• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#2821


รถเช่าหาดใหญ่ บริการรับ-ส่ง สนามบินฟรี รถเช่าขับเอง พร้อมคนขับ 

ไม่ใช้บัตรเครดิต ราคาเริ่มต้น 800 บาท  โทร. 081-849-1625 Line ID : ohm_carrent

รถเช่าหาดใหญ่ ซันไชน์ คาร์เร้นท์ เปิดให้บริการรถเช่า หาดใหญ่ สงขลา 

โดยมีรุ่นรถให้บริการหลายรุ่น เช่น All New Camry 2018 , Honda Accord

Camry Hybird 2013 , Fortuner TRD  , Fortuner  , Altis 2015

Vios 2014-2018 , Yaris Ativ 2017-2018 , Yaris 5 ประตู 2014 

พร้อมบริการ และเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า ทางบริษัท รับ-ส่ง รถฟรีที่สนามบิน นึกถึง รถเช่าหาดใหญ่ 

รถเช่าหาดใหญ่ราคาถูก รถเช่าหาดใหญ่พร้อมคนขับ ให้ทางบริษัท หาดใหญ่ ซันไชน์ คาร์เร้นท์ 

ได้เป็นส่วนหนึ่งของท่านเมื่อมาท่องเที่ยว หรือทำงาน มีทั้งเช่าแบบรายวัน รายเดือน รายปี หรือตามตกลงกับทางลูกค้า
 
Tags :: รถเช่าหาดใหญ่,เช่ารถหาดใหญ่,รถเช่าสนามบินหาดใหญ่
 
#2822


นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 19 (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยรุนแรงขึ้น การฟื้นตัวจะช้าออกไปและไม่เท่าเทียมกันในแต่ละภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคบริการและการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนัก รายได้และการจ้างงานที่ลดลงส่งผลซ้ำเติมฐานะการเงินที่เปราะบางของธุรกิจและครัวเรือน

ดังนั้น เพื่อให้มาตรการทางการเงินช่วยบรรเทาผลกระทบได้มากขึ้นในระหว่างที่ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาด้านสาธารณสุข ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 จึงมีมติอนุมัติมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม ดังนี้

1. การรักษาสภาพคล่องและเติมเงินใหม่ให้กับลูกหนี้ SMEs และรายย่อย เพื่อให้สามารถหล่อเลี้ยงธุรกิจและเพียงพอต่อการดำรงชีวิต

(1) ปรับปรุงหลักเกณฑ์สินเชื่อฟื้นฟูสำหรับลูกหนี้ SMEs ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ธปท. อนุมัติสินเชื่อฟื้นฟูไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 92,316 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายร่วมระหว่าง ธปท. กับสถาบันการเงินที่ 1 แสนล้านบาทได้ก่อนเดือน ตุลาคม 2564 โดยสินเชื่อกระจายตัวได้ดีและครอบคลุมลูกหนี้จำนวน 30,194 ราย เฉลี่ยรายละ 3.1 ล้านบาท

ซึ่งเป็นลูกหนี้ธุรกิจขนาดเล็ก (ร้อยละ 42.6) ประกอบธุรกิจการพาณิชย์และบริการ (ร้อยละ 67.5) และเป็นลูกหนี้ที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด นอกเขตกรุงเทพและปริมณฑล (ร้อยละ 68.5) อย่างไรก็ดี ธปท. ประเมินว่าภาคธุรกิจยังมีความต้องการสินเชื่อฟื้นฟูเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะข้างหน้า


ที่ผ่านมา ธปท. ได้หารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งผู้ประกอบธุรกิจผ่านสมาคมต่าง ๆ เช่น หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อจำกัดต่าง ๆ ของมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู และเห็นควรให้ขยายวงเงินสินเชื่อ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีวงเงินสินเชื่อเดิมต่ำหรือไม่เคยมีวงเงินมาก่อน ที่เดิมอาจไม่ต้องพึ่งพาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน รวมถึงเพิ่มการค้ำประกันให้กับลูกหนี้กลุ่มเสี่ยง เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายที่เปราะบางได้มากขึ้น


(2) ผ่อนปรนหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสินเชื่อลูกหนี้รายย่อย ในส่วนของบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพื่อบรรเทาภาระการจ่ายชำระหนี้ ตลอดจนเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ที่มีความสามารถในการชำระหนี้เป็นการชั่วคราว โดย (1) ขยายเพดานวงเงินสำหรับบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท (2) คงอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิตที่เคยผ่อนคลายไว้ก่อนหน้า

และ (3) ขยายเพดานวงเงินและระยะเวลาชำระหนี้ของสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ทั้งนี้ การผ่อนปรนเกณฑ์ดังกล่าว จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อในระบบและลดความจำเป็นของลูกหนี้ที่อาจถูกผลักไปใช้สินเชื่อนอกระบบในระยะต่อไป


2. การแก้ไขหนี้เดิมให้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันและช่วยเหลือลูกหนี้ได้จริง ที่ผ่านมา สถานการณ์การระบาดมีความไม่แน่นอนสูง เดิมคาดว่าจะควบคุมได้และคลี่คลายในเวลาไม่นาน ทำให้เน้นการแก้ปัญหาแบบระยะสั้น เช่น การพักชำระหนี้เป็นครั้งคราว หรือปรับโครงสร้างหนี้แบบระยะสั้นเป็นหลัก แต่สถานการณ์มีแนวโน้มยืดเยื้อกว่าที่คาดมาก การแก้ปัญหาแบบเดิมจึงไม่ตอบโจทย์ และไม่ได้ทำให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้พูดคุยเพื่อประเมินสถานการณ์ หรือหาทางแก้ไขที่จะช่วยให้ภาระของลูกหนี้ลดลงจริง

ภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ธปท. จึงส่งเสริมให้เกิดการแก้ไขหนี้เดิมอย่างยั่งยืน โดยเน้นให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบระยะยาว และคำนึงถึงหลักการดังต่อไปนี้ (1) มองสถานการณ์ระยะยาว โดยกำหนดการจ่ายคืนหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ปัจจุบันที่ลดลงมากและทยอยจ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อรายได้กลับมา (2) สามารถช่วยลูกหนี้จำนวนมากได้เร็ว (3) ตรงจุดให้เหมาะกับ ปัญหาของลูกหนี้แต่ละรายที่มีปัญหาและการฟื้นตัวต่างกัน

(4) เป็นธรรมกับทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน นอกจากนี้ ต้องไม่สร้างแรงจูงใจที่ไม่เหมาะสม (moral hazard) ให้กับลูกหนี้ที่ไม่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ความช่วยเหลือไปสู่กลุ่มลูกหนี้ที่เป็นเป้าหมายที่แท้จริงอย่างได้ผล และรักษาสมดุลและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินโดยรวม

เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์การส่งผ่านความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ลูกหนี้ในภาวะวิกฤต ธปท. จึงได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ดังนี้


2.1  สถาบันการเงินสามารถคงการจัดชั้นสำหรับลูกหนี้รายย่อย และ SMEs (ตามนิยามของสถาบันการเงิน) ที่เข้าสู่กระบวนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว ได้จนถึง 31 มีนาคม 2565 เพื่อเอื้อให้สถาบันการเงินและลูกหนี้มีเวลาเพียงพอในการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิผลในระยะยาว

2.2  การใช้หลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำรองอย่างยืดหยุ่นไปจนถึงสิ้นปี 2566 เพื่อลดภาระต้นทุนสำหรับสถาบันการเงินที่ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างยั่งยืน ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยวิธีที่นอกเหนือไปจากการขยายเวลาการชำระหนี้เพียงอย่างเดียว เช่น การเปลี่ยนโครงสร้างสินเชื่อจากระยะสั้นเป็นระยะยาวร่วมกับการปรับโครงสร้างหนี้วิธีอื่น ๆ การปรับโครงสร้างหนี้ที่มีการให้สินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูกิจการลูกหนี้ รวมถึงการลดภาระการผ่อนชำระให้ลูกหนี้ ซึ่งจะช่วยจูงใจให้เกิดการส่งผ่านความช่วยเหลือไปยังลูกหนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ

2.3  การขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุน FIDF เหลือร้อยละ 0.23 จากร้อยละ 0.46 ต่อปี ที่จะสิ้นสุดสิ้นปี 2564 นี้ ออกไปจนถึงสิ้นปี 2565 เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถส่งผ่านต้นทุนที่ลดลงไปในการบรรเทาผลกระทบต่อภาคธุรกิจและประชาชนได้อย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์ COVID-19 ที่ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง

การขับเคลื่อนให้มาตรการสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบได้จริงและรวดเร็วทันสถานการณ์เป็นหัวใจสำคัญ ที่ผ่านมา ธปท. ได้หารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องเพื่อรับทราบอุปสรรค ข้อจำกัด และข้อเสนอแนะต่าง ๆ จากลูกหนี้ทั้งรายย่อยและธุรกิจ รวมถึงสถาบันการเงินที่เป็นกลไกหลัก และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อปรับปรุงมาตรการให้ตอบโจทย์และตรงจุดยิ่งขึ้น

ซึ่ง ธปท. จะยังติดตามและวิเคราะห์แนวทางต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะทางเลือกในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งจะจัดทำขึ้นเพื่อรองรับลูกหนี้แต่ละกลุ่ม (product program) รวมทั้งเร่งผลักดันให้สถาบันการเงินมีแนวทางดูแลลูกหนี้ที่ชัดเจนและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศในภาพรวม
#2823


นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานของครึ่งปีแรกปี 2564 มีรายได้จากการขาย 1,401.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวด 6 เดือนแรกของ ปี 2563 ซึ่งมีรายได้จากการขาย 849.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 552.57 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65.08% บริษัทมีรายได้รวม 522.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.99 ล้านบาท ในไตรมาส2/2564 ทำให้มีมีผลประกอบการ 6 เดือน กำไรสุทธิ 132.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีต้นทุนทางการเงินลดลง ร้อยละ 47.58 ด้วยปัจจัยสนับสนุนความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการแนวราบในระดับราคา 3-5 ล้านบาทอยู่ในระดับสูง บริษัทพร้อมเดินตามแผน เตรียมพัฒนาโครงการใหม่ตลาดระดับราคาบ้าน 3-5 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพหลัก อาทิโซนเหนือ และโซนตะวันออก ในไตรมาส 3 นี้ เพื่อเร่งหนุนรายได้ทั้งปีโตอย่างต่อเนื่อง

"เอ็น.ซี มีการปรับตัวได้ดี มีการควบคุมเข้มเรื่องการบริหารต้นทุนในองค์กร มีระบบบริการออกมาดูแลลูกค้า ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยผนวกนวัตกรรม Smart Eco, Smart Care"

นายสมนึก กล่าวถึงสถานการณ์ COVID-19 ยังส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคยังมีความไม่มั่นใจ อย่างไรก็ตามในไตรมาส 3 เอ็น.ซี มีความพร้อมที่จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนยอดขายให้เติบโต สำหรับยอดขาย เป็นที่น่าพอใจสามารถทำยอดขายได้กว่า 2,200 ล้านบาท

พร้อมยังกล่าวเสริมต่อ เอ็น.ซี คงมุ่งเดินหน้าเพื่อเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ในปี 2564 ตามเป้า 7 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท พัฒนาสินค้าทาวน์เฮาส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ด้วยราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดบ้านแนวราบ โดยขยายทำเลเพิ่มครอบคลุมพื้นที่ 4 ทำเลศักยภาพ (โซนเหนือ , โซนตะวันตก,โซนใต้ และโซนตะวันออก ของกรุงเทพฯและปริมณฑล) เพิ่มกำลังการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัยขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มตลาดบ้านแนวราบ ทำให้ เอ็น.ซี มีความพร้อมที่จะเดินตามแผน ในตลาดศักยภาพใหม่ๆ รุกต่อด้วยเป้ายอดขาย 3,500 ล้านบาท และรับรู้รายได้ปีที่ 2,000 ล้านบาท.
#2824


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 66.57 จุด หรือ 0.19% ปิดที่34,894.12 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 5.53 จุดหรือ 0.13% ปิดที่ 4,405.8 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 15.87 จุดหรือ 0.11% ปิดที่ 14,541.79 จุด


หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ต่างร่วงลงในการซื้อขายวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเช่นกัน ตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงเกือบ 4%

ทั้งนี้ รายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องที่จะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีในปีนี้

ปัจจุบัน เฟดซื้อพันธบัตรตามมาตรการคิวอีอย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (เอ็มบีเอส) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟดควรทำการประกาศในเดือนหน้าเกี่ยวกับไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินคิวอี และเริ่มทำการปรับลดคิวอีในเดือนต.ค.

คำกล่าวของนายแคปแลนสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ที่ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับลดวงเงินคิวอี ภายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ขณะที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด กล่าวเช่นกันว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีภายในเดือนต.ค.

นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมดังกล่าว


นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่โกลด์แมน แซคส์ ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 เหลือ 5.5% จากเดิมที่ระดับ 9% โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในช่วงที่เหลือของปีนี้

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไร้ทิศทางในวันนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน อย่างไรก็ดี เฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจมิด-แอตแลนติกต่ำสุดรอบ 8 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐ
#2825


กลับมาแล้วสำหรับรายการกีฬาที่จะทำให้คุณดู.ไม่เหงาอีกต่อไป กับ "Live Score" ซีซั่น 3 มาพร้อมกับการเปิดสนาม English Premier League 2021/2022 ในฤดูกาลนี้ที่ทุกคนรอคอย Online Station และ True Sprot Network ยกทัพนักพากย์ฝีปากดีลุ้น.ไปพร้อมกันตลอด 90 นาทีเต็ม พร้อมแพ๊คเกจ True Premier Football ที่จะต้องร้องว้าว...

ยังคงคอนเซปต์ "ถึง.จะแพ้ แต่ฝีปากเราไม่แพ้" สำหรับรายการ "Live Score" ที่เดินทางมาถึงซีซั่นที่ 3 และพร้อมเสริฟความมันส์แบบทวีคูณสร้างสีสันในทุกแมตช์การแข่งขัน การันตีด้วยผู้ชมรวมกว่า 35 ล้านวิวตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา และยังสร้างปรากฏการณ์ ยอดผู้เข้าชม พร้อมกันแบบสดๆ กว่า 2 แสนคนมาแล้ว ในฤดูกาลนี้ Live Score พร้อมแล้วที่จะกลับมาสร้างปรากฏการณ์นี้อีกครั้ง และพาแฟนๆคอ.ไปนั่งเชียร์ ร่วมลุ้นเหมือนหลุดเข้าไปในสนาม

พร้อมกับกูรูของ 4 ทีมชั้นนำ Liverpool, Arsenal, Chelsea และ Manchester United พร้อมด้วยเหล่าบรรดาแฟนพันธุ์แท้ ของแต่ละทีมนำโดย พ่อป๋อง – กพล ทองพลับ, นิค NRsportsRadio, แตงโม – พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน และ พีชชี่ – วรันธร ที่ในซีซั่นนี้เสริมทัพความมันส์ด้วย แจ๊คเล็ก , ตูเต้ – ภูริภัทร , วาว-จารุวัฒน์ ,ต๊อบ จากช่องLomball, เก่ง มนต์ชัย ,DJ ปาล์ม ,บิ๊กแชมป์ และ ครั้งแรกของ ฟลุ๊ค - ธีรยุทธ บัญหนองสา ที่ขอโดดลงมาร่วมในครั้งนี้ด้วย และขอจูงมือเหล่าเซเลบริตี้ที่คลั่งไคล้ในทีมเดียวกัน ที่จะคอยสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียน มาร่วมวิเคราะห์ เพิ่มบรรยายกาศการเชียร์ให้ได้อรรถรสมากขึ้น ตลอดการลงสนาม 90 นาทีเต็ม ตลอดฤดูกาล ที่จะมานั่งลุ้น.ไปด้วยกัน

สามารถติดตามทุกแมตช์สำคัญได้ที่ ID Station และไม่พลาดกับ 4 ทีมใหญ่ บนช่องทางของ Sports Influencers เหล่านี้

● เชียร์ลิเวอร์พูล
FB : https://bit.ly/FBNRsportsradio
YT : https://bit.ly/OS_NRsport

● เชียร์แมนยูฯ
FB : https://bit.ly/FBTrueSportNetwork
YT : https://bit.ly/OS_TrueSportNetwork

● เชียร์เชลซี
FB : https://bit.ly/FBTangMO
YT : https://bit.ly/YTTangMo

● เชียร์อาร์เซนอล
FB : https://bit.ly/FBsportrelaxfm99
YT : https://bit.ly/YTTheShockTV

ไปลุ้นและเชียร์.พร้อมกันใน English Premier League ฤดูดาล 2021/2022 กว่า 380 เกมการแข่งขันกับรายการ "Live Score" จะพาทุกคนไปเกาะติดทุกแมตช์การแข่งขัน ทุกช็อตไฮไลท์สำคัญที่คุณจะไม่พลาด สดตามเวลาการแข่งขัน ตลอดฤดูกาล เหมือนนั่งเชียร์อยู่ในสนามไปพร้อมๆ กัน และยังสามารถเลือกแพ็คเกจที่ตรงใจตอบโจทย์ทุกสไตล์ในการดู. ได้ที่: https://trueid.onelink.me/KupK/ac673431 รับชมได้ที่ทรูไอดี ทั้งบนแอป เว็บ และกล่องทรูไอดี ทีวี

มันส์กว่าแน่ที่แท้ทรู ทรูพรีเมียร์ลีก สดทุกที่ สุดทุกเวลา และดูสดฟรีๆมากกว่า 100 แมตช์ตลอดฤดูกาลที่ทรูไอดี แอปเดียวครบ จัดเต็มทุกอารมณ์.
#2826


นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานเปิดงานสัมมนา "โครงการพัฒนาระบบชำระค่าภาษีอากรด้วยบัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Tax Compensation : DTC)" เพื่อให้ผู้ประกอบการหรือตัวแทนเข้าใจการชำระเงินค่าภาษีอากรด้วยบัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 500 คน ผ่านระบบ Video Conference : Zoom Cloud Meeting

นายพชรเผยว่า งานสัมมนาในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกรรมในระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับชำระค่าภาษีอากร โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ การยื่นขอรับเงินชดเชยค่าภาษีอากร การเปลี่ยนบัตรภาษีกระดาษเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ การชำระค่าภาษีอากรด้วยบัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากร กรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต เป็นต้น

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

สำหรับในส่วนของกรมศุลกากรผู้เข้าร่วมสัมมนาจะมีความเข้าใจในระบบการชำระค่าภาษีอากรด้วยวงเงินชดเชยอิเล็กทรอนิกส์พร้อมกับใบขนสินค้าขาเข้าและใบขนสินค้าขาออก ซึ่งจะสามารถชำระเงินค่าภาษีอากรด้วยบัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง และไม่ต้องเดินทางมายังกรมศุลกากร ซึ่งจะทำให้การดำเนินธุรกิจมีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนโครงการ National e-Payment ตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะเริ่มใช้วันที่ 21 ก.ย.นี้เป็นต้นไป

อธิบดีกรมศุลกากรกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา กรมศุลกากรมีช่องทางการชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แล้ว 2 ช่องทาง ดังนี้ 1. การชำระเงินโดยวิธีตัดบัญชีธนาคาร e-Payment และ 2. การชำระเงินโดยผ่านช่องทางการให้บริการของธนาคาร/ตัวแทนรับชำระเงิน Bill Payment และ ในครั้งนี้กรมศุลกากรได้เปิดตัว บัตรภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ก็จะครบกระบวนการ การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากรเป็น 100% อีกทั้ง ยังลดการเดินทาง ลดการสัมผัส ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด – 19 อีกด้วย

ทั้งนี้ ขณะนี้ ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกเกือบทั้งหมดเข้ามาใช้บริการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ที่กรมฯจัดทำขึ้น เหลือเพียงประมาณ 5%เท่านั้น ที่ชำระด้วยเงินสด
#2827


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "Innovation Beyond Business โอกาสนวัตกรรมเศรษฐกิจ" ในการสัมนา Virtual Forum  Thailand next#1 ว่าการพัฒนานวัตกรรมมีส่วนอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ รวมทั้งการต่อสู้กับโรคระบาดอย่างโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ซึ่งเราเห็นตัวอย่างจากชาติตะวันตกที่มีความรู้เรื่องนวัตกรรมมีการสั่งสมองค์ความรู้ทางด้านการแพทย์ และวิทยาศาสตร์มาอย่างยาวนานก็สามารถที่จะผลิตวัคซีน-19 ได้ภายในระยะ 1 ปี จากปกติที่ต้องใช้เวลากว่า 8 ปี 

ประเทศไทยยังไม่มีการสั่งสมองค์ความรู้ที่เป็นนวัตกรรมมากนักที่ผ่านมาการลงทุนของภาคเอกชนมีมาอย่างต่อเนื่องและมีการลงทุนซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตโดยในช่วงที่ผ่านมาขนาดของเศรษฐกิจของไทยมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน 

ส่วนนวัตกรรมที่บางส่วนเกิดจากการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไม่มากนัก โดยก่อนหน้านี้ระดับของ FDI ต่อจีดีพีของไทยอยู่ที่ 1-2% ของจีดีพีเท่านั้น 


อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร และด้านอื่นๆเพื่อให้เกิดการลงทุนเพิ่มเติมของภาคเอกชนทั้งในและนอกประเทศ 

ขณะที่การปรับตัวเรื่องภาคส่วนต่างๆของเศรษฐกิจ เช่นการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 โดยเฉพาะในเรื่องของภาคการท่องเที่ยวที่จะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวในปริมาณที่ลดลงเน้นคุณภาพมากขึ้นและมีระบบสาธารณสุขรองรับเป็นอย่างดีซึ่งก็จะช่วยให้ประเทศไทยใช้เครื่องยนต์ทางการท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มากขึ้น 

ส่วนการเปิดรับนักลงทุนที่รัฐบาลพยายามเตรียมความพร้อมที่จะรับการลงทุนจากต่างประเทศนั้นมีการเตรียมความพร้อมโครงการต่างๆในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีการสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องเช่น เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ "EECi หรือ  เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Park Thailand) หรือ "EECd" ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและการพัฒนานวัตกรรม 

นอกจากนั้นยังมีแนวนโยบายที่พัฒนาเศรษฐกิจสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกคือเรื่องของการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยคาร์บอนไดร์ออกไซด์ สังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะมีการลงทุนของบริษัทขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับแนวทางนี้เช่นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น  
#2828





SHIPPOP สาขาตะลุโบะ จ.ปัตตานี
ร้านรับส่งพัสดุด่วน
ที่รวบรวมขนส่งชั้นนำ พร้อมให้บริการ

ไปรษณีย์ไทย
Flash Express
CJ Logistics
Ninja Van
SCG Express
 Best Express
 J&T Express

#Flashhome #แฟลช #แฟลชโฮม #shippop #ชิ๊ปป๊อบ
#BEST #ส่งของ #ส่งพัสดุ #BESTEXPRESSTHAILAND #BESTEXPRESS #BESTFSCENTER #แพ็กพัสดุ #เคล็ดลับแพ็กพัสดุ #แพ็กพัสดุมือโปร
#NinjaVanThailand #NinjaVan #นินจาแวนส่งเร็วทันใจทั่วประเทศ
#ส่งวันถัดไป #นินจาแวนเข้ารับพัสดุฟรี #นินจาแวน #นินจาแวนส่งทั่วไทย
#นินจาแวนรับพัสดุทั่วไทย

ส่งของไปต่างประเทศได้แล้ววันนี้

Namyong Worldwide Express
#ส่งพัสดุไปต่างประเทศ #ส่งพัสดุด่วนไปต่างประเทศ #ส่งของไปต่างประเทศ

ใช้บริการได้แล้วที่ร้านรับฝากส่งพัสดุ
ใกล้บ้านคุณได้เเล้ววันนี้

แผนที่ร้านครับ
https://g.page/shippop-pn?share

facebookร้าน
https://www.facebook.com/shippop.pn

เข้ามาใช้บริการได้ครับ
โทร 093-6515445
 
 ปัตตานี pattani ชิ๊ปป๊อบ shippop flash best dhl ตะลุโบะ ส่ง พัสดุ
#2829


นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินการเชื่อมระบบแพลตฟอร์มดิลิเวอร์รี่การส่งสินค้า อาหารและบริการต่างๆเข้ากับระบบโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล คาดว่า จะเริ่มนำมาใช้ได้ภายในเดือนต.ค.นี้ ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่งของรัฐบาลได้ดำเนินการอยู่ในเฟสที่ 3


สำหรับผู้ประกอบการดิลิเวอร์รี่ที่คาดว่า จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 มีจำนวนประมาณ 6 ราย ประกอบด้วย ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า โรบินฮู้ด แกร็บฟู้ด โกเจ๊ก และช้อปปี้ฟู้ด ทั้งนี้ เมื่อสามารถเชื่อมโยงระบบด้วยกันได้แล้ว ทางกระทรวงการคลังจะเปิดให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ได้สมัครเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง

"เมื่อเราสามารถจัดการเชื่อมระบบของผู้ประกอบการดิลิเวอร์รี่กับคนละครึ่งได้แล้ว คาดว่า เราจะเปิดให้ใช้บริการได้ราวต้นเดือนต.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เราจะทำการเติมเงินคนละครึ่งในรอบที่สอง"

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

ผู้อำนวยการสศค.กล่าวว่า การดำเนินการเชื่อมระบบดังกล่าว จะเป็นช่องทางการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้ร่วมโคงการคนละครึ่ง ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวก เนื่องจาก สถานการณ์โควิด-19 ทำให้การจับจ่ายใช้สอยแบบเฟสทูเฟสมีความยากลำบาก เมื่อนำแพลตฟอร์มดิลิเวอร์รี่มาใช้ ก็จะทำให้การจับจ่ายใช้สอยมีความคล่องตัวมากขึ้น ก็จะทำให้ยอดการใช้จ่ายในโครงการเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ ยอดการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งอยู่ที่จำนวน 5.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น การใช้จ่ายผู้ร่วมโครงการ 2.92 หมื่นล้านบาท และ การเติมเงินของรัฐบาล 2.84 หมื่นล้านบาท


ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้นั้น มียอดการใช้จ่ายอยู่ที่ 1.25 พันล้านบาท ซึ่งถือว่า ยังมีจำนวนที่ไม่มากนัก ซึ่งเราก็เตรียมที่จะเชื่อมแพลตฟอร์มผู้ให้บริการดิลิเวอร์รี่สินค้าประเภทอาหารที่จดทะเบียนนิติบุคคลเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ด้วย เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้จ่ายของผู้ร่วมโครงการด้วย

สำหรับจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ ล่าสุด โครงการคนละครึ่งอยู่ที่ 26.7 ล้านราย ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้อยู่ที่ 4.67 แสนราย
#2830


วันนี้ (17 ส.ค.) นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย อสม. หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน มีบทบาทสำคัญในการช่วยภาครัฐลงพื้นที่ค้นหากลุ่มเสี่ยงหรือติดตามผู้สัมผัสโรค เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง หรือแยกผู้ต้องถูกกักตัว เพื่อลดการแพร่ระบาดในหมู่บ้านหรือชุมชน รวมถึงให้ความรู้เรื่องสาธารณสุขต่างๆ ช่วยดูแลประชาชนและกิจกรรมกิจการต่างๆ เป็นไปตามมาตรการป้องกัน โรคโควิด 19 ของกระทรวงสาธารณสุข ส่งผลให้การดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับ อสม.ในการเฝ้าระวังและคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด 19 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 2 พิษณุโลก ร่วมกับภาคีเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการตรวจโรคโควิด 19 ด้วยตนเอง โดยชุดทดสอบ Antigen Test Kit ให้แก่ อสม. ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ประกอบด้วย การอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมความพร้อม ฝึกปฏิบัติการใช้ชุดทดสอบและ ประเมินความรู้ ความเข้าใจในการใช้ชุดทดสอบ เพื่อให้สามารถนำเอาความรู้ที่ได้ไปแนะนำให้แก่ประชาชนในชุมชน ของตนเอง รวมทั้งมีความรู้ ความเข้าใจในการตรวจด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง ช่วยสนับสนุนการค้นหาผู้ป่วยในเชิงรุก ในชุมชน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างทันสถานการณ์ นำไปสู่การจัดการปัญหาสุขภาพจากโรคโควิด 19 ในพื้นที่เสี่ยงของจังหวัดพิษณุโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่ผ่านมาศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 2 พิษณุโลก ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศ โดยพัฒนางานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพในชุมชนและการส่งเสริมความเข้มแข็ง ภาคประชาชน ผ่านกลไกการจัดตั้งและพัฒนาศูนย์แจ้งเตือนภัย เฝ้าระวัง และรับเรื่องร้องเรียนปัญหาผลิตภัณฑ์สุขภาพ ในชุมชน และการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ และ อสม.หมอประจำบ้าน เป็น อสม.นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชนได้อย่างทั่วถึงและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่

"ปัจจุบันจังหวัดพิษณุโลก มี อสม.วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชนที่ผ่านการอบรมกว่า 300 คน โดยมีศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 2 พิษณุโลก เป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนและส่งเสริมด้านองค์ความรู้ และเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้เกิดกลไกในการขับเคลื่อนงานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน โดยมี อสม. เป็นกำลังสำคัญหลักของเครือข่ายระดับปฐมภูมิ ซึ่งกิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการใช้ชุดทดสอบ Antigen Test Kit แก่ อสม. นับเป็นการเตรียมความพร้อมตามนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจคัดกรอง โรคโควิด 19 ได้ด้วยตนเอง เพื่อเป็นการจำแนกผู้ป่วยออกจากผู้ติดเชื้อและเข้าสู่ระบบการรักษา ควบคุมโรคในระดับชุมชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง" นายแพทย์ศุภกิจ กล่าว
#2831


วานนี้ ( 16 ส.ค.2564) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สถากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แถลงข่าว 'แพทย์จุฬาแจ้งข่าวดี ทดสอบวัคซีน ChulaCOV19 ในอาสาสมัคร เร่งวิจัยระยะต่อไป'

'ChulaCOV19' ทดลองในอาสาสมัครประสิทธิภาพเทียบเท่าไฟเซอร์
โดยมี ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่ารพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และศูนย์วิจัย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้มีการพัฒนา วิจัย ต่อยอด คิดค้น ผลิตวัคซีน เพื่อใช้ในการป้องกันโรคต่างๆ มาให้แก่ประชาชน รวมถึง โรคโควิด-19 ได้มีการทดสอบวัคซีน ChulaCov19 ในอาสาสมัครในระยะที่ 1 และต่อเนื่องไปในระยะที่ 2 ภายใต้การควบคุมดูแลจากหลายภาคส่วน รวมถึงมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มาดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัยสูงสุดของการทดสอบฉีดวัคซีน 


ด้าน ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าจากการพัฒนาวัคซีนนี้ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ทุนศตวรรษที่สอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเงินบริจาคจากสมาคมศิษย์เก่าแพทย์จุฬาฯ กองทุนบริจาควิจัยวัคซีน สภากาชาดไทย  

ทั้งนี้ วัคซีน ChulaCov19 เป็น วัคซีนชนิด mRNA ที่ได้มีการทดลองในสัตว์ทดลองทั้งหนู และลิง พบว่ามีประสิทธิภาพ สร้างภูมิคุ้มได้ในระดับสูง ต่อมามีทดลองในกลุ่มอาสาสมัคร อายุ 18-55 ปี จำนวน 36 คน ในเดือนมิ.ย. พบว่า  ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงใดๆ มีผลข้างเคียงอยู่ในระดับเล็กน้อยหรือปานกลาง เช่น มีอาการอ่อนเพลีย เป็นไข้ต่ำๆ และมีอาการหนาวสั่นบ้างในกลุ่มอาสาสมัครที่ได้เข็ม 2  ซึ่งอาการต่างๆ จะดีขึ้นภายในเฉลี่ยประมาณ1-3 วัน

สมัครผ่อนของ 0% 40 เดือนกับ Citi คลิกเลย

'ChulaCOV19' ป้องกันการข้ามสายพันธุ์โควิด-19
"ผลการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครที่ฉีดวัคซีน  ChulaCov19 พบว่า สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิดแอนตี้บอดี้ ได้เทียบเท่ากับวัคซีนชนิด mRNA อย่าง ไฟเซอร์ โดยสามารถยับยั้งการจับโปรตีนที่กลุ่มหนามได้ 94% เท่ากับไฟเซอร์ 94%   รวมถึงสามารถกระตุ้นแอนตี้บอดี้ได้สูงมากในการยับยั้งสายพันธุ์ดั้งเดิม แอนตี้บอดี้ที่สูงนี้สามารถยับยั้งเชื้อข้ามสายพันธุ์ได้ทั้ง 4 สายพันธุ์ คือ อัลฟ่า เบต้า แกมม่า และเดลต้า อีกทั้งสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิด T-cell ซึ่งจะช่วยขจัดและควบคุมเชื่อที่อยู่ในเซลล์ของคนที่ติดเชื้อได้" ศ.นพ.เกียรติ กล่าว

วัคซีน ChulaCov19 เป็นการคิดค้นออกแบบและพัฒนาโดยคนไทยจากความร่วมมือสนับสนุนโดยคุณหมอนักวิทยาศาสตร์ผู้คิดคนเทคโนโลยีนี้คือ Prof.Drew Weissman มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย วัคซีน ChulaCov19 ผลิตโดยสร้างชิ้นส่วนขนาดจิ๋วจากสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา (โดยไม่มีการใช้ตัวเชื้อแต่อย่างใด) ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมขนาดจิ๋วนี้เข้าไป จะทำการสร้างเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนปุ่มหนามของไวรัสขึ้น (spike protein) และกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันไวเตรียมต่อสู้กับไวรัสเมื่อไปสัมผัสเชื้อ เมื่อวัคซีน mRNA ทำหน้าที่ให้ร่างกายสร้างโปรตีนเรียบร้อยแล้ว ภายในไม่กี่วัน mRNA นี้จะถูกสลายไปโดยไม่มีการสะสมในร่างกายแต่อย่างใด


 ทั้งนี้ การทดสอบดังกล่าว เป็นไปในระยะที่ 1 แบ่งออกเป็นสองกลุ่มอายุ จำนวน 72 คน

กลุ่มแรก เป็นอาสาสมัครผู้ที่มีอายุ 18-55 ปี ทดสอบจำนวน 36 คน
กลุ่มที่สอง เป็นอาสาสมัครผู้ที่มีอายุ 65-75 ปี ทดสอบจำนวน 36 คน
ในจำนวนสองกลุ่มข้างต้นจะแบ่งเป็นกลุ่มย่อยที่ฉีดวัคซีน 10 ไมโครกรัม,  25 ไมโครกรัม และ 50 ไมโครกรัม เพื่อดูว่า วัคซีน ChulaCov19 มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ปริมาณเท่าใด เพราะปัจจุบันโมเดอร์นาใช้วัคซีนปริมาณ 100 ไมโครกรัม ส่วนไฟเซอร์ใช้ 30 ไมโครกรัม ทางศูนย์ฯ ต้องศึกษาว่าคนไทยหรือเอเชียเหมาะกับการฉีด 10 หรือ 25 หรือ 50 ไมโครกรัม  จะได้รู้ขนาดที่ปลอดภัยและกระตุ้นภูมิได้สูง หลังจากนั้นจึงเข้าสู่การทดสอบทางคลินิกระยะที่ 2

เดินหน้าเฟส 2 ทดลองในอาสาสมัคร 25 ส.ค.นี้
ศ.นพ.เกียรติ กล่าวต่อว่าผลการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครเป็นการดำเนินการเบื้องต้น ซึ่งในปลายสัปดาห์นี้จะมีการประชุมหารือ เพื่อหาปริมาณของโดสที่ใช้ในการดำเนินการขั้นต่อไป  และการดำเนินการตอนนี้จะเป็นไปทีละขั้นตอนคงไม่ได้ เพราะต้องแข่งกับเวลา เราได้มีการดำเนินการในเฟส 2 แบ่งเป็น 2a และ2b ซึ่งในส่วนของ 2a จะมีการคัดกรองอาสาสมัคร 150 ท่าน  และคาดว่าจะเริ่มทดสอบเปรียบเทียบวัคซีน ChulaCov19 กับวัคซีนชนิด mRNA อย่างไฟเซอร์ ประมาณ 25 ส.ค.นี้  ก่อนจะดำเนินการในส่วน 2b ซึ่งจะใช้งบประมาณ 500-600 ล้านบาท 


ส่วนเฟส3 จะดำเนินการหรือไม่อย่างไรนั้น ต้องอยู่ที่กติกาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งจะคาดว่าจะกำหนดกติกาการขึ้นทะเบียนวัคซีนชนิด mRNA ที่ผลิตโดยคนไทย จะออกมาในเดือนก.ย.นี้ ก็จะทำให้วัคซีนของคนไทยทั้ง 4 ทีม ได้รู้ว่าการจะขึ้นทะเบียนต้องดำเนินการอะไรบ้าง และหากกติกาอย. ให้สามารถขึ้นทะเบียนได้ในเฟส 2 โดยวัคซีนที่ผลิตโดยคนไทย มีประสิทธิภาพมากกว่าวัคซีนชนิด mRNA ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศและได้ขึ้นทะเบียนในเมืองไทย เชื่อมั่นว่าภายในเม.ย.2565 ประเทศไทยจะมีวัคซีนชนิด mRNA ที่ผลิตโดยคนไทยใช้ในการกระตุ้นเข็ม 3 อย่างแน่นอน

ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ตายสูง! พบเสียชีวิต 239 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 20,128 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,102 ราย
ด่วน! ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นัดลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด 20,000 ราย
'ChulaCOV19' ประสิทธิภาพเทียบเท่า 'ไฟเซอร์' คาดทันใช้กระตุ้นเข็ม 3
ตั้งเป้า'ChulaCov19' ผลิตใช้ฉีดให้คนไทยเม.ย.65
"ปี2565 เชื่อว่าคนไทยเกิน 80-70% ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น วัคซีนทั้ง 4 ทีม ที่คนไทยกำลังพัฒนา ผลิตอยู่นี้จะใช้เป็นการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 โดยในส่วนของวัคซีน ChulaCov19 ถ้ากติกาของอย.ไม่จำเป็นต้องทดลองในเฟส 3 ประมาณเดือนเม.ย.ปี2565 คนไทยจะได้ฉีดวัคซีนดังกล่าวอย่างแน่นอน อีกทั้งวัคซีนชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการข้ามสายพันธุ์ได้ดีมาก และตอนนี้มีข้อมูลยืนยันชัดเจน ว่าวัคซีน ChulaCov19 สามารถอยู่ในอุณหภูมิตู้เย็น (2-8 องศาเซลเซียส) ได้นานถึง 3 เดือน และเก็บในอุณหภูมิห้อง (25 องศาเซลเซียส) ได้นาน 2 สัปดาห์ ซึ่งทำให้การจัดเก็บรักษาง่ายกว่าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ยี่ห้ออื่น เป็นอย่างมาก" นพ.เกียรติ กล่าว

นอกจากนั้น ขณะนี้ จุฬาฯ ได้มีการเตรียมโรงงานในการผลิตจากโรงงานของบริษัทไบโอเนท-เอเชีย จำกัด ในประเทศไทย ซึ่งมีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตรองรับมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งหากผลการศึกษาวิจัยสำเร็จตามแผนจะใช้โรงงานแห่งนี้ในการผลิตวัคซีนโควิด ชนิด mRNAของจุฬาฯ โดยคาดว่าโรงงานจะสามารถผลิตได้ 30-50 ล้านโดสต่อปี ทำให้สามารถปิดช่องว่างวงจรการผลิตวัคซีนในไทยได้


4 ข้อที่จะทำให้ไทยมี 'วัคซีนโควิด-19' ของตนเอง
นพ.เกียรติ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้คนไทยต้องงดเสพสื่อที่จะมองลบอย่างเดียว ถ้าประเทศไทยต้องการให้มีอย่างน้อย 1 ใน 4 วัคซีนที่ได้รับการรับรอง ภายในเม.ย.2565 ซึ่งการจะทำให้ไทยมีวัคซีนของตนเองได้นั้น ต้องมี 4 อย่าง คือ

1.ไทยต้องไม่บริหารระดมทุนแบบเดิม ต้องมีเป้าหมายร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคปราชน ต้องมีงบที่เพียงพอรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ  ซึ่งในส่วนของวัคซีนนี้ ควรจะมีการระดมทุนกองไว้ 2,500-3,000 ล้านบาท เพราะถ้าทำถึง 2 b จะต้องใช้งบประมาณ 500-600 ล้านบาท แต่ถ้าจะเฟส 3 ซึ่งจะมีการทดลองในอาสาสมัครประมาณ 10,000 กว่าคน คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1,500 ล้านบาท และอีก1,000 ล้านบาท สำหรับวัตถุดิบ โดยตอนนี้ได้มีการจองวัตถุดิบล่วงหน้าไว้แล้ว แต่ยังไม่มีเงินไปจองเขา ทำให้เราติดขัดในเรื่องนี้ หากมีระดมทุนกองไว้อย่างชัดเจน คาดว่าจะได้วัคซีน 1 ตัวขึ้นทะเบียนภายในปีหน้า อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวถ้าระบบการบริหารติดกับดักราชการแบบไทย คงไม่สามารถทำได้

2.กติกาในการขึ้นทะเบียนวัคซีน ต้องมีกติกาออกมาชัดเจน ภายในเดือนก.ย. จากอย. ว่าการขึ้นทะเบียนจะต้องทำวิจัยระยะ2บี หรือระยะ3อย่างไรจึงจะเพียงพอ

3.โรงงานผลิต จะต้องเร่งดำเนินการ ให้สามารถผลิตวัคซีนที่มีคุณภาพและจำนวนมาก

4.นโยบายการจองและจัดซื้อวัคซีนล่วงหน้าต้องมีความชัดเจน

นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่าการที่จุฬาฯ เดินมาถึงจุดนี้ได้เป็นเรื่องน่ายินดี อย่างมาก เพราะถือเป็นการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความท้าทาย เนื่องจากทั้งการศึกษาวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยี และการพัฒนาวัคซีนในขั้นตอนต่างๆ ที่ต้องเร่งแข่งกับเวลา การที่จุฬา ได้ดำเนินการทดลองในอาสาสมัครเป็นเรื่องน่ายินดี และชื่นชม สถาบันวัคซีนฯมีทิศทางสนับสนุนการพัฒนาวิจัยพัฒนาวัคซีนในประเทศอย่างชัดเจน แต่การที่มีทุนสนับสนุนอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องมีนักวิจัยที่เก่ง และออกแบบงานวิจัยได้ดี

"แม้ว่าเราจะทำได้ช้ากว่า แต่เราก็ได้วัคซีนที่เมื่อมาเปรียบเทียบกับวัคซีนชนิด mRNA ที่มีอยู่ ประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยกว่า ซึ่งเชื่อว่าถ้าเราทดลองในระยะที่ 2 จะทำให้เรามีวัคซีนใช้เอง มีความยั่งยืน ยืนอยู่บนขาตัวเอง อีกทั้งรูปแบบการพัฒนาวัคซีนสามารถใช้ในการป้องกัน และรักษาโรคอื่นได้ นอกเหนือจากโควิด-19 ถ้าเราสามารถวิจัยพัฒนาวัคซีนชนิด mRNA   ได้สำเร็จก็จะเป็นพื้นฐาน ในการรับมือกับโรคติดต่ออุบัติใหม่ และโรคมะเร็งต่างๆ ต่อไป"นพ.นคร กล่าว
#2832


นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้บริโภคมีความกังวลและใส่ใจในสุขภาพของตนเองและครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ไทยประกันชีวิตจึงพร้อมมอบบริการพิเศษเพื่อดูแลผู้เอาประกันภัยอย่างรอบด้านในทุกสถานการณ์ ตามนโยบายการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions  ภายใต้แนวคิดการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ Customer Centric

โดยมอบบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE เพื่อดูแลสุขภาพ และสร้างความอุ่นใจให้กับผู้เอาประกันภัย ได้แก่ บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นฟรี ด้วยชุด RT PCR Test ได้ที่บ้าน จาก Europ Assistance สำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE ระดับ PLATINUM, บริการรถรับ-ส่งเพื่อเดินทางไปโรงพยาบาล พร้อมผู้ช่วยส่วนตัว เพื่อไปตรวจสุขภาพ หรือรับวัคซีน (Health-Transfer Service) สำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE ระดับ PLATINUM และ GOLD

ขณะเดียวกันสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE ระดับ PLATINUM และ GOLD ยังได้สิทธิ์รับเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว Jumper รุ่น JPD-500D ฟรี โดยสามารถรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิตได้จนถึง 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งผู้เอาประกันภัย 1 ท่านจะได้รับ 1 สิทธิ์ตลอดแคมเปญ

นอกจากนี้ ยังมอบบริการพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เอาประกันภัย และลดความเสี่ยงจากการเดินทางออกนอกบ้าน ได้แก่ บริการ Premium Food Delivery จาก White Glove Delivery รับฟรีเซ็ตอาหารระดับพรีเมี่ยมที่คัดสรรมาจาก 16 ร้านชั้นนำ มูลค่า 1,000 บาท สำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE ทุกระดับ รวมถึงโค้ดส่วนลดค่าอาหาร จาก White Glove Delivery มูลค่า 200 บาท สำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต INFINITE ทุกระดับ และสมาชิกไทยประกันชีวิต ULTIMATE


ทั้งนี้ สิทธิพิเศษการตรวจหาเชื้อโควิด-19, บริการรถรับ-ส่งไปโรงพยาบาล และบริการ Premium Food Delivery จะให้บริการผู้เอาประกันภัยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ต่างๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต ที่เมนูสิทธิพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่าสิทธิ์จะครบตามที่กำหนด

 ไทยประกันชีวิต Privilege  เป็นสิทธิพิเศษที่มากกว่าการประกันชีวิตสำหรับผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ไทยประกันชีวิต INFINITE, ไทยประกันชีวิต ULTIMATE และไทยประกันชีวิต PRIME โดยพิจารณาตามเบี้ยประกันภัยที่ชำระต่อปีรวมทุกกรมธรรม์ สำหรับกรมธรรม์ประเภทรายบุคคลที่มีผลบังคับ ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยจะได้ระดับสมาชิกทันทีโดยไม่ต้องสมัคร เพื่อรับการดูแลอย่างรอบด้าน ผ่านสิทธิพิเศษและกิจกรรมที่หลากหลายและครอบคลุม ทั้งด้านสุขภาพ บันเทิง ท่องเที่ยว ส่วนลดจากร้านค้า รวมถึงบริการพิเศษอีกมากมาย โดยไม่ต้องสะสมคะแนน
#2833


"ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) NDR เผยรายได้ Q2/64 อยู่ที่ 202.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังยอดขายเพิ่ม-คุมต้นทุนดี

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ N.D.Rubber กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 202.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 158.06 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.86 ล้านบาท

โดยสาเหตุที่ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากยอดขายในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ มุ่งเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนขายในไตรมาส 2/2564 ขยับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาด ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการบริหารจัดการเพื่อรักษาสมดุลระหว่างราคาและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถรักษาผลประกอบการให้อยู่ในระดับดีได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาวัตถุดิบอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับตัวให้ทันกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

"แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 2/2564 และเริ่มมีการปิดประเทศของประเทศกัมพูชา สปป. ลาว และประเทศมาเลเซีย ในช่วงปลายไตรมาส 2/2564 รวมถึงมีการปิดกิจการหลายประเภทในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงสามารถรักษายอดขายไว้ได้ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2564 ที่ทำได้ 200.91 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน" นายชัยสิทธิ์ กล่าว
#2834


เมื่อเวลา 08.40 น. วันนี้ (16 ส.ค.) นายณฐนนท์ ชลลัมพี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด ในฐานะผู้ผลิตละครเรื่อง ให้รักพิพากษาพร้อมด้วยนายกรรชัย กำเนิดพลอย และทีมงานผู้ผลิตละครเรื่องดังกล่าวได้เข้าพบ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด และนายบุญเกียรติ อุดมแสวงโชค ผู้ตรวจการอัยการ ที่ห้องรับรอง ชั้น 9 สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการผลิตละครเรื่อง ให้รักพิพากษา ซึ่งออกเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีสี ช่อง 3 ว่า ผู้สร้างมิได้มีเจตนาที่จะเขียนบทออกมาเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของพนักงานอัยการแต่อย่างใด หากแต่เป็นบทบาทที่บทละครใส่รายละเอียดลงไปให้ละครน่าติดตามมากยิ่งขึ้นเท่านั้น



ซึ่งอัยการสูงสุด ได้แจ้งกับ นายณฐนนท์ ชลลัมพี และทีมงานที่เข้าพบว่า ได้ดูคลิปบางช่วงบางตอนของละครเรื่องดังกล่าวแล้ว เห็นว่า มีบทละครที่นักแสดงผู้รับบทเป็นพนักงานอัยการที่แสดง ไม่ได้สอดคล้องกับหลักกฎหมายและระเบียบองค์กรอัยการ ซึ่งอาจส่งผลต่อสังคมให้เข้าใจผิดในบทบาทและภารกิจขององค์กรอัยการที่เป็นหน่วยงานหลักในกระบวนการยุติธรรม เมื่อทางผู้บริหารของบริษัทผู้ผลิตละครได้มาชี้แจงและหาทางแก้ไขร่วมกัน ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยเฉพาะบทบาทของพนักงานอัยการที่สำคัญประการหนึ่งคือการประนีประนอมไม่ให้มีข้อพิพาทในสังคมรวมอยู่ด้วย

ด้านนายณฐนนท์ ชลลัมพี ได้ชี้แจงต่ออัยการสูงสุด พร้อมฝากไปถึงพนักงานอัยการทุกท่านว่า หากบทละครสร้างความไม่สบายใจและสร้างความสับสนให้แก่ประชาชน ทางผู้ผลิตละครขอน้อมรับคำติชมและคำวิจารณ์ทุกอย่าง แต่เนื่องจากละครได้ถ่ายทำเสร็จสิ้นทุกตอนแล้ว ทั้งอยู่ระหว่างมาตรการของรัฐไม่ให้ดำเนินการถ่ายทำละครอีก



ผู้ผลิตละครพร้อมแสดงความรับผิดชอบด้วยการใส่ข้อความชี้แจงก่อนละครจะเผยแพร่ครั้งต่อไปว่า ตัวละคร และ เหตุการณ์ต่าง ๆ ในละครเรื่อง ให้รักพิพากษา เป็นเรื่องราวสมมุติ ถูกเติมแต่ง และเป็นสถานการณ์เฉพาะบุคคล เพื่ออรรถรสของละคร โดยมิได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวิชาชีพใด ๆ และมิได้มีเจตนาชี้นำ ชักจูง และเกิดทัศนคติในทางลบต่อกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หากบทละครหรือบทบาทการแสดงของนักแสดงกระทบต่อบทบาท ภาพลักษณ์ของพนักงานอัยการ และองค์กรอัยการ ทางผู้ผลิตละครถือโอกาสขอโทษมา ณ โอกาสนี้

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษก อสส.เปิดเผยต่อว่าภายหลังเข้าพบอัยการสูงสุดเเล้ว ทีมผู้จัดละครยังได้เข้าพบ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)เพื่อชี้เเจงรายละเอียดเรื่องดังกล่าวให้ นาย พชรในฐานะ ประธาน ก.อ.ได้รับทราบ ซึ่งเรื่องนี้นายพชรซึ่งได้รับคำชี้เเจงดังกล่าวเเล้วก็เข้าใจเเละทราบว่าเรื่องนี้เป็นเพียงละคร เเต่ในฐานะประธาน ก.อ.ซึ่งได้รับเสียงสะท้อนในผลกระทบจากน้องๆอัยการทั่วประเทศ เมื่อมีการมาพบพูดคุยกันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ซึ่งเมื่อมีข้อผิดพลาดมีปัญหาข้อขัดข้องก็ได้เข้ามาพูดคุยเเเละเข้าใจตรงกัน
#2835


"ฟ่านปิงปิง" เปิดตัวผลิตภัณฑ์ความงามของตัวเองตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว และล่าสุดได้มีการปล่อยสื่อประชาสัมพันธ์ออกมา แต่แทนที่จะสร้างความน่าเชื่อ กลับกลายเป็นถูกวิจารณ์ในแง่ลบว่าดูไม่สมจริงเอาซะเลย

Beauty Secret แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามของ ฟ่านปิงปิง เปิดตัวสู่ตลาดเมื่อปี 2019 พร้อมกับความคาดหวังสูงลิ่ว แต่เมื่อสินค้าออกมาจริง ๆ กลับถูกวิจารณ์ในแง่ของคุณภาพว่าไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งตัวของเจ้าของแบรนด์อย่าง ฟ่านปิงปิง ก็ยืนยันว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน

จนล่าสุด ฟ่านปิงปิง ได้เผยภาพตัวเองในชุดกาวน์สีขาว ขณะกำลังทำงานอยู่ในห้องแล็บเพื่อวิจัย และควบคุมคุณภาพสินค้า หวังจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า แต่ผลที่ออกมากลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

โดยชาวเน็ตจีนบอกว่าภาพที่ ฟ่านปิงปิง โพสต์นั้นดู "ปลอมสุดๆ" และเป็นภาพที่จัดฉากเพื่อถ่ายรูปเอามาโฆษณาอย่างชัดเจน ยังมีคนแสดงความเห็นว่านักวิจัยคงไม่แต่งหน้าจัดเต็มขนาดนี้



นอกจากนั้นการปล่อยผมแบบนั้น ก็ยังเสี่ยงที่จะทำให้เส้นผม ของเธอตกเข้าไปในผลิตภัณฑ์และสารเคมีด้วย

ยังมีคนแสดงความเห็นว่า ฟ่านปิงปิง ยังใส่แว่นตากันสารเคมีผิดประเภท และยังถือหลอดทดลองอย่างไม่ถูกต้องอีก ที่สำคัญเธอไม่ได้สวมถุงมือซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับการทำงานในห้องแล็บด้วยซ้ำไป

"ในฐานะนักวิจัยคนหนึ่ง ฉันรู้สึกว่าทำแบบนี้เป็นเหมือน การหยามกันชัดๆ แล้วทำงานในห้องแล็บนาน เป็นชั่วโมงไม่มีเวลามาแต่งหน้าแต่งตัวได้แบบนี้หรอก ถ้าพวกเราแคร์ภาพลักษณ์แค่หน้าตาตัวเองมากขนาดนั้นก็คงไม่ทำงานแบบนี้อย่างแน่นอน" ชาวเน็ตที่บอกว่าตัวเองเป็น นักวิจัยทำงานในห้องแล็บคนหนึ่งแสดงความเห็น

ซึ่งหลังมีกระแสวิจารณ์ในแง่ลบ ภาพชุดดังกล่าวได้ถูกลบจากโซเชียลมีเดียส่วนตัวของดาราสาวไปอย่างรวดเร็วทันที
#2836


ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,514.34 จุด ลดลง 1.96 จุด หรือ -0.06% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,806.11 จุด ลดลง 171.04 จุด หรือ -0.61% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,365.19 จุด ลดลง 26.43 จุด หรือ -0.10%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเช้านี้ สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2/2564 ขยายตัว 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่หดตัวลง 3.7% ในไตรมาส 1 โดยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 0.7%


ทั้งนี้ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดนั้น เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการอุปโภคบริโภคและการใช้จ่ายด้านทุนของญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

เช็คสถิติ 'ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล' ออกงวด 16 ส.ค. ย้อนหลัง 10 ปี 'หวย16/8/64'
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ น่าห่วง! พบติดเชื้อเพิ่ม 21,157 ราย เสียชีวิต 182 ราย ไม่รวม ATK อีก 803 ราย
'โควิดติดเชื้อวันนี้' ชลบุรี 1,223 เสียชีวิตอีก 9 ราย จับตาสถานที่ทำงานยอดพุ่ง
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กังวลว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกนั้น อาจขยายตัวไม่มากนักในไตรมาส 3 ปีนี้ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือน
#2837


บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) ฝ่าวิกฤตโควิค-19 โชว์ผลงานครึ่งปีแรกรายได้รวมแตะระดับ 528 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 45.14 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/2564 รายได้รวม 294.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% (QoQ) และกำไรสุทธิ 22.49 ล้านบาท รับอานิสงส์จากการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลมีงานทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้าน CEO "พูลพิพัฒน์ ตันธนสิน" ประกาศเดินเกมรุกธุรกิจในครึ่งปีหลังเร่งต่อจิ๊กซอว์การลงทุนด้านพลังงาน หม้อแปลงไฟฟ้า พร้อมศึกษาแผนการลงทุนใหม่ๆ ขยายฐานลูกค้าทั้งใน-ต่างประเทศ พร้อมส่งซิกจ่อคว้างานหม้อแปลงไฟฟ้าเข้าพอร์ตเพิ่ม 100 ล้านบาท ขณะที่ติดตั้งแผงโซลาร์ฟาร์มยังฉลุย หนุนทั้งปีรายได้แตะ 1,200 ล้านบาทตามแผน

บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิตจัดจำหน่ายและให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้า รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2 ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ว่า แม้ในขณะนี้ประเทศไทยยังต้องเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ทำให้แต่ละองค์กรต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่ง QTC ได้วางกลยุทธ์เชิงรุก โดยเจาะตลาดทั้งในธุรกิจการจำหน่ายและให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้า และธุรกิจเทรดดิ้ง จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้แก่ LONGI Solar, Trina Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter รวมไปถึงการจำหน่าย DE BUSDUCT ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง

ซึ่งจากการวางกลยุทธ์ดังกล่าวภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแผนที่บริษัทฯ วางไว้ โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 294.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนนี้ (QoQ) ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 22.49 ล้านบาท ยังคงทรงตัวหากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ (QoQ) ในขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 528.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 45.14 ล้านบาท

นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) เปิดเผยถึงปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องว่า มาจากการทำการตลาดแบบเชิงรุกในงานซ่อมบำรุงหม้อแปลงไฟฟ้า และยังมีการขยายตลาดในส่วนของธุรกิจการจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่อง

ส่งผลให้ในไตรมาสดังกล่าวบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการชะลอตัวด้านการลงทุนในโครงสร้างขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน แต่บริษัทฯ ยังมีออเดอร์การจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ สามารถคว้างานจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้อีกกว่า 123 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งสินค้าในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มียอดมูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 500 ล้านบาท

ส่วนภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2564 นั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้ QTC ครบรอบ 25 ปี และย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ mai สู่การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจด้านพลังงานเพื่อสามารถต่อยอดธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งการศึกษาแผนการลงทุนใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการขยายตลาดใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯ ในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เร่งเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ ASEAN และคาดว่าในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯ จะมีโอกาสคว้างานประมูลของการไฟฟ้าภูมิภาค เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 100 ล้านบาท รวมถึงการบุกตลาดเพื่อลุยงานแผงโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องการของตลาดในขณะนี้ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้ 1,200 ล้านบาท จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน
#2838


ทันตแพทย์ชำนาย ชนะภัย กรรมการผู้จัดการทางบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM แจ้งว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลรามคำแหง ได้เข้าซื้อหุ้นของโรงพยาบาลธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือTHG เป็นจำนวน 177,013,044 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.85 % ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของ THG ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ1(ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ 6ส.ค.64) โดยมีรายละเอียดดังนี้


1. เป็นการทยอยซื้อในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่ 7 ธันวาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน

2. ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการลงทุน
2.1 เพื่อเป็นพันธมิตรกับทางธุรกิจโรงพยาบาล
2.2 บริษัทคาดว่าธุรกิจนี้จะให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผล สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด


3. ไม่เป็นธุรกิจที่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกัน
RAM และ THG ได้เป็นพันธมิตรที่ดีช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจซึ่งกันและกันตลอดมา แม้ว่าจะประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันแต่ไม่ใช่คู่แข่งกัน เนื่องจากทำแลที่ตั้งอยู่ห่างกัน และปัจจุบันไม่มีจังหวัดใดที่มีโรงพยาบาลในเครือที่มีการแข่งขันกันหรืออยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน

ส่วนในเขตกรุงเทพมหานคร THG มีโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ตั้งอยู่ที่ถนนบำรุงเมือง และ RAM มีโรงพยาบาลมเหสักข์ ตั้งอยู่ที่เขตบางรัก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน แต่ทั้ง 2 แห่ง มีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน โดย

- โรงพยาบาลมเหสักข์ มีกลุ่มลูกค้าประกันสังคมเป็นส่วนใหญ่
- โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง มีกลุ่มลูกค้าเป็นชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
อีกทั้ง THG และ RAM มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคที่แตกต่างกัน ซึ่ง THG มีความ
เชี่ยวชาญในการรักษาโรคที่ซับซ้อน และ RAM มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการต้นทุน เป็นต้น


ในอนาคตหาก RAM จะลงทุนหรือเข้าร่วมลงทุนในกิจการใด ๆ ก่อนลงทุน RAM ต้องศึกษา ความเป็นไปได้ในธุรกิจ (Feasibility Study) อย่างละเอียด ซึ่งต้องพิจารณาสถานที่ตั้ง กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และคู่แข่งในพื้นที่ เพื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าเหมาะสมในการลงทุน และจะไม่ลงทุนในพื้นที่ที่มีโรงพยาบาลในเครือ THG ตั้งอยู่ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย RAM จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป


โรงพยาบาลรามคำแหง ส่งกรรมการ 2 ท่าน เข้าไปเป็นกรรมการที่โรงพยาบาลธนบุรีคือ
1. นายแพทย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์
2. นางสาวฤกขจี กาญจนพิทักษ์
แต่เป็นกรรมการที่ไม่มีอำนาจลงนาม และไม่มีส่วนร่วมในการบริหาร

ด้าน THG แจง สัดส่วนการถือหุ้นใน THG โดยกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้ง 3ครอบครัว จากข้อมูลปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่6
สิงหาคม 2564 รวมกันแล้วเป็นจํานวน 260,307,914 หุ้น คิดเป็ นร้อยละ30.66ของจํานวนหุ้นที่จําหน่ายและชําระ
แล้วทั้งหมดของ THG ซึ่งยังมีสัดส่วนที่มากกว่า RAM ทําให้จํานวนเสียงในที่ประชุมคณะกรรมการยังมีมากกว่า
โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) ครอบครัววนาสิน จํานวน 161,486,344 หุ้น คิดเป็ นร้อยละ 19.02โดยมีกรรมการ 2 ท่าน ได้แก่
นายแพทย์บุญ วนาสิน และนางสาวนลิน วนาสิน
2) ครอบครัวอุนนะนันทน์ จํานวน 60,741,770 หุ้น คิดเป็ นร้อยละ 7.15 โดยมีกรรมการ 1 ท่าน คือ
นายแพทย์อาศิส อุนนะนันทน์ และ
3) ครอบครัวเมฆสวรรค์จํานวน 38,079,800 หุ้น คิดเป็ นร้อยละ 4.48 โดยมีกรรมการ 1 ท่าน คือ นายศิธา
เมฆสวรรค์

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกของTHG (ข้อมูลณ 15 มี.ค. 2564)

1.บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน)ถือหุ้นจำนวน145,971,739 หุ้น หรือ  17.19%

2.นาง จารุวรรณ วนาสิน  ถือหุ้นจำนวน 118,489,119 หุ้น หรือ13.96%

3.นายแพทย์ อำนวย อุนนะนันทน์ ถือหุ้นจำนวน 43,882,670หุ้น หรือ 5.17%

4.นาย อาษา เมฆสวรรค์ ถือหุ้นจำนวน 29,794,737 หุ้น หรือ 3.51%

5.นาง ณวรา วนาสิน ถือหุ้นจำนวน 28,720,363 หุ้น หรือ3.38%

6.นาย เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ ถือหุ้นจำนวน 18,259,500 หุ้น หรือ 2.15%

7.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้นจำนวน 15,147,902 หุ้น หรือ 1.78%

8.Global Health Investment Co., Ltd. ถือหุ้นจำนวน 11,413,340 หุ้น หรือ1.34%

9.บริษัท เอฟแอนด์เอส 79 จำกัด ถือหุ้นจำนวน 8,695,656 หุ้นหรือ 1.02%

10.นาย ศิธา เมฆสวรรค์ ถือหุ้นจำนวน 8,415,063 หุ้น หรือ 0.99%
#2839
รับทำหมดตั้งแต่รถ รถยนต์ รถกระบะ รถสี่ล้อกลาง รถหกล้อ รถสิบล้อ รถเทรลเลอร์ ร้านเรายึดหลักร้านปะยางใกล้ฉัน และให้บริการ ปะยาง 24 ชั่วโมง เรามีทีมงานมืออาชีพ ประจำอยู่หลายจุด หลายพื้นที่พร้อมบริการ ปะยางนอกสถานที่



ร้านปะยางที่ให้บริการปะยางถึงที่

ไม่ว่ารถของท่านจะอยู่ในหมู่บ้าน คอนโด บนตึกสูง หรืออยู่ข้างทางเราก็พร้อมบริการ ปะยาง ท่านตลอดเวลาบริการระดับ VIP รวดเร็วแต่ไม่เร่งรีบปลอดภัย มีมาตรฐาน ใส่ใจรายละเอียดพร้อมบริการหลังการบริการให้ท่านได้อุ่นใจ

ร้านปะยางที่มีอุปกรณ์ปะยางนอกสถานที่ครบ

ไม่ต้องกังวลหากท่านไม่มียางอะไหล่ไม่ต้องกังวลหากไม่มีเครื่องมือ เครื่องมือไม่ครบหรือหากท่านต้องการจะเปลี่ยนใส่ยางอะไหล่แต่เปลี่ยนเองไม่ได้

โทรหาเราได้เลย เรามีบริการปะยางถึงที่

สะดวก รวดเร็ว ราคาถูก ไม่ว่าใกล้หรือไกลแค่ไหนหากท่านให้เราดูแล ท่านอุ่นใจได้เลย รถยางแตก ยางซึม ยางรั่ว ยางเสีย ยางระเบิด ไม่สามารถไปต่อได้

เรามีบริการนอกสถานที่ดูแลท่านถึงที่ ให้ท่านได้อุ่นใจ



หรือท่านสามารถแอดไอดีไลน์ : @w0909862497
#2840


ประเทศไทยยังมีเส้นเลือดสำคัญที่เป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง จาก"ภาคส่งออก" ที่ขณะนี้ยังมีความต้องการสูงต่อเนื่อง เพราะแม้ว่าทั่วโลกยังอยู่ในสถานการณ์จำเป็นต้องเว้นระยะห่าง หรืองดการเดินทาง แต่ยังคงต้องดำรงชีวิตด้วยสินค้าอุปโภคและบริโภค

ศรัณย เบ็ญจนิรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เผยถึงเรื่องนี้ว่า แนวโน้มปริมาณขนส่งสินค้าทางอากาศในช่วงครึ่งปีหลังนี้ กพท.ยังประเมินว่ามีสัญญาณดี โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากความต้องการในสินค้าเกษตรยังมีสูง และไทยยังเป็นฐานส่งออกสำคัญของสินค้าเกษตร ผักและผลไม้

"การส่งออกทางอากาศเรียกว่าได้รับผลกระทบน้อยมาก เมื่อเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 โดยพบว่าภาพรวมการขนส่งสินค้าทางอากาศลดลงเพียง 25% หากเทียบกับการขนส่งผู้โดยสารที่ลดลงไปถึง 90%และแนวโน้มการขนส่งสินค้าจะยังคงดีแบบนี้ไปได้เรื่อยๆ ประเมินจากสายการบินที่ทำธุรกิจขนส่งสินค้ายังมีคำขอทำการบินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง"

อย่างไรก็ดี ตารางบินในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยังพบว่าสายการบินขนส่งสินค้า อาทิ เค-ไมล์ แอร์ (K-Mile Air) ซึ่งเป็นสายการบินขนส่งสินค้าที่ฐานหลักอยู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังมีคำขอเพิ่มจำนวนอากาศยานขนส่งสินค้า 3 - 4 ลำ และยังมีเส้นทางขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นการขนส่งสินค้าประเทศปลายทางระยะใกล้อย่างฮ่องกง และสิงคโปร์

นอกจากนี้ ยังพบว่าบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยังปรับกลยุทธ์มาทำการบินขนส่งสินค้า โดยใช้สิทธิทำการบินที่เคยขอเปิดบินเส้นทางระหว่างประเทศ และรับบริการขนส่งสินค้าให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่การบินไทยได้ลูกค้าเป็นกลุ่มขนส่งสินค้าด่วนพิเศษ สินค้านำเข้า วัคซีนโควิด และสินค้าประเภทผักและผลไม้ จึงถือว่าปัจจุบันธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศยังมีแนวโน้มดี และช่วงครึ่งปีหลังยังคงสดใสต่อเนื่อง


นนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า ตอนนี้การบินไทยอยู่ระหว่างผลักดันรายได้ขนส่งสินค้าเพื่อเข้ามาเสริมกับรายได้ขนส่งผู้โดยสารที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยพบว่าปัจจุบันรายได้จากการขนส่งสินค้ายังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ความต้องการยังสูง ซึ่งในเดือน ก.ค. - ก.ย.นี้ การบินไทยขยายเที่ยวบินครอบคลุมเอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย รวม 22 เส้นทาง เพื่อตอบรับกับดีมานด์ดังกล่าว

"ช่วงที่ผ่านมาการบินไทยให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ รายได้นี้เข้ามาเป็นรายได้ส่วนหลักขององค์กร ซึ่งระหว่างเดือน เม.ย. 2563 – มิ.ย. 2564 คาร์โก้การบินไทยได้ให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ จำนวนกว่า 3,500 เที่ยวบิน หลักๆ จะเป็นการขนส่งสินค้าภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ประเภท ผัก ผลไม้ อาหารแช่แข็ง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่รถยนต์ ผลิตภัณฑ์ยาและวัคซีน"

จากการประเมินเทรนด์การขนส่งสินค้าทางอากาศยานในช่วงครึ่งปีหลังที่จะเกิดขึ้นนั้น ต้องยอมรับว่าเริ่มเห็นสัญญาณบวกตั้งแต่ครึ่งปีแรก ว่าการขนส่งสินค้าจะเป็นพระเอกสร้างรายได้ให้กับธุรกิจโลจิสติกส์อย่างเห็นได้ชัด เพราะข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการบิน ฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมการบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)

โดยพบว่าปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศในครึ่งแรกของปี 2564 (ม.ค. - มิ.ย. 2564) มีปริมาณสินค้าทั้งหมด 567,743 ตัน เพิ่มขึ้นราว 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปริมาณดังกล่าวแบ่งออกเป็น การขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศมีจำนวน 556,138 ตัน เพิ่มขึ้นราว 14% จากช่วงดียกวันของปีก่อน และการขนส่งสินค้าทางอากาศภายในประเทศ มีจำนวน 11,605 ตัน ลดลงราว 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ไม่เพียงการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ขยายตัวต่อเนื่อง ยังพบว่าการขนส่งสินค้าทางเรือยังเติบโตสอดคล้องกัน โดยข้อมูลสถิติขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค. - มิ.ย. 2564) มีสินค้าขาเข้า รวมประมาณ 27 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับจำนวน 24 ล้านตันในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีสินค้าขาออก รวม 29 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบกับจำนวน 27 ล้านตันในช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับปริมาณยอดรวมตู้ ที.อี.ยู ยังมีสูงถึง 4.9 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้นราว 10% เมื่อเทียบกับ 4.5 ล้าน ที.อี.ยู ในช่วงเดียวกันของปีก่อน