• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#2861
เพื่อให้เจ้าของกิจการ รอดผ่านวิกฤติ โควัด ไปด้วยกัน โพสต์ธุรกิจของท่านได้ฟรี ที่ https://bizzmotive.net/

สร้างโปรไฟล์ และโพสต์ธุรกิจของคุณได้ ฟรี https://bizzmotive.net/add-listing/ 
หรือ โพสต์ประกาศได้ที่ https://forum.bizzmotive.net/ 

ไม่เสียค่าใช้จ่ายไดๆ ทั่้งสิ้น 
ถ้าติดปัญหรือ ต้องการแนะนำ ติดต่อเข้ามาได้ https://bizzmotive.net/contact/
หรือ email info@bizzmotive.net

ศึกษาวิธีการใช้งานได้ที่ https://bizzmotive.net/how-it-works
#2862


นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 14 พ.ศ. 2564 Beyond COVID - 19 Crisis : A Decade of Health Transformation (ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 สู่ทศวรรษแห่งการปฏิรูประบบสุขภาพ) ผ่านระบบประชุมทางไกล ในการประชุมดังกล่าว มีการประกาศผลรางวัลและเชิดชูเกียรติบุคคลและองค์กรดีเด่น โดย กฟผ. ได้รับรางวัลสูงสุด ประเภทองค์กรดีเด่น ด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม Princess Health Award 2021 จากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะได้รับพระราชทานเหรียญรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในภายหลัง

นายบุญญนิตย์ กล่าวว่า รางวัลดังกล่าว เกิดจากความร่วมมือของทุกเครือข่าย นับตั้งแต่หน่วยงานกำกับดูแล ชุมชน สังคม สื่อมวลชนที่ได้ติดตามให้ข้อเสนอแนะการดำเนินงานของ กฟผ. ตลอดจนความร่วมมือ ในการขับเคลื่อนการสร้างสุขภาวะที่ดีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้กับคนไทย ผ่านโครงการปลูกป่า กฟผ. โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยังยืน โครงการแว่นแก้ว รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพต่าง ๆ อาทิการจัดงานวิ่ง งานแข่งจักรยาน และการสนับสนุนกีฬาต่าง ๆ ในระดับประเทศ

โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา กฟผ. ได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วน สนับสนุนการกู้วิกฤตตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่ความพยายามลดการระบาดของโรค การป้องกัน การรักษา เยียวยา

โดยเริ่มจากการดูแลพนักงาน เน้นการรักษาตัวเพื่อรักษาหน้าที่ เพื่อให้สามารถนำศักยภาพขององค์กรมาเร่งสนับสนุนในทุก ๆ ด้านอย่างสุดกำลัง อาทิ ผลิตเจลอนามัยน้ำใจ กฟผ. ผลิตตู้ตรวจโควิดกว่า 600 ตู้ ผลิตชุดหมวกป้องกันเชื้อ PAPR กว่า 1,000 ชุด

รวมทั้งจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม-ศูนย์พักคอย ระดมทุนจัดหาเตียงสนามและสิ่งของจำเป็นอีก 3,500 ชุด ร่วมสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน เป็นต้น เพื่อร่วมสร้างพลังให้ทุกภาคส่วนสามารถฝ่าฟันและผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ทุกความมุ่งมั่นที่ กฟผ. ได้ดำเนินการเพื่อสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม ล้วนสำเร็จได้จากแรงกายแรงใจจากทุกภาคส่วน กฟผ. จึงขอขอบคุณและขอมอบรางวัลนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้มีส่วนร่วม ตลอดจนคนไทยทุกคนที่คอยเป็นแรงใจให้ กฟผ. ซึ่งเป็นของคนไทย ได้ทำเพื่อคนไทยทุกคน
#2863


'บมจ.เซ็ปเป้' หรือ SAPPE ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 ทำรายได้รวม 960.5 ล้านบาท เติบโต 31.9% และกำไรสุทธิ 125.2 ล้านบาท เติบโต 53.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมเดินหน้าปรับแผนงานเชิงรุก ทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่เจาะตลาดรักสุขภาพ สร้างโมเมนตัมในตลาดอาหารและเครื่อมดื่มมากขึ้น พร้อมรับอานิสงส์ตลาดต่างประเทศฟื้นตัว กำลังซื้อเริ่มกลับมา รวมถึงรับผลดีจากค่าเงินบาทอ่อนค่า มั่นใจรายได้ทั้งปีเติบโต 10-15% ตามเป้าหมาย

น.ส.ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 (เมษายน-มิถุนายน) ถือเป็นปีที่บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวม 960.5 ล้านบาท เติบโต 31.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 728.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตแม้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตลาดต่างประเทศกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโต 52.0% จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนจากกำลังซื้อของผู้บริโภคหลังจากประชาชนทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยภูมิภาคที่เติบโตโดดเด่นได้แก่ ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา ที่ถึงแม้มีอุปสรรคด้านค่าระวางการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการเข้าไปบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด

สำหรับตลาดในประเทศ ไตรมาสนี้ได้มีการลงนาม MOA โครงการส่งเสริมการปลูกพืชกัญชงกับ บจ.ไทย เฮมพ์ เวลเนส เพื่อเตรียมพร้อมรับเทรนด์กัญชงแล้ว SAPPE ยังได้ปรับแผนเชิงรุกเพื่อขยายตลาดในประเทศโดยเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับกระแสรักสุขภาพของผู้บริโภค เช่น เครื่องดื่มเซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ กรีน รีแล็กซิ่งคาล์ม เครื่องดื่มน้ำสมุนไพร ตะขาบห้าตัว Sappe x Takaab เครื่องดื่มสมุนไพรแบบช็อตรูบี้ เลดี้ กาแฟเพรียว คอฟฟี่ สูตรใหม่ คอลลาเจน ไทพ์ทู แม็กซ์ทีฟ กาแฟถังเช่าสายพันธุ์ทิเบตผสมวิตามินบีรวม และในกลุ่มขนมขบเคี้ยว เช่น ลูกอมครูเพ็ญศรี โดยร่วมมือกับพันธมิตร Sappe x Workpoint ทำให้มีโมเมนตัมในตลาดอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น

ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 125.2 ล้านบาท เติบโต 53.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 81.6 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลให้สามารถรับรู้รายได้และกำไรเข้ามาเพิ่มมากขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2564 คาดว่าจะรักษาการเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มการขยายตัวของตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากแบรนด์สินค้า ช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ สำหรับตลาดในประเทศ บริษัทฯ มีแผนทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Functional Drink รวมถึงสร้างสีสันให้ตลาดอาหารและเครื่องดื่มด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อกระตุ้นให้ตลาดกลับมาคึกคักไม่แพ้ช่วงครึ่งปีแรก โดยคาดว่าผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทฯ จะสามารถผลักดันรายได้ให้เติบโตได้ 10-15% ตามเป้าหมาย
#2865


ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร (10 ส.ค.)ปรับตัวขึ้น 162 จุด โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 162.82 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 35,264.67 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 4,436.75 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 72.09 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 14,788.09 จุด

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ปัจจัยบวกจากการที่วุฒิสภาสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ ก่อนส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

ทำเนียบขาวระบุว่า โครงการดังกล่าวรวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหม่วงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะรวมทั้งโครงการสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ

ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากดิ่งลงอย่างหนักวานนี้ตามการทรุดตัวของราคาน้ำมัน ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ปรับตัวขึ้นเช่นกัน

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นในวันนี้ตามการดีดตัวขึ้นของของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธ และเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพฤหัสบดี

นักลงทุนวิตกว่า หากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.

นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ส่งสัญญาณในการกล่าวถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะปรับลดวงเงินคิวอีภายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

ขาดแคลนแรงงาน:ปัญหาใหญ่นิวซีแลนด์
ทั้งนี้ นายแคลริดากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟดภายในปลายปีหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

"ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะบรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปลายปีหน้า และการกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติในปี 2566 จะสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยแบบยืดหยุ่นของเฟด" นายแคลริดากล่าว

"หากการคาดการณ์ของผมเป็นจริง ก็คาดว่าเฟดจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้" เขากล่าว

คำกล่าวของนายแคลริดาสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด โดยนายวอลเลอร์ระบุว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีภายในเดือนต.ค.
#2866


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานวันนี้ (10 ส.ค.) มีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจหลายวาระ โดยเฉพาะ เงินเยียวยาประกันสังคม กลุ่ม ม.39 และ 40

โดยคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานจะเสนอกรอบและรายละเอียดการเยียวยากลุ่มแรงงานมาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 29 จังหวัด ที่อยู่ในกลุ่มจังหวัดสีแดงเข้มที่ประกาศให้ล็อกดาวน์ รวมทั้งกลุ่มอาชีพอิสระให้ได้รับเงินเยียวยาความเดือดร้อน (คนละ 5,000 บาท) 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกับ กรุงเทพธุรกิจ ว่ากระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ให้รายละเอียดแรงงาน และนายจ้างที่อยู่ในกลุ่มประกันสังคมมาตรา 39 และ 40 ใน 29 จังหวัดทั้งที่เป็นผู้ประกันตนเดิม และที่ลงทะเบียนใหม่ตามมติ ครม.ให้กับ สศช.เรียบร้อยแล้วเพื่อให้ได้กรอบและจำนวนที่แน่นอนเสนอให้ ครม.อนุมัติหลังจากก่อนหน้านี้อนุมัติในหลักการแล้ว 

ทั้งนี้แรงงานในกลุ่มนี้ทั้ง 29 จังหวัดที่เข้าเงื่อนไข รวมทั้งอาชีพอิสระจะได้เงินเยียวยาเป็นจำนวน 5,000 บาท โดยในส่วนของ 13 จังหวัดแรกที่มีการประกาศล็อกดาวน์มีผู้ประกันตนในมาตรา 39 ประมาณ 1 ล้านราย ส่วนในมาตรา 40 เดิมมีผู้ประกันตนประมาณ 1 ล้านราย และมีการลงทะเบียนเพิ่มเติมมา 3.1 ล้านราย รวมเป็น 4.1 ล้านราย 


ส่วนใน 16 จังหวัดที่มีการประกาศล็อกดาวน์เพิ่มเติมยังไม่ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนเพิ่มเติม แต่จากฐานข้อมูลประกันสังคมที่มีอยู่มีผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ 40 รวมกันประมาณ 1 ล้านราย แบ่งเป็นมาตรา 39 ประมาณ 4 - 5 แสนราย และมาตรา 40 ประมาณ 4 -5 แสนรายเช่นกันโดยอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท

สำหรับวาระ ครม.ที่น่าสนใจในวันนี้ได้แก่ วาระเพื่อพิจารณา กระทรวงการต่างประเทศเสนอการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยโดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศกับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์

กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอข้อตกลงยอมรับร่วมรายสาขาสำหรับวัสดุอาคารและสิ่งก่อสร้างอาเซียนกระทรวงคมนาคมเสนอขออนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงทพ (ขสมก.)

กระทรวงมหาดไทยขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่ ปี 2564

ส่วนวาระเพื่อทราบ กระทรวงพัฒนาสังคมเสนอขออนุมัติคุณสมบัติของผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ....

กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ละวิธีการในการยื่นอุธรณ์และวิธีพิจารณาในการวินิจฉัยอุธรณ์เกี่ยวกับผังเมืองรวม และผังเมืองเฉพาะพ.ศ...

กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำต้องเป็นไปตามมาตราฐาน พ.ศ...

คณะกรรมการทุนหมุนเวียนรายงานสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมของทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2562

คกก.ติดตามนโยบายสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3/2564 และผลการประชุมรัฐมนตรีอาเชียนด้านพลังานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้า
#2867
ยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรสกัด ยาแผนโบราณ/ยาสามัญประจำบ้าน
ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย :
สารสกัดฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ไม่ต่ำกว่า 24 มก.
วิธีใช้ :
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร คำเตือน : อ่านฉลากก่อนใช้ยา การเก็บรักษา : เก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดดเก็บให้พ้นมือเด็ก
รหัสสินค้า 48009
ปริมาณสุทธิ : 30.00 แคปซูล
น้ำหนักรวม : 40.90 กรัม
จำนวน : 1 กล่อง   

add line  https://line.me/ti/p/tSPtWbRL8c
ดูรายละเอียด https://bit.ly/3CvHCq2

#2868


วันนี้ (10 ส.ค. 64) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงอัปเดตสถานการณ์การรับมือกับ สายพันธุ์เดลตา จากทั่วโลก ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ Mahidol Channel โดยระบุว่า สหประชาชาติ ออกมาประกาศต้นเดือน ก.ค. ว่าสายพันธุ์เดลตากระจาย 98 ประเทศ กำลังก่อปัญหาใหญ่ให้กับมนุษยชาติ เพราะสายพันธุ์นี้มีพฤติกรรมหลายอย่างที่เปลี่ยนไปจากเดิม


หลังจากนั้น 30 ก.ค. สหประชาชาติ ออกมาเตือนว่าสิ่งที่คาดการณ์ไม่ทันกับไวรัส เพราะเดลตา รุนแรง ไปเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งกระจาย 132 ประเทศ ที่สำคัญ คือ ใน หนึ่งสัปดาห์ ติดเชื้อเกือบสี่ล้านคน ในหนึ่งเดือนมีคนติดเชื้อเพิ่ม 80% รวมถึงการตาย 80% ในบางพื้นที่ เช่น แอฟริกา ขณะที่ 5 ส.ค. ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศสีเข้มเรียบร้อย

CDC แนะเร่งฉีดวัคซีน ใส่หน้ากาก
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าติดตามโรคระบาดต่างๆ ในสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. CDC ได้ออกแนวปฏิบัติล่าสุด แก้ไขจากแนวคิดเดิม เนื่องจากสหรัฐ มีการแพร่ระบาดของเดลตา ขณะเดียวกัน การฉีดวัคซีนยังไม่ไปถึงจุดที่ควรจะเป็น โดยแนะนำ เร่งฉีดวัคซีนโควิดให้เร็วมากขึ้นและใส่หน้ากาก ซึ่งก่อนหน้านั้น เคยออกมาบอกว่าฉีดเยอะพอ บางรัฐส่งสัญญานว่าไม่ต้องใส่หน้ากาก ตอนนี้กลับมาแนะนำว่าขอให้ประชาชนอเมริกัน ไม่ว่าจะไปที่ใดขอให้พิจารณาเรื่องการใส่หน้ากาก


"เหตุผลเพราะมีการรวบรวมตัวเลขติดเชื้อใหม่ 7 วัน ปลายเดือนมิ.ย. อัตราเฉลี่ย 7 วัน ผู้ติดเชื้อราว 12,000 ราย ปลายเดือน ก.ค. ขึ้นไปที่เฉลี่ย 60,000 ราย แปลว่าติดเชื้อ 5 เท่าตัว แสดงว่าเหตุการณ์ต่างๆ ย้อนกลับไป ธ.ค.63 -  ม.ค. 64 ทั้งๆ ที่สหรัฐฯ มีการฉีดวัคซีนไปเยอะพอสมควร โดยทั้ง 50 รัฐ มีการกระจายเดลต้ากว่า 80%

ขณะเดียวกัน สหรัฐมีการพูดว่า เดลตามีการเพิ่มขึ้น มีคนฉีดวัคซีนครบสองโดส 50% แต่พอเจอเดลตา มีการเพิ่มของการติดเชื้อและสายพันธุ์เดลตาก่อปัญหา 80-87% จากต้นเดือน มิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ราว 8-14% ผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 13,500 ราย และเพิ่มมากว่า 92,000 รายในช่วง 3 ส.ค. 64



สหราชอาณาจักร เผยฉีดวัคซีนครบ ติดเชื้อได้
สหราชอาณาจักร เดลตา สัดส่วนกว่า 90% แทนที่อัลฟาไปเรียบร้อย ข้อมูลการตรวจรหัสพันธุกรรมเดลตา เมื่อ 21 มิ.ย. - 19 ก.ค. จำนวน 1,788 คน พบว่า ครึ่งหนึ่งไม่ได้ฉีดวัคซีน และ 30% เป็นคนฉีดครบแล้ว แปลว่าคนฉีดครบไม่ได้สื่อว่าเราไม่ติดเชื้อ โดยวัคซีนที่สหราชอาณาจักรฉีด คือ mRNA และ แอสตร้าเซนเนก้า

"จะเห็นว่าตอนนี้ เรามียุทธศาสตร์กลางน้ำ คือ วัคซีน ที่ช่วยลดความรุนแรง เสียชีวิต ยิ่งฉีดเยอะ ส่งผลเชิงบวกกับอัตราการรอด อัตราการเสียชีวิต ขณะเดียวกัน ถ้าข้อมูลฉีดเยอะพอ ส่งผลต่อการแพร่กระจายของเชื้อด้วย"

 

ทั่วโลกฉีดวัคซีนไปแล้ว 4.4 พันล้านโดส
ข้อมูลวันที่ 8 ส.ค. 64 ทั่วโลกหลังจากมีการฉีดวัคซีน อัตราการติดเชื้อเริ่มลดลง และกลับขึ้นมา ปัจจุบัน พบอัตราการติดเชื้อ 5-7 แสนรายต่อวัน เสียชีวิตราว 7 พัน – หมื่นกว่าราย ตอนนี้ทั่วโลก ฉีดวัคซีนแล้ว 4,414,063,632 โดส ฉีดวันละ 42,600,503 โดส (ประชากร 7,884,751,830 คน)


สหรัฐฯ ปรับรูปแบบรับมือเดลตา 

สหรัฐ หลังจากเริ่มมีการไล่ฉีดวัคซีน เดือน ม.ค. สถานการณ์เริ่มดีขึ้น แต่หลังจากนั้นเกิดเหตุขึ้นอีก มีการติดเชื้อบางวันแตะหลักแสน แต่การเสียชีวิตไม่เยอะไปตามส่วน แต่เดิมเสียชีวิตสูง 2 – 3 พันรายต่อวัน ตอนนี้เลขสามหลักไม่ถึงห้าร้อยเชื้อว่าเป็นผลของการฉีดวัคซีน

ฉีดวัคซีนแล้ว 350,627,188 โดส ฉีดวันละ 712,389 โดส (ประชากร 333,159,223 คน) 58.5% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 50.1% ได้ครบโดส


สหรัฐ หลังจากที่ตัวเลขมีการเปลี่ยนแปลง CDC ประกาศให้ประชาชน ถึงแม้จะฉีดวัคซีนครบก็กลับมาใส่หน้ากาก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง คนเยอะ เกิดขึ้น 11 สัปดาห์ ที่ CDC ประกาศให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบไม่ต้องใส่หน้ากากเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ ร้านค้า สถานประกอบการต่างๆ เร่งออกมาตรการรองรับการประกาศ CDC รวมถึงลูกค้าที่ฉีดวัคซีนครบ ขณะที่ รัฐกลาง และของแต่ละรัฐ เร่งออกมาตรการให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนรับการฉีดวัคซีน รับรางวัลหรือบังคับ

"CDC ย้ำว่า คนที่ฉีดครบเรียบร้อยสามารถแพร่เชื้อใกล้เคียงกับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน สิ่งที่ดี คือ คนที่ฉีดวัคซีนครบ โอกาสรุนแรงน้อยลง เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน"


จับตา Freedom Day สหราชอาณาจักร 
สหราชอาณาจักร มีประชากรใกล้เคียงกับไทย หลังจากฉีดวัคซีน 8 ธ.ค.63 ทุกอย่างเริ่มดูดี อัตราติดเชื้อลดลง และติดขึ้นมาใหม่จากการระบาดของเดลตาครอบคลุมกว่า 90% อัตราการติดเชื้อจากเดิมสองหลัก ตอนนี้ห้าหลัก 3-5 หมื่นราย แต่เสียชีวิตต่ำ คือ หลักสิบถึงหลักร้อย


ปัจจุบัน สหราชอาณาจักร ฉีดวัคซีนแล้ว 86,207,851 โดส ฉีดวันละ 181,407 โดส (ประชากร 68,281,783 คน) 70.4% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 58.7% ได้ครบโดส


นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ประกาศวันประกาศ Freedom Day ในวันที่ 19 ก.ค. เนื่องจาก สหราชอาณาจักร ฉีดวัคซีน 70% อย่างน้อยหนึ่งโดส และ 60% ฉีดครบโดส ถึงวันที่เลิกใส่หน้ากาก ผับเปิด ภัตตาคารเปิดให้ทาน แต่ตัวเลขการแพร่กระจายไม่ได้วิ่งขึ้นมากมาย เชื่อว่าสาเหตุหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะประกาศ Freedom Day


แต่คนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะสูงวัย คุ้นเคยกับการใส่หน้ากาก เชื่อว่ามีส่วนในการลด ขณะที่ บุคลากรทางการแพทย์ ลงนามร่วมกันและเสนอนายกท้วงติง Freedom Day คือ หากคนบอกว่าไม่ใส่หน้ากาก และเกิดมีการกลายพันธุ์ของเชื้ออีก และแพร่ระบาดใหม่ กลายเป็นสิ่งที่กลัวกันเกิดการดื้อต่อวัคซีน

ฝรั่งเศส มี Health Pass
เดิมฝรั่งเศสไม่ค่อยฉีดวัคซีน แต่เริ่มเจอเหตุการณ์พีค เริ่มระดมฉีดเต็มที่ ปัจจุบัน ฉีดวัคซีนแล้ว 77,681,231 โดส ฉีดวันละ 517,893 โดส (ประชากร 65,432,916 คน) 68.9% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 57.3% ได้ครบโดส ฝรั่งเศสเจอเหตุการณ์เดียวกัน คือ อัตราการติดเชื้อลดลง และเริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อเดลตาเข้ามา โดยเพิ่มมาเป็นหลักหมื่นและไม่มีท่าทีลดลง แต่อัตราตายเป็นตัวเลขสองหลัก


การปรับรูปแบบการรับมือวิกฤต COVID19 จากสายพันธุ์เดล จากการสายพันธุ์ เดลตา กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ประเทศฝรั่งเศสเข้าสู่การระบาดรอบที่ 4 (Fourth Wave) จากสายพันธุ์เดลตา รัฐบาลออกมาตรการให้ผู้เข้ารับบริการในสถานให้บริการต่างๆ มี Health Pass แสดงว่าได้รับวัคซีน หรือ ผลการตรวจไม่พบเชื้อ COVID-19 ในระยะเวลาใกล้การใช้บริการ หรือ เพิ่งหายจากการติดเชื้อ COVID-19


รวมถึง รัฐบาลออกมาตรการปรับหากสถานให้บริการต่างๆ ไม่ดำเนินการ (เริ่มจาก 1,500 euros และเพิ่มขึ้นหากผิดซ้ำ จากเดิมที่กำหนดปรับ 45,000 euros) พร้อม บังคับให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานในระบบดูแลสุขภาพ ต้องรับวัคซีน


อิตาลี มี Health Certificate
เจอเหตุการณ์เดียวกัน และตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเป็นหลักพัน และอัตราตายเป็นเลขสองหลัก ฉีดวัคซีนแล้ว 71,240,657 โดส ฉีดวันละ 403,547 โดส (ประชากร 60,364,365 คน) 65.2% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 56.7% ได้ครบโดส


จากการสายพันธุ์เดลตา กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดอยู่ในประเทศอิตาลี รายงานวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา สายพันธุ์ Delta พบเปีน 94.8% ของสายพันธุ์ที่ ระบาดในประเทศ ขณะที่เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พบเพียง 22.7% รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับแก้มาตรการเกี่ยวกับการเดินทางในประเทศ (12 มิถุนายน) มี Health Certificate แสดงว่าได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือ ผลการตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ในระยะเวลาใกล้การใช้บริการ หรือ เพิ่งหายจากการติดเชื้อโควิด-19


อิสราเอล อาจล็อกดาวน์หากระบาดหนัก

อิสราเอล ถือเป็นประเทศที่มีการฉีดวัคซีนไปเยอะมาก ฉีดวัคซีนแล้ว 11,588,381 โดส ฉีดวันละ 119,085 โดส (ประชากร 8,808,673 ล้าน) 64.1% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 59.6% ได้ครบโดส


จากการสายพันธุ์เดลตา กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดอยู่ในประเทศอิสราเอล รัฐบาลโดยผู้อำนวยการกระทรวงการสาธารณสุข (Health Ministry Director -Nachman Ash) ให้สัมภาษณ์ถึงอาจต้องมีการล็อกดาวน์หากการแพร่ระบาดเพิ่มจนอาจทำให้ระบบการดูแลสุขภาพล่ม ทั้งนี้ หากต้องล็อกดาวน์ อาจเกิดในเดือนกันยายนในช่วงวันหยุด (Jewish Holidays) ซึ่งน่าจะกระทบกับระบบเศรษฐกิจมากกว่าจะเลื่อนไปเดือนตุลาคม


ออสเตรเลีย ล็อกดาวน์บางพื้นที่
ออสเตรเลีย ผู้ป่วยสามหลัก แต่อัตราตายต่ำ วัคซีนแม้จะฉีดไม่เยอะ ซึ่งมีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่ฉีด 1 โดส และครึ่งหนึ่งฉีดครบโดส ตอนแรกไม่ แต่ใช้ความเข้มในการจัดการ เมื่อ 3 ส.ค. ออสเตรเลีย มองว่าเดลตา มีแนวโน้มก่อเกิดความรุนแรง ติดเชื้อหนัก ควบคุมยาก ขณะที่การควบคุมพื้นที่ต่างๆ บางพื้นที่ล็อกดาวน์เต็มพื้นที่ และมีการติดเชื้อในเด็กเยอะขึ้น

ออสเตรเลีย ฉีดวัคซีนแล้ว 13,496,355 โดส ฉีดวันละ 184,239 โดส (ประชากร 25,832,112 ล้าน) 34.9% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 17.1% ได้ครบโดส


รัสเซีย เร่งฉีดวัคซีน

แต่เดิมรัสเซีย ฉีดวัคซีนน้อย แต่ตอนนี้เร่งมาก ปัจจุบัน รัสเซีย ฉีดวัคซีนแล้ว 66,216,817 โดส ฉีดวันละ 579,461 โดส (ประชากร 146,003,297 ล้าน) 25.9% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 18.4% ได้ครบโดส สามารถลดความชันของกราฟได้ ทั้งการติดเชื้อและการเสียชีวิต แต่ยังอยู่ที่ระดับ 2-3 หมื่นรายต่อวัน และเสียชีวิตเลขสามหลัก


ประเทศไทย อยู่ในช่วงขาขึ้น 
สถานการณ์ไทย อยู่ในช่วงขาขึ้น มีผู้ติดเชื้อหลักหมื่นรายต่อวันและ เสียชีวิตสามหลัก ข้อมูล 8 ส.ค. 64 ฉีดวัคซีนแล้ว 19,632,537 โดส ฉีดวันละ 401,677 โดส (ประชากร 69,993,382 ล้าน) 21.8% ของประชากร ได้รับ 1 โดส และ 6.1% ได้ครบโดส




ขณะที่ ล่าสุดจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันที่ 10 ส.ค. 64 จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 9 ส.ค. 2564) รวม 21,171,110 โดส ใน 77 จังหวัด ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 9 สิงหาคม 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 501,330 โดส ได้แก่ 

เข็มที่ 1 : 350,389 ราย
เข็มที่ 2 : 104,484 ราย
เข็มที่ 3 : 46,457 ราย



เดลต้า พบคนอายุน้อยติดเชื้อมากขึ้น 
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ไม่เพียงแพร่ระบาดได้เร็ว (เร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา ประมาณ 60%) แต่มีหลักฐานว่าก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงและอันตรายมากกว่าสายพันธุ์เดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน นอกจากนี้ ยังพบผู้ที่มีอาการรุนแรงในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อยลง (ผลจากหลายปัจจัย) ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ (ไม่ว่าชนิดไหน) มีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ (รายงานจากสหรัฐอเมริกาว่าไม่แตกต่างจากผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่อาการมักไม่รุนแรง)


รายงานจากมหาวิทยาลัย Wisconsin พบว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ยังสามารถพบมีปริมาณไวรัสในจมูกและคอ ไม่แตกต่างไปจากผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน และหลายประเทศพบการติดเชื้อในเด็กมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง


วัคซีนฉีดแล้ว ยังต้องระวังตนเอง

ขณะเดียวกัน สัดส่วนของประชากรที่ได้รับวัคซีนที่มากพอ จะมีส่วนสำคัญในการลดการแพร่ระบาดและอัตราการเสียชีวิต แต่ไม่ควรเป็นข้อบ่งขี้ในการยกเลิกหรือผ่อนคลายการระวังตนเอง (ใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นทำความสะอาดมือ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมากในพื้นที่ ที่จำกัด)

การแพร่ระบาดในกลุ่มคนจำนวนมาก อาจนำสู่การเกิดการกลายพันธุ์ และสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดเร็ว จะทดแทนสายพันธุ์เดิมหรือสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดช้ากว่า ขณะที่ ความปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ในประเทศใดประเทศหนึ่ง ขึ้นกับสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อในโลก


3 มาตรการสำคัญ รับมือเดลตา

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า การลดความเสียหายที่เกิดจากวิกฤตที่เกินศักยภาพของระบบการดูแลสุขภาพ โดยการเร่งลดโอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อ ขึ้นอยู่กับ 3 มาตรการ สำคัญ คือ มาตรการทางการปกครอง มาตรการทางการสาธารณสุข (การบริหารจัดการควบคุมโรค การพัฒนา ศักยภาพการตรวจหาผู้ติดเชื้อ การบริหารจัดการเตียง สถานพยาบาล) และ มาตรการส่วนบุคคล และทางสังคม (การชี้แจงเหตุและมาตรการ วินัย)

รวมถึง การเร่งฉีดวัคซีนเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ได้แก่ กลุ่มเสี่ยง สูงวัย 7 โรคเรื้อรัง และ ตั้งครรภ์ มากและเร็ว การเร่งค้นหาผู้เสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อ (ATK; RT-PCR) การได้รับยาที่เร็ว (แจ้งลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบ) พัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ติดเชื้อ (Home Isolation, Community Isolation)


"การเร่ง ฉีดวัควีน ป้องกันการติดเชื้อ ผู้เสี่ยง สูงวัย 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ ให้มากและเร็ว ขณะเดีวกัน การเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อและเสี่ยงแพร่เชื้อ ซึ่งขณนี้มี Antigen Test Kit (ATK) ในการตรวจได้เร็ว ยี่ห้อต่างๆ มีความแม่นยำดีระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะความไวและจำเพาะกว่า 90% การตรวจ ATK  จะสามารถค้นหาคน ควบคุม เข้ากระบวนการรักษา ให้เร็ว และให้ยาเร็ว ตอนนี้มีนโยนบายออกมาแล้ว ในกลุ่มที่เสี่ยงจะอาการรุนแรง มีการแจกยา แต่ต้องลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเพื่อติดตาม รวมถึง การพัฒนาศักยภาพ การดูแลผู้ติดเชื้อ Home Isolation และ Community Isolation" คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าว 
#2869
 ข้าวปลอดสารพิษ  ข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  ข้าวกล้องมะลินิลออร์แกนิค คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคสำหรับทารกเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิก เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิก
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6bf1bev6bzbun6ssb.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์
2. ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคคือ
3. ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ
4.  ข้าวกล้องอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์ จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิแดง6.ข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิก


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
#2870


รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยและอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าทะลุระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ได้ในช่วงไตรมาสสี่ปีนี้ จากดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีแนวโน้มอาจติดลบในปีนี้ โดยในไตรมาสแรกปี 2564 ดุลบัญชีเงินสะพัดขาดดุลแล้ว 2.6 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าในไตรมาสสองและสามจะยังคงขาดดุลต่อเนื่อง ดุลการค้าเกินดุลลดลง คาดว่าปีนี้ดุลบัญชีเงินทุนมีเงินไหลออกสุทธิไม่ต่ำกว่า 3-4 พันล้านดอลลาร์ โดยมีทั้งการไหลออกของเงินลงทุนโดยตรงและการลงทุนในหลักทรัพย์ในตลาดการเงิน ปีที่แล้วเงินทุนไหลออกสุทธิประมาณ 3.59 พันล้านดอลลาร์ อัตราการค้าปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากราคานำเข้าสินค้าเพิ่มสูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาส่งออก

ทางด้านเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทั้งตัวเลขการเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน ตัวเลขตำแหน่งงานเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นถึง 943,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานลดลงต่อเนื่อง การกระเตื้องขึ้นของดัชนีภาคการผลิตและการบริการ ดัชนีค้าปลีกและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐอาจทยอยลดวงเงินในการทำ QE ลงในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า           

แม้นการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นภาพสะท้อนของภาวะเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอลงอย่างมาก แต่ผลของการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม จะช่วยกระตุ้นภาคส่งออก การจ้างงานและรายได้จากการท่องเที่ยวหากสามารถเปิดประเทศได้ ผลกระทบในทางลบที่มีต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจและแรงกดดันเงินเฟ้อจะไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีกำลังการผลิตส่วนเกินอยู่จำนวนมาก และอัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมยังต่ำอยู่เฉลี่ยอยู่ที่ 66-67% ไม่ว่าพิจารณาปัจจัยทางด้านอุปสงค์หรืออุปทานไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นมาก

ขณะที่การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในสหรัฐ ยุโรป หรือญี่ปุ่น จะทำให้ธนาคารกลางของประเทศเหล่านี้จะใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำพิเศษไปอีกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองปี ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การเร่งตัวของเงินเฟ้อและเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินบรรเทาลง อัตราดอกเบี้ยจะต่ำไปอีกนาน จึงขอให้ "คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน" ของธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาอย่างจริงจังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เหลือ 0% หรืออย่างน้อยต้องลดลงให้เหลือ 0.10% ในการประชุมครั้งต่อไปเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจที่จะทรุดตัวลงในปลายไตรมาสสามต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2565 หากตัดสินใจช้าจะไม่สามารถประคับประคองเศรษฐกิจได้ทันการณ์ และดูเหมือนว่าประเทศคงจำเป็นต้องมีการล็อกดาวน์อยู่เป็นระยะๆ และคาดว่ามาตรการคลังมีข้อจำกัดจากเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่น่าจะทะลุเพดาน 60% อย่างแน่นอน

ส่วนการปรับลดความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.นี้นั้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจและระบบสถาบันการเงินมีเสถียรภาพและมีความมั่นคงมากขึ้น รวมทั้งลดภาระต่อเงินสาธารณะในกรณีเกิดปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินขึ้นในอนาคตหรือธนาคารถูกเพิกถอนใบอนุญาต อัตราขยายตัวของการฝากเงินของประชาชนและกิจการต่างๆ ก็ปรับตัวลงอย่างมากในช่วงวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโควิด-19 คนฝากเงินในระบบสถาบันการเงินที่มีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาทในแต่ละธนาคารมีอยู่ประมาณ 2% ของทั้งระบบ 97-98% ของผู้ฝากเงินมีเงินฝากต่ำกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเงินฝาก e-money มากขึ้นตามลำดับ จึงควรขยายวงเงินฝากให้ครอบคลุมเงินฝาก e-money และควรขยายวงเงินคุ้มครองเงินฝากจาก 1 ล้านเป็น 2-3 ล้านบาทเมื่อบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองวงเงิน 1 ล้านไปเป็นระยะ 1-2 ปีแล้ว เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางการเงินอาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม


นอกจากนี้ เขา มองว่า การขยายเวลาและขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ไม่ได้ผลในการลดการติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิตมากนัก ควรเปลี่ยนวิธีการให้ดำเนินชีวิตได้ตามปรกติมากที่สุดและเดินหน้าเปิดประเทศหลังจากระบบสาธารณสุขสามารถรองรับผู้ป่วยหนักได้เต็มที่แล้ว จุดประสงค์ของการล็อกดาวน์ คือ ป้องกันไม่ให้ระบบสาธารณสุขล่มสลาย ไม่ให้จำนวนผู้ป่วยล้นเกินไป เพราะล็อกดาวน์ไม่ได้ทำให้โรคหายไป เราจะต้องอยู่กับโควิด-19 ไปอีกนาน ฉะนั้นเราต้องมีวิธีการจัดการใหม่ คือ อยู่กับมันเหมือนเราอยู่กับโรคไข้หวัดใหญ่ หรือ โรคเอดส์ โดยเน้นให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขเคร่งครัด ฉีดวัคซีนในอัตราเร่งเดือนละ 10 ล้านโดสเป็นอย่างต่ำ หรือ วันละสามแสนสามหมื่นสี่พันโดสเป็นอย่างน้อย เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ 50 ล้านคน (70% ของประชากร) ได้ฉีดเข็มแรกภายในเดือนตุลาคมก็จะบรรลุผลและเดินหน้าเปิดประเทศได้ รวมทั้งต้องเน้นฉีดกลุ่มคนทำงานที่ต้องสัมผัสกับผู้คนมากๆ ก่อนเพื่อลดการแพร่ระบาด เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ตำรวจ รปภ กลุ่มวินมอเตอร์ไซด์ กลุ่มคนขับรถเมล์ คนขับแท็กซี่ พนักงานบริการต่างๆ เป็นต้น การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันมีต้นทุนที่ถูกกว่าการปล่อยให้คนติดเชื้อแล้วค่อยรักษามาก หากปล่อยให้คนติดเชื้อและอยู่ในระหว่างการรักษาเกิน 400,000 คนในแต่ละช่วงเวลา ต้นทุนทางเศรษฐกิจจะสูงมากและอัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มเฉลี่ยเกิน 200 คนต่อวันได้

การควบคุมการระบาดในระยะนี้ต้องเน้นไปที่มิติความสัมพันธ์ของคนมากกว่าคุมพื้นที่ เช่น คนงานติดเชื้อที่โรงงาน ไม่ใช่เน้นไปคุมพื้นที่โดยรอบโรงงานหรือปิดโรงงาน ต้องเอา "คนติดเชื้อ" ออกมา แล้วให้โรงงานเปิดการทำงานได้ตามปรกติ แล้วเน้นไปควบคุมว่าคนงานติดเชื้อนั้นไปมีปฏิสัมพันธ์กับใครบ้างมากกว่า การดำเนินการแบบนี้จึงไม่ทำให้เศรษฐกิจเสียหายไปมากกว่านี้ สิงคโปร์ ไต้หวัน ก็ทำแบบนี้ นอกจากนี้ยังต้องจัดสรรงบประมาณให้ระบบสาธารณสุขมีความเพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยหนัก
#2871


        เงินในกระเป๋าสั่นเลยทีเดียว เมื่อทางค่าย LG ออกทีวีรุ่นใหม่มากรุบๆ ชื่อรุ่นว่า "LG Stand By Me" ตอบโจทย์สายมินิมอลสุด ตรงที่สามารถเคลื่อนย้ายไปไว้ส่วนต่างๆของบ้านได้ไม่ว่าจะเป็นในครัว ห้องนั่งเลย ห้องนอน เพราะตัวนี้มีล้อเลื่อนได้



        สาวก TikTok น่าจะชอบตรงที่จอสามารถปรับหมุนเป็นแนวตั้งได้เลยทันทีดีงามมาก แถมหน้าจอขนาด 27 นิ้ว  เป็นแบบทัชสกรีน หากลากเครื่องนี้ไปอยู่ในครัวขณะทำอาหาร จะเปิดดูวิธีการทำอาหารจากยูทูปก็ย่อมได้  แต่เด็ดสุดๆ ตรงที่ทีวีเครื่องนี้ สามารถใช้แบบไร้สายได้เลยไม่ต้องยุ่งยากเสียบปลั๊กต่างๆ นาๆ เพราะมีแบตเตอรี่ในตัวเสร็จสรรพ ที่ใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมง



บอกสรรพคุณมาขนาดนี้ ราคาน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ตัดสินใจว่าจะฟาดซื้อดีไหม  อดใจไว้ก่อนเพราะทางเกาหลียังไม่บอกราคาแบบเป็นทางการออกมา ที่เกาหลีจะเปิดตัวทีวีรุ่น "LG Stand By Me" เร็วๆ นี้

ระหว่างนี้เข้าไปชมพลางๆ ได้ที่เวปนี้
https:// www.lge.co.kr/tvs/27art10akpl?fbclid=IwAR3-g5oeez6uuOBo9d3OrU3V0fk5SNAepecV6VRdCGQw-TdwL4dUo4j99Z8
#2872


แม้การใกล้ชิดผู้ป่วย "โควิด-19" นับเป็นความเสี่ยงสูง ที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้มาก แต่สำหรับผู้ที่มีญาติติดโควิด-19 หรือตัวเองติดเชื้อแล้วจำเป็นต้องเดินทางไปเข้ารับการรักษายังสถานที่ได้ติดต่อไว้ด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถทำได้ แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าจากผู้ติดเชื้อมายังผู้ขับรถหรือผู้ที่โดยสารไปด้วย 

โดยเพจกรุงเทพมหานคร โดยสำนักประชาสัมพันธ์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนในการปฏิบัติก่อนและระหว่างเดินทางร่วมกับผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารับการรักษาไว้ ดังนี้

ทันทีที่ตรวจพบว่าติดโควิด-19 และต้องการเดินทางไปรับรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือสถานที่รับรักษาสำหรับผู้ป่วยโควิด เริ่มต้นจากการ

1. แจ้งไปยังสายด่วน 1669 ศูนย์เอราวัณ กทม. 

2. เตรียมเอกสารผล LAB ยืนยันการติดเชื้อโควิด-19

3. เดินไปรักษาตัวตามสถานที่ที่ได้รับนัดหมาย 

โดยระหว่างเดินทางแนะนำให้ปฏิบัติตนดังต่อไปนี้ 

- ทำฉากกั้นระหว่างคนขับและผู้ติดเชื้อ เว้นระยะห่างระหว่างกันให้ได้มากที่สุดระหว่างเดินทาง 

- คนขับและผู้ติดเชื้อจะต้องนั่งทแยงมุมคนละฝั่งของรถ เพื่อรักษาระยะห่างในรถให้ได้มากที่สุด

- เปิดกระจก และปิดเครื่องปรับอากาศ 

- ใส่หน้ากาก 2 ชั้น ทั้งคนขับและผู้ติดเชื้อ โดยจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี คือ ใส่หน้ากากอนามัยไว้ด้านใน สวมทับด้วยหน้ากากผ้าไว้ด้านนอก ดังนี้


- สำรวจเส้นทางก่อนออกเดินทาง เพื่อเลือกใช้เส้นทางที่ใช้เวลาสั้นที่สุด ไม่ควรใช้เวลาเกิน 30 นาที ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ

- เมื่อเดินทางไปถึงจุดหมาย นั่งคอยในรถ โทรประสานเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการรักษาต่อไป 

อย่างไรก็ตามการเดินทางเพื่อเข้ารับการรักษาด้วยรถยนต์ส่วนตัวมีความจำเป็นสำหรับบางกรณี ซึ่งแตกต่างกันออกไปตามสถานการณ์ ระดับอาการของผู้ป่วยด้วย

ซึ่งการนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาพยายาลจำเป็นต้องพิจารณาความเหมาะสมตามกรณี ที่เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยที่มีอาการหนักเข้าสู่ระบบการรักษาได้เร็ว และผู้ป่วยที่มีอาการน้อยได้รับการรักษาที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน โดยเบื้องต้นมีการพิจาณานำเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาล แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มดังนี้

1. ประชาชนที่ตรวจที่ รพ. 

2. ประชาชนที่ได้รับการตรวจเชิงรุก

3. ประชาชนที่ตรวจด้วยตัวเอง (Antigen Test Kit) หรือยืนยันการติดเชื้อ PCR

4. ประชาชนที่มีอาการหนักฉุกเฉิน เร่งด่วน โทร.1669 
#2873


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (8 สิงหาคม 2564) ธอส. ได้จัดงาน "8/8 GHBank NPA Double Sale" ประมูลบ้านมือสองออนไลน์ (Stay Home Online Auction) ผ่าน Application : GH Bank Smart NPA เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยคัดทรัพย์เด่นทั่วประเทศมาเปิดประมูลระหว่างเวลา 10.00-10.30 น. ปรากฏว่าสามารถขายได้ถึง 43 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวม 47 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 รายการ และทรัพย์ในส่วนภูมิภาค 35 รายการ

โดยทรัพย์ที่มีราคาประมูลต่ำสุดที่มีผู้ประมูลซื้อได้ในครั้งนี้ คือ ทรัพย์ประเภทห้องชุด ชั้น 5 ขนาดเนื้อที่ 22.75 ตารางเมตร ในโครงการพรอนันต์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ปิดประมูลขายได้ในราคาเพียง 65,000 บาทเท่านั้น ส่วนทรัพย์ที่ประมูลขายได้ในราคาสูงที่สุด คือ ทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 52 ตารางวา ในโครงการ Glory House อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปิดประมูลในราคา 2,920,000 บาท

ส่วนทรัพย์รายการเด่นที่ขายได้ในครั้งนี้ เช่น คอนโดมิเนียม ขนาด 29.95 ตารางเมตร ชั้นที่ 3 ในโครงการอัสสกาญจน์เพลส รามคำแหง-วงแหวน ซอยรามคำแหง 147/2 กรุงเทพฯ และทรัพย์ประเภทบ้านแฝด 1 ชั้น ขนาด 35.40 ตารางวา ในหมู่บ้านเทพบุรี (รัษฎานุสรณ์) อำเภอเมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ปิดประมูลในราคาตั้งต้นที่ 2,680,000 บาท  

ทั้งนี้ สำหรับลูกค้า 8 ลำดับแรกของรายการทรัพย์ใน กทม. และปริมณฑล รวมถึง 8 ลำดับแรกของลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ในภูมิภาคที่เสนอราคา และชนะประมูล หากทำสัญญาจะซื้อจะขายภายในวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ได้รับฟรี!! สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว มูลค่า 5,000 บาท ซึ่งสามารถลุ้นรับรางวัลมูลค่าสูงสุดถึง 1 ล้านบาททุกเดือน รวมถึงหากโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% จากราคาที่ปิดประมูลและเลือกใช้โปรโมชั่นผ่อนดาวน์ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 4 ปี หรือ 48 เดือนได้อีกด้วย 

สำหรับการประมูลครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 9/9 หรือวันที่ 9 กันยายน 2564 สอบถามรายละเอียดและดูข้อมูลทรัพย์ NPA ของธนาคารได้ที่ www.ghbhomecenter.com กรณีทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โทร 0-2202-1016, 0-202-1582 ส่วนทรัพย์ในภูมิภาค โทร 0-202-1170 หรือ 0-202-2036 และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
#2874


"กัปตันคิม" คิม ยอน คยอง ซูเปอร์สตาร์ทีมลูกยางเกาหลีใต้ ประกาศเลิกเล่นทีมชาติทันที หลังแพ้ เซอร์เบีย 0-3 เซต ในรอบชิงเหรียญทองแดง วอลเลย์.หญิง โอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โดย "กัปตันคิม" วัย 33 ปี ที่วืดเหรียญทองแดง "โตเกียวเกมส์" เผยว่า "นี้คือเกมสุดท้ายของฉันในฐานะผู้เล่นทีมชาติ มันน่าผิดหวังที่ต้องปิดฉากโอลิมปิกเกมส์แบบนี้ แต่ฉันเองก็ยังดีใจนะที่พาทีมมาถึงจุดนี้ได้ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเราจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ แม้กระทั่งผู้เล่นบางรายในทีมของเราเอง"

"ปีนี้ฉันตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องกลับบ้านเกิดโดยที่ไม่มีอะไรต้องเสียใจ และจากความพ่ายแพ้วันนี้ ฉันคิดว่าเราสามารถระบุได้ว่าจุดไหน เราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาทีมของเราไปสู่อนาคตที่ดี แต่จากการเตรียมตัวก่อนมาแข่งโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ถือว่าเราไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจกับการเดินทางมาไกล"

"ในฐานะกัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ ฉันคิดว่าเราได้ฝากผลงานอันยิ่งใหญ่เอาไว้ที่โอลิมปิกเกมส์ 2020 และเราสมควรที่จะยิ้มให้กับมันมากกว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งทุกครั้งที่ได้เล่นในนามทีมชาติ"

สำหรับ คิม ยอน คยอง ถือเป็นสุดยอดนักกีฬาวอลเลย์.ของเกาหลีใต้ โดยเคยคว้าเกียรติยศมากมายในนามทีมชาติ อาทิ เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2014 (อินชอนเกมส์), เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ 2010 (กวางโจวเกมส์) และเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ 2018 (จาการ์ตา-ปาเลมบัง) เป็นต้น
#2875


วันนี้ (7ส.ค.64) นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวในสื่อโซเชียลว่า ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 แล้วจะไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ได้นั้น


กระทรวงแรงงาน ขอชี้แจงว่า จากการที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการ "ล็อกดาวน์" ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ครอบคลุม 9 ประเภทกิจการ สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่จะได้รับเงินเยียวยาเป็นเวลา 1 เดือน จะต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 และไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน หรือสวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ได้นั้น ในเรื่องนี้ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการสมัครมาตรา 40 มีทั้งหมด 3 ทางเลือก

ทางเลือกที่ 1 ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ 70 บาทต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 3 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และค่าทำศพ

ทางเลือกที่ 2 ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท ต่อเดือน ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 4 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ และเพิ่มบำเหน็จชราภาพอีกหนึ่งกรณี

ทางเลือกที่ 3 ผู้ประกันตนจ่าย 300 บาท ได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 5 กรณี มีทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ค่าทำศพ บำเหน็จ ชราภาพ และสงเคราะห์บุตร ซึ่งสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับสิทธิรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง (สปสช.) หรือสิทธิประโยชน์สวัสดิการแห่งรัฐต่าง ๆ ที่เคยได้รับยังเหมือนเดิม

Lazada แจกฟรีคูปองส่วนลด* คลิกเลย!!!

ขณะนี้ สำนักงานประกันสังคม ยังลดเงินสมทบได้ลดเงินสมทบ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบเดิม เป็นระยะเวลา 6 เดือนตั้งวันที่ 1 ส.ค. 64 -31 ม.ค. 2565 ให้แก่ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 เดิมจ่าย 70 บาท เหลือ 42 บาทต่อเดือน ทางเลือกที่ 2 เดิมจ่าย 100 บาท เหลือ 60 บาทต่อเดือน และทางเลือกที่ 3 เดิมจ่าย 300 บาท เหลือ 180 บาท

โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวยืนยันว่า การสมัครมาตรา 40 ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิรักษาพยาบาลร่วมกับบัตรทอง (สปสช.) รวมทั้งสิทธิประโยชน์สวัสดิการแห่งรัฐต่างๆ แต่อย่างใด และสิทธิที่เคยได้รับยังเหมือนเดิม และมีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย หรือสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตจากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

ส่วนสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 แต่ละทางเลือกขึ้นอยู่กับทางเลือกที่ผู้ประกันตนสมัคร

การสมัครมาตรา 40 เพื่อให้ได้มีหลักประกันทางสังคมจากรัฐบาล แรงงานนอกระบบหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคม จึงเร่งรัดให้สำนักงานประกันสังคมอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการอาชีพอิสระได้สมัครมาตรา 40 เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อมีเงินออมในระยะยาว สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือและอุดหนุนเยียวยาจากมาตรการต่างๆ จากภาครัฐได้ในอนาคต

สำนักงานประกันสังคม ประกาศแจ้ง "แรงงานอิสระ" ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด สมัคร มาตรา 40 แล้ว ชำระเงินงวดแรกไม่ทันในเดือน ก.ค.64 ให้รีบจ่ายภายในวันที่ 10 ส.ค. นี้ เพื่อรับสถานะความเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมาย พร้อมรับสิทธิเยียวยา 5,000 บาท

ที่มา สำนักงานประกันสังคม และ กระทรวงแรงงาน
#2876


โมเดอร์นา อิงค์ เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (5 ส.ค.) ว่า วัคซีนโมเดอร์นา ยังคงประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโควิด-19 ประมาณ 93% หลังฉีดโดสแล้ว 4 - 6 เดือน หรือกล่าวได้ว่า แทบไม่เปลี่ยนแปลงตามที่เคยเผยผลทดลองทางคลินิกครั้งแรก 94% 

เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพวัคซีนคู่แข่ง อย่าง ไฟเซอร์ - ไบออนเทค ที่เผยผลการทดลองครั้งใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชี้ว่า วัคซีนไฟเซอร์มีประสิทธิภาพลดลงประมาณ 6% ในทุกๆ 2 เดือน หรือลดลงเหลือประมาณ 84% หลังจากที่ฉีดโดสสองแล้ว 6 เดือน 

วัคซีนโมเดอร์นากับวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งคู่เป็นเทคโนโลยี messenger RNA (mRNA)

สเตฟาน บันเซล ซีอีโอของโมเดอร์นา กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นา กำลังแสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่สูงถึง 93% ตลอด 6 เดือน แต่ตระหนักดีว่า สายพันธุ์เดลตาเป็นภัยคุกคามใหม่ที่สำคัญ ดังนั้นเราต้องระมัดระวังตัว 

อย่างไรก็ตาม บัลเซล แนะนำว่า จำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นก่อนฤดูหนาว เนื่องจากระดับแอนติบอดีมีแนวโน้มลดลง 


นายบันเซล กล่าวว่า บริษัทจะไม่ผลิตวัคซีนโมเดอร์นา ไปมากกว่าที่บริษัทตั้งเป้าไว้ 800 - 1,000 ล้านโดสในปีนี้

"ขณะนี้ โมเดอร์นาจำกัดกำลังการผลิตในปี 2564 และเราจะไม่รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมสำหรับการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ในปี 2564" ซีอีโอโมเดอร์นา กล่าว

มีรายงานว่า วันนี้หุ้นโมเดอร์นาร่วงลง 3.6% สู่ระดับ 403.87 ดอลลาร์ ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหลังจากปิดที่ 419.05 ดอลลาร์ในวันพุธที่ผ่านมา
#2877


ส่งเสริมการบูรณาการเชื่อมโยงร่วมกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานผู้ผลิตองค์ความรู้การวิจัย หน่วยงานภาคปฏิบัติที่ทำหน้าที่ส่งต่อองค์ความรู้ และกลุ่มเป้าหมายในการนำองค์ความรู้จากการวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริงในพื้นที่ โดยมี พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี และ ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีลงนามฯ พร้อมด้วย ผศ. ดร.ดวงฤทธิ์ เบญจาธิกุล เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีฯ

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว นำโดยผู้บริหารของ วช.และมหาวิทยาลัยราชภัฏ 11 แห่ง ได้แก่ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ลินดา เกณฑ์มา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม รองศาสตราจารย์ ดร.ดวงพร ภู่ผะกา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสนาะ กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ไชยรัตน์ ปราณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประยูร ลิ้มสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริวัฒน์ โพธิเวชกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จรูญ ถาวรจักร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา รัตนพรหม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือวิศวกรสังคมสร้างชุมชนเข้มแข็งด้วยวิจัยและนวัตกรรม ผ่านระบบออนไลน์ (ระบบ ZOOM)

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ได้กล่าวว่า วิศวกรสังคม เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะช่วยสร้างชุมชนเข้มแข็งและสร้างเสริมสมรรถนะผู้เรียนให้สมบูรณ์ด้วยคุณลักษณะ 4 ประการ ได้แก่ การมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง การมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม มีงานทำ มีอาชีพ และเป็นพลเมืองดี ซึ่งวิศวกรสังคมที่ได้รับการพัฒนาทักษะ จะสามารถเป็นสื่อกลางในการประสานประโยชน์ของทุกภาคส่วนเพื่อให้ชุมชนท้องถิ่นเกิดการพัฒนา ให้นักศึกษามีความสามารถและทักษะเพื่อการดำรงชีวิตและการทำงานในอนาคต สามารถแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนได้และเกิดการสร้างนวัตกรรมตามมา มหาวิทยาลัยราชภัฎ ทั้ง 11 แห่ง ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. คงจะนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เรากำลังเดินตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ว่าการศึกษาต้องสร้างคนไทยที่มีทัศนคติที่ดี สร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง เข้มแข็ง เป็นพลเมืองดี มีวินัย จะเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นได้ภายใต้โครงการนี้

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กล่าวว่า บัณฑิตกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศล้วนผลิตโดยมหาวิทยาลัยราชภัฎ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราโชบายในด้านการศึกษา โดยเฉพาะในส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฎ คือให้มุ่งเน้นในการพัฒนาคนและพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฎก็ทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างดี เช่นในสถานการณ์โควิด -19 มหาวิทยาลัยราชภัฎยังร่วมกับ อว. ทำโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ เป็นกำลังของจังหวัด และวันนี้ยังมีเรื่องที่ยังความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นจำนวน 18.9 ล้านบาทแก่ อว. เพื่อจัดทำโรงพยาบาลสนาม ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฎก็จะต้องเป็นกำลังหลักในการจัดทำอยู่แล้ว

รมว.อว. กล่าวต่อว่า การลงนามความร่วมมือ "วิศวกรสังคมสร้างชุมชนเข้มแข็งด้วยวิจัยและนวัตกรรม" ครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนทุนวิจัยให้แก่มหาวิทยาลัยราชภัฎทั้ง 11 แห่ง โดย วช. จะมอบให้แห่งละ 750,000 บาท และขอยืนยันว่า อว. จะดูแลมหาวิทยาลัยราชภัฎให้เป็นพิเศษ เพราะเราตระหนักว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงให้ความสำคัญกับมหาวิทยาลัยราชภัฎ
#2878


หลายคนคงอาจจะเคยได้ยินคำว่า "แผนพลังงานชาติ" จากสื่อต่าง ๆ มาบ้าง แต่น้อยคนนักที่จะเข้าใจว่า..คืออะไร? และมีความสำคัญต่อประเทศไทยของเราอย่างไร ลองมาหาคำตอบ... และทำความรู้จักกับแผนพลังงานแห่งชาติกันเลย...

พลังงาน เป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ ในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาประเทศ แล้วเราจะต้องพัฒนาภาคพลังงานไปในทิศทางไหน? พัฒนาอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ?

กระทรวงพลังงาน จึงได้จัดทำ "แผนพลังงานชาติ" หรือ National Energy Plan ขึ้นเพื่อเป็นกรอบแนวทาง ดำเนินนโยบายเพื่อการพัฒนาด้านพลังงานของประเทศไทยในอนาคต โดยในการจัดทำแผนพลังงานชาติครั้งใหม่นี้ จะเป็นการนำแผนพลังงานชาติ ทั้ง 5 แผน ที่มีอยู่ซึ่งประกอบด้วย แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก แผนอนุรักษ์พลังงาน แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ และแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง มาบูรณาการและรวมกันไว้ภายใต้แผนเดียว

กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดแผนพลังงานชาติ ที่สอดคล้องกับแนวทางการมุ่งสู่เป้าหมาย "ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2065 - 2070" ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางการพัฒนาพลังงานที่สำคัญประกอบด้วย

• ด้านไฟฟ้า เน้นการเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดจากโรงไฟฟ้าใหม่ โดยมีสัดส่วน RE ไม่น้อยกว่า 50% ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า พัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีระบบไฟฟ้า (Grid Modernization) เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ระบบไมโครกริด ตลอดจนการผลิตเอง ใช้เอง (Prosumer) ที่มากขึ้น รวมถึงมุ่งปลดล็อคกฎระเบียบการซื้อขายไฟฟ้า เพื่อรองรับการผลิตเองใช้เองดังกล่าว

• ด้านก๊าซธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิงสะอาดที่เป็นพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า เป็นเชื้อเพลิงสะอาดที่เป็นพลังงานสำคัญในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะเน้นการเปิดเสรีและการจัดหาเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบพลังงานประเทศ ซึ่งกระทรวงพลังงานจะต้องวางแผน สร้างสมดุลระหว่างการจัดหาในประเทศ และการนำเข้า LNG มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขาย หรือ LNG Hub

• ด้านน้ำมัน ยังคงเป็นเชื้อเพลิงหลักของประเทศในปัจจุบัน แต่จะได้รับผลกระทบจากการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่ขยายตัวขึ้น ดังนั้น จะต้องมีการปรับแผนพลังงานภาคขนส่ง และพิจารณาการบริหารการเปลี่ยนผ่าน สร้างความสมดุลระหว่างผู้ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (Bio Fuel) และ EV

• ด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จะมีการส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานทดแทน ในทุกภาคส่วนให้มากขึ้น ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานจากทุกภาคส่วนให้เข้มข้นมากขึ้น

ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูล จากศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ หรือ NEIC ไว้รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะนำแผนพลังงานชาติไปรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนในขั้นตอนต่อไป

อาจกล่าวได้ว่า "แผนพลังงานชาติ" เปรียบเสมือนแผนที่ ที่จะช่วยกำหนดทิศทางให้นโยบายด้านพลังงานของประเทศไทย ขับเคลื่อนไปอย่างมีเป้าหมาย และเกิดการพัฒนาพลังงาน อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

สามารถติดตามชมคลิป VDO Motion Graphic เรื่อง แผนพลังงานชาติ ได้ที่ https://youtu.be/-okrNBkRtDY
#2879


"ธปท."เผบผลโพล"BSI COVID" ชี้ไทย"ล็อกดาวน์"เข้มทำธุรกิจฟื้นช้า เผยความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกดิ่งเหวเหลือแค่ 16.4 ต่ำกว่า เม.ย.63 คาดคนใช้ชีวิตได้ปกตินในไตรมาสที่ 1 ของปี 65

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.64 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลสำรวจเรื่องผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจไทย (BSI COVID) เดือนกรกฎาคม 2564 พบว่า ระดับการฟื้นตัวของธุรกิจในภาพรวมปรับลดลงจากเดือนก่อนในทุกภาคธุรกิจ ตามการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศในวงกว้าง และผลของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่กลับมาเข้มงวดอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคก่อสร้างจากคำสั่งปิดแคมป์คนงานเช่นเดียวกับภาคท่องเที่ยวและภาคการค้า ที่ได้รับผลกระทบจากการจำกัดการเดินทาง การปรับเวลาให้บริการ และห้ามนั่งรับประทานในร้าน ขณะที่ภาคการผลิตยังคงถูกกดดันจากการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ในโรงงาน ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ปัญหาการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ตลอดจนการปิดโรงงานของคู่ค้าที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน

สำหรับการจ้างงานค่อนข้างทรงตัวทั้งด้านจำนวนแรงงาน และรายได้เฉลี่ย ยกเว้นการจ้างงานในภาคท่องเที่ยวที่ลดลงตามการปิดกิจการชั่วคราว และภาคก่อสร้างที่ปรับลดลงตามกิจกรรมที่หยุดชะงักหลังมีคำสั่งปิดแคมป์ ส่งผลให้แรงงานบางส่วนเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนา โดยธุรกิจในภาพรวมมีการใช้นโยบายสลับกันมาทำงาน และลดชั่วโมงทำงานเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ขณะที่ธุรกิจบางส่วนเริ่มกลับมาใช้นโยบายลดเงินเดือนเพิ่มเติม โดยเฉพาะภาคที่มิใช่การผลิต

ขณะที่ ในด้านสภาพคล่อง พบว่าธุรกิจส่วนใหญ่มีสภาพคล่องสำรองใกล้เคียงกับเดือนก่อน แต่เริ่มเห็นบางธุรกิจมีสภาพคล่องลดลง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว และภาคก่อสร้างที่มีสัดส่วนของธุรกิจที่สภาพคล่องไม่เกิน 3 เดือนเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการฟื้นตัวของธุรกิจที่ปรับแย่ลง

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ประเมินว่า ประชาชนจะเริ่มออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านและท่องเที่ยวตามปกติได้ เมื่อมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่น้อยกว่า 50 รายต่อวัน และเกิดได้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 ขณะที่บางส่วนมองว่า การเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพียงพอและทั่วถึงเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่า

นอกจากนี้ ธปท.ยังเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index: RSI) ว่าความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกปรับลดลงมากทั้งภาวะปัจจุบันและอีก 3 เดือนข้างหน้า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดและแผนการกระจายวัคซีนไม่ชัดเจน ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นฯ อยู่ต่ำกว่าเดือน เม.ย.2563 ที่มีการประกาศล็อกดาวน์ครั้งแรกในทุกมิติ

ADVERTISEMENT


โดยดัชนี RSI เดือน ก.ค.และแนวโน้มอีก 3 เดือนข้างหน้า (ส.ค.-ต.ค.) ปรับลดลงมาก และต่ำกว่าเดือน เม.ย.2563 อยู่ที่ 16.4 และ 27.6 ที่มีการการประกาศล็อกดาวน์ครั้งแรกจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น และมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของผู้ประกอบการค้าปลีก ขณะที่แผนการกระจายวัคซีนที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายและประสิทธิภาพของวัคซีน ซ้ำเติมความเปราะบางของความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ

ความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิมปรับลดลงในทุกภาค ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในทุกพื้นที่ เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าที่ปรับลดลง สะท้อนภาวะความยืดเยื้อของสถานการณ์ ความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่จะแย่ลงกว่าเดิม รวมถึงความล่าช้าของการจัดการวัคซึน

ขณะที่ ความเชื่อมั่นทุกประเภทร้านค้าในภาวะปัจจุบันปรับลดลงมากจากเดือนก่อน โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารที่ถูกกระทบโดยตรงจากมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด

ส่วนความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยอดใช้จ่ายต่อใบเสร็จ (Spending per bill และความถี่ของผู้ใช้บริการ (Frequency) ปรับลดลงมากจากเดือนก่อนและต่ำกว่าช่วงการล็อกดาวน์ครั้งแรก ซึ่งเป็นผลจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวด งดการเดินทาง และลดเวลาเปิดทำการของร้านค้า

นอกจากนี้ พบว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรง ผู้ประกอบการ 90% ประเมินว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคปรับลดลงมากจากเดือนก่อน และไม่เห็นพฤติกรรมเร่งกักตุน แม้จะมีการสั่งปิดห้างฯ และประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวสู่ระดับปกติเลื่อนออกไปเป็นปี 2566 ล่าช้ากว่าที่เคยประเมินไว้อีก 1 ปี

ขณะที่ การประเมินแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากผู้ประกอบการ 61% คาดว่ายอดขายจะลดลงมากกว่า 25% จากการเคอร์ฟิว 53% มีสภาพคล่องไม่เกิน 6 เดือน และ 42% คาดการบริโภคภาคเอกชนไตรมาส 3 ปี 2564 จะกดตัวอย่างน้อย 10% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
#2880


นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนตัวแรกของไทย "สิริฮับ" หรือโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ (SiriHub Investment Token) มูลค่าเสนอขาย 2,400 ล้านบาท โดยปัจจุบันได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.ให้เสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 29 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อและเข้าซื้อขายบนตลาดรองภายในปีนี้

โครงการสิริฮับ เป็นการลงทุนในกระแสรายรับค่าเช่าของกลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส ซึ่งมีบมจ.แสนสิริ (SIRI) เป็นผู้เช่าระยะยาวเต็มพื้นที่ 100% โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ภายในพื้นที่ T77 ของบริษัท เอสพีวี 77 จำกัด สัญญาเช่าระยะยาว 12 ปี ค่าเช่าปีละ 149.4 ล้านบาท ขณะที่โครงการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ มีอายุโครงการ 4 ปี ดังนั้นนักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าโครงการนี้จะมีรายรับที่ต่อเนื่อง


ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

สำหรับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลในครั้งนี้ จะแบ่งเสนอขายทั้งหมด 2 ชุดอายุ ได้แก่ 1. สิริฮับ A (SiriHubA) จำนวน 160 ล้านโทเคน มูลค่า 1,600 ล้านบาท กำหนดส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสที่ 4.5% ต่อปี โดยนักลงทุนจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดอายุโครงการจำนวนไม่เกิน 1,600 ล้านบาท 

2. สิริฮับ B (SiriHubB) จำนวน 80 ล้านโทเคน มูลค่า 800 ล้านบาท ส่วนแบ่งรายได้ 8% ต่อปี นักลงทุนจะได้รับส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 8% ต่อปี และยังได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการเมื่อสิ้นสุดอายุโครงการเฉพาะส่วนเกิน 1,600 ล้านบาทเป็นต้นไป

การประเมินมูลค่าทรัพย์สินจากผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. จำนวน 2 ราย คาดการณ์ว่าในอนาคตอีก 4 ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดของโครงการนี้จะมีมูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาท

"เรากำหนดมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำเพียง 10 บาทต่อ 1 โทเคน เพื่อกระจายโอกาสให้นักลงทุนทุกกลุ่มสามารถลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพและมีมูลค่าโครงการระดับพันล้านบาทได้ ในขณะเดียวกันยังมีโอกาสได้รับส่วนแบ่งรายได้ที่ดีและสม่ำเสมอเป็นรายไตรมาส"

นายอัฏฐ์ กล่าวว่า ในการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับครั้งนี้ ถูกรองรับด้วยเทคโนโลยีระบบบล็อกเชน (Blockchain) ของเทโซส (Tezos) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ทันสมัยที่สุดถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการระดมทุนในรูปแบบของโทเคนดิจิทัลที่มีสินทรัพย์อ้างอิงโดยเฉพาะ ทำให้ระบบดังกล่าวมีความปลอดภัยสูง 

สำหรับรายละเอียดวันที่เปิดให้จองซื้อและวันที่เข้าซื้อขายในตลาดรอง บริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนอีกครั้ง เพราะจะต้องได้รับการอนุมัติจากก.ล.ต.ให้แบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) มีผลบังคับใช้ก่อน แต่เบื้องต้นนักลงทุนสามารถลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่น "XSpring" ซึ่งเป็นช่องทางที่บริษัทจะเปิดให้จองซื้อโทเคนดิจิทัลได้แล้ววันนี้ ทั้งในระบบ iOS และ Android เพื่อเปิดบัญชีและยืนยันตัวตนใช้บริการ ซึ่งจะต้องผูกกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์(e-Wallet) ไว้สำหรับการรับเงินปันผล

ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้จองซื้อประมาณ 10 วันทำการนับตั้งแต่วันที่เริ่มขาย แต่สามารถปิดขายได้ก่อนกำหนด หากกระจายได้ครบจำนวนแล้วและจะดำเนินการตั้งกองทรัสต์หลังจากปิดการขายภายใน 15 วันทำการ ก่อนจะนำโทเคนดังกล่าวเข้าไปซื้อขายในตลาดรองของพันธมิตรบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวงการคลัง และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. โดยอีอาร์เอ็กซ์จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดรอง