• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำอย่างไรดี?

Started by Prichas, March 24, 2022, 07:26:41 AM

Previous topic - Next topic

Prichas

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำไงดี?



ทำไงดี เมื่อลูกน้อยกลัวคุณหมอฟันเด็ก - เด็กกับความกลัวถือเป็นเรื่องที่คู่กัน เด็กจะกลัวในเรื่องที่จำฝังใจ ตัวอย่างเช่น การกลัวการเจ็บ กลัวคนแปลกหน้า ความกลัวเหตุการณ์ใหม่ๆที่ยังไม่เคยเผชิญมาก่อน ซึ่งความหวาดกลัวจะเกิดขึ้นในตอนหนึ่งของชีวิตแค่นั้น โดย ความหวาดกลัวนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวเด็กอีกทีว่าเด็กนั้นที่ผ่านมาบิดามารดาอาจจะมีปัจจัยที่ทำให้เด็กกลัว หมอฟันเด็กหรือกลัวการรักษาทางด้านทันตกรรมเด็ก ตัวอย่างเช่น ประสบการณ์การรักษาทางทันตกรรมเด็ก ในอดีต โดยเฉพาะการพาเด็กเข้าการดูแลรักษาฟันในเวลาที่เด็กเจ็บอยู่ฟัน รวมทั้งอาจจะก่อให้เด็กอีกทั้งเจ็บแล้วกลัวและก็ฝังลึกในใจเลยทำให้มีการเกิดความหวาดกลัว รวมทั้งอาจจะทำให้เด็กกลัวแพทย์ที่สวมชุดสีขาว หรือกลัวการเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหรือคลินิกทันตกรรมต่างๆและก็การฟังจากคำกล่าวจากญาติ ญาติ สหาย และเด็กบางทีก็อาจจะรับรู้ได้จากการกระทำบางสิ่งบางอย่าง หรือจากสีหน้าที่มีความหนักใจที่พ่อแม่แสดงออกมาโดยไม่ได้คาดคิด ฯลฯ

การตระเตรียมลูก สำหรับในการมาพบแพทย์ฟันคราวแรก

ทันตกรรมเด็กกับการจัดเตรียมเด็กที่ดีนั้นมีผลอย่างมากต่อความประพฤติของเด็กรวมทั้งการบรรลุเป้าหมายสำหรับการรักษา ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จำเป็นจะต้องหลบหลีกคำกล่าวที่น่าสะพรึงกลัวหรือแสดงความกังวลเกี่ยวกับหมอฟันเด็กที่ให้บริการทัตนบาปเด็ก และไม่ควรใช้หมอฟันหรือการทำฟันเป็นสิ่งที่ใช้ในการข่มขู่ลูก ตัวอย่างเช่น "หากไม่ยอมแปรงฟันนะ จะจับไปให้หมอถอนฟันเลย" ซึ่งจะยิ่งทำให้ลูกฝั่งใจรวมทั้งกลัวทันตแพทย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนี้คุณพ่อกับคุณแม่บางทีอาจช่วยส่งเสริมทัศนคติในทางบวกต่อการทำฟันให้แก่ลูก อย่างเช่น "แพทย์จะช่วยทำให้หนูมีฟันงามรวมทั้งแข็งแรง" ยิ่งกว่านั้นเมื่อพบว่าลูกมีฟันผุก็ควรจะพาลูกมาทำฟันตั้งแต่ในช่วงเวลาที่ยังไม่มีอาการปวด ถ้าเกิดรอให้มีลักษณะปวดก่อนเด็กจะยิ่งมีความกลุ้มใจสำหรับการทำฟันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อมาหาหมอฟันแล้ว ถ้าลูกกลัวหมอฟัน ไม่ร่วมมือผู้ดูแลและก็ทันตแพทย์ ควรจะทำยังไง

เด็กแต่ละคนที่มีความหวาดกลัวก็จะแสดงกริยาที่แตกต่างกันออกไป เด็กที่มีความหวาดกลัวและไม่ร่วมมือ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทันตแพทย์จำเป็นต้องวิเคราะห์หาสาเหตุของความกลัวของเด็ก เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการพินิจเลือกใช้กรรมวิธีจัดแจงพฤติกรรม ซึ่งพ่อแม่จะมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการให้ข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ หลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของ ทันตแพทย์ที่จะเลือกใช้แนวทางปรับพฤติกรรมต่างๆเพื่อเด็กให้ลดความหวาดกลัว ความรู้สึกกังวล และยินยอมให้ความร่วมแรงร่วมมือสำหรับเพื่อการทำฟันเด็ก โดยแนวทางที่ใช้มากที่สุดก็คือ การปรับพฤติกรรมโดยวิธีทางจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย ปลอบประโลม สรรเสริญ ช่วยเหลือให้กำลังใจ การเบี่ยงเบน ความสนใจ หรือการแยกผู้ดูแล ดังนี้ขึ้นอยู่อายุของเด็ก ระดับของความร่วมแรงร่วมมือ รวมทั้งจำนวนงานหรือ ความรีบเร่งของการดูแลและรักษาด้วย ดังเช่นว่า ในเด็กเล็กต่ำยิ่งกว่า 3 ขวบ ที่ยังสนทนาติดต่อสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง หรือเด็กที่ไม่ให้ ความร่วมแรงร่วมใจอย่างยิ่ง ทันตแพทย์ก็บางครั้งอาจจะจำเป็นที่จะต้องขอใช้ผ้าห่อตัวเด็ก (Papoose board) ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเด็กเพื่อให้สามารถให้การรักษาได้ทางด้านทันตกรรมเด็กโดยสวัสดิภาพและมีประสิทธิภาพมากเพิ่มขึ้น หรือบางทีอาจจะเสนอหนทางการดูแลและรักษาทางทันตกรรมภายใต้การทานยาให้สงบหรือการดมกลิ่นยาสลบให้แก่ผู้ปกครองเป็นคนตัดสินใจ

สิ่งที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำให้ลูกน้อยไม่กลัวหมอฟันเด็ก

สิ่งที่ดีที่สุดของการมาใช้บริการทันตกรรมเด็ก ที่จะทำให้ลูกของคุณไม่กลัวหมอฟันเป็น การดูแลช่องปากของลูกไม่ให้มีฟันผุ โดยควรจะพาลูกมาพบหมอฟันตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นหรือด้านในขวบปีแรก แล้วก็ตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน เมื่อลูกไม่มีฟันผุ เวลาทำฟันเด็กก็ไม่เจ็บ เมื่อไม่เจ็บก็มักจะไม่กลัวทันตแพทย์ แต่เมื่อลูกมีฟันผุแล้วพ่อกับแม่ก็ควรแข็งแกร่งที่จะพาลูกมารับการรักษาตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ แม้ลูกจะร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่บ้านเมื่อทราบดีว่าจะพามาทำฟันก็ตาม เพื่อให้ลูกของคุณมีสุขภาพโพรงปากที่ดี ซึ่งเมื่อมีสุขภาพช่องปากที่ก็ดีแล้วก็จะช่วยสนับสนุนให้เด็กมีความเจริญในด้านอื่นๆที่ดีตามไปด้วย