การเลือกวัสดุกันซึมให้เหมาะกับการใช้งานทำโครงสร้างต่างๆ

[deam205]

การเลือกวัสดุกันซึมให้เหมาะกับการใช้งาน
องค์ประกอบอาคารแต่ละหลังประกอบไปด้วยหลายหลากส่วนประกอบที่สำคัญ โดยหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องมีให้ได้เลยก็คือระบบกันซึมของตึก ที่จะทำหน้าที่ป้องกันการรั่วซึมของน้ำอีกทั้งจากภายนอกและก็ด้านในตึก รวมถึงการช่วยป้องกันความร้อนและกันซึมตามพื้นผิวภายในด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกน้ำยากันซึม[/url]ให้เหมาะสมกับงานกันซึมที่พวกเราต้องการก็สำคัญมากเช่นเดียวกัน วันนี้จะมาแนะนำโดยประมาณว่าวัสดุแบบใดเข้ากับงานแบบไหนมากยิ่งกว่ากัน

1. กันซึมดาดฟ้า
ดาดฟ้าเป็นส่วนประกอบด้านนอกตึกที่สำคัญมากที่สุด เพราะเหตุว่าอยู่สูงที่สุด จะต้องรองรับอีกทั้งความร้อนจากแสงอาทิตย์ ลม และฝน มีความเสี่ยงที่จะมีน้ำขังรวมทั้งนำไปสู่การรั่วซึมได้ง่ายที่สุดหากไม่ได้รับการป้องกันอย่างดีตั้งแต่ตอนแรกเริ่มการก่อสร้าง หลายคนไม่รู้ว่าคอนกรีตอย่างเดียวไม่พอต่อการทำดาดฟ้า แต่ว่ายังจำเป็นต้องเสริมเกราะปกป้องด้วยการทาน้ำยากันซึมบนดาดฟ้าอีกชั้นเพื่อปกป้องไม่ให้มีน้ำรั่วซึมลงไปตามรอยแตกร้าวของตึกได้





โพลียูริเทน ได้รับความนิยมสูงที่สุดในการทำกันซึมดาดฟ้า ด้วยคอนกรีตมีการยืดหดตัวอยู่ตลอดเวลา และก็เกิดรอยร้าวได้ง่าย โพลียูริเทนนี้ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงเยอะที่สุดเมื่อเทียบกับวัสดุประเภทอื่นๆจึงเหมาะสำหรับการทำกันซึมดาดฟ้ามากที่สุด ป้องกันรอยแตกร้าวของคอนกรีตได้มากที่สุด แม้มีฝนตกต่อกันหลายวันก็มั่นใจได้ว่าน้ำจะไม่รั่วซึมไปในตัวอาคาร แอบกระซิบว่า ด้วยความที่เป็นวัสดุที่แข็งแรงมากขนาดนี้ ทำให้สามารถใช้กับงานองค์ประกอบด้านในได้ด้วยเหมือนกัน

2. กันซึมผนัง
หากพูดถึงโครงสร้างตึกที่จะต้องทนแดด ทนฝน ทนต่อทุกอุณหภูมิรองจากดาดฟ้าก็คือฝาผนังหรือกำแพงนั่นเอง เนื่องจากว่าจะต้องเจอกับสภาพภูมิอากาศที่หลากหลายทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกร้าวได้หากไม่ได้ป้องกันด้วยน้ำยากันซึมเช่นเดียวกันกับบนดาดฟ้า





อะคริลิคกันซึม มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันกับโพลียูริเทน เพียงแต่ว่ามีความยืดหยุ่นน้อยกว่า มักใช้ในงานฉาบผนังอาคารเพื่อป้องกันการแตกร้าวแล้วก็สร้างเสริมความแข็งแรงให้กับฝาผนังตึก แต่ด้วยความที่วัสดุทั้งคู่ไม่ต่างอะไรกันมากมายเท่าใดนัก อะคริลิคกันซึมก็เลยมักถูกใช้สำหรับดาดฟ้าหรือหลังคาของอาคารด้วยเช่นกัน

3. กันซึมพื้น/กระเบื้อง
บริเวณที่ถ้าหากพูดเรื่องน้ำรั่วซึม จะไม่พูดถึงไม่ได้คือพื้นนั่นเอง เพราะว่าบริเวณพื้นนี่แหละที่มีน้ำขังเยอะที่สุดและก็เสี่ยงต่อการเกิดน้ำรั่วซึมไปยังองค์ประกอบส่วนอื่นๆของอาคารมากยิ่งกว่าฝาผนังเสียอีก ด้วยเหตุดังกล่าว น้ำยากันซึมสำหรับพื้นก็มีความสำคัญสำหรับโครงสร้างของอาคารเช่นเดียวกัน





โพลิเมอร์กันซึมสามารถใช้ได้ทั้งยังด้านในตึกแล้วก็ข้างนอกตึกที่มีวัสดุอื่นปิดทับ ด้วยความที่มีความยืดหยุ่นสูงแล้วก็มีความสามารถในการคงทนแม้จะมีน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานาน ทำให้สามารถทาทับบนกระเบื้องเก่าได้เลยโดยไม่ต้องรื้อออกแล้วก็สามารถลงสี หรือปูกระเบื้องทับได้

น้ำยากันซึมแต่ละชนิดมีคุณลักษณะแตกต่างกันไป และก็มีความเหมาะสมกับแต่ละสภาพพื้นผิวแตกต่างกัน ด้วยเหตุนั้น ควรจะเลือกใช้ให้เหมาะกันกับจุดประสงค์ที่ต้องการใช้ ด้วยเหตุว่าอย่างที่เกริ่นนำไว้ว่าระบบกันซึมของตึกนับว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากขององค์ประกอบอาคารทุกหลัง