• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Chigaru

#2861


เริ่มปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วประเทศแล้ว ในขณะที่หลายคนกังวลใจถึงประสิทธิภาพของวัคซีน ผลการศึกษาจากสถาบันวิจัยสุขภาพชั้นนำของโลกบ่งชี้ว่า การออกกำลังกายช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น และมีแนวโน้มช่วยให้ร่างกายเพิ่มภูมิคุ้มกันมากขึ้น 50% หลังฉีดวัคซีน

"ดร.ร็อบ นิวตัน" ศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์การออกกำลังกายจากมหาวิทยาลัยเอดิธ โคแวน ยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศออสเตรเลีย บ่งชี้ว่า การฉีดวัคซีนทำให้เกิดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน แต่เนื่องจากเราจะมีเซลล์ภูมิคุ้มกันเหล่านี้มากขึ้นเมื่อออกกำลังกาย การออกกำลังกายสม่ำเสมอจึงช่วยให้การตอบสนองทรงพลังมากขึ้น สอดคล้องกับ "ดร.โรเบิร์ต อี" แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและการกีฬา จากศูนย์การแพทย์ "ไคเซอร์เพอร์มาเนนต์ ฟอนตานา" รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เผยว่า ผู้ใหญ่ที่ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือเดิน 30 นาทีต่อวัน ต่อเนื่อง 5 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อ 37% อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพหลังฉีดวัคซีน

ผลการวิจัยของ "กลาสโกว์ คาเลโดเนียน ยูนิเวอร์ซิตี้" มหาวิทยาลัยใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร พบว่า การออกกำลังกายเป็นประจำ ส่งผลให้ระดับแอนติบอดี้ อิมมูโนโกลบูลิน เอ (IgA) สูงขึ้น ซึ่งแอนติบอดี้นี้ทำหน้าที่ต่อต้านการติดเชื้อ โดยยับยั้งการเกาะติดของแบคทีเรียและไวรัสกับเซลล์เยื่อบุผิว จึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันปอดและอวัยวะอื่นๆในร่างกาย ตอกย้ำว่าการออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ CD4+T ซึ่งมีบทบาทในการต่อสู้กับเชื้อโรคและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ด้าน "ศาสตราจารย์จิม ซัลลิส" จากสถาบันวิจัยสุขภาพ "แมรี่ แมคคิลลอป" มหาวิทยาลัยออสเตรเลียน คาทอลิก ยูนิเวอร์ซิตี้ วิจัยถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างการออกกำลังกายกับความสามารถในการป้องกันโควิด-19 ค้นพบว่า การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยลดความรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะอัตราการเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงยังพบว่าอัตราการเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูของผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่ในระดับต่ำกว่ากลุ่มคนที่ออกกำลังกายน้อยกว่า 10 นาทีต่อสัปดาห์


จะเตรียมความพร้อมยังไง ก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้การฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุด "ฟิตเนส เฟิร์สต์ ประเทศไทย" มีเทคนิคแนะนำ

1) ช่วง 2 วันก่อน และหลังการฉีดวัคซีน ควรงดออกกำลังกายหนัก เช่น คาร์ดิโอ, แอโรบิก และยกเวท

2) ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 500-1,000 ซีซี

3) งดเครื่องดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์

4) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง

5) หากมีไข้สูงก่อนฉีดวัคซีน ควรเลื่อนนัด

6) หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน

7) หลังฉีดวัคซีนให้รอดูอาการ 30 นาที ถ้ามีไข้ปวดเมื่อยมาก สามารถกินยาพาราฯ 500 มิลลิกรัม ครั้งละหนึ่งเม็ด ทุก 6 ชั่วโมง

8) ถ้ากินยาละลายลิ่มเลือดอยู่ให้กินตามปกติ แต่เมื่อฉีดวัคซีนแล้วให้กดตำแหน่งที่ฉีดต่ออีก 1 นาที.

https:// www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2113595
#2862



เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 ก.ค. 2564 ในการแถลงสถานการณ์โควิด 19 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรหวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนโควิด19 แล้ว 17,011,477 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 13,225,233 ราย และครบ 2 เข็ม 3,786,244 ราย   ส่วนความครอบคลุม พื้นที่กทม,และปริมณฑล 44.20 % เฉพาะกทม. 61.67 % ส่วนของผู้สูงอายุได้รับวัคซีนแล้วประมาณ 70 %  แต่ในภูมิภาคฉีดได้เพียง 12 % เพราะวัคซีนมีจำนวนจำกัด ที่ผ่านมาจึงเกลี่ยมาให้หพื้นที่ระบาดอย่างกรุงเทพฯและปริมณฑลก่อน  แต่จากนี้ต่างจังหวัดจะได้รับวัคซีนมากขึ้น โดยในเดือนส.ค.ที่จะมีวัคซีน 10 ล้านโดสก็จะกระจายไปฉีดในต่างจังหวัดมากขึ้น เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป  ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ขึ้นไป จะได้วัคซีนก่อน จากนั้นเป็นอสม. และบุคลากรอื่นๆต่อไป 

      นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า  การฉีดวัคซีนในสูตรใหม่ คือ ซิโนแวคเข็มที่ 1 และ แอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 โดยห่างกัน 3 สัปดาห์  ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับสูตรเดิมแต่ฉีดครบ 2 เข้มเร็วขึ้นจาก 12 สัปดาห์เหลือเพียง 3 สัปดาห์ ซึ่งจากที่มีการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้วนั้น ในแง่ความปลอดภัยและอาการไม่พึงประสงค์หลังการรับวัคซีนไม่ได้แตกต่างจากการฉีดแบบสูตรเดิม จึงมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ

      "ส่วนการกระจายวัคซีนเดือนส.ค. ช่สงกระจาจวัครซีนเดือนส.ค.จะกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น หลังจากที่เดือนมิ.ย.- ก.ค.กระจายในกทม.ปริมณฑลค่อนข้างมากเพื่อควบคุมการระบาดของโรค โดยมีเป้าหมายฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง รวมถึง อสม.เป็นหลัก จากนั้นส่วนหนึ่งจะใช้ควบคุมการระบาดในพื้นที่ระบาดเป็นจุดๆไป และฉีดในกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เช่น พื้นที่ท่องเที่ยง อาทิ พังงา กระบี่ เป็นต้น"นพ.โอภาสกล่าว  

  นพ.โอภาส  กล่าวอีกว่า สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ซึ่งได้รับบริจาคจากประเทศสหรัฐอเมริกาจำนวน 1.5 ล้านโดสและส่งมาถึงประเทศไทยแล้วนั้น  จะฉีดใช้ให้ 4 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย 

     กลุ่มที่ 1  บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด19ทั่วประเทศ เป็นเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิค้มกัน จำนวน 7 แสนโดส   ซึ่งได้มีการสำรวจรายชื่อจากรพ.ต่างๆส่งมา จากนั้นสธ.จะกระจายวัคซีนไปรพ.เป้าหมายต่างๆ เพื่อฉีดให้บุคลากรสาธารณสุขมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น

กลุ่มที่ 2 ฉีดในผู้สูงอายุ  ผู้ที่มี 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง  หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์สามารถรฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ด้วย เพราะฉะนั้นจะมีการฉีดให้กลับเด็กที่มีอายุ 12 ขึ้นไปและป่วยใน 7 กลุ่มโรคเรื้อรังจะได้รับวัคซีนนี้ด้วย ซึ่งจะมีการกระจายไปใน 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส จำนวน 645,000 โดส

กลุ่มที่ 3 ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย โดยเป็น ผู้ที่มี 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง  หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ และคนไทยผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศที่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เช่น นักเรียน  นักศึกษา เป็นต้น จำนวน 150,000 โดส

และกลุ่มที่ 4  ทำการศึกษาวิจัย โดยการอนุมัติของคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม เพื่อนำผลการวิจัยมาใช้ในการกำหนดนโยบายต่อไป จำนวน 5,000 โดส   

 
สรุปไทม์ไลน์ 'วัคซีนโควิด-19' อย่าง 'วัคซีนไฟเซอร์' 1.5 ล้านโดส ได้ฉีดเมื่อไหร่
  "วัคซีนไฟเซอร์ที่ส่งมาเป็นวัคซีนเข้มข้น ต้องมีการผสมด้วยน้ำเกลือก่อนนำไปฉีด เป็นวัคซีนที่ใน 1 ขวดผสมแล้วฉีดได้ 6 โดส  โดยวัคซีนไฟเซอร์กำหนดให้ฉีดโดสละ 0.3 มิลลิลิตรเข้าชั้นกล้ามเนื้อ โดยฉีดห่างกัน 3 สัปดาห์ สามารถเก็บในอุณหภูมิ -90 ถึง -70 องศาเซลเซียสได้นาน 6 เดือน และเก็บในอุณหภูมิตู้เย็น 2-8 องศาเซลเซียสได้ 1 เดือน เพราะฉะนั้นต้องวางแผนอย่างดีในการบริหารจัดการการกระจายและการฉีดวัคซีน ทั้งการนัดหมายวันเวลาที่จะมาฉีด เนื่องจากเก็บรักษาในตู้เย็นธรรมดาได้แค่ 1 เดือน"นพ.โอภาสกล่าว   

       นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า ไทม์ไลน์วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส  คือ 30 ก.ค. 2564 วัคซีนล้อตบริจาคถึงประเทศไทย จัดเก็บที่คลังวัคซีนที่ -70 องศาเซลเซียส ของบริษัทซิลลิค ฟาร์มา(ประเทศไทย) จำกัด และส่งตัวอย่างตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2 ส.ค.คาดว่าจะได้รับผลตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย วันที่ 3-4 ส.ค. บริษัทจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ แพ็ควัคซีนเพื่อจัดส่ง 5-6 ส.ค.จัดส่งวัคซีนล็อตแรกเข็มกระตุ้นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และเข็ม 1 สำหรับกลุ่มเสี่ยงเป้าหมายถึงหน่วยบริการ วันที่ 7-8 ส.ค. รพ.เตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีน โดยรพ.ต้องนัดหมายคนมาฉีด ควบคุมเวลาอย่างดี เพราะเอาออกจากตู้เย็นแล้วจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะฉะนั้นความแม่นยำในการนัดหมายต้องเป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นวัคซีนจะเสียหาย  วันที่ 9 ส.ค. หน่วยบริการเริ่มฉีดวัคซีน และกลางเดือนส.ค.2564 จัดส่งวัคซีนเข็ม 2 สำหรับฉีดปลายเดือนส.ค.2564  คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนส.ค. 2564
#2863



การระบาดของ "โรคโควิด-19" ระลอกใหม่ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น ซึ่งทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ขยายพื้นที่สีแดงเข้มให้มาครอบคลุมจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดชลบุรี ในขณะที่หลายฝ่ายต้องการให้ภาครัฐดำเนินการคู่ขนานในการวางแผนเตรียมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับหลังการระบาด 

รวมทั้งเมื่อการระบาดเริ่มคลี่คลายจะทำให้ประเทศไทยสามารถเตรียมดึงการลงทุนและการท่องเที่ยวใน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ได้อย่างเต็มที่ทันที โดยเฉพาะการเตรียมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่ต้องใช้เวลาในการจัดทำโครงการ

ปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรใช้เวลาช่วงจังหวะนี้ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ปรับโครงสร้างพื้นฐานและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่เพียงเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ เพราะเราไม่รู้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะจบเมื่อไร และจบแบบไหน สิ่งที่ควรจะทำในขณะนี้คือเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและยังไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ในช่วงเวลาปกติ บางโครงการต้องใช้เวลานานทั้งขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง งบประมาณ ระยะเวลาดำเนินการ

สำหรับเมืองท่องเที่ยวในอีอีซี เช่น เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ควรต้องเร่งดำเนินการในหลายเรื่องนอกเหนือจากที่มีการพัฒนาชายหาด

บริเวณอ่าวนาจอมเทียน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของเมืองพัทยาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของภาคตะวันออกซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมหลายประเด็นเช่น ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ปัญหาการจราจร การซ่อมแซมถนน ระบบการระบายน้ำ ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

"ผมมองว่าขณะนี้ช่วงเวลาเป็นช่วงเวลาที่ดีในการที่จะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ปรับปรุงกฎหมาย แก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โครงการต่างๆ ที่ค้างท่อ โครงการที่จะรองรับนักท่องเที่ยวควรเร่งทำให้เสร็จ อะไรที่ควรทำก็ทำ ไม่ใช่เปิดประเทศแล้วค่อยมาเริ่มทำ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นหากจะทำอาจก็ไม่ทันการณ์แล้ว"


วิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่าได้รับนโยบายจากกระทรวงคมนาคมให้เร่งปรับปรุงชายฝั่งทางทะเลเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยล่าสุดได้ดำเนินโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นโครงการต่อเนื่องของกรมเจ้าท่า ในการบูรณะชายฝั่งในพื้นที่ภาคตะวันออกและเป็นแหล่งธุรกิจภาคการท่องเที่ยว

"ก่อนหน้านี้กรมฯ ได้ดำเนินการเสริมทรายชายหาดพัทยา เพื่อเพิ่มพื้นที่บริเวณชายหาดให้กว้างขึ้น เหมาะแก่การทำกิจกรรม และสนับสนุนการท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี" 

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าจึงได้ดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องบริเวณหาดจอมเทียนเพราะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อ และยังอยู่ระหว่างจัดสรรงบประมาณปี 2565 เพื่อศึกษาเสริมทรายชายหาดบางเสร่เพิ่มเติม

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับชายหาดบางเสร่ที่กรมเจ้าท่า เตรียมศึกษาการเสริมทรายชายหาด อยู่ในเขตอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งทำให้ชายหาด "บางเสร่" เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างสัตหีบและหาดจอมเทียน โดยเป็นชายหาดติดถนนที่เดินทางสะวด มีความยาวของชายหาด 1,500 เมตร รวมทั้งมีการพัฒนาพื้นที่ชายหาดรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาทำให้มีนักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาเพิ่มมากขึ้น จึงมีความเหมาะสมที่จะได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมต่อกัน

วิทยา กล่าวว่า สำหรับชายหาดจอมเทียน ก่อนหน้านี้ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ชายหาดถดถอยและลดขนาดลงไปทุกปี ไม่เพียงพอต่อความต้องการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่ภาคพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.จึงได้ประสานขอให้กรมเจ้าท่าดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน

ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยิ่งหนัก! พบเสียชีวิตสูง 178 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 18,912 ราย
เคาะ! 'ประกันโควิด' ป่วย-ตายที่บ้าน เคลมค่ารักษาพยาบาลได้
'3กูรูเศรษฐศาสตร์' ชี้ 3 เดือน ไทยเผชิญความเสี่ยง สาธารณสุขล่ม - ศก.ทรุด - ตกงานพุ่ง 
อีกทั้งการรายงานจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี 2552 ได้ศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่อ่าวไทยตะวันออก และจัดให้พื้นที่ชายหาดจอมเทียนเป็นพื้นที่กัดเซาะรุนแรงต้องได้รับการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน ส่งผลให้ในปี 2557 กรมเจ้าท่า ได้ทำการว่าจ้างสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการสำรวจออกแบบเพื่อเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี

โดยมีพื้นที่ศึกษาตลอดแนวชายหาดจอมเทียน ความยาว 6.2 กิโลเมตร ตั้งแต่บริเวณหน้าร้านอาหารลุงไสวถึงบริเวณแนวโขดหินหน้าสวนน้ำพัทยาปาร์ค วอเตอร์เวิล์ด ระยะที่ 1 มีความยาว 3,575 เมตร และ ระยะที่ 2 มีความยาว 2,855 เมตร

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่า ได้ทำการว่าจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียนระยะที่ 1 มีระยะเวลาการดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน พ.ค.2563–พ.ย.2565 รวมระยะเวลา 900 วัน วงเงินราว 586 ล้านบาท โดยแหล่งทรายที่จะนำมาใช้เสริมบริเวณชายหาดจอมเทียนนำมาจากทิศตะวันตกของเกาะรางเกวียน ห่างจากชายหาดจอมเทียนไปทางทะเลประมาณ 15 กิโลเมตร ปัจจุบันเริ่มเสริมทรายชายหาด ตั้งแต่โรงแรมจอมเทียนชาเล่ต์จนถึงโรงแรมยู จอมเทียน พัทยา มีผลการดำเนินงานคิดเป็น 4.39%

อย่างไรก็ดี ภายหลังโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียนแล้วเสร็จ จะช่วยบูรณะฟื้นฟูชายหาดจอมเทียนให้กลับมาสวยงาม และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวชายหาดจอมเทียน สร้างรายได้สู่ชุมชนและประเทศ ให้สอดรับกับนโยบายภาครัฐในการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการท่องเที่ยวและการสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพต่อไป
#2864



นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ความคืบหน้ากรณีการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ใน 9 ประเภทกิจการได้แก่ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมบริการด้านอาหาร กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ สาขาข้อมูลข่าวสาร และการสื่อสาร

โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมมีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงได้สั่งการให้ รมว.แรงงานเร่งรัดขยับเวลาการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนไม่ให้เกินวันที่ 6 สิงหาคม โดยจะเริ่มทยอยจ่ายตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคมนี้ ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะระบบการโอนผ่านพร้อมเพย์สามารถดำเนินการได้วันละ 1 ล้านบัญชีเท่านั้น โดยผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยามีจำนวน 2.87 ล้านคน จะต้องใช้เวลาถึง 3 วันจึงได้สามารถโอนได้ครบภายในกำหนดเวลาวันที่ 6 สิงหาคม ตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี และจะทยอยโอนครั้งต่อไปให้กับนายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุกๆวันศุกร์จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2564

น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า วิธีการจ่ายเงินเยียวยาสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 2,500 บาท จะโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ เลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น ส่วนนายจ้างจะได้รับการเยียวยา จากรัฐบาล ตามจำนวนลูกจ้าง หัวละ 3,000 บาท สูงสุดลูกจ้างไม่เกิน 200 คน โดยนายจ้างบุคคลธรรมดา จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ เลขประจำตัวประชาชนเช่นกัน และนายจ้างสถานะนิติบุคคล จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่แจ้งไว้กับสำนักงานประกันสังคม

สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และนายจ้างที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 3 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา นั้น สำนักงานประกันสังคมจะประชาสัมพันธ์วันจ่ายเงินให้ทราบในภายหลัง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
#2865



เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 ก.ค.2564 ในการแถลงสถานการณ์โควิด19 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีมีการแฮกข้อมูลและเรียกรับเงินในการเข้าฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนที่สถานกลางบางซื่อว่า  เมื่อ2-3 วันก่อนได้มีการรายงานจากผอ.ศูนย์ฉีดฯว่าสงสัยจะมีความผิดปกติของการมารับบริการ โดยเฉพาะช่วงท้ายวัน ที่เหมือนเป็นการลงทะเบียนผ่านค่ายมือถือแต่จะแสดงความผิดปกติบางอย่าง เช่น มีความรีบร้อน จึงได้มอบหมายให้มีการลองหากระบวนการที่จะตรวจจับให้ได้ โดยเกิดขึ้นกับค่ายมือถือค่ายเดียว ซึ่งค่ายมือถือได้มีการให้บริษัทย่อยมารับในการช่วยจัดระบบคิวและลงทะเบียน พบว่าจุดลงทะเบียนตรงนี้ที่มีปัญหา จึงร่วมมือกับค่ายมือถือนั้นล่อซื้อ

           ซึ่งเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2564 เมื่อมีผู้ที่น่าสงสัยเข้ามารับบริการราว 100 คนจึงให้เข้ามารับบริการตามระบบและยกเลิกทันทีเมื่อเข้ามาในจุดที่จะฉีด แล้วให้เจ้าตัวมาแสดงตัว จากนั้นมีการสอบถามและให้ลงบันทึกข้อความ โดยให้เล่าตั้งแต่ติดต่อผ่านใครอย่างชัดเจน โดยหลักการคือเป็นลูกจ้างที่ถูกจ้างมาอีกทอดหนึ่งของค่ายมือถือ ส่วนที่บอกว่ามีเจ้าหน้าที่ของกรมร่วมด้วย ยังไม่ทราบข้อมูลจริงๆ  และเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2564 ได้มีการแจ้งความเรียบร้อยแล้ว กันพยานคนที่เหมือนกับต้องเสียเงินไปซื้อมาเป็นพยาน เพื่อเอาผิดให้ถึงที่สุด


"ยืนยันว่ายังไม่ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่กรม  แต่ถ้ามีก็จะไม่ละเว้นเพราะความเจ็บป่วยของประชาชนซื้อขายไม่ได้ ถ้ามีเจ้าหน้าที่กรมเกี่ยวข้องก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงและสอบสวนลงโทษตามความเป็นจริง แต่เท่าที่ทราบ ณ ตอนนี้ยืนยันว่าไม่มี มีแต่เจ้าหน้าที่ที่ถูกจ้างมาโดยค่ายโทรศัพท์มือถือไปเติมทะเบียนของผู้ที่มารับวัคซีนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้มีการล่อซื้อให้ชัดเจน เพื่อให้ได้คนที่กระทำผิดให้ชัดเจน"นพ.สมศักดิ์กล่าว  

     สำหรับแนวทางลดความแออัด โดยการดำเนินการปรับระบบให้บริการฉีดวัคซีน คือ 1.เปิดประตูศูนย์เร็วขึ้นจากเดิม 09.00 น.  ให้ผู้มารับบริการลงทะเบียน โดยไม่วัดความดัน 2.ปรับระบบการเข้าแถวให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ให้หางแถวแต่ละประตูชนกัน 3.ย้ายที่จอดรถมอเตอร์ไซค์และรถสุขาออกจากพื้นที่ เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับผู้รับบริการ 4.ประสานการระบายผู้รับบริการหทุกประตูในภาพรวม 5.มอบหมายผู้รับผิดชอบในแต่ละประตูอย่างชัดเจน และ 6.เน้นให้ยืนบนสติกเกอร์ 2,400 จุด  


นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ มาเสริมการทำงานกับกทม. เป็นความร่วมมือในการบริการให้ใช้สถานที่โดยกระทรวงคมนาคมที่สถานีกลางบางซื่อ โดยกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)เป็นผู้จัดบริการการฉีดวัคซีน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่  7 มิ.ย. 2564 มีการฉีดครบ 1 ล้านโดสไปแล้ว  โดยช่วง 2 สัปดาห์แรกเป็นการทดสอบระบบ หลังจากนั้น 1 เดือน ตั้งแต่ 5 ก.ค.จึงเริ่มฉีดให้ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยเปิดให้ออนไซต์ พบว่ามีจำนวนมาก จึงปรับให้วอล์กอินหรือออนไซต์สำหรับผู้ที่อายุ75 ปีขึ้นไป ทำให้สามารถจัดระบบให้ไม่แออัดได้  

            เมื่อวันที่ 22 ก.ค.จึงมีฉีดให้กับกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ และคนอ้วนที่มีน้ำหนักหมากกว่า 100 กิโลกรัม จึงมีภาพของความแออัดในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา จึงพยายามปรับเปลี่ยนวิธีการ โดยขอให้คนอ้วนมารับบริการในช่วงบ่าย  เพราะถ้าช่วง 10.00 น. คนจะโล่ง เพราะส่วนใหญ่จะมาจำนวนมากช่วง 08.00 น.  และตั้งแต่บวันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไปเพื่อให้การบริการเป็นระบบ จะไม่มีออนไซต์และวอล์กอินอีก จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านค่ายมือถือทั้ง 4 ค่าย โดยจะยังเน้น 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 18 ปีขึ้นไปแต่จะสดส่วนน้อยกว่าผู้สูงอายุ  โดยได้ตกลงกับ 4 ค่ายมือถือเรียบร้อยแล้ว  เพราะถ้าลงทะเบียนจะบอกได้ว่าแต่ช่วงเวลามีผู้รับบริการกี่คน

    "นโยบายการให้บริการฉีดวัคซีนของศูนย์ฉีดสถานีกลางบางซื่อ ตรงนี้เป็นที่เก็บตกช่วยเสริมในพื้นที่กทม. โดยฉีดให้กับคนมีภูมิลำเนาในกทม. ผู้ที่มาทำงานในกทม.ที่ภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ผู้สูงอายุในกทม.ปริมณฑลที่มีภูมิลำเนาชัดเจน  คนไร้บ้าน และชาวต่างชาติที่มีถถิ่นพำนักในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย เน้นที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป เหมือนคนไทย เป็นนโยบายที่พยายามเก็บตกในกทม.ทั้งหมด"นพ.สมศักดิ์กล่าว  

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951732
#2866

  

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ชำนาญด้านโครงการและแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนและ ท่าอากาศยานได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ -Drsamart Ratchapolsitte โดยมีเนื้อหาดังนี้... แม้ผมจะสนับสนุนผู้รับเหมาไทย แต่เมื่อ รฟม.เปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงินงานโยธา 78,720 ล้านบาท โดยใช้วิธี "การประกวดราคานานาชาติ" เพราะเห็นว่าจำเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาต่างชาติ ผมจึงต้องตามดูว่ามีการปฏิบัติต่อผู้รับเหมาต่างชาติเท่าเทียมกับผู้รับเหมาไทยหรือไม่? มีการกำหนดเงื่อนไขที่ขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรมหรือไม่? ที่สำคัญ ผู้รับเหมาต่างชาติจะผ่านด่านสุดโหดได้หรือไม่? ติดตามได้จากบทความนี้

การประกวดราคานานาชาติมีเงื่อนไขอย่างไร?

การประกวดราคานานาชาติ (International Competitive Bidding) กรณีงานก่อสร้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 และแนวทางปฏิบัติของกระทรวงการคลัง ที่ กค 0405.3/ว93 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ระบุไว้ดังนี้

1. เป็นงานก่อสร้างที่มีรายละเอียดซับซ้อน
2. มีเทคนิคเฉพาะ
3. จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง
4. ต้องใช้บุคลากรในสาขาวิชาชีพการก่อสร้างชั้นสูงหรือช่างผู้มีฝีมือโดยเฉพาะ หรือมีความชำนาญเป็นพิเศษ เช่น ทางยกระดับ อุโมงค์ใต้ดิน ท่าเรือขนส่ง ท่าอากาศยาน เป็นต้น

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เห็นว่าการประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) หรือที่เรียกกันว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เข้าเงื่อนไขดังกล่าว จึงตัดสินใจใช้การประกวดราคานานาชาติ

รฟม.อ้างว่าได้ปฏิบัติตาม พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบการทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาดูกันว่าข้อกำหนดของผู้ว่าจ้างหรือทีโออาร์ตรงกับเจตนารมณ์ของ พรบ.จัดซื้อฯ และระเบียบ ก.คลังฯ ดังกล่าวหรือไม่?

ผู้เข้าประมูลต้องมีผลงานอะไร?

ทีโออาร์กำหนดชัดว่าผู้เข้าประมูลจะต้องมีผลงานกับ "รัฐบาลไทย" ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ดังนี้

1. ก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท และ
2. ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหรือลอยฟ้าในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท และ
3. ออกแบบอุโมงค์ใต้ดินหรือสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหรือลอยฟ้าในสัญญาเดียวที่มีค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท

เมื่อทีโออาร์กำหนดผลงานไว้อย่างนี้ กล่าวคือต้องมีผลงานกับรัฐบาลไทยเท่านั้น ผลงานในต่างประเทศนำมาใช้ไม่ได้ ถามว่าผู้รับเหมาต่างชาติจะผ่านด่านทีโออาร์สุดโหดนี้ได้หรือ? สุดท้ายคงเหลือผู้รับเหมาไทยขนาดใหญ่เพียง 4-5 รายเท่านั้นที่สามารถผ่านด่านทีโออาร์นี้ได้ และคงได้งานครบทุกราย เนื่องจาก รฟม.แบ่งการประมูลงานโยธาออกเป็น 6 สัญญา
ทีโออาร์เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พรบ. จัดซื้อฯ และระเบียบ ก.คลังฯ หรือไม่?

พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 8(2) บัญญัติไว้ว่า "ต้องเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน"
ระเบียบการทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 45 ระบุชัดไว้ว่า "ต้องไม่มีการกำหนดเงื่อนไขที่เป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม"
อ่านแล้ว พอจะบอกได้ใช่มั้ยครับว่าทีโออาร์ของ รฟม.ตรงตามเจตนารมณ์ของ พรบ.จัดซื้อฯ และระเบียบ ก.คลังฯ หรือไม่?

รฟม.ได้ตระหนักถึงเจตนารมณ์ของกระทรวงคมนาคมในการประกวดราคานานาชาติหรือไม่?

น่าเสียดายที่ รฟม.ไม่อ้างถึงหนังสือกระทรวงคมนาคม ที่ คค 0208/2840 ลงวันที่ 7 เมษายน 2560 ถึงอธิบดีกรมบัญชีกลาง มีใจความตอนหนึ่งว่า "งานก่อสร้างที่เป็นเทคนิคเฉพาะหรือต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ที่เป็นการดำเนินการในรูปแบบ Design and Build หรือ Turnkey หรือการซื้อหรือการจ้างที่เป็นเทคนิคเฉพาะ มีความเป็นไปได้ที่ผู้รับจ้างไทยที่มีคุณสมบัติจะมีจำนวนไม่มากนัก อาจไม่ทำให้เกิดการแข่งขัน ดังนั้น การประกวดราคานานาชาติจะทำให้มีการแข่งขันมากขึ้น และช่วยลดการสมยอมราคา ส่งผลดีต่อความโปร่งใสในระบบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ รวมทั้งเกิดการถ่ายทอดและเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ จากต่างประเทศโดยตรง มีผลดีต่อการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศไทยในระยะยาว"

อ่านแล้วทำให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของกระทรวงคมนาคมในการจัดให้มีการประกวดราคานานาชาติ ดังนี้

1. ให้มีการแข่งขันมากขึ้น

2. ลดการสมยอมราคา หรือ "ฮั้ว"

3. ให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี

รฟม.ซึ่งสังกัดกระทรวงคมนาคมได้ตระหนักถึงเจตนารมณ์ของกระทรวงเจ้าสังกัดในการจัดให้มีการประกวดราคานานาชาติขึ้นหรือไม่? ถ้าได้ตระหนัก แล้วทำไมจึงเขียนทีโออาร์ไว้อย่างนั้น?
สรุป

งานก่อสร้างที่ผู้รับเหมาไทยสามารถทำได้ ผมเห็นว่าควรใช้ผู้รับเหมาไทย ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาต่างชาติ เพื่อสนับสนุนผู้รับเหมาไทย แต่งานก่อสร้างที่จำเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาต่างชาติ โดยใช้การประกวดราคานานาชาตินั้น เราจะต้องให้ความเป็นธรรมต่อทุกรายด้วยการปฏิบัติต่อผู้เข้าประมูลทุกรายโดยเท่าเทียมกัน

เป็นที่รู้กันในวงการประมูลว่าหากโครงการใดที่ผู้รับเหมาต่างชาติสามารถเข้าประมูลได้ เขาจะไม่ยอม "ฮั้ว" แต่จะสู้ด้วยฝีมือและราคาที่ต่ำกว่า เนื่องจากเขามีประสบการณ์สูง มีการใช้เทคโนโลยีที่
สามารถทำให้งานก่อสร้างเสร็จเร็ว ประหยัดค่าก่อสร้างได้ ทำให้เขาสามารถเสนอราคาได้ต่ำกว่า
ด้วยเหตุนี้ งานก่อสร้างที่จำเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาต่างชาติ เราจะไปกีดกันเขาทำไม? เพราะเขาช่วยประหยัดค่าก่อสร้าง และช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เราได้ ไม่ใช่หรือ?
...................
ข้อสงสัยดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นข้อกังขาที่ผมและประชาชนทุกคนชอบที่จะต้องขอคำชี้แจงให้สิ้นสงสัยจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ด้วยเจตนาที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างเต็มที่ โดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้นเท่านั้นเอง
#2867



สำหรับนักร้องหนุ่ม ติ๊ก เพลย์กราวด์ หรือ กฤษติกร พรสาธิต เมื่อทราบว่าคุณพ่อคุณแม่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งคู่ โดยคุณแม่ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ส่วนคุณพ่ออยู่ห้อง CCU เพราะมีอาการหายใจไม่ออก

โดยหนุ่มติ๊ก ได้เผยผ่านอินสตาแกรม ว่า...ปีนี้เป็นปีที่ใจร้ายกับผมมากๆ เลยครับ ข่าวร้ายคราวนี้เล่นแรงกับหัวใจผมมากๆ เลย คือเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา "ป๊า" พ่อของผมหายใจไม่ออก ที่บ้านเลยรีบพาไปส่งโรงพยาบาล พอผมตามไปถึงที่โรงพยาบาลคุณหมอได้แจ้งผลว่า ป๊า เป็นโควิด ฮะ แต่ด้วยปกติแล้วป๊าไม่ได้ไปไหน เพราะกึ่งๆ เป็นผู้ป่วยติดเตียง เลยสันนิษฐานได้ว่าน่าจะติดมาจากคุณแม่ ที่อยู่ดูแลป๊าเป็นประจำ เลยทำการตรวจโควิดคนในบ้าน (บ้านผมพักกันอยู่ 3 คน ป๊า แม่ น้องสาว ส่วนผมพักคอนโดอีกที่ไม่ได้อาศัยที่นี่นะครับ เพราะต้องทำงานพบเจอผู้คนตลอด)



ผลปรากฎว่า น้องสาวผมไม่ติด แต่คุณแม่ติดเป็นโควิดด้วยเหมือนกันครับ (ทั้งคู่ฉีควัคซีนแล้วนะครับ น้องสาวผมฉีด sinovax 2 เข็ม คุณแม่ฉีด astrazeneca เข็มแรก ) ผมและครอบครัวเลยพาคุณแม่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ตอนนี้รอเช็คอาการต่างๆ อยู่นะครับ ส่วนป๊าอยู่ห้อง CCU อาการที่หายใจไม่ออกก่อนหน้านี้สาเหตุน่าจะมาจากมีเสมหะมากเกินไปจึงอุดตันระบบหายใจ

ส่วนอาการโควิคยังไม่มีอะไรเลวร้ายและรอดูการตอบสนองกับตัวยาอยู่นะครับ เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกว่าโควิดเข้าใกล้ตัวเรามากๆ จริงๆ นะครับ อยากให้ทุกคนระวังและดูแลสุขภาพกันให้ดีนะครับ ในฐานะลูกผมจะดูแลหัวใจ 2 ดวง ของผมให้ดีที่สุดเลยครับ ขอให้ป๊าและหม่าม้าหายไวๆ นะครับ"
#2869



ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อโควิดสูงเป็นประวัติการณ์เกินกว่า 10,000 รายต่อวัน หัวหน้าคณะที่ปรึกษาของรัฐบาลเตือนถึงแม้ระดมฉีดวัคซีนมากถึงร้อยละ 70 ของประชากรก็อาจสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ยาก

ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วประเทศ 10,699 รายเมื่อวานนี้ (29 ก.ค.) ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เฉพาะกรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อ 3,865 ราย เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน

ในจังหวัดปริมณฑลรอบกรุงโตเกียว คือ คานางาวะ, ไซตามะ และชิบะ ก็มีผู้ติดเชื้อสูงอย่างต่อเนื่อง ผู้คนในจังหวัดเหล่านี้เดินทางเชื่อมต่อกับกรุงโตเกียวอยู่ตลอดเวลา หลังกรุงโตเกียวประกาศภาวะฉุกเฉิน ห้ามจำหน่ายสุรา ผู้คนจำนวนหนึ่งเดินทางจากกรุงโตเกียวไปสังสรรค์ในจังหวัดใกล้เคียงโดยใช้เวลาราว 40 นาทีเท่านั้น

รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะขยายมาตรการภาวะฉุกเฉินจากไวรัสโควิดให้ครอบคลุมจังหวัดชิบะ คานางาวะ และไซตามะ ซึ่งอยู่ติดกรุงโตเกียว รวมทั้งจังหวัดโอซากา ทางตะวันตกของญี่ปุ่นด้วย



นายชิเงรุ โอมิ หัวหน้าคณะที่ปรึกษาเรื่องไวรัสโควิดของรัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดการระบาดระลอกที่ 5 ในญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว คือ ไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น,ประชาชน "การ์ดตก" เพราะคุ้นชินกับการระบาด เหนื่อยหน่ายกับมาตรการป้องกัน รวมทั้งญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงวันหยุดยาวในช่วงฤดูร้อน และการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก ที่มีการเคลื่อนไหวของผู้คนจำนวนมาก

เขาเตือนว่าระบบพยาบาลของญี่ปุ่นจะรับไม่ไหวในเร็ว ๆ นี้ พร้อมเรียกรองให้รัฐบาลส่งสารที่เข้มงวดมากกว่าเดิมไปยังสาธารณชน เพื่อให้ตระหนักถึงภาวะวิกฤติร่วมกันทั่วทั้งสังคม

ปูพรมฉีดวัคซีคก็หยุดเดลตาได้ยาก

หัวหน้าคณะที่ปรึกษาเรื่องไวรัสโควิดของรัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า ถึงแม้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนถึงร้อยละ 70 ก็ยากที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ที่จะปกป้องผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกร้อยละ 30 ไม่ให้ติดเชื้อได้



เหตุผลก็คือ เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่เชื้อได้รวดเร็ว และยังมีรายงานจากต่างประเทศว่า วัคซีนที่ใช้อาจลดประสิทธิภาพลง ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วก็อาจมีภูมิคุ้มกันลดลงในอีกไม่กี่เดือนต่อมา ในญี่ปุ่นก็มีผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 เข็มแล้วก็ยังติดเชื้อได้

นายชิเงรุ โอมิ กล่าวว่า ยากที่จะชี้ชัดว่าต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรมากเท่าไหร่ เขาแนะนำว่าผู้ที่สามารถรับวัคซีนได้ทุกคนควรจะเข้ารับวัคซีนในทันที เพื่อปกป้องตนเองไม่ให้ป่วยหนักและเสียชีวิต และยังช่วยลดภาระของระบบสาธารณสุขด้วย.
#2870



นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 ธนาคารสมาชิกได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยในเดือนก.ค. 63 มีลูกค้าขอรับความช่วยเหลือสูงสุดจำนวน 6 ล้านบัญชี วงเงินความช่วยเหลือรวม 4.25 ล้านล้านบาท เป็นวงเงินสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ 8 แสนล้านบาท ลูกค้า SME 1.8 ล้านล้านบาท และลูกค้ารายย่อย 1.6 ล้านล้านบาท

ที่ผ่านมา มีลูกค้าบางส่วนได้ออกจากมาตรการเนื่องจากกลับมาชำระหนี้ได้ในช่วงที่สถานการณ์ดีขึ้น ล่าสุด ยังมีลูกค้าอยู่ภายใต้การให้ความช่วยเหลือรวม 1.89 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือกว่า 2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ 5.6 แสนล้านบาท ลูกค้า SME 8.2 แสนล้านบาท และลูกค้ารายย่อย 6.2 แสนล้านบาท

สำหรับมาตรการเสริมสภาพคล่อง เพื่อประคับประคองธุรกิจตามมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ธนาคารสมาชิกได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อเสริมสภาพคล่องกว่า 2.16 แสนล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ประมาณ 1.38 แสนล้านบาท และวงเงินสินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจที่อนุมัติไปแล้วกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท โดยตั้งเป้าหมาย 1 แสนล้านบาทในเดือนตุลาคมนี้

อย่างไรก็ตาม ทุกธนาคารยังคงเดินหน้าช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยจะทยอยพิจารณาให้การช่วยเหลือผ่านวงเงินดังกล่าวอย่างต่อเนื่องต่อไป

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ได้หารือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบต่อลูกค้าทุกกลุ่ม โดยพร้อมมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม หากสถานการณ์ยืดเยื้อกว่าที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม ภาคธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อต้นปี 63

โดยในช่วงแรกออกมาตรการช่วยเหลือเป็นการทั่วไป เป็นมาตรการเร่งด่วน ทั้งการพักชำระเงินต้น ดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาชำระหนี้ เพื่อลดภาระทางการเงินให้กับลูกค้า เสริมสภาพคล่องด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) หลังจากนั้นได้ออกมาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้ตรงจุด เช่น มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ และเมื่อมีการระบาดระลอกใหม่ทำให้เศรษฐกิจต้องใช้เวลานานขึ้นในการฟื้นตัว จึงมีมาตรการฟื้นฟูธุรกิจเพิ่มเติม ประกอบด้วย สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ วงเงิน 2.5 แสนล้านบาท และมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ วงเงิน 1 แสนล้านบาท พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ระยะที่ 3 และล่าสุดได้ออกมาตรการเร่งด่วนด้วยการพักชำระเงินต้น และดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้า SMEs และลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เป็นระยะเวลา 2 เดือน ทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการ ในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ

"ธนาคารสมาชิกได้บริหารจัดการธุรกิจด้วยความระมัดระวัง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ในช่วงครึ่งปี 64 แสดงผลการดำเนินงานที่ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่บางส่วนเป็นการบันทึกรายได้ดอกเบี้ยค้างรับของมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ซึ่งยังไม่ได้มีการชำระจริงและยังอาจกลายเป็นหนี้เสียได้ อย่างไรก็ตาม ภาพรวม NPL ในระบบแทบจะไม่เพิ่มขึ้นเลย สะท้อนถึงการให้ความช่วยเหลือได้ทันการณ์ ซึ่งนอกจากการให้สินเชื่อผ่าน Soft Loan และสินเชื่อฟื้นฟูแล้ว ธนาคารพาณิชย์ยังปล่อยสินเชื่อให้กับลูกหนี้ตามวงเงินที่มีอยู่เดิมเพิ่มขึ้น และยังคงให้ความสำคัญกับการกันสำรองอย่างเข้มงวดต่อไป เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต และต้องไม่เกิดผลกระทบกับเสถียรภาพและระบบสถาบันการเงินของประเทศ"นายผยง กล่าว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- 19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงขึ้น สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกยังได้ยกระดับแผน Business Continuity Planning (BCP) เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการ โดยคำนึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานเป็นสำคัญ ทั้งนี้ แผน BCP ครอบคลุมทั้งการปฎิบัติตามมาตรการของทางการ ระบบการให้บริการ การจัดสรรพนักงาน และการสำรองเงินสดให้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้ง Mobile Application Internet Banking และ ตู้ ATM ซึ่งสามารถทำธุรกรรมได้หลากหลาย ทั้งฝาก-ถอนเงินสด โอนเงิน จ่ายบิล การยืนยันตัวตน รวมถึงบริการผูกบัญชีพร้อมเพย์ โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา เพื่อความสะดวก และลดความเสี่ยง

ทั้งนี้ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบอย่างใกล้ชิด ได้มีการปฏิบัติงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home ขั้นสูงสุด ส่วนพนักงานที่ต้องปฏิบัติงานในสาขา ซึ่งถือว่าเป็นบุคลากรด่านหน้าและเป็นกลุ่มเสี่ยง ธนาคารสมาชิกก็พยายามเร่งจัดหาวัคซีนและกระจายฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด พร้อมจัดการระบบให้บริการที่สาขาให้เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข

นอกจากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าแล้ว สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ยังสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการป้องกันและรักษาผู้ติดเชื้อในปี 63 โดยบริจาคให้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และสภากาชาดไทย จำนวนเงิน 50 ล้านบาท

สำหรับในปี 2564 ธนาคารสมาชิกยังคงสนับสนุนการทำงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสนับสนุนทุนทรัพย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ ขณะเดียวกัน ยังเป็นกำลังสำคัญร่วมกับภาคีเครือข่าย สนับสนุน โครงการ "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย" ซึ่งเป็นการผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างภาครัฐและเครือข่ายภาคีเอกชน ในการเร่งกระจายวัคซีนให้กับประชาชน โดยสนับสนุนศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลในโครงการไทยร่วมใจฯ 25 แห่ง ศูนย์ฉีดวัคซีนสำนักงานประกันสังคมเพื่อผู้ประกันตน ม.33 อีก 69 แห่ง รวมถึงจุดบริการฉีดวัคซีนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงสุด โดยธนาคารสมาชิกได้ให้การสนับสนุนทั้งด้านสถานที่ บุคลากร และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือในการดำเนินงานอีกด้วย
#2871



นายผยง  ศรีวณิช  ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 ธนาคารสมาชิกได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยในเดือนกรกฏาคม  2563 มีลูกค้าขอรับความช่วยเหลือสูงสุดจำนวน 6 ล้านบัญชี วงเงินความช่วยเหลือรวม 4.25 ล้านล้านบาท เป็นวงเงินสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ 8 แสนล้านบาท ลูกค้า SME 1.8 ล้านล้านบาท และลูกค้ารายย่อย 1.6 ล้านล้านบาทซึ่งที่ผ่านมา มีลูกค้าบางส่วนได้ออกจากมาตรการเนื่องจากกลับมาชำระหนี้ได้ในช่วงที่สถานการณ์ดีขึ้น

ล่าสุด ยังมีลูกค้าอยู่ภายใต้การให้ความช่วยเหลือรวม 1.89 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือกว่า 2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ 5.6 แสนล้านบาท ลูกค้า SME 8.2 แสนล้านบาท และลูกค้ารายย่อย 6.2 แสนล้านบาท สำหรับมาตรการเสริมสภาพคล่อง เพื่อประคับประคองธุรกิจตามมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารสมาชิกได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อเสริมสภาพคล่องกว่า 2.16 แสนล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ประมาณ 1.38 แสนล้านบาท และวงเงินสินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจที่อนุมัติไปแล้วกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท โดยตั้งเป้าหมาย 1 แสนล้านบาทในเดือนตุลาคมนี้

อย่างไรก็ตาม ทุกธนาคารยังคงเดินหน้าช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยจะทยอยพิจารณาให้การช่วยเหลือผ่านวงเงินดังกล่าวอย่างต่อเนื่องต่อไป

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ได้หารือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบต่อลูกค้าทุกกลุ่ม โดยพร้อมมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม หากสถานการณ์ยืดเยื้อกว่าที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม   ภาคธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อต้นปี 2563 โดยในช่วงแรกออกมาตรการช่วยเหลือเป็นการทั่วไป เป็นมาตรการเร่งด่วน ทั้งการพักชำระเงินต้น ดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาชำระหนี้  เพื่อลดภาระทางการเงินให้กับลูกค้า เสริมสภาพคล่องด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ  (Soft Loan)  หลังจากนั้นได้ออกมาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้ตรงจุด เช่น มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ และเมื่อมีการระบาดระลอกใหม่ทำให้เศรษฐกิจต้องใช้เวลานานขึ้นในการฟื้นตัว จึงมีมาตรการฟื้นฟูธุรกิจเพิ่มเติม ประกอบด้วย สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ วงเงิน 250,000 ล้านบาท และมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ วงเงิน 100,000 ล้านบาท  พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ระยะที่ 3 และล่าสุดได้ออกมาตรการเร่งด่วนด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้า SMEs และลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เป็นระยะเวลา 2 เดือน  ทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการ ในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ

" ทั้งนี้ ธนาคารสมาชิกได้บริหารจัดการธุรกิจด้วยความระมัดระวัง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ในช่วงครึ่งปี 2564 แสดงผลการดำเนินงานที่ยังเติบโตต่อเนื่อง  แต่บางส่วนเป็นการบันทึกรายได้ดอกเบี้ยค้างรับของมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ซึ่งยังไม่ได้มีการชำระจริงและยังอาจกลายเป็นหนี้เสียได้  อย่างไรก็ตาม ภาพรวม  NPL ในระบบแทบจะไม่เพิ่มขึ้นเลย สะท้อนถึงการให้ความช่วยเหลือได้ทันการณ์ ซึ่งนอกจากการให้สินเชื่อผ่าน Soft Loan และสินเชื่อฟื้นฟูแล้ว ธนาคารพาณิชย์ยังปล่อยสินเชื่อให้กับลูกหนี้ตามวงเงินที่มีอยู่เดิมเพิ่มขึ้น และยังคงให้ความสำคัญกับการกันสำรองอย่างเข้มงวดต่อไป เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต และต้องไม่เกิดผลกระทบกับเสถียรภาพและระบบสถาบันการเงินของประเทศ"


จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- 19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงขึ้น สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกยังได้ยกระดับแผน Business Continuity Planning หรือ BCP เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการ โดยคำนึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานเป็นสำคัญ ทั้งนี้ แผน BCP ครอบคลุมทั้งการปฎิบัติตามมาตรการของทางการ ระบบการให้บริการ การจัดสรรพนักงาน และการสำรองเงินสดให้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์  ทั้ง Mobile Application  Internet Banking และ  ตู้ ATM ซึ่งสามารถทำธุรกรรมได้หลากหลาย ทั้งฝาก-ถอนเงินสด โอนเงิน จ่ายบิล การยืนยันตัวตน รวมถึงบริการผูกบัญชีพร้อมเพย์  โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา เพื่อความสะดวก และลดความเสี่ยง

ทั้งนี้ ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบอย่างใกล้ชิด ได้มีการปฏิบัติงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home  ขั้นสูงสุด ส่วนพนักงานที่ต้องปฏิบัติงานในสาขา ซึ่งถือว่าเป็นบุคลากรด่านหน้าและเป็นกลุ่มเสี่ยง ธนาคารสมาชิกก็พยายามเร่งจัดหาวัคซีนและกระจายฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด พร้อมจัดการระบบให้บริการที่สาขาให้เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข

นอกจากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าแล้ว   สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ยังสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการป้องกันและรักษาผู้ติดเชื้อ ในปี 2563 โดยบริจาคให้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และสภากาชาดไทย จำนวนเงิน 50 ล้านบาท สำหรับในปี 2564 ธนาคารสมาชิกยังคงสนับสนุนการทำงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสนับสนุนทุนทรัพย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ ขณะเดียวกัน ยังเป็นกำลังสำคัญร่วมกับภาคีเครือข่าย สนับสนุน  โครงการ "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย" ซึ่งเป็นการผนึกความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างภาครัฐและเครือข่ายภาคีเอกชน ในการเร่งกระจายวัคซีนให้กับประชาชน โดยสนับสนุนศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลในโครงการไทยร่วมใจฯ 25 แห่ง ศูนย์ฉีดวัคซีนสำนักงานประกันสังคมเพื่อผู้ประกันตน ม.33 อีก 69 แห่ง รวมถึงจุดบริการฉีดวัคซีนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงสุด โดยธนาคารสมาชิกได้ให้การสนับสนุนทั้งด้านสถานที่ บุคลากร และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือในการดำเนินงานอีกด้วย
#2872



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันผ่านโซเชียลมีเดียของสโมสร ปิดดีลคว้าตัว ราฟาเอล วาราน ปราการหลังชาวฝรั่งเศสมาร่วมทัพเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงการเดินทางมาตรวจร่างกายเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ "ปีศาจแดง" ตกเป็นข่าวกับแนวรับตัวเก่งทีมชาติฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง โดย "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด ก็พร้อมที่จะปล่อยตัวแข้งรายนี้มาร่วมทัพหากได้ค่าตัวเป็นที่น่าพึงพอใจ

ล่าสุดวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมาตามเวลาที่อังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการในการปิดดีลดึงตัว ราฟาเอล วาราน มาคุมแนวรับในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยจะมีการเปิดตัวเร็วๆนี้ เมื่อเคลียร์เรื่องเอกสารเรียบร้อย ก่อนที่นักเตะเดินทางมาตรวจร่างกายกับสโมสร

"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า สโมสรบรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว ราฟาเอล วาราน เหลือเพียงขั้นตอนด้านเอกสาร และการตรวจร่างกายเท่านั้น" แถลงการณ์ของทีมปีศาจแดง

มีการคาดกันว่าค่าตัวของกองหลังวัย 28 ปีรายนี้อยู่ที่ราว 41 ล้านปอนด์ ซึ่งเจ้าตัวกลายเป็นนักเตะใหม่รายที่ 2 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ซื้อตัวมาร่วมทัพ ต่อจาก จาดอน ซานโช ปีกตัวจี๊ดทีมชาติอังกฤษ

สำหรับ ราฟาเอล วาราน เป็นเด็กปั้นของสโมสรล็องส์ ทีมในลีกฝรั่งเศส ก่อนที่ในปี 2011 จะถูก รีล มาดริด ดึงตัวมาร่วมทีม ซึ่งเวลานั้นเจ้าตัวเพิ่งจะอายุย่าง 19 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นแนวรับเลือดน้ำหอมรายนี้ก็กลายเป็นกำลังสำคัญของทีม "ราชันชุดขาว" ไปโดยปริยาย

โดยเขาเป็นกำลังสำคัญของยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุในการคว้แชมป์ลาลีกา สเปน มาครอง 3 สมัย, โคปา เดล เรย์ 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 4 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 4 สมัย
#2873



เยอรมนี ทำได้เพียงตามตีเสมอ ไอวอรี โคสต์ 1-1 ด้วยประตูของ เอดูอาร์ด โลเวน มิดฟิลด์สังกัด แฮร์ธา เบอร์ลิน ตกรอบแบ่งกลุ่ม การแข่งขันฟุตบอลชาย โอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันพุธที่ 28 กรกฎาคม

การแข่งขัน ฟุตบอลชาย โอลิมปิก 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายของกลุ่ม D ณ สนาม มิยากิ สเตเดียม เยอรมนี (อันดับ 3 : 2 นัด มี 3 คะแนน) ต้องชนะสถานเดียว ส่ง รากนาร์ อาเช ยืนศูนย์หน้า ประสานงาน นาเดียม อมิรี, มักซ์ ครูเซ และ มาร์โก ริคเตอร์ ล่าตาข่าย ไอวอรี โคสต์ (อันดับ 2 : 2 นัด มี 4 คะแนน)

เยอรมนี น่าปลดล็อกสุดๆ นาที 11 มักซ์ ครูเซ เคาะจังหวะเดียวให้ มาร์โก ริคเตอร์ แปด้วยขวา เอลิเซ อิรา ตาเป นายทวาร เหินปัดปลายมือ และนาที 26 ครูเซ ตักจากสุดเส้นฝั่งซ้ายให้ รากนาร์ อาเช โหม่งชนคาน

เริ่มครึ่งหลัง รองแชมป์เก่า เจอความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเกิดความผิดพลาด นาที 67 เบนจามิน เฮนริคส์ กองหลัง สกัดบอลทุ่มไกลฝั่งขวา เข้าประตูตัวเอง ตกเป็นรอง 0-1

ทีมของ สเตฟาน คุนท์ซ จุดประกายความหวัง นาที 73 เอดูอาร์ด ลูเวิน ตัวสำรอง ปั่นฟรีคิกด้วยขวา โค้งข้ามกำแพงเสียบมุมสุดสวย ตีเสมอ 1-1 แต่พังประตูแซงนำไม่ได้ จบเกม เยอรมนี มี 4 แต้ม อยู่อันดับ 3 ส่วน ไอวอรี โคสต์ มี 5 แต้ม อยู่อันดับ 2 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ต่อไป

ส่วนผลอีกคู่หนึ่งสายเดียวกัน บราซิล เจ้าของเหรียญทอง ริโอ เกมส์ 2016 เอาชนะ ซาอุดิอาระเบีย 3-1 ด้วยประตูของ มาเธอุส คุนญา นาที 14 กับ ริชาร์ลิสัน นาที 76 กับ 90+3 เก็บเพิ่มเป็น 7 แต้ม จาก 3 นัด คว้าแชมป์กลุ่ม D ขณะที่ ซาอุฯ ทวงคืนจาก อับดูเลอาห์ อัล-แอมรี นาที 27
#2874



สีสัน "โอลิมปิก2020" นอกจากเรื่องผลงานในสังเวียนการแข่งขันแล้ว ทีมหนึ่งซึ่งกำลังฟอร์มร้อนแรงและเป็นที่สนใจของแฟนกีฬาทั่วโลกคือ "ROC" ชื่อใหม่ที่ "ทีมชาติรัสเซีย" ใช้ร่วมแข่งขัน แล้วทำไมถึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อนี้ และหากรับเหรียญทอง พวกเขาต้องร้องเพลงอะไร

ในการแข่งขัน โตเกียว โอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นซึ่งกำลังชิงเหรียญกันอย่างเข้มข้นขณะนี้ บรรดาทีมชาติตัวเต็งเจ้าเหรียญทองไม่ว่าจะเป็นจีน สหรัฐ หรือแม้แต่เจ้าภาพญี่ปุ่นเอง ต่างแข่งกันโกยเหรียญรางวัลทิ้งห่างคูแข่งตั้งแต่วันแรก ๆ แต่ในอันดับต้น ๆ ของทำเนียบเจ้าเหรียญทองปีนี้ (ณ วันที่ 27 ก.ค.) กลับมีชื่อหนึ่งที่แฟนกีฬาไม่คุ้นเคยโผล่เข้ามาด้วย นั่นคือทีม "ROC" (อาร์โอซี)

เพื่อป้องกันความสับสน อันดับแรก ROC ไม่เกี่ยวข้องกับ ROK ชื่อย่อประเทศเกาหลีเหนือ และไม่เกี่ยวกับ "เดอะร็อค" อดีตนักมวยปล้ำชื่อดังที่ปัจจุบันเป็นดาราดังระดับฮอลลีวูดไปแล้ว แต่นี่เป็นชื่อย่อของ Russian Olympic Committee หรือ "คณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย"


- ป้ายสัญลักษณ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย หน้าสำนักงานใหญ่ในกรุงมอสโก -

ทำไมทีมรัสเซียต้องใช้ชื่อ ROC

ชื่อ ROC ถูกนำมาใช้เป็นชื่อในการแข่งขันทัวร์นาเมนท์ระดับนานาชาติ หลังจากที่องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (WADA) สั่งแบนรัสเซียในปี 2019

การตัดสินใจครั้งนั้นของ WADA เกิดขึ้นหลังจากตรวจพบว่า รัสเซียแอบกรองปัสสาวะนักกีฬาก่อนนำไปตรวจสารกระตุ้น และหลังจากนั้น รัสเซียยังมีการส่งรายงานฉบับปลอมให้ WADA ส่งผลให้ทีมชาติรัสเซียถูกลงโทษแบนถึง 4 ปี ก่อนจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (CAS) ได้สำเร็จ จนได้ลดโทษแบนครึ่งหนึ่ง เหลือ 2 ปี


รายงานของ WADA ระบุว่า เหตุการณ์การใช้สารกระตุ้นไม่ได้รู้เห็นเป็นวงกว้างเฉพาะในหมู่นักกีฬารัสเซียเท่านั้น แต่ยังอยู่ในการรับรู้ของรัฐบาลที่นำโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินด้วย

โทษแบนครั้งนี้ทำให้รัสเซียหมดสิทธิ์ส่งทัพนักกีฬาในนามทีมชาติแข่งขันหลายรายการ รวมถึง "โตเกียว 2020" "โอลิมปิกฤดูหนาว 2022" ที่กรุงปักกิ่งของจีน และ "ฟุตบอลโลก 2022" ที่กาตาร์

ใครลงแข่งในนาม ROC ได้บ้าง

ROC เปรียบเสมือนทีมชาติรัสเซีย V.2 ดังนั้น กลุ่มนักกีฬารัสเซียที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีใช้สารกระตุ้นดังกล่าว จะได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ รวมถึงทัวร์นาเมนท์อื่น ๆ ที่รัสเซียเข้าร่วมในช่วงโทษแบน 2 ปี

ทั้งนี้ คำสั่งของ CAS ยืนยันว่า ลงโทษแบนรัสเซียออกจากการแข่งขันระดับนานาชาติ ดังนั้น นักกีฬาที่ไม่มีความผิด จึงต้องใช้ธงและตราสัญลักษณ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งรัสเซีย หรือ ROC แทน


อย่างไรก็ตาม กฎกติกาของโอลิมปิกกำหนดให้บรรดานักกีฬาจากรัสเซียลงแข่งขันในนามของ ROC เท่านั้น และให้ใช้ชื่อย่อทีมแทนชื่อเต็ม เพื่อเลี่ยงคำว่า Russian ที่อยู่ในชื่อ Russian Olympic Committee

เมื่อรับเหรียญทองต้องร้องเพลงอะไร

ขณะเดียวกัน เนื่องจากรัสเซียไม่สามารถลงแข่งขันโอลิมปิกอย่างเป็นทางการได้ เมื่อนักกีฬาทีม ROC คว้าเหรียญทอง จะไม่มีการเล่นเพลงชาติรัสเซียหรือเชิญธงชาติรัสเซียขึ้นสู่ยอดเสา


อย่างไรก็ตาม แฟนกีฬาทั่วโลกจะได้เห็น ธงที่มีสัญลักษณ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งรัสเซีย หรือ ROC ถูกชักขึ้นสู่ยอดเสาอย่างสง่างาม พร้อมกับเสียงบรรเลงเพลง "Piano Concerto No. 1 in B-Flat Minor, Op. 23" ซึ่งประพันธ์โดย "ปิออตร์ อิลิช ไชคอฟสกี" คีตกวีชาวรัสเซียแห่งยุคโรแมนติกช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19



ไชคอฟสกีถือเป็นคีตกวีชาวรัสเซียคนแรกที่ผลงานสร้างความประทับใจในระดับโลก จนได้รับการส่งเสริมในฐานะวาทยกรรับเชิญในทวีปยุโรปและอเมริกา จึงอาจเป็นเหตุผลที่รัสเซียเลือกเล่นเพลงของคีตกวีคนนี้เมื่อนักกีฬาชนะเลิศหรือขึ้นรับเหรียญทองในการแข่งขันระดับนานาชาติ เพื่อประกาศความเป็นเลิศทั้งในด้านกีฬาและดนตรีของตน

ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.ค. ทัพนักกีฬาทีม ROC คว้าเหรียญโอลิมปิกไปแล้วรวม 18 เหรียญ แบ่งเป็นทอง 7 เหรียญ เงิน 7 เหรียญ และทองแดง 4 เหรียญ อยู่ในอันดับ 4 ของทำเนียบเจ้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 รองจากเจ้าภาพญี่ปุ่น (ทอง 10 เหรียญ / รวม 18 เหรียญ) สหรัฐ (ทอง 9 เหรียญ / รวม 25 เหรียญ) และจีน (ทอง 9 เหรียญ / รวม 21 เหรียญ) ตามลำดับ
#2875
3in1 led 36pcs 1w led flat par light DJ DMX512 Stage Lighting   

ไฟเวที LED FLAT PAR สุดคุ้มการใช้ ปาร์ตี้, ดิสโก้, KTV, ผับ, ร้านอาหาร, สวน, สวนสาธารณะ, พลาซ่า เพิ่มความตื่นตาตื่นใจ ด้วยชุดไฟ วิบวับ  แค่ 990 บาท 

- 1 หลอดมีหลาย สี  RGB MiXED COLOR
- วัตต์: ประมาณ 36 x  วัตต์
- แรงดันไฟฟ้า: 110-220 - v
-แหล่งพลังงาน: AC
- สามารถใช้ได้กับเครื่องควบคุมสัญญาณไฟ DMX512 
- รูปแบบไฟเปลี่ยนได้ถึง 7 แบบ ได้แก่ ปล่อยอัตโนมัติ เปลี่ยนตามจังหวะดนตรี master-slave
- รับประกัน 1 เดือน

สนใจ ติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อสินค้า
โทร : 094-5102033
LINE :@gentech
หรือคลิก https://lin.ee/eYs6pVN


#ป้ายNeonflex #ป้ายไฟสั่งทำ #ป้ายเชียร์ #ป้ายร้าน #ป้ายไฟดัด #ป้ายไฟled
#lighting #ไฟled #ledonhome #ป้ายไฟ #ป้ายไฟร้าน #ราคาป้ายไฟ #อุปกรณ์ไฟ
#โคมไฟ #ไฟตกแต่ง #ไฟประดับ #ไฟดาวไลน์led #วิธีเปลี่ยนหลอดled #วิบวับ #laser






#2876



"สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น " ยื่นไฟลิ่งเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด อายุ 2 ปี และ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.30 - 3.90% เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ คาดเปิดจองซื้อวันที่ 30 ส.ค. - 1 ก.ย. นี้ พร้อมวางแผนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ 

นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่าบริษัทฯ เป็นผู้นำด้านการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากกว่า 50 ปี มุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและความปลอดภัยในระดับโลก เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลกกว่า 30 ประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เสริมความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจสายไฟฟ้า ด้วยการขยายการลงทุนในไทยและต่างประเทศ โดยในช่วงที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนใน Thinh Phat Electric Cable Joint Stock Company ผู้ผลิตสายไฟฟ้ารายใหญ่ในประเทศเวียดนาม ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีการเติบโตสูง ทำให้บริษัทฯ ขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีเป้าหมายมุ่งสู่ผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลขึ้นสู่ระดับ Top Ten จากอันดับที่ 14 ของโลก

บริษัทฯ ได้รุกขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยต่อยอดสร้างการเติบโตในต่างประเทศ ล่าสุดบริษัทฯ ชนะการประมูลงานในประเทศเวียดนาม ได้แก่ งานสายส่งกำลังไฟฟ้า (Transmission line) ของการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) และงานโรงไฟฟ้าในเวียดนามตอนเหนือ เช่น กว๋างนิน เวียดนามตอนกลาง เช่น ดานัง และเวียดนามตอนใต้ เช่น โฮจิมินห์, เกิ่นเทอ เป็นต้น มูลค่ารวมประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับคำสั่งซื้อสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลจากกลุ่มประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียใต้ ได้แก่ โครงการพัฒนารถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย โครงการจากรัฐบาลบังกลาเทศ และโครงการจากรัฐบาลศรีลังกา มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอผลประมูลงานในประเทศเวียดนาม จากภาครัฐ (B2G) และผู้ประกอบการ (B2B) โดยส่วนใหญ่เป็นงานสายส่งกำลังไฟฟ้าจากเมืองฮานอย ดานัง บิ่ญเฟื้อก โรงไฟฟ้าในดาลักและโฮจิมินห์ รวมมูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4,500 ล้านบาท คาดว่าจะทราบผลการประมูลบางส่วนภายในปีนี้ จากปัจจุบัน บริษัทฯ มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าประมูลงานโครงการใหม่เพื่อเพิ่ม Backlog อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในภาวะชะลอตัวจากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม มองว่าอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความต้องการใช้งานทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น

สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2564 บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้เติบโต 15 - 20% จากปี 2563 ที่มีรายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ 16,917 ล้านบาท โดยวางกลยุทธ์มุ่งเน้นขายสินค้าในกลุ่มที่มีอัตรากำไรสูง (High Margin) โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สายไฟแรงดันระดับกลางถึงระดับสูงพิเศษเพื่อรองรับงานโครงการของภาครัฐและเอกชน รวมถึงใช้ประโยชน์จากโรงงานในเวียดนามที่มีต้นทุนการผลิตต่ำเพื่อเพิ่มความสามารถทำกำไร พร้อมกันนี้ได้วางเป้าหมายขยายตลาดส่งออกเป็น 50 ประเทศภายในปี 2564 จากปีที่ผ่านมาส่งออก 40 ประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกเป็น 10-12% จากปีก่อนอยู่ที่ 8%

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STARK กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวน ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2564 จำนวน 2 ชุด แบ่งเป็น หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุหุ้นกู้ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.30 - 3.50]% ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุหุ้นกู้ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.70 - 3.90]% ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะมีการประกาศอีกครั้ง

บมจ. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ "BBB+" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงานของบริษัทฯ ในฐานะผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้หุ้นกู้ของบริษัทฯ คาดว่าจะเปิดให้ผู้ลงทุนจองซื้อในวันที่ 30 สิงหาคม - 1 กันยายนนี้ โดยจะเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 5 ราย ได้แก่

ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) - เสนอขายเฉพาะต่อผู้ลงทุนสถาบันเท่านั้น

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 กด 819 โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่านhttps://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) 1428 กด#4

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) โทร. 02-658-5050

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอเชีย เวลท์ จำกัด โทร. 02-207-2113

"การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างทางการเงิน รองรับแผนขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการลงทุนในตราสารเพื่อรับผลตอบแทนการลงทุนในระดับที่น่าพอใจและมีความสม่ำเสมอท่ามกลางเศรษฐกิจ
#2877



ดร. ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชัน ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พูดถึงตลาดสมาร์ทโฟนในครึ่งปีหลัง 2021 พร้อมเผยถึงความก้าวล้ำของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่ชี้ให้เห็นชัดว่ารูปแบบใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

งาน Samsung Galaxy Unpacked เมื่อเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมา ดร. ทีเอ็ม โรห์ ได้นำเสนอกลยุทธ์และความมุ่งมั่นในการส่งมอบสมาร์ทโฟนอันทรงประสิทธิภาพแก่ผู้คนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เราต้องการเทคโนโลยีที่ดีเพื่อการดำเนินชีวิตที่สะดวกและง่ายขึ้น จนถึงวันนี้ โลกกำลังขับเคลื่อนไปในหลากหลายรูปแบบ ทำให้ทุกคนต่างเริ่มมองหาอิสรภาพและโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

ในปีที่ผ่านมา ซัมซุงได้ร่วมมือกับพันธมิตรอันแข็งแกร่ง ทำให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์ด้านการใช้งานที่ลื่นไหลไร้รอยต่อ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวและความฉลาดล้ำยิ่งกว่าที่เคย และเชื่อว่าการสร้างระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) จะเป็นทางเดียวที่จะเร่งกระบวนการการสร้างนวัตกรรม ให้ผู้คนมีอิสระในการสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองมากที่สุด


ครั้งนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว เทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าเดิม โดยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะได้พบกับ Samsung Galaxy Z Series รุ่นล่าสุด ที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง


"ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทุกท่านจะได้พบกับ Samsung Galaxy Z Series รุ่นล่าสุด ที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนพร้อมพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง" ดร.ทีเอ็ม โรห์ ประธานฝ่าย โมบายล์ คอมมูนิเคชั่น ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว

เปิดประตูสู่โลกใหม่ด้วยซัมซุง กาแลคซี่

เขา บอกว่า โลกในปัจจุบันต้องการเทคโนโลยีที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้อย่างหลากหลายและง่ายดายยิ่งขึ้น "ผู้คน" คือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่แบรนด์ทำ เรารับฟังทุกความคิดเห็นของผู้ใช้เพื่อให้มั่นใจว่าดีไวซ์รุ่นใหม่เป็นนวัตกรรมที่มีความหมาย และเติมเต็มการใช้ชีวิตด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็น กล้องระดับมืออาชีพ หน้าจอที่ให้ภาพคมชัด สมจริง แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน หรือแม้กระทั่งระบบการรักษาความปลอดภัยอันแข็งแกร่ง ที่สะท้อนให้เห็นได้ว่า ซัมซุงมุ่งเน้นที่จะมอบสิ่งที่ผู้คนต้องการอย่างแท้จริง

ระหว่างทางของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี เราได้ค้นพบมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ อย่าง Samsung Galaxy Fold โดยหลังจากการส่งรุ่นแรกสู่ตลาด เราไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เพราะเรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง ดังที่ทุกคนคงได้เห็นใน Galaxy Z Fold2 และ Galaxy Z Flip ที่มาพร้อมจำนวนหน้าจอที่เพิ่มขึ้น

รวมถึงฟีเจอร์อันหลากหลายที่ผู้ใช้รักและชื่นชอบ โดยทางซัมซุงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะบอกว่าสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ของซัมซุงในเจเนอเรชันที่ 3 นี้จะเป็นการเปิดประตูสู่โลกใหม่ของการใช้งานแบบมัลติทาส์กกิ้ง (Multitasking) ที่มาพร้อมกับความแข็งแรงทนทานที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

ดินหน้าขยายพันธมิตรเพื่อมอบที่สุดแห่งประสบการณ์

การร่วมมือกับพันธมิตร คือสิ่งที่สำคัญอย่างมากโดยเฉพาะในโลกแห่งการเชื่อมต่อที่หลายคนมองหาระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) ที่มาพร้อมประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัย สำหรับซัมซุงแล้ว นโยบาย "การเปิดกว้าง" และ "ความปลอดภัย" เป็นสองสิ่งที่อยู่คู่กันเสมอ

การจับมือกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง Google และ Microsoft ช่วยให้สามารถส่งมอบเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่ปลอดภัยและพร้อมสำหรับการใช้งานในโลกที่เชื่อมต่อกันได้ทุกที่ทุกเวลา โดยซัมซุงยังคงเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัย เพื่อทำหน้าที่ดูแลอุปกรณ์และข้อมูลของผู้ใช้ในทุกขั้นตอน ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการแอปพลิเคชัน ข้อมูล และความเป็นส่วนตัว เพื่อออกแบบประสบการณ์ในแบบฉบับของตัวเองโดยไม่ต้องกังวลด้านความปลอดภัยอีกต่อไป

การได้ร่วมงานกับพันธมิตร ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาแพลทฟอร์มบนอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ ที่ซัมซุงได้พัฒนาร่วมกับ Google ซึ่งนอกจากแอปพลิเคชันที่ทุกคนชื่นชอบอย่าง Samsung Health และ SmartThings แล้ว ยังมีแอปพลิเคชันอื่นๆ อีกมากมายบน Google Play Store อีกทั้งอินเทอร์เฟซบนหน้าปัดของ One UI Watch ใหม่นี้ยังทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในตระกูลกาแลคซี่ เพื่อมอบการเชื่อมต่อที่ราบรื่นระหว่างกาแลคซี่วอทช์และสมาร์ทโฟนซัมซุง

ที่สำคัญ เรายังร่วมงานกับ Google เพื่อยกระดับอีโคซิสเต็มของสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ด้วยแอปพลิเคชันและบริการยอดนิยม ทั้งนี้ สำหรับ Galaxy Z เจเนอเรชันที่ 3 เราได้รวบรวมแอพพลิเคชันมากมายจากเหล่าพันธมิตรที่จะช่วยดึงประสิทธิภาพอันรอบด้านของรูปทรงสมาร์ทโฟนในซีรีส์นี้ ไม่ว่าจะเป็นการวิดีโอคอลแบบแฮนด์ฟรีผ่าน Google Duo การดูวิดีโอด้วย Flex Mode บน YouTube หรือการมัลติทาส์กกิ้งใน Microsoft Teams เพื่อผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่เหนือชั้นและราบรื่นกว่าที่เคย

ยุคใหม่ของนวัตกรรมสมาร์ทโฟนมาถึงแล้ว

สมาร์ทโฟน Galaxy Z Fold ที่กำลังจะเผยโฉมในครั้งนี้ ได้ผสานสุดยอดนวัตกรรมที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่แปลกใหม่อย่างสิ้นเชิง พลิกโฉมรูปแบบการทำงาน การเชื่อมต่อสื่อสาร และการสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันยังมาพร้อมดีไซน์ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันและทนทาน ด้วยวัสดุที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และนั่นทำให้เราเชื่อว่า อุปกรณ์รุ่นใหม่นี้พร้อมแล้วที่จะตอบโจทย์ด้านเทคโนโลยียุคใหม่แห่งนวัตกรรมสมาร์ทโฟน

เราได้สร้างมาตรฐานใหม่และบุกเบิกโลกที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นให้กับผู้ใช้จำนวนมากขึ้น เราหวังว่าทุกคนจะร่วมเดินทางไปกับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Galaxy Z และแชร์โมเมนต์ที่น่าทึ่งร่วมกันกับเรา ไม่ว่าจะเป็น ครั้งแรกของปากกา S Pen ที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้โดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นการนำฟีเจอร์อันโดดเด่นของ Galaxy Note มาสู่อุปกรณ์รุ่นอื่นๆ ของซัมซุง แทนการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Galaxy Note รุ่นใหม่ในช่วงเวลานี้
#2878



เป็นสัปดาห์ที่สร้างความหวั่นไหวให้กับสมาชิกชั่วคราวทั้ง 7 ต้นน้ำ-บัณฑิฏา สันตยารมณ์ , ม่านมุก-ชดาธาร ด่านกุล, มีมี่-พิมพ์มาดา ตั้งสี, รันม่า-แทนทยา ชิชิดะ, ซีโมน-ปุณณาสา ต้นวิชา, เก๋-พรรณิภา วงษาชัย และ ตาล-สุดารัตน์ วงษ์กล่ำ อย่างมาก เพราะที่ผ่านมา สมาชิกชั่วคราวแต่ละคน สามารถป้องกันตำแหน่งของตัวเองจากผู้ท้าชิงมาต่อเนื่อง 6 แมตช์ติดต่อกันเข้าให้แล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาสมาชิกชั่วคราวต่างก็แอบลุ้นว่าวีคนี้ใครจะเป็นผู้ถูกเลือก และจะสามารถสร้างสถิติใหม่รักษาตำแหน่งของตัวเองได้อย่างเหนียวแน่น 7 ครั้งต่อเนื่องได้หรือไม่?


เปิดเวทีด้วยพิธีกร น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เชิญผู้ท้าชิงคนที่ 11 อาย-ฐิติรัตน์ ละลี อดีตสมาชิกวงไอดอลชื่อดังจากภาคเหนือ SY51 สู่เวทีเพื่อเลือกสมาชิกชั่วคราวที่อายต้องการท้าชิง ซึ่งอายประกาศอย่างมุ่งมั่น ขอเปิดศึกกับสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ซีโมน-ปุณณาสา โดย อาย-ฐิติรัตน์ ได้พาพิธีกรและคณะกรรมการอย่าง สอง พาราด็อกซ์, แพท เคลียร์, หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ และ ติ๊ก เพลย์กราวนด์ ย้อนไปสัมผัสกลิ่นอายในอดีตกับเพลง "รักครั้งแรก" ของวง "ชาตรี" ด้าน ซีโมน-ปุณณาสา ที่ต้องแบกรับภาระการรักษาสถิติเอาไว้ ก็โชว์ในเพลง "นักมายากล" ของวง "พาราด็อกซ์" อย่างสนุกสนาน สลัดความกังวลและโฟกัสกับหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี


และแล้วก็ถึงคราวที่กรรมการต้องตัดสิน เมื่อทางรายการประกาศให้กรรมการที่จับลูกบอลหมายเลข 3 ต้องรับหน้าที่ชี้ชะตาผู้ท้าชิงและสมาชิกชั่วคราว งานนี้ฟ้ากำหนดให้ สอง พาราด็อกซ์ เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งเจ้าตัวเลือกให้ ซีโมน ไปครองตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 5 ต่อไป ด้านกรรมการท่านอื่นก็พร้อมใจเทคะแนนให้ ซีโมน เช่นกัน สร้างความดีใจให้กับ ซีโมน เป็นอย่างมากที่สามารถสร้างสถิติที่สมาชิกชั่วคราวสามารถรักษาตำแหน่งได้ต่อเนื่องถึง 7 ครั้ง


หลังรักษาตำแหน่งไว้ได้ ซีโมน เปิดใจว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่หนูถูกท้าชิง หนูภูมิใจกับโชว์นี้มาก ๆ ค่ะ มันจะมีความจิต ๆ หนูชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้ว เลยทำให้หนูเก็ทกับมันมากขึ้น แต่พี่อายก็ทำได้ดีมาก ๆ เลย พอโชว์มันแตกต่างกันคนละขั้ว ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของกรรมการแล้วค่ะ ถามว่าครั้งนี้กดดันกว่าครั้งก่อนไหม คือเราอยู่กันมาได้ 6 สัปดาห์แบบครบเลย ก่อนโชว์ก็กดดันมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งหน้าที่ของหนูก็คือต้องโชว์ออกมาให้ดีที่สุด หนูรู้สึกดีใจมากที่คนเอ็นจอยกับโชว์นี้ ทำให้มีกำลังใจที่ครีเอทโชว์ต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ"


จากนั้นมาถึงคิวของผู้ท้าชิงคนที่ 12 พรีม-ปฐมาภรณ์ ศรีวานิชภูมิ สาวน้อยผู้กล้าก้าวข้ามคอมฟอร์ทโซนของตัวเอง ฝึกฝนทักษะการร้องเต้นที่เธอไม่เคยทำ โดยสาวพรีมเลือกแข่งขันกับผู้ท้าชิงหมายเลข 6 เก๋-พรรณิภา วงษาชัย ซึ่งเป็นการประเดิมเวทีครั้งแรกของเก๋ในรายการ "Last Idol Thailand" เพราะที่ผ่านมาเก๋ยังไม่เคยถูกท้าชิงมาก่อน พรีม-ปฐมาภรณ์ เลือกร้องเพลง "จริง ๆ มันก็ดี" ของ จีน่า เดอซูซ่า ด้วยเสียงหวาน ๆ ของพรีมเปลี่ยนให้เพลงแสบซ่ากลายเป็นเวอร์ชั่นสดใสมองโลกบวกขึ้นมาทันที ทำให้กรรมการชุดใหม่อย่าง โบ ไทรอัมพ์ คิงดอม, หนึ่ง อีทีซี, ณัฐ เคลียร์ และ แทน ลิปตา อดยิ้มไปกับการแสดงของเธอไม่ได้

เมื่อผู้ท้าชิงคนที่ 12 สาดพลังบวกให้ผู้ชมขนาดนี้ เก๋-พรรณิภา จะเรียกความสนใจจากกรรมการให้เทคะแนนให้กับเธอด้วยเพลงอะไร? รอให้กำลังใจเก๋กันต่อในวันอาทิตย์ที่ 1 ส.ค. เวลา 12.30-13.30 น ทางช่อง 7 HD
#2879



เมื่อวันที่ 27 ก.ค. พ.อ.กฤษภาณุ จํานงค์วงศ์ รองผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา  ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวที่ติดเชื้อโควิด 19 ถูกสามีทำร้ายร่างกายและไล่ออกจากบ้าน จนต้องหอบเสื้อผ้าออกมานั่งอยู่ริมถนนสุขุมวิทใกล้ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบางปิ้ง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจต่อต้านโควิด เทศบาลนครสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ 

ในที่เกิดเหตุได้พบหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปี เศษนั่งอยู่บนฟุตปาธโดยมีกระเป๋าเสื้อผ้าวางอยู่ข้างตัวทราบชื่อภายในหลังชื่อ น.ส.จันทรา ภักดิ์ชัยภูมิ อายุ 24 ปี นั่งร้องไห้อยู่บนฟุตปาธริมถนน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบประวัติการตรวจหาเชื้อโควิดในระบบของจังหวัดสมุทรปราการ พบว่า น.ส.จันทรา ได้เข้าตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และผลตรวจยืนยันออกมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ว่าติดเชื้อโควิด 19 


ด้านนางนุชราพร สยาม อายุ 50 ปี แม่ของหญิงสาวคนดังกล่าว ได้เล่าว่า ลูกสาวตนได้แยกไปอยู่กับแฟนที่บ้านซึ่งอยู่ภายในซอยวัดในสองวิหารห่างจากบ้านตนประมาณ 1 กิโลเมตร หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโควิดอย่างหนักในพื้นที่ตำบลปากน้ำ ลูกสาวตนจึงได้วอล์กอินเข้าไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมาและและผลการตรวจออกมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พบว่าติดเชื้อโควิด ลูกสาวจึงกักตัวอยู่ที่บ้านแฟนระยะเวลาที่ผ่านมาก็ไม่มีอาการอะไร จนกระทั่งเมื่อวาน(25ก.ค.)ลูกสาวได้โทรมาบอกว่าอาเจียนและก็ท้องเสีย และมีอาการเจ็บหน้าอก ตนจึงโทรไปบอกหมอ แต่พอหมอเข้าไป คนที่บ้านโน้นเขาก็ไล่หมอ ไม่ให้เข้าไป ก่อนจะทำร้ายร่างกายลูกสาวตนพร้อมทั้งไล่ลูกสาวตนออกจากบ้าน

จนลูกสาวตนต้องหอบเสื้อผ้าเดินหอบร่างกายอันบอบช้ำ ออกจากบ้านแฟนมานั่งร้องไห้อยู่ที่บนฟุตปาธริมถนน ไม่กล้าเข้าไปที่บ้านตนเพราะเกรงว่าจะนำเชื้อโควิดมาติดคนในบ้าน ก่อนที่จะโทรศัพท์มาบอกตนเพื่อขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.และเจ้าหน้าที่กู้ชีพของเทศบาลนครเข้ามาให้การช่วยเหลือ

 


ด้านพ.อ.กฤษภาณุ กล่าวว่า หลังจากที่เข้าตรวจสอบแล้ว พบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ที่แสดงอาการแล้ว หากปล่อยไว้ก็อาจจะมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้  ประกอบกับในจุดที่หญิงสาวคนดังกล่าวมานั่งอยู่ใกล้กับชุมชน ซึ่งมีชาวบ้านพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เกรงว่าจะเป็นการแพร่เชื้อโควิดได้ จึงได้ประสานไปทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรปราการ เพื่อขอนำตัวหญิงสาวรายนี้เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามที่ 5 ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการของ WHA คลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจต่อต้านโควิด เทศบาลนครสมุทรปราการ เป็นผู้นำส่งพร้อมทั้งทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในจุดที่หญิงสาวคนดังกล่าวนั่งและสัมผัสเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน
#2880


บริษัท การบินไทยฯ ได้ปรับเส้นทางบินเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารในโครงการภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ที่ต้องการเดินทางจากภูเก็ตไปยังยุโรปได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเทพฯ จำนวน 2 เส้นทางบิน

นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศแนวปฏิบัติสำหรับการให้บริการเที่ยวบินเส้นทางบินภายในประเทศ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยห้ามมิให้สายการบินปฏิบัติการบินรับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะสิ้นสุดลงนั้น บริษัท การบินไทยฯ ได้ปรับเส้นทางบินเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารในโครงการภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ที่ต้องการเดินทางจากภูเก็ตไปยังยุโรปได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเทพฯ จำนวน 2 เส้นทางบิน ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

-เที่ยวบินที่ ทีจี 922 เส้นทางบินเดิม กรุงเทพฯ-แฟรงก์เฟิร์ต เปลี่ยนเป็น กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-แฟรงก์เฟิร์ต ทำการบินทุกวันพฤหัสบดี เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 19.55 น. ถึงภูเก็ต เวลา 21.25 น. ออกเดินทางจากภูเก็ต เวลา 22.40 น. เดินทางถึงแฟรงก์เฟิร์ต เวลา 06.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ในวันถัดไป

-เที่ยวบินที่ ทีจี 916 เส้นทางบินเดิม กรุงเทพฯ-ลอนดอน เปลี่ยนเป็น กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-ลอนดอน ทำการบินทุกวันศุกร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 21.10 น. ถึงภูเก็ต เวลา 22.40 น. ออกเดินทางจากภูเก็ต เวลา 23.55 น. เดินทางถึงลอนดอน เวลา 07.15 น. (เวลาท้องถิ่น) ในวันถัดไป

ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่มีบัตรโดยสารในเส้นทางจากภูเก็ตไปยัง ปารีส ซูริก และโคเปนเฮเกน และต้องการเดินทางในเที่ยวบินดังกล่าว สามารถเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสารได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสอบถามรายละเอียดตารางบิน พร้อมสำรองที่นั่งได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com และสำนักงานขายการบินไทย หรือ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 ทุกวัน (เวลา 08.00-17.00 น.)