• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#2841

โดย ทีมจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด 

ท่ามกลางแรงหนุนจากอุปสงค์ทั้งในและนอกประเทศที่ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ในไตรมาสที่ 1 เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (EM) ยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่ในไตรมาส 1 โตถึง 18.3 % YoY ซึ่งเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 1992 ทําให้รัฐบาลจีนออกมาทยอยผ่อนปรนการผ่อนคลายทั้งนโยบายการเงินและการคลังลง (Policy Normalization) ซึ่งเรามีมุมมองว่าอาจจะส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ EM ชะลอตัวลงในระยะข้างหน้า แต่อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจ EM ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกที่ยังใช้นโยบายการเงินและการคลังแบบผ่อนคลายและเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดย IMF ได้ปรับคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 6% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดการณ์เอาไว้เมื่อเดือน ม.ค. ที่ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 5.5% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการฉีดวัคซีนในหลายๆ ประเทศทั่วโลก

สำหรับด้านการลงทุน เรามีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้น EM ในระยะสั้นถึงกลาง เนื่องจากยังคงมีปัจจัยเสี่ยงด้านลบที่ต้องติดตาม ปัจจัยแรก ได้แก่ การที่รัฐบาลจีนทำ Policy Normalization ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (Chinese Man.cturing PMI) ที่ดูหมือนจะชะลอตัวลงและตัวเลขสภาพคล่องทางการเงินในประเทศจีน TSF ที่มีแนวโน้มจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยถ้าตัวเลขเหล่านี้ยังชะลอลงอย่างต่อเนื่องอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในภูมิภาค EM ได้ ปัจจัยต่อมาได้แก่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศกลุ่ม EM เช่น ตุรกี อินเดีย และบราซิล ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดการฉีดวัคซีนในกลุ่มประเทศ EM ที่ยังน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศ Developed Market (DM) เช่น ยุโรป หรือ สหรัฐฯ ดังแผนภาพที่ 

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น ซึ่งจะกดดันกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น EM และ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ไม่รู้จะสิ้นสุดลงอย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่สภาวะตลาดในช่วงที่ผ่านมาจะเป็นการสลับการลงทุนระหว่างกลุ่มมากกว่าการเทขายทั้งตลาด ทำให้ถึงแม้โดยรวมเราจะมีมุมมองเป็นกลาง แต่เรายังมองว่าหุ้นบางกลุ่มยังมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ในระยะข้างหน้า เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในจีนที่ในช่วงที่ผ่านมาโดนผลกระทบจากการสลับการลงทุนจากหุ้นกลุ่ม Growth ไปยังหุ้น กลุ่ม Value รวมถึงกฎเกณฑ์ของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการต่อต้านการผูกขาด ทำให้ราคาของหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลงมาค่อนข้างแรง โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในจีน (FTSE China Incl A 25% Technology Capped Index) จากต้นปีปรับตัวลงมาประมาน 2.5% เทียบกับตลาดหุ้นจีนโดยรวม (MSCI China Index) ที่ปรับตัวลงประมาณ 0.5% ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ (Nasdaq 100 Index) ปรับตัวขึ้นถึง 10 % ทำให้ Valuation ในเชิงเปรียบเทียบของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในจีนลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ดังแผนภาพที่ 2


สุดท้ายนี้ ถึงแม้ตลาดหุ้น EM จะยังไม่มีความน่าสนใจในระยะสั้นถึงกลางแต่ในระยะยาวเรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น EM อยู่จากระดับ Valuation ที่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำเทียบกับตลาดหุ้น DM ดังแผนภาพที่ 3 รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่อยู่ในขาขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัวจากผลกระทบของ COVID-19 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้น EM ในระยะยาว ทำให้ตลาดหุ้น EM ยังเป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุนระยะยาวและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

https:// m.mgronline.com/mutualfund/detail/9640000075343
#2842


บอร์ด ทอท.เคาะขยายเวลาก่อสร้างสุวรรณภูมิ 3 สัญญา "APM-สายพานและเครื่องตรวจระเบิด" โควิดนำเข้าอุปกรณ์ไม่ได้ คำสั่งปิดแคมป์หยุดก่อสร้างหมด มั่นใจไม่กระทบบริการ ชี้ใช้ SAT-1 เมื่อเกิน 50 ล้านคน คาดอุตสาหกรรมการบินฟื้น มี.ค. 66

แหล่งข่าวจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่มี นายสราวุธ เบญจกุล เป็นประธาน ได้มีมติอนุมัติขยายระยะเวลางานจ้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 จำนวน 3 สัญญา ได้แก่ 1. ขยายระยะเวลาสัญญางานจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบิน และที่จอดรถด้านทิศตะวันออก โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กับบริษัทพระราม 2 จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 6 มิ.ย. 2562 มูลค่าสัญญา 871.888 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 540 วัน โดยเป็นการขยายระยะเวลาแล้วเสร็จอีกจำนวน 231 วัน จากเดิมวันที่ 14 ธ.ค. 2563 เป็นวันที่ 2 ส.ค. 2564

2. อนุมัติขยายระยะเวลาสัญญางานซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Movew : APM) ให้แก่นิติบุคคลร่วมทำงานไออาร์ทีวี ประกอบด้วย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เรืองณรงค์ จำกัด บริษัท แบคเคอร์ อินดัสทรี จำกัด และ บริษัท วิวเท็กซ์ จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 20 พ.ย. 2560 มูลค่าสัญญา 2,999.90 ล้านบาท ขยายระยะเวลาแล้วเสร็จอีก 330 วัน จากเดิมวันที่ 3 ก.ย. 2563 เป็นวันที่ 30 ก.ค. 2564

โดยสัญญางานระบบ APM ระยะเวลาก่อสร้างเดิม 870 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 2560-วันที่ 7 เม.ย. 2563 ต่อมามีการขยายระยะเวลาอีก 149 วัน จากวันที่ 7 เม.ย. 2563-วันที่ 3 ก.ย. 2563 และล่าสุดขยายอีก 330 วัน นับรวมระยะเวลาดำเนินงาน 1,019 วัน

3. อนุมัติขยายระยะเวลางานซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) ให้กับนิติบุคคลร่วมทำงาน ล็อกซเล่ย์-แอลพีเอส ประกอบด้วย บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ล็อกซเล่ย์เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด ในสัญญาจ้างลงวันที่ 1 ก.พ. 2561 มูลค่าสัญญา 3,646.560 ล้านบาท โดยเป็นการขยายระยะเวลาแล้วเสร็จจำนวน 214 วัน จากเดิมวันที่ 6 ส.ค. 2564 เป็นวันที่ 8 มี.ค. 2565

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง ทอท. กล่าวว่า บอร์ด ทอท.มีการพิจารณาขยายระยะเวลาก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 จำนวน 3 สัญญา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากไม่สามารถนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศได้ตามกำหนด และคาดว่าในภาพรวมอาจจะต้องมีการพิจารณาปรับขยายระยะเวลาสัญญาอีกครั้งเนื่องจากมาตรการรัฐบาลที่ให้ปิดแคมป์ก่อสร้าง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน ทำให้งานก่อสร้างโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ต้องหยุก่อสร้างทุกสัญญาในขณะนี้ ยกเว้นงานที่อยู่ในความดูแลของวิศวกร เช่น การทดสอบระบบที่ยังทำได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะขยายระยะเวลาสัญญา แต่ในขณะนี้โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ในส่วนของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) เสร็จแล้ว แต่ ทอท.วางแผนในการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ต่อเมื่ออาคารผู้โดยสารหลักมีปริมาณผู้โดยสารเกิน 50 ล้านคน/ ปี จึงจะเปิดใช้อาคาร SAT-1 เพื่อลดความแออัดของอาคารหลัก แต่หากอาคารหลักยังไม่แออัดก็ไม่จำเป็นเร่งเปิดใช้ SAT-1 เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 300 ล้านบาท/เดือน

แต่จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งมีการประเมินว่าอุตสาหกรรมการบินจะกลับมาในช่วงตารางบินฤดูร้อนปี 2566 (ประมาณเดือน มี.ค. 2566) ซึ่งยังมีเวลาเพียงพอในการก่อสร้างและทดสอบระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของสุวรรณภูมิเฟส 2
#2843



แม้ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกจากบ้านกัน หรือถ้าออกไปก็ต้องใส่แมสก์ตลอด แต่สาว ๆ อย่าละเลยเรื่องการบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่มกระจ่างใสเด็ดขาด สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ แนะนำ 12 มาสก์หน้าสุดฮอตฮิต ที่เชื่อว่าสาว ๆ ต้องมีติดบ้านไว้อย่างน้อยสองชิ้น ที่สุดในดวงใจชิ้นแรกต้องยกให้ Jung Saem Mool Essential Mool Cream Mask ขึ้นชื่อว่า Mool Cream แล้วการันตีได้ถึงความปังแน่นอน ไม่เพียงแค่มีครีมบำรุงผิวเท่านั้น แต่ Mool Cream ยังมีมาสก์ด้วย เป็นมาสก์ เนื้อเข้มข้นครีมมี่ ด้วยคุณค่าเซรามายด์และไฮยาลูโรนิคเอซิด ทำให้ผิวชุ่มชื่น เนียนเรียบ สุขภาพดี


ตามมาด้วย Shiseido White Lucent Overnight Cream and Mask มาสก์สูตรไวท์เทนนิ่งที่หรูหรา ช่วยเรื่องผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ผิวที่ไม่เสมอกัน ใช้แล้วผิวจะเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์, M.A.C Mineralize Reset & Revive Charcoal Mask เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีสิวเสี้ยนเยอะ ตัวนี้จะช่วยดูดสิวเสี้ยนออกไปด้วยสารสกัดจากชาร์โคล เนื้อมาสก์ไม่แห้ง ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น, Three Purifying Clay Mask  อีกตัวที่สาวผิวมันห้ามพลาด สารสกัดจากธรรมชาติ 92% และสารช่วยนำความหยาบกร้านของผิวออกไป ช่วยลดผิวมันและขจัดเซลล์ผิวส่วนเกินได้ดี


สำหรับสาวที่ผิวแห้งมาก ๆ Kiehl's Ultra Facial Overnight Hydrating Masque ตัวนี้ช่วยกู้ผิวให้กลับมาชุ่มชื่นอย่างรวดเร็ว ผิวฟูขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังใช้รู้สึกได้ทันที ส่วน Lush Mask of Magnaminty มาสก์เนื้อสีเขียวมิ้นต์ มีเท็กเจอร์เหมือนเป็นเมล็ดธัญพืช สามารถขัดผิวได้ในตัว ทำให้หน้านุ่มและผิวละเอียดเนียนมากขึ้น ไม่มีสารกันบูดและสารอันตรายต่อผิว, Etude House Soon June Sleeping Pack  ถูกใจสาว ๆ ที่อยากมาสก์หน้าแล้วนอนหลับไปเลย เพราะอีทูดี้ตัวนี้เป็นแนวสลีปปิ้ง มาสก์ นอนหลับได้เลยไม่ต้องห่วง เนื้อครีมมี่บาล์มทาเบา ๆ มีส่วนผสมของแพนเท็นโซไซต์ 5% ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น, Frudia Firming My Orchard Squeeze Mask Acai Berry จาก All Abou You มาสก์หอม ๆ ด้วยสารสกัดอาซาอิเบอร์รี่ ช่วยยกกระชับผิว คงความชุ่มชื่น ให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย


ด้าน Sephora มีมาสก์หลายตัวที่ครองใจสาว ๆ Laneige Water Sleeping Mask EX สลีปปิ้งมาสก์ที่ครองใจสาว ๆ มานาน เชื่อว่าทุกคนต้องเคยใช้แน่นอน มีส่วนผสมของไมโครไบโอม โปรไบโอติคที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง ใบหน้ากระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด, Biotherm Life Plankton Mask สารสกัดจากไลฟ์แพลงก์ตอนบริสุทธิ์ เมื่อประสานการทำงานเข้ากับผิวทำให้ผิวชุ่มชื่นสุด ๆ เนื้อมาสก์เป็นเจลข้น กลิ่นหอมสดชื่นแบบธรรมชาติ อีกหนึ่ง มาสก์ยอดนิยมที่ช่วยกู้ผิวแห้งให้กลับมาฉ่ำน้ำแบบรวดเร็ว, Foreo Call It a Night เด่นที่ส่วนผสมของโสมและน้ำมันโอลีฟ เอ็กโซติค ธรรมชาติสุด ๆ แต่ตัวนี้พิเศษนิดตรงนี้ต้องใช้คู่กับอุปกรณ์ยูเอฟโออันโด่งดังของแบรนด์ แต่รับรองว่าผลลัพธ์จะทำให้พึงใจสุด ๆ สีผิวสม่ำเสมอและเรียบเนียนขึ้นแน่นอน ปิดท้ายกับ Tatcha Luminous Dewy Skin Mask ขวัญใจบิวตี้ เอดิเตอร์ทั่วโลก ถูกหยิบยกให้มาอยู่ในลิสต์มาสก์ในดวงใจเสมอ ๆ มีส่วนผสมของชาเขียวออกแนวสไตล์ญี่ปุ่น แผ่นมาสก์นุ่มอ่อนโยนต่อผิวที่สุด
#2844


CYANIDE กลับมาทวงบัลลังก์ แร็พเปอร์สาวเดือดจัด ชวน SUNNYBONE และ KHUN OC แร็พทะลุปรอทในเพลง MAI CHOP

คงต้องบอกเลยว่าหลายคนรู้จัก CYANIDE จากบทบาทแร็พเปอร์สาวที่มาพร้อมกับสไตล์การแร็พที่ดุดัน ล่าสุดสาว ไนซ์ หรือไซยาไนด์ ขอกลับมาทวงบัลลังก์ในเพลง MAI CHOP feat. SUNNYBONE & KHUN OC

โดยเพลงนี้ได้ Underground Rapper ที่กำลังมาแรงอย่าง "SUNNYBONE" จากลุ่ม UDT BOY$ และแร๊พเปอร์หนุ่มจากแอตแลนตาที่สายแร็พและฮิปฮอปไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี "KHUN OC" มาร่วมสร้างความความเดือดดาลให้กับเพลงนี้ โปรดิวซ์โดย SPATCHIES โปรดิวเซอร์รุ่นใหม่ ที่เคยฝากผลงานเพลงดังให้กับ YOUNG OHM และ MILLI มาแล้ว การันตีได้เลยว่างานนี้เข้มข้นลงตัวแน่นอน


"การกลับมาครั้งนี้ เราค่อนข้างหายจากการแร็พแบบ Underground ไปนาน อยากได้ฟิลสมัยก่อนที่ทำกันเองชิลชิล เลยได้ออกมาเป็นเพลงนี้ค่ะ บอกตรงๆ เลยว่าเพลงนี้ ไม่คาดหวังอะไรเลยค่ะ แค่อยากปล่อยเพลงในการเป็นตัวของตัวเองและได้ทำงานร่วมกับศิลปินที่ตัวเองชอบ จริงๆ ตอนแรกกะว่าทำเดี่ยว แต่เราอยากได้คนมาแจมเพื่อเพิ่มสีสันให้กับเพลง ก็เลยเป็น "SUNNYBONE" กับ "KHUN OC" ค่ะ อย่าง "SUNNYBONE" เพราะชอบการแร็พและติดตามพี่เค้ามานานแล้วที่สำคัญบ้านเกิดบ้านเดียวกันด้วย ส่วน "KHUN OC" เป็นเพื่อนที่มหา'ลัยเลยอยากเอามาแจมเพิ่มสีสันให้กับเพลงค่ะ"
#2845



เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส 3 บิ๊กสโมสรยุโรปยืนยันจะเดินหน้าจัดแข่งขันศึกฟุตบอลยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ต่อไปหลังศาลแห่งกรุงมาดริดระบุว่าไม่มีความผิด

สำหรับฟุตบอลยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ถูกก่อตั้งโดย 12 ทีมชั้นนำของยุโรปที่ต้องการให้มีลีกฟุตบอลใหม่เกิดขึ้น ทว่ากลับถูกกระแสต่อต้านอย่างหนัก ส่งผลให้ 9 จาก 12 ทีมประกอบด้วย เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน, แอตเลติโก มาดริด, อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ถอนตัวออกไป

การถอนตัวที่เกิดขึ้นส่งผลให้โปรเจกต์นี้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเหลือเพียง 3 ทีมคือ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส นอกจากนั้นสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ยังส่อลงโทษสถานหนักกับทั้ง 3 สโมสรดังกล่าว

ถึงกระนั้นทั้ง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส ไม่ยอมแพ้ และได้ยื่นเรื่องไปที่ศาลในกรุงมาดริดเพื่อให้ปกป้องพวกเขาจากการลงโทษของ ยูฟ่า เนื่องจากมองว่าไม่เป็นธรรม

กระทั่งล่าสุด ศาลแห่งกรุงมาดริด ประกาศผลการตัดสินออกมาแล้วว่า ยูฟ่าไม่สามารถลงโทษทั้ง 3 สโมสรจากเรื่องดังกล่าวได้ และต้องยกเลิกบทลงโทษทั้งหมดที่ออกมา

หลังจากนั้น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส ได้แถลงการณ์ร่วมกันโดยยืนยันว่าจะดำเนินแผนงานของฟุตบอลยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ต่อไป "เรามีความยินดีที่ก้าวไปข้างหน้า เราจะไม่อยู่ภายใต้การคุกคามอย่างต่อเนื่องของ ยูฟ่า อีกต่อไป"
#2846
111-Lotto 111  ตัวแทนจำหน่าย ล็อตเตอรี่ออนไลน์ รายใหญ่ของ มังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์  ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อล็อตเตอรี่แบบใหม่  ยุค new normal




ไม่ต้องไปหน้าแผง ไม่ต้องเสียเวลาก้มหาเลข ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะมีเลขที่อยากได้มั้ย แค่แอดไลน์ หาเรา บอกเลขที่ต้องการ เลขเด็ด เลขดัง แจ้งโอนเงิน จะได้รับ SMS ยืนยัน




ถ้าถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินได้จริง ได้รับเงินจริงไม่เกิน 24 ชม โดยปกติใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงหลังผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกเท่านั้น 

ขั้นตอนการซื้อ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ กับเรานั้น ง่ายๆ มาก มี 2 แบบให้เลือกแล้วแต่สะดวก

1. แอดไลน์ @111-lotto หรือคลิกทีนี่ เพื่อ คุยกับแอดมินโดยตรงและทำการสั่งซื้อและโอนเงินผ่านไลน์ มีเจ้าหน้าที่แนะนำทุกขั้นตอน 

111-lotto รีบแอดไลน์เพื่อเลือกเลขรางวัลก่อนใคร

Add Line : @111-lotto





2. สั่งซื้อผ่านระบบ 111-lotto ล็อตเตอรี่ของของมังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์ ด้วยตัวเอง จะทำที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ Add Line : @111-lotto


 


 
#2847



งานนี้เกิดดราม่าแบบงงๆ สำหรับนักร้องสาวเสียงดีสุดแซ่บ หวาย ปัญธิษา หลังออกมาโพสต์ภาพเก่าซึ่งเป็นภาพโปรโมตจากโปรเจกต์ 2021 ราตรี กับการรวมตัวของ 5 สาวสุดปังแห่งยุคในอินสตาแกรมส่วนตัว

ทั้งนี้ภาพดังกล่าวมี หวาย ปัญธิษา, มิลลิ และ แก้ม วิชญาณี ร่วมเฟรมด้วย แต่งานนี้กลับเกิดดราม่าขึ้นเมื่อแฟนคลับของสาวแก้มเข้าไปคอมเมนต์ถล่มอินสตาแกรมของสาวหวาย หลังมองว่าภาพที่ 2 ของโพสต์นั้นมีการครอปสาวแก้มออกเหลือเพียง หวาย และ มิลลิ จนมองว่าสาวหวายไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน เชื่อมโยงไปถึงประเด็นข่าวการเมือง โดย หวาย และ มิลลิ นั้นออกมา Call Out ทำเอาสาวหวายต้องรีบเข้าไปเคลียร์ถามคอมเมนต์ดังกล่าวว่าตัวเองทำอะไรผิด

ล่าสุด สาวหวาย ได้ออกมาชี้แจงผ่านทวิตเตอร์เป็นคลิปที่เผยให้ดูชัด ๆ ว่าไม่มีการครอปรูปสาวแก้มออก แต่เป็นรูปที่คุณแม่ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวถ่ายเก็บไว้ให้และซูมถ่ายไว้แค่ 2 คนเท่านั้น และบอกว่า "สติค่ะ "เป็นแบบนี้นี่เอง" คือแบบไหนคะ ถ้าจะครอปจริงก็คงลงแค่รูปคู่ค่ะ ไม่ใช่คนที่จะมาเก็บ feelings ได้หรือ fake ได้ค่ะ"

เรียกว่างานนี้ทำเอาแฟนคลับของสาวหวายและชาวเน็ตอีกด้านต่างออกมาวิจารณ์กันสนั่นว่าแฟนคลับของสาวแก้มควรออกมาขอโทษที่เข้าไปคอมเมนต์ตำหนิสาวหวายโดยไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร

ด้านสาวหวายได้ออกมากล่าวอีกว่า..."รอคำขอโทษอยู่นะคะ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่า ร้อน ตัว ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ"
#2848



จากการบรรยายพิเศษ Chula Pharma Talk เรื่อง "ประเด็นสำคัญในการเก็บและการเตรียมวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ของ Pfizer-BioNTech" ซึ่งคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ผศ.ภก.ดร.ปดินทร์ ติวสุวรรณ และ ผศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยว่า วัคซีนโควิดชนิด mRNA ของ Pfizer-BioNTech ที่สหรัฐอเมริกาจะบริจาคให้ประเทศไทยและจะส่งมอบสู่กลุ่มเป้าหมายคือบุคลากรการแพทย์ด่านหน้าเพื่อพร้อมฉีดในต้นเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อให้วัคซีนคงประสิทธิภาพจนได้รับการฉีดเข้าสู่ผู้รับวัคซีน มีข้อควรระวังทั้งในด้านการขนส่ง การเก็บรักษา ตลอดจนรายละเอียดในการเตรียมวัคซีน ผู้รับผิดชอบในกระบวนการจัดการเกี่ยวกับวัคซีนต้องเตรียมการอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอุณหภูมิและการควบคุมห่วงโซ่ความเย็น เนื่องจากวัคซีนชนิด mRNA ต้องควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่งที่ต่ำถึง -70 องศาเซลเซียส และมีความคงตัวที่อุณหภูมิต่างๆ ที่แตกต่างกัน เช่น เมื่ออยู่ที่ -70 องศาเซลเซียส สามารถเก็บไว้ได้จนถึงวันหมดอายุหรือประมาณ 6 เดือนหลังจากผลิต หากสถานพยาบาลที่รับวัคซีนมาไม่มีแหล่งที่สามารถเก็บวัคซีนไว้ได้ในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส วัคซีนที่ได้รับจัดสรรมาจะสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสได้เพียง 31 วัน หรือ 1 เดือนนับจากวันที่เริ่มเก็บ และเมื่อวัคซีนถูกนำออกมาจากตู้เย็นและถูกเตรียมโดยการละลายและผสมเพื่อพร้อมจะฉีดแก่ผู้รับวัคซีนแล้ว ความคงตัวหลังผสมยาเสร็จจะเหลือเพียง 6 ชั่วโมงที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ดังนั้นในการบริหารจัดการต้องมีการวางแผนการดำเนินการที่รัดกุมเพื่อให้ผู้รับบริการรับวัคซีนได้ทันเวลา ลดโอกาสสูญเสียยาที่เตรียมแล้วอาจหมดอายุก่อนฉีด รวมถึงหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและแสง UV โดยตรงในระหว่างการเก็บรักษา แต่สามารถเตรียมผสมวัคซีนที่ละลายจากการแช่แข็งแล้วในห้องที่มีแสงสว่างได้

ในการบรรยายพิเศษครั้งนี้ ผศ.ภก.ดร.ปดินทร์ และ ผศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดายังได้กล่าวถึงการเตรียมผสม เทคนิค รวมถึงอุปกรณ์ในการบริหารวัคซีนชนิด mRNA ที่แตกต่างจากวัคซีนโควิดชนิดอื่นที่เคยใช้ ผู้เตรียมและผู้บริหารยาต้องทราบและเพิ่มความระมัดระวังในการเตรียมวัคซีน เช่น ห้ามเขย่าวัคซีนโดยเด็ดขาด มีคำแนะนำให้ใช้เข็มดูดวัคซีนเป็นอันเดียวกันกับเข็มฉีดให้ผู้รับวัคซีนเพื่อลดการสูญเสียยาจากการเปลี่ยนเข็ม ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการตั้งแต่การรับยา เก็บรักษา เตรียมผสม และฉีดยาจึงควรเตรียมการอย่างรัดกุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมอุณหภูมิในแต่ละขั้นตอนอย่างดี เพื่อให้วัคซีนคงประสิทธิภาพสูงสุด
#2849
ไอดินไทย เครื่องประดับดินปั้น ด้วยแรงบันดาลใจทำเครื่องประดับดินปั้นมาจากความชื่นชอบที่มีต่อละครมนต์รักลูกทุ่งและก็แฟชั่นการแต่งกายยุคนั้น





ทำให้ท่านพัชร์ชิสา ไชยวีรวัฒน์ เกิดแนวคิดสำหรับการทำเครื่องประดับร่วมกับการศึกษาปั้นดินไทยของชุมชนระแหง จังหวัดตาก จนกระทั่งกลายมาเป็นเครื่องประดับดินปั้นที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากยิ่งกว่า 10 ปี





ซึ่งตัววัสดุนั้นเป็นดินไทยที่ผสมกับดินท้องถิ่นของจังหวัดตาก มีความสวยงามผสมความเป็นไทย สีสันสดใส ความเป็นธรรมชาติและนอกเหนือจากนั้นทุกผลิตภัณฑ์มีรอยนิ้วมือจากการปั้น โดยไม่ใช้เครื่องจักร บ่งบอกถึงงานฝีมืออย่างแท้จริง



 
 
#2850

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ ขนมเปี๊ยะขั้นเทพ โพสต์คลิปวิดีโอของ ป๋าเทพ หรือ เทพ โพธิ์งาม บางช่วงกล่าวถึง กระแสการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล รวมถึงการออกมาประท้วงขับไล่รัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื้อหาในบางช่วง ป๋าเทพ กล่าวว่า

"ผู้ใหญ่บางคนที่แก่ๆ กันแล้ว ก็ควรแนะนำเด็กๆ ไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง เด็กๆ บางคนสร้างประโยชน์ สร้างความดี สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ แต่บางคนกลับทำลายประเทศ หยุดกันสักทีเถอะ ตอนนี้รักษาเอาไว้ สักวันก็ต้องตาย อย่ามาคุยเก่ง ใครคิดทำให้ชาติไขว้เขวไปไม่รอด ทำให้คนส่วนใหญ่ลำบาก แล้วมาสร้างปัญหา ต้องเห็นใจคนทำงาน ผู้นำต้องแข็งแกร่ง มองไปข้างหน้า เค้าว่าอะไรก็อย่าไปสวน"

"พวก-ึงทำอะไรกันมีความคิดบ้าง พูดเก่ง พูดกันเก๊งเก่ง แต่ทำอะไรให้ประเทศบ้าง ไม่เคยเห็นประเทศไทยมีแบบนี้เกิดขึ้น เกิดมา 71 ปีแล้ว ไม่เคยเห็นใครมาด่าทอ"

"คนรุ่นใหม่ หน้าตาหล่อๆ ดีๆ ความคิดยิ่งกว่าคนรุ่นเก่า มาพูดมาด่าคนทำงานอยู่นั่นแหละ มาช่วยกันสิ มาช่วยหมอสิ มาช่วยคนทำงานดีกว่า จะเบื่อใครก็แล้วแต่ จะเกลียดหรือชอบก็อยู่ได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวมันก็เป็นไปตามกรรม ตอนนี้อึดอัดมากแล้ว มาช่วยกันออกความคิดกันดีกว่า ไม่ใช่มาด่าทอกัน -ูว่า-ูโง่แล้ว แต่เห็นคนโง่กว่า-ูอีก ไม่น่าเชื่อ"


"มาเถียงกันต้องเอาความจริง พวกผู้ใหญ่ ที่เป็นดอกเตอร์กันเนี่ย แก่มาแล้วหัวล้านแล้ว หัวหงอกแล้ว เป็นอาจารย์คนแล้วมาสอนให้คนแตกแยกกันเนี่ย อยุธยาแตกก็เพราะพวก-ึงนี่แหละ เป็นก๊กเป็นเหล่า มันต้องร่วมใจกันสิ"

"การที่-ึงพูดออกไป พวก-ึงรู้รึเปล่าว่ามันแรงสะเทือนไปถึงขนาดไหน มันทำบ้านเมืองวุ่นวายทำไมช่วงนี้ คิดบ้างว่าวิกฤติขนาดนี้-ึงต้องรวมใจกันแล้วไอ้ค-ย รวมใจกันสิไอ้-ัส มาเกลียดชังกันอะไร เค้ารักษากันมาขนาดนี้แล้ว -ูว่าระบบเมืองไทยเนี่ยดีที่สุดในโลกแล้วไอ้ค-ย -ึงจำไว้"

"เห็นไหมว่าตั้งแต่ยุคไหนมา เคยมีเรื่องปัญหาอะไรมากมายเหมือนประเทศอื่นเค้าไหม คิดซะบ้างอย่าคิดแต่ชีวิตพวก -ึงมองชีวิตข้างๆ บ้าง ต้องขออภัยที่ต้องพูดไอ้-ัส ไอ้เ-ี้ยบ้าง แต่เพราะมันอัดอั้น แต่ปล่อยไปก็จะเลอะเทอะกันใหญ่"

"พูดให้มีสาระจะไม่ว่า แต่บอกแต่จะให้ออกไป ออกไป พูดเหมือนคนปัญญาอ่อน พูดแล้วไม่คิดบ้างว่าจะเป็นยังไงต่อ จะเอาคนที่ไม่ดีเข้ามาอีกหรือ เด็กรุ่นหลังคิดแบบนี้แล้วประเทศจะอยู่ได้อย่างไร จะฝากความหวังไว้ได้อย่างไร ต้องมีเหตุผล"

"ผู้นำไม่ต้องไปสนใจ เราทำงานให้ประเทศเดินไปได้ ไอ้คนนั้นอ่ะ ดีที่สุดที่ตั้งแต่เห็นมา ผู้นำประเทศคนนี้พอได้นะ เรื่องการปกครองคน ต้องให้เป็น ไม่ใช่เอาใครก็ได้มาปกครอง ในสภาดูที่พูดกันซิ พูดอะไรกัน เป็น ส.ส.มาได้อย่างไร จะมาดูแลบ้านเมือง พี่น้องคนไทย แบบนี้ได้หรือ คนไหนไม่ดีคนไหนดี -ูดูออก ถึงจบ ป.4 แต่ก็วิเคราะห์ได้เพราะ-ูติดตามไง"

"จะเชียร์ใครจะทำอะไรดูเหตุผลด้วย ไม่ใช่เอาแต่มันอย่างเดียว บ้านเมืองนะ ไม่ใช่บ้านของ-ึง เป็นบ้านคนอื่นด้วย บ้านของคน 70 ล้านคน จะมาแสดงความเห็นคนเดียวหรือ ต้องเห็นความเป็นส่วนมากเข้าไว้ นี่คือมนุษย์ไม่ใช่จิงโจ้"

หลังคลิปนี้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น
#2851



นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" ของภาครัฐที่เริ่มต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการนำร่องดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกลับมาที่เกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสวยงามติดอันดับโลก ซึ่งนอกจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยวแล้ว ยังจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในภาคอื่นๆ ในพื้นที่กลับมาฟื้นตัวได้เช่นกัน โดยพฤกษาได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาแล้วหลายโครงการ เพื่อสนองนโยบายของภล่าสุดจัดแคมเปญ "ลด! ช็อคทั้งเกาะ น็อคทุกค่าย"สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านพร้อมอยู่ ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้าน รับลดสูงสุดถึง 700,000 บาท พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น อยู่ฟรีสูงสุด 36 เดือน, ฟรี!ทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอนฯ และฟรีบริการ Internet AIS Fibre 1 ปี

สำหรับโครงการพฤกษาวิลล์พร้อมเข้าอยู่ 2 ทำเล ได้แก่ โครงการพฤกษาวิลล์ ถลาง-เทพกระษัตรี ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน สไตล์ Contemporary Modern สเปคเทียบเท่าบ้านเดี่ยว สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งาน Flexi – Multi Space ได้อย่างอิสระ โดดเด่นด้วยทำเลติดเมืองถลาง ห่างจากถนนเทพกระษัตรี เพียง 900 เมตร ใกล้สนามบิน โลตัส, แม็คโคร, โฮมโปร ถลาง เพียง 15 นาที อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยเข้า-ออกโครงการ ด้วยระบบ Auto Access Card และระบบประตูล็อก 2 ชั้น Check Point สะดวก ปลอดภัย ด้วยระบบ Card Scan กล้องวงจรปิด CCTV ที่ทางเข้าหลัก พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่

โครงการพฤกษาวิลล์ เจ้าฟ้า-เทพอนุสรณ์ ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์บาหลี รองรับการใช้ชีวิตของครอบครัวด้วยแบบบ้านใหม่ 4 ห้องนอน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมถึงสวนส่วนกลางที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ระบบรักษาความปลอดภัยแบบประตูระบบล็อก 2 ชั้น CCTV ตลอดทางเข้าหลักของโครงการ พร้อมจุด Check Point ด้วยเครื่องสแกน และ Security Guard ตลอด 24 ชั่วโมง เดินทางสะดวกเข้าสู่ตัวอำเภอเมืองภูเก็ตเพียง 10 นาที ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอ่าวฉลอง หาดราไวย์ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง อาทิ คิงพาวเวอร์, เซ็นทรัลเฟสติวัล, อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์
#2852



"ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2564 นอกจากจะเป็นพื้นที่เปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วมีการเปิดพื้นที่สำหรับการเจรจาธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาไม่ต้องกักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐหรือสถานที่กักตัวทางเลือก

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ได้รับนักท่องเที่ยงต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยนอกเหนือจากนักท่องเที่ยวแล้วทำให้จังหวัดภูเก็ต ได้กลายเป็นช่องทางเข้าประเทศใหม่ของไทยที่ทำให้มีนักธุรกิจหลายชาติที่ต้องการเข้ามาเจรจาธุรกิจ ซึ่งได้ใช้ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" เป็นสถานที่นัดพบเพื่อเจรจาด้านธุรกิจสร้างพันธมิตรทางการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ การเซ็นสัญญาโครงการลงทุน

สำหรับรูปแบบการใช้ภูเก็ตเป็นเวทีการเจรจาธุรกิจมี 3 ระดับ คือ 

1.บริษัทแม่ในต่างประเทศมาติดตามงานบริษัทลูกในประเทศไทย 

2.บริษัทไทยและบริษัทต่างชาติเจรจาธุรกิจกัน 

3.บริษัทไทยและบริษัทต่างชาติมาลงนามสัญญาธุรกิจ

ทั้งนี้ มีบริษัทที่ใช้ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" เป็นพื้นที่ลงนามธุรกิจแล้ว คือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ลงนามซื้อหุ้นของบริษัท Allnex Holding Germany II GmbH วงเงิน148,417 ล้านบาท เมื่อวันที่วันที่ 10 ก.ค.2564 โดยมีผู้บริษัทระดับสูงของทั้ง 2 บริษัท เดินทางมาที่ภูเก็ตเพื่อลงนามด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเป็นการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดโดยบริษัทไทยในรอบเกือบทศวรรษ

"การลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นครั้งนี้เกิดขึ้นที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายนำร่องเปิดประเทศของรัฐบาล และเพิ่มรายได้ให้กับคนในพื้นที่ โดยจีซีได้ศึกษาแผนการลงทุนครั้งนี้มาร่วมปี และทั้ง 2 ฝ่าย ตื่นเต้นที่จะมีร่วมมือกัน" นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC กล่าว

ส่วนประเด็นที่สหภาพยุโรป (EU) ประกาศประเทศไทยออกจากประเทศที่ปลอดภัยจากโควิด-19 ห้ามเดินทางไปยังประเทศดังกล่าว นายสนั่น กล่าวว่า มีผลต่อการเปิดประเทศของไทยอย่างแน่นอนทั้งเรื่องของภูเก็ตแซนด์บ็อก หรือโครงการเปิดพื้นที่ที่จะตามมา ซึ่งสิ่งที่ประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการ คือ การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนและแรงงาน 

โดยเฉพาะภาคการผลิตที่ได้รับการฉีดวัคซีนน้อยมาก แต่ละโรงงานได้ติดต่อมาที่หอการค้าไทยเพื่อขอวัคซีน แต่ได้ชี้แจงว่าไม่มีวัคซีนจะจัดให้ โดยเฉพาะโรงงานใน จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการภาคการผลิตและการส่งออกของไทยโดยโรงงานเหล่านี้ควรฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ขึ้นไป รวมทั้งการตรวจแบบแร็บบิทเทสต์ในโรงงานเพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อออก


สำหรับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ได้เปิดประเทศไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ตรงกับวันที่ครบรอบภารกิจ 99 วันแรกในการทำงานของคณะกรรมการหอการค้าไทยชุดนี้ ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วนในการสนับสนุนภารกิจต่าง ๆ และนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล ซึ่งบทเรียนของการเปิดภูเก็ต นั้น หอการค้าไทยเห็นด้วยที่จะมีการนำไปขยายผลการทดลองเปิดนี้ไปยังพื้นที่อื่นของประเทศให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องการจัด COE (Certificate of Entry) และขอเสนอให้นำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น Digital Vaccine Passport ที่ได้มาตรฐานและนานาชาติยอมรับเพราะไม่สามารถปลอมแปลง และตรวจสอบความถูกต้องได้

ในขณะที่ สำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานว่ามีกลุ่มนักธุรกิจเข้ามาใช้ภูเก็ตเป็นฐานในการประชุมเจรจาธุรกิจมากขึ้นภายหลังจากเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้เพียงสัปดาห์แรก โดยมีกลุ่มนักธุรกิจจากยุโรปและสหรัฐรวมถึงนักธุรกิจไทย เดินทางมาเจรจาธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตในภูเก็ตและจะมีตามมาอีกหลายรายรวมไปถึงผู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เท่าที่มีข้อมูลในขณะนี้ก็มีเพียงปตท.ที่ลงนามเซ็นสัญญา ซึ่งก็อาศัยโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพราะเข้ามาแล้วไม่ต้องกักตัว 14 วัน เมื่อเซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางกลับได้ทันที ซึ่งเป็นทางออกของการดำเนินธุรกิจ เพราะการเซ็นสัญญาหรือการลงนาม ก็ต้องมีการตรวจเอกสารต่างๆเพื่อให้เกิดชัดเจนและสมบูรณ์ ส่วนจะมีธุรกิจอื่นอีกหรือไม่ทางหอการค้าจังหวัดยังไม่มีข้อมูลแต่จะประสานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้จัดทำแบบสอบถามสำหรับผู้ที่เข้ามาในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกว่า มาเพื่ออะไร เช่น ท่องเที่ยว พักผ่อนพร้อมครอบครัว เจรจาธุรกิจ เซ็นสัญญาทางธุรกิจ เป็นต้น

ขณะนี้ต่างชาติที่เข้ามาภูเก็ต อันดับ 1 เป็นสหรัฐ รองลงมาเป็นอังกฤษ อิสราเอล เยอรมันและฝรั่งเศส โดยส่วนใหญ่ก็จะมาพักผ่อน พบครอบครัว ดูแลธุรกิจของตนเองที่ลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ โดย 9,000 คน เป็นคนไทย 2,000 คน ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ ส่วนท่องเที่ยวยังน้อยประมาณ 30% เพราะไม่ได้เป็นช่วงไฮซีซั่น

"โมเดลเจรจาธุรกิจผ่านภูเก็ตแซนด์บ็อก เป็นเรื่องที่หอการค้าจังหวัดภูเก็ตพร้อมที่จะสนับสนุน คาดว่าน่าจะมีมาเรื่อยๆ ซึ่งหอการค้าจังหวัดภูเก็ตจะประสานข้อมูลจาก ททท.เพิ่มเติม"

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2564 มีการติดตามความคืบหน้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยมีนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1–21 ก.ค.2564 รวม 9,358 คน และมียอดการจองห้องพักตามมาตรฐาน SHA+ สะสมในเดือน ก.ค.-ก.ย.2564 อยู่ที่ 244,703 คืน และมีอัตราเข้าพัก 10.12% สร้างรายได้ 534.31 ล้านบาท
#2853




เมื่อเร็วๆนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) ครั้งที่ 1/2564 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ

     สาระสำคัญประกอบด้วยการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 10 แห่งได้แก่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก สงขลา สระแก้ว ตราด หนองคาย นครพนม มุกดาหาร เชียงราย กาญจนบุรี และนราธิวาส 

โดยกำหนดกรอบการพัฒนา ได้แก่ ประกอบด้วยการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ สิทธิประโยชน์โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณา เช่น ต้องเชื่อมโยงการพัฒนาตั้งแต่ 3 จังหวัดขึ้นไป พื้นที่มีศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนา และเครือข่ายกิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถเชื่อมโยงในลักษณะของห่วงโซ่มูลค่า 

เขตเศรษฐกิจพิเศษกำลังเป็นอีกเครื่องมือดึงดูดการลงทุนเพื่อเป็นกลไกพื้นเศรษฐกิจหลังโควิด ซึ่งนอกตากเขตพัฒนาพิเศษภาคตะว้ันออก(อีอีซี) แล้วจากนี้จะมีเขตศก.พิเศษกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศด้วย 
#2854



อัพเดทข่าว "เยียวยาประกันสังคม" ล่าสุด นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวน 15,027.686 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,522.99 ล้านบาท จากเดิม 13,504.696 ล้านบาท

โดยเพิ่มจากเดิม 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด ซึ่งพื้นที่ 3 จังหวัดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา พร้อมมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมเร่งประมาณการจำนวนนายจ้างและผู้ประกันนมาตรา 33 กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะขี้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ด้วย


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า กรอบวงเงิน 15,027.686 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินช่วยเหลือให้แก่นายจ้างในระบบประกันสังคมใน 9 ประเภทกิจการ ใน 13 จังหวัดกลุ่มเป้าหมาย 7,238.631 ล้านบาท

และเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทยที่เป็นลูกจ้างในกิจการของนายจ้างตามคุณสมบัติ จำนวน 7,789.055 ล้านบาท ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ยังจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้


ผู้ประกันตน ม.33 ที่ว่างงานจากโควิด จะได้เงินชดเชย 50% ของค่าจ้าง
แจ้งข้อมูลสำหรับผู้ประกันตน ม.33 ที่ว่างงานจากสถานการณ์โรคโควิด–19 ขณะนี้สามารถขอรับสิทธิว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยฯ ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติต่อ พ.ศ. 2563 ได้ โดยจะได้รับเงินชดเชย 50% ของค่าจ้างรายวัน สูงสุด 90 วัน ซี่งผู้ประกันตนจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.ส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ใน 15 เดือนย้อนหลังก่อนวันที่ว่างงาน
2.ไม่ได้ทำงานเนื่องจากนายจ้างหยุดประกอบกิจการตามคำสั่งของทางราชการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผู้ประกันตนไม่ได้รับค่าจ้างระหว่างนั้น
โดยนายจ้างจะต้องแจ้งขอรับสิทธิให้แก่ผู้ประกันตนผ่านระบบ e-service และส่งเอกสาร สปส.2-01/7 พร้อมสำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน ไปที่ สนง.ประกันสังคมในพื้นที่ภายใน 3 วันทำการ นับจากวันที่บันทึกข้อมูลในระบบ e-service โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่ สนง.ประกันสังคม
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันสังคม 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
#2855



บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ขออภัยผู้ใช้บริการกรณีสิ่งของฝากส่งอาจล่าช้า เนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบให้ต้องปิดที่ทำการฯบางแห่งชั่วคราว พร้อมย้ำ ไปรษณีย์ไทยจะแจ้งข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และไม่ปิดบังข้อมูลกรณีพบเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ และได้มีมาตรการในการบริหารจัดการสิ่งของฝากส่งมิให้ตกค้าง พร้อมกับเข้มงวดมาตรการด้านสุขอนามัยในการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวถึงการระบาดของ เชื้อ COVID-19 ที่ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยติดเชื้อ และไปรษณีย์บางแห่งต้องปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อนั้น กรณีดังกล่าวได้มีเจ้าหน้าที่บางส่วนต้องทำการรักษาและกักตัวชั่วคราว แต่ไปรษณีย์ไทยซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ให้บริการด้านขนส่งและการสื่อสารภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังคงต้องให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่องแม้ในภาวะวิกฤต จึงอาจมีการจัดส่งสิ่งของล่าช้าในบางพื้นที่

โดยปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีปริมาณไปรษณียภัณฑ์และพัสดุด่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 8 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งจากการระบาดของ COVID-19 ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญในการไม่ให้งานตกค้าง โดยได้มีการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยง และแนวทางดำเนินงานรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ดังนี้

1. แบ่งเจ้าหน้าที่นำจ่ายออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกำหนดให้ทำงานเหลื่อมเวลากัน

2. นำเจ้าหน้าที่จากไปรษณีย์ที่อยู่ใกล้เคียงมาปฏิบัติหน้าที่ในการนำจ่ายแทนเจ้าหน้าที่ของไปรษณีย์ที่ต้องปิดให้บริการชั่วคราว

3. ปรับเปลี่ยนเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ศูนย์ไปรษณีย์ที่ใช้ในการคัดแยกปลายทางซึ่งเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดพื้นที่ปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัย ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

4. กำชับให้เว้นระยะห่างเพื่อลดความเสี่ยง แยกกันรับประทานอาหาร ห้ามสูบบุหรี่ร่วมกัน และห้ามจับกลุ่มคุยกันอย่างใกล้ชิด

5. ไปรษณีย์ที่มีพื้นที่ปฏิบัติงานหลายจุดให้กำหนดเป็นพื้นที่ปฎิบัติงานสำรอง ในกรณีที่จุดใดจุดหนึ่งต้องปิด

6. ปรับสถานที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นำจ่ายให้มีระยะห่างกันเพิ่มมากขึ้น

"นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย จะไม่ปกปิดข้อมูลหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อและจะรายงานให้ผู้ใช้บริการทุกท่านทราบผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของไปรษณีย์ไทยอย่างตรงไปตรงมา แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันอาจส่งผลกระทบให้การนำจ่ายสิ่งของในช่วงนี้อาจล่าช้าบางพื้นที่ จึงต้องขออภัยผู้ใช้บริการมา ณ ที่นี้"

อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด คือ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งต้องคัดกรองผู้ใช้บริการก่อนเข้าที่ทำการอย่างเคร่งครัด ให้บริการเจลล้างมือแอลกอฮอล์ตั้งแต่เข้าที่ทำการ ระหว่างใช้บริการ และหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมจัดระยะห่างทั้งเคาน์เตอร์ให้บริการ เก้าอี้พักรอใช้บริการ และทำความสะอาดจุดสัมผัสในที่ทำการ เช่น จุดกดบัตรคิว มือจับประตู เคาน์เตอร์ให้บริการทุกๆ 20 นาที

ด้านเจ้าหน้าที่ให้บริการของไปรษณีย์ไทยเองก็มีการคัดกรองก่อนปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด โดยจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และงดการพูดคุยระหว่างให้บริการ และเจ้าหน้าที่นำจ่ายต้องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนปฏิบัติงานทุกครั้ง และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ระหว่างนำจ่ายสิ่งของให้ลูกค้าทุกครั้ง ศูนย์ไปรษณีย์มีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบนพัสดุทุกชิ้น สำหรับผู้ใช้บริการที่ไม่ต้องการลงนามรับสิ่งของ สามารถแจ้งให้บุรุษไปรษณีย์บันทึกชื่อ-นามสกุล แทนการลงนามได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัส
#2856




พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านระบบ   Video Conference ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยวาระการประชุมที่น่าสนใจในวันนี้ 27 ก.ค. กระทรวงศึกษาธิการ จะเสนอ 4 มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ปกครอง นักเรียน ให้คณะรัฐมนตรีพิจาณา

มาตรการที่ 1 การให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ทั้งสายสามัญศึกษาและสายอาชีพ ในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน รวมประมาณ 10.8 ล้านคน ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน รวมเป็นเงินประมาณ 21,600 ล้านบาท โดยใช้ฐานข้อมูลเรียนฟรี 15 ปี

มาตรการที่ 2 เป็นการขอความร่วมมือจากโรงเรียนเอกชน ให้ลด หรือตรึงค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ปกครอง ในโรงเรียนเอกชนกลุ่มที่ไม่รับการอุดหนุนจากรัฐ และกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ ให้เท่ากับปีการศึกษา 2563 เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในโรงเรียนเอกชน ทั้ง 2 กลุ่ม เพื่อพิจารณาสั่งการเป็นรายกรณี อย่างไรก็ตามหลังจาก ศธ.ได้ออกประกาศแนวปฏิบัติการเก็บเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่น ปีการศึกษา 2564

มาตรการที่ 3 เป็นการลดช่องว่างการเรียนรู้ (Learning Gaps) และลดผลกระทบด้านความรู้ ที่ขาดหายไป (Learning Loss) โดยให้สถานศึกษาสามารถถัวจ่ายเงินที่ได้รับจัดสรรตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ใน 5 รายการ ได้แก่ ค่าเล่าเรียน หนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อใช้จัดการเรียนรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดในปีการศึกษา 2564 ได้ และจัดสรรค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้สถานศึกษาอีกส่วนหนึ่ง เพื่อใช้จัดการเรียนรู้และแก้ปัญหาความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของสถานศึกษา และจัดทําสื่ออุปกรณ์การเรียนรู้หลากหลายที่เหมาะสมกับวัย ลดการเรียนรู้จากสื่อออนไลน์โดยเฉพาะกลุ่มผู้เรียน อนุบาล-ป.3 ขณะเดียวกัน ศธ.จะจัดเช่าอุปกรณ์ (Devices) พร้อมสัญญาน จํานวน 200,000 ชุด สําหรับให้นักเรียน/นักศึกษา กลุ่ม ป.4 – ม.6 และ อาชีวศึกษา ใช้ยืมเรียน รองรับการเรียนแบบออนไลน์


มาตรการที่ 4 เป็นการช่วยเหลือผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงาน โดยจะมีการจัดฝึกอบรมด้านอาชีพสําหรับผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นการอบรมฟรีรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน พร้อมทั้งประสานเชื่อมโยงกับแหล่งทุนเพื่อจัดหาทุนเริ่มต้นประกอบอาชีพ

พร้อมกับคาดการณ์ว่า กระทรวงการคลัง จะเสนอแผนกู้เงิน 200,000 ล้านบาท หลังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อปรับแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2564 ครั้งที่ 2

โดยจะมีการขยายกรอบก่อหนี้ใหม่เพิ่มเติมอีก 100,000-200,000 ล้านบาท เป็นการทำแผนกู้เงินเพิ่มมารองรับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีการล็อกดาวน์ 13 จังหวัดในช่วงนี้ ซึ่งแผนกู้เพิ่ม 100,000-200,000 ล้านบาท ดังกล่าว อยู่ภายใต้กรอบ พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 500,000 ล้านบาท

ซึ่งจะต้องดำเนินการกู้ภายในสิ้นเดือน กันยายนนี้ เนื่องจากขณะนี้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ใช้วงเงินหมดแล้ว
#2857


จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ยายได้สั่งของผ่านแอพพลิเคชั่นสั่งอาหารชื่อดัง และโอนเงินผิด เมื่อติดต่อขอคืนไรเดอร์ระบุว่าใช้เงินไปหมดแล้ว และติดต่อไม่ได้

ล่าสุด แกร็บได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า จากกรณีที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่สั่งอาหารผ่าน GrabFood ซึ่งได้โอนเงินค่าบริการเกินจำนวนไปให้พาร์ตเนอร์คนขับนั้น แกร็บ ประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงในข้อเท็จจริงประเด็นต่างๆ ดังนี้
• บริษัทฯ ได้รับทราบถึงกรณีดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 และไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าได้ทำการติดต่อผู้ใช้บริการในทันทีเพื่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือ
• ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พยายามติดต่อพาร์ตเนอร์คนขับซึ่งถูกอ้างถึงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าของกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยในระหว่างที่มีการตรวจสอบและติดตามผล บริษัทฯ ได้ทำการระงับสัญญาณการให้บริการของพาร์ตเนอร์คนขับรายดังกล่าวเป็นการชั่วคราว
• จากการติดตามและประสานงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด (วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.18 น.) พาร์ตเนอร์คนขับรายดังกล่าวได้ทำการโอนเงินส่วนเกินเพื่อคืนให้กับผู้ใช้บริการแล้ว โดยได้ส่งสลิปการโอนเงินผ่านทางธนาคารให้กับบริษัทฯ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยืน ซึ่งผู้ใช้บริการได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
• ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพิสูจน์ และระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือเข้าข่ายการก่ออาชญากรรม บริษัทฯ จะดำเนินการระงับสัญญาณการให้บริการกับพาร์ตเนอร์คนขับเป็นการถาวร ซึ่งถือเป็นมาตรการขั้นสูงสุด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่า แกร็บให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจโดยเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยได้ส่งเสริมให้พาร์ตเนอร์คนขับปฏิบัติตาม "จรรยาบรรณของพาร์ตเนอร์คนขับแกร็บ" ซึ่งครอบคลุมถึงประเด็นด้านการปฏิบัติตามกฏหมาย เพื่อรักษามาตรฐานที่ดีและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการทุกคน

ขอแสดงความนับถือ
แกร็บ ประเทศไทย
#2858



ธอส.เผยผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 106,231 ล้านบาท 69,705 บัญชี เพิ่มขึ้น 5.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 สินเชื่อคงค้างรวม1,375,663 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,441,928 ล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม ตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรับผลกระทบจาก COVID-19 จำนวน 104,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 176.13% พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 ล่าสุดมีลูกค้าได้รับความช่วยเหลือผ่านทั้ง 18 มาตรการของ ธอส. ตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบันเป็นจำนวนรวมสูงสุดมากกว่า 925,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 796,500 ล้านบาท

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ว่า แม้ประเทศไทยจะยังคงอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และรายได้ของประชาชน แต่ ธอส. ยังคงสามารถทำหน้าที่ตามพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง



โดยณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 106,231 ล้านบาท 69,705 บัญชี เพิ่มขึ้น 5.20% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นเกือบ 50% ของเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2564 ที่ 215,641 ล้านบาท สินเชื่อ 6 เดือนแรกที่ปล่อยไปเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท

สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางจำนวน 50,183 บัญชี ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,375,663 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.17% สินทรัพย์รวม 1,441,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.46% เงินฝากรวม 1,205,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 59,268 ล้านบาท คิดเป็น 4.31% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2563 ที่มี NPL อยู่ที่ 3.75% ของสินเชื่อรวม โดยมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ 104,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 176.13% เพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบจาก COVID-19 ในอนาคต โดยธนาคารยังคงมีกำไรสุทธิตามเป้าหมายตัวชี้วัดของธนาคารที่ 5,993 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ในระดับแข็งแกร่งที่ 15.63% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนด



ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ธนาคารยังคงปล่อยสินเชื่อใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง คือ มาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคาร และการจัดโปรโมชั่นของผู้ประกอบการ ช่วยให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มีบ้านเป็นของตนเองและครอบครัวได้ง่ายขึ้น โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อของ ธอส. ที่มีลูกค้าเลือกใช้บริการสูงสุด 3 ลำดับแรกคือ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.75% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสมสูงถึง 23,620 ล้านบาท รองลงมาคือสินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส. ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.60% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 11,998 ล้านบาท และโครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสม 11,215 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ธอส. ยังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ผ่านโครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ผ่าน 2 มาตรการเร่งด่วนล่าสุดที่บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ ลูกค้าทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการทั้งในและนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ มาตรการที่ 15 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ และมาตรการ 16 สำหรับลูกค้าที่มีสถานะ NPL หรืออยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ จะได้รับความช่วยเหลือโดยการพักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม-31 ตุลาคม 2564 เปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ล่าสุด ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น. มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 15 จำนวนเงินต้นคงเหลือ 48,880 ล้านบาท และมาตรการที่ 16 จำนวน 2,485 ล้านบาท ทำให้นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ธอส. สามารถช่วยเหลือลูกค้าผ่าน 18 มาตรการ รวมเป็นจำนวนสูงสุดมากกว่า 925,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 796,500 ล้านบาท

โดยมาตรการที่ 15 และ 16 ลูกค้าสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ส่วนลูกค้าที่ต้องการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อขอขยายระยะเวลาความช่วยเหลือตามมาตรการที่ 9,10,11 และ 11 New Entry : แบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ (ตัดต้น ตัดดอก) มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน และมาตรการที่ 14 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ย ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ลูกค้าสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-15.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) เช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2564

ทั้งนี้นอกจากความช่วยเหลือในมาตรการด้านการเงิน ธอส. ยังคงให้ความช่วยเหลือสังคมไทยสู้ภัยโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ด้วยงบประมาณสนับสนุนรวมกว่า 5,000,000 บาท ให้กับหลายหน่วยงานที่ทั้งสถานพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน เป็นต้น เพื่อนำไปดำเนินการในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็น อาทิ การจัดสร้างหอผู้ป่วยไอซียูความดันลบแบบห้องแยกที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยวิกฤตที่มีอาการรุนแรง การจัดซื้อเครื่องฮีโมเปอร์ฟิวชั่นใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 การจัดสร้างไอซียูสนาม การจัดหาเก้าอี้นั่งจุดพักคอย น้ำดื่มธนาคารกว่า 100,000 ขวด รวมถึงหน้ากากอนามัยพร้อมสายคล้อง ถุงยังชีพ และอาหารกล่อง สอดคล้องกับนโยบายการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของธนาคาร ด้วยความห่วงใยและตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

 
#2859


'วัคซีนโควิด 19' กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไทยกำลังประสบอยู่ และเกิดคำถาม ข้อเรียกร้องจากประชาชนมากมาย ให้รัฐบาล จัดหาจัดสรรวัคซีนที่มีคุณภาพฉีดให้ครอบคลุมประชาชนทุกคน

 จากการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (โควิด - 19) (ศบค.) ครั้งที่ 10/2564 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบถึงแนวทางการจัดสรรวัคซีน แผนการกระจายวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ระหว่างวันที่ 19 ก.ค.- 31ส.ค. 2564

13 ล้านโดสเร่งกระจายวัคซีนใน 3 กลุ่มจังหวัด 
โดยการพิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับผู้ที่ได้จองฉีดวัคซีนล่วงหน้า คือ กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มจังหวัด ประกอบด้วย

1.กลุ่มจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และจังหวัดควบคุมสูงสุดบางจังหวัด จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และชลบุรี

2.จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือมีความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภายหลังการระบาด และแผนเปิดการท่องเทียวระยะถัดไป จำนวน 18 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก หนองคาย สระแก้ว บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาเต่า) ตรัง พังงา และกระบี่

3.จังหวัดอื่น ๆ จำนวน 48 จังหวัด

เกณฑ์การจัดสรรวัคซีน 15 ก.ค.-31 ส.ค.2564
มีการพิจารณา ดังนี้

1.จำนวนประชากรที่นำมาคำนวณมาจากฐานข้อมูลประชากรจากทะเบียนบ้านและประชากรแฝง

2.เป้าหมายฉีดให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรจากทะเบียนบ้านและประชากรแฝงทุกกลุ่มอายุในแต่ละจังหวัด ทั้งผู้มีสัญชาติไทยและ ไม่มีสัญชาติไทย

3.เป้าหมายให้บริการวัคซีน 13,000,000 โดส (จำนวนวัคซีนที่จัดสรรจริงอาจปรับเปลี่ยนตามปริมาณวัคซีนที่ประเทศไทยจัดหาได้)

4.ประเภทการจัดสรรเป็นไปตามมติศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19  เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2564 แบ่งเป็น 3 กลุ่มจังหวัดตามที่เสนอ โดยเกณฑ์การจัดสรรจะพิจารณาจากปัจจัย ได้แก่ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ได้ลงทะเบียนจองวัคซีนล่วงหน้าในเดือนก.ค. – ส.ค.2564 การให้วัคซีนเพื่อป้องกันเชิงรุกในพื้นที่ระบาดใหม่  โควตาประกันสังคม สำหรับผู้ประกันตน (กทม. + 12 จังหวัด) และจำนวนประชากรแต่ละจังหวัด

5.กรณีจัดหาวัคซีนได้ไม่ถึง 13,000,000 โดส จะลดลงตามสัดส่วนวัคซีนที่ได้

ทั้งนี้  ที่ประชุมมีความเห็นว่าควรลดระยะเวลาการฉีดวัคซีน AstraZeneca จำนวน 2 โดส เป็น 8 สัปดาห์ ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 สูง และให้ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 เพิ่มเติม

แนวทางการฉีดวัคซีนในประเทศไทย
แนวทางการฉีดวัคซีนแบบผสมสูตร ตามแนวทางมาตรฐาน ได้แก่

1.กรณีรับวัคซีน Sinovac เข็มที่ 1 และวัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 2 ให้ฉีดห่างกัน 3 - 4 สัปดาห์

2.กรณีรับวัคซีน AstraZeneca จำนวน 2 เข็ม ให้ฉีดห่างกัน 10 - 12 สัปดาห์ โดยทั่วไปผู้รับวัคซีนจะมีภูมิคุ้มกันสูงเพียงพอหลังจากฉีด ครบ 2 เข็ม แล้ว 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ กรณีการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุให้พิจารณารับวัคซีน AstraZeneca จำนวน 2 เข็ม และการฉีดวัคซีน Sinovac จำนวน 2 เข็ม จะฉีดเฉพาะกรณี


แนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) ให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ในบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม โดยสามารถได้รับการฉีดวัคซีน AstraZeneca หรือ Pfizer เป็นเข็มกระตุ้น 1 เข็ม หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ (สูตร Sv-Sv-Az หรือ Sv-Sv-Pf) ทั้งนี้ เมื่อมีวัคซีนเพียงพอและกลุ่มเสี่ยงได้รับวัคซีนแล้ว จะมีการพิจารณาการฉีดเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปในระยะถัดไป

แนวทางการจัดหาวัคซีน ในปี 2565  การจัดหาวัคซีนในกรอบ 120,000,000 โดส ต้องเร่งรัดการจัดหาวัคซีน โดยพิจารณาดำเนินการกับผู้ผลิตวัคซีนที่มีการพัฒนาวัคซีนรุ่นที่สองที่สามารถจะครอบคลุมไวรัสที่มีการกลายพันธุ์

โดยให้มีเป้าหมายการส่งมอบได้ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 รวมทั้งการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต การสนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนต้นแบบเพื่อรองรับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส การกำหนดแนวทางการขึ้นทะเบียนวัคซีนที่และพัฒนาในประเทศ และสนับสนุนการศึกษาภูมิคุ้มกันระยะยาวของผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ตลอดจนการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ไวรัสกลายพันธุ์ในปี 2565 และความก้าวหน้าของการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด  19 เพิ่มเติม
 

ไทมไลน์แผนจัดสรรวัคซีนถึงสิ้นเดือนส.ค. 2564
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ส.ว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สาธารณสุข วุฒิสภา ได้โพสผ่าน Blockdit 'ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย' โดยข้อมูลจากศูนย์ปฎิบัติการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศไทม์ไลน์การฉีดวัคซีนโควิด ในช่วงตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.ถึงวันที่ 31 ส.ค.แล้ว โดยจะระดมฉีดวัคซีนจำนวน 13 ล้านโดส ภายใน 44 วัน คิดเป็นเฉลี่ยวันละ 2.95 แสนโดส แบ่งเป็นวัคซีน AstraZeneca 8 ล้านโดส  Sinovac 5 ล้านโดส ตามพื้นที่ต่างๆ ดังนี้

1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จำนวน 33%

2.พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) + ท่องเที่ยว จำนวน 10%

3.พื้นที่ 48 จังหวัดที่เหลือ จำนวน 15%

4.ระบบประกันสังคม จำนวน 15%

5.หน่วยงานของรัฐและสำรองตอบโต้กรณีฉุกเฉิน จำนวน 12%

6.ฉีดเข็มสอง ให้ผู้ที่ได้เข็มหนึ่งของ AstraZeneca แล้วจำนวน 12%

7.ฉีดกระตุ้นให้บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 3%

โดยจะให้เน้นไปที่ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรังเป็นหลัก

แผนจัดหาวัคซีน ไม่พอกับเป้าหมาย 100 ล้านโดส
นพ.เฉลิมชัย ระบุต่อว่าเมื่อดูจากตัวเลขดังกล่าว จะพบว่า ได้มีการฉีดวัคซีนมาแล้วจนถึงวันที่ 18 ก.ค.2564 จำนวน 14.22 ล้านโดส เมื่อรวมกับที่จะฉีดภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ อีก 13 ล้านโดส จึงรวมเป็น 27.22 ล้านโดส  

เป้าหมายที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมูในการฉีดถึงสิ้นปีนี้ ธ.ค.2564 คือ 100 ล้านโดส จึงจะต้องฉีดเพิ่มอีก 72.78 ล้านโดส ในช่วงเวลาที่เหลือ ตั้งแต่  1 ก.ย.-31 ธ.ค.2564 รวมเป็นเวลา 122 วัน คงต้องฉีดให้ได้เฉลี่ย 5.96 แสนโดสต่อวัน  ซึ่งโดยศักยภาพของโรงพยาบาลรัฐ สามารถฉีดได้วันละ 5-7 แสนโดส จึงไม่ใช่ปัญหาเรื่องความสามารถในการฉีด แต่น่าจะเป็นประเด็นเรื่องปริมาณของวัคซีนที่จะจัดหามาให้ได้ครบ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้

โดยพบว่า วัคซีนที่จะต้องจัดหามาเพิ่มอีก 72.78 ล้านโดสนั้น ประกอบไปด้วย

1.AstraZeneca 20 ล้านโดส คือเดือนละ 5 ล้านโดส จำนวน 4 เดือน

2.Sinovac  12 ล้านโดส คือ เดือนละ 3 ล้านโดส

3.Pfizer 20 ล้านโดส บวกที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐฯอีก 1.5 ล้านโดส รวมเป็น 21.5 ล้านโดส

4.Moderna 5 ล้านโดส

5.Sinopharm 2 ล้านโดส

รวมเป็น 61.5 ล้านโดส ยังคงขาดวัคซีนที่ต้องเร่งจัดหามาภายในสิ้นปีอีก 11.28 ล้านโดส เฉลี่ยเดือนละ2.82 ล้านโดส  ซึ่งสามารถดำเนินการได้หลายวิธี อาทิเช่น เจรจากับ AstraZeneca ให้จัดสรรวัคซีนเพิ่มให้กับไทย หรือนำเข้าวัคซีน Sinopharm เพิ่มขึ้น หรือนำเข้าวัคซีน johnson & Johnson  หรือวัคซีน Sputnik V จากรัสเซีย  ตลอดจนวัคซีน Novavax เข้ามาเสริม คงจะต้องรอดูแผนและวิธีการดำเนินการต่อไป
#2860


"ไทยพาณิชย์" ร่วมกับ "โรบินฮู้ด" ฟู้ดเดลิเวอรี ประกาศต่อมาตรการ "เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน" ขยายระยะเวลาส่งฟรีทุกออเดอร์อีก 8 วัน เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายฝ่าวิกฤตช่วงล็อกดาวน์


"ธนาคารไทยพาณิชย์" และ "โรบินฮู้ด" แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย ในเครือธนาคารฯ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของสังคมไทยที่มีต่อสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงล็อกดาวน์ที่เศรษฐกิจหยุดชะงัก จึงได้ขยายระยะเวลามาตรการ "เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน" ส่งฟรีทุกออเดอร์ต่ออีก 8 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2564 มุ่งหวังช่วยร้านเล็กให้รอด ไรเดอร์มีงานมีรายได้ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า รวมถึงชวนคนในสังคมร่วมแบ่งปันและส่งต่อกำลังใจให้กันและกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้


จากมาตรการพิเศษ "เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน" ส่งฟรีทุกออเดอร์ในช่วงที่ผ่านมา มีลูกค้าให้ความสนใจ ช่วยกันสั่งอาหารจากร้านค้าโดยเฉพาะร้านเล็ก ๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้อาจจะมีความไม่สะดวกเกิดขึ้น ซึ่งทางโรบินฮู้ดต้องขออภัยลูกค้า ร้านค้า รวมถึงไรเดอร์ที่ได้รับผลกระทบทุกท่าน โดยได้เร่งปรับปรุงและพัฒนาระบบ รวมถึงเปิดรับไรเดอร์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้

"โรบินฮู้ด" ขอเชิญชวนมาร่วมกันช่วยร้านอาหารเล็ก ๆ ที่กำลังเดือดร้อน ผ่านมาตรการ "เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน" และหวังว่าผู้สั่งอาหารจะช่วยสั่งจากร้านเล็ก ๆ เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนร้านเล็กให้รอดไปด้วยกัน... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/90951/