร่วมต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือมรผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และทางเจ้าหน้าที่เผยว่ามีราวๆ 90% ที่ฉีดวัคซีนแล้ว



อาร์วาดี ระบุว่าในบรรดาเคสผู้ติดเชื้อนั้น มีทั้งบุคคลที่มีผลตรวจเป็นบวกหลังหรือระหว่างร่วมเทศกาลลอลลาพาลูซา ซึ่งอาจสรุปได้ว่าหลายคนที่เดินทางมาร่วมเทศกาลดนตรีติดเชื้อตั้งแต่ก่อนมาถึง

เธอบอกว่าทางเมืองยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนเคสต่างๆ แต่คาดหมายว่ามันคงไม่ส่งผลกระทบสำคัญๆใดๆต่ออัตราการติดเชื้อโควิด-19

ในบรรดาผู้มีที่ผลตรวจเชื้อเป็นบวกนั้น เจ้าหน้าที่เมืองระบุว่ามี 138 คน มาจากเมืองอื่นๆในรัฐอิลลินอยส์ 58 คนเป็นพลเมืองของเมืองชิคาโก และ 7 คนมาจากรัฐอื่น ทั้งนี้เกือบ 80% ที่มีผลตรวจเป็นบวกมีอายุต่ำกว่า 30 ปี และราว 62% เป็นคนผิวขาว

(ที่มา:เอพี)
#2829


การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุด ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมันกำลังเล่นงานอย่างหนักรัฐต่างๆ อย่างเช่น ฮาวายและออริกอน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยประสบความสำเร็จควบคุมโรคระบาดใหญ่และมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปประเทศ ส่งให้เวลานี้ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทั่วประเทศแตะระดับราวๆ 123,000 คนต่อวัน และเสียชีวิต 500 คนต่อวัน

หลายเดือนหลังจากประสบความสำเร็จในการควบคุมเคสผู้ติดเชื้อและผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ในระดับบริหารจัดการได้ เวลานี้หลายรัฐกำลังก้าวถอยหลัง ท่ามกลางจำนวนคนไข้ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สร้างความอ่อนล้าแก่บุคลากรทางการแพทย์ที่งานล้นมือ

ออริกอน ก็เช่นเดียวกับฟลอริดา อาร์คันซอและลุยเซียนา ที่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด และสถานการณ์ในฮาวายก็ไม่ต่างกัน

สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแม้ว่าออริกอนและฮาวาย มีระดับการฉีดวัคซีนสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศจนถึงสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนอาร์คันซอและลุยเซียนาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมาก ขณะที่ฟลอริดามีอัตราการฉีดวัคซีนพอๆ กับค่าเฉลี่ยทั่วประเทศ

"มันใจสลาย ผู้คนเหนื่อยล้า คุณสามารถเห็นมันในดวงตาของพวกเขา" นายแพทย์เจวัน คูห์ล หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์แห่งศูนย์การแพทย์พรอวิเดนซ์ เมดฟอร์ด เมดิคอล เซ็นเตอร์ กล่าว และเล่าถึงสภาพที่คนไข้หลายคนถูกทิ้งไว้บนเตียงเคลื่อนที่บริเวณทางเดินของอาคาร และเครื่องมือสำหรับสังเกตอาคารของคนไข้เหล่านั้นส่งสัญญาณดังตลอดเวลา

ไวรัสกำลังถาโถมโจมตีสหรัฐฯ อีกรอบ ผลจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมากและอัตราการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า โดยเฉพาะในแถบภาคใต้ของประเทศ พื้นที่ชนบทพื้นอื่นๆ และหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่มีแนวคิดอนุรักษนิยม

ปัจจุบัน เคสผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ราวๆ 123,000 คนต่อวัน สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภพันธ์ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตค่าเฉลี่ยดีดตัวสู่ระดับ 500 คนต่อวัน ย้อนกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงเดือนพฤษภาคมอีกครั้ง

ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ที่ผ่านมา ฮาวายเป็นหนึ่งในรัฐที่มีอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ แต่ช่วงไม่กี่วันมานี้ พวกเขารายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมากกว่า 600 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด

ในช่วงเวลาเลวร้ายสุดของเมื่อปี 2020 ฮาวายมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาการหนักเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุด 291 คน ทว่าในการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออาการหนักเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล น่าจะแตะระดับ 300 คนในสัปดาห์นี้

แม้ผู้คนในรัฐแห่งนี้มีความต้องการฉีดวัคซีนกันค่อนข้างมาก แต่มันใช้เวลาถึง 3 สัปดาห์ นานกว่าที่คาดหมายไว้ ในการเพิ่มจำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วจากระดับ 50% เป็น 60% และนับตั้งแต่นั้นระดับเข้ารับการฉีดวัคซีนก็คงที่ ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วประเทศอยู่ที่ราวๆ 59%

โรงพยาบาลใหญ่ที่สุดบนเกาะบิ๊กไอส์แลนด์ของรัฐฮาวาย กำลังรู้สึกถึงแรงกดดัน โดยจากเตียงคนไข้ที่ใช้งานจริง 128 เตียงของศูนย์การแพทย์. เมดิคอล เซ็นเตอร์ มีผู้ป่วยครองเตียงแล้ว 116 เตียง และเตียงผู้ป่วยหนัก 11 เตียงของโรงพยาบาลเต็มอยู่เกือบตลอดเวลา จากการเปิดเผยของโฆษก

ฮิลตัน เรียเทล ประธานและซีดีโอของสมาคมดูแลสุขภาพแห่งรัฐฮาวาย กล่าวโทษการแพร่ระบาดหนักหน่วงขึ้นไปที่การฟื้นตัวในด้านการท่องเที่ยวของรัฐแห่งนี้ "นักท่องเที่ยวเป็นแหล่งต้นตอหนึ่งของการแพร่เชื้อ แต่พวกเขาไม่ได้เป็นแหล่งต้นตอหลักของการแพร่เชื้อ มีความกังวลมากมายเกี่ยวกับผู้คนจากฮาวายเอง พวกชาวบ้านที่เดินทางไปยังภาคใต้ ไปยังเวกัส ไปยังสถานที่อื่นๆ และพวกเขากลับมาแพร่กระจายเชื้อไวรัส"

ในออริกอน ผู้ว่าการรัฐเคท บราวน์ แถลงเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ว่า เกือบทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอีกครั้งยามอยู่ในพื้นที่สาธารณะในร่ม โดยไม่พิจารณาสถานะการฉีดวัคซีนของบุคคลนั้นๆ

เมื่อวันพุธ (11 ส.ค.) ถือเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่รัฐแห่งนี้รายงานมีคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดที่ 665 คน หลังจากเคยพุ่งสู่จุดพีกสุด 622 คน ระหว่างเผชิญการแพร่ระบาดระลอกพฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่วัคซีนจะเข้าถึงอย่างกว้างขวาง และเวลานี้เตียงไอซียูทั่วทั้งรัฐมีผู้ป่วยครองเตียงแล้วราวๆ 90%

ที่รัฐฟลอริดา ซึ่งผู้ว่าการรัฐรอน เดอซานติส คัดค้านการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากาก คนไข้ล้นห้องฉุกเฉินบางแห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้แพทย์ต้องตัดสินใจส่งคนไข้หลายคนกลับบ้านไปพร้อมกับออกซิเจนและอุปกรณ์สังเกตระดับออกซิเจนแบบพกพา เพื่อเปิดทางให้เตียงว่างสำหรับรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักกว่า

(ที่มา : เอพี)
#2830


ต้องการผลักดัน "พืชสมุนไพร" ของไทยเป็นอุตสาหกรรมระดับโลก ! "จุลภาส (ทอม) เครือโสภณ" ผู้ก่อตั้งบริษัท (Founder) บริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิลเฮลท์ จำกัดหรือ GTH  กับโอกาสธุรกิจกำลังเข้ามาจากการแพร่ระบาดโควิด-19 

ส่งผลให้พืชสมุนไพร่ไทยเริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในตลาดโลก...

ประกอบกับเมืองไทยกระทรวงสาธารณสุขประกาศ "ปลดล็อก"ให้ใช้ประโยชน์บางส่วนของพืชเศรษฐกิจ "กัญชง" ในเชิงการค้า

สอดรับแผนการให้ บริษัท เอ็นอาร์อินสแตนท์โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRFผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรส อาหารสำเร็จรูป รวมทั้งธุรกิจอาหารโปรตีนจากพืช หรือ Plant-Based Food ของ "แดน ปฐมวาณิชย์" เข้ามาถือหุ้นสัดส่วน 49%และมีโอกาสซื้อหุ้นเพิ่มได้ถึง 51% แต่ยังไม่ใช่ระยะใกล้นี้ เพื่อร่วมกันขยายตลาดผลิตภัณฑ์จากพืชเศรษฐกิจไทยสู่ตลาดโลก หลัง NRF เข้ามาถือหุ้นทีมผู้บริหารเดิมของ GTH ยังทำงานต่อไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ด้วยการลงทุนในธุรกิจกัญชง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และธุรกิจแฟรนไชส์Hemp House

โดย GTH ทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ โดยการนำเข้าเมล็ดกัญชงสายพันธ์ที่มีคุณภาพ พัฒนาการปลูกและสกัดกัญชง ตลอดจนการพัฒนาสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ผสมรสชาติกัญชงภายใต้แบรนด์ของ GTH เช่น Kinchakan, TOM, และช่อผกา

อีกทั้งบริษัทยังร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ กับแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำ อาทิ Dentiste Smooth E , เซียงเพียวอิ๊ว เพื่อต่อยอดและพัฒนาธุรกิจกัญชงในประเทศไทย

ดังนั้น เป้าหมายในปี 2564 จึงต้องการขยายธุรกิจสู่ตลาด "ต่างประเทศ"โดยคาดว่าปลายปีนี้สัดส่วนรายได้ต่างประเทศอยู่ที่ 60% จาก 30% หรือเพิ่มขึ้น "เท่าตัว"โดยปี 2563 สัดส่วนรายได้ในประเทศ 70% ต่างประเทศ 30%และเป้าหมายรายได้ปีนี้อยู่ที่ 100 ล้านบาท !!

"ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเรากำลังเน้นตลาดขยายต่างประเทศ ตั้งเป้าปลายปีสัดส่วนรายได้จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปีก่อนที่สัดส่วนรายได้อยู่ในประเทศเป็นหลักเนื่องจากตลาดต่างประเทศเวลาส่งออกที่จะเป็นวอลุ่มที่ใหญ่มากโดยวอลุ่มที่ใหญ่จะเป็นสารสกัดจากกัญชง สารสกัดใบกระท่อม"

นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดตัว"ธุรกิจแฟรนไชส์"ร้านจำหน่ายสินค้าส่วนผสมกัญชง ภายใต้แบรนด์"Hemp House"ภายหลังจากที่ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศให้นำกัญชงใช้ในเชิงพาณิชย์ได้และ และองค์การอาหารและยา (อย.) ยังเปิดให้เอกชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตปลูกกัญชงในพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อธุรกิจได้ รวมถึงใช้กัญชงในส่วนผสมของเครื่องดื่ม,อาหาร, อาหารเสริม และเครื่องสำอาง

ล่าสุดเมื่อต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา NRF และ GTH ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นปลูกกัญชงกว่า 400 ไร่ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อผลิตกัญชงสายพันธุ์ไทยให้มีคุณภาพสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลักดันให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ

โดยสกัดกัญชงเป็นแคนนาบิไดออล (cannabidiol) หรือ CBD เทอร์พีน (Terpenes) และน้ำมันกัญชง (Hemp Oil) ซึ่งเป็นสารไม่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท สามารถใช้รักษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้ โดยหลังจากสกัดกัญชงแล้วบริษัทตั้งเป้านำมาผลิตเป็น ซึ่งคาดว่าจะวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศมากกว่า 36 ประเทศทั่วโลก ทั้งโซนยุโรป สหรัฐฯ ภายในเดือนธ.ค.2564

สำหรับ "จุดเด่น"ที่ทำให้ NRF และ GTH แตกต่างจากคู่แข่งทางธุรกิจรายอื่นคือ บริษัทมีพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีที่มีโรงสกัดขนาดใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งในวงการด้านการปลูกและสกัดกัญชง หรือ สาร CBD และ Terpenesได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมผลักดันกัญชงและผลิตภัณฑ์จากกัญชงให้เป็นสินค้าเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในเร็วๆ นี้ บริษัทยังได้วางแผนนำสมุนไพรไทยชนิดอื่นๆ เช่น ฟ้าทะลายโจร กระชายขาว และกระท่อม มาให้เกษตรกรปลูกเพิ่มเติมโดยช่วยควบคุมคุณภาพของการปลูกกัญชงและการทำเกษตรพันธสัญญา และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมจัดจำหน่ายไปทั่วโลก

สอดคล้องกับประกาศแล้ว พระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 ปลดพืชกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษส่งผลให้บริษัทศึกษาส่งออกผลิตภัณฑ์สารสกัดจากใบกระท่อมไปในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ มูลค่าราว 60,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากใบกระท่อมวางจำหน่ายในเดือนธ.ค.นี้ เบื้องต้นจะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลัง
#2831


ออร่าความเท่ ไม่มีแผ่ว ทำสาวๆหรือใครๆเห็นแล้วอยากจะขยับเข้าใกล้ ล่าสุดพระเอกดาวรุ่งพุ่งแรงสามีแห่ง "ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล" ขึ้นแท่นรับตำแหน่งเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ "สเปรย์ฉีดผ้าลดรอยยับ Mrs. WoW" คนใหม่ล่าสุด ด้วยคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนครบทุกด้าน สื่อถึงผู้บริโภครุ่นใหม่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ตัวช่วยให้การทำงานบ้านในการรีดผ้าโดยเฉพาะผู้ชายเป็นเรื่องที่ง่าย ประหยัดแรง ประหยัดเวลา ด้วยนวัตกรรมที่เหมาะสำหรับคนรักผ้าเรียบแค่ฉีดแล้วลูบก็ทำให้ผ้าเรียบโดยไม่ต้องใช้เตารีด พร้อมมีสารแอนตี้แบคทีเรีย ช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเข้าไปถึงโครงสร้างของเนื้อผ้า และคุณสมบัติพิเศษให้ผ้าหอมยาวนานตลอดทั้งวัน

"ผมว่ามันเวิร์คมากและเหมาะมากๆสำหรับคนที่ไม่มีเวลารีดผ้า โดยเฉพาะเหล่าคุณผู้ชายที่จะต้องมีตัวช่วยแบบนี้ไว้ติดบ้าน เพราะวิธีใช้งานง่าย สะดวกสบาย แค่ฉีดแล้วลูบ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผ้าเรียบและมีกลิ่นหอมแล้ว ยังช่วยเรื่องการระงับกลิ่น ฆ่าเชื้อโรค และยังช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตจากเนื้อผ้ากับผิวได้ดีอีกด้วย ทำให้เราฟีลกู๊ดไปได้ทั้งวัน"

เตรียมพบกับโปรเจ็กต์พิเศษพร้อมกิจกรรมให้ร่วมสนุก ให้แฟนๆ ได้ฟิน และมีส่วนร่วมกับแบรนด์และพรีเซ็นเตอร์ ก๊อต จิรายุ ตลอดทั้งปี รอติดตามได้ในเร็วๆนี้ สำหรับผู้สนใจสามารถสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http:// www.mrswow-thailand.com/
#2832


เช้าวันนี้ (11 ส.ค. 64) เวลา 08.39 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านเลขที่ 117 หมู่ 5 บ้านป่าแก้ว ต.โพนสูง อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี นางเลือน สีสอนดี พร้อมด้วย น.ส.คณารักษ์ นาควงษ์ หรือ "น้องเอ" เพื่อนสาวคนสนิทน้องแต้ว และญาติพี่น้องได้ทำพิธีแก้บน หรือ "พิธีปลง" ซึ่งเป็นพิธีของชาวอีสานหากบนอะไรไว้แล้วประสบความสำเร็จก็ต้องทำพิธีแก้บน หลังจากน้องแต้ว สุดาพร สีสอนดี อายุ 29 ปี นักชกมวยที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแดง นักมวยรุ่น 60 กก. กีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020

พิธีแก้บนครั้งนี้ ทางคุณแม่ และญาติได้นำหัวหมู 1 หัว เป็ด-ไก่อย่างละ 1 ตัว เครื่องคาวหวาน เหล้าขาว หมากคำพลู 199 คำ กล้วย 199 คำ ข้าว 199 คำ มาทำพิธีแก้บน โดยในช่วงที่ตระเตรียมทำพิธีอยู่นั้น ปรากฏว่าน้องแต้วได้วิดีโอคอลมาหาน้องเอ แฟนสาว เพื่อสอบถามทำพิธีแก้บน และพูดคุยกับนักข่าวว่า "เพิ่งตื่นนอน โทร.มาสอบถามว่าแก้บนกันหรือยัง เมื่อเช้ากินข้าวเหนียวกับแกงหน่อไม้หมดครึ่งกระติบเลย ส่วนอากาศที่เกาะสมุยเช้านี้เย็นสบายดี วันนี้มีภารกิจเยอะ ส่วนจะกลับอุดรธานีเมื่อไหร่นั้นยังไม่กำหนดวัน"



หลังเตรียมสำรับเครื่องแก้บนเสร็จ นางมยุรี ไวสีแสง หรือป้าแหม่ม ป้าของน้องแต้วได้จุดธูปกล่าวต่อหน้าเจ้าแม่ธรณี รูปถ่ายพ่อยอดนคร สีสอนดี และญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว โดยบอกว่า

"สาธุเด้อเจ้าแม่ธรณี พระคุณบิดามารดา วันนี้น้องแต้วและแม่เลือนและญาติพี่น้องได้มาทำพิธีปลงแล้วเด้อ มีหัวหมู เป็ดไก่ ของคาวหวานและคำหมากคำข้าวอย่างละ 199 เมื่อปลงแล้วก็ขอให้ น.ส.สุดาพรเจริญรุ่งเรืองต่อไป ปรารถนาสิ่งใดก็ขอให้ได้สมความปรารถนาทุกประการด้วยเทอญ"



พร้อมกันนี้น้องเอ เพื่อนสาวคนสนิทได้เลือกธูปเสี่ยงทายมาจุดต่อหน้ารูปของนายยอดนครด้วย และเมื่อจุดธูปเสร็จปรากฏว่า เลขของธูปเสี่ยงเห็นชัดเจนว่าเป็นเลข 492 สร้างความฮือฮาให้กับทุกคนที่มาร่วมพิธีอย่างมาก เพราะเลข 92 เป็นเลขตัวเดียวกับอายุน้องแต้วคือ 29

น้องเอเพื่อนสาวคนสนิท ไม่รอช้ารีบซื้อลอตเตอร์รี่ที่มีคนนำมาขายถึงบ้านทันที นอกจากนี้ลุ้นโชค 60 รุ่นน้ำหนักที่น้องแต้วชก อายุของพ่อยอดนคร 44 ปี และ 294 เลขธูปพิธีแก้บน พร้อมกับบอกกล่าวพ่อยอดนครว่า พ่อเอ๊ยขอ 3 ตัวตรงเด้อ ลุ้นโชคใหญ่งวดวันที่ 16 ส.ค.64 ที่จะถึงนี้
#2833


ทรูดึง 2 ฮีโร่โอลิมปิก 2020 "น้องแต้ว" กำปั้นแกร่งสาวไทย เจ้าของเหรียญโอลิมปิกแรกกีฬามวยสากลสมัครเล่นหญิง และ "โค้ชเช" โค้ชหัวใจไทยผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการกีฬาเทควันโดไทยเกือบ 20 ปี เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจ สร้างพลังบวกแบบฉบับนักสู้ ตอกย้ำ King of Sports ที่เป็นที่สุดของกีฬา ทั้งปั้นเยาวชนสู่เส้นทางอาชีพนักกีฬา ส่งเสริมคนไทยก้าวขึ้นเป็นนักกีฬาระดับสากล และรวบรวมหลากหลายคอนเทนต์ประเภทกีฬาฮิต ครบที่สุดในไทย ผ่านทุกแพลตฟอร์มชั้นนำของกลุ่มทรู ด้วยเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G

นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มทรู รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำศักยภาพขององค์กรเอกชนไทย ในฐานะผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์ครบวงจร มาสนับสนุนด้านการสื่อสารอย่างเป็นทางการแก่นักกีฬาทีมชาติ โค้ช และเจ้าหน้าที่ ในการแข่งขันโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020 ซึ่งนำความภาคภูมิใจและสร้างความสุขแก่คนไทยทั้งประเทศ ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทุกคน ที่มีส่วนร่วมสำหรับความสำเร็จครั้งนี้ อันเกิดจากพลังใจของคนไทยทุกคนที่เชื่อมโยงถึงกันและกัน "TRUE POWER IS THAI POWER" และครั้งนี้ กลุ่มทรู มีความยินดีอย่างมากที่ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่สู่ครอบครัวทรูอย่างเป็นทางการ ทั้ง "น้องแต้ว" สุดาพร สีสอนดี และ "โค้ชเช" ชเว ยอง-ซอก ผู้สร้างประวัติศาสตร์แก่วงการกีฬาไทย ในฐานะฮีโร่ ทรู 5G คนล่าสุด

เพื่อเป็นตัวแทนส่งต่อพลังบวกและแรงบันดาลใจให้แก่คนในสังคม สอดคล้องกับความมุ่งมั่นตั้งใจของกลุ่มทรู ในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสื่อสารเพื่อผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง และการให้ความสำคัญด้านกีฬา ตอกย้ำภาพ King of Sports ที่สุดของกีฬา ด้วยเชื่อว่ากีฬา เป็นสิ่งที่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์ เติมพลังใจให้ทุกคนลุกขึ้นมาสู้ในทุกสถานการณ์ ซึ่งกลุ่มทรู ให้ความสำคัญ ตั้งแต่การปั้นเยาวชนสู่เส้นทางอาชีพนักกีฬา สนับสนุนนักกีฬาไทยทุกรูปแบบ ส่งเสริมคนไทยให้ก้าวขึ้นเป็นนักกีฬาระดับโลก และเป็นศูนย์รวมคอนเทนต์ทุกประเภทกีฬาที่ครบสุดในไทย ให้คนไทยได้รับชมอย่างเต็มอิ่ม ผ่านทุกแพลตฟอร์มชั้นนำของกลุ่มทรู ทั้งทรูวิชั่นส์ ทรูไอดี ทรูสปอร์ต ผ่านความเร็วกว่า แรงกว่าของเครือข่ายทรู 5G

นายโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร กลุ่มทรูกล่าวว่า ความสำเร็จในการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ 2020 นี้ คือการได้เห็นพลังใจของนักกีฬา โค้ช ทีมงานที่ต่างทุ่มเท ทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยอย่างเต็มที่ และที่สำคัญ มากกว่าชัยชนะที่เป็นประวัติศาสตร์ครั้งนี้ คือการได้เห็นพลังใจของคนไทยทุกคนที่เชื่อมโยงถึงกันและกัน ซึ่งเป็นพลังที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงยิ่งกว่า จึงเป็นที่มาของแนวคิด "TRUE POWER IS THAI POWER" สะท้อนภาพกีฬาเชื่อมโยงผู้คนทุกกลุ่มเข้าไว้ด้วยกันให้เป็นหนึ่งเดียว

การนำ 2 ฮีโร่จากกีฬาโอลิมปิก 2020 ทั้งผู้อยู่เบื้องหน้าอย่าง "น้องแต้ว" สุดาพร สีสอนดี ตัวแทนพลังนักสู้ ผู้สร้างประวัติศาสตร์ไทยให้มวยสากลสมัครเล่นหญิงไทย และผู้อยู่เบื้องหลังอย่าง "โค้ชเช" ชเว ยอง-ซอก ซึ่งเป็นพลังสู่ชัยชนะให้แก่นักกีฬาเทควันโดไทยมาเกือบ 20 ปีนั้น ได้ตอกย้ำภาพ แบรนด์ทรู ที่เชื่อมั่นว่าทุกสิ่งเป็นจริงได้เมื่อมีกันและกัน ทั้งพลังของผู้อยู่เบื้องหน้า เบื้องหลัง รวมทั้งพลังของคนไทยทุกคน ที่ได้ร่วมกันสร้างสังคมให้เกิดมิติบวก สามารถสร้างความสุขให้คนไทยได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ทั้ง 2 สมาชิกใหม่ของครอบครัวทรู ยังจะร่วมขับเคลื่อนกลยุทธ์ Sport Marketing ที่กลุ่มทรู มีความโดดเด่น เป็นผู้นำคอนเทนต์ด้านกีฬาระดับเวิลด์คลาสมาโดยตลอด ทั้งคอนเทนต์อันดับหนึ่ง อย่าง ฟุต.พรีเมียร์ลีกอังกฤษ และลีกแถวหน้าของยุโรปจากช่องบีอิน สปอร์ตส์ (beIN Sports) ที่ทำให้ทรู มีครบทุก.รายการดังและมากที่สุดในไทยถึง 7 ลีก 11 ถ้วย กว่า 1,700 แมตช์ ตลอดจนกีฬาอื่นๆ มากถึง 21 ช่องรายการ อาทิ ซูเปอร์โบว์ล, กอล์ฟ รายการเมเจอร์, เทนนิส รายการแกรนด์สแลม, แบดมินตันชิงแชมป์โลก, สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก, สุดยอดมอเตอร์สปอร์ต โมโตจีพี และเอ็นบีเอ ไฟนัลส์ ทั้งนี้ สำหรับแฟนๆ ชาวไทยที่ชื่นชมน้องแต้ว และโค้ชเช เตรียมติดตามเรื่องราวสร้างแรงบันดาลและส่งต่อพลังบวกให้ทุกคนก้าวต่อไปด้วยหัวใจที่เข็มแข็งผ่านภาพยนตร์โฆษณาซึ่งจะได้รับชมพร้อมกันเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
#2834


สาวก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยอดทีมเงินหนาแห่ง ลีก เอิง ฝรั่งเศส สิ้นสุดการรอคอยเมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ ชูเสื้อเป็นตัวอย่างเป็นทางการ หลังจรดปากกาเซ็นสัญญา 2 ปีบวกออปชันอีก 1 ปีเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา

เมสซี่ วัย 34 ปีเปิดใจว่า "ผมแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะเริ่มต้นที่ ปารีส ทั้งสโมสรและวิสัยทัศน์นั้นสอดคล้องกับความทะเยอทะยานของผมอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งผมรู้ดีว่านักเตะและทีมงานที่นี่มีศักยภาพแค่ไหน ดังนั้นผมจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้กับที่นี่และแฟน.ทุกคน ซึ่งตอนนี้ใจจดจ่ออยากเงียบสนาม ปาร์ก เดอส์ แปรงส์ ใจจะขาดแล้ว"

ลูกเมียร้องไห้ฟูมฟาย หลัง "เมสซี" นักเตะดังต้องย้ายทีม เพราะต้องหาบ้านและโรงเรียนใหม่!?

ข่าวสุดช็อกของชาวบาร์เซโลนา เรื่องการย้ายทีมยอดนักเตะชาวอาร์เจนไตน์ ลิโอเนล เมสซี ณ เช้าตรู่วันอังคารที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ชาวกาตาลันยังมาออกันอยู่ที่หน้าบ้านของลิโอเนลในบาร์เซโลนา แต่ยังไม่มีวี่แววว่า นักเตะขวัญใจของเขาจะออกเดินทางไปไหน

จริงๆ แล้ว ข่าวคราวการย้ายทีมของ ลิโอเนล เมสซี ใช่ว่าจะเพิ่งมีวี่แวว แต่แว่วๆ มาก็หลายรอบของการเปิดตลาดซื้อขายแล้ว โดยมีข่าวกับทีมแมนเชสเตอร์ซิตี และแม้กระทั่งลิเวอร์พูล ในอังกฤษ หรือทีมในเมเจอร์ลีคของอเมริกา รวมทั้งทีมปารีส์ แซงต์-แชร์กแม็ง ในฝรั่งเศส

เมื่อ 7 เดือนก่อน ยังมีข่าวลงในหนังสือพิมพ์ เลอ ฟิกาโร และช่องกานาล ปลุส ของฝรั่งเศส ว่า ลิโอเนลกับภรรยา และลูกๆ ของเขาไปเข้าคลาสเรียนภาษาฝรั่งเศสด้วย หลายๆ คนจึงพุ่งเป้าไปที่ทีมของมหาเศรษฐีอาหรับในกรุงปารีส



คนที่เศร้าเสียใจและทำใจไม่ได้ที่สุดในดรามาย้ายทีมของลิโอเนล เมสซี ไม่ใช่ใครที่ไหน คือภรรยา (อันโตเนลลา ร็อกคุซโซ) และลูกชายของเขาเอง ที่ร้องไห้เสียใจ และยังทำใจไม่ได้กับการต้องย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียน

"ตอนที่ผมบอกลูกและเมียว่า ต้องการจะย้ายออกจากบาร์เซโลนา มันกลายเป็นเรื่องใหญ่มาก ทั้ง 4 คนร้องไห้ฟูมฟาย พวกเขาไม่อยากไปจากบาร์เซโลนา ไม่อยากย้ายโรงเรียน

"แต่ผมมองไปข้างหน้า ผมอยากพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก ต้องการได้แชมป์ อยากชนะแชมเปียนส์ลีค ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่คุณก็อยากทำให้ได้"



เหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่นักเตะวัย 33 บอกคือ เขาว่า โจเซป มาเรีย บาร์โตมิว ประธานสโมสรบาร์เซโลนาไม่ทำตามคำพูด โดยเขาบอกว่าจะปล่อยตัวลิโอเนลออกไปเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2019-20 แต่ก็ไม่ทำตามคำพูด

"เราคุยกันแล้วว่า ผมมีสิทธิ์ที่จะไปจากสโมสรแล้ว แต่โจเซปก็เลื่อนวันเวลาออกไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เราต้องเล่นไปเสี่ยงไปกันไวรัสโคโรน่า มันน่ากลัวมากตลอดทั้งฤดูกาล แถมท่านประธานยังบอกอีกว่า ถ้าผมจะไปตอนนี้ จะต้องเสียค่าปรับ 700 ล้านยูโร มันจะเป็นไปได้ยังไง"

ทางเดียวที่นักเตะเจ้าของบัลลงดอร์ 6 สมัยจะออกจากสโมสรที่เขาอยู่มาถึง 20 ปีได้ ก็คือต้องยื่นเรื่องต่อศาล ซึ่งนั่นก็จะทำให้เขาต้องอยู่จ่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 10 เดือน

"ผมไม่อยากจะยื่นฟ้องสโมสรที่ผมรัก และให้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตผมหรอกนะครับ บาร์เซโลนาคือชีวิตของผม เป็นที่ที่ให้ทุกสิ่งกับผม ทำให้ผมเป็นผมทุกวันนี้"



ลิโอเนล ยังเล่าว่า ติอาโก ลูกชายคนโตของเขาเศร้าที่สุด เพราะไม่อยากย้ายโรงเรียน และเขาก็ผูกพันกับสโมสรในกาตาลันมาก อันโตเนลลา ภรรยาที่ยืนเคียงข้างเขาเสมอต้องคอยช่วยปลอบใจ แม้ว่าเธอก็ไม่อยากย้ายไปจากสเปนเช่นกัน

"มัตเตโอเขายังเด็กมาก ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ผมต้องบอกติอาโกว่า ความรักที่พ่อมีต่อบาร์เซโลนาไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คือเขาโตแล้ว และได้ยินเรื่องนั้นเรื่องนี้จากข่าวทีวี ทำให้มีคำถามในหัวของเขามากมาย



"เขาร้องไห้ และบอกผมว่า เราไม่ย้ายไม่ได้หรือ จริงๆ ผมไม่อยากให้เขาต้องมารับรู้อะไรเรื่องนี้เลย แต่ก็ต้องอธิบายความจริงให้เขาฟัง ในที่สุดเขาก็เข้าใจได้

"ผมรักบาร์เซโลนา คงไม่มีที่ไหนในโลกที่ดีเท่าที่นี่อีกแล้ว แต่ผมมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจมองหาความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิต ในวันข้างหน้า ผมอาจจะกลับไปบาร์เซโลนาอีกครั้งก็ได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมอยู่ที่นี่

"ลูกๆ ของผม ครอบครัวของผม เขาเกิดและเติบโตที่นี่ มันไม่ใช่เรื่องผิดที่ผมต้องการจะไป ผมคิดว่าการตัดสินใจของผมจะเป็นการดีต่อทุกคน"



อันโตเนลลา ร็อกคุซโซ โพสต์ภาพครอบครัว พร้อมถ้วยรางวัลต่างๆ ที่ลิโอเนล เมสซี คว้ามากับสโมสรบาร์เซโลนาลงในอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ หลังจากที่สามีแถลงข่าวอำลาสโมสร เพื่อแสดงความสนับสนุนการตัดสินใจของเขา

"มันเป็นเรื่องยากที่จะสรุปเรื่องราวในชีวิตของเราที่นี่ด้วยคำเพียงไม่กี่คำ" เธอบรรยายอีกว่า "เรื่องราวมากมาย หลายอารมณ์ความรู้สึกจะจารึกอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป เหมือนดังคำพูดที่ว่า 'อะไรที่ฆ่าคุณไม่ได้จะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น' ด้วยแรงสนับสนุนจากครอบครัว เราจะออกไปโลดแล่นอีกครั้งอย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

"เราจะเดินไปด้วยกัน ไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะเป็นที่ไหน เราจะมุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้าเสมอ... ฉันรักคุณ"

 
#2835


รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมประกวดราคาจ้างบริหารจัดการอาคารจอดแล้วจร 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท แบ่งออกเป็น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต มูลค่าราว 37 ล้านบาท โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม มูลค่า 120 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิรัชมงคล มูลค่าราว 61 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี รฟม.ได้กำหนดให้เอกชนผู้สนใจร่วมประกวดราคาในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต เตรียมยื่นข้อเสนอผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ส่วนโครงการรถไฟฟ้ามหานครทั้ง 2 สายนั้น จะกำหนดภายหลัง เนื่องจากปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนร่างเอกสารประกวดราคา แต่เบื้องต้นทุกโครงการจะต้องแล้วเสร็จ เพื่อจัดหาเอกชนเข้ามาบริหารตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้

"สัญญาจ้างบริหารอาคารจอดแล้วจรทั้ง 3 โครงการ มีอายุสัญญา 3 ปี โดยจะเริ่มสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2564 – 1 ต.ค. 2567 ซึ่งเอกชนจะต้องรับหน้าที่บริหารจัดเก็บค่าบริการจอดรถ การรักษาความสะอาด ตลอดจนจัดการจราจรและดูแลพื้นที่ของ รฟม.ให้เป็นระเบียบ เพื่อรองรับการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ"

สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชนประกวดราคานั้น รฟม.กำหนดราคาที่ยื่นข้อเสนอ ให้น้ำหนักคำนวณคะแนนข้อเสนอด้านราคาเท่ากับ 30 คะแนน และข้อเสนอด้านเทคนิค คุณภาพและคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อ รฟม. น้ำหนักเท่ากับ 70 คะแนน โดยผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 70 คะแนน รฟม.จึงจะพิจารณาข้อเสนอด้านราคา


ส่วนหลักเกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค คุณภาพและคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อ รฟม. 100 คะแนน แบ่งออกเป็น คะแนนผลงานของผู้ยื่นข้อเสนอ 60 คะแนน แผนการบริหารจัดการอาคารจอดแล้วจร 20 คะแนน ประสบการณ์การทำงานของผู้จัดการอาคารจอดแล้วจร 10 คะแนน และข้อเสนออื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการอีก 10 คะแนน

ทั้งนี้ รฟม.จะพิจารณาให้คะแนนผลงานและประสบการณ์ของผู้ยื่นข้อเสนอเพียง 1 ผลงานในการบริหารจัดการอาคารหรือลานจอดรถที่ประกอบด้วยงานจัดเก็บค่าบริการจอดรถ โดยใช้เครื่องไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ งานรักษาความสะอาด และงานจัดการจราจรดูแลพื้นที่จอดรถ ซึ่งเป็นผลงานที่สิ้นสุดระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี โดยหากมีผลงานบริการจอดรถ 1,501 ช่องจอดขึ้นไป จะได้คะแนนสูงสุดอยู่ที่ 60 คะแนน

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า อาคารจอดแล้วจรที่ รฟม.นำมาเปิดประกวดราคานี้ ถือเป็นอาคารที่อยู่ในส่วนของรถไฟฟ้าที่มีสถิติการเดินทางสูงต่อเนื่อง และถือเป็นอาคารจอดแล้วจรในย่านชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัย มีผู้เดินทางค่อนข้างมาก เช่น โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม มีอาคารจอดแล้วจรจุดใหญ่อย่าง สถานีรถไฟฟ้าคลองบางไผ่ ใกล้กับห้างสรรพสินค้า ส่วนสายเฉลิมรัชมงคล มีลานจอดรถใจกลางเมือง อย่างสถานีลาดพร้าว รัชดาภิเษก พระราม 9 และสถานีสุขุมวิท เป็นต้น
#2836


นายพีรภูมิ ปราบอริพ่าย ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สิริน สเปซ จำกัด ผู้ให้บริการให้คำปรึกษา ด้าน People Transformation และบริการฝึกอบรมเทรนนิ่งให้กับองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน กล่าวว่า ได้จับมือกับ Happily.ai ผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับเอชอาร์ นำระบบ เอไอ มาช่วยสร้างประสบการณ์การทํางานของพนักงาน ให้มีประสิทธิภาพและพิเศษกว่าที่ผ่านมา 

อีกทั้งยังช่วยให้องค์กรเข้าใจและเข้าถึงพนักงานได้ดียิ่งขึ้นผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบ People analytics ซึ่งเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาบุคลากรในระยะยาวในยุคเน็กซ์ นอร์มอล


ขณะที่ ปัจจุบันงานด้านทรัพยากรบุคคล หรือเอชอาร์ นับเป็นงานส่วนแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้บริหารด้านเอชอาร์หลายองค์กร เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่องค์กรแบบดิจิทัล เอชอาร์ ซึ่งการนำดิจิทัล แพลตฟอร์ม มาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับการทำงานของเอชอาร์จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อธุรกิจ และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อพนักงานได้อย่างมากและนำองค์กรไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ

"ในฐานะที่ปรึกษาองค์กรชั้นนำระดับโลก และโครงการต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากว่า 20 ปี มั่นใจว่า ดิจิทัลแพลตฟอร์มนี้ จะช่วยตอบ Pain Point ของหลายองค์กร ในการยกระดับความสัมพันธ์ของพนักงานและองค์กรได้ดีและมีประสิทธิภาพ เพราะความสุขของพนักงาน เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรในยุคนี้ ซึ่งการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ของ Happily.ai จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยกระตุ้นให้พนักงานเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้ การพัฒนาและการมีส่วนร่วมในการทํางาน โดยยังคงสามารถทำงานสอดประสานร่วมกันได้อย่างมีความสุขภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป"

นอกจากนี้ บริษัท สิริน สเปซ ยังมีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อตอบรับกับการเติบโตของบริษัทในปลายปีนี้ กับดิจิทัลแพลตฟอร์มที่บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อที่จะช่วยเป็น "ลมใต้ปีก" ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศ
#2837


อว. เผย 10 สถิติในเวลาที่ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 20 ล้านโดส เร็วขึ้น 3.4 เท่า สูงสุดเกินวันละ 670,000 โดส

วันนี้ (10 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว เป็นจำนวนถึง 20 ล้านโดส โดยใช้เวลาเพียง 36 วันในการฉีด 10 ล้านโดสหลังนี้

พร้อมเปิด 10 สถิติสำคัญ ดังนี้

1. ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วมากกว่า 20 ล้านโดส โดย 10 ล้านโดสแรกใช้เวลา 124 วัน แต่สิบล้านโดสหลังใช้เวลาเพียง 36 วัน (เร็วขึ้นกว่า 3.4 เท่า) ขณะนี้มีประชากร 23.9% ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม และมี 6.7% ที่ฉีดครบสองเข็ม นอกจากนี้ 0.3% ได้รับวัคซีนเข็มสามแล้วโดยเป็นบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข

2. ใช้วัคซีนโควิด-19 จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ซิโนแวค (48.77% ของจำนวนโดส), แอสตร้าเซนเนก้า (43.95%) ซิโนฟาร์ม (7.00%) และไฟเซอร์ (0.28%) แต่ในแง่จำนวนคนนั้น มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซนเนกามากกว่าซิโนแวก 1.5 ล้านคน

3. ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ในไทยแล้ว 6 ชนิด และอยู่ระหว่างดำเนินการขึ้นทะเบียนอีก 2 ชนิด

4. จำนวนการฉีดวัคซีนมากที่สุดเกิน 670,000 โดสต่อวัน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564

5. จังหวัดภูเก็ต ได้ฉีดวัคซีนโควืด-19 ครอบคลุมประชากรมากที่สุด โดย 75.9% ของคนภูเก็ตได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม และ 59.2% ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว ส่วนกรุงเทพมหานครได้รับวัคซีนแล้ว 70.2% ของประชากร โดย 14.9% ฉีดครบสองเข็มแล้ว ทั้งนี้ทั้งสองจังหวัดมีการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุเกิน 60 ปี มากกว่า 80% แล้ว สำหรับจังหวัดที่ฉีดวัคซีนให้กับผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเกิน 80% แล้วคือ จังหวัดสมุทรปราการ

6. ประเทศไทยมีจำนวนการฉีดวัคซีนจำนวนเป็นอันดับ 4 ในอาเซียน และร้อยละการครอบคลุมประชากรเป็นอันดับที่ 5

7. ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นอันดับที่ 27 ของโลกในแง่จำนวนโดส

8. ประเทศไทยมีวัคซีนโควิด-19 แล้วมากกว่า 30 ล้านโดส ได้แก่ แอสตราเซนเนกา 12.8 ล้านโดส ซิโนแวก 12.5 ล้านโดส ซิโนฟาร์ม 5 ล้านโดส และ ไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส โดยได้รับบริจาควัคซีนจาก จีน 1 ล้านโดส (ซิโนแวก) ญี่ปุ่น 1.05 ล้านโดส (แอสตราเซนเนกา) สหราชอาณาจักร 0.42 ล้านโดส (แอสตราเซนเนกา) และสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส (ไฟเซอร์)

9. วัคซีนสามารถลดการเสียชีวิต โดยผลการวิเคราะห์ผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวน 819 ราย มี 74.5% ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และมีเพียง 2 รายที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว

10. วัคซีนที่วิจัยและพัฒนาโดยคนไทยอย่างน้อย 4 ชนิดกำลังทดสอบในมนุษย์ ได้แก่ วัคซีน ChulaCov19 พัฒนาโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, วัคซีน HXP-GPOVac พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยมหิดลและองค์การเภสัชกรรม, วัคซีน COVIGEN พัฒนาโดยบริษัทไบโอเนท-เอเชีย จำกัด และวัคซีน Baiya SARS-CoV-2 Vax 1 พัฒนาโดยบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัดและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
#2838


ซีเอ็นเอ็น เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ชื่อดังของสหรัฐฯ ไล่ออกพนักงาน 3 คน จากกรณีมาทำงานทั้งที่ยังไม่ฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ตามรายงานของสำนักข่าวหลายแห่งของอเมริกาเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

กรณีนี้นับเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกๆที่บริษัทหนึ่งๆดำเนินการไล่ออกพนักงาน โทษฐานที่ละเมิดระเบียบข้อบังคับฉีดวัคซีนของทางบริษัท ในขณะที่มาตรการบังคับพนักงานฉีดวัคซีนของบริษัทต่างๆ เป็นสิ่งชอบธรรมตามกฎหมายในสหรัฐฯ

เวลานี้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ในนั้นรวมถึงเฟซบุ๊กและกูเกิล เผยว่าจะบังคับพนักงานฉีดวัคซีน ครั้งที่สำนักงานของพวกเขากลับมาเปิดทำการอย่างสมบูรณ์ในอีกหลายเดือนข้างหน้า

เจฟฟ์ ซัคเกอร์ ประธานบริหารของซีเอ็นเอ็น พาดพิงเกี่ยวกับการไล่ออกครั้งนี้ในบันทึกของทางบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) และบันทึกดังกล่าวหลุดถึงมือสื่อมวลชนสหรัฐฯหลายแห่ง

ในบันทึกดังกล่าว ซัคเกอร์ ระบุว่าการฉีดวัคซีนคือมาตรการบังคับสำหรับทุกคนที่ทำงานในภาคสนาม ทำงานร่วมกับพนักงานคนอื่นๆหรือทำงานในออฟฟิศ "ขอผมพูดให้เข้าใจว่า เรามีนโยบายอดทนเป็นศูนย์ในเรื่องนี้"

เมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐบาลสหรัฐฯระบุว่าเป็นเรื่องชอบธรรมตามกฎหมายสำหรับนายจ้างที่จะบังคับพนักงานที่เข้ามาในสถานที่ทำงาน ฉีดวัคซีนโควิด-19

รายงานของสำนักข่าวเอพีระบุว่าสายการบินหลักๆอย่างเดลตา แอร์ไลน์สและยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ต่างบังคับพนักงานแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ส่วนธนาคารเพื่อการลงทุน "โกลด์แมน แซคส์" กำลังบังคับพนักงานให้เปิดเผยสถานะฉีดวัคซีน แต่ไม่ถึงขั้นบังคับให้พนักงานฉีดวัคซีน

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งออกคำสั่งให้ลูกจ้างรัฐบาลกลางมากกว่า 2 ล้านคนฉีดวัคซีน หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อเป็นประจำและสวมหน้ากาก

(ที่มา:บีบีซี/ยูเอสเอทูเดย์)
#2839


ในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ ดวลกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีก ลงเตะกันที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน

ในเกมนี้ เลสเตอร์จัดตัวแบบเอาจริง นำโดยตัวหลักอย่าง "เจมี วาร์ดี" "เจมส์ แมดดิสัน" "อโยเซ เปเรซ" "ยูริ ตีเลอมองส์" และ "ฮาร์วีย์ บาร์นส" ส่วน แมนฯ ซิตี จัดตัวผสมตัวจริงกับสำรอง นำโดย "เฟร์รัน ตอร์เรส" "ริยาด มาห์เรซ" "อิลคาย กุนโดกัน" และใช้ "แซก สเตฟเฟน" เฝ้าเสาประตู

รูปเกมส่วนใหญ่ ทั้งสองทีมเน้นความแน่นอน ไม่มีฝ่ายไหนเปิดเกมบุกเต็มตัว โดยเรือใบสีฟ้าเป็นฝ่ายครอง.ได้ส่วนใหญ่และมีโอกาสทำประตูมากกว่า แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าเป้า ขณะที่เลสเตอร์แม้โอกาสยิงน้อยกว่าแต่ส่องเข้ากรอบแบบได้ลุ้นกว่า


นาที 65 ถึงเวลาที่แฟน.ซิตีรอคอย เมื่อ แจ็ค กรีลิช นักเตะใหม่ที่ย้ายจาก แอสตัน วิลลา ด้วยสถิติค่าตัวสูงสุดในสหราชอาณาจักร 100 ล้านปอนด์ ได้ลงสนามมาแทน ซามูเอล เอโดซี


- แจ็ค กรีลิช ในยูนิฟอร์มแมนฯ ซิตี ลงสนามเป็นตัวสำรอง -


นาที 87 นาธาน อาเก เล่นพลาดหน้าประตูตัวเองเปิดช่องให้ เคเลชี อิเฮียนาโช เข้าปะทะ แล้ว.ไหลมาให้ แพตสัน ดากา โฉบเข้ายิงติดเซฟ แซก สเตฟเฟน

อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินตัดสินใจเป่าฟาวล์ย้อนหลังจังหวะที่อาเกปะทะอิเฮียนาโช และให้จุดโทษแก่เลสเตอร์


จากนั้น อิเฮียนาโช รับหน้าที่สังหารไม่พลาด และกลายเป็นประตูชัยให้เลสเตอร์เฉือนชนะไป 1-0 ทำให้ทัพจิ้งจอกคว้าแชมป์รายการการกุศลนี้เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากเมื่อปี 1978 ส่วนแมนฯ ซิตี ยังอยู่ที่ 6 สมัยต่อไป
#2840


ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ชำนาญด้านโครงการและแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนและ ท่าอากาศยานได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ -Drsamart Ratchapolsitte โดยมีเนื้อหาดังนี้

เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่รถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันเปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 หลายคนคงไม่รู้ว่ารถไฟฟ้าสายนี้ใช้รางกว้าง 1 เมตร ไม่ใช้ 1.435 เมตร เหมือนรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น หาคำตอบได้จากบทความนี้

บทบาทของรถไฟฟ้าสายสีแดง

รถไฟฟ้าสายสีแดงภายใต้การกำกับดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทยมีบทบาทในการขนผู้โดยสารจากชานเมืองเข้าสู่ตัวเมืองหรือสถานีกลางบางซื่อ ตามแผนแม่บทในปัจจุบันด้านทิศเหนือขนคนจากบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ด้านทิศตะวันออกขนคนจากหัวหมาก ด้านทิศตะวันตกขนคนจากศาลายา และด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ขนคนจากมหาชัย ถือได้ว่ารถไฟฟ้าสายสีแดงทำหน้าที่เหมือน "กระดูกสันหลัง" ของโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ถึงเวลานี้เรามีรถไฟฟ้าใช้เป็นระยะทางยาวเท่าไหร่?

ถึงวันนี้ (6 สิงหาคม 2564) กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วรวมเป็นระยะทาง 209 กิโลเมตร จากระยะทางทั้งหมดในแผนแม่บทรถไฟฟ้าประมาณ 560 กิโลเมตร หรือคิดเป็น 37% ของระยะทางทั้งหมด

จากระยะทางที่เปิดใช้แล้วทั้งหมด 209 กม. เป็นระยะทางที่เปิดใช้ก่อนสมัยรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 87 กม. และในสมัยท่านนายกฯ ประยุทธ์ฯ 122 กม. คิดเป็นระยะทางที่เพิ่มขึ้นในสมัยท่านนายกฯ ประยุทธ์ฯ 140% ซึ่งเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบรางของท่านนายกฯ ประยุทธ์ฯ รวมทั้งรัฐบาลหลายรัฐบาลที่ผ่านมาที่ได้ทำการศึกษาความเหมาะสม ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ออกแบบ เวนคืนที่ดิน และเริ่มก่อสร้างบางสาย

รถไฟฟ้าใช้รางกว้างเท่าไหร่

โดยทั่วไปรถไฟฟ้านิยมใช้รางกว้าง 1.435 เมตร หรือที่เรียกว่า "รางรถไฟมาตรฐานยุโรป (European Standard Gauge)" ซึ่งเป็นขนาดรางที่ใช้ในกลุ่มประเทศยุโรป ทำให้ประเทศเหล่านี้สามารถให้บริการเดินรถไฟเชื่อมโยงระหว่างประเทศได้ ต่อมามักเรียกราง 1.435 เมตร กันติดปากว่า "รางรถไฟมาตรฐาน (Standard Gauge)" ไม่มีคำว่า "ยุโรป (Europe)" ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่ารางขนาด 1.435 เมตรเท่านั้น จึงจะเป็นรางมาตรฐาน ซึ่งไม่ถูกต้อง

รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ทุกสาย (ยกเว้นสายสีแดง สีทอง สีชมพู และสีเหลือง) ใช้รางกว้าง 1.435 เมตร ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) สายสีน้ำเงิน (MRT) สายสีม่วง และแอร์พอร์ตลิงก์ รวมทั้งรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ส่วนรถไฟฟ้าสายสีทอง สีชมพู และสีเหลืองนั้น เป็นรถไฟฟ้าที่ใช้ระบบเดินรถต่างจากรถไฟฟ้าสายอื่น

รถไฟฟ้าสายสีทองซึ่งเปิดให้บริการแล้วจากสถานีกรุงธนบุรี (เชื่อมกับ BTS) วิ่งลอยฟ้าบนถนนกรุงธนบุรี ถนนเจริญนคร และถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินไปจนถึงสถานีคลองสาน เป็นรถไฟฟ้า APM (Automated People Mover) หรือรถไฟฟ้าไร้คนขับ ใช้ล้อยางวิ่งบนพื้นคอนกรีตโดยมีรางเหล็กวางอยู่ตรงกลางระหว่างล้อซ้ายขวาเพื่อช่วยนำทาง เลี้ยววงแคบและไต่ทางลาดชันได้ดี กินพื้นที่น้อยเนื่องจากใช้โครงสร้างขนาดเล็ก APM เป็นที่นิยมใช้ในพื้นที่ที่มีผู้โดยสารไม่มาก

รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง เป็นรถไฟฟ้า Monorail หรือรถไฟฟ้ารางเดี่ยว ไม่ใช้คนขับเช่นเดียวกับ APM ใช้ล้อยางวิ่งบนรางคอนกรีตหรือรางเหล็กเพียงรางเดียว เลี้ยววงแคบและไต่ทางลาดชันได้ดี กินพื้นที่น้อยเนื่องจากใช้โครงสร้างขนาดเล็ก

ทำไมรถไฟฟ้าสายสีแดงจึงใช้ราง 1 เมตร?

รางรถไฟขนาดความกว้าง 1 เมตร หรือที่เรียกกันว่ามีเตอร์เกจ (Meter Gauge) สามารถรองรับรถไฟฟ้าที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดได้ไม่เกินประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าความเร็วสูงกว่านี้จะต้องใช้รางกว้างขึ้น เช่น ขนาด 1.435 เมตร เป็นต้น

เหตุที่รถไฟฟ้าสายสีแดงใช้ราง 1 เมตร ทราบว่าการรถไฟฯ ต้องการให้รถไฟชานเมืองและรถไฟทางไกลซึ่งใช้ราง 1 เมตร สามารถใช้รางร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีแดงได้ ซึ่งในอนาคตจะมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงออกไปชานเมืองไกลขึ้น เช่น ทิศเหนือไปถึงบ้านภาชี และทิศตะวันออกไปถึงฉะเชิงเทรา เป็นต้น ดังนั้นการใช้ราง 1 เมตร จะทำให้รถไฟฟ้าสายสีแดง รถไฟชานเมือง และรถไฟทางไกลสามารถใช้รางร่วมกันได้ เป็นการประหยัดเงินลงทุนของประเทศ

ท่านมีความเห็นอย่างไรต่อเหตุผลของการรถไฟฯ ที่ออกแบบให้รถไฟฟ้าสายสีแดงใช้ราง 1 เมตร ไม่ใช้ราง 1.435 เมตร เหมือนรถไฟฟ้าสายอื่น?