• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Prichas

#2741


เมื่อวันที่ 3 ก.ย.กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จัดเสวนาผ่าน เฟซบุคไลฟ์ เรื่อง "ผนึกกำลังฝ่าวิกฤตโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการ" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนมาตรการป้องกันควบคุมโรค หยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานประกอบกิจการ ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีนายกอบชัย สิงสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน มีผู้ร่วมรับชมผ่าน เฟซบุค ไลฟ์ กว่าสองหมื่นคนทั่วประเทศ

นายกอบชัย สิงสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า การจัดเสวนาครั้งนี้ มีเป้าหมายในการควบคุมการแพร่ระบาด เพื่อปกป้องเศรษฐกิจประเทศให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของศูนย์บริหารสถานการณ์วิกฤตกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่ 1 เม.ย.–29 ส.ค. 2564 พบการติดเชื้อในโรงงาน 845 แห่ง ใน 62 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อกว่า 60,380 ราย โรงงานหลายแห่งต้องหยุดกิจการชั่วคราว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศ โดยมาตรการหลักที่จะใช้ป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ในโรงงานทั่วประเทศ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ได้แก่ มาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) โดยการจัดกลุ่มย่อย ทำงาน ทำกิจกรรม ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน สถานประกอบกิจการดำเนินการต่อไปได้ และมาตรการจีเอฟพี (Good Factory Practice :GFP) ที่เป็นพื้นฐานด้านสุขอนามัยที่ดีของโรงงานและพนักงาน

ทางด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การดำเนินการตามมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล ต้องดำเนินงานอย่างจริงจัง เพื่อลดการแพร่กระจายโรคโควิด 19 ภายในสถานประกอบกิจการและชุมชน ทั้งนี้การสื่อสารสร้างความเข้าใจให้กับพนักงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ สำหรับหัวข้อการเสวนาในวันนี้ ประกอบด้วย 6 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.สถานการณ์การแพร่ระบาดในโรงงาน โดยนายเดชา จาตุธนานันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม 2.มาตรการบับเบิลแอนด์ซีลและระบบพี่เลี้ยง (Coaching System) โดยนายแพทย์อภิชาติ วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค 3.การดูแลสุขภาพใจวัยทำงานภายใต้มาตรการบับเบิลแอนด์ซีล โดยนายแพทย์จุมภฎ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต 4.มาตรการจีเอฟพี ในสถานประกอบกิจการ โดยนายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย 5.การสนับสนุนและทิศทางของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยนางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล สภาอุตสาหกรรม 6.การแชร์ประสบการณ์การดำเนินงาน ต้นแบบสถานประกอบกิจการตามมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล จากโครงการอยุธยาโมเดล โดยบริษัทข้าวซี.พี. จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา ในการเสวนาครั้งนี้ มีทีมที่ปรึกษา ทีม Coaching ในการร่วมตอบคำถามกับผู้รับชมผ่านเฟซบุคไลฟ์ ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญในการบูรณาร่วมกันระหว่างกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ถือเป็นการผนึกกำลังทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการขับเคลื่อนมาตรการ "บับเบิลแอนด์ซีล" ปกป้องได้ ควบคุมไว แรงงานปลอดภัย เศรษฐกิจไทยเดินหน้า
#2742


วันนี้ (4 ก.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 64 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ 'สำรวจสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ในวิกฤตโควิด-19 การศึกษาไทยเดินหน้าอย่างไร ไม่ให้เด็กหลุดจากระบบการเรียนรู้' โดย ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุดปีการศึกษา 1/2564 มีเด็กยากจนและยากจนพิเศษ รวมประมาณ 1.9 ล้านคน ถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับเด็กทั้งหมด ในช่วงวัยเรียนการศึกษาภาคบังคับที่มีประมาณ 9 ล้านคน ซึ่งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้รายได้ของครอบครัวเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ลดลงเหลือเฉลี่ยเดือนละ 1,094 บาท อีกทั้งในรายละเอียดพบว่า รายได้จากการเกษตรหรือด้านอื่นๆ ส่วนใหญ่ลดลง แต่รายได้ที่เพิ่มมาจาก สวัสดิการรัฐ เงินช่วยเหลือเยียวยา และผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้จำนวนเด็กยากจนพิเศษที่คัดกรองรอบใหม่ภาคเรียนที่ 1/2564 เพิ่มมากขึ้นเป็นนิวไฮ คือ 1,302,968 คน หรือเพิ่มขึ้น 128,524 คน จากภาคเรียนที่ 2/2563 โดยคาดหวังว่าจำนวนเด็กที่ยากจนฉับพลันหลังสถานการณ์โควิด-19 จะเป็นแค่เพียงสถานการณ์ชั่วคราวที่จะคลี่คลายและกลับไปสู่สภาวะปกติได้ในอีกระยะเวลาไม่นาน

"จากความสุ่มเสี่ยงที่เด็กยากจนพิเศษจะหลุดจากระบบการศึกษา ที่ผ่านมา กสศ. ได้เข้าไปช่วยสนับสนุนทุนการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้นักเรียนยากจนพิเศษในช่วงชั้นรอยต่อกลับเข้าเรียนได้ โดยจากการติดตามล่าสุด ณ เดือนสิงหาคม พบว่า นักเรียนยากจนพิเศษช่วงชั้นรอยต่อ 294,454 คน นั้น 82.82% หรือ 242,081 คน เข้าสู่ระบบการศึกษาแล้ว แต่ยังมีเด็ก 43,060 คน หรือ 14.6% ยังไม่พบข้อมูลว่าได้กลับเข้ามาเรียนต่อ โดยส่วนใหญ่อยู่ในระดับ ม.3 จำนวน 33,710 คน และ ป.6 จำนวน 8,699 คน เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ติดตามเด็กกลุ่มนี้ไม่ให้หลุดออกจากระบบการศึกษา ทำให้เขาได้รับโอกาสและสิทธิประโยชน์"

รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวอีกว่า กสศ.ยังได้สำรวจนักเรียนยากจนพิเศษในพื้นที่ 29 จังหวัด ที่ประสบปัญหาการเรียนช่วงโควิด-19 เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและอุปกรณ์ พบว่า มีนักเรียนที่ประสบปัญหาถึง 87.94% หรือ 271,888 คน โดยจังหวัดที่พบปัญหามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ตาก นครราชสีมา และ ยะลา รวมถึง โควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อเด็กในเรื่องการติดเชื้อที่พบตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากต้นเดือนสิงหาคมที่มีเด็กติดเชื้อ 65,086 คน ขยับขึ้นเป็น 138,329 คน ในต้นเดือนกันยายน และมีเด็ก 366 คน สูญเสียพ่อแม่จากโควิด-19 ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ควรได้รับการดูแลระยะยาวลักษณะเดียวกับความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ หรือ สึนามิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่ให้ความช่วยเหลือเด็กที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ผู้ปกครองจากเหตุการณ์เหล่านั้น ให้ได้รับการศึกษาจนจบปริญญาตรี เพราะไม่มีใครมาช่วยดูแลพวกเขา

ดร.ไกรยส กล่าวต่อว่า รวมทั้งยังมีประเด็นเรื่องผลกระทบระยะยาว หรือ Long Covid ที่เด็กจะได้รับผลกระทบทางสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งควรได้รับการติดตามเป็นระยะ ตั้งแต่ 6 เดือนไปถึง 3 ปี โดยจะเห็นว่า ที่ผ่านมา กสศ.ได้ร่วมมือกับหลายฝ่ายตั้งศูนย์ช่วยเหลือวิกฤตโควิด-19 อีกด้านหนึ่ง โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจในระยะยาว ทำให้สูญเสียการพัฒนาทุนมนุษย์ ในวันที่เด็กเกิดน้อยลง มีเด็กจำนวนมากที่กำลังเสี่ยงจะหลุดจากระบบการศึกษา และยังเผชิญกับเรื่องความรู้ถดถอย หลังจากโควิดเราหวังว่าจะนำไปสู่ Build back equity นำความเสมอภาคกลับมา ประเทศก็จะสร้างการเจริญเติบโต

"กสศ. กำลังแสวงหาความร่วมมือเพื่อช่วยให้เด็กๆ ไม่หลุดจากระบบการศึกษา เป็นความพยายามที่อยากให้คนไทยทุกภาคส่วนเข้าไปสนับสนุนในส่วนไหนก็ได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เกิดความร่วมมือ ทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ ประชาชน ผู้นำทางความคิด มาร่วมเป็นเครือข่ายทางสังคมที่แน่นแฟ้น เอาชนะอุปสรรคไปด้วยกัน ทาง กสศ.ก็จะพยายามนำข้อมูลที่มีอยู่ มาแปลงเป็นความร่วมมือเพื่อสร้างความเสมอภาคให้เกิดขึ้น" รองผู้จัดการ กสศ.กล่าว
ด้าน ดร.ดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ นักเศรษฐศาสตร์ทรัพยากรมนุษย์ กลุ่มงานการศึกษา ประจำธนาคารโลกสำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า ผลการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการปิดเรียนราว 369 ล้านคน จากจำนวนประชากรเด็ก 375 ล้านคนทั่วโลก หลายประเทศจึงได้นำวิธีการต่างๆ มาใช้เพื่อลดความสูญเสียทางการศึกษาให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ด้วยการจัดการศึกษาผ่านออนไลน์ โทรทัศน์ ผสมผสานกับสื่อการเรียนรู้หลายรูปแบบ เช่น สั่งงานหรือการบ้าน ที่จะครอบคลุมถึงเด็กทุกกลุ่มไม่ให้หลุดจากการเรียนรู้ 100% อย่างไรก็ตาม การเรียนทางไกลกลับทำให้ช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายิ่งชัดเจนขึ้น

ดร.ดิลกะ เผยว่า ประเทศที่ถือว่าจัดการศึกษาออนไลน์ในระดับที่ประสบความสำเร็จ เช่น ประเทศจีน ที่ผลสำรวจชี้ว่าถึงแม้ครูกว่า 70% ยืนยันว่าเครื่องมือและระบบที่พร้อมและมีความเสถียรช่วยให้การจัดการศึกษาเข้าถึงนักเรียนได้ แต่อีก 40% ระบุว่าการเรียนผ่านระบบออนไลน์ทำให้เกิดปัญหาในการโต้ตอบกับนักเรียน รวมถึงอีกมากกว่า 50% ไม่สามารถจัดระเบียบควบคุมชั้นเรียนได้ สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจาก PISA ระบุว่า ก่อนวิกฤตโควิด-19 มีเด็กนักเรียนในกลุ่มยากจนด้อยโอกาสเข้าถึงคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเพียง 20% ขณะที่กลุ่มเด็กจากครอบครัวที่พร้อมสามารถเข้าถึงได้ 90% ดังนั้น จึงคาดการณ์ได้ว่าหากสถานการณ์การเรียนทางไกลเพื่อรับมือโรคระบาดยังยืดเยื้อต่อไป จะยิ่งส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา เกิดช่องว่างเพิ่มขึ้นในเด็กที่มาจากครอบครัวต่างกัน

"ผลการศึกษาประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า การจัดการศึกษาทางไกลทำให้ความรู้ของเด็กนักเรียนสูญหายไปราว 50% หรือเท่ากับเวลาประมาณครึ่งปี และหากสถานการณ์ยังต่อเนื่องไปถึงสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2021 อัตราการสูญหายทางการเรียนรู้ของเด็กจะยิ่งเพิ่มขึ้นไปเท่ากับช่วงเวลา 1 ปี การคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนไปถึงผลที่จะเกิดกับเศรษฐกิจในอนาคตว่า จะมีมูลค่าความสูญเสียมากกว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์"

ดร.ดิลกะ เผยอีกว่า ขณะที่ในประเทศไทย ถ้าสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2021 อัตราการสูญเสียการเรียนรู้จะอยู่ที่ประมาณ 1.27 ปี คิดความเสียหายเป็นมูลค่าประมาณ 3.9 แสนล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่ากับ 30% ของ GDP ซึ่งในอนาคตเด็กกลุ่มนี้จะทยอยเข้าสู่ตลาดแรงงาน ความรู้ที่สูญเสียไปจะหมายถึงคุณภาพของตลาดแรงงานที่ด้อยลง และเด็กกลุ่มนี้จะต้องอยู่ในตลาดแรงงานจนถึงปี 2081 หรือ 60 ปีนับจากนี้ และทุนมนุษย์ที่สูญเสียไปในช่วงนี้จะลดทอนศักยภาพอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโดยตรง ทั้งการสะสมทุน ผลผลิตของประเทศ รวมไปถึงการลดลงของพัฒนาการในทุกด้าน

ดร.ดิลกะ กล่าวว่า ปัญหาการศึกษาไทยมีมาก่อนวิกฤตโควิด-19 โดยตัวเลขจาก OECD ระบุว่า เด็กนักเรียนไทยกว่า 60% มีทักษะทางวิชาการต่ำกว่ามาตรฐานการเรียนรู้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม OECD ด้วยกัน โดยปัญหาหลักที่พบคือ การขาดแคลนทรัพยากรทางการศึกษา โดยเฉพาะบุคลากรครูที่ไม่เพียงพอในโรงเรียนทุกระดับ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในโรงเรียน เช่น อุปกรณ์การเรียนการสอน หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเอื้อต่อการจัดการศึกษาในปัจจุบัน

ขณะที่กลุ่มงานการศึกษา ประจำธนาคารโลกสำนักงานประเทศไทย มีแผนการทำงานร่วมกับ กสศ. และ สพฐ. ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้วยโครงการ Fundamental School Standard ซึ่งทำสำเร็จมาแล้วในประเทศต้นแบบ โดยจะทำการเก็บข้อมูลเบื้องต้น ทั้งการบริหารจัดการ ความเพียงพอของโครงสร้างพื้นฐาน เริ่มจากโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลจนถึงโรงเรียนในเมืองทั่วประเทศ แล้วนำมาออกแบบนิยามมาตรฐานโรงเรียนที่มีคุณภาพ เพื่อให้ สพฐ.มีแนวทางในการแก้ปัญหาของแต่ละโรงเรียนให้ถูกจุด เพิ่มเติมในส่วนที่ขาด และยกระดับมาตรฐานทุกโรงเรียนให้ทัดเทียมกัน ทำให้ในอนาคตไม่ว่าเด็กจะอยู่ในพื้นที่ใด ก็จะสามารถเข้าถึงโรงเรียนที่มีคุณภาพได้
#2743


การตลาด - โควิด-19 ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดหลายอย่างและความไม่แน่นอน รวมถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคบนโลกออนไลน์โดยเฉพาะวงการค้าปลีก โดยงานวิจัยใหม่ล่าสุดของทวิตเตอร์พบว่า 31% ของชาวทวิตภพที่ซื้อสินค้าออนไลน์รู้สึกว่าพวกเขาติดนิสัยการสั่งซื้อของออนไลน์ตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และ 92% หันมาช้อปออนไลน์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาปี 2564

การช้อปออนไลน์แทนที่จะเป็นกิจกรรมที่ต่างคนต่างทำ แต่ผู้คนหันมาใช้ทวิตเตอร์มากขึ้นเพื่อคอนเน็คกับชุมชนในวงกว้างและพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสินค้าที่ได้ซื้อมา นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีบทสนทนาเกี่ยวกับการช้อปปิ้งมากถึง 53 ล้านบทสนทนาบนทวิตเตอร์ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 36% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และ 75% ยังมีการค้นหาสินค้าและร้านค้าออนไลน์ใหม่ๆ อีกด้วย

บทสนทนาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เกิดการช้อปออนไลน์ โดยคนไทยบนทวิตเตอร์ 39% มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าเมื่อได้อ่านรีวิวการใช้งานจากคนอื่น และ 1 ใน 3 (หรือประมาณ 36%) มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าเมื่อทวีตนั้นมียอด "ไลค์" เยอะหรือมีคอมเม้นต์ดีๆ บนโซเชียลมีเดีย

นายมาร์ติน ยูเรน หัวหน้าแผนกงานวิจัย ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและระดับโลกของทวิตเตอร์ เปิดเผยว่า "แม้ว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ก็ตาม แต่งานวิจัยของเราพบว่าผู้บริโภคชาวไทย มีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศไทยและระดับโลก ซึ่งนำไปสู่การซื้อของออนไลน์ที่มีการเติบโตพุ่งสูงขึ้น โดย 35% ของผู้คนบนทวิตเตอร์ชาวไทยมีการซื้อของออนไลน์มากกว่า 10 ครั้งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และ 1 ใน 3  ของกลุ่มนี้มีการซื้อสินค้าออนไลน์จำนวนที่มากกว่าซื้อที่ร้านค้าอีกด้วย"
อีกไม่กี่เดือนก็จะสิ้นปี2564แล้ว ทวิตเตอร์จึงได้เจาะลึกเทรนด์ #ShoppingDays ในประเทศไทยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนี้



*** การช้อปออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ
ถึงแม้หลายๆ คนต้องหันมาซื้อของทางออนไลน์เพราะความจำเป็น แต่ก็เห็นได้ชัดว่าร้านค้าปลีกมีความพยายามที่จะสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นให้นักช้อปทั้งหลายซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เช่นการดึงเหล่าคนดัง ดารา พรีเซนเตอร์ชื่อดังมาร่วมงานและจัดอีเวนต์ขายของด้วยระบบไลฟ์สตรีมมิ่งที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการทำการตลาดเนื่องจากการช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับทุกคนไปแล้ว
ทั้งนี้15% ของผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ในประเทศไทย รู้สึกว่าการซื้อสินค้าออนไลน์มอบประสบการณ์ที่ไม่ต่างจากการไปซื้อสินค้าที่ร้านค้า ในขณะที่ 23% ชื่นชอบประสบการณ์การซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์มากกว่า โดย 31% เชื่อว่าพวกเขาซื้อสินค้ามากขึ้น เมื่อเทียบกับการไปซื้อที่ร้านค้า และ 27% เชื่อว่าถึงแม้ร้านค้าปลีกจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติพวกเขาก็จะยังคงสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ต่อไป

*** ทางเลือกของรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป
ตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดทำให้การจัดลำดับความสำคัญของการซื้อสินค้าในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ยกตัวอย่างการซื้อของใช้ที่จำเป็น ก็ถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมมาซื้อสินค้าทางออนไลน์แทน ทำให้นักช้อปออนไลน์เลือกซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น เช่น เสื้อผ้า (48%) และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว (51%)

เนื่องจากทุกคนจำเป็นต้องใช้เวลาอยู่บ้านเพิ่มมากขึ้น คนไทยส่วนใหญ่จึงมองหาสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้เวลาอยู่บ้าน เช่น 44% ต้องการซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ ส่วนอีก 30% มองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ส่วนการรักษารูปร่างให้ฟิตแอนด์เฟิร์มและมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง ยังคงเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ โดยนักช้อป 21% เลือกที่จะซื้อยาและอาหารเสริมทางออนไลน์ และอีก 9% เลือกที่จะลงทุนในแผนประกันต่างๆ



*** ปิดการขาย
บทสนทนาของผู้บริโภคมีความสำคัญกับแบรนด์ โดยเฉพาะเมื่อเป็นการซื้อสินค้าออนไลน์ เนื่องจากผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ 45% บนทวิตเตอร์ประเทศไทยกล่าวว่า รีวิวจากผู้ใช้งานจริงช่วยให้พวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าต่างๆ ขณะที่ 34% ให้น้ำหนักกับคอมเม้นต์และรีวิวที่อยู่บนทวิตเตอร์ โดย 34% ระบุว่า ได้เข้าไปดูสินค้าที่เว็บไซต์หรือไม่ก็จะหาข้อมูลของสินค้านั้นๆ เพิ่มเติม หลังจากที่ได้เห็นโฆษณาบนทวิตเตอร์
แล้วแบรนด์จะสามารถสร้างแรงจูงใจในแง่บวกต่อผู้บริโภคได้อย่างไร? ระหว่างที่นักช้อปไทยกำลังศึกษาข้อมูลในการซื้อ พบว่ามีหลายปัจจัยสร้างแรงดึงดูดในการตัดสินใจซื้อ เช่น การจัดส่งฟรี (62%) มีคูปองและส่วนลด (58%) และบริการเก็บเงินปลายทาง (36%)

อย่างไรก็ตาม การได้เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาทั้งหมดบนโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่สำคัญ ยกตัวอย่างเช่น คนไทยจำนวน 61% มีแนวโน้มที่จะศึกษาหาข้อมูลของสินค้าทางออนไลน์ และ 65% มีแนวโน้มที่จะใช้คูปองและโค้ดส่วนลด ถ้าหากว่าพวกเขาเพิ่งใช้งานเป็นครั้งแรก เช่น เห็นจากการรีวิวหรือแคมเปญ โดยเฉลี่ยแล้วแบรนด์ที่ผลักดันให้เกิดบทสนทนาบนทวิตเตอร์ให้เพิ่มขึ้น 10% จะสามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น 3%



แบรนด์สามารถใช้สูตรสำเร็จของทวิตเตอร์มาปรับใช้กับกลยุทธ์รับวันช้อปปิ้ง #ShoppingDays ได้ดังนี้

1. ฟัง (Listen) - แคมเปญที่จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้น ต้องมีความเกี่ยวข้องและกำลังจะมีความเกี่ยวข้อง แบรนด์ควรฟังกลุ่มเป้าหมายบนทวิตเตอร์และมองหาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ หรือ กำลังสนใจ หรือ สนทนาเกี่ยวกับเรื่องอะไรอยู่
2. อุ่นเครื่อง (Tease) - แบรนด์ควรเป็นผู้เริ่มบทสนทนากับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเป็นการสร้างและผูกสัมพันธ์ ตลอดจนสร้างความสนใจก่อนที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ
3. การเปิดตัว (Reveal) - เป็นช่วงเวลาที่แบรนด์เปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการสู่ตลาดและสร้างการรับรู้
4. หลังการเปิดตัว (Reinforce) - หลายแบรนด์อาจมองข้ามสเต็ปเพื่อหล่อเลี้ยงบทสนทนากับกลุ่มเป้าหมายนี้ไป โดยขั้นตอนนี้จะช่วยผลักดันให้แบรนด์ต่างๆ เข้ามาอยู่ในใจ ตลอดจนกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและเกิดการบอกต่อ

*** เชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายบนทวิตเตอร์
ทวิตเตอร์คือสถานที่ที่ผู้คนเข้ามาเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น #WhatsHappening และเห็นว่ามีบทสนทนา แพสชั่น เหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังขับเคลื่อนสังคมและส่งผลต่อด้านอื่นๆ ของชีวิตได้
นอกจากชาวทวิตภพจะทรงอิทธิพลและมีความกระตือรือร้นแล้ว ทวิตเตอร์นับได้ว่าเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์ เพราะสามารถสื่อสารไปในวงกว้างได้มากกว่าและเร็วกว่าแพลตฟอร์มอื่น อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการสร้างความเชื่อมโยงทั้งแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เทศกาลแห่งการช้อปปิ้งออนไลน์ #ShoppingDays กำลังใกล้เข้ามาอีกครั้ง.
#2744


วันนี้ (4 ก.ย.) นายอิสระ ชูภักดี เจ้าของแบรนด์ KORKOK ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญาพื้นบ้านด้วยการทอเสื่อกกจันทบูรออกขายจนเป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนาน ได้นำผู้สื่อข่าวชมการแปรรูปผลิตภัณฑ์เสื่อกก บ้านเสม็ดงาม ต.บางสระแก้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ให้เป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋าเสื่อจันทบูร จนสามารถต่อยอด สร้างมูลค่าการขายผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างงดงาม

โดยกระเป๋าเสื่อจันทบูร ผลิตจาก 'กกสองน้ำ' ที่ขึ้นอยู่บริเวณชายฝั่งและมีคุณสมบัติพิเศษคือเส้นใยที่เหนียว แข็งแรง ไม่ขึ้นราได้ง่ายเท่ากับกกน้ำจืด ที่ใช้สำหรับถักทอเป็นเสื่อจันทบูร ที่มีความแข็งแรงและทนทาน



เจ้าของแบรนด์ KORKOK ยังบอกอีกว่า การแปรรูปผลิตภัณฑ์เสื่อกก สู่กระเป๋าเสื่อจันทบูร ถือเป็นการปรับรูปแบบผลิตภัฑณ์ให้เหมาะสมกับธรรมชาติที่มีอยู่รอบด้านตามวิถีชีวิตเฉพาะถิ่น ที่มีอัตลักษณ์และเต็มไปด้วยเสน่ห์ จนทำให้สินค้าเมื่อถูกนำออกขายผ่านช่องทางออนไลน์สามารถสร้างผลตอบรับได้ดีเกินคาด และปัจจุบันยังมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะคือผู้ที่รักงานที่เป็นเอกลักษณ์พื้นถิ่นมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันกระเป๋าเสื่อจันทบูร เน้นการขายผ่านระบบออนไลน์เพื่อเปิดตลาดทั้งในและต่างประเทศในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยการผลิตเน้นการถักทอแบบโบราณ ผสมผสานการออกแบบรูปทรงทันสมัย และมีราคาขายเริ่มต้นที่ 3,000 บาท ตามขนาดและรูปร่าง

"แม้ราคาขายจะค่อนข้างสูงแต่ลูกค้าต่างเข้าใจในขั้นตอนการผลิตที่ยุ่งยาก และใช้เวลายาวนานต่อการผลิต 1 ใบ เนื่องจากต้องใช้ทั้งความประณีตและละเอียดลออ ถือเป็นการสร้างมูลค่าสินค้าพื้นบ้านยกระดับสู่ตลาดยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี"



นายอิสระ ยังเผยอีกว่า นอกเหนือจากลูกค้าจะได้ใช้ของดีและของที่มีคุณค่าแล้ว การใช้กระเป๋าเสื่อจันทบูร ยังถือเป็นการช่วยเหลือชุมชน และช่วยต่อลมหายใจของกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ที่มีอาชีพทอเสื่อกกมานาน

เนื่องจากปัจจุบันเหลือเพียงกลุ่มคนรุ่นสุดท้ายเท่านั้นที่ยังทอเสื่อกก ซึ่งกระเป๋าที่ถูกแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยมากขึ้นสามารถการันตีได้เลยว่ามีแค่เพียงใบเดียวในโลก ซึ่งถือว่ามีคุณค่าทางจิตใจได้เป็นอย่างดี
#2745
ข้าวออร์แกนิกคุณภาพดีสำหรับคุณแม่ให้นมลูก
นโยบายส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์  นาข้าวอินทรีย์  การผลิตข้าวอินทรีย์ต้นทุนต่ำ  ข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค (ข้าวเพื่อสุขภาพสุรินทร์)
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ข้าวแฟร์เทรด  " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ข้าวสุขภาพมะลินิล, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.   ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3. ข้าวหอมมะลิอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ขายข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวปะกาอำปึลเกษตรอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6. ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคคือ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ข้าวผกาอำปึลออแกนิคสำหรับทารก, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์สุรินทร์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9. ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิคคือ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ข้าวหอมมะลิorganic
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ
3.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิก  ข้าวผกาอำปึลเพื่อสุขภาพ (ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิคสุรินทร์
5. ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิคสำหรับทารก 6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์
7. ข้าวไรซ์เบอรี่organic  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#2746


เวิร์คเมท (Workmate) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจัดหาและการจัดการพนักงานกลุ่มปฏิบัติการเผยตัวเลขความสำเร็จล่าสุด ระบุช่วยหางานที่เหมาะสมให้กับแรงงานไทยกว่า 12,000 คนนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตอบโจทย์กลุ่มแรงงานนอกระบบหรือแรงงานอิสระผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงให้สามารถหางานท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแรงงานที่ใช้ระบบเข้างานแบบเป็นกะ (Shift-Based Industry) ทำให้ความต้องการแรงงานมีความผันผวน และองค์กรธุรกิจต้องรับมือกับข้อจำกัดมากมายในการดำเนินงาน

มาร์ติน โซเรนเซน ซีอีโอ เวิร์คเมท ประเทศไทย กล่าวว่าดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยจัดการดาต้าต่างๆ ของแรงงานได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่จำเป็นต้องพึ่งพาแรงงานเป็นจำนวนมากซึ่งกระบวนการและดาต้าต่างๆ ค่อนข้างไม่สมบูรณ์และค่อนข้างกระจัดกระจาย

"โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิดทำให้หลายบริษัทที่เป็นลูกค้าของเวิร์คเมทเล็งเห็นถึงความสำคัญในการใช้แพลตฟอร์มของเราเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้มากขึ้น"

นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เวิร์คเมทระบุว่าได้ช่วยในการหางานที่เหมาะสมให้กับแรงงานไทยไปแล้วกว่า 12,000 คน คิดเป็นจำนวนวันทำงานเกือบ 450,000 วัน ซึ่งกลุ่มแรงงานนอกระบบหรือแรงงานอิสระผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงได้มีโอกาสใช้บริการเวิร์คเมทเพื่อช่วยในการหางานที่ยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เวิร์คเมทให้บริการในการหางานสำหรับพนักงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 มาร์ติน โซเรนเซน
มาร์ติน โซเรนเซน

บริษัทย้ำว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด ธุรกิจหลายแห่งประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานเป็นทุนเดิม อีกทั้งการที่พนักงานอยู่ไกลจากสถานที่ทำงานหรืออาศัยในจังหวัดใกล้เคียงก็ยังเป็นความท้าทายที่พบได้บ่อย บริษัทหลายแห่งจึงมีการจัดรถโดยสารประจำวัน รับส่งแรงงานตามจุดต่างๆ เพื่อไปส่งยังที่ทำงาน แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดทางด้านการขนส่ง ซึ่งความท้าทายที่มากขึ้นในการจัดหาแรงงานที่พร้อมทำงาน โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องใช้กำลังคนจำนวนมากในการดำเนินงาน

จากผลสำรวจของ Manpower Group พบว่า ภาคการขนส่งและโลจิสติกส์มีอัตราการเติบโตสูงสุดในปี 2020 อยู่ที่ 4.83% เนื่องมาจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด ทางด้านองค์การแรงงานระหว่างประเทศยังสังเกตเห็นความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมการกระจายสินค้าในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ความต้องการแรงงานที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์นี้สามารถหาแรงงานมาทดแทนได้ด้วยการจ้างงาน ผู้ที่ตกงานจากอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด เช่น อุตสาหกรรรมอาหารและเครื่องดื่ม และการบริการ

แพลตฟอร์มจ้างงานของเวิร์คเมทเคลมว่ามีการใช้เทคโนโลยีแมตชิ่งงานด้วยการเชื่อมต่อธุรกิจกับกลุ่มแรงงานที่พร้อมทำงาน และผ่านการคัดกรองอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถแก้ปัญหาความต้องการแรงงานได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่สามารถลดระยะเวลาและขั้นตอนในการจ้างงานได้ดีกว่าจากการจ้างงานในรูปแบบเดิมได้

แพลตฟอร์มเวิร์คเมท ย้ำว่าสามารถช่วยให้นายจ้างจ้างแรงงานได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง ด้วยการเข้าถึงเครือข่ายกลุ่มแรงงานกว่า 100,000 คนซึ่งผ่านการคัดกรองแล้วด้วยดาต้าจากการเรตติ้งจากผู้ว่าจ้างงานก่อนหน้า ประวัติการเข้างาน ที่อยู่อาศัยที่ใกล้สถานที่ทำงาน คะแนนทักษะที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่ง ซึ่งผู้สมัครและงานนั้นๆจะถูกแมตช์ด้วยข้อมูลเหล่านี้โดยการใช้เทคโนโลยี AI ซึ่งจากการใช้งานพบว่า 90% ของงานที่ประกาศบนแพลตฟอร์มเวิร์คเมท จะได้รับการจ้างงานครบทุกตำแหน่งภายใน 4 ชั่วโมงเท่านั้น



ฟู้ดแพนด้า (foodpanda) เป็นองค์กรหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากการใช้โซลูชั่นการจ้างงานของเวิร์คเมท หลังจากเปิดตัวแพนด้ามาร์ท (Pandamart) เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการซื้อของประเภทอุปโภคบริโภคต่างๆที่เพิ่มขึ้นผ่านทางออนไลน์อันเนื่องมาจากการล็อกดาวน์ ฟู้ดแพนด้าได้ร่วมมือกับเวิร์คเมทในการจ้างงานพนักงานประจำแพนด้ามาร์ทกว่า 32 สาขาทั่วประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีบริษัทจัดหางาน อาร์แอลซี ประเทศไทย (RLC Recruitment Thailand) ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหางานและให้คำปรึกษาแบบครบวงจร ที่ร่วมมือกับเวิร์คเมทในปี 2020 โดยมุ่งหวังในการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการจ้างงาน ทำให้ลูกค้าสามารถจ้างพนักงานที่ทำงานแบบกะได้มากขึ้น

สำหรับวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบรุนแรงต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไทย เวิร์คเมทระบุว่าขอเป็นหนึ่งกำลังสำคัญในการช่วยเหลือกลุ่มภาคธุรกิจและประชาชน โดยการขยายเทคโนโลยีการจ้างและหางานนี้ไปสู่ชุมชนในวงกว้าง เปิดให้กลุ่มธุรกิจสามารถใช้แพลตฟอร์มของเวิร์คเมทในการลงประกาศรับสมัครงาน พร้อมใช้เทคโนโลยีแมตชิ่งอัจริยะของเวิร์คเมทได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ความช่วยเหลือนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมริเริ่มที่เวิร์คเมทมุ่งหวังเพื่อจะช่วยให้คนงานในท้องถิ่นสามารถเข้าถึงงานที่เหมาะสม และให้ธุรกิจสามารถจ้างงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาอันท้าทายนี้.
#2747
ซื้อทั้งที ซื้อของดีไปเลย ...
ผักอบกรอบ ผับรวมอบกรอบ ผักและผลไม้อบกรอบ ผักอบ tts888 [พร้อมทาน]
เกรดพรีเมี่ยม ผลิตใหม่ตลอด = 100 กรัม = ไม่เหม็นหืน การันตรีความอร่อย
สินค้ายอดนิยม ที่มีคะแนนเรทติ้งถึง 290 คะแนน
--------------------------------------------------------
ราคา 59 บาท
--------------------------------------------------------
สั่งซื้อได้เลยที่นี่ >>https://bit.ly/3jCCqJS
รายละเอียดสินค้า
หากคุณกำลังมองหา ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Unknown
เป็นสินค้าขายดีในหมวด ช็อกโกแลต,ขนมขบเคี้ยวและขนมหวาน จาก Unknown in TH
เราได้คัดสรรค์สินค้าดี มีคุณภาพ มาให้คุณได้เลือกซื้อ
พิเศษสุด วันนี้ จากราคาปกติ 200 บาท เหลือเพียง 59 บาท เท่านั้น (ลดถึง 70%)"
ผักอบกรอบ ผับรวมอบกรอบ ผักและผลไม้อบกรอบ ผักอบ tts888 [พร้อมทาน]
เกรดพรีเมี่ยม ผลิตใหม่ตลอด = 100 กรัม = ไม่เหม็นหืน การันตรีความอร่อย เป็นสินค้าใหม่ ได้ความนิยมในระดับ 290 คะแนน
----------------------------------------------
สินค้าคุณภาพ
สั่งซื้อง่าย ๆ เพียงแค่กดที่ลิงค์ด้านล่าง สั่งผ่านระบบ ไม่มีโจร ไม่ต้องโอนเงินก่อน
--------------------------------------------
สั่งซื้อได้เลยที่นี่ >>https://bit.ly/3jCCqJS
--------------------------------------------
สินค้าใหม่
ถูกใจใช่เลย
สินค้าคุณภาพ
สินค้าพร้อมส่ง
รับประกันความพอใจ
หมายเหตุ :โปรดตรวจสอบราคา ณ ปัจจุบัน ก่อนสั่งซื้อทุกครั้ง
#2748


ข่าวเศร้าคนรักแมว พบเจ้าเหมียวจำนวนมากกลายเป็นแมวจรติดเกาะพีพีนับพันตัว เหตุเจ้าของเป็นพนักงานและลูกจ้าง ได้รับผลกระทบจากโควิด ไม่มีงานต้องกลับภูมิลำเนา ก่อนมีลูกมีหลานนับพันตัว คนบนเกาะใจบุญควักเงินซื้ออาหารแมว 20 กิโลกรัมทุก 3 วัน วอนผู้ใจบุญส่งความช่วยเหลือตามกำลัง

วันนี้ (3 ก.ย.) ในโลกโซเชียลฯ มีการกล่าวถึงเฟซบุ๊กเพจที่มีชื่้อว่า "แมวติดเกาะ พีพี Phi Phi Island's cats" ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กที่โพสต์ภาพความน่ารักของแมวบนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองฯ จ.กระบี่ ตามรายงานข่าวระบุว่า แมวเหล่านี้เป็นแมวจร ประสบปัญหาขาดผู้ดูแล เนื่องจากเจ้าของแมวซึ่งเป็นพนักงาน หรือลูกจ้างธุรกิจการท่องเที่ยวบนเกาะ กลับภูมิลำเนาและตัดสินใจทิ้งแมวไว้บนเกาะ ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา เพราะคาดว่าไม่นานจะได้กลับมา แต่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เดิมแมวอาศัยอยู่กับเจ้าของภายในบ้านหรือที่พัก แต่เมื่อไม่มีเจ้าของและร้านอาหารปิดกิจการ ทำให้แมวเริ่มขาดอาหาร

โดยผู้ใจบุญรายหนึ่งพบแมวจำนวนมากอยู่ในอาการหิวอาหาร จึงเริ่มตระเวนให้อาหารแมวครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ถึงปัจจุบัน โดยยอมควักเงินส่วนตัวซื้ออาหารแมวทุก 3 วัน 20 กิโลกรัม เพื่อไม่ให้แมวอด แม้ที่ผ่านมาจะมีหน่วยงานมาช่วยจับแมวทำหมัน และมีเจ้าของแมวเดิมเดินทางรับกลับไปแล้วบางส่วน แต่เนื่องจากแมวสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนประชากรแมวจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นแมวจรอยู่บนเกาะพีพี

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง และปศุสัตว์อำเภอเมืองกระบี่เข้าสำรวจ พบว่ามีแมวติดอยู่บนเกาะนับพันตัว ซึ่งกลุ่มคนรักแมวได้แบ่งเวรให้อาหารมื้อเช้า และเย็น รวม 2 มื้อ จึงทำให้แมวยังมีความอ้วนท้วนสมบูรณ์อย่างที่เห็น หลังได้รับแนะนำจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพบเห็นแมว ว่าควรรับบริจาคอาหารจากกลุ่มคนรักแมวด้วยกัน และแนะนำให้เปิดเพจ จึงได้เปิดเพจ "แมวติดเกาะพีพี" มีผู้ติดตามและจัดส่งอาหารมาให้จำนวนหนึ่ง พร้อมให้กำลังใจเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้มีจิตกุศลที่ต้องการช่วยค่าอาหารแมว สามารถส่งความช่วยเหลือตามกำลัง โดยส่งอาหารแมวได้ที่ คุณกัญญา ภักดีรักษ์พงศ์ 125/41 หมู่ 7 เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ 81210 หรือโทรศัพท์ไปที่ 084-713-2369
 
#2749


จากการเปิดเผยของ cointelegraph ระบุว่าธนาคารกลางของออสเตรเลีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และแอฟริกาใต้ได้ประกาศการริเริ่มร่วมกันเพื่อทดลองใช้การตั้งถิ่นฐานระหว่างประเทศโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) โดยความคิดริเริ่มนี้มีชื่อว่า Project Dunbar จะเป็นต้นแบบของแพลตฟอร์มที่ใช้ร่วมกันซึ่งช่วยให้สามารถโอนเงินโดยตรงระหว่างสถาบันต่าง ๆ โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางหลายแห่ง การค้นพบของนักบินจะนำไปใช้เพื่อแจ้ง "การพัฒนาแพลตฟอร์มระดับโลกและระดับภูมิภาค" นอกเหนือจากการสนับสนุนแผนงานของ G20 ในการปรับปรุงการชำระเงินข้ามพรมแดน

อย่างไรก็ดีโครงการ Dunbar จะดำเนินการร่วมกับศูนย์นวัตกรรม Bank for International Settlements (BIS) จากศูนย์สิงคโปร์ โดยโครงการจะสรรหาพันธมิตรหลายรายเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทหรือ (DLT) ที่แตกต่างกัน และสำรวจการออกแบบต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ธนาคารกลางสามารถแบ่งปันโครงสร้างพื้นฐานของ CBDC ได้

การประกาศร่วมเน้นถึงการประหยัดอย่างมีประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินตาม DLT โดยระบุว่า

"แพลตฟอร์ม multi-CBDC เหล่านี้จะช่วยให้สถาบันการเงินทำธุรกรรมระหว่างกันโดยตรงในสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางที่เข้าร่วม ขจัดความจำเป็นในการเป็นตัวกลาง และลดเวลาและต้นทุนในการทำธุรกรรม"

ขณะที่ Michele Bullock ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เน้นย้ำว่า "การเพิ่มการชำระเงินข้ามพรมแดนได้กลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับชุมชนการกำกับดูแลระหว่างประเทศ" และเสริมว่า RBA นั้น "ให้ความสำคัญมาก" กับเรื่องนี้ในนโยบายภายในประเทศ

ขณะที่ Andre McCormack หัวหน้าศูนย์นวัตกรรม BIS Innovation Hub Singapore Centre กล่าวว่า "Project Dunbar เป็นการรวมตัวของธนาคารกลางที่มีประสบการณ์และมุมมองที่ไม่เหมือนใครในโครงการ CBDC และพันธมิตรด้านระบบนิเวศในขั้นตอนขั้นสูงของการพัฒนาทางเทคนิคเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล

"ด้วยกลุ่มพันธมิตรที่มีความสามารถและความมุ่งมั่นนี้ เรามั่นใจว่างานของเราเกี่ยวกับ multi-CBDCs สำหรับการตั้งถิ่นฐานระหว่างประเทศจะเป็นการบุกเบิกใหม่ในขั้นต่อไปของการทดลอง CBDC และวางรากฐานสำหรับการเชื่อมต่อการชำระเงินทั่วโลก"

ขณะที่ RBA ประเมินความต้องการ CBDC ในประเทศอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม โดยอ้างถึงความสำเร็จของแพลตฟอร์มการชำระเงินใหม่ ซึ่งช่วยให้สามารถโอนเงินทางดิจิทัลได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ Project Dunbar คาดว่าจะสาธิตต้นแบบทางเทคนิคของแพลตฟอร์ม DLT ที่ใช้ร่วมกันที่งาน Singapore FinTech Festival ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ซึ่งความคิดริเริ่มนี้คาดว่าจะเผยแพร่ผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์ในต้นปี 2565
#2750


ใกล้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับสวนสนุกแห่งใหม่ในจีน Universal Beijing Resort (ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต) ที่มีกำหนดการเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 กันยายน 2564 (ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทดลองเปิดสำหรับแขกที่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการไปแล้ว)

มาทำความรู้จักกับสวนสนุกน้องใหม่ล่าสุด ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ในขณะนี้)

ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต (ภาพ : สำนักข่าวซินหัว)
ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต (ภาพ : สำนักข่าวซินหัว)

"ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต" ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของปักกิ่ง จัดเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แห่งที่ 5 ของโลก, แห่งที่ 3 ในเอเชีย และแห่งแรกในจีน โดยมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้ ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตารางกิโลเมตร รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เครื่องเล่น และการแสดงที่ดีที่สุดจากยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ จากทั่วโลก พร้อมทั้งการออกแบบที่สะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมของจีน

เงินลงทุนสำหรับโครงการสวนสนุกยูนิเวอร์แซลแห่งนี้สูงถึง 46,000 ล้านหยวน หรือราว 2.3 แสนล้านบาท โครงการในระยะแรกประกอบด้วยสวนสนุก โรงแรมอีก 2 แห่ง และ ยูนิเวอร์แซล ซิตี้วอล์ค ซึ่งเชื่อมต่อถึงกันด้วยแม่น้ำจำลอง

สำหรับในโซนสวนสนุก ประกอบด้วยอาณาจักรทั้งหมด 7 แห่ง 7 ธีม ได้แก่

Minion Land (ภาพ : สำนักข่าวซินหัว)
Minion Land (ภาพ : สำนักข่าวซินหัว)

มินเนียนแลนด์ (Minion Land) โลกมหัศจรรย์ของเหล่าลูกสมุนแห่งอิลลูมิเนชั่น โซนนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความน่ารักของเหล่ามินเนียน สร้างบรรยากาศให้เหมือนกับได้เข้าไปอยู่ในในโลกเดียวกัน มีการแสดงจากตัวละครในอนิเมชั่น SING ที่ใครๆ ก็หลงรัก

Kung Fu Panda Land (ภาพ : สำนักข่าวซินหัว)
Kung Fu Panda Land (ภาพ : สำนักข่าวซินหัว)

กังฟูแพนด้าแลนด์แห่งความวิเศษสุด (Kung Fu Panda Land of Awesomeness) ย้อนยุคเข้าสู่ดินแดนโบราณ กับภาพที่คุ้นเคยกันมาจากภาพยนตร์กังฟูแพนด้า มาพบกับตัวละครที่ชื่นชอบจากภาพยนตร์ อย่าง Po ผู้กล้าที่ต้องการแสวงหาการเป็นอาจารย์กังฟู ซึ่งที่นี่เป็นธีมกังฟูแพนด้าแห่งแรกของโลก

Jurassic World Isla Nublar (ภาพ : universalbeijingresort.com)
Jurassic World Isla Nublar (ภาพ : universalbeijingresort.com)

เกาะอิสลานูบลาร์แห่งจูราสสิกเวิลด์ (Jurassic World Isla Nublar) ตื่นตากับโลกของ Jurassic World พบกับไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น Tyrannosaurus Rex, Velociraptors, Ankylosaurs และ Indominus Rex และสัมผัสประสบการณ์การผจญภัยครั้งใหญ่ของโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน

Transformers: Metrobase (ภาพ : universalbeijingresort.com)
Transformers: Metrobase (ภาพ : universalbeijingresort.com)

ทรานสฟอร์เมอร์ : เมโทรเบส (Transformers: Metrobase) ต้อนรับเข้าสู่ Metrobase คือ N.E.S.T. สำนักงานใหญ่ในปักกิ่ง เป็นสถานที่ลับสุดยอดแห่งเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งออโต้บอทและมนุษย์ยืนหยัดร่วมกันเพื่อปกป้องโลก มีไฮไลต์เป็นเครื่องเล่น 2 ตัว คือ รถไฟเหาะตีลังกา และเครื่องเล่น Transformers The Ride-3D

The Wizarding World of Harry Potter (ภาพ : universalbeijingresort.com)
The Wizarding World of Harry Potter (ภาพ : universalbeijingresort.com)

โลกแห่งเวทมนตร์ของแฮร์รี พอตเตอร์ (The Wizarding World of Harry Potter) เป็นธีมจากหนังสือและภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งเป็นแห่งที่ 2 ในเอเชีย สำรวจความลึกลับของปราสาทฮอกวอร์ต เยี่ยมชมหมู่บ้าน Hogsmeade และลิ้มลองอาหารจากสถานประกอบการที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกของพ่อมดแม่มด พร้อมสัมผัสประสบการณ์เครื่องเล่นสุดหวาดเสียวและสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาคุณสู่โลกแห่งความตื่นตาตื่นใจ

WaterWorld (ภาพ : universalbeijingresort.com)
WaterWorld (ภาพ : universalbeijingresort.com)

อาณาจักรใต้น้ำ (WaterWorld) สนุกไปกับกิจกรรมสุดระทึกและการแสดงมากมาย รอชมโชว์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ได้ที่นี่

Hollywood Boulevard (ภาพ : universalbeijingresort.com)
Hollywood Boulevard (ภาพ : universalbeijingresort.com)

ฮอลลีวูด (Hollywood Boulevard) เดินเล่นที่ Hollywood Walk of Fame แหล่งรวมร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก และโชว์การแสดงต่างๆ และฉากต่างๆ เสมือนโรงถ่ายภาพยนตร์ ยกเอาสตูดิโอถ่ายหนังและบรรยากาศเหมือน Hollywood ที่อเมริกามาไว้ที่นี่ รวมถึงเปิดประสบการณ์ชม special effects ที่นำมาใช้จริงในภาพยนตร์

The Universal Studios Grand Hotel (ภาพ : universalbeijingresort.com)
The Universal Studios Grand Hotel (ภาพ : universalbeijingresort.com)

ส่วนที่พักของที่นี่ สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในสวนสนุก ก็มี 2 แห่ง คือ The Universal Studios Grand Hotel ตั้งอยู่ตรงทางเข้าสวนสนุก เพียงเดินไม่กี่ก้าวก็ถึง ออกแบบให้มีความผสมผสานระหว่างสไตล์ฮอลลีวูดคลาสสิก และความสะดวกสบายร่วมสมัย

อีกแห่งคือ The NUO Resort Hotel ที่ตั้งอยู่ห่างจากสวนสนุกเล็กน้อย เป็นโรงแรมที่เงียบสงบและหรูหรา ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ชิง มีห้องพัก 400 ห้อง สปา ห้องอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งนี้ ผู้เข้าพักโรงแรมทั้งสองแห่งจะได้สิทธิพิเศษในการเข้าชม Universal Beijing Resort

The NUO Resort Hotel (ภาพ : universalbeijingresort.com)
The NUO Resort Hotel (ภาพ : universalbeijingresort.com)

อีกโซนที่สามารถเข้าได้ฟรี ไม่ต้องซื้อตั๋วเพื่อผ่านประตู คือ Universal CityWalk โซนนี้รวบรวมร้านค้า ร้านอาหารชื่อดังมากมาย เช่น ร้านกาแฟ Peet's ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย, The Cowfish Sushi Burger Bar, Red Oven Pizza Bakery, JUMBO Seafood Restaurant เป็นต้น ยังมีโรงภาพยนตร์ และร้านขายของที่ระลึกอีกด้วย

สำหรับการเดินทางเข้ามายัง "ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต" ก็สะดวกสบายเป็นอย่างมาก สามารขับรถจากใจกลางกรุงปักกิ่งได้ง่ายๆ และอยู่ใกล้ทางด่วนหลายสาย มีรถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่คอยอำนวยความสะดวก

Universal CityWalk (ภาพ : universalbeijingresort.com)
Universal CityWalk (ภาพ : universalbeijingresort.com)

โดยเฉพาะรถไฟฟ้าใต้ดิน มีสถานีเป็นของตัวเอง เป็นสถานีรถไฟใต้ดินแบบภูมิทัศน์แห่งแรกของปักกิ่ง ซึ่งเชื่อมโยงกับรถไฟใต้ดินชานเมืองสายปาทงและสาย 7 ของปักกิ่ง พร้อมด้วยทางเข้า 6 ช่องทาง ขณะที่ภายในสถานีถูกตกแต่งสไตล์บันเทิงคดีแนววิทยาศาสตร์หรือไซ-ไฟ (Sci-Fi) เพื่อให้กลมกลืนกับภูมิทัศน์ของรีสอร์ต

สำหรับการเข้าชมของนักท่องเที่ยวทั่วไปภายหลังการเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว จะต้องซื้อบัตรเข้าชม โดยจะเปิดขายบัตรเข้าชมในช่องทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมตามข้อกำหนดการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19

และเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังระบาดอยู่ในขณะนี้ คาดว่าในระยะแรกจะมีเพียงนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาเที่ยวในยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมไปถึงคนไทยที่อยากไปเที่ยว ก็อาจจะต้องอดใจรอกันไปก่อน
#2751


สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) เผยแพร่ภาพครอบครัวนกกระเรียนไทย ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่าสามารถขยายพันธุ์ได้เองตามธรรมชาติแล้ว พร้อมกับเชิญชวนคนไทยช่วยกันอนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยในพื้นที่ชุ่มน้ำ 3 แห่ง ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งที่นี่ยังเป็นพื้นที่สำคัญต่อการดำรงอยู่ของนกอีกหลายชนิด

ในอดีต นกกระเรียนไทย (Sarus Crane) เป็น 1 ในสัตว์ป่าสงวน 19 ชนิดของไทย ไม่พบรายงานในธรรมชาติของประเทศไทยมานานร่วม 50 ปี ต่อมาด้วยความร่วมมือระหว่าง องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมกันเพาะพันธุ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยในกรงเลี้ยง พร้อมทำการศึกษาแหล่งที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม จนกระทั่งเมื่อปี 2554 ได้ดำเนินการปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยคืนสู่ธรรมชาติเป็นครั้งแรกที่จังหวัดบุรีรัมย์



จากความร่วมมือดังกล่าวทำให้นกกระเรียนไทยสามารถกระจายพันธุ์ได้เองตามธรรมชาติ ในพื้นที่ชุ่มน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน จังหวัดบุรีรัมย์ และพื้นที่โดยรอบ

ทั้ง 3 พื้นที่ชุ่มน้ำเหมาะแก่การอยู่อาศัยของนกหลายชนิด และเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ มีความสำคัญด้านทรัพยากรธรรมชาติ นันทนาการ และการท่องเที่ยว รวมทั้งมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของประชาชน

จึงขอความร่วมมือช่วยกันอนุรักษ์นกกระเรียนไทย และพื้นที่ชุมน้ำ ทั้ง 3 แห่ง ให้คงอยู่คู่กับประเทศไทย สืบไป และหากพบเห็นสัตว์ป่าได้รับบาดเจ็บ หรือ พบสัตว์ป่าพลัดหลง หรือ การล่าสัตว์ป่า โปรดแจ้งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หมายเลขสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง



นกกระเรียนไทยเป็นนกขนาดใหญ่ เมื่อยืนสูงถึง 1.8 เมตร คอยาว หัวและคอเป็นหนังเปลือยสีแดงสด กระหม่อมเป็นแผ่นกระดูกแข็งสีเทา ขนลำตัวสีเทา ขายาวสีแดงสด พบตามท้องนาและพื้นที่ชุ่มน้ำต่างๆ ของประเทศไทย ปัจจุบันมีสถานะการอนุรักษ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (VU)

ทั้งนี้ นกกระเรียนไทยไม่ใช่นกอพยพทางไกลเหมือนนกกระเรียนชนิดอื่นๆ แต่ก็มีการอพยพเป็นระยะทางช่วงสั้น ๆ ในฤดูแล้งและฤดูฝน ประชากรนกกระเรียนที่มีการอพยพนั้นพบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น นกกระเรียนที่จับคู่จะปกป้องอาณาเขตจากนกกระเรียนอื่นด้วยเสียงร้องกู่ร้อง "แกร๋...แกร๋..." ดังเหมือนแตรและกางปีก ส่วนนกที่ยังไม่จับคู่ก็มักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง

เครดิตภาพโดย : นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต, นายปรีชา หนอสิงหา
ที่มา : สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา)



เครดิตคลิป PrasitPhoto

นกกระเรียนไทย คืนถิ่นที่บุรีรัมย์ หลังจากที่เคยยสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในเมืองไทยยาวนานถึง
50 ปี บันทึกภาพและถ่ายทำโดยอาจารย์ประสิทธิ์ จันเสรีกร (โพสต์ไว้เมื่อ17 ม.ค.2019)
#2752


ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ นักกอล์ฟสมัครเล่นโครงการทีมชาติไทย จบรอบสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 204 คว้าแชมป์ไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ "สิงห์-บีจีซี ไทยแอลพีจีเอ แชมเปียนชิพ 2021" ที่สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟ คลับ เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา โดยทำสกอร์ทิ้งห่าง กุสุมา มีชัย และ เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ ถึง 5 สโตรค

สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี จัดศึกไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ สนาม 4 รายการ "สิงห์-บีจีซี ไทยแอลพีจีเอ แชมเปียนชิพ 2021" ชิงเงินรางวัลรวม 1.2 ล้านบาท แข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 3 วัน 54 หลุม ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 2 กันยายนที่ผ่านมา ณ สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟ คลับ ระยะ 6,389 หลา พาร์ 72 จ.ขอนแก่น โดยมีนักกอล์ฟลงชิงชัยทั้งสิ้น 78 ราย

ปิดฉากการชิงชัยเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ปรากฎว่า "น้องซิม" ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ นักกอล์ฟสมัครเล่นโครงการทีมชาติไทย ผู้นำรอบสอง รอบสุดท้ายหวดเพิ่มอีก 6 อันเดอร์พาร์ 66 จาก 6 เบอร์ดี้ไม่เสียโบกี้ จบสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 204 คว้าโทรฟี The Best Of Ratchaphruek พร้อมถ้วยรางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นผลงานดีสุดไปครองอีกหนึ่งรางวัล

ณัฐกฤตา ก่อนหน้านี้คว้าแชมป์ไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ สนาม 2 ที่ จ.ลพบุรี เผยหลังชนะแมทช์อาชีพเป็นรายการที่ 2 ของฤดูกาลให้กับตัวเองว่า "วันนี้ทำได้ดีไม่เสียโบกี้เลย และนับเป็นอีกวันที่ทำได้ดีไปหมด โดยเฉพาะเกมพัตต์ทำได้ดีมากเก็บได้หมดแทบทุกหลุม อีกทั้งลูกชิพก็ทำได้ดีมีหลายหลุมตีเข้าไปใกล้ ถือว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้"

ขณะที่ "โปรกล้วย" กุสุมา มีชัย โปรสาววัย 26 ปี จากกรุงเทพฯ และ "โปรแชมเปญ" เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ แชมป์สนาม 3 จากบึงกาฬ จบด้วยสกอร์รวมเท่ากันที่ 7 อันเดอร์พาร์ 209 รั้งอันดับ 2 พร้อมแบ่งเงินรางวัลไปคนละ 121,000 บาท โดยมี "โปรพีเค" พัชรจุฑา คงกระพันธ์ เจ้าถิ่นจากขอนแก่น, "โปรออม" สุภมาส แสงจันทร์ และ "โปรมายด์" กานต์พนิตนันท์ เมืองคำสกุล ตามมาที่ 4 ร่วม ด้วยสกอร์รวมคนละ 4 อันเดอร์พาร์ 212 รับเงินรางวัลคนละ 58,000 บาท

ขณะที่ ดลนภา พุฒิพินิช และ ชมพัช พงศ์ธนารักษ์ คว้าอันดับ 7 ร่วม จากผลงานรวม 2 อันเดอร์พาร์ 214 รับเงินรางวัลไปคนละ 42,500 บาท

สรุปผลการแข่งขันวันสุดท้าย (2 ก.ย.)
(-12) 204 ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ (สมัครเล่น) 70-68-66
(-7) 209 กุสุมา มีชัย 71-70-68, เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ 68-71-70 (เงินรางวัลคนละ 121,000 บาท)
(-4) 212 พัชรจุฑา คงกระพันธ์ 66-76-70, สุภมาส แสงจันทร์ 71-71-70, กานต์พนิตนันท์ เมืองคำสกุล 70-72-70 (เงินรางวัลคนละ 58,000 บาท)
(-2) 214 ดลนภา พุฒิพินิช 74-71-69, ชมพัช พงศ์ธนารักษ์ 73-67-74 (เงินรางวัลคนละ 42,500 บาท)
 
#2753


ตามที่ "บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)" หรือ TIPH ได้ทำคำเสนอซื้อ หรือ Tender Offer หุ้นทั้งหมดของบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อแลกกับหุ้นที่ออกใหม่ของ TIPH จากผู้ถือหุ้น TIP ที่อัตราการแลกหุ้นเท่ากับ 1 หุ้นสามัญของ TIP ต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ TIPH  ซึ่งครบกำหนดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อดังกล่าวไปแล้วในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 

ล่าสุด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน ในฐานะผู้ถือหุ้นของ TIP ที่สัดส่วน 10.0% และ 11.2% ได้รายงานการจำหน่ายหุ้น TIP ทั้งหมดออกมา โดยระบุวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าเพื่อตอบรับคำเสนอซื้อของบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ในสัดส่วน 1 หุ้นสามัญของ TIP ต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ TIPH 

ทั้งนี้ภายหลังการแลกหุ้นเสร็จสิ้น และ TIPH มีคุณสมบัติครบถ้วน หุ้นสามัญของ TIPH ก็จะเข้าซื้อขายเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทนหุ้นสามัญของ TIP ซึ่งจะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันเดียวกัน โดยการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของหุ้นสามัญของ TIPH แทนหุ้นสามัญของ TIP นั้นคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนกันยายน 2564
#2754


ถือเป็นซีรีส์สายวายที่น่าจับตาแห่งปี เพราะได้บทประพันธ์ดังที่สร้างความประทับใจนักอ่านวัยรุ่นทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาสร้างให้มีชีวิตลงจอ โดย "บริษัท เคเท็นโกล.คอนเทนต์ จำกัด" ทุ่มทุนสร้างพร้อมจัดเต็มทีมนักแสดง "รักนาย My Ride" ซีรีส์วาย Romantic Comedy เรื่องราวความรักของ แพทย์ประจำบ้านสาขาอายุรกรรม กับหนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ พล็อตเรื่องเริ่มต้นจากความบังเอิญทำให้เกิดมิตรภาพความรักอบอุ่น ดึงนักแสดงมากฝีมือ "เฟม ชวินโรจน์" มาพบกับ "ฟลุ๊ค พงศกร" นักแสดงหน้าใหม่ ล่าสุดส่งสัญญาณสาดความฟินชวนให้ใจเต้นแรงและอดไม่ได้ที่จะหลงไปกับเรื่องราวความลึกซึ้งของคู่จิ้น "เฟม" และ "ฟลุ๊ค" ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะอานุภาพเคมีเผยถึงพลังความรักออกมาให้ได้เห็น หลังต้นสังกัดปล่อยภาพเบื้องหลังออกมา

"รักนาย My Ride" นำแสดงโดย "เฟม ชวินโรจน์ ลิขิตเจริญสกุล" รับบท นายแพทย์ตะวันออก และ "ฟลุ๊ค พงศกร วงศ์เพียร" รับบท หมอกหนุ่มวินมอร์เตอร์ไซค์ พร้อมทีมนักแสดงชื่อดังร่วมสร้างสีสันในเรื่อง ทั้ง "หมอโอ๊ต สุเมธี นามเกิด" ที่โด่งดังในโลก TIKTOK มีผู้ติดตามกว่า 4 ล้านคน และ "กิ่ง อารียา ผลฟูตระกูล" , "เบส ชลสวัสดิ์ เตียววณิชกุล" , "ยุ่น ภูษณุ วงศาวณิชชากร" , "ภัทร์ ฉัตรบริรักษ์" , "มะนาว ศรศิลป์ มณีวรรณ์" , "แพท พัสสน ศรินทุ" , "สุรศักดิ์ ชัยอรรถ" , "หมูเติ้ล ทวีศักดิ์ เพ็ชรปราณีนุกูล" , "สมัคร อนันตศิลป์" ฯลฯ กำกับการแสดงโดย "สโรช น่วมสำราญ" ที่เคยสร้างผลงานประทับใจมาแล้วมากมาย

สำหรับ รักนาย My Ride "เฟม ชวินโรจน์ ลิขิตเจริญสกุล" นักแสดงนำ ได้เปิดเผยว่า " เป็นซีรีส์วายที่เฟมรับบทนำเต็มตัวครั้งแรก ปกติผมมักจะรับงานแสดง หนัง ละครทั่วๆ ไปเป็นส่วนใหญ่ ซีรีส์วายจะไม่ค่อยได้รับ ถ้าจะรับคือบทต้องถูกใจและน่าสนใจจริงๆ อย่างเรื่องนี้ ตัดสินใจรับเล่นเพราะบทประพันธ์น่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นนิยายสายวายที่เคยได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นทั้งในไทยและต่างประเทศมาก่อน ความน่าสนใจของซีรีส์นี้มาจากเรื่องราวความรัก ที่ต่างกันสุดขั้วของคุณหมอตะวันกับหนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ เสนอแง่มุมความรักให้สังคมได้เห็น ว่าบางครั้งความรักมักจะเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่รู้ตัวมาก่อน ซีรีส์เรื่องนี้เน้นการถ่ายทอดเรื่องราวความรักต่างอาชีพที่ท้าทายคนดูมากๆ และถือเป็นการเปิดกว้างให้คนดูหลายกลุ่มได้เข้าถึง ตัวละครที่มีเหตุและผลในเรื่องราวความรักที่น่าสนใจหลายคู่ มีกลิ่นอายความรักใสๆ ฟินๆ จิ้นๆ ดูแล้วมีความสุข คนดูได้ร่วมลุ้นและยิ้มไปกับตัวละครแน่นอนครับ ผมอ่านบทเรื่องนี้ครั้งแรกรู้สึกชอบ ยอมรับว่าอยากรับเล่นเลย ความรักในเรื่องนี้ทำให้เห็นว่าหากเราได้คิดถึงใคร และยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้อีกคนได้มีความสุข ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ ทางผู้จัดต้องการนำเสนอ เรื่องราวความรักที่ไม่ปิดกั้น ไม่มีแบ่งแยก เรื่องของเพศ ฐานะ อายุ เป็นความรักที่นำเสนอในมุมอบอุ่น ต้องลองดูว่า รักนาย My Ride จะนำเสนอออกมายังไง และในเรื่องนี้มีความรักหลากหลายแง่มุม ของเพื่อน แฟน พี่น้อง ในมุมต่างๆ ผมเองตั้งใจและทุ่มเทกับเรื่องนี้มากเพราะเป็นซีรีส์ที่ท้าทายความสามารถในการแสดงผมมากพอสมควร อยากฝากให้ติดตามบทบาทใหม่ในครั้งนี้ของผมในบท หมอตะวันและช่วยเป็นกำลังใจให้ทีมงานและนักแสดงทุกคนในเรื่องนี้ด้วยครับ"

ทางด้าน "ฟลุ๊ค พงศกร วงศ์เพียร" เล่าว่า " เรื่องรักนาย My Ride ความรักในแบบชายรักชาย เป็น ซีรีส์วายที่ผมรับเล่นครั้งแรก ซึ่งผมรับบท หมอก วินมอร์เตอร์ไซค์ บุคลิกคล้ายตัวผมเลยไม่ยาก แต่จะยากตรงที่ต้องถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกในรูปแบบของชายรักชาย คือเป็นความรักห่วงใย สงสารคุณหมอตะวัน ด้วยความรู้สึกหลายๆ อย่าง คือทั้งอยากดูแล ห่วงใย ใส่ใจ เป็นความรักอบอุ่นในอีกมุมหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ ทำให้รู้ว่าความรักมันเกิดขึ้นได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศนะ ไม่ว่าในรูปแบบไหนก็เป็นความรักที่งดงามได้เหมือนกัน ความรักของวัยผู้ใหญ่คุณลุง คุณอา ที่ผ่านโลกมาอยู่ในช่วงอายุหนึ่งที่ทำให้เห็นความรัก ความใส่ใจที่ลึกซึ้ง ดูเรื่องนี้แล้วอาจจะทำให้ให้เข้าใจรสนิยมความรักมากขึ้นว่ามันไม่ได้มีข้อจำกัด ขึ้นอยู่ที่ว่าความรักมันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ซึ่งเราก็อาจไม่รู้ตัวก่อน รู้อีกทีก็รักไปแล้ว ผมอยากให้ลองติดตามซีรีส์รักนาย My Ride เพราะทีมงานทุกคนทุ่มเทกับซีรีส์เรื่องนี้มาก อยากทำออกมาให้ดีที่สุด และหวังว่าทุกคนจะชอบและช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ"

อัพเดททุกความฟิน เรื่องราวความรักชวนจิ้น ที่จะทำให้ทุกคนหลงรัก พร้อมสัมผัสกับทุกๆ โมเมนต์ที่จะทำให้เผลอยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว จากซีรีส์ "รักนาย My Ride" ไปพร้อมๆ กัน ได้ทาง Facebook, Instargram, Youtube : MyRideTheSeries
#2755


นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินการโอนเงินงบประมาณตามโครงการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งเป็นการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งสายสามัญศึกษาและสายอาชีพ ในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน รวมประมาณ 10.8 ล้านคน ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน รวมเป็นเงินประมาณ 21,600 ล้านบาทไปยังหน่วยงานในสังกัดและนอกสังกัด ศธ.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนักเรียน นักศึกษา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สามารถรับเงินคนละ 2,000 บาท ได้ทั้งในรูปแบบการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือ รับเงินสดที่โรงเรียน โดยรับเงินได้ตั้งแต่วันที่ 1-7 กันยายน 2564 ส่วนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะได้รับเงิน วันที่ 6-10 กันยายน 2564

"สถานศึกษาทุกแห่ง เมื่อได้รับการจัดสรรเงินตามมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาไปแล้วขอให้เร่งดำเนินการโอนเงินหรือจ่ายเงินสดให้ถึงมือผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา เต็มจำนวนโดยเร็ว ห้ามสถานศึกษาหักเงินนี้ เพราะรัฐบาล ต้องการให้เงินนี้เป็นการชดเชยค่าใช้จ่ายในการเรียนที่เพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 ที่ผู้ปกครองสามารถนำไปใช้ตามความจำเป็น เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าไฟฟ้า และอื่นๆ เป็นต้น ทั้งนี้ นักเรียน สังกัด สพฐ.สามารถตรวจสอบสิทธิ์ ได้ที่เว็บไซต์ https://student.edudev.in.th นักเรียน สังกัด สช.ตรวจสอบสิทธิ์ ได้ที่ https://opec.go.th และ นักศึกษา สังกัด สอศ. ตรวจสอบสิทธิ์ ได้ที่ https://www.vec.go.th สำหรับ นักศึกษา กศน.ตรวจสอบสิทธิ์ที่สำนักงาน กศน.จังหวัด/อำเภอ และศูนย์การเรียนรู้ชุมชน สำหรับกรณีไม่ได้รับเงินในช่วงเวลาที่กำหนด สามารถติดตามสอบถามได้ที่ สถานศึกษาต้นสังกัด หรือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือ ส่วนราชการต้นสังกัด หรือโทร. 1579 , 1693 ซึ่งอาจจะมีนักเรียนบางคนได้รับเงินล่าช้า เพราะมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้ นักเรียนย้ายโรงเรียนหลังวันที่ 25 มิถุนายน 2564 โรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร และสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามยืนยันว่านักเรียน นักศึกษา ทุกคนที่มีสิทธิ์ต้องได้รับเงินเยียวยาเต็มจำนวน" รมว.ศธ. กล่าว

นางสาวตรีนุช กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ผู้ปกครองและนักศึกษา ระดับปริญญาตรี ที่ศึกษาอยู่ในสถาบันการอาชีวศึกษา สังกัดสอศ.จำนวน 23 แห่ง ร้องเรียนว่าไม่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับเงินเยียวยา คนละ 2,000 บาท นั้น ที่ผ่านมา สอศ.ได้จัดทำตัวเลขข้อมูลนักศึกษา ในสังกัด สอศ.ที่จะได้รับการเยียวยาครอบคลุมทุกระดับ และเสนอไปยังสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา แต่เมื่อสภาพัฒน์ฯ พิจารณาและส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) กลับตัดกลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาตรีของ สอศ.ออกไป เมื่อตนทราบเรื่องจึงได้หารือกับ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) และ ได้มอบหมายให้ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ.ประสานไปยังสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อพิจารณาทบทวนและขยายเพดานการเยียวยาเงินคนละ 2,000 บาท ให้ถึงกลุ่มนักศึกษาปริญญาตรีแล้ว และเมื่อผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนของสภาพัฒน์ฯ ก็ต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป หากผ่านมติ ครม.แล้ว สอศ.จะเร่งดำเนินการโอนงบประมาณให้แก่สถาบันการอาชีวศึกษาทันที ทั้งนี้ สอศ.ได้จัดทำตัวเลขข้อมูลนักศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 10,538 คน ที่จะได้รับการเยียวยาเงินคนละ 2,000 บาท เพื่อเสนอให้สภาพัฒน์ฯ พิจารณาแล้ว.
#2756
กรมการขนส่งทางบก เตือน!!! ซื้อ-ขายรถทุกครั้งอย่าโอนลอย ควรดำเนินการโอนทางทะเบียนด้วยตนเอง เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เผย!!! มีการนำเทคโนโลยีทันสมัย ตรวจสอบฐานข้อมูลทางทะเบียนรถกับหน่วยงานภาครัฐ Real-time ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบ Web Service เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

สามารถตรวจเช็คทะเบียนได้ ด้วยวิธีการเช็คต้น ได้ที่
http://xn--42ch4bxaap7c7c1cg2jpa.com/%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%88%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%96/
 นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ผู้ที่ต้องการซื้อขายรถมือสองทั้งการซื้อต่อจากบุคคลหรือเต้นท์รถมือสอง ควรดำเนินการโอนทางทะเบียนด้วยตนเอง พร้อมนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งที่รถนั้นจดทะเบียน เพื่อความมั่นใจว่าได้แจ้งเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถในระบบฐานข้อมูลทางทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรซื้อขายรถด้วยวิธีการโอนลอย โดยเซ็นเอกสารไว้แล้วมาดำเนินการในภายหลัง เนื่องจากอาจก่อปัญหาให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น กรณีผู้ซื้อไม่ดำเนินการชำระภาษีรถประจำปี  รถเกิดอุบัติเหตุ หรือนำรถไปกระทำผิดกฎหมายซึ่งยังคงปรากฏชื่อเจ้าของรถรายเดิมในระบบทะเบียน สร้างปัญหายุ่งยากให้เจ้าของรถรายเดิม  นอกจากนี้การไม่นำรถเข้ามาดำเนินการโอนทางทะเบียนยังทำให้ผู้ซื้อไม่อาจตรวจสอบความถูกต้องของรถได้โดยสมบูรณ์ว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่อีกด้วย ส่วนกรณีที่มีการพบข้อมูลทางทะเบียนรถในใบสั่งไม่ตรงกับข้อมูลผู้ครอบครองรถในปัจจุบัน ซึ่งอาจเกิดจากการซื้อขายที่ไม่ได้ดำเนินการทางทะเบียนแต่เป็นเพียงการซื้อขายแบบโอนลอยที่ไม่ได้ยื่นขอดำเนินการเปลี่ยนสาระสำคัญทางทะเบียนให้ถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบกด้วยเช่นกัน จึงขอให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการพิทักษ์สิทธิของตนเองด้วยการตรวจสอบรถก่อนการซื้อขายทุกครั้ง โดยควรตรวจสอบแหล่งที่มาของรถพร้อมข้อมูลประกอบก่อนตัดสินใจ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่  31 กรกฎาคม 2560   เป็นต้นมา กรมการขนส่งทางบก นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศพัฒนาต่อยอด เพื่อการเข้าถึงฐานข้อมูลทางทะเบียนรถ    ของกรมการขนส่งทางบกด้วยระบบฐานข้อมูล MDM (Master Data Management) ที่มีความชัดเจนถูกต้องตรวจสอบได้และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เนื่องจากการแก้ไขสาระสำคัญทางทะเบียนรถ ระบบจะดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ครอบครองรถในทันทีที่ได้รับข้อมูลการแก้ไขอีกทั้งยังเชื่อมโยงออนไลน์พร้อมกันทั่วประเทศในทุกระบบงานพร้อมเอกสารประกอบการดำเนินการทุกครั้งที่มีการแก้ไขสาระสำคัญทางทะเบียนรถ ดังนั้นชื่อผู้ครอบครองรถที่ปรากฏในระบบ  จึงตรงกับที่ระบุในเล่มทะเบียนรถ ซึ่งหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลทางทะเบียนรถดังกล่าวสามารถตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนรถโดยตรงกับฐานข้อมูล MDM (Master Data Management) ของกรมการขนส่งทางบกได้แบบออนไลน์ Real-time ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบ Web Service ซึ่งแสดงรายละเอียดข้อมูลทางทะเบียนรถและสาระสำคัญต่างๆ เป็นปัจจุบันเช่นเดียวกับที่กรมการขนส่งทางบกนำไปใช้ในการดำเนินการทางทะเบียนให้กับประชาชน  ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อการนำฐานข้อมูลทางทะเบียนรถที่เป็นปัจจุบันดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ทางราชการต่อไป
#2757


คิมี ไรโคเนน สุดยอดนักขับจอมเก๋าชาวฟินแลนด์ ประกาศรีไทร์จากวงการฟอร์มูล่า วัน อย่างเป็นทางการหลังสิ้นสุดฤดูกาล 2021

นักขับวัย 41 ปี ก้าวขึ้นมาในวงการรถสูตรหนึ่งตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน เปิดตัวครั้งแรกในออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ปี 2001 กับทีมเซาเบอร์ และขับเคี่ยวเป็นคู่แข่งกับ มิคาเอล ชูมัคเกอร์ ตำนานนักขับชาวเยอรมันในช่วงหนึ่ง ก่อนจะย้ายมาคว้าแชมป์โลกกับ เฟอร์รารี เมื่อปี 2017 โดยปัจจุบันเขาสังกัดทีมอัลฟา โรมิโอ ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาเมื่อจบฤดูกาลนี้

'นี่จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของผมในฟอร์มูล่า วัน ผมตัดสินใจเรื่องนี้มาตั้งแต่ฤดูหนาวที่ผ่านมา มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย แต่หลังจากฤดูกาลนี้มันก็ถึงเวลาสำหรับสิ่งใหม่ๆ' ไรโคเนน เริ่มกล่าวผ่านอินสตาแกรม ส่วนตัว

'แม้ว่าฤดูกาลจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ผมก็ต้องการที่จะตอบคุณครอบครัวของผม ทุกทีมที่เคยร่วมงาน ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับอาชีพนักแข่งรถของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนๆ ที่ยอดเยี่ยมทุกคน ที่คอยให้กำลังใจผมเสมอมา'

'ฟอร์มูล่า วัน อาจจะจบลงสำหรับผม แต่ชีวิตของผมยังต้องการสัมผัสกับอะไรใหม่ๆหลังจากนี้ ผมต้องการประสบการณ์อื่นๆ และสนุกไปกับมัน แล้วพบกันใหม่' ยอดนักขับชาวฟินแลนด์ ทิ้งท้าย

สำหรับ คิมี ไรโคเนน เดบิวต์ในฟอร์มูล่า วัน กับทีมเซาเบอร์ในปีแรก ก่อนจะย้ายมาร่วมทีมแม็คลาเรน ซึ่งเขาใช้เวลาอยู่กับทีมนี้ถึง 5 ปีเต็ม ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ เฟอร์รารี และคว้าแชมป์โลกในปี 2017

ตลอดการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน 344 รายการ เขาคว้าชัยไปทั้งหมด 21 ครั้ง ขึ้นโพเดียม 103 ครั้ง และคว้าโพล โพซิชั่น ได้ 18 ครั้ง โดยในฤดูกาล 2021 ยังเหลืออีก 10 รายการให้เขาได้ลงชิงชัย
#2758


นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า "เถ้าแก่น้อย" รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ TKN เตรียมผลักดัน บริษัท เถ้าแก่น้อย เรสเตอรองท์ แอนด์ แฟรนไชส์ จำกัด หรือ TKNRF ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ TKN ที่ดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้า และร้านอาหารประเภท Quick Service Restaurant ตั้งเป้าเดินหน้าขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ร้านอาหาร ซึ่งที่ผ่านมา TKNRF ได้มีการศึกษาและทดลองวางกลยุทธ์ รูปแบบร้านอาหารและเมนูต่างๆเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย จึงเป็นที่มาของแฟรนไชส์อาหารสตรีทฟู้ดเกาหลี ซึ่งรูปแบบการทานอาหาร 'สตรีทฟู้ด (Street Food)' หรือ 'ร้านอาหารริมทาง' เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการทานอาหารที่สามารถพบเจอได้ในหลายๆประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศแถบเอเชีย ถือเป็นจุดเด่นที่ผู้บริโภคท้องถิ่นรวมถึงนักท่องเที่ยวให้ความนิยมเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดโควิด-19 มีผลให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ทำให้บริษัทฯมีการปรับกลยุทธ์ มองหาช่องทางการขายสินค้าสอดรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยบริษัทฯ ได้มุ่งขยายสาขาที่ตั้งอยู่นอกห้างสรรพสินค้า เป็นจุดจำหน่ายและทำ Cloud Kitchen มุ่งเน้นทำเลพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน (ปั้มน้ำมัน) ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสาตร์ในการขยายธุรกิจนอกห้าง และลดความเสี่ยงจากมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ

ทั้งนี้ TKNRF ได้ตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์ 'บอมเบอร์ด๊อก' (Bomber Dog) ร้านสตรีทฟู้ดเกาหลีในช่วงที่เหลือของปี 2564 จำนวน 45 สาขา หรือเฉลี่ยเปิด 8-10 สาขาต่อเดือน และคาดว่าจะเปิดอีก 100 สาขาในปี 2565 ปัจจุบันมีสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ปั้มน้ำมัน และ Cloud Kitchen แล้วทั้งสิ้น 18 สาขา และเตรียมเปิดในเดือนกันยายนนี้ อีก 8 สาขา โดยเน้นขยายสาขาในพื้นที่ปั้มน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายที่เติบโตจากธุรกิจนี้มากกว่า 100% ภายในปีนี้ขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มช่องทางสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันสั่งอาหารชั้นนำ เช่น LINE MAN, Grab, Food panda เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็วในการสั่งอาหารมารับประทานอีกด้วย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TKN กล่าวเพิ่มเติมว่า 'บอมเบอร์ด๊อก' (Bomber Dog) เป็นร้านสตรีทฟู้ดเกาหลีในรูปแบบเมนูทานเล่น เช่น คอร์นดอก, ฮอทดอก ต็อกโบกี เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ป๊อบ ไก่ทอดเกาหลี ที่ชูจุดเด่นด้านรสชาติที่อร่อยเหมือนต้นตำรับ ถือเป็นอาหารที่เข้าถึงง่ายสำหรับลูกค้าทุกกลุ่มและตอบโจทย์คนเมืองที่เร่งรีบระหว่างเดินทาง เน้นทานง่าย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งการลงทุนแฟรนไชส์ Bomber Dog จะเปิดสิทธิแก่ผู้ที่สนใจลงทุนด้านธุรกิจอาหารโดยไม่จำเป็นต้องทำอาหารเป็นมาก่อน เน้นเปิดในพื้นที่ขนาดเล็ก ในทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งโมเดลรถเข็น ปั้มน้ำมัน และคอมมูนิตี้มอลล์ เป็นต้น

ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุนในแฟรนไชส์ของบอมเบอร์ด๊อก มี 2 รูปแบบ คือ แบบรถเข็น ซึ่งจะมีค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น 123,000 บาท และแบบตั้งบนพื้นที่ ซึ่งจะมีขนาดพื้นที่ 2.5x2.5 เมตร มีค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น 260,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับผู้ที่สนใจลงทุนประกอบการธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเพื่อหารายได้เสริมหรือต้องการขยายธุรกิจใหม่ๆ โดยมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำแนะนำในการเริ่มต้นทำธุรกิจ คาดใช้เวลาคืนทุนภายในระยะเวลา 4-6 เดือน และสำหรับผู้ที่สนใจแต่ไม่มีเงินทุน บริษัทฯ ยังจับมือกับสถาบันการเงินชั้นนำ สนับสนุนสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ โดยผู้ที่สนใจลงทุนสามารถติดต่อได้ที่ บริษัทเถ้าแก่น้อย เรสเตอรงท์แอนด์เฟรนไชส์ จำกัด หมายเลข 02-960-1477 ต่อ 302

"TKNRF ได้ทดลองเปิดตัวแบรนด์ดังกล่าวมากว่า 1 ปี เพื่อศึกษาและทดลองทำตลาด ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จึงได้ต่อยอดการขยายสาขาผ่านรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจเข้าลงทุนเปิดร้านสาขา รวมถึงบริษัทฯ จะลงทุนขยายสาขาเอง ที่มุ่งเน้นทำเลสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. และแบรนด์อื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าและยังใช้เป็นจุดกระจายสินค้าผ่านแฟลตฟอร์ม Home Delivery อีกด้วย" นายอิทธิพัทธ์ กล่าว
#2759
 
ทำไมข้าวสุขภาพมีราคาสูง
ทำไม  ข้าวกล้องออแกนิค   (SURIN Organic Rice)  ถึงดีกว่าข้าวทั่วๆไปที่ใช้สารเคมีอย่างไร ?  ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์  หรือ ข้าวออร์แกนิค (Organic Rice)  คือ  ข้าวออร์แกนิคแฟร์เทรด ทีได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นระบบการจัดการด้านการเกษตรแบบองค์รวมที่เกื้อหนุนต่อระบบนิเวศน์ วงจรชีวภาพ และความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติในนา ปลูกข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค ไม่ใช้วัตถุดิบที่ได้จากการสังเคราะห์  สารเคที สารพิษ ยาฆ่าหญ้า ว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโตของข้าวอินทรีย์กรมการข้าว สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าว ตลอดจนสารเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็บ และไม่ใช้พืช สัตว์ หรือจุลินทรีย์ที่ได้มาจากการดัดแปลงพันธุกรรม หรือพันธุวิศวกรรม  เราเน้นปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินโดยการปลูกพืชหมุนเวียน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในไร่นาหรือจากแหล่งอื่น ควบคุมโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวโดยวิธีผสมผสานที่ไม่ใช้สารเคมี การเลือกใช้พันธุ์ข้าวที่เหมาะสมมีความต้านทานโดยธรรมชาติ รักษาสมดุลของศัตรูธรรมชาติ การจัดการพืช ดิน และน้ำ ให้ถูกต้องเหมาะสมกับความต้องการของต้นข้าว เพื่อทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้ดี มีความสมบูรณ์แข็งแรงตามธรรมชาติ การจัดการสภาพแวดล้อมไม่ให้เหมาะสมต่อการระบาดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าว เป็นต้น มีการจัดการกับผลผลิตและผลิตภัณฑ์ด้วยความระมัดระวัง เพื่อรักษาสภาพการเป็นเกษตรอินทรีย์ และคุณภาพที่สำคัญในทุกขั้นตอนการผลิตและการแปรรูป ข้าวจังหวัดสุรินทร์

 
ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวออร์แกนิคส่งทั่วไทย
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
Facebook : https://www.facebook.com/Hor.Product
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ  ข้าวorganicส่งทั่วไทย
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค
2.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3. ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ
4. ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิค จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค
6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคคือ
7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิคสำหรับทารก


#ข้าวออร์แกนิก #ข้าวออแกนิค #ข้าวออแกนิก  #ข้าวอินทรีย์ #ข้าวสุขภาพ
 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#2760


นางสาวปพิณริยา พึ่งเขื่อนขันธ์ หัวหน้าแผนกซื้อขายที่พักอาศัยรายย่อย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดที่พักอาศัยในลอนดอนในช่วงครึ่งแรก 2564 ประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดไว้มากจากนโยบายของรัฐที่สนับสนุนการซื้ออสังหาฯ ทั้งการให้สินเชื่อจากธนาคารและอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสำหรับคนอังกฤษ ส่งผลให้ปีนี้ราคาบ้านในลอนดอนปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 6% และคาดการณ์ว่าราคาที่พักอาศัยจะเพิ่มขึ้นสูงสุด 18% ในอีก 5 ปีข้างหน้า

โดยมีปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือผู้อยู่อาศัยต้องการพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ขึ้นและพื้นที่กลางแจ้งเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบทำงานจากบ้าน ( Work from Home) ทำให้โครงการบ้านจัดสรรในโซน 2 โซน 3 และชานเมืองได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้มาตรการหยุดพักชำระภาษีอากรแสตมป์ (Stamp Duty Holiday) ยังช่วยกระตุ้นกำลังซื้อด้วยการยกเว้นภาษีในการซื้อบ้านที่มีราคาไม่เกิน 500,000 ปอนด์ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา และการยกเว้นภาษีในการซื้อบ้านที่มีราคาไม่เกิน 250,000 ปอนด์ที่จะสิ้นสุดเดือนก.ย.นี้

ราคาที่ที่เพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งในสัญญาณเชิงบวกของการฟื้นตัวในตลาดอสังหาฯลอนดอนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรัฐบาลอังกฤษอนุมัติให้ฉีดวัคซีนตั้งแต่ปี 2563  ด้านผู้ซื้อชาวต่างชาติมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนปรับเพิ่มภาษีอากรแสตมป์อีก 2% ในเดือนเม.ย. และก่อนที่ค่าเงินปอนด์จะปรับตัวสูงขึ้น

ช่วงโควิด-19 ระบาดผู้ซื้อมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น โดยขึ้นอยู่กับความนิยมของแต่ละโครงการ ในบางโครงการมีการเสนอแพ็คเกจเฟอร์นิเจอร์และการพาชมโครงการผ่านวีดิโอเพื่อดึงดูดผู้ซื้อ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ซื้อคนไทยที่ต้องการเป็นเจ้าของที่พักอาศัยในลอนดอน เพราะข้อเสนอและบริการเพิ่มเติมเหล่านี้ ประกอบกับความรู้และความคุ้นเคยกับตลาดอสังหาฯ ในลอนดอนของผู้ซื้อจะทำให้ตัดสินใจเร็วขึ้น โดยผู้ซื้อต่างชาติที่ต้องการซื้อที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ต่อเนื่องมาจากฝรั่งเศส ฮ่องกง อเมริกา และจีน

นอกจากนี้ การเปิดพรมแดนของสหราชอาณาจักรในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะช่วยให้ผู้ซื้อต่างชาติเหล่านี้เข้ามาดูโครงการได้ง่ายขึ้น เนื่องจากลอนดอนยังคงเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักเรียนนักศึกษาและยังมีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ รวมถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์และความยืดหยุ่นด้านการเงินสูง

"ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการลงทุนในตลาดที่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ตลาดอสังหาฯ ลอนดอนจึงดึงดูดให้ผู้ซื้อต่างชาติกลับเข้ามาเสมอและยังมีปัจจัยเอื้ออำนวยต่างๆ ข้างต้นช่วยกระตุ้น"

นางสาวปพิณริยา กล่าวว่าสำหรับคนไทย จุดประสงค์หลักที่ต้องการซื้อก็เพื่อหาที่พักอาศัยในต่างประเทศที่ดีที่สุดสำหรับลูกหลานเพื่อการศึกษาในระยะยาว และเป็นการลงทุนที่สามารถส่งต่อเป็นมรดกของครอบครัวได้ การที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษจะเปิดเทอมในเดือนก.ย.นี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนชาวไทยที่เป็นเจ้าของที่พักอาศัยในลอนดอนที่จะปล่อยเช่าให้แก่นักเรียนต่างชาติหรือครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการเช่าที่พักอาศัยมากกว่าซื้อ