ข่าวฟุตบอลอังกฤษ นับเวลาถอยกับวิถีเป็นนักฟุตบอล คริสเตียโน่ โรนัลโด้

[Tawanida]

ข่าวฟุตบอลอังกฤษ แม้ว่าผลงานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเกมการแข่งขันกับทีม โอโมเนีย จะจบลงด้วยชัยชนะก็ตาม แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ถูกพูดถึงกันมากในเวลานี้กับฟอร์มการเล่นของจอมทัพตัวหลัก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ว่าถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่เขาจะปลดระวางตัวเองสำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เมื่อไม่อาจทำผลงานได้ดีเท่าไหร่นักในช่วงเวลานี้

ข่าวฟุตบอลอังกฤษ เช็คฟอร์ม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ใจยังฟิต แต่ร่างกายเริ่มแบกรับไม่ไหว

ข่าวฟุตบอลอังกฤษ กับชัยชนะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในการลงสนามศึกฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็ก ยูฟ่า ยูโรป้าลีก ในการพบกับ โอโมเนีย สโมสรฟุตบอลจากประเทศ ไซปรัส โดยในนัดนี้ แมนฯยูออกไปเป็นทีมเยือน แม้ว่าจะกลับมาด้วยชัยชนะก็ตามแต่ แต่ผลการแข่งขัน 3-2 นี้ดูไม่ค่อยน่าโสภา สถาพร เท่าไหร่นัก

โดยหนึ่งในประเด็นที่ถูกกล่าวถึงว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่อาจเด็ดหัวเจ้าบ้านได้อย่างสะดวกโยธิน นั่นเป็นเพราะ ผู้เล่นปีศาจแดงพยายามปั้นเกมการเข้าทำให้ ป๋าเจ๊ดโด้ CR7 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้ทำประตูให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดไม่ว่าใครต่อใครจะพยายามปั้นแค่ไหน แต่เกมนัดนี้ป๋าโด้ของทุกคนไม่อาจจบสกอร์ได้เลย

คำถามที่เกิดขึ้นหลังจากเกมนี้คือ ถือเวลาที่ โรนัลโด้ ต้องยอมรับความจริงได้แล้วหรือไม่ว่าตัวเองนั้นแก่เกินแกงสำหรับการวิ่งไล่เตะกับนักเตะรุ่นน้องซะแล้ว แน่นอนว่าในวัย 37 โรนัลโด้ ยังสามารถรักษาความฟิตของร่างกายเอาไว้อย่างดียอดเยี่ยม แต่ถึงกระนั้น เมื่อว่ากันด้วยเรื่องของสังขารล้วน ๆ มันส่งสัญญาณให้เห็นแล้วว่า เจ๊ดโด้ ผู้เร็วปานจรวดคนเดิมออกไปจากร่างของ ป๋าโด้ ไปเป็นที่เรียบร้อย

จังหวะที่ช้าลง การเข้าทำที่เดิมไปแล้วถึงแน่แต่กลายเป็นไม่ถึง และแน่นอน สปีดต่าง ๆ ที่เคยเร็วปานนรกแตกใครวิ่งไล่ก็ไม่ทัน แต่มาตอนนี้ พอโรนัลโด้หันข้างก็พบกับนักเตะยังบลัดของแต่ละทีมวิ่งไล่ตามตนได้ทันทั้งสิ้น อีกทั้งจังหวะสับไกที่เคยเป็นเครื่องหมายการค้า กลายเป็นการยิงทิ้งยิงขว้างไปแบบไม่มีอะไรให้ได้ลุ้นกันแม้แต่น้อย

และเมื่อดูจากสถิติการลงสนามในฤดูกาลนี้ หลายคนบอกว่าไม่ยุติธรรมสำหรับโรนัลโด้ที่จะตัดสินว่า " แก่เกินแกง " แต่การลงสนามทั้งหมด 9 นัดกับการลั่นสกอร์ได้เพียงแค่เม็ดเดียว 

ถือว่าประสิทธิภาพในการถล่มประตูของป๋าโด้ลดลงไปอย่างมาก จากเมื่อฤดูกาลก่อนที่เขาอยู่กับ ยูเวนตุส เขายิงได้ถึง 37 ประตู ส่วนปีที่ย้ายมาอยู่กับแมนฯยูคำรบสองในฤดูกาลแรก ยังกระหน่ำประตูได้ถึง 24 ลูก  จาก 37 นัด

นั่นหมายความว่า ระยะทางของการแข่งขันผ่านไปแล้ว 1 ใน 4 ที่ได้ลงสนามเมื่อปีที่แล้วแต่โรนัลโด้กลับทำผลงานไม่ได้ตามเป้า แถมเกมในปีนี้คือการลงเล่นใน ยูโรป้า ลีก ที่มีการแข่งขันที่หนักหน่วงน้อยกว่า แต่เจ๊ดโด้ กลับไม่อาจพังสกอร์ได้ดีเท่าที่ควร

หรือเป็นเวลาที่ โรนัลโด้ ต้องยอมรับสภาพตัวเอง พร้อมถอยหลังไปเป็นกองหนุนให้เด็ก ๆ เขา ไม่จำเป็นต้องเดินหน้าแล้วฆ่ามันอย่างที่เป็นมา แต่ทำหน้าที่เป็นกองหนุนที่ดีใช้ประสบการณ์และความสามารถสำหรับการสนับสนุนให้เด็ก ๆ ทำประตู เหมือนที่ เมสซี่ ประพฤติตัวเองอยู่ ณ ตอนนี้ ที่ ปารีส แซ็งต์ แฌร์แม็ง

เพื่อให้เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่น่าจดจำของผู้เล่นระดับตำนาน ไม่ใช่เป็นการอำลาทีมด้วยเสียงก่นด่ากับฟอร์มที่ถอยหลังเข้าคลองอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้

ที่มา https://lungruay168.com/