อิตาลีออกคำสั่งให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (https://www.burirampress.com/%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%a8%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%99-%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b8%a8%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%a2%e0%b9%8c/) ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ประเทศในยุโรปที่บังคับใช้มาตรการลักษณะดังกล่าว เพื่อพยายามผ่อนคลายแรงกดดันต่อการให้บริการด้านสาธารณสุขและลดอัตราการเสียชีวิต โดยมาตรการนี้มีผลบังคับใช้ทันทีไปจนถึงวันที่ 15 มิ.ย.
ทั้งนี้ อิตาลีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 กว่า 138,000 คนนับตั้งแต่การระบาดเริ่มต้นขึ้นในเดือนก.พ. ปี 2563 ซึ่งเป็นอัตราการเสียชีวิตสูงสุดอันดับ 2 ในยุโรป รองจากอังกฤษ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากีแห่งอิตาลีได้ออกคำสั่งให้บรรดาครูอาจารย์และบุคลากรแพทย์เข้ารับการฉีดวัคซีนไปแล้วและพนักงานทั้งหมดในประเทศต้องฉีดวัคซีนหรือแสดงผลตรวจหาเชื้อเป็นลบเพื่อเข้าสำนักงานนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่ผ่านมา โดยผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับจะถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ไม่ถูกไล่ออก
อิตาลีตัดสินใจเพิ่มความเข้มงวดต่อข้อบังคับดังกล่าว โดยยกเลิกทางเลือกแสดงผลตรวจหาเชื้อแทนการฉีดวัคซีนสำหรับพนักงานที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป แต่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.นี้จะได้รับบทลงโทษเช่นใด
"มาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้โรงพยาบาลต่าง ๆ สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ด้วยความราบรื่น และในขณะเดียวกันก็ยังสามารถเปิดโรงเรียนและดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจต่อไปได้" นายกฯ ดรากีกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี