• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำยังไงดี?

Started by Chigaru, April 03, 2022, 06:59:28 AM

Previous topic - Next topic

Chigaru

ลูกกลัวหมอฟันเด็กควรจะทำยังไงดี?



เอายังไงดี เมื่อลูกน้อยกลัวคุณหมอฟันเด็ก - เด็กกับความหวาดกลัวเป็นเรื่องที่คู่กัน เด็กจะกลัวในเรื่องที่จำฝังใจ ยกตัวอย่างเช่น การกลัวการเจ็บปวด กลัวคนที่ไม่รู้จัก ความกลัวสถานการณ์ใหม่ๆที่ยังไม่เคยประสบมาก่อน ซึ่งความกลัวจะเกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น โดย ความกลัวนั้นจะขึ้นกับตัวเด็กอีกทีว่าเด็กนั้นก่อนหน้าที่ผ่านมาพ่อแม่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีต้นสายปลายเหตุที่ทำให้เด็กกลัว หมอฟันเด็กหรือกลัวการรักษาทางด้านทันตกรรมเด็ก เช่น ประสบการณ์การดูแลรักษาทางทันตกรรมเด็ก ในอดีต โดยเฉพาะการพาเด็กเข้าการดูแลและรักษาฟันในตอนที่เด็กเจ็บอยู่ฟัน และก็อาจทำให้เด็กทั้งยังเจ็บแล้วกลัวและฝังลึกในใจเลยทำให้เกิดความกลัว แล้วก็อาจก่อให้เด็กกลัวหมอที่สวมชุดสีขาว หรือกลัวการเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหรือคลินิกทันตกรรมต่างๆและก็การฟังจากคำพูดจากเครือญาติ ญาติพี่น้อง สหาย และเด็กบางทีก็อาจจะรับรู้ได้จากความประพฤติบางสิ่งบางอย่าง หรือจากสีหน้าที่มีความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจที่พ่อแม่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว เป็นต้น

การเตรียมตัวลูก ในการมาพบแพทย์ฟันคราวแรก

ทันตกรรมเด็กกับการเตรียมการเด็กที่ดีนั้นมีผลอย่างยิ่งต่อความประพฤติปฏิบัติของเด็กและก็ความสำเร็จในการรักษา ด้วยเหตุนั้นคุณพ่อกับคุณแม่จำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงคำบอกเล่าที่น่าสะพรึงกลัวหรือแสดงความกลุ้มใจเกี่ยวกับทันตแพทย์เด็กที่ให้บริการทัตนบาปเด็ก และไม่ควรจะใช้ทันตแพทย์หรือวิธีการทำฟันเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการข่มขู่ลูก ดังเช่น "ถ้าไม่ยินยอมแปรงฟันนะ จะจับไปให้แพทย์ถอนฟันเลย" ซึ่งจะยิ่งทำให้ลูกฝั่งใจรวมทั้งกลัวหมอฟันมากขึ้น ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่บางทีอาจช่วยสนับสนุนทัศนคติในทางบวกต่อแนวทางการทำฟันให้แก่ลูก ดังเช่นว่า "แพทย์จะช่วยทำให้หนูมีฟันสวยรวมทั้งแข็งแรง" ยิ่งกว่านั้นเมื่อพบว่าลูกมีฟันผุก็ควรจะพาลูกมาทำฟันตั้งแต่เวลาที่ยังไม่มีอาการปวด ถ้าเกิดรอคอยให้มีอาการปวดก่อนเด็กจะยิ่งมีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจในการทำฟันเยอะขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อมาหาหมอฟันแล้ว แม้ลูกกลัวหมอฟัน ไม่ร่วมมือผู้ดูแลและทันตแพทย์ ควรทำยังไง

เด็กแต่ละคนที่มีความกลัวก็จะแสดงกริยาที่แตกต่างออกไป เด็กที่มีความหวาดกลัวและไม่ร่วมมือ จำเป็นมากที่หมอฟันจำเป็นต้องวิเคราะห์หาสาเหตุของความกลัวของเด็ก เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการไตร่ตรองเลือกใช้กรรมวิธีการจัดแจงความประพฤติ ซึ่งบิดามารดาจะมีส่วนช่วยอย่างใหญ่โตสำหรับการให้ข้อมูลเบื้องต้นกลุ่มนี้ หลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของ หมอฟันที่จะเลือกใช้แนวทางปรับพฤติกรรมต่างๆเพื่อเด็กให้ลดความหวาดกลัว ความรู้สึกกังวลใจ และก็ยินยอมให้ความร่วมแรงร่วมมือสำหรับการทำฟันเด็ก โดยแนวทางที่ใช้สูงที่สุดก็คือ การปรับพฤติกรรมโดยวิธีทางจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็นการสนทนา ปลอบประโลม ชมเชย ส่งเสริมให้กำลังใจ การเอนเอียง ความพอใจ หรือการแยกผู้ดูแล ดังนี้ขึ้นอยู่อายุของเด็ก ระดับของความร่วมมือ รวมทั้งจำนวนงานหรือ ความรีบของการรักษาด้วย อาทิเช่น ในเด็กเล็กต่ำลงยิ่งกว่า 3 ขวบ ที่ยังพูดคุยติดต่อกันไม่เข้าใจ หรือเด็กที่ไม่ให้ ความร่วมแรงร่วมมืออย่างมาก ทันตแพทย์ก็บางทีอาจจะจำต้องขอใช้ผ้าห่อตัวเด็ก (Papoose board) ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของเด็กเพื่อให้สามารถให้การรักษาได้ทางด้านทันตกรรมเด็กอย่างปลอดภัยรวมทั้งมีคุณภาพมากขึ้น หรือบางทีก็อาจจะพรีเซ็นท์ทางเลือกการรักษาทางทันตกรรมภายใต้การทานยาให้สงบหรือการสูดยาสลบให้แก่ผู้ปกครองเป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ลูกน้อยไม่กลัวหมอฟันเด็ก

สิ่งที่เหมาะสมที่สุดของการมาใช้บริการทันตกรรมเด็ก ที่จะทำให้ลูกของคุณไม่กลัวทันตแพทย์คือ การดูแลช่องปากของลูกไม่ให้มีฟันผุ โดยควรจะพาลูกมาเจอทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นหรือภายในขวบปีแรก และก็ตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน เมื่อลูกไม่มีฟันผุ เวลาทำฟันเด็กก็ไม่เจ็บ เมื่อไม่เจ็บก็ชอบไม่กลัวทันตแพทย์ แต่ว่าเมื่อลูกมีฟันผุแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ควรแข็งแกร่งที่จะพาลูกมารับการรักษาตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าลูกจะร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่บ้านเมื่อรู้ว่าจะพามาทำฟันก็ตาม เพื่อให้ลูกของคุณมีสุขภาพโพรงปากที่ดี ซึ่งเมื่อมีสุขภาพช่องปากที่ก็ดีก็จะช่วยส่งเสริมให้เด็กมีความก้าวหน้าในด้านอื่นๆที่ดีตามไปด้วย