• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาท

Started by Ailie662, February 05, 2022, 07:20:18 PM

Previous topic - Next topic

Ailie662

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาท "บ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น" ที่ "BBB" แทนที่หุ้นกู้เดิมวงเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาท

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BBB+? และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ ?BBB? ขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาทที่ระดับ ?BBB? ด้วย โดยอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่จะใช้ทดแทนอันดับเครดิตหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 2 พันล้านบาทที่ประกาศเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 เนื่องจากบริษัทปรับเพิ่มวงเงินของหุ้นกู้ที่ออกจำหน่าย ทั้งนี้ การปรับเพิ่มวงเงินของหุ้นกู้ไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตเนื่องจากบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ไปใช้ชำระหนี้และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนซึ่งทริสเรทติ้งได้พิจารณาอยู่ในอันดับเครดิตแล้ว ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งยังคงแนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทที่ถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ

อันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัท ตลอดจนความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวลดทอนลงบางส่วนจากการกระจุกตัวของงานในมือ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและความเป็นไปได้ที่การประมูลโครงการก่อสร้างภาครัฐจะล่าช้าออกไป ซึ่งอาจขัดขวางการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของบริษัทได้

อันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทซึ่งต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรอยู่ 1 ขั้นนั้นสะท้อนถึงลักษณะการด้อยสิทธิของหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน (Priority Debt) ทั้งนี้ ณ เดือนกันยายน 2564 หนี้เงินกู้รวมของบริษัทไม่นับรวมหนี้สินตามสัญญาเช่ามีจำนวนทั้งสิ้น 1.76 หมื่นล้านบาทซึ่งจำนวน 1.1 หมื่นล้านบาทเป็นหนี้ที่มีหลักประกันหรือหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน ทำให้อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมอยู่ที่ระดับ 63% สูงกว่าระดับ 50% ตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ของทริสเรทติ้ง โดยทริสเรทติ้งมองว่าเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันนั้นมีความด้อยสิทธิกว่าเจ้าหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนอย่างมีนัยสำคัญเมื่อพิจารณาจากสิทธิเรียกร้องในสินทรัพย์ของบริษัท

ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากการแข่งขันประมูลงานที่เข้มข้นและความยากลำบากในการบริหารงานก่อสร้างในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในทางตรงกันข้าม กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท ลดลง 7.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่หนี้สินของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.82 หมื่นล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2564 จากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยบริษัทมีลูกหนี้การค้าที่ยังไม่เรียกเก็บและลูกหนี้การค้าจำนวนมากจากโครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 4 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งยังคงประมาณการอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทในระดับสูงกว่า 6 เท่าในปี 2564 และปรับตัวลดลงเป็นประมาณ 5 เท่าในปี 2565-2566 เมื่อกำไรฟื้นตัว

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Negative? หรือ ?ลบ? สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่ากำไรและสถานะทางการเงินของบริษัทจะถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2564 ก่อนที่จะปรับตัวดีขึ้นในปีถัด ๆ ไป อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ยาวนาน ความล่าช้าในการเปิดประมูลโครงการภาครัฐ ตลอดจนการแข่งขันที่เข้มข้นยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากสถานะทางการเงินของบริษัทถดถอยลงกว่าที่คาดไว้ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความล่าช้าของโครงการ หรือต้นทุนในการก่อสร้างที่สูงกว่าคาด หรือการจัดการด้านเงินทุนหมุนเวียนที่ไม่มีประสิทธิภาพ จนทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายยังคงสูงกว่า 5 เท่าโดยไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน นอกจากนี้ การได้สัญญาก่อสร้างใหม่ที่มีมูลค่าน้อยกว่าที่คาดไว้ก็อาจกระทบต่ออันดับเครดิตเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น ?Stable? หรือ ?คงที่? อาจเกิดขึ้นได้หากการจัดการด้านเงินทุนหมุนเวียนและความสามารถในการทำกำไรสอดคล้องกับการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งและบริษัทได้สัญญาก่อสร้างใหม่ตามที่ตั้งเป้าไว้

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (UNIQ)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB+

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

UNIQ222A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 BBB

UNIQ232A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB

UNIQ257A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,440.1 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 4 ปี BBB

แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2565 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว