5 แนวทางลด "ความดันสูง" ได้อย่างไม่ยากเย็นโดยไม่ต้องกินยา

[dsmol19]

อีกหนึ่งปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพที่คนประเทศไทยเป็นกันมากมายหมายถึง"ความดันโลหิตสูง" มักพบในวัยทำงานไปจนกระทั่งวัยชรา ผู้ที่มีน้ำหนักมากยิ่งกว่ามาตรฐานมาตรฐาน แล้วก็ผู้ที่มีความประพฤติการทานอาหารที่ไม่เหมาะสม

แม้ว่าจะเป็นอาการที่พบได้มาก และเป็นเยี่ยมในสิ่งที่ทำให้เกิดโรคอันตรายอื่นๆตามมาได้ แต่ว่าที่จริงแล้วมีวิธีกล้วยๆที่กระทำตามกันได้ และก็ช่วยลดระดับความดันเลือดได้จริง โดยบางทีอาจไม่ต้องพึ่งยารักษาโดยยิ่งไปกว่านั้นเสมอไป มาฝากกัน

5 แนวทางลด "ความดันสูง" ได้ไม่ยากโดยไม่ต้องรับประทานยา

วัดความดันโลหิตทุกวี่วัน
พวกเราสามารถวัดความดันเลือดได้ด้วยตัวเอง ด้วยเครื่องวัดความดันโลหิตที่มีขายตามร้านขายยาที่น่าไว้วางใจ การมีเครื่องตวงความดันที่บ้าน สามารถบ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อนระยะยาวได้ดีมากว่าการประเมินความดันที่โรงหมอ รวมทั้งชีวิตเรามักอยู่บ้านเป็นประจำมากยิ่งกว่า การประมาณความดันที่อยู่ที่บ้านก็จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความดันของคนๆนั้นได้ดียิ่งไปกว่า

ควรวัดความดันเลือดบ่อยๆทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ในตอนที่ตื่นนอนเวลาเช้า (หลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้ว 1 ชั่วโมง) และในเวลาก่อนนอน (หากคนใดที่กำลังกินยารักษาอาการความดันโลหิตอยู่ ให้วัดความดันก่อนรับประทานยาทั้งในช่วงหลังตื่นนอน แล้วก็ก่อนนอน)

ออกกำลังกาย
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะสามารถช่วยให้ความดันเลือดของคุณกลับมาเป็นปกติ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยทำให้ความดันโลหิตกลับมาเป็นปกติได้ โดยการบริหารร่างกายที่สมควรสำหรับคนที่มีความดันเลือดสูง คือการออกกำลังหัวใจ (คาร์ดิโอ) การออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น รู้สึกหอบระหว่างออกกำลังกาย ตัวอย่างเช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอโรบิก ฯลฯ

สำหรับผู้ที่ไม่เคยบริหารร่างกายเลย อยู่ในวัยชรา หรือมีน้ำหนักมากยิ่งกว่าหลักเกณฑ์มาตรฐานเยอะ เสนอแนะการเดินเร็ว หรือแอโรบิกในท่าง่ายๆเบาๆให้รู้สึกอิดโรยน้อย ไม่เหน็ดเหนื่อยจนเกินไป โดยเสนอแนะให้ออกพลังกายครั้งละอย่างต่ำ 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์ หรือ 150 นาทีต่ออาทิตย์

แม้ความดันเลือดสูงเกินกว่า 180/100 มม.ปรอท ควรจะหลีกเลี่ยงการบริหารร่างกายแล้วก็หารือแพทย์ก่อนเสมอ รวมถึงผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอื่นๆเป็นต้นว่า โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน รวมทั้งอื่นๆควรขอคำแนะนำหมอถึงแนวทางออกกำลังกายที่สมควรอีกรอบ

ลดอาหารรสเค็มจัด กินผักและกินผลไม้เยอะขึ้น <a href="https://.168live.com">.168live.com</a>
ของกินรสเค็ม เจอได้ในอาหารไทยทั่วไปที่มีการแต่งรสเค็มหนัก ตัวอย่างเช่น ส้มตำ ยำต่างๆแกงไตปลา หรือเมนูอื่นๆรวมไปถึงของกินที่มีการใส่ซอสปรุงรสเป็นจำนวนมากได้แก่ สุกี้ยากี้ และก็อาหารสำเร็จรูป อาทิเช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แฮม ไส้กรอก ปลากระป๋อง อาหารแช่แข็ง ของหมักดอง ฯลฯ ควรจะลดการรับประทาน และก็ลดการปรุงรสเพิ่ม

การกินเค็มจะมีผลให้อาการความดันโลหิตสูงห่วยลง การลดเค็ม เป็นการลดเกลือโซเดียมให้น้อยกว่า 2 กรัมต่อวัน ซึ่งเสมอกันกับเกลือที่เราทำอาหารกัน 1 ช้อนต่อวัน หรือถ้าหากเทียบเคียงกันเป็นซีอิ๊ว ซอสแต่งรส น้ำปลาก็จะตกราวๆ 4 ช้อนต่อวัน

นอกเหนือจากลดเค็มแล้ว ควรจะกินผักรวมทั้งกินผลไม้ชดเชยให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในจำนวน 20-30 กรัมต่อวัน ซึ่งจะสามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตสูงได้ แต่ว่าถ้าหากเป็นคนป่วยโรคไต ควรจะปรึกษาหมอถึงผักรวมทั้งผลไม้ที่ควรจะรับประทานอีกรอบ

เลิกยาสูบ ลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ <a href="https://.3bb.com">.3bb.com</a>
การสูบบุหรี่ และก็การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้ความดันโลหิตสูงห่วยแตกลงเหมือนกัน และก็ยังเป็นการเพิ่มการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอันตรายที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้อีกด้วย

สำหรับบางคนที่ไม่อาจจะเลิกเหล้าแล้วก็ยาสูบได้โดยทันที ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ เพราะว่าในตอนนี้ เรามีทั้งยังวิธีการทำกิจกรรมบำบัดและยาที่ทดแทนสารต่างๆที่ช่วยลดอาการระหว่างการเลิกสุราเลิกบุหรี่ได้

<a href="https://cbdgreenbird.com">cbdgreenbird.com</a>

กินยาตามหมอสั่ง พบแพทย์ตามนัดทุกหน <a href="https://zincbet.com">zincbet.com</a>
สำหรับคนใดกันแน่ที่เข้ารับการดูแลและรักษาความดันโลหิตสูงกับแพทย์เป็นระเบียบแล้ว ควรจะกินยาอย่างสม่ำเสมอตามกำหนด และก็ไปพบแพทย์ตามนัดหมายทุกคราว เพื่อให้แพทย์ประเมินอาการ และได้รับการดูแลรักษาตามอาการอย่างถูกต้องต่อไป  เซรั่มกัญชง