• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ครีมกันแดดแบรนด์ไทย “KAANI” ทำการตลาดแบบรักษ์โลก

Started by Thetaiso, August 28, 2021, 07:54:04 AM

Previous topic - Next topic

Thetaiso



น้อยคนนักจะรู้ว่า "ครีมกันแดด" นั้นมีส่วนผสมที่สามารถทำร้ายสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งหลายคนมองข้ามจุดนี้ไป เพื่อรักษาผิวกายให้สวยงามแต่หลงลืมเรื่องการรักษาธรรมชาติรอบๆ ตัว กระทั่งในปัจจุบันเริ่มมีกระแสการใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีประกาศการงดใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมทำร้ายปะการัง จึงทำให้หลายคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ เกิดความตระหนัก และเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และแบรนด์ "KAANI" ครีมกันแดดฝีมือคนไทย ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สามรถตอบโจทย์ทั้งเรื่องกันแสงแดด ดูแลผิว และรักษ์สิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆ กันได้

นางสาวชนิภา สารสิน (ซ้าย) นายพชร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (กลาง) นางสาวดิษย์ลดา ดิษยนันท์ (ขวา) สามเพื่อนซี้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ ผู้ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์ "KAANI" 
นางสาวชนิภา สารสิน (ซ้าย) นายพชร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (กลาง) นางสาวดิษย์ลดา ดิษยนันท์ (ขวา) สามเพื่อนซี้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ ผู้ร่วมกันก่อตั้งแบรนด์ "KAANI"

นางสาวชนิภา สารสิน หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ "KAANI" (คานิ) เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ครีมกันแดดรักษ์โลก เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันกับ นายพชร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ นางสาวดิษย์ลดา ดิษยนันท์ ที่ได้มารู้จักและได้เป็นเพื่อนกันเนื่องจากชื่นชอบกิจกรรมดำน้ำเหมือนกัน และด้วยการเห็นความงดงามของโลกใต้ท้องทะเลที่สวยแปลกตาต่างจากโลกบนดิน ทำให้เราทั้งสามคนได้ตระหนักว่าธรรมชาติโลกใต้ท้องทะเลนั้น ก็มีชีวิตและเปราะบางเหมือนกับธรรมชาติบนพื้นดิน และในการดำน้ำและการเที่ยวทะเลในทุกๆ ครั้ง ก็ต้องมีการใช้ครีมกันแดดซึ่งส่วนใหญ่มีสวนผสมของสารที่ทำร้ายปะการัง และก่อมลพิษทางอ้อม จึงได้มีการเปลี่ยนมาใช้ครีมกันแดดสูตร Reef-safe ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่เมื่อนำมาใช้ที่ประเทศไทยกลับไม่ตอบโจทย์ในการใช้ เพราะอากาศร้อนจึงทำให้ครีมเหนียวเหนอะหนะ และด้วยเหตุนี้ครีมกันแดดรักษ์โลกฝีมือคนไทยจึงได้เกิดขึ้นในชื่อแบรนด์ "KAANI"

นางสาวชนิภา สารสิน หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ "KAANI" 
นางสาวชนิภา สารสิน หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ "KAANI"

ในช่วงแรกในการทำการตลาดนั้น ทางแบรนด์ KAANI ได้ผลิตครีมกันแดดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักดำน้ำ และกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทะเลที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม ในรุ่น "AcTive" โดยได้ได้มีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ร้านผลิตภัณฑ์รักสิ่งแวดล้อม และในโรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยวชายทะเล ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเนื้อครีมของ KAANI นั้น ไม่เหนียวเหนอะหนะและกันแดดได้ดีทำให้ลูกค้าชื่นชอบ อีกทั้งยังมีประกาศจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศห้ามนำครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ จึงทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ในการเป็นครีมกันแดดรักษ์โลกที่เกิดขึ้นจากฝีมือคนไทย



และแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทำให้การท่องเที่ยวทางทะเลในหลายๆ แห่งต้องหยุดชะงัก แต่ครีมกันแดดของทางแบรนด์ก็ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากมีส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม ทำให้ไม่เกิดเป็นสารตกค้างในร่างกาย และด้วยเนื้อครีมที่สัมผัสแล้วสบายผิว จึงทำให้แบรนด์ KAANI สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่ม "แม่และเด็ก" ที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายแรกเริ่ม แต่แบรนด์สามารถตอบโจทย์ในเรื่องความอ่อนโยนของผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กได้ ซึ่งทำให้คุณแม่หลายๆ คนไว้วางใจแบรนด์ในการเป็นครีมกันแดดสำหรับลูกๆ



และด้วยการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ทางแบรนด์จึงต่อยอดด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์รุ่น "Everyday" ซึ่งทางแบรนด์ได้เน้นการตลาดในเรื่องการให้ความสำคัญในการใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว เนื่องจากในแสงแดดมีรังสีอยู่มากมาย และบางชนิดก็สามารถสร้างผลกระทบในระยะยาวให้กับผิวหนังได้ และได้ผลพลอยได้คือการได้รักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ทำให้เรื่องการดูแลผิวกายและการดูแลธรรมชาติกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว และสามารถทำได้ในทุกๆ วัน ด้วยแนวคิดนี้จึงทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น



"หลายคนคิดว่าถ้าใช้ผลิตภัณฑ์หรือครีมกันแดดแบบรักษ์โลก จะต้องแลกกับอะไรบางอย่าง เช่น ความเหนียวเหนอะหนะไม่สบายผิว หรือกันแดดได้ไม่ดี เพราะขาดส่วนประกอบบางชนิด เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่กลัวผิวคล้ำ แต่ KAANI ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ ไม่ต้องแลกกับอะไร"  .... นางสาวชนิภา หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์กล่าวเสริม



นอกจากจุดเด่นในเรื่องการเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของครีมกันแดด KAANI ที่ทำให้ลูกค้ายอมรับนั้น ก็คือส่วนผสมที่ทางแบรนด์ใช้เวลากว่า 1 ปี ในการพัฒนาส่วนผสมต่างๆ ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและวิถีชีวิตของคนไทย ด้วยสูตร Reef-safe ครีมกันแดดที่ไม่ใส่สารเคมี ในแบบ Physical sunscreen ร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นกระจกสะท้อนหรือหักเหรังสี UV ออกไปจากผิว ทำให้เนื้อครีมสัมผัสไม่เหนียวเหนอะหนะสบายผิว ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้และไม่มีสารตกค้าง ทำให้ลูกค้าที่ใช้สามารถลืมภาพครีมกันแดดที่เหนียวเหนอะหนะไปได้ และยอมรับในการใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกได้อย่างสบายใจ



อีกหนึ่งจุดเด่นของแบรนด์ก็คือ การนำมาตรฐานของ "สาธารณรัฐปาเลา" หนึ่งในประเทศที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิคที่ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล ที่ได้มีการออกกฎหมายแบนสารเคมีในครีมกันแดดมากกว่า 10 ชนิด ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สูงที่สุดในโลกมาเป็นมาตรฐานของแบรนด์ จึงทำให้ครีมกันแดด KAANI ไม่ได้ตอบโจทย์แค่เฉพาะในตลาดประเทศไทย แต่ยังตอบโจทย์และสามารถนำไปใช้ในหลายๆ ประเทศทั่วโลกได้อีกด้วย เนื่องจากในปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลก ต่างให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะวิกฤตสภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ครีมกันแดดจากฝีมือคนไทย "KAANI" จึงเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งการดูแลผิวและดูแลสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆ กันได้เป็นอย่างดี