• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

MFC ส่งกองทุน M-EDGE ลุยหุ้นระดับ Top ทั่วโลก

Started by Fern751, November 11, 2021, 11:16:55 AM

Previous topic - Next topic

Fern751

MFC ส่งกองทุนหุ้นเด่นท้ายปี M-EDGE ลงทุนใน BGF Global Long-Horizon Equity เปิดโอกาสเป็นผู้ชนะสร้างมูลค่าการลงทุนจากหุ้นระดับ Top ทั่วโลก

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)หรือ MFC ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและกลับเข้าสู่เส้นทางการเติบโตระยะยาว แต่แนวโน้มเงินเฟ้อที่สูงขึ้นตามวัฎจักร จะนำไปสู่การปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ (ผ่อนคลายน้อยลง) และตลาดมีความผันผวนสูงขึ้น 

 

การลงทุนในหุ้นที่เป็นผู้ชนะ ที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน มีคุณภาพ และเติบโตที่ยั่งยืน ในราคาที่เหมาะสม จะได้หุ้นที่มีความยืดหยุ่น ให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด (ดัชนีหุ้นโลก) ทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง


MFC ในฐานะบริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดการกองทุน จึงจัดตั้ง กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ซัสเทนด์ คอมเพ็ททิทีฟ เอดจ์ (MFC Sustained Competitive Edge Fund) หรือ M-EDGE เพื่อลงทุนในหุ้นที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน โดยคอนเซ็ปท์ของ E-D-G-E  คือ E : Ensure sustainable value creation มีกระบวนการคัดเลือกหุ้นของบริษัทที่สามารถสร้างมูลค่า (ได้เหนือกว่าดัชนีหุ้นโลก) ตลอดวงจรชีวิตของบริษัท เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนสูง โดย

 

D : Deliver alpha พอร์ตการลงทุนมีความน่าเชื่อถือสูง เน้นลงทุนในหุ้น 20-30 ตัว โดยกระจายการลงทุนไปในหลายอุตสาหกรรม เน้นการสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าตลาด
G: Growth potential เน้นลงทุนหุ้นผู้ชนะที่มีคุณภาพดี มีความได้เปรียบในการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมี Track Record ที่โดดเด่น ชนะ Benchmark ด้วยผลตอบแทนที่สูงกว่า ขณะที่ความผันผวนใกล้เคียงกัน
E: Expertise by BlackRock กองทุนหลักบริหารโดย BlackRock โดยทีมบริหารกองทุน และทีม research ที่มีประสบการณ์ และความชำนาญในการบริหารจัดการกองทุนอย่างดีเยี่ยม

กองทุน M-EDGE เลือกลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (ประเภท Feeder Fund) คือ 'BGF Global Long-Horizon Equity Fund' (เป็นกองทุนหลัก) ในชนิดหน่วยลงทุน (share class) "D2" ซึ่งเป็น Class ที่เสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป ซื้อขายหน่วยลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยกองทุนหลักลงทุนทั่วโลก ซึ่งไม่ได้จำกัดสัดส่วนการลงทุนตามประเทศ ภูมิภาค หรือมูลค่าตามราคาตลาด โดยลงทุนอย่างน้อย 70% ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดในตราสารทุน

 

ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืนตามความเห็นของที่ปรึกษาการลงทุน และโดยทั่วไปจะถือครองตราสารในระยะยาว ทั้งนี้ กองทุนหลักและ M-EDGE อาจป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน

 

กองทุนหลัก BGF Global Long-Horizon Equity Fund อยู่ภายใต้ BlackRock Global Funds ซึ่งจัดตั้งที่ประเทศลักเซมเบิร์ก บริหารจัดการโดย BlackRock (Luxembourg) S.A. ใช้กลยุทธ์ที่ดีในการบริหารกองทุนเพื่อมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (active management) และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient portfolio management)

 

ตัวอย่างหุ้น 10 อันดับแรกที่กองทุน BGF Global Long-Horizon Equity Fund เข้าไปลงทุน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 64)  ได้แก่ Mastercard INC Class A, Microsoft Corp., AMAZON Com INC., Reckitt Benckiser Group PLC., Unitedhealth Group INC., SONY group corp., T Mobile US INC., Prudential PLC., Boston Scientific Corp และ Walt Disney

 

M-EDGE ถูกออกแบบมา เพื่อสร้างโอกาสลงทุนในหุ้นที่เป็นผู้ชนะ จึงกระจายการลงทุนในธุรกิจที่มี business cycle ต่างกัน โดยกองทุนมีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 6 และอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุน การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน หรือความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัว

 

ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้มองหาการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว ที่คาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป  ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนเพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนในกองทุนตราสารทุนต่างประเทศ และยอมรับความเสี่ยงได้ ซึ่งผู้ลงทุนจะมีโอกาสที่จะได้รับกำไรจากมูลค่าหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการปรับตัวของดอกเบี้ยหรือมูลค่าของตราสารที่กองทุนต่างประเทศไปลงทุน

 

"กองทุนเปิด M-EDGE เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund: FIF) มีจำนวนเงินทุนของโครงการ 5,000 ล้านบาท จะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกระหว่าง 16-24 พฤศจิกายน  2564 สามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ กำหนดมูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก 1,000 บาท และมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล"MFC ระบุ