• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - luktan1479

#6211
Room Fiberry รูมไฟเบอรี่ ดีท็อกซ์ชนิดผงชงดื่ม ดื่มง่าย ถ่ายคล่อง
 

สุขภาพดีเริ่มต้นที่.. " การขับถ่าย "ROOM FIBERRY (รูม ไฟเบอร์รี่)ตัวช่วยของคนรักสุขภาพ เติมเต็มส่วนที่ขาด กำจัดส่วนเกินกินทุกวันแต่ไม่ขับถ่ายทุกวัน ต้นเหตุของ "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง"อาทิเช่น ท้องผูก ท้องเสีย มะเร็งลำไส้ใหญ่อ้วนลงพุง และโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูดซึมของเสีย หรือสารพิษที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายทำให้เซลล์ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระต่างๆ
 
Room Fiberry (รูม ไฟเบอร์รี่) มีส่วนช่วยในการดีท็อกซ์ร่างกายมากถึง 5 ระบบ
- ระบบลำไส้
- ระบบตับ
- ระบบไต
- ระบบเลือด
- ระบบผิวหนัง
 
•รวบรวมสารสกัดจากผักผลไม้ถึง 36 ชนิด
• อุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นจากผักและผลไม้ 7 สี
• เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
• กวาดเศษปฏิกูลของเสียออกจากส่วนที่ติดค้างในลำไส้
• ดูดสารพิษและกลิ่นเน่าเหม็น
• ขับถ่ายตามเวลาภายใน 8-12 ชั่วโมง
• ช่วยให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้น
• ช่วยให้ร่างกานผ่อนคลายและหลับสบายยิ่งขึ้น
• รสชาติมิกซ์เบอร์รี่ หอม อร่อย ทานง่าย
 
Room Fiberry"ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค""อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค""ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ"ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา
 
ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-3-0002
 
บรรจุ 1 กล่อง / 14 ซอง
วิธีรับประทาน ชงน้ำเย็น 50-100 ml/1 ซอง ดื่มก่อนนอน วันละ 1 ซอง
 ราคา  590 บาท

สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ
Tel. 0846623662
Line id : teerapat999

ข้อมูลเพิ่มเติม   http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1233

 
#รูมไฟเบอรี่ดีท็อกซ์กระชับสัดส่วน#ROOMFIBERRY ดูแลผิวพรรณป้องกันความอ้วน##ดีท๊อก#ดีท๊อกลำไส้ #ดีท๊อกของเสีย #วิตามิน #เพื่อสุขภาพที่ดี #ลดพุง #ถ่ายคล่อง #สินค้าดี
#6213
แฮนด์ สเปรย์แอลกอฮอล์การ์ด ราคาถูกกกก!!!!!
#6214


ถึงไทยแล้ว "VIRASPEC" ชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองชนิดตรวจจากน้ำลาย ใช้ง่ายกับทุกเพศทุกวัย SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Cassette (Saliva) นำเข้าจากสวีเดน คุณภาพระดับมาตรฐานยุโรป พร้อมกระจายผ่าน Morhello (หมอฮัลโหล) แพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพและการแพทย์ ทั่วประเทศ

ศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) กล่าวว่า "บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทชั้นแนวหน้าในวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดตัวบริษัท JP WORLD MEDICAL เพื่อรองรับธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางด้านดูแลสุขภาพและการแพทย์ โดยขณะนี้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท Thyrolytics AB จากประเทศสวีเดน ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายชุด Antigen rapid test kit ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลาย ชื่อ "VIRASPEC" SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Cassette (Saliva) ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองคุณภาพระดับมาตรฐานยุโรป โดยบริษัท JP WORLD MEDICAL ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัท Thyrolytics AB ประเทศสวีเดน ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายถึง 16 ประเทศในแถบอาเซียน ได้แก่ ไทย เวียดนาม พม่า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว พม่า มาเลเซีย กัมพูชา ออสเตรเลีย อินเดีย บังกลาเทศ ญี่ปุ่น ปากีสถาน และศรีลังกา



โดยได้รับการเปิดเผยจากบริษัทเจพีฯ ว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส "VIRASPEC" ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลาย SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Cassette (Saliva) ล็อตแรกจำนวน 1,000,000 ชุด ได้รับการจัดส่งถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว พร้อมเร่งกระจายแก่ประชาชนไทยทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว หวังช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศลงได้ ซึ่งชุดตรวจแบบโฮมยูสนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าสู่กระบวนการแยกกักตัวตนเองจากครอบครัว และผู้ใกล้ชิดได้อย่างทันท่วงที ก่อนเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไป

ศิริญากล่าวว่า ขณะนี้บริษัทณุศาศิริฯ เริ่มจากการเปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสุขภาพและการแพทย์ ชื่อ "MORHELLO" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จะเป็นศูนย์กลางในเรื่องสุขภาพและการแพทย์แบบครบวงจร ที่คุณจะสามารถเข้าถึงแพทย์ง่ายๆ ทางออนไลน์ เรายังเปิดบริษัท JP WORLD MEDICAL เพื่อรองรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและการแพทย์ โดยเราเปิดทั้งสองสิ่งนี้จุดประสงค์คือ เพื่อจะได้ร่วมดูแลสุขภาพคนไทยแบบครบวงจร



ขณะนี้บริษัท JP ของเราได้รับการอนุมัติการขึ้นทะเบียน Rapid Antigen Test (ชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส (Home Use) ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลาย จาก อย.ไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งชุด Rapid Antigen Test kit ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลายของ "VIRASPEC" นี้ เราได้นำเข้าจากประเทศสวีเดน เป็นชุดตรวจที่ได้รับมาตรฐานยุโรป มีข้อดีคือ สามารถใช้ได้ง่าย รวดเร็ว เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับเด็กซึ่งจะมีปัญหาในการตรวจหาเชื้อทางโพรงจมูก และยังมีความแม่นยำสูงมาก

โดยขณะนี้เราได้วางแผนการนำเข้าชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล็อตแรกที่จัดส่งถึงประเทศไทยแล้ววันนี้มีจำนวน 1,000,000 ชุด และล็อตที่สอง ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม อีก 500,000 ชุด โดยจัดจำหน่ายในราคาปลีกชิ้นละ 390 บาท (1 กล่อง / 1 ชิ้น) สำหรับให้แต่ละครอบครัวสามารถใช้ตรวจกันเองได้ ซึ่งเราจะเริ่มจัดจำหน่ายในประเทศภายในเดือนสิงหาคมนี้ ผ่านแพลตฟอร์ม Morhello ของเรา และโรงพยาบาลพานาซี

หากผู้สนใจอยากได้ชุดตรวจโควิดด้วยตนเองชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลายของ "VIRASPEC" สามารถสั่งซื้อเข้ามาได้ที่ https://morhello.com/home และ line : @PanaceeHospital เราจะส่งชุดตรวจนี้ไปถึงบ้านของท่านโดยไม่ต้องออกมาเสี่ยงการติดเชื้อนอกบ้าน ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ใช้งานศึกษารายละเอียดการใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ซึ่งที่กล่องชุดตรวจโควิด-19 แบบโฮมยูส จะมีฉลากภาษาไทยติดกำกับพร้อม QR Code สำหรับชมวิธีการใช้อย่างชัดเจน"
#6215


ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โควิด-19" ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงทุกวัน ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่เร่งตรวจคัดกรองเชิงรุกให้มากขึ้นในหลายๆ ชุมชน พร้อมกันนั้นทาง กทม. ก็ได้จัดตั้ง "ศูนย์พักคอย" หรือ Community Isolation ให้ครอบคลุมทุกเขตพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อรองรับ "ผู้ป่วยโควิด" ที่ไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ ให้มาแยกกักที่ศูนย์ฯ

โดยเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.64) มีข้อมูลอัพเดทเกี่ยวกับจำนวนศูนย์พักคอยที่เปิดให้บริการแล้ว พร้อมทั้งจำนวนเตียงทั้งหมดที่มีของแต่ละแห่ง โดยมีทั้งหมด 49 แห่ง แบ่งเป็น 6 โซนทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนี้

1. โซนกรุงเทพฯ เหนือ

เขตบางเขน : ศูนย์กีฬารามอินทรา      มี 150 เตียง
เขตจตุจักร : ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์    มี 180 เตียง
เขตจตุจักร : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยจตุจักร มี 120 เตียง
เขตดอนเมือง : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยดอนเมือง มี 113 เตียง
เขตหลักสี่ : ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่         มี 118 เตียง
เขตสายไหม : วัดราษฎร์นิยมธรรม      มี 170 เตียง
เขตบางซื่อ : วัดมัชฌันติการาม          มี 120 เตียง
เขตลาดพร้าว : อาคารสำนักงานส่งเสริมวิชาการ 2 (พม.) มี 141 เตียง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

เช็ค 26 จุดตรวจโควิด! 'ชมรมแพทย์ชนบท' ลุยภารกิจวันสุดท้าย ย้ำ 'ไม่เสร็จไม่เลิก'
'หมอชนบท'ลงพื้นที่ 'ตรวจโควิด' 26 จุดใน กทม. พบการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่
'ผู้ป่วยโควิด-19' รอเตียงกว่า 2,000 ราย ครองเตียงเกือบ 4 หมื่นราย
อัพเดท 'โควิดวันนี้' 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม.พุ่ง 4,226 ราย
สมัครผ่อนของ 0% 40 เดือนกับ Citi คลิกเลย

2. โซนกรุงเทพฯ กลาง 

เขตพระนคร : วัดอินทรวิหาร อาคารปฏิบัติธรรม มี 170 เตียง
เขตดินแดง : อาคารกีฬาเวสน์ 2  มี 150 เตียง
เขตดุสิต : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยเกียกกาย  มี 52 เตียง
เขตห้วยขวาง : ศูนย์พักคอยตันปัน มี 145 เตียง
เขตวังทองหลาง : วิทยาลัยพาณิชยการอินทราชัย มี 100 เตียง
เขตป้อมปราบฯ : วัดมังกรกมลลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) เฉพาะพระ-เณร  มี 20 เตียง
เขตพญาไท : ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนชุมชนวัดไผ่ตัน มี 50 เตียง
ราชเทวี : อาคารวิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการเจ้าพระยา มี 170 เตียง
3. โซนกรุงเทพฯ ใต้

เขตสาทร : วัดสุทธิวราราม มี 70 เตียง
เขตคลองเตย : วัดสะพาน มี 500 เตียง
เขตสวนหลวง : วัดปากบ่อ มี 140 เตียง
เขตบางนา : โรงเรียนเพี้ยนพินอนุสรณ์ มี 99 เตียง
เขตบางคอแหลม : วัดไทร มี 40 เตียง
เขตยานนาวา : โรงเรียนวัดดอกไม้ มี 150 เตียง
เขตวัฒนา : โรงเรียนสุเหร่าบ้านดอน มี 85 เตียง
เขตปทุมวัน : โรงเรียนวัดบรมนิวาส มี 50 เตียง
เขตพระโขนง : วัดบุญรอดธรรมาราม มี 71 เตียง
เขตบางรัก : โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒารามฯ มี 50 เตียง
4. กรุงเทพฯ ตะวันออก

เขตประเวศ : ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหนองบอน มี 120 เตียง
เขตลาดกระบัง : ร้านจงกั๋วเหยียน มี 200 เตียง
เขตสะพานสูง : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยสะพานสูง มี 140 เตียง
เขตบางกะปิ : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางกะปิ มี 133 เตียง
เขตหนองจอก : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยหนองจอก มี 100 เตียง
เขตบึงกุ่ม : โรงเรียนสุขุมนวพันธ์อุปถัมภ์ มี 100 เตียง
เขตมีนบุรี : ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มี 200 เตียง
เขตคลองสามวา : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยคลองสามวา  มี 176 เตียง
'พยากรณ์อากาศ' วันนี้ 'กรมอุตุนิยมวิทยา' ชี้ ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง - กทม. มีฝน 40%
สุดเศร้า! สาธารณสุขเมืองกรุงล้มเหลว ล็อกดาวน์ไร้ผล ยอด 'ผู้ติดเชื้อ' พุ่งคนตายเพียบ
จับตาอสังหาฯ"ซอมบี้เฟิร์ม"พุ่งหลังวิกฤติซ้อนวิกฤติต้นทุนพุ่ง-ดีมานด์ลด
5. กรุงธนเหนือ 

เขตบางกอกน้อย : วัดศรีสุดาราม  มี 80 เตียง
เขตทวีวัฒนา : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยทวีวัฒนา  มี 114 เตียง
เขตคลองสาน : อาคารกิจไพบูลย์ อิมพอร์ต  มี 150 เตียง
เขตธนบุรี : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ  มี 94 เตียง
เขตจอมทอง : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยจอมทอง  มี 70 เตียง
บางพลัด : โรงเรียนบางยี่ขัน  มี 91 เตียง
เขตบางกอกใหญ่ : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางกอกใหญ่  มี 50 เตียง
เขตตลิ่งชัน : โรงเรียนวัดตลิ่งชัน  มี 56 เตียง
6. กรุงธนใต้

เขตบางแค : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางแค  มี 150 เตียง
เขตบางขุนเทียน : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางขุนเทียน มี 120 เตียง
เขตทุ่งครุ : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยทุ่งครุ มี 51 เตียง
เขตทุ่งครุ : โรงเรียนสอนศาสนามูฮัมมะดียะห์ มี 60 เตียง
เขตภาษีเจริญ : ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย มี 140 เตียง
เขตหนองแขม : โรงเรียนมนต์จรัสสิงห์อนุสรณ์ มี 100 เตียง
เขตราษฎร์บูรณะ : ศูนย์พักคอยโกดัง บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ มี 200 เตียง
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ Call Center สายด่วน 1330 สปสช. และ "สายด่วนโควิด" ของทั้ง 50 เขตในกรุงเทพฯ รวบรวมมาให้ทราบกันด้วย โดยจะรับเคสผู้ป่วยโควิดในกรุงเทพฯ เข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาล 2 แบบ คือ 1) การกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation และ 2) การกักตัวในชุมชนที่ศูนย์พักคอย หรือ Community Isolation

1. กรุงเทพฯ เหนือ

จตุจักร 0 2026 3100
ดอนเมือง 0 2026 3122
บางเขน 0 2026 3166
บางซื่อ 0 2026 3233
ลาดพร้าว 0 2026 3499
สายไหม 0 2026 3500
หลักสี่ 0 2026 6800

2. กรุงเทพฯ กลาง

ดินแดง 0 2092 7016
ดุสิต 0 2092 7121
ป้อมปราบศัตรูพ่าย 0 2092 7313
พญาไท 0 2092 7580
พระนคร 0 2092 7643
ราชเทวี 0 2092 7701
วังทองหลาง 0 2092 7910
สัมพันธวงศ์ 0 2094 1429
ห้วยขวาง 0 2096 9112

3. กรุงเทพฯ ใต้

คลองเตย 0 2096 2823
บางคอแหลม 0 2096 2824
บางนา 0 2096 2825
บางรัก 0 2096 2826
ปทุมวัน 0 2096 2827
พระโขนง 0 2096 2828
ยานนาวา 0 2096 2829
วัฒนา 0 2096 2830
สวนหลวง 0 2096 2831
สาทร 0 2096 2832



4. กรุงเทพฯ ตะวันออก

คลองสามวา 0 2096 9202
คันนายาว 0 2483 5000
บางกะปิ 0 2483 5001
บึงกุ่ม 0 2483 5002
ประเวศ 0 2483 5003
มีนบุรี 0 2483 5004
ลาดกระบัง 0 2483 5005
สะพานสูง 0 2483 5006
หนองจอก 0 2483 5007

5. กรุงธนเหนือ

คลองสาน 0 2023 9900
จอมทอง 0 2023 9911
ตลิ่งชัน 0 2023 9922
ทวีวัฒนา 0 2023 9933
ธนบุรี 0 2023 9944
บางกอกน้อย 0 2023 9966
บางกอกใหญ่ 0 2023 9977
บางพลัด 0 2023 9988

6. กรุงธนใต้

ทุ่งครุ 0 2483 5008
บางขุนเทียน 0 2483 5009
บางแค 0 2483 5010
บางบอน 0 2483 5011
ภาษีเจริญ 0 2483 5012
ราษฎร์บูรณะ 0 2483 5013
หนองแขม 0 2483 5014

----------------------

อ้างอิง : ศบค.(7 ส.ค. 64), สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล (9 ส.ค. 64)
#6216
ทาวเวอร์เบียร์ ราคาถูก!!!!!
#6217
สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด
#6219


นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) กล่าวว่า วันนี้ ตน และ ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยโซล่าร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) พร้อมกลุ่มเพื่อนธนกร จัดซื้ออาหารกล่องเพื่อแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ ผ่านโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยมี นพ.เพชร อลิสานันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฯ ด้านสนับสนุนบริการ โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นผู้รับมอบ ทั้งนี้ ตนได้จัดซื้อจากผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตนและเพื่อนๆ จะทยอยจัดซื้อข้าวกล่องไปแจกให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศด้วย



นายธนกร กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และ ม.40 นั้น ขณะนี้กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้โอนเงินเยียวยาลูกจ้าง ม.33 ในพื้นที่ 13 จังหวัดแล้ว ยอดการโอนอยู่ที่ 2.4 ล้านราย เป็นเงินเกือบ 6,000 ล้านบาท ส่วนนายจ้าง ม.33 ที่จะได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาทต่อจำนวนลูกจ้างหนึ่งคน แต่ไม่เกิน 200 คนตามเงื่อนไขที่ระบุไว้นั้น สำนักงานประกันสังคมได้เริ่มโอนให้กับนายจ้าง ในพื้นที่ 13 จังหวัดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2564 โดยยอดการโอนให้นายจ้างวันแรกจำนวน 1,861 กิจการ เป็นเงิน 94.7 ล้านบาท และจะดำเนินการทยอยโอนให้ลูกจ้างและนายจ้าง ม. 33 พื้นที่ 16 จังหวัดที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ต่อไป

โฆษก ศบศ. กล่าวอีกว่า ครม. ยังมีมติอนุมัติเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน ม.39-ม.40 ในพื้นที่ 29 จังหวัด คนละ 5,000 บาท ใน 29 จังหวัดล็อกดาวน์ กรอบวงเงิน 33,471 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกันตน ม.39 ที่อยู่ในระบบ 29 จังหวัด จำนวน 1.4 ล้านคน และผู้ประกันตน ม. 40 อยู่ในระบบ 29 จังหวัด จำนวน 5.2 ล้านคน โดยขยายเวลาให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่สีแดง 13 จังหวัด ที่ลงทะเบียนภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 สามารถจ่ายเงินสมทบภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ส่วนกรณีที่อยู่ในพื้นที่ 16 จังหวัด ต้องจ่ายเงินสมทบภายในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ จึงถือว่าเป็นผู้ประกันตน ม.40 ที่ได้รับเงินเยียวยาตามโครงการฯ ซึ่งกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม คาดว่า จะสามารถเริ่มโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนได้ในวันที่ 24 สิงหาคมเป็นวันแรก โดยผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th/eform_news/
#6220
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

 

 

#6221


รองโฆษกรัฐบาล เผย ไทยพร้อมร่วมมืออาเซียนขับเคลื่อนพลังงานสะอาด เพิ่มการผลิตไฟฟ้าคาร์บอนต่ำ-หนุนยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าผลิต 30% ภายในปี 68

วันนี้ (10 ส.ค.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ว่า ครม.รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ซึ่งอาเซียนมีความมุ่งหมายร่วมกันในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการความร่วมมืออาเซียนด้านพลังงาน ในระยะที่ 2 ที่จะช่วยเปลี่ยนผ่านพลังงานของภูมิภาคอาเซียนให้มีความสะอาด ยืดหยุ่น และเหมาะสมกับสภาวะด้านพลังงานของโลก โดยประเทศไทยมีแนวทางดำเนินการดังนี้

1. ปรับแผนกลยุทธ์ระยะยาวและแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านนโยบายที่สำคัญ

2. เพิ่มการผลิตไฟฟ้าแบบคาร์บอนต่ำ โดยการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน รวมทั้งได้ประกาศนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular Green Economy Model: BCG model) เพื่อส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

3. พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าหมายในปี 2568 ไทยจะมีสัดส่วนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ร้อยละ 30 จากสัดส่วนการผลิตรถยนต์ทั้งหมด รวมทั้งการสนับสนุนการปรับใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานสะอาด

4. สนับสนุนแผนเร่งด่วนในการปลูกป่า เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลดคาร์บอนไดออกไซด์และสอดรับกับเป้าหมายของข้อตกลงปารีส

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้แสดงเจตจำนงร่วมกันในการส่งเสริมนโยบายการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานในอาเซียนผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล และความเชี่ยวชาญระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นในด้านการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาดต่างๆ อาทิ เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด เทคโนโลยีการดักจับ กักเก็บและการใช้ประโยชน์จากคาร์บอน (CCUS) เป็นต้น
#6222


อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 9 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 20,669,780 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,450 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 182.951 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ ภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 75.9%

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,450 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 42.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 351 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 166 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 182.951 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (74.0% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 75.42 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 20,669,780 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 53.84%

ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,450 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 20,669,780 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 15,986,354 โดส (24.2% ของประชากร)
-เข็มสอง 4,461,861 โดส (6.7% ของประชากร)
-เข็มสาม 221,565 โดส (0.3% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 9 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 20,669,780 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 400,465 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 6,606,930 โดส
- เข็มที่ 2 3,436,086 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 8,234,544 โดส
- เข็มที่ 2 653,195 โดส
- เข็มที่ 3 182,082 โดส

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,1136,014 โดส
- เข็มที่ 2 360,601 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 31,866 โดส
- เข็มที่ 2 11,979 โดส
- เข็มที่ 3 39,483 โดส

4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 116.3% เข็มที่2 100.3% เข็มที่3 31.1%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 49.3% เข็มที่2 29.3% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 52.3% เข็มที่2 23.2% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 32.7% เข็มที่1 5.6% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 29.0% เข็มที่2 8.2% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 30.6% เข็มที่2 2.0% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 1.1% เข็มที่2 0.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 32.0% เข็มที่2 8.9% เข็มที่3 0.4%

5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 51.1% เข็มที่2 11.9% เข็มที่3 0.4% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 70.9% เข็มที่2 15.5% เข็มที่3 0.6%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 31.4% เข็มที่2 13.2% เข็มที่3 0.3%
- นนทบุรี เข็มที่1 33.5% เข็มที่2 11.2% เข็มที่3 0.3%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 33.6% เข็มที่2 6.3% เข็มที่3 0.3%
- ปทุมธานี เข็มที่1 28.3% เข็มที่2 6.2% เข็มที่3 0.2%
- นครปฐม เข็มที่1 18.0% เข็มที่2 4.2% เข็มที่3 0.4%

จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 14.7% เข็มที่2 4.7% เข็มที่3 0.3%
- ภูเก็ต เข็มที่1 75.9% เข็มที่2 59.8% เข็มที่3 0.6%
- ระนอง เข็มที่1 41.6% เข็มที่2 12.6% เข็มที่3 0.3%
- สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 22.1% เข็มที่2 8.6% เข็มที่3 0.2%
- พังงา เข็มที่1 41.1% เข็มที่2 11.4% เข็มที่3 0.4%
- กระบี่ เข็มที่1 23.1% เข็มที่2 6.9% เข็มที่3 0.2%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 34.4% เข็มที่2 4.4% เข็มที่3 0.4%

6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 182,951,774 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 75,426,933 โดส (18.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 24,542,437 โดส (48.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 24,479,750 โดส (11.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 20,669,780 โดส (24.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 13.949,503 โดส (48.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 9,405,819 โดส (8.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,167,147 โดส (74.0%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 2,620,478 โดส (18.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 189,927 โดส (33.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ

7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 66.19%
2. อเมริกาเหนือ 11.52%
3. ยุโรป 13.76%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.45%
5. แอฟริกา 1.70%
6. โอเชียเนีย 0.38%

8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,770.30 ล้านโดส (63.2% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 506.81 ล้านโดส (18.5%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 351.40 ล้านโดส (54.9%)
4. บราซิล จำนวน 151.71 ล้านโดส (37.1%)

9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (81.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (79.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (79.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. สิงคโปร์ (74.0%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (70.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (69.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ภูฏาน (67.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. แคนาดา (67.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
9. ชิลี (67.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
10. เดนมาร์ก (66.6%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
#6223


กลุ่มบริษัทกัลฟ์ โดยนางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยนายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการฯ ร่วมลงนามสัญญาบำรุงรักษาอุปกรณ์ภายในสถานีไฟฟ้า และระบบสายส่ง 115 เควี และ 22 เควี ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ กฟภ.จะดำเนินงานบำรุงรักษาให้กับโรงไฟฟ้าเอสพีพี (SPP) 19 แห่ง ภายใต้กลุ่มบริษัทกัลฟ์ ส่งผลให้การจำหน่ายไฟฟ้าผ่านสถานีไฟฟ้า และระบบสายส่งไฟฟ้ามีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ มีความมั่นคงและปลอดภัยสูงสุด

นางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่กลุ่มบริษัทกัลฟ์เลือกกฟภ.เข้ามาดำเนินงานบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า SPP 19 แห่ง เนื่องจากกฟภ. ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้บริการงานบำรุงรักษาชั้นนำในธุรกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้าในประเทศไทย กลุ่มบริษัทกัลฟ์และกฟภ. เป็นพันธมิตรกันมายาวนานกว่า 20 ปี จึงเชื่อมั่นในทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญสูง การเลือกใช้อุปกรณ์ ชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน ทำให้ระบบไฟฟ้ามีสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ หนุนให้โรงไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าได้ตามแผนตลอดระยะสัญญา

นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า กฟภ. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่กลุ่มบริษัท กัลฟ์มอบความไว้วางใจให้ กฟภ. เป็นผู้ดำเนินงานบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าให้กับโรงไฟฟ้าจำนวน 19 แห่ง กฟภ. พร้อมนำประสบการณ์ และความชำนาญ ในการให้บริการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมความมั่นคงในการจ่ายพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาด้านพลังงานและเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ สัญญามีระยะเวลา 3 ปี ครอบคลุมงานบำรุงรักษาอุปกรณ์ภายในสถานีไฟฟ้า และระบบสายส่ง 115 kV และ 22 kV รวมไปถึงงานบริการฉีดน้ำลูกถ้วยแรงสูงแบบไม่ตัดกระแสไฟฟ้า (Hotline Cleaning Insulator) และการให้บริการซ่อมอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน 24 ช.ม. สำหรับโรงไฟฟ้า SPP 19 แห่งภายใต้กลุ่มบริษัทกัลฟ์ รวมมูลค่างานเป็นวงเงินกว่า 223 ล้านบาท