• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Jamie Dimon คาดราคา Bitcoin พุ่งถึง 10 เท่าภายในเวลา 5 ปี

Started by Thetaiso, September 29, 2021, 12:52:00 PM

Previous topic - Next topic

Thetaiso



Jamie Dimon เจ้าพ่อธนาคารซึ่งเป็น CEO ของ JPMorgan มองราคา Bitcoin อาจเพิ่มขึ้น 10 เท่า ในเวลาเพียง 5 ปี ชี้ปัจจุบันผู้คนส่วนมากเสียเวลาและหมกมุ่นกับมันมากเกินไป

ในการสัมภาษณ์ออนไลน์กับ Times of India นาย Jamie Dimon ซีอีโอของบริษัทวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan Chase ได้ตำหนิการดึงดูดความนิยมของ Bitcoin แม้ว่าจะระบุว่าสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำสามารถเพิ่มขึ้น 10 เท่าในเวลาเพียง 5 ปี

ในอดีต Dimon ได้วิจารณ์ Bitcoin หรือ BTC อย่างรุนแรง โดยในปี 2017 เขาเรียกว่าเป็นการฉ้อโกงและอ้างถึงความสามารถในการใช้เป็นเครื่องมือของอาชญากรในการหลบเลี่ยงการจับกุม จากทางการด้วยการทำธุรกรรมทางการเงินใน BTC แทนที่จะเป็นดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่เมื่อ Times of India ถาม Jamie Dimon ว่าควรห้ามหรือควบคุม Bitcoin หรือสินทรัพย์ Cryptocurrency อื่น ๆ หรือไม่อย่างไร เขาได้ให้คำตอบว่า "ผมไม่สนใจ Bitcoin จริง ๆ เพราะคิดว่าผู้คนส่วนมากเสียเวลาและหมกมุ่นกับมันมากเกินไป แต่อนาคตมันอาจจะถูกควบคุม และสร้างกรอบจำกัดความเหมาะสมไว้บ้าง แต่ไม่ว่าจะกำจัดมันออกไปหรือไม่ก็ตาม ซึ่งส่วนตัวไม่รู้และไม่ได้สนใจอีกทั้งไม่ใช่ผู้ซื้อ Bitcoin นั่นไม่ได้หมายความว่าราคาจะไปไม่ถึง 10 เท่าในอีกห้าปีข้างหน้า"

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ JPMorgan ได้แสดงความสนใจเพิ่มขึ้นในการพัฒนาและดำเนินการตามความคิดริเริ่มของ crypto และ blockchain ในปีที่ผ่านมา โดยในเดือนมกราคม บริษัทได้ซื้อหุ้น 10% ในบริษัทข่าวกรองธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว MicroStrategy ซึ่ง CEO Michael Saylor เป็นหนึ่งในนักลงทุนและผู้ถือ Bitcoin ที่มีชื่อเสียงที่สุด

ต่อมาในเดือนกรกฎาคม บริษัทได้สร้างประกาศรับสมัครงานทั่วโลกหลายรายการสำหรับนักพัฒนาบล็อกเชน วิศวกร และนักการตลาด เพื่อทำงานในแผนก Onyx ที่เน้นการพัฒนาคริปโต ซึ่งรับผิดชอบในการเปิดตัวสินทรัพย์ Stablecoin ของธนาคาร JPM Coin ในเดือนตุลาคม 2563

ตามรายงานล่าสุด Counterpoint Global บริษัทในเครือ JPMorgan กำลังพิจารณาที่จะเสนอการลงทุน cryptocurrency ให้กับลูกค้าที่ร่ำรวย ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่มีมูลค่าสูงถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการอนุมัติอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมการธนาคารที่เหลือ