• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - hs8jai

#4186
บล.ทิสโก้เปิด 3 คาดการณ์ ยูเครน - รัสเซีย ชี้มีแนวโน้มเข้าโหมดปกติมากสุด คาดหุ้นไทยแกว่งตัว 1,660 - 1,700 จุด

บล.ทิสโก้เปิด 3 คาดการณ์ สงครามยูเครน - รัสเซียกระทบหุ้นไทย ชี้กรณีปกติ SET แกว่งตัวในกรอบ 1,660 - 1,700 จุด แนะใช้กลยุทธ์เลือกซื้อหุ้นรายตัว ในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานดี และหุ้นที่งบไตรมาส 4/2564 ออกมาสวยมีโอกาสปรับประมาณการกำไรขึ้น

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด (Mr. Apichat Poobunjirdkul, Senior Strategist, TISCO Securities Co., Ltd) กล่าวว่า สำหรับผลกระทบกรณียูเครน และรัสเซียต่อหุ้นไทย (SET Index) นั้น บล.ทิสโก้ประเมินออกเป็น 3 กรณี คือ 1. กรณีสถานการณ์ปกติ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้น 60% คือ สถานการณ์ยูเครน - รัสเซียยังคงอึมครึมต่อไปอีกเป็นเดือน โดยจะเห็นการประกาศคว่ำบาตรรัสเซียและความพยายามในการหารือร่วมกัน คาดจะใช้เวลาเป็นเดือน แต่ในที่สุดจะหาทางออกร่วมกันได้ คาดดัชนีหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 1,660 - 1,700 จุด โดยจะผันแปรไปตามกระแสข่าวของสถานการณ์ยูเครน - รัสเซีย

2.กรณีสถานการณ์ดี ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้น 30% คือ รัสเซียและชาติตะวันตกสามารถใช้การเจรจาหาข้อยุติได้ร่วมกันเร็วด้วยวิธีทางการทูต ไม่บานปลายเป็นสงครามข้ามชาติ คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวทะลุ 1,700 จุดอีกครั้ง และมีโอกาสจะขึ้นทดสอบ 1,720 - 1,730 จุด และ 1,750 จุด ตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง และ 3. กรณีสถานการณ์รุนแรง ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้น 10% คือ รัสเซียโจมตียูเครนเต็มรูปแบบ และ NATO กระโดดเข้าร่วมวงด้วย จนกลายเป็นสงครามของชาติมหาอำนาจคาดดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,660 จุด อาจลงทดสอบบริเวณ 1,630 - 1,640 จุด เพื่อตั้งหลักใหม่

อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะมีทิศทางปรับขึ้นดีกว่าหุ้นโลก (Outperform) เนื่องจากไทยได้รับผลกระทบจำกัดจากสถานการณ์ตึงเครียดยูเครน - รัสเซีย จาก 2 ปัจจัย คือ 1. รัสเซียมีมูลค่าการค้า ทั้งการส่งออกและนำเข้าในปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.52% ของมูลค่าการค้ารวมของไทย ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย คิดเป็นสัดส่วน 3.7% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดของไทยในปี 2562 เพื่อลดการบิดเบือนของตัวเลขจากผลกระทบการระบาด COVID-19 และ 2. ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ตอบสนองด้วยการปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 7 ปีจากความกังวลดังกล่าว ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไทยมีน้ำหนักในหุ้นกลุ่มนี้ค่อนข้างสูง ช่วยพยุงตลาดไม่ปรับตัวลงมาก

ด้านตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ของเดือนกุมภาพันธ์ที่จะเปิดเผยในวันที่ 10 มีนาคม นี้ คาดว่า จะยังขยายตัวสูงกว่าระดับ 7% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ต้องเร่งถอนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในไม่ช้า โดยตลาดขณะนี้คาดว่า FED จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก 25 bps ในการประชุมเดือน มีนาคม และจะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องอีก 5 ครั้ง ๆ ละ 25 bps ในการประชุม FED ที่เหลือของปีนี้

ถึงแม้บล.ทิสโก้เชื่อว่า ตลาดได้ซึมซับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ไปมากพอสมควรแล้ว สังเกตได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้นมาใกล้เคียงระดับ 2% แต่ความกังวลเงินเฟ้อที่ยังพุ่งขึ้นอยู่ ท่ามกลางราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้น คาดจะสร้างความผันผวนแก่ตลาดเป็นระยะตลอดช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จนกว่าจะเห็นสัญญาณการชะลอตัวของเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

ด้วยปัจจัยแวดล้อมที่มีความไม่แน่นอนสูง และโอกาสการปรับขึ้น (Upside) ตลาดเริ่มจำกัด โดยเฉพาะหากปรับขึ้นทะลุเกินกว่าระดับ 1,700 จุด บล.ทิสโก้จึงแนะนำกลยุทธ์เลือกหุ้นลงทุนเป็นรายตัว (Selective Buy) โดยหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ตลาด คือ 1) หุ้นงบไตรมาส 4/2564 ออกมาดี มีโอกาสปรับประมาณกำไรขึ้นเด่น คือ BDMS, BEC, และ MAKRO 2. หุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานดีราคายังขึ้นช้า (Big Cap, Value, Laggard) คือ EGCO, INTUCH, SCB, และ SCC เพราะฉะนั้น หุ้นเด่นที่บล.ทิสโก้แนะนำในเดือนมีนาคม คือ BDMS, BEC, EGCO, INTUCH, MAKRO, SCB และ SCC ด้านแนวรับสำคัญของเดือนนี้อยู่ที่ 1,655 - 1,660 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,620 - 1,630 จุด และแนวต้านสำคัญของเดือนนี้อยู่ที่ 1,700, 1,720 และ 1,750 จุด ตามลำดับ

 
#4187
EXIM BANK เตือนผู้ส่งออกรับมือความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ จากผลกระทบความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่รัสเซียพยายามรุกคืบเข้าถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ทำให้นานาชาติ โดยเฉพาะประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organisation : NATO) และชาติตะวันตก ประกาศมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจถึงขั้นจะถูกโดดเดี่ยวจากระบบการเงินโลก โดยประกาศตัดรัสเซียออกจากระบบสวิฟต์ (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication : SWIFT) ซึ่งเป็นระบบการส่งข้อความทางการเงินที่มีความมั่นคงปลอดภัยสูงที่สถาบันการเงินกว่า 11,000 แห่งใช้บริการและครอบคลุมการใช้งานในกว่า 200 ประเทศ กระทบต่อการใช้บริการ SWIFT ของสถาบันการเงินและบริษัทในรัสเซียจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 300 แห่ง ส่งผลให้บริษัทเอกชนของรัสเซียไม่สามารถเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินได้อย่างราบรื่น

ดร.รักษ์ กล่าวว่า ไทยอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ในปัจจุบันเท่าไรนัก เนื่องจากไทยส่งออกไปรัสเซียและยูเครนเพียง 0.4% และ 0.05% ของมูลค่าส่งออกรวม สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปรัสเซียและยูเครน ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเม็ดพลาสติก อย่างไรก็ตาม ในทางอ้อม ผู้ส่งออกไทยอาจประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเนื่องจากรัสเซียซึ่งเป็นมหาอำนาจด้านพลังงานของโลก โดยเฉพาะการเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และสินแร่ต่าง ๆ ถูกมาตรการลงโทษ ทำให้ส่งออกสินค้าดังกล่าวยากลำบาก เช่นเดียวกับสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และธัญพืชชนิดต่าง ๆ ซึ่งรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตอันดับต้น ๆ ของโลก เมื่อเกิดปัญหาความตึงเครียดส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงาน และวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิตและต้นทุนโลจิสติกส์สูงขึ้นตาม ซึ่งในที่สุดอาจกระทบต่อกำไรของผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ผู้ส่งออกไทยควรต้องบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศและบริหารจัดการต้นทุนการผลิตและการขนส่ง เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าและการเมืองระหว่างประเทศ ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งล่าสุดเงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนค่าลงถึงราว 30% จากต้นปี 2565 ผู้ประกอบการไทยจึงควรบริหารจัดการความเสี่ยงดังกล่าว รวมถึงการปรับวิธีการชำระเงินค่าสินค้า เป็นต้น โดย EXIM BANK มีบริการให้คำปรึกษาแนะนำเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่เหมาะสมให้แก่ผู้ส่งออก

"EXIM BANK ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ค้าขายและลงทุนระหว่างประเทศ ทั้งในตลาดรัสเซีย ยูเครน และทวีปยุโรปโดยรวม ซึ่งไทยส่งออกไปยุโรปคิดเป็น 10% ของมูลค่าการส่งออกรวม แม้ว่าปัจจุบันผลกระทบยังอยู่ในวงจำกัด แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น อาจส่งผลต่อภาพรวมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ตลอดจนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด เนื่องจากนักท่องเที่ยวในประเทศเหล่านี้อาจชะลอการเดินทาง เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยและการส่งออก ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังเกิดขึ้นในปีนี้" ดร.รักษ์กล่าว
#4188
'สินิตย์' ชี้! ส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางไทยสดใส หนุนใช้ FTA RCEP ขยายตลาดเพิ่ม

รมช.พาณิชย์ เผย ไทยส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางขยายตัวต่อเนื่อง ครองแชมป์ส่งออกยางพาราอันดับ 1 ของโลก และส่งออกผลิตภัณฑ์ยางอันดับ 4 ของโลก หนุนใช้ FTA และ RCEP เพิ่มโอกาสขยายตลาดต่างประเทศ แนะผู้ประกอบการไทยพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ยาง ครองตำแหน่งผู้นำด้านการผลิตและส่งออก

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศติดตามข้อมูลการส่งออกสินค้าศักยภาพของไทย ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง โดยได้รับรายงานว่า ไทยยังคงส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางสู่ตลาดโลกได้ดี และขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยไทยครองแชมป์ผู้ส่งออกยางพาราอันดับ 1 ของโลก และเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ยางอันดับ 4 ของโลก ซึ่งคาดว่าแนวโน้มตลาดสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางจะเติบโตมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว และมีความต้องการยางพาราในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสินค้าผลิตภัณฑ์ยางทั้งกลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนถุงมือยางและอุปกรณ์ยางทางการแพทย์ จึงได้สั่งการให้กรมฯ เร่งศึกษาช่องทางเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยสามารถขยายส่งออกไปตลาดต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA)

?ผู้ประกอบการไทยควรพัฒนาการแปรรูปยางพาราให้เป็นผลิตภัณฑ์ยางที่มีมูลค่าสูง ทั้งคุณสมบัติด้านความทนทาน ยืดหยุ่นสูง ลดการสั่นสะเทือน และป้องกันกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ รถยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ และพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งการส่งเสริมด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง จะช่วยให้อุตสาหกรรมยางพาราไทยเป็นที่ต้องการของโลก และครองความเป็นผู้นำด้านการผลิตและส่งออกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน? นายสินิตย์เสริม

ด้านนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายตลาดส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มขึ้น สำหรับสินค้ายางพารา คู่ FTA 16 ประเทศของไทย ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง ยกเลิกภาษีนำเข้าให้ไทยแล้ว คงเหลือ 2 ประเทศ คือ อินเดีย เก็บภาษีนำเข้าน้ำยางธรรมชาติ 70% และยางแผ่นรมควัน 20% และจีน เก็บภาษียางพารา 20% ส่วนสินค้าผลิตภัณฑ์ยาง คู่ FTA 14 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และฮ่องกง ยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าผลิตภัณฑ์ยางทุกรายการจากไทยแล้ว คงเหลืออีก 4 ประเทศ ที่ยังเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางบางรายการ อาทิ จีน เก็บภาษียางสังเคราะห์ 5% เกาหลีใต้ เก็บภาษียางสังเคราะห์และเส้นด้ายยาง 5% อินเดีย เก็บภาษียางนอกชนิดที่ใช้กับรถยนต์นั่ง และของที่ทำด้วยยาง อาทิ rubber band 5% และชิลี เก็บภาษียางนอกชนิดที่ใช้กับรถยนต์นั่งและรถบัส 0.7% และจะลดเป็นศูนย์ในปี 2566

นอกจากนี้ ภายใต้ความตกลง RCEP ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา จีนได้ลดภาษีสินค้ายางสังเคราะห์เพิ่มเติมให้ไทย และจะทยอยลดลงจนเหลือศูนย์ ในปี 2584 และเกาหลีใต้ จะทยอยลดภาษีนำเข้าเส้นด้ายยางจนเหลือศูนย์ในปี 2580 และลดภาษียางสังเคราะห์คงเหลือเพียง 4%

สำหรับในปี 2564 ไทยส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางสู่ตลาดโลก มูลค่า 20,059.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 28.3% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นการส่งออกยางพารา มูลค่า 5,590.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวถึง 58.6% และผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 14,469.06 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 19.4% ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน

มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ทั้งนี้ ไทยส่งออกสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางไปประเทศคู่ FTA มูลค่า 9,762.1 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 48.6% ของการส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางทั้งหมดของไทย ขยายตัว 23.5% จากปีก่อนหน้า โดยส่งออกยางพาราไปประเทศคู่ FTA มูลค่า 3,771.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 50.4% คิดเป็นสัดส่วน 67.4% ของการส่งออกยางพาราทั้งหมดของไทย จีนตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 รองลงมาคือ อาเซียน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ ยางแท่ง น้ำยาง และยางแผ่นรมควัน และไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไปประเทศคู่ FTA มูลค่า 5,990.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 11.% คิดเป็นสัดส่วน 41.4% ของการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางทั้งหมดของไทย ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น อาเซียน และออสเตรเลีย สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ ยางล้อ ยางสังเคราะห์ และถุงมือยาง
#4189
ศัลยกรรม แผลเป็น ที่ปากอาเซียนบิวตี้คลีนิคศัลยกรรมต้นๆของประเทศดูแลทุกปัญหาความสวยสดงดงาม  
ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง แล้วก็เวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมการดูแลความสวยงาม
ศัลยกรรม แผลเป็น ที่ปากแบบองค์รวม ตั้งแต่ศีรษะถึงปลายเท้า โดยหมอผู้ที่มีความชำนาญ  
และ คณะทำงานมืออาชีพ 
ศัลยกรรม แผลเป็น ที่ปากอีกทั้งไทยและต่างชาติ 


https://bit.ly/35lzcGd
#4190
ตัดไขมันหน้าท้อง แผลที่เดอะคลาสสถานพยาบาล เป็นคลินิกเวชศาสตร์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ 
ตัดไขมันหน้าท้อง แผลการรับรองประสิทธิภาพให้เป็นสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์  
 ตัดไขมันหน้าท้อง แผลที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เท่ากันโรงหมอโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์ 
จบกระดานเฉพาะทาง และก็ เสริมความสวย
ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีหมอ ธีรภัทร์ ใจประสาท อาจารย์หมอ  
ตัดไขมันหน้าท้อง แผลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความตั้งใจให้บริการทุกท่าน


https://bit.ly/3vvxm05
#4191
โครงการ SME NEXTFORMATION by True Digital Park Batch 2 Facebook photo album และ Caption

โครงการ SME NEXTFORMATION by True Digital Park Batch 2 Facebook photo album และ Caption
#เรียนฟรี หลักสูตร 'สร้างธุรกิจให้เติบโตบนแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับ SMEs' ภายใต้โครงการ SME NEXTFORMATION by True Digital Park Batch 2 มาติดอาวุธให้ธุรกิจ SMEs ทำ #ธุรกิจออนไลน์ แบบพุ่งทะยาน

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ร่วมกับ TikTok แพลตฟอร์มวีดีโอสั้นออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ออกแบบหลักสูตรกับ Lazada, P4DGroup, Shipnity, และ True Digital Academy จัดสอนฟรี 5 คลาสสดออนไลน์ ให้ผู้ประกอบการ SMEs เรียนได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เรียนจบรับประกาศนียบัตร

ให้ความรู้ สอนวิธีเปิดหน้าร้านบนแพลตฟอร์ม Social Commerce และ e-Marketplace วิธีครีเอทคอนเทนต์และไลฟ์ขายของให้ปัง วางแผนการตลาดออนไลน์ ใช้เทคโนโลยีจัดการออเดอร์และสต็อกสินค้า เพื่อสร้างยอดขายให้ธุรกิจ

เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันนี้ - 4 มีนาคม 2565 ลงทะเบียน https://bit.ly/SME2_Partner

สิ่งที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับ

ฟรี คลาสสดออนไลน์ 5 คลาส (5 มีนาคม จนถึง 2 เมษายน 2565)
ฟรี เครดิตต่อยอดธุรกิจจาก Lazada, Shipnity, และ TikTok*
ฟรี สิทธิ์ใช้ Co-working space ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค 3 เดือน (เมื่อเรียนนครบ 5 คลาส)
เรียนครบ 4 คลาส รับประกาศนียบัตร
เข้าโปรแกรมบ่มเพาะธุรกิจ
พบเครือข่ายพันธมิตร SMEs และเข้าร่วม Networking
รายละเอียดคลาส

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2565
คลาส: สร้างแบรนด์ให้ธุรกิจเติบโตด้วย TikTok
เนื้อหา: เรียนรู้การลงโฆษณากับผู้นำแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งในด้านการทำการตลาดรูปแบบวิดีโอสั้น (Short Video Marketing) กับผู้เชี่ยวชาญจาก TikTok สร้างแบรนด์ให้ธุรกิจเติบโต พร้อมตัวอย่างกรณีศึกษาจากแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ และวิธีการทำชิ้นโฆษณาให้ดึงดูดลูกค้า เหมาะสำหรับผู้ประกอบธุรกิจทุกประเภท เข้าใจง่ายแม้ไม่มีพื้นฐานก็เริ่มลงโฆษณาบน TikTok ได้

สอนโดย: จินดาภัทร สินธวัชต์, Strategic Partnerships Manager, TikTok
เกวลิน ลาภกิจถาวร, Account Strategist, TikTok

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2565
คลาส: วางแผน Digital Marketing พิชิตใจลูกค้าเป้าหมาย
เนื้อหา: ช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการวางแผนทำการตลาดบนโลกออนไลน์ เข้าใจความแตกต่างของเครื่องมือที่ใช้และช่องทางการทำการตลาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มี touchpoints ที่แตกต่างกัน การวางแผนงบประมาณแคมเปญ และการกำหนดวัดผล เพื่อให้ได้ผลตอบรับที่คุ้มค่า พร้อมเคสตัวอย่างที่น่าสนใจ

สอนโดย: บุญเกียรติ พุทธา, Digital Consultant, True Digital Academy

วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2565
คลาส: E-commerce 2022 ที่ทุกคนต้องรู้ เทรนด์ และกลยุทธ์ต่างๆ
เนื้อหา: ทำไมต้องขายบนอีคอมเมิร์ซ วิธีการเปิดร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจร เทคนิคการตลาด การใช้เครื่องมือบนแพลตฟอร์มเพื่อสร้างยอดขาย เข้าร่วมแคมเปญเพื่อทำให้ร้านค้าของคุณเป็นที่รู้จัก และสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน

สอนโดย: ปาณัสม์ วงศ์เบญจรัตน์, VP, Head of Seller Platform, Lazada Ltd.

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565
คลาส: เพิ่มยอดขาย ขยายฐานลูกค้า ด้วย LINE OA
เนื้อหา: สอนโดย LINE Certified Coach (Recommended List) กับกลยุทธ์การตลาดบน LINE Platform ด้วย LINEOA บนหลักการทั้ง 4 แกน สร้าง - ชวน - ใช้ - เก็บ สิ่งสำคัญที่ร้านค้าที่ขายดีรู้และเข้าใจ

สอนโดย: ปรีดี โรจน์ภิญโญ, Managing Director, P4Digital Groups

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2565
คลาส: จบทุกช่องทางขาย จัดการสต๊อกง่ายด้วย Shipnity
เนื้อหา: จัดการออเดอร์และสต็อกสินค้าครบวงจร เชื่อมต่อร้านออนไลน์บน Social Media, E-Commerce Marketplace, และ Livestreaming เก็บประวัติลูกค้าตั้งแต่สั่งซื้อ แจ้งโอนเงิน ส่งสินค้า และแจ้งเตือนเมื่อสินค้าหมดแบบ real time ให้คุณพร้อมขายและสร้างกำไรอย่างยั่งยืน

สอนโดย: ประภัสสร พันธ์ภักดี, Product Specialist, Shipnity
#4192
ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ด้วยมิสเอเส้นใย เพียงแต่ 1 แก้วต่อวัน ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดระดับคลอเรสเตอรอล
ลดปริมาณน้ำตาลซึ่งอยู่ภายใน
เลือด กำจัดสารพิษในลำไส้ 
ไฟเบอร์ดีท็อกซ์เพิ่มเติมความละมุนเนียนนุ่ม และกระจ่างใสให้กับผิว กระตุ้นสุขภาพผิวให้แข็งแรง 
ไฟเบอร์ดีท็อกซ์มองเบิกบานใจ ผิวเรีบบเนียนไม่มีสะดุด หยุดทุกสายตา สร้างเสริมส่วนประกอบของผิวให้ดูสุภาพละมุนละมัย ไม่
ไฟเบอร์ดีท็อกซ์หยาบกระด้าง



https://bit.ly/3vBRzBD


 
#4193
WealthMePlease: วางหมากเทรดหุ้น มี.ค.ลุยกันต่อหรือพอแค่นี้ ??

แม้ว่าบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยเดือน ก.พ.ที่ผ่านมามีหลายปัจจัยบวกและปัจจัยเสี่ยงคอยรุมเร้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวผันผวนขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดรอบกว่า 2 ปีที่ระดับ 1,718 จุด และลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,656 จุด

แต่เมื่อเข้าสู่เดือน มี.ค.สัญญาณผ่อนคลายของนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นกับปัจจัยเชิงบวกมากขึ้น โดยเฉพาะการผ่อนคลายประเด็นความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครน หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ก.พ.) มีการเจรจาหยุดยิงระหว่างคณะผู้แทนของทั้ง 2 ฝ่าย แม้ว่าจะจบลงอย่างที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันได้ แต่มุมมองปรับเป็นบวกมากขึ้นต่อการที่ทั้ง 2 ฝ่ายอาจเริ่มใช้วิธีการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาแทนการใช้กำลังทหารเข้าตอบโต้กัน จึงต้องติดตามผลการเจรจารอบต่อไปที่ชายแดนเบลารุสและโปแลนด์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังคงกลายเป็นหลุมหลบภัยชั้นดี สะท้อนจากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะคาดหวังถึงโอกาสเศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะที่ไม่แน่นอนควบคู่ไปกับแนวโน้มของสภาพคล่องในตลาดโลกที่กำลังจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอันใกล้

การวางหมากกลยุทธ์เลือกหุ้นเด็ดรับมือกับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะสั้นจะต้องมีแนวทางปฎิบัติอย่างไร ภายใต้ข้อสงสัยว่ามูลค่าที่แท้จริงของตลาดหุ้นไทยในเวลานี้เข้าข่ายแพงเกินไปแล้วหรือยัง ?? แรงขายหนักๆ ของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติจะมีให้เห็นกันอีกระลอกหรือไม่ ?? ไขคำตอบกับนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส (ASP)

ทั้งนี้ รายการ "Wealth Me Please" จะนำข้อมูลความรู้ด้านการเงินและการลงทุน ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่านนำมาต่อยอดช่วยสร้างความมั่งคั่งได้ด้วยตัวเอง
#4194
ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด หลังรัสเซีย-ยูเครนเจรจาไม่คืบ

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ หลังจากที่การเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงไม่ได้ข้อสรุป

ณ เวลา 21.31 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,758.40 จุด ลบ 134.20 จุด หรือ 0.4%

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 0.5% เมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังการเจรจาหยุดยิงระหว่างคณะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายสิ้นสุดลงโดยไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ

ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้น 6.43% สู่ระดับ 32.09

หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงในการซื้อขายวันนี้ สอดคล้องกับการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 101 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะลุระดับ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล

การเจรจาโดยตรงระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศได้สิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ โดยไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด และทั้งสองฝ่ายจะทำการเจรจารอบต่อไปที่ชายแดนเบลารุสและโปแลนด์ในอีกไม่กี่วัน

ตำรวจสหรัฐคุมเข้มความปลอดภัยในกรุงวอชิงตัน ดีซี ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะทำการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในวันนี้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการล้อมรั้วรอบอาคารรัฐสภาสหรัฐเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยในวันที่ 6 ม.ค.2564 ซึ่งฝูงชนที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ราว 2,500 คนได้บุกเข้าไปยังรัฐสภาเพื่อขัดขวางการนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งที่คาดว่าจะนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน

นอกจากนี้ นายลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ ได้อนุมัติการส่งกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติจำนวน 700 นายเข้าปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยร่วมกับตำรวจประจำรัฐสภาสหรัฐเพื่อรับมือกับ People's Convoy ซึ่งเป็นกลุ่มคนขับรถบรรทุกที่ประท้วงรัฐบาลในการออกมาตรการบังคับการฉีดวัคซีนและสวมหน้ากากอนามัยเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยขบวนรถบรรทุกดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าตรงมายังกรุงวอชิงตัน ดีซี

ปธน.ไบเดนเตรียมแถลงนโยบายประจำปีเป็นครั้งแรกต่อสภาคองเกรส ตามคำเชิญของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและชาติตะวันตกกับรัสเซียในกรณียูเครน

ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ (1 มี.ค.) เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.) เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย

ขณะเดียวกัน นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2-3 มี.ค. โดยอาจเป็นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินต่อสาธารณะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.

ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันที่ 2 มี.ค. และต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 3 มี.ค. โดยการแถลงทั้งสองวันจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย

การแถลงนโยบายการเงินดังกล่าวจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี และเป็นการส่งสัญญาณว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนจะส่งผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดหรือไม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดบางรายระบุว่า เฟดจะนำผลกระทบที่เกิดจากความขัดแย้งในยูเครนเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณานโยบายการเงินของเฟด

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่งในเดือนดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 467,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 150,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%
#4195
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า นลท.ซื้อสกุลเงินปลอดภัยช่วงวิกฤตยูเครน

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (1 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.73% สู่ระดับ 97.4090

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9189 ฟรังก์ จากระดับ 0.9167 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2739 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2690 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.87 เยน จากระดับ 114.88 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1131 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1226 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3314 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3419 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7251 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7264 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งสัญญาณยืดเยื้อ หลังจากการเจรจาโดยตรงระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด และทั้งสองฝ่ายจะทำการเจรจารอบต่อไปที่ชายแดนเบลารุสและโปแลนด์ในอีกไม่กี่วัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียได้เตือนให้ประชาชนยูเครนอพยพออกจากบ้านเรือน ก่อนที่จะระดมยิงจรวดเข้าใส่เมืองคาร์คีฟซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ขณะที่นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียจะยังคงใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครน จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายหลักในการปกป้องตนเองจากภัยคุกคามของชาติตะวันตก นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันที่ 2 มี.ค. และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 3 มี.ค. โดยการแถลงทั้งสองวันจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย

นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่ง
#4196
กูเกิลประกาศแผนการให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในสำนักงาน มีผลกับพนักงานในสำนักงานที่ Bay Area โดยให้เหตุผลว่าจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงในระดับที่ควบคุมได้ จึงเตรียมพื้นที่กิจกรรม เช่น ฟิตเนส และบริการนวด ในสำนักงานส่วนเงื่อนไขเพิ่มเติมของพนักงานนั้น กูเกิลได้ยกเลิกข้อกำหนด เช่นการต้องได้รับวัคซีน รวมทั้งการต้องตรวจโควิดก่อนเข้าสำนักงานอีกด้วย จากเดิมที่กำหนดเงื่อนไขนี้กับทุกคน แม้ว่าพนักงานจะได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตามกูเกิลบอกว่าเงื่อนไขดังกล่าวต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดของหน่วยงานในพื้นที่นั้นเช่นกันการให้กลับมาทำงานในสำนักงานของกูเกิลนั้น วางแนวทางการทำงานแบบไฮบริด คือเข้าสำนักงาน 3 วันต่อสัปดาห์ โดยพยายามนำบริการและสวัสดิการในสำนักงานกลับมาให้มากที่สุด เช่น ฟิตเนส รถบัสฟรี พื้นที่สำหรับกินอาหาร และบริเวณทำกิจกรรมอื่น ๆที่มา: CNBC.
#4197
' VL' เดินหน้าขยายกองเรือใหม่ 10,000 DWT กลางปีนี้ รับดีมานด์น้ำมันปาล์ม-น้ำมันบริโภคพุ่ง ปั้นรายได้ปีนี้เพิ่ม25%

บมจ.วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ('VL') อัดงบลงทุน 200 ล้านบาท ต่อเรือใหม่ขนาด 10,000 เดตเวตตัน (DWT) รองรับการขนส่งน้ำมันปาล์ม - น้ำมันบริโภค (น้ำมันมะพร้าว-น้ำมันถั่วเหลือง) คึกคัก พร้อมระบุแผนขยายกองเรือใหม่ จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศแตะ 50% จากปีก่อนที่ 39% หนุนอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 25% ตามเป้าที่วางไว้
นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ' VL ' ผู้ให้บริการด้านการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์เคมีทางทะเล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าขยายกองเรือเพิ่ม จำนวน 1 ลำ น้ำหนักบรรทุกไม่ต่ำกว่า 10,000 เดตเวตตัน (DWT) ภายใต้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยเรือดังกล่าวบริษัทฯ คาดว่าจะนำเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการ ซึ่งสอดรับกับนโยบายบริษัทฯในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยกองเรือใหม่ ที่เข้ามาจะให้บริการในเชิงพาณิชย์ได้ทันที ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีความสามารถในการรับรู้รายได้จากการให้บริการเรือดังกล่าวโดยเฉลี่ยในปี 2565 ประมาณ 90 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ในต่างประเทศในปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 39% เป็น 50% และในปี2566 จะมีรายได้เข้ามาเต็มปี เฉลี่ยประมาณ 180 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ น้ำมันปาล์มในปี 2565 ที่ยังมีการเติบโตอย่างแต่เนื่อง แม้ว่าราคาน้ำมันปาล์ม ส่งผลให้ประเทศอินโดนีเซีย จำกัดการส่งออกน้ำมันปาล์ม ส่งผลให้การส่งออกน้ำมันปาล์มลดลง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นแค่ระยะสั้นเท่านั้น และจากกรณีดังกล่าว บริษัทฯยังได้ปรับกลยุทธ์การขนส่งทางทะเลใหม่ โดยเน้นการขนส่งน้ำมันปาล์มจากประเทศไทยและประเทศมาเลเซียแทน พร้อมเพิ่มการขนส่งน้ำมันบริโภคอื่นๆ อาทิ น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันถั่วเหลือง

นอกจากนี้ ' VL' ยังคงเดินหน้ารักษาฐานคู่ค้ารายเดิม และหาคู่ค้าใหม่ๆ ในประเทศ ควบคู่กับการขยายเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มความหลากหลายสำหรับการขนส่งน้ำมัน รวมทั้งการสร้างตลาดใหม่ๆ ด้านการขนส่งน้ำมันปิโตรเลียมระหว่างประเทศ ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้

'ส่วนกรณีสงครามรัสเซีย และยูเครน ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 'VL' กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวในขณะนี้ ยังไม่ได้รับผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจบริษัทฯ ดังนั้นบริษัทฯจึงยังคงเดินหน้าในการขยายกองเรือใหม่ ตามแผนเดิมที่วางไว้ โดยหากเรือลำใหม่เข้ามาจะส่งผลให้ 'VL'มีสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นในปีนี้เป็น 50% จากปี2564 ที่มีสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศที่ 39% เนื่องจากเรือลำใหม่จะเน้นการขนส่งในต่างประเทศ เพื่อเป็นการสร้างตลาดใหม่ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ประเทศจีน และประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งนั่นก็จะส่งให้อัตราการเติบโตของรายได้ในปี2565 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 25% จากกองเรือทั้งหมด 12 ลำ ขนาดบรรทุกรวม 50,800 DWT'
#4198
'ดิสนีย์' ระงับฉายภาพยนตร์ทั้งหมดในรัสเซีย ประณามกรณีบุกยูเครน

บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ ประกาศว่า ทางบริษัทจะระงับการนำภาพยนตร์ทุกเรื่องของดิสนีย์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของรัสเซีย เพื่อตอบโต้รัสเซียที่ใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ดิสนีย์ระบุในแถลงการณ์ว่า 'เมื่อพิจารณาจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนโดยที่ยูเครนไม่เคยกระทำการยั่วยุ และวิกฤตการณ์ด้านมนุษยชนที่เกิดขึ้นกับยูเครนในขณะนี้ ดิสนีย์ได้ตัดสินใจที่จะระงับการนำภาพยนตร์ทั้งหมดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ ๆ เช่น 'Turning Red' จากค่ายพิกซาร์ ส่วนการตัดสินใจในอนาคตนั้น เราจะพิจารณาเกี่ยวกับความคืบหน้าของสถานการณ์'

'ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากวิกฤตการณ์ของผู้ลี้ภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้แล้ว ดิสนีย์ตัดสินใจที่จะร่วมงานกับหุ้นส่วนของเราที่เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (NGO) เพื่อจัดหาความช่วยเหลือเร่งด่วน และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่บรรดาผู้ลี้ภัย' ดิสนีย์ระบุในแถลงการณ์
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดิสนีย์เป็นสตูดิโอภาพยนตร์รายแรกของฮอลลีวูดที่แสดงออกถึงการต่อต้านรัสเซียอย่างชัดเจน หลังจากที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน

ทั้งนี้ แม้ยอดขายบัตรชมภาพยนตร์ในรัสเซียจะไม่มากเท่ากับยอดขายในจีน แต่รัสเซียยังคงเป็นตลาดสำคัญของดิสนีย์ โดยก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์เรื่อง 'Spider-Man: No Way Home' ซึ่งดิสนีย์อำนวยการผลิตร่วมกับบริษัทโซนี่ สามารถทำรายได้มากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ในรัสเซีย
#4199
ศูนย์จำหน่ายกาแฟม้าขาว กาแฟสำหรับ ผู้ชาย Ma khaw Coffee ของแท้ พร้อมจำหน่าย ถูกกว่าทุกเว็บ
#4200
คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ ส่งความสุขกับ 2 ดีลสนุกต้อนรับซัมเมอร์

คิง เพาเวอร์ แอปพลิเคชัน จัดแคมเปญ SUMMER ESCAPE เอาใจนักช้อปออนไลน์มอบ 2 ดีลราคาสุดพิเศษ TRIPLE BEAUTY และ TRAVEL ESSENTIALS ด้วยสินค้าคุณภาพ ราคาดิวตี้ฟรี พร้อมบริการ Home Delivery ส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ ระหว่างวันที่ 1-7 มีนาคม 65 นี้

ต้อนรับเดือนต้อนรับซัมเมอร์ก่อนใคร คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ มอบความสดใส เผยผิวสวยรับซัมเมอร์ กับ 2 ดีล พิเศษ ที่พร้อมรับฤดูกาลท่องเที่ยวส่งแคมเปญ SUMMER ESCAPE #ดีลสนุกสุขก่อนซัมเมอร์ กับ 2 ดีลพิเศษ ในกลุ่มเครื่องสำอาง สกินแคร์ น้ำหอม กระเป๋าเดินทาง แว่นกันแดด สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าแฟชั่น ที่นำมาให้เลือกช้อปกันได้ทุกที่ ทุกเวลาเพียงปลายนิ้วสัมผัสได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ดีลที่ 1 TRIPLE BEAUTY พบกับสินค้าในกลุ่ม เครื่องสำอาง สกินแคร์ น้ำหอม หลากหลายแบรนด์ดัง อาทิ อาทิ FOREO, 111SKIN, COACH, ROM & ND, HOLIKA ลดสูงสุด 30% เมื่อช้อปครบ 3 ชิ้น เพียงใส่รหัส TRIPB3

ดีลที่ 2 TRAVEL ESSENTIALS พบกับสินค้าในกลุ่ม กระเป๋าเดินทาง แว่นกันแดด สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าแฟชั่นแบรนด์ชั้นนำมากมาย อาทิ GUCCI, KEEN, VANS, OAKLEY, LEICESTER ลดสูงสุด 50% พร้อมลดเพิ่มสูงสุด 40% ไม่มีขั้นต่ำ เพียงใส่รหัส TRVES

ช้อปสนุกรับซัมเมอร์กับดีลดีสุดคุ้มค่า พร้อมมอบประสบการณ์ช้อปแบบไม่ต้องมีไฟลต์บิน รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ ส่วนลดเพิ่ม 5% เมื่อช้อปครบ 1,200 บาท โดยใส่รหัสส่วนลด SV CODE จากพนักงานคิง เพาเวอร์ หรือรับส่วนลดพิเศษ 200 บาทสำหรับลูกค้าใหม่ที่สมัครสมาชิกออนไลน์, ตลอดจนข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย อาทิ แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน, รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท และรับของสมนาคุณสุดพิเศษจากแบรนด์ดัง (Gift with Purchase) พร้อมบริการ Home Delivery จัดส่งฟรีทั่วประเทศเมื่อช้อปขั้นต่ำ 699 บาท