• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#2861
 ข้าวปลอดสารพิษ  ข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  ข้าวกล้องมะลินิลออร์แกนิค คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคสำหรับทารกเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิก เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิก
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6bf1bev6bzbun6ssb.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์
2. ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคคือ
3. ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ
4.  ข้าวกล้องอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์ จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิแดง6.ข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิก


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
#2862


รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยและอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าทะลุระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ได้ในช่วงไตรมาสสี่ปีนี้ จากดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีแนวโน้มอาจติดลบในปีนี้ โดยในไตรมาสแรกปี 2564 ดุลบัญชีเงินสะพัดขาดดุลแล้ว 2.6 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าในไตรมาสสองและสามจะยังคงขาดดุลต่อเนื่อง ดุลการค้าเกินดุลลดลง คาดว่าปีนี้ดุลบัญชีเงินทุนมีเงินไหลออกสุทธิไม่ต่ำกว่า 3-4 พันล้านดอลลาร์ โดยมีทั้งการไหลออกของเงินลงทุนโดยตรงและการลงทุนในหลักทรัพย์ในตลาดการเงิน ปีที่แล้วเงินทุนไหลออกสุทธิประมาณ 3.59 พันล้านดอลลาร์ อัตราการค้าปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากราคานำเข้าสินค้าเพิ่มสูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาส่งออก

ทางด้านเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทั้งตัวเลขการเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน ตัวเลขตำแหน่งงานเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นถึง 943,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานลดลงต่อเนื่อง การกระเตื้องขึ้นของดัชนีภาคการผลิตและการบริการ ดัชนีค้าปลีกและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐอาจทยอยลดวงเงินในการทำ QE ลงในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า           

แม้นการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นภาพสะท้อนของภาวะเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอลงอย่างมาก แต่ผลของการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม จะช่วยกระตุ้นภาคส่งออก การจ้างงานและรายได้จากการท่องเที่ยวหากสามารถเปิดประเทศได้ ผลกระทบในทางลบที่มีต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจและแรงกดดันเงินเฟ้อจะไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีกำลังการผลิตส่วนเกินอยู่จำนวนมาก และอัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมยังต่ำอยู่เฉลี่ยอยู่ที่ 66-67% ไม่ว่าพิจารณาปัจจัยทางด้านอุปสงค์หรืออุปทานไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นมาก

ขณะที่การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในสหรัฐ ยุโรป หรือญี่ปุ่น จะทำให้ธนาคารกลางของประเทศเหล่านี้จะใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำพิเศษไปอีกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองปี ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การเร่งตัวของเงินเฟ้อและเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินบรรเทาลง อัตราดอกเบี้ยจะต่ำไปอีกนาน จึงขอให้ "คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน" ของธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาอย่างจริงจังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เหลือ 0% หรืออย่างน้อยต้องลดลงให้เหลือ 0.10% ในการประชุมครั้งต่อไปเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจที่จะทรุดตัวลงในปลายไตรมาสสามต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2565 หากตัดสินใจช้าจะไม่สามารถประคับประคองเศรษฐกิจได้ทันการณ์ และดูเหมือนว่าประเทศคงจำเป็นต้องมีการล็อกดาวน์อยู่เป็นระยะๆ และคาดว่ามาตรการคลังมีข้อจำกัดจากเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่น่าจะทะลุเพดาน 60% อย่างแน่นอน

ส่วนการปรับลดความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.นี้นั้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจและระบบสถาบันการเงินมีเสถียรภาพและมีความมั่นคงมากขึ้น รวมทั้งลดภาระต่อเงินสาธารณะในกรณีเกิดปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินขึ้นในอนาคตหรือธนาคารถูกเพิกถอนใบอนุญาต อัตราขยายตัวของการฝากเงินของประชาชนและกิจการต่างๆ ก็ปรับตัวลงอย่างมากในช่วงวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโควิด-19 คนฝากเงินในระบบสถาบันการเงินที่มีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาทในแต่ละธนาคารมีอยู่ประมาณ 2% ของทั้งระบบ 97-98% ของผู้ฝากเงินมีเงินฝากต่ำกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเงินฝาก e-money มากขึ้นตามลำดับ จึงควรขยายวงเงินฝากให้ครอบคลุมเงินฝาก e-money และควรขยายวงเงินคุ้มครองเงินฝากจาก 1 ล้านเป็น 2-3 ล้านบาทเมื่อบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองวงเงิน 1 ล้านไปเป็นระยะ 1-2 ปีแล้ว เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางการเงินอาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม


นอกจากนี้ เขา มองว่า การขยายเวลาและขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ไม่ได้ผลในการลดการติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิตมากนัก ควรเปลี่ยนวิธีการให้ดำเนินชีวิตได้ตามปรกติมากที่สุดและเดินหน้าเปิดประเทศหลังจากระบบสาธารณสุขสามารถรองรับผู้ป่วยหนักได้เต็มที่แล้ว จุดประสงค์ของการล็อกดาวน์ คือ ป้องกันไม่ให้ระบบสาธารณสุขล่มสลาย ไม่ให้จำนวนผู้ป่วยล้นเกินไป เพราะล็อกดาวน์ไม่ได้ทำให้โรคหายไป เราจะต้องอยู่กับโควิด-19 ไปอีกนาน ฉะนั้นเราต้องมีวิธีการจัดการใหม่ คือ อยู่กับมันเหมือนเราอยู่กับโรคไข้หวัดใหญ่ หรือ โรคเอดส์ โดยเน้นให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขเคร่งครัด ฉีดวัคซีนในอัตราเร่งเดือนละ 10 ล้านโดสเป็นอย่างต่ำ หรือ วันละสามแสนสามหมื่นสี่พันโดสเป็นอย่างน้อย เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ 50 ล้านคน (70% ของประชากร) ได้ฉีดเข็มแรกภายในเดือนตุลาคมก็จะบรรลุผลและเดินหน้าเปิดประเทศได้ รวมทั้งต้องเน้นฉีดกลุ่มคนทำงานที่ต้องสัมผัสกับผู้คนมากๆ ก่อนเพื่อลดการแพร่ระบาด เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ตำรวจ รปภ กลุ่มวินมอเตอร์ไซด์ กลุ่มคนขับรถเมล์ คนขับแท็กซี่ พนักงานบริการต่างๆ เป็นต้น การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันมีต้นทุนที่ถูกกว่าการปล่อยให้คนติดเชื้อแล้วค่อยรักษามาก หากปล่อยให้คนติดเชื้อและอยู่ในระหว่างการรักษาเกิน 400,000 คนในแต่ละช่วงเวลา ต้นทุนทางเศรษฐกิจจะสูงมากและอัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มเฉลี่ยเกิน 200 คนต่อวันได้

การควบคุมการระบาดในระยะนี้ต้องเน้นไปที่มิติความสัมพันธ์ของคนมากกว่าคุมพื้นที่ เช่น คนงานติดเชื้อที่โรงงาน ไม่ใช่เน้นไปคุมพื้นที่โดยรอบโรงงานหรือปิดโรงงาน ต้องเอา "คนติดเชื้อ" ออกมา แล้วให้โรงงานเปิดการทำงานได้ตามปรกติ แล้วเน้นไปควบคุมว่าคนงานติดเชื้อนั้นไปมีปฏิสัมพันธ์กับใครบ้างมากกว่า การดำเนินการแบบนี้จึงไม่ทำให้เศรษฐกิจเสียหายไปมากกว่านี้ สิงคโปร์ ไต้หวัน ก็ทำแบบนี้ นอกจากนี้ยังต้องจัดสรรงบประมาณให้ระบบสาธารณสุขมีความเพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยหนัก
#2863


        เงินในกระเป๋าสั่นเลยทีเดียว เมื่อทางค่าย LG ออกทีวีรุ่นใหม่มากรุบๆ ชื่อรุ่นว่า "LG Stand By Me" ตอบโจทย์สายมินิมอลสุด ตรงที่สามารถเคลื่อนย้ายไปไว้ส่วนต่างๆของบ้านได้ไม่ว่าจะเป็นในครัว ห้องนั่งเลย ห้องนอน เพราะตัวนี้มีล้อเลื่อนได้



        สาวก TikTok น่าจะชอบตรงที่จอสามารถปรับหมุนเป็นแนวตั้งได้เลยทันทีดีงามมาก แถมหน้าจอขนาด 27 นิ้ว  เป็นแบบทัชสกรีน หากลากเครื่องนี้ไปอยู่ในครัวขณะทำอาหาร จะเปิดดูวิธีการทำอาหารจากยูทูปก็ย่อมได้  แต่เด็ดสุดๆ ตรงที่ทีวีเครื่องนี้ สามารถใช้แบบไร้สายได้เลยไม่ต้องยุ่งยากเสียบปลั๊กต่างๆ นาๆ เพราะมีแบตเตอรี่ในตัวเสร็จสรรพ ที่ใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมง



บอกสรรพคุณมาขนาดนี้ ราคาน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ตัดสินใจว่าจะฟาดซื้อดีไหม  อดใจไว้ก่อนเพราะทางเกาหลียังไม่บอกราคาแบบเป็นทางการออกมา ที่เกาหลีจะเปิดตัวทีวีรุ่น "LG Stand By Me" เร็วๆ นี้

ระหว่างนี้เข้าไปชมพลางๆ ได้ที่เวปนี้
https:// www.lge.co.kr/tvs/27art10akpl?fbclid=IwAR3-g5oeez6uuOBo9d3OrU3V0fk5SNAepecV6VRdCGQw-TdwL4dUo4j99Z8
#2864


แม้การใกล้ชิดผู้ป่วย "โควิด-19" นับเป็นความเสี่ยงสูง ที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้มาก แต่สำหรับผู้ที่มีญาติติดโควิด-19 หรือตัวเองติดเชื้อแล้วจำเป็นต้องเดินทางไปเข้ารับการรักษายังสถานที่ได้ติดต่อไว้ด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถทำได้ แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าจากผู้ติดเชื้อมายังผู้ขับรถหรือผู้ที่โดยสารไปด้วย 

โดยเพจกรุงเทพมหานคร โดยสำนักประชาสัมพันธ์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนในการปฏิบัติก่อนและระหว่างเดินทางร่วมกับผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารับการรักษาไว้ ดังนี้

ทันทีที่ตรวจพบว่าติดโควิด-19 และต้องการเดินทางไปรับรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือสถานที่รับรักษาสำหรับผู้ป่วยโควิด เริ่มต้นจากการ

1. แจ้งไปยังสายด่วน 1669 ศูนย์เอราวัณ กทม. 

2. เตรียมเอกสารผล LAB ยืนยันการติดเชื้อโควิด-19

3. เดินไปรักษาตัวตามสถานที่ที่ได้รับนัดหมาย 

โดยระหว่างเดินทางแนะนำให้ปฏิบัติตนดังต่อไปนี้ 

- ทำฉากกั้นระหว่างคนขับและผู้ติดเชื้อ เว้นระยะห่างระหว่างกันให้ได้มากที่สุดระหว่างเดินทาง 

- คนขับและผู้ติดเชื้อจะต้องนั่งทแยงมุมคนละฝั่งของรถ เพื่อรักษาระยะห่างในรถให้ได้มากที่สุด

- เปิดกระจก และปิดเครื่องปรับอากาศ 

- ใส่หน้ากาก 2 ชั้น ทั้งคนขับและผู้ติดเชื้อ โดยจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี คือ ใส่หน้ากากอนามัยไว้ด้านใน สวมทับด้วยหน้ากากผ้าไว้ด้านนอก ดังนี้


- สำรวจเส้นทางก่อนออกเดินทาง เพื่อเลือกใช้เส้นทางที่ใช้เวลาสั้นที่สุด ไม่ควรใช้เวลาเกิน 30 นาที ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ

- เมื่อเดินทางไปถึงจุดหมาย นั่งคอยในรถ โทรประสานเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการรักษาต่อไป 

อย่างไรก็ตามการเดินทางเพื่อเข้ารับการรักษาด้วยรถยนต์ส่วนตัวมีความจำเป็นสำหรับบางกรณี ซึ่งแตกต่างกันออกไปตามสถานการณ์ ระดับอาการของผู้ป่วยด้วย

ซึ่งการนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาพยายาลจำเป็นต้องพิจารณาความเหมาะสมตามกรณี ที่เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยที่มีอาการหนักเข้าสู่ระบบการรักษาได้เร็ว และผู้ป่วยที่มีอาการน้อยได้รับการรักษาที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน โดยเบื้องต้นมีการพิจาณานำเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาล แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มดังนี้

1. ประชาชนที่ตรวจที่ รพ. 

2. ประชาชนที่ได้รับการตรวจเชิงรุก

3. ประชาชนที่ตรวจด้วยตัวเอง (Antigen Test Kit) หรือยืนยันการติดเชื้อ PCR

4. ประชาชนที่มีอาการหนักฉุกเฉิน เร่งด่วน โทร.1669 
#2865


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (8 สิงหาคม 2564) ธอส. ได้จัดงาน "8/8 GHBank NPA Double Sale" ประมูลบ้านมือสองออนไลน์ (Stay Home Online Auction) ผ่าน Application : GH Bank Smart NPA เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยคัดทรัพย์เด่นทั่วประเทศมาเปิดประมูลระหว่างเวลา 10.00-10.30 น. ปรากฏว่าสามารถขายได้ถึง 43 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวม 47 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 รายการ และทรัพย์ในส่วนภูมิภาค 35 รายการ

โดยทรัพย์ที่มีราคาประมูลต่ำสุดที่มีผู้ประมูลซื้อได้ในครั้งนี้ คือ ทรัพย์ประเภทห้องชุด ชั้น 5 ขนาดเนื้อที่ 22.75 ตารางเมตร ในโครงการพรอนันต์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ปิดประมูลขายได้ในราคาเพียง 65,000 บาทเท่านั้น ส่วนทรัพย์ที่ประมูลขายได้ในราคาสูงที่สุด คือ ทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 52 ตารางวา ในโครงการ Glory House อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปิดประมูลในราคา 2,920,000 บาท

ส่วนทรัพย์รายการเด่นที่ขายได้ในครั้งนี้ เช่น คอนโดมิเนียม ขนาด 29.95 ตารางเมตร ชั้นที่ 3 ในโครงการอัสสกาญจน์เพลส รามคำแหง-วงแหวน ซอยรามคำแหง 147/2 กรุงเทพฯ และทรัพย์ประเภทบ้านแฝด 1 ชั้น ขนาด 35.40 ตารางวา ในหมู่บ้านเทพบุรี (รัษฎานุสรณ์) อำเภอเมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ปิดประมูลในราคาตั้งต้นที่ 2,680,000 บาท  

ทั้งนี้ สำหรับลูกค้า 8 ลำดับแรกของรายการทรัพย์ใน กทม. และปริมณฑล รวมถึง 8 ลำดับแรกของลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ในภูมิภาคที่เสนอราคา และชนะประมูล หากทำสัญญาจะซื้อจะขายภายในวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ได้รับฟรี!! สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว มูลค่า 5,000 บาท ซึ่งสามารถลุ้นรับรางวัลมูลค่าสูงสุดถึง 1 ล้านบาททุกเดือน รวมถึงหากโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% จากราคาที่ปิดประมูลและเลือกใช้โปรโมชั่นผ่อนดาวน์ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 4 ปี หรือ 48 เดือนได้อีกด้วย 

สำหรับการประมูลครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 9/9 หรือวันที่ 9 กันยายน 2564 สอบถามรายละเอียดและดูข้อมูลทรัพย์ NPA ของธนาคารได้ที่ www.ghbhomecenter.com กรณีทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โทร 0-2202-1016, 0-202-1582 ส่วนทรัพย์ในภูมิภาค โทร 0-202-1170 หรือ 0-202-2036 และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
#2866


"กัปตันคิม" คิม ยอน คยอง ซูเปอร์สตาร์ทีมลูกยางเกาหลีใต้ ประกาศเลิกเล่นทีมชาติทันที หลังแพ้ เซอร์เบีย 0-3 เซต ในรอบชิงเหรียญทองแดง วอลเลย์.หญิง โอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โดย "กัปตันคิม" วัย 33 ปี ที่วืดเหรียญทองแดง "โตเกียวเกมส์" เผยว่า "นี้คือเกมสุดท้ายของฉันในฐานะผู้เล่นทีมชาติ มันน่าผิดหวังที่ต้องปิดฉากโอลิมปิกเกมส์แบบนี้ แต่ฉันเองก็ยังดีใจนะที่พาทีมมาถึงจุดนี้ได้ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเราจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ แม้กระทั่งผู้เล่นบางรายในทีมของเราเอง"

"ปีนี้ฉันตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องกลับบ้านเกิดโดยที่ไม่มีอะไรต้องเสียใจ และจากความพ่ายแพ้วันนี้ ฉันคิดว่าเราสามารถระบุได้ว่าจุดไหน เราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาทีมของเราไปสู่อนาคตที่ดี แต่จากการเตรียมตัวก่อนมาแข่งโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ถือว่าเราไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจกับการเดินทางมาไกล"

"ในฐานะกัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ ฉันคิดว่าเราได้ฝากผลงานอันยิ่งใหญ่เอาไว้ที่โอลิมปิกเกมส์ 2020 และเราสมควรที่จะยิ้มให้กับมันมากกว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งทุกครั้งที่ได้เล่นในนามทีมชาติ"

สำหรับ คิม ยอน คยอง ถือเป็นสุดยอดนักกีฬาวอลเลย์.ของเกาหลีใต้ โดยเคยคว้าเกียรติยศมากมายในนามทีมชาติ อาทิ เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2014 (อินชอนเกมส์), เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ 2010 (กวางโจวเกมส์) และเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ 2018 (จาการ์ตา-ปาเลมบัง) เป็นต้น
#2867


วันนี้ (7ส.ค.64) นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวในสื่อโซเชียลว่า ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 แล้วจะไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ได้นั้น


กระทรวงแรงงาน ขอชี้แจงว่า จากการที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการ "ล็อกดาวน์" ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ครอบคลุม 9 ประเภทกิจการ สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่จะได้รับเงินเยียวยาเป็นเวลา 1 เดือน จะต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 และไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ได้นั้น ในเรื่องนี้ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการสมัครมาตรา 40 มีทั้งหมด 3 ทางเลือก

ทางเลือกที่ 1 ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ 70 บาทต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 3 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และค่าทำศพ

ทางเลือกที่ 2 ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท ต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 4 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ และเพิ่มบำเหน็จชราภาพอีกหนึ่งกรณี

ทางเลือกที่ 3 ผู้ประกันตนจ่าย 300 บาท ได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 5 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ บำเหน็จ ชราภาพ และสงเคราะห์บุตร ซึ่งสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับสิทธิรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง (สปสช.) หรือสิทธิประโยชน์สวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ที่เคยได้รับยังเหมือนเดิม

Lazada แจกฟรีคูปองส่วนลด* คลิกเลย!!!

ขณะนี้ สำนักงานประกันสังคม ยังลดเงินสมทบได้ลดเงินสมทบ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบเดิม เป็นระยะเวลา 6 เดือนตั้งวันที่ 1 ส.ค. 64 -31 ม.ค. 2565 ให้แก่ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 เดิมจ่าย 70 บาท เหลือ 42 บาทต่อเดือน ทางเลือกที่ 2 เดิมจ่าย 100 บาท เหลือ 60 บาทต่อเดือน และทางเลือกที่ 3 เดิมจ่าย 300 บาท เหลือ 180 บาท

โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวยืนยันว่า การสมัครมาตรา 40 ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง (สปสช.) รวมทั้งสิทธิประโยชน์สวัสดิการแห่งรัฐต่างๆ แต่อย่างใด และสิทธิที่เคยได้รับยังเหมือนเดิม และมีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตจากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

ส่วนสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 แต่ละทางเลือกขึ้นอยู่กับทางเลือกที่ผู้ประกันตนสมัคร

การสมัครมาตรา 40 เพื่อให้ได้มีหลักประกันทางสังคมจากรัฐบาล แรงงานนอกระบบหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคม จึงเร่งรัดให้สำนักงานประกันสังคมอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการอาชีพอิสระได้สมัครมาตรา 40 เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อมีเงินออมในระยะยาว สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือและอุดหนุนเยียวยาจากมาตรการต่างๆ จากภาครัฐได้ในอนาคต

สำนักงานประกันสังคม ประกาศแจ้ง "แรงงานอิสระ" ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด สมัคร มาตรา 40 แล้ว ชำระเงินงวดแรกไม่ทันในเดือน ก.ค.64 ให้รีบจ่ายภายในวันที่ 10 ส.ค. นี้ เพื่อรับสถานะความเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมาย พร้อมรับสิทธิเยียวยา 5,000 บาท

ที่มา สำนักงานประกันสังคม และ กระทรวงแรงงาน
#2868


โมเดอร์นา อิงค์ เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (5 ส.ค.) ว่า วัคซีนโมเดอร์นา ยังคงประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโควิด-19 ประมาณ 93% หลังฉีดโดสแล้ว 4 - 6 เดือน หรือกล่าวได้ว่า แทบไม่เปลี่ยนแปลงตามที่เคยเผยผลทดลองทางคลินิกครั้งแรก 94% 

เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพวัคซีนคู่แข่ง อย่าง ไฟเซอร์ - ไบออนเทค ที่เผยผลการทดลองครั้งใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชี้ว่า วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพลดลงประมาณ 6% ในทุกๆ 2 เดือน หรือลดลงเหลือประมาณ 84% หลังจากที่ฉีดโดสสองแล้ว 6 เดือน 

วัคซีนโมเดอร์นากับวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งคู่เป็นเทคโนโลยี messenger RNA (mRNA)

สเตฟาน บันเซล ซีอีโอของโมเดอร์นา กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นา กำลังแสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่สูงถึง 93% ตลอด 6 เดือน แต่ตระหนักดีว่า สายพันธุ์เดลตาเป็นภัยคุกคามใหม่ที่สำคัญ ดังนั้นเราต้องระมัดระวังตัว 

อย่างไรก็ตาม บัลเซล แนะนำว่า จำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นก่อนฤดูหนาว เนื่องจากระดับแอนติบอดีมีแนวโน้มลดลง 


นายบันเซล กล่าวว่า บริษัทจะไม่ผลิตวัคซีนโมเดอร์นา ไปมากกว่าที่บริษัทตั้งเป้าไว้ 800 - 1,000 ล้านโดสในปีนี้

"ขณะนี้ โมเดอร์นาจำกัดกำลังการผลิตในปี 2564 และเราจะไม่รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมสำหรับการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ในปี 2564" ซีอีโอโมเดอร์นา กล่าว

มีรายงานว่า วันนี้หุ้นโมเดอร์นาร่วงลง 3.6% สู่ระดับ 403.87 ดอลลาร์ ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหลังจากปิดที่ 419.05 ดอลลาร์ในวันพุธที่ผ่านมา
#2869


ส่งเสริมการบูรณาการเชื่อมโยงร่วมกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานผู้ผลิตองค์ความรู้การวิจัย หน่วยงานภาคปฏิบัติที่ทำหน้าที่ส่งต่อองค์ความรู้ และกลุ่มเป้าหมายในการนำองค์ความรู้จากการวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริงในพื้นที่ โดยมี พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี และ ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีลงนามฯ พร้อมด้วย ผศ. ดร.ดวงฤทธิ์ เบญจาธิกุล เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีฯ

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว นำโดยผู้บริหารของ วช.และมหาวิทยาลัยราชภัฏ 11 แห่ง ได้แก่ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ลินดา เกณฑ์มา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม รองศาสตราจารย์ ดร.ดวงพร ภู่ผะกา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสนาะ กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ไชยรัตน์ ปราณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประยูร ลิ้มสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริวัฒน์ โพธิเวชกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จรูญ ถาวรจักร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา รัตนพรหม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือวิศวกรสังคมสร้างชุมชนเข้มแข็งด้วยวิจัยและนวัตกรรม ผ่านระบบออนไลน์ (ระบบ ZOOM)

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ได้กล่าวว่า วิศวกรสังคม เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะช่วยสร้างชุมชนเข้มแข็งและสร้างเสริมสมรรถนะผู้เรียนให้สมบูรณ์ด้วยคุณลักษณะ 4 ประการ ได้แก่ การมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง การมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม มีงานทำ มีอาชีพ และเป็นพลเมืองดี ซึ่งวิศวกรสังคมที่ได้รับการพัฒนาทักษะ จะสามารถเป็นสื่อกลางในการประสานประโยชน์ของทุกภาคส่วนเพื่อให้ชุมชนท้องถิ่นเกิดการพัฒนา ให้นักศึกษามีความสามารถและทักษะเพื่อการดำรงชีวิตและการทำงานในอนาคต สามารถแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนได้และเกิดการสร้างนวัตกรรมตามมา มหาวิทยาลัยราชภัฎ ทั้ง 11 แห่ง ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. คงจะนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เรากำลังเดินตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ว่าการศึกษาต้องสร้างคนไทยที่มีทัศนคติที่ดี สร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง เข้มแข็ง เป็นพลเมืองดี มีวินัย จะเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นได้ภายใต้โครงการนี้

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กล่าวว่า บัณฑิตกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศล้วนผลิตโดยมหาวิทยาลัยราชภัฎ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราโชบายในด้านการศึกษา โดยเฉพาะในส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฎ คือให้มุ่งเน้นในการพัฒนาคนและพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฎก็ทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างดี เช่นในสถานการณ์โควิด -19 มหาวิทยาลัยราชภัฎยังร่วมกับ อว. ทำโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ เป็นกำลังของจังหวัด และวันนี้ยังมีเรื่องที่ยังความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นจำนวน 18.9 ล้านบาทแก่ อว. เพื่อจัดทำโรงพยาบาลสนาม ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฎก็จะต้องเป็นกำลังหลักในการจัดทำอยู่แล้ว

รมว.อว. กล่าวต่อว่า การลงนามความร่วมมือ "วิศวกรสังคมสร้างชุมชนเข้มแข็งด้วยวิจัยและนวัตกรรม" ครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนทุนวิจัยให้แก่มหาวิทยาลัยราชภัฎทั้ง 11 แห่ง โดย วช. จะมอบให้แห่งละ 750,000 บาท และขอยืนยันว่า อว. จะดูแลมหาวิทยาลัยราชภัฎให้เป็นพิเศษ เพราะเราตระหนักว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงให้ความสำคัญกับมหาวิทยาลัยราชภัฎ
#2870


หลายคนคงอาจจะเคยได้ยินคำว่า "แผนพลังงานชาติ" จากสื่อต่าง ๆ มาบ้าง แต่น้อยคนนักที่จะเข้าใจว่า..คืออะไร? และมีความสำคัญต่อประเทศไทยของเราอย่างไร ลองมาหาคำตอบ... และทำความรู้จักกับแผนพลังงานแห่งชาติกันเลย...

พลังงาน เป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ ในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาประเทศ แล้วเราจะต้องพัฒนาภาคพลังงานไปในทิศทางไหน? พัฒนาอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ?

กระทรวงพลังงาน จึงได้จัดทำ "แผนพลังงานชาติ" หรือ National Energy Plan ขึ้นเพื่อเป็นกรอบแนวทาง ดำเนินนโยบายเพื่อการพัฒนาด้านพลังงานของประเทศไทยในอนาคต โดยในการจัดทำแผนพลังงานชาติครั้งใหม่นี้ จะเป็นการนำแผนพลังงานชาติ ทั้ง 5 แผน ที่มีอยู่ซึ่งประกอบด้วย แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก แผนอนุรักษ์พลังงาน แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ และแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง มาบูรณาการและรวมกันไว้ภายใต้แผนเดียว

กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดแผนพลังงานชาติ ที่สอดคล้องกับแนวทางการมุ่งสู่เป้าหมาย "ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2065 - 2070" ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางการพัฒนาพลังงานที่สำคัญประกอบด้วย

• ด้านไฟฟ้า เน้นการเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดจากโรงไฟฟ้าใหม่ โดยมีสัดส่วน RE ไม่น้อยกว่า 50% ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า พัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีระบบไฟฟ้า (Grid Modernization) เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ระบบไมโครกริด ตลอดจนการผลิตเอง ใช้เอง (Prosumer) ที่มากขึ้น รวมถึงมุ่งปลดล็อคกฎระเบียบการซื้อขายไฟฟ้า เพื่อรองรับการผลิตเองใช้เองดังกล่าว

• ด้านก๊าซธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิงสะอาดที่เป็นพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า เป็นเชื้อเพลิงสะอาดที่เป็นพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะเน้นการเปิดเสรีและการจัดหาเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบพลังงานประเทศ ซึ่งกระทรวงพลังงานจะต้องวางแผน สร้างสมดุลระหว่างการจัดหาในประเทศ และการนำเข้า LNG มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขาย หรือ LNG Hub

• ด้านน้ำมัน ยังคงเป็นเชื้อเพลิงหลักของประเทศในปัจจุบัน แต่จะได้รับผลกระทบจากการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่ขยายตัวขึ้น ดังนั้น จะต้องมีการปรับแผนพลังงานภาคขนส่ง และพิจารณาการบริหารการเปลี่ยนผ่าน สร้างความสมดุลระหว่างผู้ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (Bio Fuel) และ EV

• ด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จะมีการส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานทดแทน ในทุกภาคส่วนให้มากขึ้น ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานจากทุกภาคส่วนให้เข้มข้นมากขึ้น

ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูล จากศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ หรือ NEIC ไว้รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะนำแผนพลังงานชาติไปรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนในขั้นตอนต่อไป

อาจกล่าวได้ว่า "แผนพลังงานชาติ" เปรียบเสมือนแผนที่ ที่จะช่วยกำหนดทิศทางให้นโยบายด้านพลังงานของประเทศไทย ขับเคลื่อนไปอย่างมีเป้าหมาย และเกิดการพัฒนาพลังงาน อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

สามารถติดตามชมคลิป VDO Motion Graphic เรื่อง แผนพลังงานชาติ ได้ที่ https://youtu.be/-okrNBkRtDY
#2871


"ธปท."เผบผลโพล"BSI COVID" ชี้ไทย"ล็อกดาวน์"เข้มทำธุรกิจฟื้นช้า เผยความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกดิ่งเหวเหลือแค่ 16.4 ต่ำกว่า เม.ย.63 คาดคนใช้ชีวิตได้ปกตินในไตรมาสที่ 1 ของปี 65

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.64 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลสำรวจเรื่องผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจไทย (BSI COVID) เดือนกรกฎาคม 2564 พบว่า ระดับการฟื้นตัวของธุรกิจในภาพรวมปรับลดลงจากเดือนก่อนในทุกภาคธุรกิจ ตามการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศในวงกว้าง และผลของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่กลับมาเข้มงวดอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคก่อสร้างจากคำสั่งปิดแคมป์คนงานเช่นเดียวกับภาคท่องเที่ยวและภาคการค้า ที่ได้รับผลกระทบจากการจำกัดการเดินทาง การปรับเวลาให้บริการ และห้ามนั่งรับประทานในร้าน ขณะที่ภาคการผลิตยังคงถูกกดดันจากการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ในโรงงาน ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ปัญหาการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ตลอดจนการปิดโรงงานของคู่ค้าที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน

สำหรับการจ้างงานค่อนข้างทรงตัวทั้งด้านจำนวนแรงงาน และรายได้เฉลี่ย ยกเว้นการจ้างงานในภาคท่องเที่ยวที่ลดลงตามการปิดกิจการชั่วคราว และภาคก่อสร้างที่ปรับลดลงตามกิจกรรมที่หยุดชะงักหลังมีคำสั่งปิดแคมป์ ส่งผลให้แรงงานบางส่วนเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนา โดยธุรกิจในภาพรวมมีการใช้นโยบายสลับกันมาทำงาน และลดชั่วโมงทำงานเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ขณะที่ธุรกิจบางส่วนเริ่มกลับมาใช้นโยบายลดเงินเดือนเพิ่มเติม โดยเฉพาะภาคที่มิใช่การผลิต

ขณะที่ ในด้านสภาพคล่อง พบว่าธุรกิจส่วนใหญ่มีสภาพคล่องสำรองใกล้เคียงกับเดือนก่อน แต่เริ่มเห็นบางธุรกิจมีสภาพคล่องลดลง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว และภาคก่อสร้างที่มีสัดส่วนของธุรกิจที่สภาพคล่องไม่เกิน 3 เดือนเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการฟื้นตัวของธุรกิจที่ปรับแย่ลง

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ประเมินว่า ประชาชนจะเริ่มออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านและท่องเที่ยวตามปกติได้ เมื่อมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่น้อยกว่า 50 รายต่อวัน และเกิดได้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 ขณะที่บางส่วนมองว่า การเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพียงพอและทั่วถึงเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่า

นอกจากนี้ ธปท.ยังเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index: RSI) ว่าความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกปรับลดลงมากทั้งภาวะปัจจุบันและอีก 3 เดือนข้างหน้า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดและแผนการกระจายวัคซีนไม่ชัดเจน ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นฯ อยู่ต่ำกว่าเดือน เม.ย.2563 ที่มีการประกาศล็อกดาวน์ครั้งแรกในทุกมิติ

ADVERTISEMENT


โดยดัชนี RSI เดือน ก.ค.และแนวโน้มอีก 3 เดือนข้างหน้า (ส.ค.-ต.ค.) ปรับลดลงมาก และต่ำกว่าเดือน เม.ย.2563 อยู่ที่ 16.4 และ 27.6 ที่มีการการประกาศล็อกดาวน์ครั้งแรกจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น และมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของผู้ประกอบการค้าปลีก ขณะที่แผนการกระจายวัคซีนที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายและประสิทธิภาพของวัคซีน ซ้ำเติมความเปราะบางของความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ

ความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิมปรับลดลงในทุกภาค ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในทุกพื้นที่ เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าที่ปรับลดลง สะท้อนภาวะความยืดเยื้อของสถานการณ์ ความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่จะแย่ลงกว่าเดิม รวมถึงความล่าช้าของการจัดการวัคซึน

ขณะที่ ความเชื่อมั่นทุกประเภทร้านค้าในภาวะปัจจุบันปรับลดลงมากจากเดือนก่อน โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารที่ถูกกระทบโดยตรงจากมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด

ส่วนความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยอดใช้จ่ายต่อใบเสร็จ (Spending per bill และความถี่ของผู้ใช้บริการ (Frequency) ปรับลดลงมากจากเดือนก่อนและต่ำกว่าช่วงการล็อกดาวน์ครั้งแรก ซึ่งเป็นผลจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวด งดการเดินทาง และลดเวลาเปิดทำการของร้านค้า

นอกจากนี้ พบว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรง ผู้ประกอบการ 90% ประเมินว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคปรับลดลงมากจากเดือนก่อน และไม่เห็นพฤติกรรมเร่งกักตุน แม้จะมีการสั่งปิดห้างฯ และประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวสู่ระดับปกติเลื่อนออกไปเป็นปี 2566 ล่าช้ากว่าที่เคยประเมินไว้อีก 1 ปี

ขณะที่ การประเมินแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากผู้ประกอบการ 61% คาดว่ายอดขายจะลดลงมากกว่า 25% จากการเคอร์ฟิว 53% มีสภาพคล่องไม่เกิน 6 เดือน และ 42% คาดการบริโภคภาคเอกชนไตรมาส 3 ปี 2564 จะกดตัวอย่างน้อย 10% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
#2872


นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนตัวแรกของไทย "สิริฮับ" หรือโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ (SiriHub Investment Token) มูลค่าเสนอขาย 2,400 ล้านบาท โดยปัจจุบันได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.ให้เสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 29 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อและเข้าซื้อขายบนตลาดรองภายในปีนี้

โครงการสิริฮับ เป็นการลงทุนในกระแสรายรับค่าเช่าของกลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส ซึ่งมีบมจ.แสนสิริ (SIRI) เป็นผู้เช่าระยะยาวเต็มพื้นที่ 100% โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ภายในพื้นที่ T77 ของบริษัท เอสพีวี 77 จำกัด สัญญาเช่าระยะยาว 12 ปี ค่าเช่าปีละ 149.4 ล้านบาท ขณะที่โครงการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ มีอายุโครงการ 4 ปี ดังนั้นนักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าโครงการนี้จะมีรายรับที่ต่อเนื่อง


ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

สำหรับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลในครั้งนี้ จะแบ่งเสนอขายทั้งหมด 2 ชุดอายุ ได้แก่ 1. สิริฮับ A (SiriHubA) จำนวน 160 ล้านโทเคน มูลค่า 1,600 ล้านบาท กำหนดส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสที่ 4.5% ต่อปี โดยนักลงทุนจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดอายุโครงการจำนวนไม่เกิน 1,600 ล้านบาท 

2. สิริฮับ B (SiriHubB) จำนวน 80 ล้านโทเคน มูลค่า 800 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้ 8% ต่อปี นักลงทุนจะได้รับส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 8% ต่อปี และยังได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการเมื่อสิ้นสุดอายุโครงการเฉพาะส่วนเกิน 1,600 ล้านบาทเป็นต้นไป

การประเมินมูลค่าทรัพย์สินจากผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. จำนวน 2 ราย คาดการณ์ว่าในอนาคตอีก 4 ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดของโครงการนี้จะมีมูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาท

"เรากำหนดมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำเพียง 10 บาทต่อ 1 โทเคน เพื่อกระจายโอกาสให้นักลงทุนทุกกลุ่มสามารถลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพและมีมูลค่าโครงการระดับพันล้านบาทได้ ในขณะเดียวกันยังมีโอกาสได้รับส่วนแบ่งรายได้ที่ดีและสม่ำเสมอเป็นรายไตรมาส"

นายอัฏฐ์ กล่าวว่า ในการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับครั้งนี้ ถูกรองรับด้วยเทคโนโลยีระบบบล็อกเชน (Blockchain) ของเทโซส (Tezos) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ทันสมัยที่สุดถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการระดมทุนในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลที่มีสินทรัพย์อ้างอิงโดยเฉพาะ ทำให้ระบบดังกล่าวมีความปลอดภัยสูง 

สำหรับรายละเอียดวันที่เปิดให้จองซื้อและวันที่เข้าซื้อขายในตลาดรอง บริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนอีกครั้ง เพราะจะต้องได้รับการอนุมัติจากก.ล.ต.ให้แบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) มีผลบังคับใช้ก่อน แต่เบื้องต้นนักลงทุนสามารถลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่น "XSpring" ซึ่งเป็นช่องทางที่บริษัทจะเปิดให้จองซื้อโทเคนดิจิทัลได้แล้ววันนี้ ทั้งในระบบ iOS และ Android เพื่อเปิดบัญชีและยืนยันตัวตนใช้บริการ ซึ่งจะต้องผูกกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์(e-Wallet) ไว้สำหรับการรับเงินปันผล

ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้จองซื้อประมาณ 10 วันทำการนับตั้งแต่วันที่เริ่มขาย แต่สามารถปิดขายได้ก่อนกำหนด หากกระจายได้ครบจำนวนแล้วและจะดำเนินการตั้งกองทรัสต์หลังจากปิดการขายภายใน 15 วันทำการ ก่อนจะนำโทเคนดังกล่าวเข้าไปซื้อขายในตลาดรองของพันธมิตรบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวงการคลัง และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. โดยอีอาร์เอ็กซ์จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดรอง
#2873


ครั้นยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นทะลุหลัก "หมื่นราย" นโยบายล็อกดาวน์ถูกใช้ในพื้นที่สีแดงเข้ม ปลายเดือนกรกฎาคมร้านอาหารในห้างเจอมาตรการห้ามซื้อกลับบ้าน และเดลิเวอรี่ เป็นครั้งแรกที่หน้าร้านถูก "ปิดประตู" ค้าขายแบบ 100% ทว่า ล่าสุด ร้านอาหารในห้างกลับมาให้บริการได้ แต่มีเงื่อนไขให้ "เดลิเวอรี่" เท่านั้น กลายเป็น "ตัวแปร" ต่อการ "ปรับตัว" และการดำเนินธุริจร้านอาหารอย่างมาก

ค่าย "สิงห์" เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จัดทัพลุยธุรกิจอาหาร มี "ฟู้ด แฟคเตอร์" เป็นหัวหอก หนึ่งในแบรนด์ของเครือที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดคือ "ซานตาเฟ่ สเต๊ก" เพราะร้านเกือบทั้งหมดมีสาขาอยู่ในห้างค้าปลีก

ปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด (Food Factors) ฉายภาพว่า ธุรกิจร้านอาหารค่อนข้างได้รับผลกระทบสูงจากการ "ล็อกดาวน์" นับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกแรกเมื่อปลายไตรมาส 1 ของปี 2563 ขณะที่ปัจจุบันการระบาดไวรัสเข้าสู่ระลอก 4 ประเทศไทยเผชิญสายพันธุ์เดลต้า ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ภาครัฐต้องยกระดับการควบคุมโรคระบาดด้วยการล็อกดาวน์อีกครั้งในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ "ร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะบริษัทมีร้านทั้งสิ้น 125 สาขา และให้บริการในห้างค้าปลีก 124 สาขา มีร้านอยู่นอกห้างเพียง 1 สาขาเท่านั้น ทำให้ด้านสถานการณ์ยอดขายของร้านจึงหดตัวลง

ขณะที่การปรับตัวในการทำธุรกิจอาหาร บริษัทให้ความสำคัญตั้งแต่การปรับวิธีการทำงาน นำแนวคิด "Agile" มาปรับใช้ เพื่อให้กระบวนการทำงานมีความคล่องตัว ยืดหยุ่น อย่างรวดเร็ว เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ผกผันตลอดเวลา

"ทุกวันนี้สถานการณ์ต่างๆเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฟู้ด แฟคเตอร์ ในฐานะผู้ประกอบต้องปรับวิธีการทำงานให้มีความคล่องตัว ยืดหยุ่นมากขึ้น การปรับกลยุทธ์ต่างๆต้องมีความมรวดเร็ว อย่างช่วงล็อกดาวน์พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก ได้พลิกกระบวนท่าทันทีเพื่อมุ่งบริการเดลิเวอรี่ เสิร์ฟอาหารตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และจัดเมนู ทำโปรโมชั่นเฉพาะกิจให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา อย่างไรก้ตาม ความท้าทายของบริษัทฯในเวลานี้คือการประเมิณยอดขายเพื่อบริหารจัดการสั่งซื้อวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพ เพราะของสดมีอายุข้างสั้น"

อย่างไรก็ตาม หากคลายล็อกดาวน์ ร้านอาหารเปิดให้บริการได้ ธุรกิจอาหารมีการฟื้นตัวกลับมาเร็ว เช่นเดียวกับร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก เนื่องจากมีฐานลูกค้าค่อนข้างมาก แต่ภาพรวมการฟื้นตัวจะไม่เหมือนเดิม 100% เพราะมีหลายปัจจัยส่งผลต่อธุรกิจ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อของผู้บริโภคหายไปค่อนข้างมาก


นอกจากนี้ ความไม่ชัดเจนของการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์การสิ้นสุดได้ของโรคระบาดได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังและไม่กล้าใช้จ่าย รวมถึงมาตรฐานการคลายล็อกดาวน์ยังไม่ชัดเจน เพราะยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ทำให้การใช้มาตรการคุมโรคระบาดเข้มงวดและอาจจะไม่สามารถกลับมาคลายล็อกได้ง่ายเหมือนที่เคยเป็นมา

นบเกล้า ตระกูลปาน กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การล็อกดาวน์หลายครั้งทำให้บริษัทต้องปรับเปลี่นยโมเดลธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับบริการ "ซื้อกลับบ้าน"หรือ Takeaway และ "เดลิเวอรี่" เสิร์ฟอาหารอร่อยถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ ยังปรับกลยุทธ์การขยายสาขาโดยโฟกัส "ทำเลใหม่" นอกห้างงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นย่านชุมชน สถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม) โรงพยาบาล เป็นต้น เพื่อกระจายความเสี่ยงให้ธุรกิจรวมถึงการบริการลูกค้าได้ต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังเน้นโมเดล "ร้านซานตาเฟ่ อีซี่"(Santa Fe Easy)เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างรวดเร็ว ลดการสัมผัส อีกทั้งยังตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุควิถีใหม่จากนี้ไปหรือ Next Normal

"การปรับตัวลุยบริการซานตาเฟ่ เดลิเวอรี่ ส่งผลให้มีการเติบโตสูงมาก แต่แนวโน้มจากนี้ไปเดลิเวอรี่อาจไม่หวือหวา เพราะการอยู่บ้าน ผู้บริโภคมีเวลามากขึ้น และปรับพฤติกรรมเริ่มทำอาหารทานเอง ที่สำคัญการตระหนักเรื่องความปลอดภัยของอาหาร ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การแข่งขันเดลิเวอรี่รุนแรง แบรนด์ต่างๆงัดกลยุทธ์ราคาและโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า"

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารระยะยาวหลังโควิดคลี่คลาย คาดการณ์จะใช้เวลา 2 ปี จึงจะฟื้นตัว เนื่องากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นั่งทานในร้าน(Dine in)เปลี่ยนไป และอาจต้องใช้เวลา 1 ปี พฤติกรรมดังกล่าวจะกลับมาใกล้เคียงปกติ

"พฤติกรรมผู้บริโภคบางส่วนยังคุ้นชินกับความปลอดภัย และคุ้นเคยกับการรักษาระยะห่าง มีความกังวลกับการไปในแหล่งชุมชน รวมถึงการรับประทานอาหารในร้าน"
#2874


ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งช่วยคนไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 ด้วยการมอบสิทธิ์พิเศษให้ผู้ใช้รถยนต์ใช้ "ประกันรถเปิดปิด" แบบ Top-up ประเภทความคุ้มครอง ชั้น 3+ ความคุ้มครอง 100,000 บาท (จำนวน 30 ชั่วโมง ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน) ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล  รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI ผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ในปัจจุบันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของคนไทยในวงกว้าง "ประกันภัยไทยวิวัฒน์" ในฐานะบริษัทประกันวินาศภัยไทย และผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อช่วยเหลือคนไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

ด้วยการเปิดให้ผู้ใช้รถยนต์ทั่วประเทศ  ที่ไม่เคยใช้ประกันรถเปิดเปิดมาก่อน ลงทะเบียนรับสิทธิใช้ "ประกันรถเปิดปิด แบบ Top-up" ฟรี! รับความคุ้มครองเริ่มต้น  30 ชั่วโมง นานสูงสุด 30 วัน โดยแผนประกันที่เปิดให้ลงทะเบียนใช้ฟรี คือ ประกันรถเปิดปิด แบบ Top-up ประเภท 3+ ทุนประกันตัวรถยนต์ 100,000 บาท โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองเบื้องต้นสำหรับผู้ใช้รถยนต์ที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายทางด้านการประกันภัย 

โดยผู้ใช้รถยนต์ที่สนใจสามารถเลือกเพิ่มความคุ้มครองเป็นชั้น 2+ หรือชั้น 1 หรือเพิ่มทุนประกัน ได้เช่นกันโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการได้สามารถมีอายุรถได้สูงสุดถึง 15 ปี ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ ได้ที่ www.thaivivat.co.th หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมผ่านช่องทาง Facebook Fanpage ประกันภัยไทยวิวัฒน์ หรือโทร 02-200-7000 ตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2564

ทั้งนี้  สำหรับลูกค้าที่ใช้ประกันรถเปิดปิด แบบ Package อยู่แล้ว  และมีการต่ออายุล่วงหน้าเข้ามาผ่าน แอปพลิเคชัน Thaivivat ทุกแพ็กเกจ สามารถรับจำนวนชั่วโมงที่เหลืออยู่จากกรมธรรม์เดิม ทบในกรมธรรม์ใหม่ สูงสุดไม่เกิน 100 ชั่วโมง เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยให้กับลูกค้า รวมถึงยังมีสิทธิพิเศษตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 30 รายการ และพ่นฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับลูกค้าประกันรถเปิดปิด นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันอีกมากมายที่จะมาช่วยเสริมเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์เต็มที่ในช่วงวิกฤตโรคระบาดที่หลายๆ บ้านใช้รถน้อยลง

"โครงการนี้ถือเป็นส่วนเล็กๆ ในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไปพร้อมๆกับการเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้ประสบการณ์การใช้งานประกันรถเปิดปิด ที่ช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันได้สูงสุดถึง 70% จอดรถไว้ ไม่ขับไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน แต่ยังได้รับความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง  ตอบโจทย์สถานการณ์ในปัจจุบัน ที่คนส่วนใหญ่ Work From Home กันมากขึ้น" นายเทพพันธ์ กล่าว
#2875


นางแองเจล่า ฮันเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชับบ์ ไลฟ์ เปิดเผยว่า ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่มอบความอุ่นใจเพิ่มขึ้นแก่เจ้าของรถที่ใช้บริการสินเชื่อ และลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

โดย ชับบ์ ไลฟ์ ได้ร่วมมือกับ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแก่ลูกค้าของกรุงศรี ออโต้ มาเกือบ 20 ปี ซึ่งชับบ์ ไลฟ์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อพันธมิตรในครั้งนี้ โดยยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้ตอบสนองความต้องการด้านการเงินได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การผ่อนชำระเบี้ยประกันรายเดือน ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ช่วยลดข้อกังวลกับภาระทางการเงินของผู้ใช้บริการสินเชื่อ ด้วยความคุ้มครองในกรณีที่อุบัติเหตุ ทุพพลภาพ ตลอดจนการเสียชีวิต จนทำให้ไม่สามารถชำระค่างวดต่อไปได้ โดย ชับบ์ ไลฟ์ จะเข้ามารับผิดชอบสำหรับค่างวดคงเหลือ ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกทำประกันได้พร้อมการทำสัญญาสินเชื่อเช่าซื้อ

นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับ ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ในการส่งมอบบริการด้านการเงินที่ครอบคลุมแก่ผู้ใช้บริการสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อเพื่อคนมีรถ "คาร์ ฟอร์ แคช" โดยถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราเชื่อว่า ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อจะยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ใช้รถที่มองหาความคุ้มครองและความคุ้มค่า ท่ามกลางสถานการณ์ไม่แน่นอนในปัจจุบัน

"การสานต่อความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการเน้นย้ำถึงค่านิยมของทั้งสององค์กรที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดย ชับบ์ ไลฟ์ และกรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ จะเดินหน้าเชื่อมต่อการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และข้อมูลกรมธรรม์ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น" 
#2876


เทร ยัง ซูเปอร์สตาร์ แอตแลนตา ฮอว์กส ต่อสัญญา 5 ปี มูลค่า 207 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,800 ล้านบาท) ตามการยืนยันของ โอมาร์ วิลก์ส เอเยนต์ส่วนตัว ต่อสำนักข่าว "อีเอสพีเอ็น (ESPN)" ของ สหรัฐอเมริกา

สัญญาระบุเงื่อนไข ปรับค่าจ้างขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะส่งผลให้เงินการันตี 172 ล้านเหรียญ (ราว 5,700 ล้านบาท) เพิ่มเป็น 207 ล้านเหรียญ (6,800 ล้านบาท) กรณี ยัง ติดทีมยอดเยี่ยม บาสเกต. เอ็นบีเอ (NBA) 1 ใน 3 ทีม และสามารถปฏิเสธอ็อปชัน หลังครบ 4 ซีซัน

ข้อตกลงจะมีผล ตั้งแต่ฤดูกาล 2022-23 กระทั่งสิ้นสุดฤดูกาล 2026-27

การเจรจาต่อสัญญาเต็มมูลค่าของ ยัง ไม่มีอะไรซับซ้อน หลังแบก ฮอว์กส ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ สายตะวันออก ทั้งที่ไม่เคยสัมผัสเพลย์ออฟตลอด 3 ซีซันล่าสุด

ผลผลิตของมหาวิทยาลัยโอกลาโฮมา เป็นแกนหลักของแฟรนไชส์ เขี่ยทีมวางอันดับสูงกว่าอย่าง นิว ยอร์ก นิกส์ กับ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส และทำให้ มิลวอคกี บัคส์ ต้องออกแรงถึง 6 เกม กว่าจะเข้ารอบชิงชนะเลิศ

การ์ดจ่ายวัย 22 ปี ทำคะแนนเฉลี่ย 28.8 แต้ม 9.5 แอสซิสต์ เฉพาะเพลย์ออฟ พิสูจน์ฝีมือว่าเป็นอนาคตของแฟรนไชส์ นับตั้งแต่ถูก ดัลลัส มาเวอริกส์ ปล่อยตัวเพื่อแลกกับ ลูกา ดอนซิช เมื่อปี 2018
#2877


เลือดนักสู้เกินร้อยไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ สำหรับสาวหมวยอารมณ์ดี ลี่-พรชนัน พัฒนาปัญญาสัตย์ กับลุคฟรุ้งฟริ้ง "ผ้าโพกหัว" หลากสีสัน งัดไม้เด็ดกับคอนเซปต์ "รัก 3 ระยะ" จนถูกใจกรรมการคว้าแชมป์ "มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ซีซัน 4" มาครอง

สาว ลี่ เล่าความในใจหลังได้แชมป์ด้วยว่า "ตื่นเต้นมากค่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าตัวเองชนะ เพราะดูจากคำติชมจานแรก ลี่โดนเยอะมาก ตอนแรกลี่ก็คิดแหละน้องเตอร์น่าได้แชมป์ พอได้จริงๆ ก็ตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก"

ข่าวแนะนำ

ก่อนการแข่งขันรอบไฟนอลลี่มีความกดดันมากน้อยขนาดไหน

"ไม่กดดันค่ะ เพราะเป็นเมนูที่ลี่เตรียมเอาไว้นานแล้วก่อนลี่เข้ามาแข่งขันมาสเตอร์เชฟ ถ้าเข้ารอบจะทำเมนูนี้ คอนเซปต์ความรัก อาหาร 3 จานเหมือนความรัก 3 ระยะ อยากสื่อว่า...ลี่คบใครก็ต้องใช้หัวใจมองเหมือนกัน เหมือนการทำอาหารต้องใส่ใจและให้หัวใจทำอาหารทุกขั้นตอน อยากสื่อคอนเซปต์นี้ให้กรรมการทั้ง 3 ท่าน ให้รู้ว่าเรารักการทำอาหารจริงๆ แต่จานแรกโดนติเยอะก็เสียใจ รสชาติที่วางมาไม่ถูกปากเค้าเหรอ แต่เราเสียใจได้ไม่นานต้องทำต่อ"

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากแข่งขันในครั้งนี้

"ที่จริงมาสเตอร์เชฟให้อะไรกับลี่เยอะมาก กว่าลี่มาถึงจุดนี้ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องรู้จักจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ดีที่สุดเวลาเจอโจทย์หรือความตื่นเต้น บางทีเจอโจทย์บางทีเราสติหลุด พยายามหาทางควบคุมสติ ไม่งั้นสิ่งที่เราฝึกฝนมาตั้งนานสูญเปล่า มาสเตอร์เชฟทำให้เราโตขึ้น"


ได้ฉายาเจ้าหญิงขนมหวาน กลายเป็นพลังบวกต่อการแข่งขันกับตัวเราขนาดไหน

"จะฉายาเจ้าหญิงขนมหวานหรืออะไรก็แล้วแต่เป็นกำลังใจที่ดี ลี่รู้สึกเป็นกำลังใจสำคัญเหมือนกัน พูดถึงแง่ดี แง่ไม่ดีค่อนข้างเยอะ เราก็น้อมรับนำมาปรับปรุง"

คอมเมนต์แรงบั่นทอนเราขนาดไหน

"จากคอมเมนต์ เราไม่สมควรได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้ ไม่เก่งจริง เป็นคนบ้าๆเป็นคนพูด อะไรไม่รู้เรื่อง มีคำพูดว่าไม่สมประกอบหรือเปล่า? เวลาพูดต้องหัวเราะตลอดเวลา ลี่รู้สึกว่าลี่จะแคร์คำวิจารณ์มากไม่ได้ บางทีเรานิ่งๆ คนไม่ชอบเรายังไงก็ไม่ชอบ ลี่คิดเสมอเราทำดีที่สุดไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำไปเหอะ คนรักลี่ก็รักในความเป็นลี่"

แล้วตัวตนจริงๆลี่เป็นคนแบบไหน

"เป็นคนตลกโก๊ะๆ บ้าๆ (หัวเราะ) ถ้าลี่ไม่สนิทจะนิ่งๆ แต่ถ้าสนิทลี่จะเป็นคนพูดเยอะ เป็นคนงงๆ (ยิ้ม)"


ตอนนี้กลายเป็นที่รู้จัก กับชีวิตเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน

"ก็เปลี่ยนนะคะ มองง่ายๆ ออกไปข้างนอกมีคนจำได้ก็จะเข้ามาทักเรา รู้สึกแปลกดี ยังไม่ค่อยคุ้น ปกติไม่มีคนรู้จัก พอออกรายการไปมีคนรู้จักมากขึ้น ทักทาย ชีวิตส่วนตัวหายไปนิดนึง คนตามไอจีเยอะขึ้น ก็ขอบคุณมากๆ หน้าที่การงานก็มีคนสั่งขนมเรามากขึ้น อีกไม่นานความฝันเปิดร้านขนมของเราก็คงจะเป็นจริง ตอนนี้พยายามเก็บสตางค์ให้มากที่สุด ต้องไปให้ถึงฝันที่เราอยากได้ และเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆที่ชอบทำอาหารกับคนรักในเส้นทางนี้ได้ทำตามลี่ในแบบอย่างที่ดี"

ก้าวมาถึงจุดนี้เหมือนชนะใจตัวเองเหมือนกันนะ

"พิสูจน์อะไรหลายๆ อย่าง การแข่งขันลี่ก็แข่งมาบางรายการ บางรายการไม่สำเร็จ เมื่อ 2 ปีที่แล้วตกรอบในเรื่องของหวานด้วย มาที่นี่ รายการนี้อยากมาตั้งแต่ซีซันแรกแต่ลี่ยังไม่พร้อม"

ก้าวหลังจากนี้ล่ะ

"ตอนเด็กๆอยากแพลน 10-20 ปี ทำโน่นทำนี่แต่ตอนนี้ทำทุกวันให้ดีก่อน การประคองชีวิตในแต่ ละวันมันยากแล้ว แค่เราทำชีวิตเราให้ดี มีเงินใช้ มีงานทำมันเป็นอะไรที่สำคัญ ลี่ตั้งใจเก็บสตางค์ มีร้านมีครอบครัว อยากมีชีวิตที่ดีไม่อยากไปลำบากเหมือนเก่า อยากทำทุกวันให้ดีเพื่อจะได้ส่งผลถึงอนาคต"


ลี่มาเทรนด์โพกผมโดนแซวเยอะรู้ใช่มั้ย

"ใช่ค่ะ ทำไมต้องโพกหัวตลอดเวลา จะบอกว่าลี่ผมบาง เป็นคนโพกอยู่แล้วเวลาทำอาหารเพราะเป็นคนผมร่วงเยอะ หัวล้านค่ะ"

เกิดจากอะไรถึงผมบาง

"อาจจะเป็นเพราะว่าตอนเด็กๆ เรียนรำนาฏศิลป์ ต้องเกล้าผมเยอะ บวกกับรากผมไม่แข็งแรง จุดนี้มากกว่าทำให้ผมร่วงไปเรื่อยๆ เลยผมบาง และเป็นคนหน้าจืดๆ ถ้าใส่อะไรบนหัวจะทำให้หน้าเราสว่างยิ่งขึ้น ผ้าเด่นกล้าหน้า"

เบ็ดเสร็จผ้าโพกหัวมีทั้งหมดกี่ผืน

"ประมาณ 150 ผืนค่ะ มีบางผืนไม่ชอบใส่ บางผืนผ้าผืนเก่ง รอบไฟนอลเป็นผ้าผืนที่ใส่ตั้งแต่รอบออดิชัน เหมือนเป็นเครื่องราง เราใส่สีนี้นะจะพาเราไปถึงชัยชนะได้"

สายมูกับเค้าด้วยเหรอเนี่ย

"มูตลอดค่ะ (หัวเราะ) เดี๋ยวต้องไปแก้บนเพราะบนไว้เยอะมาก บนเพราะไม่คิดว่าชนะก็เลยบนเหนือ ใต้ ออก ตกเลยค่ะไปนครศรีธรรมราช, เชียงใหม่ พิษณุโลกและนครปฐม ดวงก็สำคัญกับการแข่งขันวันไหนสติไม่อยู่ก็ทำไม่ได้ มันต้องมาประกอบกันเป็น ความเชื่อของลี่ค่ะ"


กับความรักล่ะเป็นยังไงบ้าง

"ดีค่ะ จริงๆก็เปิดเผยแค่ไม่ได้เปิดเผยออกสื่อมากนักเพราะลี่อยากให้มีชีวิตส่วนตัว แฟนลี่เป็นคนนอกวงการ ไม่ได้ทำอาหาร รู้จักกันเพราะเป็นเพื่อนของรุ่นพี่เป็นคนแนะนำให้รู้จัก และรุ่นพี่ลี่คนนี้เค้าเสียชีวิตไปนานแล้ว อยากพูดถึงเค้านิดนึงชื่อพี่เบิร์ด เพราะเค้าเป็นคนอยากให้ลี่มาแข่งรายการนี้ หนึ่งแรงบันดาลใจของลี่เหมือนกัน เค้าบอกว่าทำไมไม่ลองไปแข่งดู รู้สึกเราสำเร็จได้เพราะเค้าเชียร์ให้เรามาแข่งเหมือนกัน ฝ่ายซัพพอร์ต ก็มีรูปเค้าในไอจีแค่ลี่อยากไปไหนกับเค้าโดยไม่ได้เป็นจุดสนใจมากนัก อยากให้เค้ามีชีวิตส่วนตัวของเค้า"

คบกันนานหรือยัง "4 ปีแล้วค่ะ" มั่นคงพร้อมแต่งแล้วหรือยัง

"ก็พร้อมค่ะ รอเค้าขออยู่แต่ไม่มา (หัวเราะ) สงสัยต้องไปขอเองแล้วมั้ง"

จริงๆมีการพูดคุยเรื่องแต่งงานบ้างมั้ย

"มีค่ะ บางทีแท็กไปหาเลยเมื่อไหร่จะมาขอ เค้าก็บอกรอไปก่อน (หัวเราะ)"

แท็กไปหาแบบนี้เป็นการกดดันแฟนให้มาขอเร็วๆเหรอ

"กดดันค่ะ ตั้งใจ (หัวเราะ) ก็แท็กขำๆไป ให้มีคนไปกดดันเค้าด้วยจะได้รีบๆ มาขอแต่ไม่มีผล รอต่อไป แต่จริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมขนาดนั้นเพราะเรายังสนุกกับงาน อยากให้งานมั่นคง เงินมั่นคง ความรู้มั่นคงก่อนที่ลี่จะมีครอบครัวค่ะ".
#2878


ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ยังร่วงลงต่อเนื่อง จากแรงกดดันสถานการณ์โควิด -19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ เสียชีวิตขยับขึ้นสูง การฉีดวัคซีนยังล่าช้า การบังคับใช้มาตราการเข้มข้นยังคงมีต่อเนื่อง ทำให้หุ้นหลายกลุ่มทรุดหนัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานที่หลายตัวทำราคา NEW LOW ในรอบปี 64 และอีกหลายตัวทำราคาลงมาใกล้เคียงกับ NEW LOW ในปี 63 อีกด้วย

1.PTT (บมจ.ปตท.) มาร์เกตแคป 992,564 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาปิด 34.75 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 45.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 44.50 บาทในวันที่ 13 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 23.20 บาท แล้วไปปิดที่ 28.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 47.75 บาท ก่อนปิดที่ 46.75 บาท (8 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 34.75 บาท เหลืออัพไซด์ 41.73% จากราคาเป้าหมาย 49.25 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลา โดย 5 วัน -3.47%, 20 วัน -11.46%, 60 วัน -13.12%, 120 วัน -7.95%, และ YTD -18.24%

2.OR (บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก) มาร์เกตแคป 333,000ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาปิด 27.75 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ซึ่งในปีนี้ เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 36.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 34.00 บาทในวันที่ 15 ก.พ.64

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 27.75 บาท เหลืออัพไซด์ 3.42% จากราคาเป้าหมาย 28.70 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -2.63%, 20 วัน -9.02%, 60 วัน -9.02% ส่วนถ้าเทียบจากราคา IPO ที่ 18.00 บาท ล่าสุด 27.75 บาท บวก 9.75 บาท หรือ +54.17%

3.TOP (บมจ.ไทยออยล์) มาร์เกตแคป 89,761 ล้านบาท ล่าสุด (30 ก.ค. 64) ราคาระหว่างวันต่ำสุด 42.50 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 44.00 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 66.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 64.25 บาท ในวันที่ 8 มี.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 25.25 บาท แล้วไปปิดที่ 27.50 บาท (19 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 73.50 บาท ก่อนปิดที่ 70.00 บาท (6 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 44.00 บาท เหลืออัพไซด์ 44.32% จากราคาเป้าหมาย 63.50 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -6.88%, 20 วัน -19.27%, 60 วัน -25.74%,120 วัน -19.27%, YTD -15.38%

4.BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) มาร์เกตแคป 102,972 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 39.00 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 39.50 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวัน 56.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 55.25 บาทในวันที่ 13 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 27.25 บาท แล้วไปปิดที่ 36.25 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 69.25 บาท ก่อนปิดที่ 65.00 บาท (21 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 39.50 บาท เหลืออัพไซด์ 35.44% จากราคาเป้าหมาย 53.50 บาท อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -4.24%, 20 วัน -5.95%, 60 วัน -7.60%, 120 วัน -22.55%, YTD -18.56%

5.RATCH (บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง) มาร์เกตแคป 61,625 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 42.25บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 42.50 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวัน 57.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 54.00 บาทในวันที่ 6 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 39.50 บาท แล้วไปปิดที่ 50.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 76.50 บาท ก่อนปิดที่ 74.50 บาท (21 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 42.50 บาท เหลืออัพไซด์ 11.50% จากราคาเป้าหมาย 54.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน 20 วัน -7.10%, 60 วัน -15.84%, 120 วัน -14.14%, YTD -19.81%

6.PTG (บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี) มาร์เกตแคป 26,219 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 15.50 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 15.70 บาท ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 21.90 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 20.80 บาทในวันที่ 9 มี.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 8.95 บาท แล้วไปปิดที่ 9.10 บาท 26 มี.ค.63 ส่วนสูงสุดทำได้ 19.30 บาท ก่อนปิดที่ 18.40 บาท (22 ก.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 15.70 บาท เหลืออัพไซด์ 46.50% จากราคาเป้าหมาย 23.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -5.42%, 20 วัน -15.14%, 60 วัน -21.89%, 120 วัน -8.72%,YTD -1.26%

7.ESSO (บมจ.เอสโซ่) มาร์เกตแคป 25,264 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 7.20 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆปิดที่ 7.30 บาท ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 9.40 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 9.05 บาทในวันที่ 16 ก.พ.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 3.14 บาท แล้วไปปิดที่ 3.36 บาท (19 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 9.70 บาท ก่อนปิดที่ 8.90 บาท (6 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 7.30 บาท เหลืออัพไซด์ 7.12% จากราคาเป้าหมาย 7.82 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -1.35%, 20 วัน -11.52%, 60 วัน -14.62%, 120 วัน -12.57%, YTD -1.35%

8.EGCO (บมจ.ผลิตไฟฟ้า) มาร์เกตแคป 90,025 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 171.00 บาท ซึ่งในปี 64 ต่ำสุด 168.50 บาท (24 พ.ค.) ส่วนสูงสุดปีนี้คือ 213.00 บาท (6 ม.ค.) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 161.00 บาท แล้วไปปิดที่ 210.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 350.00 บาท ก่อนปิดที่ 342.00 บาท (15 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 171.00 บาท เหลืออัพไซด์ 78.07% จากราคาเป้าหมาย 304.50 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน +0.59%, 20 วัน -2.29%, 60 วัน -3.12%, 120 วัน -4.20%, YTD -11.17%

9.TTW (บมจ.ทีทีดับบลิว) มาร์เกตแคป 46,284 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 11.60 บาท ซึ่งในปี 64 ต่ำสุดระหว่างวัน 11.40 บาท แล้วไปปิดที่11.50 บาท (6 พ.ค.64) และเคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 12.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 12.30 บาท (11 ม.ค.64) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 11.00 บาท แล้วไปปิดที่ 11.30 บาท (17 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 14.70 บาท ก่อนปิดที่ 14.30 บาท (19 ก.พ.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 11.60 บาท เหลืออัพไซด์ 20.69% จากราคาเป้าหมาย 14.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -0.85%, 20 วัน -0.85%, 60 วัน 0.00%, 120 วัน -4.92%, YTD -6.45%

10.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) มาร์เกตแคป 393,060 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 33.50 บาท ซึ่งราคาตำสุดของปีนี้ 31.00 บาท (19 เม.ย.) ห่างจากต่ำสุด 2.50 บาท ก็จะเป็น NEW LOW ในรอบปี 64 ส่วนปีนี้เคยทำราคาสูงสุด 38.00 บาท (8 ม.ค.) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 22.35 บาท แล้วไปปิดที่ 26.79 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 41.03 บาท ก่อนปิดที่ 38.81 บาท (21 พ.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 33.50 บาท เหลืออัพไซด์ 26.33% จากราคาเป้าหมาย 42.32 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -0.74%, 20 วัน -2.19%, 60 วัน -2.90%, 120 วัน 0.00%, YTD -2.19%

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานส่วนใหญ่พื้นฐานแข็งแกร่ง มีสตอรี่และเป็นที่นิยมของนักลงทุนกันมาก แต่เมื่อเผชิญโควิด-19 รอบนี้ จึงถูกถูกกดดันหนัก จึงน่าจับตาว่า จะลงไปถึงจุดต่ำสุดเท่าไร และเมื่อไรกัน?

https:// m.mgronline.com/stockmarket/detail/9640000075283
#2879


นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ภายในประเทศที่ยังขยายตัวในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อเอสเอ็มอีเป็นจำนวนมาก ทั้งปัญหายอดขายและรายได้ลดลง SME D Bank ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อเอสเอ็มอีไทย จึงออกมาตรการทางการเงินเสริม ด้วยแพคเกจสินเชื่อ "เติมทุน SMEs มีสุข ยิ้มได้" วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท ภายใต้ 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ได้แก่ "SMEs D เติมทุน" "SMEs มีสุข" และ "SMEs ยิ้มได้" ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้มีวงเงินเพิ่มขึ้น นำไปใช้เสริมสภาพคล่อง และลดต้นทุนทางการเงิน


สำหรับจุดเด่นของ 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ เปิดกว้างเอสเอ็มอีทุกกลุ่มธุรกิจ คุณสมบัติกู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ วงเงินกู้สูงขึ้นถึง 15 ล้านบาทต่อราย ได้แก่ "สินเชื่อ SMEs D เติมทุน" วงเงิน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% ต่อปี เปิดโอกาสรับรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินเดิม ช่วยลดต้นทุนทางการเงิน ผ่อนนานถึง 10 ปี


"สินเชื่อ SMEs มีสุข" วงเงิน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5% ต่อปี สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือปรับเปลี่ยนธุรกิจ รองรับการเติบโตในอนาคต ผ่อนนานถึง 10 ปี และ "สินเชื่อ SMEs ยิ้มได้" วงเงิน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.5% ต่อปี ทบทวนวงเงินได้ทุกปี ช่วยเติมทุนหมุนเวียนให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถบริหารจัดการธุรกิจไม่มีสะดุด โดยเปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565


"SME D Bank ตระหนักดีถึงพันธกิจสำคัญในการเป็นกลไกของรัฐพาเอสเอ็มอีไทยให้เข้าถึงแหล่งทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง ธนาคารจึงดำเนินนโยบายให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ด้วยการออกแพคเกจสินเชื่อใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีเงินทุนเพิ่มขึ้น ต้นทุนทางการเงินลดลง สามารถนำไปใช้เสริมสภาพคล่องเพียงพอสูงถึงรายละ 15 ล้านบาท ช่วยบริหารจัดการธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้" นางสาวนารถนารี กล่าว
#2880


ผลวิเคราะห์ของบรรดานักวิชาการสหราชอาณาจักรที่เผยแพร่โดยกลุ่มที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร เชื่อว่า "เกือบจะแน่นอน" ที่จะเกิดการอุบัติขึ้นของตัวกลายพันธุ์หนึ่งของ SARS-Cov-2 (ไวรัสที่เป็นต้นตอของโควิด-19) ซึ่งจะมอบความล้มเหลวแก่วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน พร้อมแนะนำเจ้าหน้าที่ลดการแพร่เชื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดโอกาสเกิดตัวกลายพันธุ์ใหม่ที่ดื้อต่อวัคซีน

มุมมองดังกล่าวแสดงอยู่ในเอกสารที่จัดทำโดยบรรดานักวิชาการ บนสมมติฐานต่างๆ นานาเกี่ยวกับวิวัฒนาการระยะยาวของ SARS-Cov-2 ซึ่งถูกหยิบยกไปปรึกษาหารือและเผยแพร่โดยกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์สำหรับเหตุฉุกเฉินของสหราชอาณาจักร (Scientific Advisory Group for Emergencies - SAGE)

อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ในเบื้องต้นที่ยังไม่ผ่านการทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญ (peer-reviewed) เป็นเพียงหลักทฤษฎีและไม่ได้มีข้อพิสูจน์ใดๆ ว่าตัวกลายพันธุ์ลักษณะดังกล่าวกำลังวนเวียนอยู่ในตอนนี้

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เอกสารดังกล่าวลงวันที่ 26 กรกฎาคม และเผยแพร่โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรในวันศุกร์ (30 ก.ค.)

บรรดานักวิทศาสตร์เขียนว่าสืบเนื่องจากการขุดรากถอนโคนไวรัสดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ พวกเขาจึงเชื่อมั่้นเป็นอย่างสูงว่าตัวกลายพันธุ์จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกือบแน่นอนว่าจะค่อยๆ เกิดเปลี่ยนแปลงของแอนติเจน ที่ท้ายที่สุดจะนำมาซึ่งความล้มเหลวของวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน

พวกเขาแนะนำให้เจ้าหน้าที่ลดการแพร่เชื้อให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดโอกาสเกิดตัวกลายพันธุ์ใหม่ที่ดื้อวัคซีน

บรรดานักวิทยาศาสตร์ยังแนะนำการวิจัยวัคซีนใหม่ อย่ามุ่งเน้นเพียงป้องกันการป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลและการติดเชื้อเท่านั้น แต่มันควรนำมาซึ่งภูมิคุ้มกันแบบเยื่อเมือกในระดับสูงและทนทาน นอกจากนี้ พวกเขาระบุด้วยว่าเป้าหมายควรเป็นการลดการติดเชื้อและแพร่เชื้อจากบุคคลที่ฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ หลายบริษัทกำลังดำเนินการวิจัยสำหรับผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่สามารถจัดการกับตัวกลายพันธุ์ใหม่ๆ ได้

ในเอกสารระบุว่า ตัวกลายพันธุ์บางตัวที่อุบัติขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้ลดภูมิคุ้มกันจากการได้รับวัคซีน แม้ยังไม่มีตัวไหนเล็ดลอดการดักจับของวัคซีนไปได้ทั้้งหมด

อย่างไรก็ตาม พวกเขาเตือนว่าตัวกลายพันธุ์เหล่านั้นปรากฏตัวขึ้นก่อนมีการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวาง และพอมีการฉีดวัคซีนกว้างขวางขึ้น ไวรัสตัวหนึ่งๆ ที่สามาถหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากการได้รับวัคซีนก็จะฉวยโอกาสแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งในประเด็นดังกล่าวทาง SAGE เคยออกมาเตือนก่อนหน้านี้แล้ว

ในรายงานจากที่ประชุมเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม บรรดานักวิยาศาตร์ของ SAGE ระบุว่า การผสมผสานกันระหว่างความชุกของผู้ติดเชื้อในระดับสูงกับอัตราผูุ้ฉีดวัคซีนในระดับสูง ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นไปได้อย่างที่สุดว่าตัวกลายพันธุ์ที่สามารถเล็ดลอดภูมิคุ้มกันตัวหนึ่งๆ จะอุบัติขึ้น พวกเขาบอกในตอนนั้นว่า "ยังไม่ทราบว่ามันมีโอกาสเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน แต่ตัวกลายพันธุ์ดังกล่าวจะมีความเสี่ยงอย่างมากทั้งในสหราชอาณาจักรและนานาประเทศ"

(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น) https:// m.mgronline.com/around/detail/9640000075331