สพฐ. ย้ำ ตำราเรียนไข่ต้ม อยากได้สื่อ ความอดอยาก

[Beer625]

สพฐ. ย้ำ หนังสือเรียนไข่ต้ม อยากได้สื่อ ความจน ไม่ว่าจะกินอะไร ก็แฮปปี้ได้ จนกระทั่งพร้อมรับฟังทุกข้อคิดเห็น ชี้ปรับแต่งทุก 10 ปี

วันที่ 24 เม.ย.2566 นายอัมพร พินาสะ เลขาธิการคณะกรรมการการเรียนรู้พื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยกรณีโลกอินเตอร์เน็ตติชมหนังสือเรียนหนังสือภาษาไทยพาที ระดับชั้น ป.5 ซึ่งมีเนื้อหาว่า กินไข่ต้มครึ่งส่วน ใส่น้ำปลา หรือข้าวเปล่าคลุกน้ำผัดผักบุ้ง ทำให้นักแสดงในหนังสือแฮปปี้ ถือได้ว่าเป็นการพอเพียง เห็นค่าของชีวิตนั้น ว่า การจัดการศึกษาวิชาต่างๆจะมีแผนการจัดแจงศึกษาอยู่ ซึ่งในแต่ละบทเรียนจะกำหนดจุดประสงค์อยู่ว่าต้องการสอนอะไรให้กับนักเรียนบ้าง ซึ่งการจัดการทำความเข้าใจ จะมีสื่อประกอบกิจการเรียนการสอน เพื่อให้เด็กนักเรียนมีการศึกษา ขึ้นอยู่กับอาจารย์ว่าจะนำซีเอไอไหน มาสอนเด็กให้เด็กเกิดความรู้

โดย ตำราเรียนภาษาพาที ที่เป็นหัวข้อนั้น เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ให้ครูใช้ประกอบกิจการสอน เพื่อให้เด็กนำภาษาไปใช้แสดงอารมณ์ความรู้สึก คิด หรือเห็นคุณค่าของความสบายในชีวิตผ่านวรรณกรรมเท่านั้น ผู้แต่งก็เลยกำหนดผู้แสดงสมมุติขึ้น โดยมีตัวละครที่มาจากครอบครัวมีเงินมีทอง แม้กระนั้นหาความสุขไม่พบ และมีตัวละครที่เป็นลูกกำพร้า แม้กระนั้นสามารถแฮปปี้สำหรับการดำเนินชีวิตด้วยการแบ่งปันกัน

ซึ่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการกินนั้น เนื้อเรื่องมิได้สื่อเรื่องโภชนาการ แต่อยากสื่อว่าความยากจนข้นแค้น ไม่ว่าจะรับประทานอะไร อยู่ที่ไหน ก็สามารถเป็นสุขได้ เมื่อผู้ที่อยู่ในครอบครัวมีเงินมีทองมามองเห็น ก็เลยรู้เรื่องว่าความสุขในชีวิตมิได้อยู่ที่สถานที่เกิด หรือขึ้นกับที่อาศัย แม้กระนั้นอยู่ที่ความรู้ความเข้าใจและเอื้อเฟื้อต่อกัน

"บทเรียนดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อตอบปัญหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความสบายของชีวิต แน่นอนว่าที่ทำการคณะกรรมการการศึกษาขั้นต้น (สพฐ.) ไม่ทิ้งหลักโภชนาการ โดยได้ตารางเรียนการสอนเรื่องนี้เอาไว้ในหมวดวิชาสุขศึกษา อีกทั้ง สพฐ.ได้ให้ความใส่ใจกับโภชนาการของเด็กอย่างยิ่ง เห็นได้จากการมีระบบ Thai School Lunch ซึ่งคือระบบที่ช่วยทำให้สถานศึกษาสามารถจัดมื้อกลางวันที่มีคุณภาพให้แก่นักเรียน

โดยเหตุนั้น บทเรียนดังกล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นการเปรียบให้เด็กกำเนิดแนวทางการคิด แล้วก็ได้มีความคิดเห็นว่าความสบายที่แท้จริงอยู่ตรงไหน ดังนี้ ไม่ต้องการที่จะอยากกล่าวถึงคนไหนกันแน่ แต่รู้สึกว่าการบ้านการเมืองช่วงนี้ อยู่ระหว่างการขายความคิด แนวทางการขายแผนการ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ส่วนไหนที่เป็นประโยชน์ สพฐ.ในฐานะผู้ปฏิบัติ ก็พร้อมที่จะยอมรับฟังทุกความคิด ส่วนไหนที่มีประโยชน์จะยอมรับฟังและก็ไปปรับใช้" นายอัมพร กล่าว

ผู้รายงานข่าวถามคำถามว่า มองว่าดราม่าที่เกิดขึ้นขยายไปไกลหรือเปล่า นายอัมพร พูดว่า ไม่ไม่สบายใจว่าจะมีดราม่า ด้วยเหตุว่า สพฐ.อยู่ภาคการศึกษา ยินดีที่จะฟังทุกข้อคิดเห็น เนื่องจากคิดว่าทุกความนึกคิดมีคุณประโยชน์ ซึ่งตนรู้สึกว่าทุกคนมีวิจารณญาณในการวิเคราะห์ อย่างไรก็ตาม การจัดทำหนังสือหนึ่งเล่ม สพฐ.ไม่ได้จัดทำเพียงผู้เดียว ควรต้องผ่านขั้นตอน ตั้งแต่การตั้งคณะกรรมการทำ แล้วก็ผ่านการตรวจสอบจากนักวิชาการอีกผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยจนถึงเห็นเหมือนกันว่าหนังสือที่ออกมาเป็นที่ยอมรับแล้ว ซึ่งตนทราบกันอยู่แล้ว เมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์เปลี่ยนไป สพฐ.เพียรพยายามจะทำหนังสือให้ดีขึ้น ทันสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้สื่อข่าวถามคำถามว่า หนังสือภาษาพาทีมีหัวข้อดราม่าตั้งแต่ปี 2563 แล้วปีนี้กำเนิดดราม่าขึ้นอีก จะมีการปรับแต่งให้ล้ำสมัยหรือเปล่า นายอัมพร พูดว่า สพฐ.มีการเปลี่ยนแปลงตำรับตำราเรียนทุกๆ10 ปี เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และในขณะนี้ สพฐ.เปิดโอกาสให้สถานที่พิมพ์เสนอขอปรับปรุงแก้ไขสื่อการสอนของตัวเองได้ ซึ่งสื่อที่ผลิตใหม่พรีเซ็นท์ใหม่หากมีหลักสูตรใหม่เกิดมา หลักสูตรเก่าก็จะต้องไม่มีการใช้สอนอยู่แล้ว
ความยากจน
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13833/
Tags : แบบเรียนไข่ต้ม