• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - dsmol19

#2801


รอยเตอร์ – รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงจาการ์ตาแถลงวันจันทร์( 23 ส.ค)ยืนยันว่า ในเวลานี้เมืองหลวงอินโดนีเซียประสบความสำเร็จสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้เป็นครั้งแรก และในวันเดียวกันได้ออกกฎผ่อนคลายมาตรการป้องกันในกรุงจาการ์ตาและบางพื้นที่อนุญาตให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการได้บางส่วน รวมถึงห้างสรรพสินค้า มัสยิด

รอยเตอร์รายงานวันนี้(23 ส.ค)ว่า เมื่อวันที่ 12 ก.คที่ผ่านมากรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 14,600 คนแต่ทว่าในวันอาทิตย์(22)ตัวเลขกลับลดลงเหลือแค่ 700 คนเท่านั้น

อาห์หมัด ไรเซีย ปาเตรีย (Ahmad Rizia Patria) รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงจาการ์ตาออกมาแถลงกับนักข่าววานนี้(22)ว่า "กรุงจาการ์ตาเข้าสู่โซนสีเขียวและประสบความสำเร็จการมีภูมิคุ้มกันหมู่ได้"

โดยทางรองผู้ว่าฯได้ชี้ไปถึงอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19ที่อยู่ในระดับสูงโดยมีประชากรกว่า 54% ของเมืองหลวงได้รับวัคซีนโควิด-19ครบโดสแล้วและส่วนใหญ่ที่ได้รับ 1 เข็ม เทียบกับอัตรากว่า 11% ของประชากรอินโดนีเซียทั้งหมดที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มนับตั้งแต่อินโดนีเซียเริ่มต้นโครงการแจกวัคซีนมาตั้งแต่มกราคม

แต่ทว่านักระบาดวิทยาประจำมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ปานดู ริโอโน(Pandu Riono) กล่าวแสดงความเห็นว่า รองผู้ว่าการจังหวัดอินโดนีเซียเข้าใจผิดในความหมายของภูมิคุ้มกันหมู่

"ถึงแม้ว่าเราจะประสบความสำเร็จสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ครบ 100% แต่ระดับภูมิคุ้มกันยังคงต่ำกว่า 80% " เขากล่าว และเสริมต่อว่า ประสิทธิภาพวัคซีนมีเพียงแค่ 55% เท่านั้น

รอยเตอร์ชี้ว่า ถึงแม้อินโดนีเซียจะมีเคสลดลงอย่างมากทั่วประเทศแต่ทว่าในวันอาทิตย์(22)ยังคงเห็นเคสใหม่มากกว่า 12,000 คน

ทั้งนี้ในวันจันทร์(23)ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด ประกาศผ่อนคลายมาตรการโควิด-19ที่กรุงจาการ์ตาและบางพื้นที่ อนุญาตให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการได้บางส่วน รวมถึงห้างสรรพสินค้า มัสยิดและโบสถ์ เป็นต้น
#2802


ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ เดอะ นอร์เธิร์น ทรัสต์ ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 316 ล้านบาท ที่สนาม ลิเบอร์ตี เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,353 หลา พาร์ 71 รัฐนิว เจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา วันที่ 23 สิงหาคม 2564 เป็นการชิงชัยในวันสุดท้าย

กำหนดการเดิมการแข่งขันต้องจบลงตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ทำให้ต้องเลื่อนการดวลวงสวิงในวันที่สี่ ออกมาเป็นวันจันทร์

ปรากฎว่า โทนี ฟีนัว โปรกอล์ฟอเมริกัน กับ คาเมรอน สมิธ จากออสเตรเลีย จบสกอร์สี่วันเท่ากันที่ 20 อันเดอร์พาร์ ต้องมาเล่นเพลย์ออฟเพื่อหาผู้ชนะในหลุม 18 และสุดท้ายเป็น โทนี ฟีนัว ที่เอาชนะเพลย์ออฟไปได้ คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

ทั้งนี้เป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 5 ปี และถือแชมป์อาชีพรายการที่ 3 ของ ก้านเหล็กวัย 31 ปี จากยูท่าห์ โดยเป็นแชมป์ระดับพีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 2 ในชีวิต หลังจากเคยได้แชมป์ที่เปอร์โตริโก โอเพ่น เมื่อปี 2016

ส่วนผลงานของโปรกอล์ฟคนอื่นๆ ที่น่าสนใจ จอน ราห์ม จากสเปน เกือบจะมีโอกาสได้ลุ้นแชมป์ แต่ดันมาออกโบกี้ในหลุมที่ 15 และ 18 ทำให้เขาจบที่ 18 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 3, จัสติน โธมัส จากสหรัฐฯ จบที่ 15 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 4 ร่วม, แซนเดอร์ ชัฟเฟล จากสหรัฐฯ จบที่ 11 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 16 ร่วม, ลี เวสต์วูด จากอังกฤษ จบที่ 9 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 27 ร่วม, ไบรสัน เดอแชมบัว จากสหรัฐฯ จบที่ 8 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 31 ร่วม
#2803
 บ้านเดี่ยวชั้นเดียวแกลงระยอง บ้านเดี่ยวชั้นเดียวแกลงระยอง ขายถูกบ้านชั้นเดียวแกลงระยอง

 บ้านเดี่ยวชั้นเดียวแกลงขายถูก  ขายบ้านเดี่ยวแกลง กู้ได้เกิน ตามเครดิด ขนาด200 ตรว พิเศษ ถึงสิ้นปีนี้ เพียง 2.3 ล้าน บาท

 กู้ได้สูงบ้านชั้นเดียวแกลง ขายถูกบ้านเดี่ยวชั้นเดียวแกลงระยอง ขายถูกกู้ได้เต็มบ้านเดี่ยวแกลง

 บ้านเดี่ยวชั้นเดียวแกลงขายถูก  บ้านมือสอง(เจ้าของขายเอง) ขายถูกกู้ได้เต็มบ้านเดี่ยวแกลง อ.แกลง+พื้นที่ว่าง1งาน บรรยากาศเป็นส่วนตัว ห่างไกลโควิด19 น้ำไม่ท่วม เข้า-ออกสะดวกสบาย ห่างจาก ถ.สุขุมวิท สายระยอง-จันทบุรี 150 เมตร เข้าซอยวัดหนองน้ำขุ่น ข้างปั๊ม ปตท.เซเว่น (ด้านหลังตึก รพ.ธนบุรีศรีแกลงเก่า) ใกล้ทะเลแหลมแม่พิมพ์ 15 กม.

บ้านเดี่ยวชั้นเดียวระยอง อ.แกลง เพียง 2.3 ล้าน บาท กู้ได้เต็ม ขนาด200 ตรว
สถานที่ใกล้เคียง
 – ใกล้ สนง.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 2 (150 ม.)
– ใกล้ ร.ร.บ้านหนองน้ำขุ่น (150 ม.)
– ใกล้วัดหนองน้ำขุ่น (150 ม.)
– ใกล้ปั๊มน้ำมันเอสโซ่/ปตท./เซเว่น /KFC /Cafe Amazon (150 ม.)
– ใกล้ สนง.เกษตรอำเภอแกลง (300 ม.)
– ใกล้วิทยาลัยเฉลิมกาญจนา อ.แกลง (300 ม.)
– ใกล้ตลาดสามย่าน อ.แกลง (1 กม.)

โปรโมชั่นจากราคา2.5ล้าน ด่วนๆ บนเนื้อที่ 200 ตารางวา โปรโมชั่นจากราคา2.5ล้าน *ลดเหลือ 2.3 ล้าน วันนี้ถึง 31 ธ.ค.64นี้ จำนวน 2ห้องนอน , 1ห้องโถง/ห้องครัว/ห้องน้ำ /โรงจอดรถ2คัน/น้ำประปา/ไฟฟ้า/แอร์/Fiber3BB

ตั้งอยู่ 41/10 ม.11 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง

ขายถูกบ้านเดี่ยวชั้นเดียวแกลงระยอง
สนใจ สอบถาม 080-6417177,098-0089162, ID:jamauto, E-mail:jamauto54@gmail.com
รายละเอียดเพิ่มเติม

https://postasungha.com/?p=3934


คำค้น
ขายถูกบ้านเดี่ยวชั้นเดียวแกลงระยอง, ขายถูกกู้ได้เต็มบ้านชั้นเดียวแกลงระยอง, กู้ได้สูงบ้านชั้นเดียวแกลงระยอง, ขายบ้านมือสองบ้านเดี่ยวชั้นเดียวระยอง-แกลง
#2804
 ข้าวปลอดสารสุรินทร์   ข้าวออแกนิคสำหรับทารกส่งทั่วไทย   ข้าวอินทรีย์สุรินทร์ เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวปลอดสาร    ส่งออกข้าวปลอดสาร   ความหมายของข้าวปลอดสาร  ถ้าไม่อยากกินยาตลอดชีวิตให้กิน "ข้าวกล้อง" เป็นยาการที่ข้าวเปลือกอินทรีย์ถูกขัดสี ทำให้สูญเสียสารอาหารที่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งขัดสีเป็นข้าวขาวหลายครั้งเท่าไร สารอาหารยิ่งเหลือน้อยลงไป การหันกลับมากินข้าวกล้อง เหมือนบรรพบุรุษของเรา จึงเป็นวิถีชีวิตที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นโรคอันไม่ควรจะเป็น เนื่องจากขาดสารอาหาร
 
การฝึกกินข้าวกล้องออแกนิค ( 'ข้าวอินทรีย์' ดีต่อสุขภาพ )
1. คนที่เพิ่งหัดกินข้าวกล้อง ( โครงการข้าวออร์แกนิค
) อาจใช้วิธีง่ายๆ คือนำข้าวกล้องผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน 1 : 2 โดยแช่ข้าวกล้องก่อนนำไปหุงรวมกับข้าวขาว เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กัน และค่อยๆ เพิ่มปริมาณข้าวกล้อง จนเปลี่ยนเป็นข้าวกล้องทั้งหมด ท่านก็จะกินข้าวที่ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มที่ 
2. การกินข้าวกล้องก็คือควรกินขณะยังอุ่นๆ โดยทั่วไป พอข้าวสุก ทิ้งไว้ให้ข้าวระอุประมาณ 5-10 นาทีแล้วควรรีบกิน ข้าวจะนุ่มกินได้ง่าย และให้ค่อยๆ เคี้ยวพอละเอียด จะได้รสชาติหวานอร่อยของข้าวกล้อง ตาม  จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวออร์แกนิค
3. ควรกินข้าวกล้องที่สุกแล้วให้หมดในมื้ออาหารนั้น เพราะข้าวกล้องบูดเสียได้ง่ายกว่าข้าวขาวทั่วๆ ไป

วิธีหุงข้าวกล้องอินทรีย์  ส่งเสริม ผลิตข้าวออร์แกนิค

1. ก่อนซาวข้าวควรเก็บสิ่งแปลกปลอมออกเสียก่อน และซาวข้าวเบาๆ ด้วยเวลาสั้นๆ เพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ให้วิตามินสูญเสียไปกับน้ำซาวข้าว
2. การหุงข้าวกล้องนั้น ต้องใส่น้ำมากกว่าหุงข้าวขาว การหุงข้าวกล้อง 1 ส่วนจึงควรเติมน้ำประมาณ 2-3 เท่า ถ้าจะให้ประหยัดเวลาหุง ควรแช่ข้าวกล้องก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง วิธีนี้อาจทำให้สูญเสียวิตามินบางอย่างที่ละลายน้ำไปบ้าง แต่ไม่แนะนำให้แช่ข้าวเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะข้าวที่มีสี แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่ข้าว แนะนำให้ใช้น้ำที่แช่ข้าวนำกลับไปใช้ในการหุ้ง เพื่อลดการสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระในข้าว โดยเฉพาะข้าวสี
3. สำหรับข้าวใหม่หรือข้าวเก่านั้น จะมีผลต่อการหุงต้มเช่นกัน เพราะข้าวใหม่เมื่อหุงสุกจะมีลักษณะเมล็ดข้าวติดกันมาก ส่วนข้าวเก่าเมื่อหุงสุกการติดกันของเมล็ดข้าวจะน้อย เนื่องจากข้าวเก่าเมล็ดข้าวจะแห้งกว่าข้าวใหม่
เหตุนี้จึงทำให้บางท่านหุงข้าวแล้วบอกว่าใช้น้ำมากเท่าเดิมทำไมข้าวจึงแฉะหรือร่วน ซึ่งก็ต้องถามผู้ขายว่า เป็นข้าวเก่าหรือข้าวใหม่ ส่วนจะให้แฉะหรือร่วนแล้วแต่จะชอบ ผู้หุงข้าวจึงต้องใส่น้ำให้เหมาะสมหรือต้องใช้ศิลปะในการหุงเช่นกัน


ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  ส่งออกข้าวอินทรีย์

277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://www.hor.boutique
Facebook : https://www.facebook.com/Rice.For.Infant/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutiqueโครงการนาข้าวอินทรีย์

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ1.ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 2.ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ 3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์) 4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์ 5.ข้าวกล้องมะลิแดงอินทรีย์ 6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์ 7. ข้าวไรซ์เบอรี่

#ข้าวกล้องอินทรีย์สุรินทร์ #ข้าวกล้องออแกนิคสุรินทร์ #ข้าวกล้องปลอดสารสุรินทร์ #ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพสุรินทร์ #ข้าวกล้องหอมมะลิสุรินทร์ #ข้าวกล้องเมืองสุรินทร์

 

 

 

 

 
 
#2805


ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดตัว "ฮยอนบิน" นักแสดงชาวเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็น Hallyu Star (ผู้ขับเคลื่อนกระแสความนิยมในเกาหลี) มาขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ LazMall ระดับภูมิภาคเป็นคนแรกอย่างเป็นทางการ โดย LazMall ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับการยอมรับจากแบรนด์คู่ค้าต่างๆ ทั่วโลก และปัจจุบันยังเป็นศูนย์รวมแบรนด์มากกว่า 32,000 แบรนด์ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติบนแพลตฟอร์มลาซาด้าทั่วภูมิภาค

โดยนักแสดงหนุ่ม ฮยอนบิน ถือเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากที่สุดของเกาหลีใต้ โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นนักแสดงที่มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อน Hallyu หรือกระแสความนิยมในเกาหลี ด้วยบทบาทการแสดงที่หลากหลายการันตีด้วยรางวัลมากมาย จากผลงานละครโทรทัศน์ ซีรีส์ และภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก อาทิ Secret Garden, Memories of the Alhambra, The Negotiation และผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่องล่าสุด Crash Landing on you ที่ส่งให้เขารับรางวัลนักแสดงชายยอดนิยม จากงานประกาศรางวัล Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 56 และรางวัลศิลปินเกาหลีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จาก Yahoo! ในงาน Asia Buzz Awards มากไปกว่านั้น ฮยอนบิน ยังสามารถกวาดรางวัล Presidential Commendation ในงาน Korean Popular Culture and Arts Awards ประจำปี 2020 ที่ผ่านมาได้อีกด้วย

แมรี่ โจว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า "ลาซาด้าเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซเจ้าแรกที่นำเสนอแนวคิดห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ "ฮยอนบิน" ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคคนแรกของ LazMall ด้วยผลงานภาพยนตร์และงานละครโทรทัศน์ที่ได้รับการชื่นชมในวงกว้าง ฮยอนบิน คือนักแสดงหนุ่มที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความจริงใจ และการอุทิศตนต่อการทำงานอย่างมุ่งมั่น เพื่อสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพให้แก่เหล่าแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งตรงตามอัตลักษณ์ของ LazMall ที่มุ่งเน้นถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของสินค้า รวมทั้งยังเป็นจุดหมายของการช้อปปิ้งออนไลน์ที่เชื่อถือได้ โดยมุ่งหวังให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินและได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบายสูงสุด"

เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปี ของ LazMall และเปิดตัวแคมเปญ 9.9 นี้ ซึ่งเป็นแคมเปญแรกของมหกรรมช้อปปิ้งส่งท้ายปี ฮยอนบิน จะได้ร่วมนำแสดงในภาพยนตร์สั้น ที่รวบรวมจินตนาการของเหล่าบรรดาแฟนคลับ จากตัวละครที่ชวนให้นึกถึงฉากแอคชั่นในผลงานที่มีชื่อเสียงของเขา โดยในโฆษณาดังกล่าว ฮยอนบิน จะรับบทเป็นเอเจนท์ที่ปฏิบัติภารกิจลับ ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ในการบังคับบัญชาทีม ที่จะมอบกล่องแห่งความห่วงใยจาก LazMall นับพันชิ้นสู่สาธารณชน ซึ่งนำเสนอในรูปแบบที่สนุกสนาน และหักมุม สร้างความเพลิดเพลินแก่ผู้รับชม

ฮยอนบิน แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคของ LazMall กล่าวว่า "ผมมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวลาซาด้า และได้ใกล้ชิดแฟนๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคคนแรกของ LazMall ซึ่งผมตั้งตารอที่จะสร้างความสนุกร่วมกันกับแฟนๆ เริ่มด้วยเทศกาลช้อปปิ้ง 9.9 ที่จะถึงนี้ ผมขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย จนกว่าเราจะสามารถพบกันได้อีกครั้งเร็วๆ นี้"

โดย ฮยอนบิน ได้กล่าวปิดท้ายว่า "การถ่ายทำหนังภาพยนตร์สั้น สำหรับการเปิดตัวแคมเปญสนุกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดสร้างสรรค์ในการเล่าเรื่องภารกิจสายลับ ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความหลากหลายในตัวเลือกสินค้าที่ LazMall นำเสนอให้ผู้บริโภค"

นอกจากนี้ ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา LazMall ยังได้เปิดตัว LazMall Premium ครอบคลุม 8 หมวดหมู่สินค้าหลัก ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าแบรนด์ระดับพรีเมียมมากกว่า 50 แบรนด์ อาทิ Bang & Olufsen, Elemis, Longines, Polo Ralph Lauren รวมไปถึงแบรนด์ใหม่ล่าสุดอย่าง La Mer ทั้งนี้ นอกเหนือจากฟีเจอร์ยอดนิยมอย่าง "Brand Mega Offers", การรับประกันคืนสินค้าภายใน 15 วัน และการรับเงินคืนสูงสุด 2 เท่า หากผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่ของแท้จาก LazMall ผู้บริโภคยังสามารถเข้าถึงแบรนด์โปรดผ่านประสบการณ์การช้อปที่ใกล้ชิด และเต็มอิ่มด้วยภาพที่ช่วยเล่าเรื่องราวของสินค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการอัพเกรดหน้าเพจแนะนำสินค้าผ่าน The Edit ซึ่งจะนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายและแตกต่างไปตามแต่ละธีมในรูปแบบบทความ

ที่สำคัญ เทศกาลช้อปปิ้ง "9.9 Mega Brands Sale" ในครั้งนี้ จะรวบรวมแบรนด์จำนวนมากที่สุดในระดับภูมิภาค รวมถึงบรรดาผู้ขายรายโปรดให้มาอยู่ในแพลตฟอร์มลาซาด้า เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยข้อเสนอและดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก Crazy Brand Mega Offers ที่จำกัดเวลาเฉพาะสองชั่วโมงแรกของแคมเปญ รวมไปถึงโปรโมชั่น Flash sale ที่จะเกิดขึ้นตลอดวันที่ 9 – 11 กันยายนนี้เท่านั้น ปิดท้ายการเฉลิมฉลองเทศกาลช้อป ด้วยการนำลาซาด้า มาสคอตหรือ "Lazzie" มาแปลงร่างเป็นไอดอลฝึกหัดผ่านเกมใหม่ล่าสุดบน LazGames "Lazzie Star" ให้เหล่านักช้อปช่วย Lazzie เพิ่มเลเวล เพื่อให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ตัวจริง ด้วยการผ่านด่านในแต่ละวันและพิชิตภารกิจพิเศษให้สำเร็จ ซึ่งจะช่วยปลดล็อกคูปองสุดพิเศษจากทั้งแพลตฟอร์มและผู้ขาย รวมไปถึง Lazada Bonus อีกด้วย

รับชมโฆษณาแคมเปญ LazMall 9.9 Mega Brands Sale ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=31AZCXWcR4g
#2806
ในแต่ละวันเราล้วนต้องสูญเสียความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวจากสาเหตุต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องของสภาพอากาศ แสงแดด การใช้ชีวิตในห้องแอร์ ไปจนถึงมลภาวะที่ต้องเผชิญ เป็นธรรมดาที่หนุ่มสาวทุกวัยต้องเผชิญกับ "ปัญหาผิวแห้ง" ต้นเหตุแห่งริ้วรอย ต้นตอของผิวหยาบกร้านไม่นุ่มเนียนสวยงาม 





เพื่อชดเชย "น้ำ" ที่ต้องสูญเสีย คุณจึงต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าอย่างพิถีพิถัน ขอแนะนำ "Ultra Facial Cream" มอยส์เจอร์ไรเซอร์ สูตรเข้มข้น รุ่นขายดีจาก Kiehl's ตัวช่วยเสริมความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมงที่ครองใจผู้ใช้มาแล้วทั่วโลกด้วยยอดขายกว่า 40 ล้านกระปุก 


ผลลัพธ์ทรงประสิทธิภาพที่ผู้ใช้วางใจ
จากผลการทดสอบทางคลินิก มอยส์เจอร์ไรเซอร์ผิวแห้งสามารถช่วยดูแลให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นพร้อมฟื้นบำรุงสุขภาพผิวได้ดีขึ้นภายหลังการใช้เพียง 1 สัปดาห์ ผู้ใช้กว่า 33% รู้สึกได้ว่าผิวนุ่มขึ้น และอีกกว่า 18% สามารถสัมผัสได้ว่าผิวแลดูเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิม 

คุณสมบัติของ Kiehl's moisturizer 
-ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและกักเก็บน้ำได้ยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง — ด้วย 3 ส่วนผสมสำคัญสูตรเข้มข้น Ultra Facial Cream คือผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลผิวให้กักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน 

โดยส่วนผสมที่ Kiehl's เลือกใช้ ได้แก่ "แอนตาร์กติซีน" หรือสารสกัดจากกลาเซีย เป็นไกลโคโปรตีนจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่พบได้ในแอนตาร์กติกา มีคุณสมบัติเด่นคือช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งกลับมามีชีวิตชีวา อีกทั้งยังมีการใช้ "กลีเซอรีนจากพืช" ได้แก่ ปาล์ม rapeseed และมะพร้าว ช่วยกระตุ้นให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ดีขึ้น ทำให้ผิวชั้นนอกมีความยืนหยุ่น พร้อมทำหน้าที่เป็นเกราะปราการป้องกันการสูญเสียน้ำไม่ให้ออกจากชั้นผิวได้ดีเยี่ยม 

นอกจากนี้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ Kiehl's ยังใช้ส่วนผสมจาก "สควาเลน" หรือน้ำมันสกัดจากผลมะกอกพืชพรรณธรรมชาติคุณภาพเยี่ยม มีคุณประโยชน์ต่อผิวพรรณมากมาย และมีคุณสมบัติซึมซาบลงสู่ผิวได้รวดเร็วฉับไว ช่วยเปลี่ยนผิวอ่อนแอเป็นผิวแข็งแรงได้หลังการใช้ได้ในทันที

-เนื้อมอยส์เจอร์ไรเซอร์ จากแบรนด์ Kiehl's เข้มข้นแต่ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับทุกสภาพผิว — แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้น มีลักษณะเนื้อครีมเป็นครีมสีขาวเข้มข้น ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น แต่เมื่อใช้ทาลงบนผิวหน้าจะพบว่าสามารถเกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะและซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ทาได้ทั้งในตอนกลางวันไม่ทำให้หน้ามัน เครื่องสำอางหลุดเลอะ ไม่ทำให้รู้สึกหนาหนัก และใช้ได้ในช่วงกลางคืนช่วยให้คุณตื่นรับเช้าวันใหม่อย่างรู้สึกดีด้วยผิวหน้าชุ่มฉ่ำไม่แห้งเจ็บแม้นอนหลับในที่ที่มีอากาศเย็นหรือในห้องแอร์
 
#2807


เรียกได้ว่าเป็นนักร้องคู่ดูโอ้วัยรุ่นสุดฮอตที่โด่งดังระดับตำนานในยุค 90 สำหรับศิลปิน "โฟร์-มด" แห่งค่ายกามิกาเซ่ ซึ่งมีสมาชิกคือ "โฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร" ปัจจุบันยังอยู่ในวงการบันเทิง ด้วยการเป็นนักแสดงอิสระ และ "มด ณปภัช วัฒนกมลวุฒิ" ที่เลือกที่จะยุติบทบาทในวงการ ไปประกอบอาชีพแอร์โฮสเตส

ล่าสุดทำเอาแฟนคลับของทั้งสองถึงกับฟินขั้นสุด เมื่อเจ้าตัวแท็กทีมออกมาโพสต์ภาพคู่แบบรัวๆกับชุดสุดปังดุจเตรียมขึ้นเวที เอ๊ะ! หรือว่าอาจจะคัมแบล็กฦ แต่ที่แน่ๆ เวลาไม่สามารถทำร้ายสาวโฟร์ มด ได้เลย เพราะแม้อายุของทั้งคู่เข้าสู่เลขสามแล้ว แต่ความน่ารัก สดใสยังเจิดดุจเหมือนเพิ่งเข้าวงการ

งานนี้ทำเอาชาวเน็ตเมื่อเห็นภาพแล้ว ต่างแห่เข้ามาแสดงความคิดเห็นบอกว่า ชุดขนาดนี้ต้องมีโชว์แล้วแม่, สวยทั้งคู่เลยคือดีมากๆๆๆ, โฟมดคัมแบคคคคคคคคคค, ยิ่งกว่าไอดอลเกาหลีเลยค่ะสวยมากก, เตรียมขึ้นคอนเสิร์ตเวทีไหนนะ, ขอสักหนึ่งบทเพลงใหม่นะค่ะ, ซิงเกิ้ลใหม่แน่เลย ฯลฯ
85 94
#2808


บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มีแผนที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยกลางเดือน ส.ค.2564 "ยัง หลิว" ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟ็อกซ์คอนน์ กรุ๊ป จากไต้หวัน ได้ประกาศแผนการลงทุนผลิตรถ EV ในประเทศไทยและสหรัฐในปี 2565 โดยโรงงานดังกล่าวจะดำเนินการผลิตแบบแมสโปรดักชันในปี 2566 

โรงงานผลิตรถ EV ของฟ็อกซ์คอนน์ในประเทศไทยจะเป็นการร่วมลงทุนกับ ปตท.โดยจะเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์ม EV พร้อมขึ้นไลน์ผลิตเพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน ด้วยกำลังการผลิตปีละ 150,000-200,000 คัน

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ที่ผ่านมา ปตท.ได้ศึกษาร่วมกับฟ็อกซ์คอนน์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำลังการผลิตที่ฟ็อกซ์คอนน์ประกาศออกมาดังกล่าวก็อยู่ในการศึกษาร่วมกัน โดยที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่าย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย กับ บริษัท หงไห่ พริซิชั่น อินดัสทรี จำกัด หรือ ฟ็อกซ์คอนน์ กรุ๊ป เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2564

ทั้งนี้ เมื่อได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับฟ็อกซ์คอนน์แล้วได้มีการหารือในรายละเอียด เพื่อยกระดับความร่วมมือตาม MOU ขึ้นมาเป็นกิจการร่วมค้า หรือ Joint Venture เพื่อเริ่มดำเนินการลงทุนตามที่ศึกษาไว้ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2564

"การตั้งโรงงานจะเริ่มขึ้นในปี 2565 และแผนที่ศึกษาไว้ว่าจะผลิตแบบแมสโปรดักชั่นในปี 2566 ก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ และจะเป็นการผลิตเพื่อทำการตลาดทั้งในประเทศไทยและส่งออกไปในภูมิภาคอาเซียน" นายอรรถพล กล่าว

การเข้ามาลงทุนในธุรกิจ EV ของกลุ่ม ปตท.เพื่อรองรับการพัฒนา New S-Curve ซึ่ง ปตท.จะมุ่งเน้นการลงทุนในเทรนด์หลักที่สำคัญของโลก 2 ด้าน คือ Go Green และ Go Electric โดยในอนาคตปริมาณรถ EV จะมีเพิ่มมากขึ้น และรัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการผลิตรถ EV อย่างชัดเจน รวมทั้งในการลงทุนของกลุ่ม ปตท.ครั้งนี้ จะเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์ม EV เพื่อรองรับการให้บริการที่ครอบคลุมเครือข่ายอีวีทั้งหมด จะเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นที่ออกมารองรับการใช้งาน



รายงานข่าวจาก ปตท.ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาระละเอียดเพื่อพัฒนาเป็น Joint Venture และเมื่อได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการร่วมลงทุนก็จะยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ซึ่งมีแพ็คเก็จส่งเสริมการลงทุนผลิตรถ EV อยู่แล้ว และคงไม่ได้กำหนดสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม

ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.ได้เริ่มลงทุนใน EV Value Chain ซึ่งครอบคลุมการพัฒนา EV Charging Platform รวมถึงการพัฒนา EV Station และการตั้งโรงงานผลิตรถ EV ทั้งรถ 2 ล้อ รถ 4 ล้อ และรถบรรทุก

บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ได้ลงทุนตั้งโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell โดยใช้เทคโนโลยี SemiSolid กำลังการผลิตเริ่มต้น 30 MWh (เมกะวัตต์ชั่วโมง) ต่อปี ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง และมีแผนขยายกำลังการผลิตเป็นเป็น 5 GWh ต่อปี ใน 5 ปีข้างหน้า ก่อนขยายสู่กำลังการผลิต 10 GWh (กิกะวัตต์ชั่วโมง) ต่อปี ใน 10 ปี เพื่อป้อนความต้องการใช้รถอีวีในประเทศ เช่น รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รถตุ๊กต๊กไฟฟ้า รถไฟฟ้าสี่ล้อขนาดเล็ก รถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า

ในขณะที่บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.ได้นำเข้ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และมีการตั้งจุดทดลองให้สามารถ Swap หรือการแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบการสลับแบตเตอรี่ ด้วยการถอดเอาแบตเตอรี่ออก แล้วใส่แบตเตอรี่ลูกใหม่เปลี่ยนพร้อมใช้งานทันที โดยไม่ต้องจอดรอชาร์จไฟฟ้า

ส่วนการพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า ในส่วนที่จัดตั้งในปั๊มน้ำมันทางบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) หรือ OR ได้จัดตั้งแล้ว 30 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 100 แห่ง ในสิ้นปี 2564 ส่วนการจัดตั้งนอกปั๊มน้ำมันจะดำเนินการโดยบริษัท ออน-ไอออน โซลูชั่นส์ จำกัด ซึ่งมีเป้าหมายจะติดตั้ง 100 แห่ง ในสิ้นปีนี้ ดังนั้น ภายในสิ้นปีนี้กลุ่ม ปตท.จะมีปั๊มชาร์จไฟฟ้าทั้งหมด 200 แห่ง

นอกจากนี้ มีการตั้งบริษัทได้จัดตั้งบริษัท อีวีมีพลัส จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000ล้านบาท และมีทุนชำระเริ่มแรก 340 ล้านบาท เพื่อดำเนินการในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ New S-Curve ของ ปตท.ผ่านการให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมทั้งจะเป็นการส่งเสริมและสร้างระบบนิเวศธุรกิจให้เกิดการใช้ EV เช่น บริการให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้า บริการข้อมูลเกี่ยวกับ สถานีอัดประจุไฟฟ้าและสถานีซ่อมบำรุง EV

รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมระบุว่า ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ได้กำหนดเป้าหมายใหม่ในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งต้องเป็นรถยนต์ ZEV หรือรถยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษ โดยจะมีการเร่งรัดให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในปี 2578 หรือ อีก 14 ข้างหน้า ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิมในปี 2583 หรือเร็วขึ้นกว่าเดิม 5 ปี ขณะที่ปี 2573 จะต้องผลิตรถไฟฟ้าให้ถึง 50% ของปริมาณการผลิตรถทุกชนิด

สำหรับเป้าหมายใหม่ แบ่งเป็นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสะสม ในปี 2568 ที่ 1.05 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ 400,000 คัน รถจักรยานยนต์ 620,000 คัน รถบัส รถบรรทุก 31,000 คัน

และปี 2578 จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสะสม 18.41 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ 8.62 ล้านคัน รถจักรยานยนต์ 9.33 ล้านคัน รถบัส รถบรรทุก 458,000 คัน

ส่วนเป้าหมายการใช้รถไฟฟ้าสะสม ในปี 2568 อยู่ที่ 1.05 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ 402,000 คัน รถจักรยานยนต์ 622,000 คัน รถบัส รถบรรทุก 31,000 คัน

และปี 2578 จะมีการใช้รถไฟฟ้าสะสม 15.58 ล้านคัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง รถปิคอัพ 6.40 ล้านคัน รถจักรยานยนต์ 8.75 ล้านคัน รถบัส รถบรรทุก 430,000 คัน

 
#2809


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผนึกกำลัง บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ แม็คโคร จัดแคมเปญ "สารทจีนนี้ เรื่องของไหว้ไว้ใจ CP" ตอกย้ำภาพลักษณ์เจ้าแห่งเทศกาล ยกขบวนสินค้าไหว้มงคลชั้นดี พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่และขยายช่องทางออนไลน์ เพื่อช่วยกระตุ้นสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมได้อีกระลอก เพราะการไหว้สารทจีน เป็นอีกเทศกาลสำคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ด้วยการยกทัพสินค้ามงคลชั้นดีที่ใช้ในการไหว้มาอย่างหลากหลาย

ไฮไลท์ชุดของไหว้ในปีนี้ ได้แก่ "เกี๊ยวกุ้งจักรพรรดิ" โฉมใหม่! มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เกี๊ยวกุ้งแพ็คสุดคุ้มและเกี๊ยวกุ้งดิบ อร่อยเต็มคำทำจากกุ้งทั้งตัว วางจำหน่ายที่แม็คโครเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมี "ไก่นางพญา" ไก่ต้มทั้งตัว เนื้อนุ่ม เพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน "เป็ดนางฟ้า" เป็ดพะโล้และเป็ดย่าง เสริมอำนาจและวาสนา มีเงินทองเหลือเก็บ "ขาหมูจักรพรรดิ" ขาหมูและคากิ เนื้อแน่น ถึงรสเครื่องพะโล้พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด เสริมความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งขาหมูเยอรมัน หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ เสริมความมั่นคง เงินทอง และสินค้าไหว้มงคลอื่นๆ อีกมากมาย ตามความเชื่อที่ว่าไหว้ของดีชีวิตเป็นมงคล



นายกฤษณ มรกต รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า สินค้าที่สด สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน ในราคาเหมาะสมและถูกต้องตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดต่อกันมายาวนานเป็นสิ่งสำคัญ ซีพีเอฟ จึงผลิตและพัฒนาสินค้าแช่แข็ง ในแพ็คที่บรรจุอย่างดี ปิดสนิท สะอาด ง่ายต่อการซื้อหาไว้ล่วงหน้า สามารถแช่แข็งไว้ได้โดยที่ยังคงคุณภาพที่ดี คงคุณค่าทางโภชนาการ และยังเตรียมสะดวกด้วยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถต้มในน้ำเดือดได้ (Boiled-in Bag) ทำให้ง่ายต่อการปรุงและเตรียมของไหว้ ลดภาระและความยุ่งยากให้กับผู้บริโภค



สำหรับโปรโมชั่นพิเศษที่ห้างแม็คโคร เพียงซื้อชุดไหว้ครบ 999 บาท รับฟรี! กระเป๋าเก็บความเย็น มูลค่า 399 บาท หากซื้อครบ 1,500 บาท รับอั่งเปาส่วนลด 80 บาท และโปรโมชั่น ซื้อหมูกรอบชาชู เมื่อซื้อ 1 แพ็ค แถมกระเป๋าคล้องแขน 1 ใบ มูลค่า 129 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึง 21 สิงหาคม 2564 หรือจนกว่าของแถมจะหมด เฉพาะสาขาที่ร่วมกิจกรรมเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนลดในช่องทางออนไลน์ ซื้อของไหว้ครบ 990 บาท รับส่วนลดทันที 80 บาท ติดตามได้ที่ Makro Click : https://www.makroclick.com/th/campaign/cpf



นอกจากนี้ ยังสามารถหาซื้อได้ที่ CP FreshMart โลตัส ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษรับสารทจีนนี้เท่านั้น

ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ที่ เฟซบุ๊ก : CPF , Youtube : CPF News
#2810
 
 
 
 
ข้าวอินทรีย์ (Organic Rice) ข้าวอินทรีย์แฟร์เทรด  เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโต สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผล ข้าวจังหวัดสุรินทร์ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ข้าวorganic (Organic Rice) เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมและสารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผลข้าวแฟร์เทรด ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 
       ประเภทของข้าวอินทรีย์
   1. ข้าวอินทรีย์รับรองมาตรฐาน Certified Organic เป็นระบบการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีป้องกันศัตรูพืช มีการขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากหน่วยงานอิสระ โดยมีทั้งภาครัฐ เอกชนและหน่วยงานจากต่างประเทศ มีตราสัญลักษณ์ติดที่ผลิตภัณฑ์ และจะต้องมีการตรวจเพื่อต่ออายุใบรับรองทุกปี
 
   2. ข้าวอินทรีย์ระยะปรับเปลี่ยน In-conversion เป็นข้าวที่อยู่ในช่วงระยะเวลาที่เริ่มทำเกษตรอินทรีย์ในปีแรกก่อนจะได้รับการรับรองผลผลิตว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยระยะปรับเปลี่ยนเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
 
   3. ข้าวอินทรีย์แบบยังไม่รับรอง Non Certified เป็นการปลูกข้าวอินทรีย์แบบพึ่งตนเอง ส่วนใหญ่เป็นการทำเกษตรแบบพื้นบ้านหรือปลูกในระบบผสมผสานหรือในไร่หมุนเวียน ไม่มีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานใดๆ เกษตรกรกลุ่มนี้อาจเป็นกลุ่มที่ทำการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือนและนำผลผลิตส่วนเกินมาจำหน่ายผ่านระบบตลาดท้องถิ่น ทั้งนี้อาจมีการรับรองกันเองในระบบกลุ่มหรือชุมชน ข้าวอินทรีย์แฟร์เทรด  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ คือ ข้าวที่ได้จากการผลิตภายใต้ระบบการผลิตข้าวอินทรีย์ซึ่งมีการจัดการการผลิตข้าวที่เกื้อกูลต่อระบบนิเวศรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ เน้นใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ใช้วัตถุดิบสังเคราะห์และมีการจัดการกับผลิตภัณฑ์โดยเน้นการแปรรูปด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพการเป็นข้าวอินทรีย์และคุณภาพที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ 
ขั้นตอนการผลิตข้าวอินทรีย์  ข้าวกล้องออร์แกนิคส่งทั่วไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่
ข้าวอินทรีย์วิถีพื้นบ้าน
เป็นระบบการผลิต  กลุ่มข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย ที่ไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด เช่น ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโตสารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคแมลงและสัตว์ศัตรูข้าวตลอดจนสารเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็บ การผลิตข้าวอินทรีย์นอกจากจะทำให้ผลผลิตข้าวมีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษแล้วยังเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืน
ข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล
การผลิตข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล มีกระบวนการผลิตการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ และห้ามใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์ในกระบวนการผลิตและแปรรูปข้าวอินทรีย์ ซึ่งผู้ผลิตและผู้ประกอบการต้องผฏิบัติตามเพื่อให้ได้รับการรับรอง มีขั้นตอนการปฏิบัติเป็นลำดับขั้น ดังนี้
1.เกษตรกรจะต้องมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการผลิตข้าวอินทรีย์ (  รูปภาพสำหรับข้าวอินทรีย์ )
2.เกษตรกรจัดทำบันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต โดยแสดงแหล่งที่มาและปริมาณการใช้
3.สมัครขอรับรองต่อกรมการข้าว เกษตรกรต้องแสดงข้อมูลต่อไปนี้
- ประวัติการใช้พื้นที่
- ประวัติการใช้สารเคมี และผลการวิเคราะห์สารพิษตกค้างในดินและน้ำ (ถ้ามี)
- แผนที่และแผนผังแปลงนาที่ขอการรับรองและพื้นที่ข้างเคียง
- แผนการผลิตในทุกขั้นตอน
- บันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต
- บันทึกกิจกรรมในแปลงนา และข้อมูลอื่นๆ

นาข้าวอินทรีย์  ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์    การตรวจสอบข้าวอินทรีย์ 277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
Facebook :https://www.facebook.com/Hor.Organic
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ
3.  ปลูกข้าวปะกาอำปึลออแกนิค #ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์
4. ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารพิษสุรินทร์
5. ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง
6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์
7. ข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อสุขภาพ 

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์
#ข้าวออแกนิคสุรินทร์
#ข้าวออแกนิกสุรินทร์
#ข้าวอินทรีย์สุรินทร์
#ข้าวคุณภาพสุรินทร์


 

 

 

 
 
#2811


นายบรรณ เกษมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ดูแลธุรกิจ SCG HOME Retail & Distribution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยว่า "SCG HOME เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ประกอบการขนาดเล็กมีส่วนในการเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง และเป็นรากฐานที่ผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต จึงมุ่งมั่นสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีอยู่เกือบหนึ่งแสนรายทั่วประเทศ ยังต้องการการเข้าถึงโอกาสและช่องทางในการพัฒนาศักยภาพ พร้อมทั้งต้องการเครื่องมือการตลาดแนวใหม่ เพื่อยกระดับการเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ"

โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ SCG HOME ได้จับมือร่วมกับกองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร จัดอบรมสัมมนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ 'ติดอาวุธพัฒนาสินค้า บริการ ตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัล' จุดประกายความคิดให้แก่ผู้ประกอบการรายเล็ก และนำองค์ความรู้ไปพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเพิ่มช่องทางตลาดออนไลน์ และแนวทางการสื่อสารรูปแบบใหม่ไปยังผู้บริโภคตามแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) เพื่อที่ผู้ประกอบการรายย่อยจะสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพิ่มทางเลือกสินค้าให้มีความหลากหลายกับผู้บริโภค รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ขยายฐานของกลุ่มลูกค้าออกไปในวงกว้างมากขึ้น และผลักดันการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเสริมศักยภาพรูปแบบการจัดจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ที่จะเป็นช่องทางหลักในการจำหน่ายสินค้าในอนาคต ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการยังสามารถพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารธุรกิจ และองค์ความรู้ในการพัฒนาสินค้าและปรับเปลี่ยนการทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น และนอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการรายย่อยด้วยกันเอง แบ่งปันองค์ความรู้ นำไปต่อยอดเป็นธุรกิจ และพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ประกอบการรายเล็กไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มธุรกิจประเภทใด ก็สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการพัฒนาศักยภาพของตนให้เข้มแข็งได้ ดังเช่น วิสาหกิจชุมชน ดังนี้

วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมไทบุราณศิลป์ ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดบูชา พานตั้งโต๊ะ และพวงมาลัยคริสตัล นำโดย นางขนิษฐา อุทิศวรรณกุล กล่าวว่า "ถึงแม้ว่าทางกลุ่มฯ เพิ่งเข้าร่วมอบรมสัมมนาออนไลน์กับทาง SCG HOME เป็นครั้งแรก แต่ได้รับประโยชน์มาก สามารถนำองค์ความรู้กลับมาพัฒนาศักยภาพได้จริง เช่น การพัฒนาต่อยอดสินค้าใหม่ ๆ โดยนำเศษผ้าไหมที่เหลือทิ้งมาสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์ให้มากขึ้น เนื่องจากช่วงโควิด – 19 แพร่ระบาด ทำให้ไม่สามารถออกบูธจำหน่ายสินค้า และขายผ่านหน้าร้านตามปกติได้ เนื่องจากจำเป็นต้องปิดร้านที่สนามหลวง 2 ไปชั่วคราว และหาช่องทางการจำหน่ายช่องทางออนไลน์แทน อาทิ อี-มาร์เก็ตเพลส ช่องทางโซเชียล เน็ตเวิร์ค ต่าง ๆ"

วิสาหกิจชุมชนภูมิปัญญาไทยบ้านโพธิ์ ผู้ผลิตและจำหน่ายไข่เค็มชาร์โคล น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างเครื่องประดับ และสบู่นมแพะ จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำโดย นางปรียาพร เทียนหล่อ เปิดเผยว่า "ทางกลุ่มฯ มีความเชี่ยวชาญในการนำสมุนไพรไทยมาใช้ให้เกิดประโยชน์และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้าน หลังจากได้เข้าร่วมอบรมกับทาง SCG HOME ช่วยให้มีกระบวนการคิดและบริหารธุรกิจอย่างเป็นระบบมากขึ้น เช่น ในสถานการณ์โควิด-19 การจะลงทุนทำอะไรเพิ่มต้องคิดและวิเคราะห์มากขึ้น ทั้งสามารถต่อยอดและพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เช่น การนำกากของผลมะกรูดที่เหลือจากการผลิตสบู่ มาต้มต่อและผลิตเป็นน้ำยาล้างจาน แทนที่จะทิ้งให้สูญเปล่า รวมทั้ง ยังได้รับเทคนิคในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อใหม่ ๆ อาทิ การสร้างเพจ การโพสต์รูปสินค้า และยังได้กลุ่มเพื่อนใหม่จากการเข้าร่วมอบรม มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กันและบอกต่อผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มค้าใหม่ ๆ"

วิสาหกิจชุมชนกลิ่นเอมนาโน กลุ่มผู้ผลิตเวชสำอางค์ ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากสารสกัดออร์แกนิคธรรมชาติ100% ซึ่งล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศไทยทั้งสิ้น ที่มีสมาชิกกลุ่มตั้งแต่เกษตรกรต้นน้ำ ไปจนถึงนักวิชาการ และโรงงานผลิต โดยนางสุวิภา เสริมบุญสร้าง มองว่า "การจัดสัมมนาออนไลน์ของทาง SCG HOME เป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์อย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาทางกลุ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิด-19 แพร่ระบาด ไม่สามารถไปออกบูธขายสินค้าได้เหมือนแต่ก่อน จนมามองเห็นโอกาสในการขยายตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล ได้ความรู้และทักษะในการขายของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้จากเดิมที่ลูกค้าห่างหายไป หลังจากเพิ่มช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์ ลูกค้าที่เคยซื้อกลับมาซื้อซ้ำและยังได้กลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่ม"

วิสาหกิจชุมชนกาแฟรัษฎาและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร จากจังหวัดตรัง ผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดกาแฟคั่วแบบดั้งเดิม สบู่กาแฟ และชาดอกกาแฟ ซึ่ง นางกนกวรรณ คำเนตร ให้ความเห็นว่า "โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดเล็ก ของ SCG HOME เป็นโครงการที่เห็นความสำคัญของชุมชน และช่วยเหลือชุมชนโดยตรง ทั้งยังให้โอกาสกับกิจการขนาดเล็กของชุมชนได้เข้าไปมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ ซึ่งถือว่าให้ประโยชน์อย่างมากแก่ผู้ประกอบการ เช่น ด้านการขยายช่องทางออนไลน์ ทำให้ตอนนี้ทางกลุ่มฯ สามารถขยายช่องทางออนไลน์ไปในหลายแพลตฟอร์ม ตอบรับกับในขณะนี้ไม่สามารถเปิดหน้าร้านจำหน่ายสินค้าไม่ได้ก็ต้องอาศัยช่องทางออนไลน์ และในอนาคตก็หวังว่าอยากให้มีสัดส่วนขายออนไลน์เพิ่มมากขึ้น"

นายบรรณ เกษมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า "SCG HOME รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็ก ให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมอบรมสัมมนาไปใช้ได้จริง และจะเดินหน้าโครงการที่เป็นประโยชน์แก่สังคมและชุมชนนี้ไปอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เพียงมีส่วนช่วยประคับประคองธุรกิจขนาดเล็กในช่วงที่ภาวะตลาดยังมีความผันผวนเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่จะเป็นภูมิคุ้มกันและเสริมรากฐานช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจรายย่อยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย"
#2812


เว็บไซต์นิคเคอิ เอเชีย รายงานวันนี้ (19 ส.ค.) ว่า โตโยต้า ผู้ผลิตรถรายใหญ่ที่สุดในโลก มีแผนผลิตรถ 5 แสนคันในเดือนหน้า ลดลงจากแผนเดิมซึ่งอยู่ที่ 9 แสนคัน

รายงานระบุด้วยว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. เป็นต้นไป โตโยต้าจะระงับการดำเนินงานในโรงงานหลายแห่งในญี่ปุ่น และลดขนาดการผลิตลงในอเมริกาเหนือ จีน และยุโรป

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ "เดลตา" ที่รวดเร็วและรุนแรงขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังส่งผลกระทบต่อการจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ของโตโยต้าด้วย

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

หลังมีรายงานของนิคเคอิ ปรากฏว่า ราคาหุ้นของโตโยต้าปิดตลาดวันนี้ ร่วงลง 4.42% มาอยู่ที่ 9,295 เยน


อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายังไม่แสดงความคิดเห็นต่อรายงานนี้

ก่อนหน้านี้ บรรดาคู่แข่งของค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น จำเป็นต้องชะลอหรือระงับการผลิตรถชั่วคราว เนื่องจากขาดแคลนชิพ ซึ่งไมโครชิพเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับระบบไฟฟ้าในรถรุ่นใหม่ และประสบปัญหาขาดแคลนมาตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว

เดิมนั้น ปัญหาขาดแคลนชิพและปัญหาด้านซัพพลายเชนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้โรงงานหลายแห่งในญี่ปุ่นของโตโยต้าต้องระงับการดำเนินงานไปก่อนแล้ว

ต้นเดือนนี้ โตโยต้ารายงานว่า มีผลกำไรสุทธิในไตรมาสแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผลจากยอดขายรถอันแข็งแกร่งหลังฟื้นตัวจากวิกฤติโควิดได้
#2813


เนลลี คอร์ดา นักกอล์ฟหญิงเบอร์ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ประเดิมศึกเมเจอร์สุดท้ายของปีด้วยการนั่งเก้าอี้ผู้นำร่วมวันแรกที่ 5 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ เอรียา จุฑานุกาล กับ ปภังกร ธวัชธนกิจ สวิงสาวไทย จบวันแรกด้วยสกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศึกกอล์ฟเมเจอร์หญิงรายการสุดท้ายของปี เอไอจี วีเมนส์ โอเพน ชิงเงินรางวัลรวม 5.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 193 ล้านบาท) ณ สนาม คานุสคี กอล์ฟ ลิงส์ ระยะ 6,480 หลา พาร์ 72 ที่สกอตแลนด์ เปิดฉากดวลสวิงวันแรกเป็นที่เรียบร้อย

ปรากฏว่าผู้นำคือ เนลลี คอร์ดา สวิงสาวมือ 1 โลก ที่ประเดิมตี 8 เบอร์ดี เสีย 3 โบกี จบวันสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ ขึ้นนำร่วมกับ เซย์ ยอง คิม จากเกาหลีใต้ กับ มาเดเลน แซกสตอร์ม จากสวีเดน โดยเหนือกว่ากลุ่มอันดับ 4 ร่วมอยู่ 1 สโตรก

ด้านสวิงดังคนอื่น เล็กซี ธอมป์สัน มือดังชาวอเมริกัน เปิดวันแรกตีได้ 3 อันเดอร์พาร์ อยู่อันดับ 8 ร่วม ตามด้วย ปาร์ค อินบี จอมเก๋าจากเกาหลีใต้ ลงสนามวันแรกตีสกอร์ได้ 2 อันเดอร์พาร์ อันดับ 11 ร่วม

ส่วนสาวไทย ดีที่สุดคือ "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล วันแรกตีเสียดับเบิลโบกีที่หลุม 5 แต่มาแก้ตัวทำ 3 เบอร์ดี จบวันสกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ อันดับ 22 ร่วมกับ "โปรแจน" วิชาณี มีชัย, "โปรเหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ และ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล ที่มี 1 อันเดอร์พาร์ อันดับ 22 ร่วมเท่ากัน

และสาวไทยคนอื่นที่ลงแข่งขัน "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ กับ "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล อันดับ 41 ร่วม สกอร์อีเวนพาร์ "โปรสายป่าน" ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ อันดับ 90 ร่วม ตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ และ "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ กับ "โปรจูเนียร์" จัสมิน สุวัณณะปุระ อันดับ 100 ร่วม สกอร์เกิน 3 โอเวอร์พาร์
#2814


อเมริกาพร้อมฉีดวัคซีนกระตุ้นให้ประชาชนทั่วประเทศตั้งแต่ปลายเดือนหน้า ย้ำเมื่อเวลาผ่านไปประสิทธิภาพวัคซีนจะลดลง ไบเดน ยังขู่ฟ้องพวกผู้ว่าการรัฐรีพับลิกันที่ขัดขวางคำสั่งให้สวมหน้ากากป้องกันในโรงเรียน อย่างไรก็ตาม ด้านองค์การอนามัยโลกประณามประเทศรวยที่เร่งฉีดวัคซีนกระตุ้นทั้งที่ชาติยากจนยังขาดแคลนหนัก พร้อมชี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนว่าจำเป็น

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพุธ (18 ส.ค.) ว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะลดการ์ดป้องกัน พร้อมเรียกร้องชาวอเมริกันอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกคนเตรียมรับวัคซีนเข็มกระตุ้นหลังฉีดครบโดสไปแล้ว 8 เดือน เพื่อเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันโควิด-19 รวมทั้งตัวกลายพันธุ์ใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งช่วยให้วิกฤตไวรัสจบเร็วขึ้น

ตามแผนการซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากสำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ) นั้น รัฐบาลจะพร้อมฉีดวัคซีนกระตุ้นได้ตั้งแต่วันที่ 20 เดือนหน้า ทั้งนี้ วัคซีนที่ได้รับอนุมัติฉุกเฉินให้ใช้ในสหรัฐฯ คือ ของไฟเซอร์ และของโมเดอร์นา ซึ่งต้องฉีด 2 โดส เข็มกระตุ้นจึงหมายถึงเข็มที่ 3 ส่วนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เป็นแบบฉีดเข็มเดียวจบ วัคซีนกระตุ้นก็หมายถึงเข็มที่ 2

ไบเดนยังกำหนดให้สถานพักฟื้นคนชราในทั่วประเทศต้องบังคับเจ้าหน้าที่ทุกคนฉีดวัคซีนให้ครบ จึงจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสำหรับโปรแกรมโครงข่ายการคุ้มครองทางสังคม เช่น เมดิแคร์

วันเดียวกันนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับระดับภูมิคุ้มกันที่ลดลงหลังฉีดวัคซีน ขณะที่ความรุนแรงในการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ตอกย้ำความจำเป็นในการฉีดวัคซีนกระตุ้นให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่

นพ.วิเวก เมอร์ธี เจ้ากรมการแพทย์สหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนซึ่งเวลานี้มองเห็นอยู่แล้วว่ามีการลดลงตามเวลาที่ผ่านไป ยังอาจจะลดลงต่อไปอีกในอนาคต นี่ย่อมหมายถึงความสามารถของวัคซีนในการป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยอาการรุนแรง การต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจากโควิด ก็กำลังลดลงด้วย

ถึงแม้เมอร์ธีและสมาชิกคนอื่นๆ ในทีมรับมือโควิดของทำเนียบขาว ยืนยันว่า วัคซีนโดยรวมยังถือว่ามีประสิทธิภาพ แต่พวกเขาก็ระบุว่าวิธีที่ดีที่สุดในการยกระดับการป้องกันคือการฉีดโดสกระตุ้น

ด้าน นพ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชั้นนำของอเมริกา อ้างอิงรายงานการศึกษาหลายฉบับ เช่น รายงานของมาโย คลินิกที่พบว่า เมื่อต้องสู้กับสายพันธุ์เดลตา ประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์ก็ลดลงจาก 76% เหลือ 42% และของวัคซีนโมเดอร์นาจาก 86% เหลือ 76% แต่หากฉีดเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันถึง 10 เท่า

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ไบเดนจะประกาศแผนการฉีดวัคซีนกระตุ้นให้อเมริกันชนนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประณามประเทศรวยที่จัดหาวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชน ขณะที่คนอื่นๆ มากมายทั่วโลกยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว

ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO ระบุว่า การฉีดวัคซีนกระตุ้นเทียบได้กับการแจกชูชีพให้คนที่ใส่อยู่แล้ว และปล่อยให้คนที่ไม่มีชูชีพต้องจมน้ำ

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนของ WHO ยืนยันว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่า การฉีดวัคซีนกระตุ้นมีความจำเป็น และย้ำว่า การช่วยให้ประชาชนในประเทศรายได้ต่ำได้ฉีดวัคซีนสำคัญกว่า

อย่างไรก็ดี ไบเดนแก้ต่างเรื่องนี้ โดยยืนยันว่าอเมริกาสามารถดูแลประชาชนของตัวเองพร้อมทั้งช่วยเหลือโลกไปพร้อมกัน โดยมีแผนบริจาควัคซีนให้ทั่วโลกกว่า 600 ล้านโดส

นอกจากนั้น ผู้นำสหรัฐฯ ยังระบุว่า นักการเมืองบางคนพยายามทำให้มาตรการความปลอดภัยสาธารณะกลายเป็นข้อพิพาททางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง และสำทับว่าได้มอบหมายให้มิเกล คาร์โดนา รัฐมนตรีศึกษาธิการ ใช้มาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสมเพื่อจัดการกับพวกผู้ว่าการรัฐที่ขัดขวางและคุกคามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนหรือนักการศึกษาบังคับการสวมหน้ากากป้องกันในโรงเรียน

แม้ไม่ได้พาดพิงถึงใครโดยตรง แต่เป็นที่คาดเดากันว่า ไบเดนหมายถึงผู้ว่าการรัฐฟลอริดาและเทกซัส ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกันทั้งคู่ และคัดค้านข้อเสนอแนะของหน่วยงานสาธารณสุขให้นักเรียนสวมหน้ากากป้องกันเวลาอยู่ในโรงเรียน ขณะที่โรงเรียนต่างๆ ทยอยเปิดปีการศึกษาใหม่ในช่วงนี้

โดยเฉพาะฟลอริดานั้น คณะกรรมการการศึกษาของรัฐเพิ่งลงมติให้ลงโทษเขตการศึกษา 2 แห่ง ที่ในสัปดาห์นี้ท้าทายคำสั่งของรอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐ ด้วยการบังคับนักเรียนต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในโรงเรียน

(ที่มา : รอยเตอร์, เอพี, เอเอฟพี)
#2815


"วันสารทจีน 2564" เป็นวันที่ลูกหลานแดนมังกรจะตั้งโต๊ะอาหารคาวหวานเพื่อไหว้ผีบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูและเป็นนัยว่าทำบุญส่งมอบอาหารไปถึงญาติผู้ล่วงลับให้ได้กินอิ่มหนำอีกครั้งในช่วงปลายปี (หลังจากที่ไหว้บรรพบุรุษไปแล้วในวันตรุษจีนช่วงต้นปี) และเมื่อพูดถึงการซื้อ  "ของไหว้"  สำหรับวันสารทจีนในปีนี้อาจจะไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านๆ มา เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดที่ทำให้สภาพเศรษฐกิจฝืดเคืองกว่าทุกปี 


แต่ไม่ว่าจะฝืดเคืองอย่างไร บางครอบครัวก็ยังคงสืบทอดธรรมเนียมปฏิบัติในการไหว้  "สารทจีน"  เอาไว้เหมือนทุกปี แต่ปีนี้อาจจะต้องมีเทคนิคในการซื้อของไหว้ให้ประหยัด และงบไม่บานปลายกันหน่อย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมทริกดีๆ สำหรับการซื้อของไหว้ให้ครบและคุ้มค่า รวมถึงแนะนำวิธีการตั้งโต๊ะไหว้ว่าต้องทำอย่างไร เตรียมของไหว้อะไร และไหว้เวลาไหนบ้าง? มาเช็คลิสต์ทางนี้...

1. เตรียมของไหว้มงคล "วันสารทจีน" 2564

ตามคติความเชื่อของชาวจีน (และชาวไทยเชื้อสายจีน) เวลาถึงวันสำคัญประจำปีที่จะต้องมีการตั้งโต๊ะไหว้เจ้า ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือไหว้บรรพบุรุษก็ตาม "ของไหว้"  เหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นของคาว ของหวาน หรือผลไม้ จะต้องมีความหมายมงคล ตามความเชื่อที่ว่าเมื่อไหว้ด้วยสิ่งของมงคลแล้ว ความดีอันเป็นมงคลทั้งหลายก็จะตกแก่ผู้ไหว้ ทำให้ชีวิตมีความเจริญก้าวหน้า ราบรื่น ค้าขายรุ่งเรืองเฟื่องฟู เป็นต้น

สำหรับ "ของไหว้" ที่ต้องใช้ในไหว้บรรพบุรุษในวัน "สารทจีน"  จะมีความคล้ายคลึงกับของไหว้ในวันตรุษจีน โดยจะใช้ทั้งของคาวจำพวกเนื้อสัตว์ที่มีความหมายมงคล ขนมมงคล และผลไม้มงคล ดังนี้

'สารทจีน' ความหมาย 'มงคล' ของไหว้ และไหว้อะไรบ้าง
'สารทจีน' VS 'ตรุษจีน' ลูกหลานแดนมังกรรู้ไหมต่างกันยังไง?

- เนื้อสัตว์ : เนื้อสัตว์ 3 อย่าง  (ซาแซ)  หรือเนื้อสัตว์ 5 อย่าง  (โหงวแซ) ต้องเลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่มีความหมายมงคล  เช่น เป็ดพะโล้ต้ม ไก่ต้ม หมูสามชั้นต้ม หมูกรอบ ขาหมู ปลานึ่ง  กุ้งต้ม เป็นต้น ส่วนเนื้อสัตว์ที่้ไม่ควรนำมาเป็นของไหว้คือเนื้อวัวและเนื้อแพะ

- ผลไม้ :  ถัดมาก็ต้องเตรียมผลไม้มงคล 3 (ซาก้วย) หรือผลไม้มงคล 5 อย่าง (โหงวก้วย) ก็ได้ โดยต้องเลือกผลไม้ที่มีความหมายมงคลเช่นกัน ได้แก่ แอปเปิ้ลแดง ส้ม สาลี่ ลูกพลับ องุ่นแดง แก้วมังกร  สับปะรด กล้วยหอมทอง  ทับทิม  เป็นต้น  สังเกตว่าจะเน้นผลไม้สีแดงและสีเหลืองทอง ซึ่งชาวจีนเชื่อกันว่าเป็นสีแห่งความเฮงและความโชค ส่วนผลไม้ที่ไม่ควรนำมาเป็นของไหว้คือ ผลไม้ที่มีสีดำ เช่น องุ่นดำ เป็นต้น

- ขนม :  ส่วนขนมที่ขาดไม่ได้ในการไหว้สารทจีนก็คือ  "ขนมเข่ง"  ส่วนขนมเทียนและขนมเปี๊ยะนั้นจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ และข้อสำคัญคือช่วงสารทจีนไม่นิยมใช้ขนมจันอับมาไหว้บรรพบุรุษ


2. เลือกซื้อ "ของไหว้" สุดประหยัดจัดได้ครบ!

อย่างที่บอกไปว่าปีนี้เกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด ทำให้เศรษฐกิจฝืดเคือง การจับจ่ายหาซื้อ "ของไหว้"  ปีนี้จึงต้องประหยัดงบเข้าไว้ สำหรับวิธีการเลือกซื้อของไหว้สำหรับวัน  "สารทจีน"  นั้นก็คือ เน้นซื้อให้ครบทั้ง 3 หมวด คือ ของคาว ขนม และผลไม้ แต่ให้ลดปริมาณลง แม้ว่าตามความเชื่อของลูกหลานแดนมังกร เวลาจะซื้อเนื้อสัตว์ที่เป็นของไหว้ต้องซื้อให้เต็มทั้งตัวก็ตาม  แต่ยังไงก็ควรจับจ่ายตามความสะดวกและตามกำลังทรัพย์ของแต่ละบ้านมากกว่า

วิธีเลือกซื้อเนื้อสัตว์มงคล : เปลี่ยนจากซื้อเป็ดต้มและไก่ต้มทั้งตัว เป็นซื้ออย่างละครึ่งตัว เปลี่ยนจากซื้อขาหมูทั้งขา เป็นสามชั้นต้ม 1 ชิ้น และซื้อของทำกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบทานอีกสัก 2-3 อย่าง

วิธีเลือกซื้อผลไม้มงคล : ซื้อแค่ 3 ชนิดก็เพียงพอแล้ว เช่น แอปเปิ้ลแดง สาลี่ กล้วยหอม

วิธีเลือกซื้อขนมมงคล : เน้นขนมเข่ง ขนมเทียนเป็นหลัก ส่วนขนมอื่นๆ ไม่ต้องก็ได้ และอย่าลืมถ้วยน้ำชาและชามข้าวสวยตามจำนวนญาติผู้ล่วงลับที่จะไหว้

ซื้อของจำเป็นอื่นๆ : กระดาษเงินกระดาษทอง กงเต๊ก ชุดเสื้อผ้ากระดาษ เล็กๆ น้อยๆ พอเป็นพิธีสำหรับเผาส่งไปให้ผู้ล่วงลับ


3. วิธีตั้งโต๊ะไหว้ "สารทจีน" 3 ครั้ง  พร้อมเวลาไหว้

ส่วนการจัดโต๊ะไหว้  "สารทจีน"  นั้นจะแบ่งการไหว้ออกเป็น 3 ครั้ง โดยแบ่งออกเป็น

-  ตั้งโต๊ะไหว้เจ้าที่ : ไหว้กันในตอนเช้า ไม่เกินเที่ยงวัน โดยต้องเตรียมทั้งของคาว ขนม และผลไม้ โดย "ของไหว้"  ที่ต้องมีในการไหว้ช่วงนี้คือ ขนมเทียน ขนมเข่ง และต้องแต้ม จุดสีแดง ไว้ตรงกลาง เนื่องจากความเชื่อของชาวจีนที่ว่าสีแดงเป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล นอกจากนั้นก็มี น้ำชา หรือ เหล้าจีน และ กระดาษเงินกระดาษทอง

วิธีไหว้ :  จัดอาหารมงคลเหล่านี้ไว้บนโต๊ะ จุดธูป 5 ดอกยกขึ้นไหว้พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน จากนั้นพอไหว้เสร็จก็เผากระดาษเงินกระดาษทอง

-  ตั้งโต๊ะไหว้บรรพบุรุษ :  ไหว้ช่วงสายๆ และไม่เกินเที่ยงวันเช่นกัน โดยใช้ชุดของคาว ขนม ผลไม้ เหมือนกับที่ไหว้เจ้าที่ และให้เพิ่มอาหารเมนูโปรดของเหล่าบรรพบุรุษเข้ามา และให้จัดชามข้าวสวย ถ้วยน้ำชา เก้าอี้ ตามจำนวนของบรรพบุรุษที่จะไหว้ด้วย ขณะที่ไหว้ก็สามารถเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ ชุดกงเต็ก ฯลฯ ไปพร้อมๆ กันเลยก็ได้ 

วิธีไหว้ :  จัดอาหารมงคลเหล่านี้ไว้บนโต๊ะ ไหว้บรรพบุรุษที่เสียนานแล้วใช้ธูป 3 ดอก สำหรับบรรพบุรุษที่เพิ่งเสียได้ไม่นานใช้ธูป 1 ดอก


-  ตั้งไหว้ผีไม่มีญาติ สัมภเวสี  :  ไหว้ช่วงบ่ายแก่ๆ ถือเป็นการให้เกียรติผู้อื่นของคนจีน และเป็นการให้ทาน โดยการทำเช่นนี้เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้ไหว้ทำการงานลื่นไหลไม่ติดขัด ค้าขายดี มีความเจริญรุ่งเรือง

วิธีไหว้ :  ต้องจัดโต๊ะไหว้บริเวณนอกตัวบ้าน ของไหว้จะมีทั้งของคาว ขนมหวาน และผลไม้ ตามต้องการ ที่พิเศษคือต้องมีข้าวคลุกกระเทียมเจียวแบบจีนโบราณ  เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง ให้เจ้าบ้านจุดธูปจำนวนมากไหว้ แล้วปักธูปที่อาหารหรือภาชนะอย่างละ 1 ดอก ส่วนคนอื่นๆ ในบ้านใช้ธูปเพียงดอกเดียวไหว้ เมื่อธูปหมดดอกต้องจุดประทัดเพื่อไล่ผีที่มาร่วมกินอาหารให้เตลิดไป และใช้ไล่สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ให้พ้นไปด้วย
#2816


ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการตรวจพบโควิดบนบรรจุภัณฑ์ทุเรียนไทยในมณฑลเจียงซี ซึ่งเป็นการสุ่มตรวจเชื้อตามปกติในพื้นที่ และส่งผลให้สำนักงานป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แขวงซงโจว เขตไป๋หยุน นครกว่างโจว ออกประกาศเกี่ยวกับการระงับทุเรียนไทยที่มีแหล่งผลิตในบางพื้นที่ของไทย ไม่ให้เข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ซึ่งมีตลาดเจียงหนานเป็นตลาดค้าส่งขนาดใหญ่และตลาดอื่น ๆ เนื่องจากพบความเชื่อมโยงจากกรณีของมณฑลเจียงซี  จึงได้มอบหมายให้ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบประเด็นดังกล่าว โดยสั่งการให้ทูต/กงสุลเกษตรในจีนประสานงานแก้ไขปัญหาและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง จนมีการยกเลิกประกาศฯ สามารถปลดล็อคการระงับการจำหน่ายในตลาดเจียงหนาน นครกว่างโจวได้สำเร็จ



ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ตลาดค้าส่งผักและผลไม้เจียงหนาน นครกว่างโจว ซึ่งเป็นตลาดผักผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของจีน ได้ออกประกาศการกลับมาดำเนินการปกติ ไม่มีการห้ามสินค้าผลไม้ไทยมาจำหน่ายในตลาด แต่จะอนุญาตให้สินค้าผลไม้ที่มีรับรองครบเท่านั้นถึงจะเข้าตลาดได้ คือ ใบรับรองการผ่านพิธีการศุลกากร ใบตรวจสอบกักกัน ใบรับรองการฆ่าเชื้อ และผลการตรวจโควิด ทั้งนี้ ขอให้ผู้ประกอบการอย่าหลงเชื่อข่าวลือ (fake news)


นอกจากนี้ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เตรียมนัดหมายหารือทวิภาคีกับฝ่ายจีนเพื่อหารือร่วมกันแก้ไขปัญหาและผลักดันผลไม้ไทยสู่ตลาดจีน พร้อมทั้งได้แจ้งให้ผู้ประกอบการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของไทยเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันเชื้อโควิดปนเปื้อนในผลไม้ไทยส่งออก ต้องทำการฆ่าเชื้ออย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าสินค้าเกษตรไทยมีมาตรการคุมเข้มการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิดตั้งแต่ต้นทาง

 


นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า  จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงระบาดในไทยและหลายประเทศทั่วโลก ประกอบกับไทย  ยังมีอัตราผู้ติดเชื้อ    ในประเทศสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายฝ่ายต่างเกิดความกังวลนั้น

 ในส่วนของสินค้าเกษตรทั้งในประเทศและสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออก  ทาง ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดในมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อของสินค้าเกษตรในทุกกระบวนการให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ  โดยมีการกำชับและคุมเข้ม ครอบคลุมในทุกมาตรการ ตั้งแต่มาตรการเฝ้าระวังและป้องกันสำหรับเกษตรกรในการดูแลตนเอง การทำความสะอาดพื้นที่และสวนเกษตร

 

 มาตรการสำหรับผู้ประกอบการสถานประกอบการโรงคัดบรรจุผลไม้ (ล้ง) และมาตรการสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเกษตร  มีการเฝ้าระวัง ตั้งแต่การพ่นยาฆ่าเชื้อตั้งแต่ต้นทางจากสวน จนถึงระบบขนส่ง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ภายในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตร ติดตามกำกับดูแลที่โรงคัดบรรจุให้ปฏิบัติตามมาตรการ และตรวจสอบใบรับรอง GAP และศัตรูพืช เพื่อออกใบรับรองสุขอนามัยพืชให้แก่ผู้ประกอบการส่งออกอย่างเคร่งครัด โดยยึดตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO)  และ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)

ขณะที่ด้านปศุสัตว์ ได้เน้นย้ำมาตรการป้องกันอย่างเต็มที่ โดยกรมปศุสัตว์ กรมควบคุมโรค ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ และผู้ประกอบการ มีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในโรงงาน และตรวจสอบประสิทธิภาพในการควบคุมความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการเก็บสินค้าตัวอย่าง หากพบมีความเสี่ยงหรือปนเปื้อนเชื้อ กรมปศุสัตว์จะไม่อนุญาตให้ทำการจำหน่ายหรือส่งออกในทันที นอกจากนี้   จากที่โรงานผลิตมีขอบเขตพื้นที่ชัดเจน ดังนั้น หากพบการติดเชื้อของพนักงานในโรงงาน จะสามารถคัดแยกผู้ติดเชื้อออกได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นไปตามแนวทางบับเบิลแอนด์ซีล (Bubble and Seal) ของกรมควบคุมโรค



สำหรับสินค้าประมง กรมประมงได้เข้มงวดระบบการควบคุมตรวจสอบ ตั้งแต่ต้นทาง เช่น เรือประมง มีการผ่านการตรวจสอบ มาตรฐานสุขอนามัย มีมาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งจะต้องได้มาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี (GAP) โดยสินค้าประมงส่งออก     มีการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยตลอดสายการผลิต ตั้งแต่วัตถุดิบที่นำเข้าโรงงาน กระบวนการในการแปรรูป การบรรจุ              ตามมาตรฐาน Good Man.cturing Practice หรือ GMP และ Hazard Analysis Critical Control Point หรือ HACCP เพื่อให้ ระบบคุณภาพของโรงงานและผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานสากล  นอกจากนี้ กรมประมงได้ร่วมกับผู้ประกอบการ กำหนดมาตรการ ในการเฝ้าระวัง ติดตามและดูแลแรงงานในสถานประกอบการตามมาตรฐานการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทางกระทรวง สาธารณสุขกำหนดไว้ทั้งมาตรการ Bubble and seal และอื่นๆ ที่จำเป็น


"ผมขอเรียนให้ประชาชนผู้บริโภคสินค้าเกษตร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คลายความกังวลและสบายใจได้ว่า             กระบวนการผลิตสินค้าเกษตรไทย ปราศจากการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19  โดยหลายประเทศ ในขณะนี้ ได้ยกระดับมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ในสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก สินค้านำเข้าจะต้องมีการฆ่าเชื้อบรรจุภัณฑ์ก่อนเข้าสู่ตลาดในประเทศต่าง ๆ และตรวจถูกตรวจเพื่อหาเชื้อโควิด-19"

 ซึ่งปลัดกระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการและกำชับให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ เข้มงวดตลอดสายการผลิตให้มากยิ่งขึ้น มีการสุ่มเก็บตัวอย่างสินค้า ทั้งกลุ่มพืช ไม้ผล ปศุสัตว์ ประมง เพื่อตรวจสอบการปนเปื้อน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่พบการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใดในกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร นอกจากนี้            ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการทุกท่าน ควบคุม กำกับดูแล ป้องกันการปนเปื้อนของเชื้ออย่างเข้มงวดให้มากกว่าเดิม ทั้งนี้ หากมีการตรวจพบเชื้อปนเปื้อนในกระบวนการผลิต กระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพณิชย์ กระทรวงแรงงาน และผู้ประกอบการ เราจะร่วมมือกันในการตรวจสอบย้อนกลับ ถึงสาเหตุการปนเปื้อนอย่างเร่งด่วนและเร่งแก้ปัญหาในทันที" 
#2817


นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้ช่วยผู้ว่าการ) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.เตรียมทดสอบการใช้งานจริง (Pilot Test) ของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางสำหรับรายย่อย (Retail CBDC) พร้อมกับเปิดให้ผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเข้ามาพัฒนาเชื่อมต่อระบบไปพร้อมกัน โดยคาดว่าจะเริ่มในไตรมาส 2 ปี 2565 แต่จะทดลองใช้ในวงจำกัดภายใน ธปท. ก่อนที่จะขยายไปยังประชาชนทั่วไป ร้านค้าขนาดใหญ่และขยาดย่อมมีธุรกรรมการใช้จ่ายของประชาชนรายย่อยที่สูง รวมถึงผู้ให้บริการทางการเงินที่เป็นธนาคารและสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคาร (นอนแบงก์)

ในการนี้ ธปท.เปิดผลการศึกษาถึงผลกระทบ Retail CBDC ต่อภาคการเงินไทย และผลสำรวจความเห็นจากสาธารณชน ต่อแนวทางการพัฒนา Retail CBDC ผ่านรายงาน "The Way Forward for Retail Central Bank Digital Currency in Thailand" ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2564 เพื่อนำมาพิจารณากำหนดแนวทางการพัฒนา Retail CBDC และ Pilot Test โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1. การศึกษาผลกระทบของ Retail CBDC ต่อภาคการเงินไทย

ผลการศึกษาชี้ว่า การออกแบบและการพัฒนา Retail CBDC ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องไม่สร้างผลกระทบรุนแรงต่อการส่งผ่านนโยบายการเงิน การทำงานของระบบสถาบันการเงิน และเสถียรภาพโดยรวมของภาคการเงินไทย โดยจะมีลักษณะสำคัญ คือ (1) รูปแบบคล้ายเงินสด และไม่จ่ายดอกเบี้ย (2) อาศัยตัวกลาง เช่น สถาบันการเงิน ในการแลกเปลี่ยน Retail CBDC กับประชาชน

และ (3) มีเงื่อนไขหรือระยะเวลาสำหรับการแลกเปลี่ยน Retail CBDC จำนวนมากๆ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันกับเงินฝากหรือเกิดการโยกย้ายเงินฝากปริมาณมากอย่างรวดเร็วจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะกระทบต่อการทำหน้าที่ตัวกลางในการรับเงินฝากและให้กู้ยืม รวมถึงการบริหารสภาพคล่องของระบบสถาบันการเงิน

ธปท. ประเมินว่าความต้องการใช้ Retail CBDC ของประชาชนจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และ Retail CBDC จะเข้ามาเป็นอีกทางเลือกในการชำระเงินให้กับประชาชน โดยอาจถูกใช้ทดแทนเงินสดและ e-money ได้บางส่วนในระยะต่อไป

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

2. ผลสำรวจความเห็นจากสาธารณชน

จากผลสำรวจ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางการพัฒนา Retail CBDC ของ ธปท. และมองว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ปลอดภัย เปิดกว้างต่อการเข้าถึงและการแข่งขันในอนาคต นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยกับแนวทางการออกแบบ Retail CBDC ข้างต้นเพื่อจำกัดผลกระทบเชิงลบต่อภาคการเงินไทย

ทั้งนี้ ผลสำรวจบางส่วนเสนอเพิ่มเติมให้ ธปท. มุ่งเน้นการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์และการใช้งานของ Retail CBDC แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะความแตกต่างจากการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน

3. แผนการทดสอบ Retail CBDC เพื่อใช้งานจริงในวงจำกัด (Pilot test)

จากผลการศึกษาและความเห็นที่ได้รับข้างต้น ธปท. จึงกำหนดแนวทางการพัฒนาและทดสอบการใช้งาน Retail CBDC ดังนี้

1) การทดสอบระดับพื้นฐาน (Foundation Track) เพื่อศึกษาการใช้งาน Retail CBDC ในการรับแลก หรือใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการในวงจำกัด ซึ่ง ธปท. คาดว่าจะเริ่มทดสอบในไตรมาส 2 ปี 2565

2) การทดสอบระดับนวัตกรรม (Innovation Track) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาต่อยอดการใช้งาน Retail CBDC ในกรณีต่างๆ โดย ธปท. จะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนหรือนักพัฒนาเข้าร่วมทดสอบด้วย ซึ่งขณะนี้ ธปท. อยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบและหลักเกณฑ์ในการเข้าร่วมทดสอบ 

ธปท. จะประเมินผลลัพธ์และความเสี่ยงด้านต่างๆ จากการทดสอบการใช้งานข้างต้น เพื่อให้มั่นใจว่า Retail CBDC จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ภาคธุรกิจ และประเทศในภาพรวม และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินในอนาคต
#2818


เมื่อวันที่ 19 ส.ค.64 นางโสภา เกียรตินิรชา รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ในฐานะโฆษกกรม เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยถึงการช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนของ "ลูกจ้าง" จำนวนมากที่ถูกบริษัทเลิกจ้าง ทั้งจากสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ซึ่งอาจซ้ำเติมลูกจ้างหากยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้ตามกฎหมาย จึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่งรัด ติดตามการช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของ "ลูกจ้าง" ที่รัฐบาล และกระทรวงแรงงานได้กำหนดเป็นนโยบาย และมาตรการให้ความช่วยเหลือคุ้มครองแรงงานตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน 

โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้จัดประชุมคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ครั้งที่ 10/2564 ในวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ซึ่งมีนายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธาน ได้ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบอนุมัติเงินช่วยเหลือลูกจ้างจำนวน 47 คน เป็นเงินสงเคราะห์จำนวน 586,966 บาท ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ถึงปัจจุบันคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้อนุมัติจ่ายเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกจ้างแล้วจำนวน 1,504 คน เป็นเงินกว่า 15.7 ล้านบาท
 
โฆษก กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เป็นกลไกที่กระทรวงแรงงานจัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ใช้แรงงานได้มีเงินค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ จากการถูกเลิกจ้าง ขาดรายได้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งหากลูกจ้างที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเลิกจ้างกรณีไม่ได้รับค่าชดเชย หรือสิทธิประโยชน์อื่น เช่น ค่าจ้าง ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปี เป็นต้น  สามารถยื่นเรื่องขอรับเงินสงเคราะห์จากกองทุนได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่
#2819


ความคืบหน้ามาตรการเยียวยาล็อกดาวน์ เยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ประกอบด้วย

กลุ่ม 10 จังหวัดแรก ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ยะลา ปัตตานี นราธิวาสและ สงขลา

กลุ่ม 3 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา

กลุ่ม 16 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรี   สมุทรสงคราม  สุพรรณบุรี   เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์  ราชบุรี  อ่างทอง  นครนายก  ปราจีนบุรี  ลพบุรี  ระยอง สิงห์บุรี   สระบุรี  นครราชสีมา  เพชรบูรณ์  ตาก 

ภายใต้เงื่อนไขผู้ประกันตนมาตรา 33 ลูกจ้างและ นายจ้าง ต้องประกอบอาชีพใน 9 กลุ่มกิจการที่รัฐบาลประกาศให้หยุด ปิดสถานที่ ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 และ ผู้ประกันตนมาตรา 40 ต้องประกอบอาชีพอิสระในพื้นที่ 29 จังหวัดและจ่ายเงินสมทบครบถ้วนตามเงื่อนเวลาที่กำหนด 


สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยไทม์ไลน์จ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนกลุ่มต่างๆ ดังนี้  


ผู้ประกันตน ม.33 

16 จังหวัดหลัง ใน 9 กลุ่มอาชีพ โอนเงิน 20 ส.ค. 64 จำนวน 2,500

ผู้ประกันตน ม.39

10 จังหวัดแรก+3 จังหวัด โอนเงิน 23 ส.ค. 64 จำนวน 5,000

ผู้ประกันตน ม.40 

10 จังหวัดแรก+3 จังหวัด โอนเงิน 24 ส.ค. 64 จำนวน 5,000

ผู้ประกันตน ม.39-40 

16 จังหวัดหลัง โอนเงิน 24 ส.ค. 64 จำนวน 5,000
#2820


สรรพคุณ คามากร้าเจลลี่
เป็นของเหลว ทานง่ายเหมือนทานขนม

ดูดซึมเร็ว ออกฤทธิ์เร็วที่สุด เมื่อเทียบกับตัวอื่น

แข็งเร็ว ภายใน 15 นาที แข็งนาน

ไม่อ่อนตัวขณะมีเพศสัมพันธุ์

ออกฤทธิ์เร็วกว่า แรงกว่า ซิเดกร้า

Kamagra Oral Jelly คามากร้า เจลลี่ ไวอากร้า เพิ่มพลังเพศชาย ผลิตโดยบริษัทยาที่ได้มาตราฐาน ของแท้ ราคาถูก เป็นยาขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศ ช่วยรักษาอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว นกเขาไม่ขัน ช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ดี ไม่อ่อนตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

kamagra ราคา (ขายเป็นซอง)
ส่งฟรี ส่ง kerry ด่วนพิเศษ เก็บเงินปลายทาง

7 ซอง ราคา 400 บาท (ซองละ 57 บาท)

21 ซอง ราคา 1,000 บาท (ซองละ 47 บาท)

49 ซอง ราคา 1,800 บาท (ซองละ 36 บาท)

70 ซอง ราคา 2,400 บาท (ซองละ 34 บาท)

140 ซอง ราคา 4,500 บาท (ซองละ 32 บาท)

kamagra ราคา (ขายเป็นกล่อง)
ส่งฟรี ส่ง kerry ด่วนพิเศษ เก็บเงินปลายทาง

1 กล่องมี 50 ซอง

ซื้อ 1 กล่อง (50 ซอง) ราคา 1,700 บาท (กล่องละ 1,700 บ)

ซื้อ 3 กล่อง (150 ซอง) ราคา 4,500 บาท (กล่องละ 1,500 บ)

ซื้อ 5 กล่อง (250 ซอง) ราคาส่ง 6,750 บาท (กล่องละ 1,350 บ)

ซื้อ 10 กล่อง (500 ซอง) ราคาส่ง 12,500 บาท (กล่องละ 1,250 บ)

kamagra gold (คามากร้าเม็ด)
Kamagra-Gold-100-mg-Tablet
สรรพคุณ คามากร้าโกลด์
ออกฤทธิ์นานประมาณ 4 ชั่วโมง

สามารถเสร็จกิจกรรมได้หลายรอบ อวัยวะฟื้นตัวเร็ว

ผลข้างเคียงน้อยมาก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ

ช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ดี ไม่อ่อนตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ทานยาครั้งละ 1 เม็ดประมาณ 30 – 40 นาทีก่อนการมีเพศสัมพันธ์

ห้ามทานยามากกว่าวันละครั้ง

Kamagra Gold เป็นยาขยายหลอดเลือด เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศ ช่วยรักษาอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว นกเขาไม่ขัน ช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ดี ไม่อ่อนตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ ยา คามากร้า (Kamagra) เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction; ED) หรือ ต้องการให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นานขึ้น

คามากร้า ราคา
ส่งฟรี ส่ง kerry ด่วนพิเศษ เก็บเงินปลายทาง

1 แผง 300 บาท

3 แผง 750 บาท / แผงละ 250 บาท

5 แผง 1,150 บาท / แผงละ 230 บาท

7 แผง 1,540 บาท / แผงละ 220 บาท

9 แผง 1,890 บาท / แผงละ 210 บาท

25 แผง 4,750 บาท / แผงละ 190 บาท

50 แผง 9,000 บาท / แผงละ 180 บาท

100 แผง 17,000 บาท / แผงละ 170 บาท

เจลคามากร้า ให้ผลอย่างไร
ช่วยทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้น
ยืดเวลาการมีเพชสัมพันธุ์ ชะลอหลั่งไว
จะมีกิจกรรมตอนไหนก็ได้แค่มีการกระตุ้น
อาการข้างเคียง

สำหรับคนที่ร่างกายปกติ ที่เกิดจากทานยาไวอากร้า ก็มี ปวดหัว หน้าแดง ตาพร่า ใจเต้นแรง แล้วก็ตาแพ้แสงผลข้างเคียงนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละบุคคล บางคนก็ไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ

วิธีรับประทานยา kamagra gel
ทานในขณะท้องว่าง หลังจากทานแล้วโดยเฉลี่ยยาจะออกฤทธิ์ ภายใน 15 นาที

คุณสมบัติของยา คามากร้า เจลลี่
Kamagra oral jelly เป็นยาที่จะช่วยกระตุ้นการขยายหลอดเลือด ทำให้ช่วยเรื่องการแข็งตัว และมีผลช่วยในเรื่องของความอึด ส่วนตัวเวลาไม่ได้ใช้ยาจะสามารถสอดใส่ได้ไม่เกิน 5 นาที แต่ถ้าใช้ยาจะได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งผลนี้จะขึ้นอยู่กับบุคคลที่ทานยาครับ แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน

* Kamagra oral jelly แตกต่างจากตัวอื่นคือ เป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็วที่สุดในยาทั้งหมดครับ ประมาณ 15  นาที และได้ผลค่อนข้างดี ต่างชาติจะนิยมใช้ตัวนี้กันครับ

Tags :: kamagra,คามากร้า,ขายคามากร้า,kamagra ราคา,คามากร้าเจลลี่,kamagra เก็บเงินปลายทาง,คามากร้าเจล,kamagra jelly ราคา,คามากร้าเจลลี่ ราคา,kamagra ส่งด่วน,kamagra เจลลี่