การเริ่มต้นที่หอมหวานของ โอบาเมยอง

[Marinas]

มันคงไม่ใช่การพูดเกินเลยแต่อย่างใดหากจะบอกว่าตลอดช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้นั้นถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพการเป็นนักฟุตบอลของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง หลังจากกองหน้าชาวกาบองทั้งโดนถอดออกจากการเป็นกัปตันทีม อาร์เซน่อล, ถูกต้นสังกัดดร็อปยาว, ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตอนที่ตั้งใจจะไปช่วยทีมชาติกาบองทำศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ รวมถึงต้องถูกส่งตัวกลับ อาร์เซน่อล ก่อนกำหนด

แน่นอน ส่วนหนึ่งที่เขาต้องเจอกับประสบการณ์อันสุดเลวร้ายมันมาจากการกระทำของตัวเอง โดยเฉพาะในกรณีของ อาร์เซน่อล ที่เจ้าตัวละเมิดกฎด้านระเบียบวินัยทั้งที่เดิมทีก็เคยมีความผิดด้านนี้อยู่แล้ว นั่นทำให้ตอนที่เขาโดนลงโทษนั้นมันแทบไม่มีใครที่สงสารเขาเท่าไหร่นัก

สุดท้ายแล้ว โอบาเมยอง ก็ต้องบอกลากับ อาร์เซน่อล แบบไม่สวยหรูอย่างที่คิดด้วยการยอมยกเลิกสัญญากัน และมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า แบบไร้ค่าตัวในตลาดช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้มันถือเป็นการเริ่มต้นครั้งใหม่ของเขา

ในช่วง 3 นัดแรกจากทุกรายการนั้น โอบาเมยอง ยังไม่สามารถทำประตูให้กับทีมได้ แต่ส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะเขาได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองทั้งหมดใน 3 นัดที่ว่าจนทำให้ไม่มีเวลาแผลงฤทธิ์มากนัก ไม่ว่าจะเป็นเกมลีกนัดที่ บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 4-2, เกมลีกนัดเสมอกับ เอสปันญ่อล 2-2 และเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดแรก ที่ บาร์เซโลน่า ทำได้เพียงเปิดรัง คัมป์ นู เสมอกับ นาโปลี 1-1

กระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โอบาเมยอง ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ บาร์เซโลน่า เป็นนัดแรก และเขาก็ตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจจาก ชาบี เอร์นานเดซ ด้วยการทำแฮตทริกได้ จากการทำประตูได้ในนาทีที่ 23, 32 และ 63

ผลงานดังกล่าวทำให้ โอบาเมยอง ถือเป็นนักเตะ "คนแรก" ในศตวรรษที่ 21 ที่สามารถทำแฮตทริกในเกมระดับอาชีพได้ทั้งในเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส, บุนเดสลีกา เยอรมัน, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ลา ลีกา สเปน โดยเขาทำแฮตทริกได้รวมแล้ว 6 ครั้งในการเล่นทั้ง 4 ลีกดังกล่าว

สำหรับจำนวนแฮตทริกของ โอบาเมยอง นั้น แบ่งเป็น 1 ครั้งใน ลีก เอิง กับตอนสวมเสื้อ แซงต์-เอเตียน, 3 หนใน บุนเดสลีกา กับตอนเล่นให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, 1 ครั้งกับที่ พรีเมียร์ลีก ในสีเสื้อ อาร์เซน่อล และ 1 หนกับล่าสุดที่ทำได้ในการเล่นให้ บาร์เซโลน่า

ช่างเหมือนกับเรื่องบังเอิญ เพราะจาก 6 แฮตทริกของ โอบาเมยอง นั้น มันมีทั้งหมด 3 ครั้งที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยนอกจากนัดล่าสุดแล้วก็มีเกมที่ แซง-เอเตียน เอาชนะ ลอริย็องต์ 4-2 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ปี 2012 และ เกมที่ อาร์เซน่อล ทุบ ลีดส์ ด้วยสกอร์เดียวกันเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปีก่อน เรียกได้ว่าเขาค่อนข้างถูกโฉลกกับเดือนแห่งความรักอย่างมาก

มองจากข้างบนแล้วนั้นหลายท่านอาจจะสังเกตเห็นว่า โอบาเมยอง ยังขาดการทำแฮตทริกใน กัลโช่ เซเรีย อา แค่ลีกเดียวก็จะถือว่าทำแฮตทริกได้ครบกับ 5 ลีกใหญ่ในทวีปยุโรป ซึ่งที่จริงเขาเคยทำแฮตทริกบนแดนมะกะโรนีได้เหมือนกัน แต่เป็นในเกมระดับเยาวชนจากตอนที่เล่นให้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีของ เอซี มิลาน โดยวันนั้นเขาเหมาทั้ง 3 ลูกจนพาทีมชนะทีมเยาวชนของ อูดิเนเซ่ 3-1

นอกจากนี้ หากนับเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 21 แล้วล่ะก็ โอบาเมยอง ถือเป็นนักเตะคนที่ 2 เท่านั้นที่สามารถทำได้ 2 ประตูขึ้นไปตั้งแต่นัดแรกที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมระดับ ลา ลีกา ให้กับ บาร์เซโลน่า โดยคนแรกคือ ฟรานซิสโก้ ตรินเซา ที่ทำได้เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปีก่อน

เกมที่ เมสตาย่า ถือเป็นทั้งการปลดล็อกประตู และเป็นการลบล้างช่วงเวลาอันเลวร้ายที่ดีสำหรับ โอบาเมยอง ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ บาร์เซโลน่า ย่อมหวังว่าเขาจะรักษาฟอร์มแบบนี้ต่อไปได้ รวมถึงไม่ก่อเหตุการณ์ฉาวโฉ่เหมือนกับทีมอื่นๆ ที่เคยเล่นให้ด้วย ก็ต้องรอดูกันว่าแข้งวัย 32 ปีจะได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์ที่ผ่านๆ มาหรือไม่click