• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

 'เศรษฐา ทวีสิน ' ปลุกไทย ลดเหลื่อมล้ำ ประกาศ! พร้อมเสีย  'ภาษีคนรวย '

Started by Shopd2, December 02, 2021, 04:18:34 PM

Previous topic - Next topic

Shopd2



บิ๊กอสังหาฯคนดัง  'เศรษฐา ทวีสิน ' แห่งแสนสิริ ทวิตข้อความ ปลุกไทย แก้ปัญหา ความเหลื่อมล้ำในสังคม ประกาศ พร้อมเป็น 1% ที่จะเสียภาษีคนรวย - ภาษีความมั่งคั่ง หรือ ภาษีมรดก

30 พ.ย.2564 - สร้างกระแสร้อนแรงในสังคมโซเชียลมีเดีย ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับ นายเศรษฐา ทวีสิน บิ๊กซีอีโอ อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งล่าสุด นายเศรษฐา ได้ทวิตข้อความในบัญชี @Thavisin กล่าวถึง มาตรการทางภาษี ที่จะเป็นเครื่องมือในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะการผลักดัน ให้รัฐบาล จัดเก็บภาษีมรดก ภาษีคนรวย หรือ ภาษีความมั่งคั่ง จากการที่กลุ่มคนเหล่านี้ใช้ทรัพยากรประเทศเยอะ โดยระบุว่า ...


 ' ภาษีเป็นหนึ่งในเครื่องมือลดความ เหลื่อมล้ำที่เห็นผลที่สุด ถึงเวลาหรือยัง ที่เราควรเก็บภาษีมรดก ภาษีที่ดินและภาษีความมั่งคั่งจากคนรวย ท่านมีสินทรัพย์มหาศาล เพราะใช้ทรัพยากรประเทศเยอะ เมื่อท่านมีรายได้ ก็ต้องจ่ายภาษี. ..ผมเองก็ถือเป็น 1%คนมั่งคั่งของประเทศและพร้อมจะเสียภาษี  '

 

 'เศรษฐา ทวีสิน ' ปลุกไทย ลดเหลื่อมล้ำ  ประกาศ! พร้อมเสีย  'ภาษีคนรวย '



นายเศรษฐา ยังระบุอีกว่า  แม้ประเทศตั้งถูกคำถาม ถึงการนำภาษีมาใช้ไม่เกิดประโยชน์ แต่ ไม่ใช้เหตุผลในการปรับปรุงระบบภาษี หลังจากมีผู้ใช้ทวิตรายอื่น โต้แย้งถกประเด็นต่อ 

 

 'คอรัปชั่นกับการจ่ายภาษีคนละประเด็น ต้องแก้กันในต่างบริบทกันไป ไม่ใช่เหตุผลในการไม่ปรับปรุงภาษี '
 'เศรษฐา ทวีสิน ' ปลุกไทย ลดเหลื่อมล้ำ  ประกาศ! พร้อมเสีย  'ภาษีคนรวย '


ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่นายเศรษฐา ออกมาปลุกกระแส ให้ไทยเร่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม เพราะการออกสื่อหลายต่อหลายครั้งของนายเศรษฐา มีการหยิบยกประเด็นนี้ มานำเสนอและวิพากษ์วิจารณ์ จุดบอดของการพัฒนาประเทศไทย 

 

โดยนายเศรษฐา ระบุ ครั้งเกิดวิกฤติโควิด เศรษฐกิจย้ำแย่ โดยตั้งคำถามผ่านสื่อว่า ...เศรษฐกิจไทยควรเดินต่ออย่างไร โดยไม่ทอดทิ้งใคร

 

หยิบยก ภาพเศรษฐกิจไทย อ้างอิง ธนาคารโลก ซึ่งวิเคราะห์ไว้ว่า วิกฤติโควิดครั้งนี้ทำให้คนจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 1.5 ล้านคน บิ๊กซีอีโอแสนสิริ ต้องการให้ภาครัฐควรถือโอกาส "ยกการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นวาระแห่งชาติ" โดยมีมุมมองในด้านต่างๆ ดังนี้

 

โดยเฉพาะ การสนับสนุนให้รัฐต้องหาเงินมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มโดยเฉพาะ SME และธุรกิจท่องเที่ยวผ่านการกู้เพิ่ม และเก็บภาษีมรดกคนรวย

 'เศรษฐา ทวีสิน ' ปลุกไทย ลดเหลื่อมล้ำ  ประกาศ! พร้อมเสีย  'ภาษีคนรวย '

นายเศรษฐา ยังเคยกล่าวว่า วิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้เป็นอุบัติการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ทาง โดยเฉพาะการพังทลายของระบบเศรษฐกิจการค้าที่ยังหาจุดจบไม่ได้ และดูเหมือนทุกคนจะโดนผลกระทบเหมือนๆ กัน ซึ่งหากวิเคราะห์ จากตัวเลขสถิติต่างๆ ให้ดี สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือช่องว่างทางด้าน "ความมั่งคั่ง" ระหว่าง "คนมี" กับ "คนไม่มี"กำลังขยายตัวกว้างขึ้นอย่างน่ากลัวและจะเป็นการปรับฐานสมดุลย์ทางด้านความมั่งคั่งที่ทำให้โอกาสเกิดความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจเป็นไปได้ยากมาก

 

อย่างไรก็ดี ทุกประเทศมีวิธีแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน ผ่านนโยบายอัดเงินเข้าระบบ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย การแจกเงินการลดภาษี ผ่อนปรนหนี้ ฯลฯ แต่มาตรการเหล่านี้ไม่ใช่คำตอบที่ส่งผลให้เกิดความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ หรือช่วยลดช่องว่างทางด้านความมั่งคั่งลงได้

 

ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการออก American Rescue Plan Act ซึ่งนับเป็นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดยักษ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนรวมทั้งการออกมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจที่เรียกว่า CARES Act มากว่า 2.2 ล้านล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว ผลที่ตามมาและเกิดขึ้นคือกลายเป็นการช่วยทวีคูณความมั่งคั่งให้คนรวย 1% ที่อยู่ด้านบนของปิรามิดประชากรเป็นมูลค่าถึงกว่า 4.8 ล้านล้านเหรียญเลยทีเดียว ในขณะที่คน 80% ที่อยู่ด้านล่างฐานปิรามิดต้องแบ่งความมั่งคั่งมูลค่าแค่ 12,000 ล้านเหรียญเท่านั้น

 

ฐานเศรษฐกิจ เจาะลึก ย้อนไป สำนักข่าว VOA เคยนำเสนอ ข่าว ธนาคารโลกแนะนำให้รัฐบาลไทย พิจารณาปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้ สำหรับผู้ที่มีฐานะร่ำรวย เพื่อนำไปช่วยชำระหนี้ มูลค่าราว 45,000 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเกิดขึ้นจากการดำเนินมาตรการรับมือและป้องกันการระบาดของโควิด-19 อันรวมถึงค่าใช้จ่ายด้านวัคซีนด้วย

 

โดยระบุว่า ประเทศไทยมีมหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์อยู่ถึง 52 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสูงกว่าอิตาลี ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ด้วย ขณะที่หลายรายเดินหน้าขยายความมั่งคั่งของตนเพิ่มอีกหลายเท่าในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 อาทิ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์ และผู้ที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 18,100 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลการจัดอันดับประจำปี 2021 ของนิตยสารฟอร์บส

 

ขณะเดียวกัน อัตราภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากประชาชนนั้นยังอยู่ในระดับที่ถือว่าต่ำ แม้แต่ภาษีนิติบุคคลที่จัดเก็บอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคแล้ว มีเพียงสิงคโปร์และบรูไนเท่านั้นที่มีอัตราภาษีนิติบุคคลที่ต่ำกว่า

 

สำหรับ นายเศรษฐา ทวีสิน เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2506 อายุ 57 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการเงินจาก Claremont Graduate School สหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)(SIRI)  ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ซึ่ง ณ 30 กันยายน 2564 พบ แสนสิริ มีมูลค่าทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 116,413 ล้านบาท  โดยนายเศรษฐา มัก Call Out เกี่ยวข้องทางการเมืองอย่างน่าจับตามอง อีกทั้งล่าสุด เพิ่งเกิดกระแสข่าวลือหนาหู ว่าเป็น 1ในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของพรรคเพื่อไทยอีกด้วย