• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Jenny937

#6046
www.programlike.com
ปั้มไลค์ แฟนเพจ, ไลค์โพส, แชร์โพสต์, ยอดวิววิดีโอ
#6047



เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิล เฮดโค้ชชาวเยอรมัน ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นนัดแรกด้วยการยกพลไปเยือน บอร์นมัธ ทีมในลีกแชมเปียนชิพ อังกฤษ

"สิงห์บลูส์" ยังไม่มีบรรดานักเตะที่ไปช่วยทีมชาติผ่านเข้าสู่รอบลึกๆ ในยูโร 2020 เช่น เมสัน เมาท์, รีซ เจมส์, เบน ชิลเวลล์, เอ็นโกโล ก็องเต้, อันเดรส คริสเตนเซน และจอร์จินโญ่ เช่นเดียวกับ ติอาโก ซิลวา ที่ไปเล่นให้กับ บราซิล ในโคปา อเมริกา

เกมนี้พวกเขาส่งนักเตะชุดผสมลงเป็น 11 คนแรก โดยมีตัวหลัก อย่าง แทมมี อับราฮัม, เกปา อาร์ริซาบาลากา, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, ฮาคิม ซิเยค, คริสเตียน พูลิซิช รวมไปถึง แดนนี ดริงก์วอเตอร์ มิดฟิลด์อังกฤษที่กลับคืนสู่ทีมอีกหลัง หลังย้ายไปเล่นให้กับ คาซิมปาซ่า ในลีกตุรกีด้วยสัญญายืมตัว

ปรากฎว่าเกมในครึ่งเวลาแรกถึงแม้ เชลซี จะเป็นฝ่ายที่โหมบุกใส่ บอร์นมัธ อย่างต่อเนื่อง แต่จังหวะจบสกอร์ยังทำได้ไม่ดีพอ และหมด 45 นาที ไปด้วยสกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง "สิงห์บลูส์" เปลี่ยนเอาผู้เล่นอย่าง รอสส์ บาร์คลีย์, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, เอดูอาร์ เมนดี รวมถึงดาวรุ่งอีกหลายคนลงสนาม และในนาทีที่ 66 ก็กลายเป็น บอร์นมัธ ที่ออกนำก่อน 1-0 จากลูกโหม่งของ เอมิเลียโน มาร์คอนเดส

แต่ เชลซี ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาทำ 2 ประตูรวด แซงนำ 2-1 จากการยิงของดาวรุ่ง อย่าง อาร์มานโด โบรยา ในนาทีที่ 72 และอีกหนึ่งดาวรุ่ง อย่าง อิเค อั๊กโบ ในนาทีที่ 76 และจบ 90 นาทีไปด้วยสกอร์นี้
#6049




อาเซียนนัดประชุมต้น ส.ค.นี้ ติดตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 พร้อมเดินหน้าเพิ่มบัญชีสินค้าจำเป็นที่ห้ามจำกัดส่งออก นอกเหนือจากยา และเวชภัณฑ์ ลุยเศรษฐกิจหมุนเวียน สร้างสภาพแวดล้อมด้านดิจิทัล และนัดคู่เจรจา 13 ประเทศ หารือเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ติดตามผลอัปเกรดเอฟทีเอ การทำเอฟทีเอกับแคนาดา

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า อาเซียนได้กำหนดจัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน หรือ SEOM ครั้งที่ 3/52 ในวันที่ 2-4 ส.ค. 2564 และการประชุมกับประเทศนอกภูมิภาค 13 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง สหรัฐฯ แคนาดา อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รัสเซีย สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 5, 11 และ 16 ส.ค. 2564 ผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEM ครั้งที่ 53 ในเดือน ก.ย. 2564

ทั้งนี้ การประชุม SEOM จะมีการติดตามการดำเนินงานสำคัญของอาเซียน โดยเฉพาะการเร่งฟื้นเศรษฐกิจภูมิภาคจากการระบาดของโควิด-19 การอำนวยความสะดวกทางการค้าเพื่อรักษาและส่งเสริมความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน โดยพิจารณาขยายบัญชีสินค้าจำเป็นที่อาเซียนจะไม่จำกัดการส่งออกในช่วงโควิดเพิ่มเติมจากยา และเวชภัณฑ์ เช่น อาหาร รวมถึงการเพิ่มบทบาทอาเซียนเชิงรุกในการพัฒนาภูมิภาคให้ตอบรับกับแนวโน้มของโลก ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การพัฒนาสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค เพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมจะติดตามเร่งรัดการดำเนินงานตามแผนงานด้านเศรษฐกิจที่บรูไนฯ ในฐานะประธานอาเซียนผลักดันให้อาเซียนดำเนินการให้สำเร็จในปี 2564 ภายใต้แนวคิด "We care, we prepare, we prosper" ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการฟื้นฟู ด้านการเป็นดิจิทัล และด้านความยั่งยืน รวม 13 ประเด็น เช่น การจัดทำเครื่องมือในการประเมินมาตรการที่มิใช่ภาษี (NTMs) ของประเทศสมาชิกอาเซียน การจัดทำแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และการจัดทำกรอบเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นต้น

สำหรับการประชุมอาเซียนกับประเทศนอกภูมิภาค 13 ประเทศ จะเน้นการหารือเพื่อเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน และมีประเด็นที่ต้องติดตาม เช่น การทบทวนความตกลงการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย การเปิดเสรีสินค้าเพิ่มเติมภายใต้พิธีสารยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน และการเตรียมการเสนอรัฐมนตรีเศรษฐกิจพิจารณาความเป็นไปได้การเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา เป็นต้น

ทางด้านการค้าระหว่างไทยกับอาเซียนในปี 2563 มีมูลค่า 94,623.83 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกจากไทยไปอาเซียน 55,454.28 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียน 39,169.54 ล้านเหรียญสหรัฐ เกินดุลการค้า 16,284.74 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 5 เดือนปี 2564 (ม.ค.-พ.ค.) การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 45,267.41 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.44% โดยไทยส่งออกไปอาเซียน 26,224.69 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียน 19,042.71 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์
#6050



บมจ. เอเอ็มอาร์ เอเซีย (AMR) หุ้นไอพีโออนาคตไกลขายเกลี้ยง 150 ล้านหุ้น มีแผนเข้าเทรด SET วันที่ 2 ส.ค.นี้ ชูจุดเด่น Intelligent Transportation Systems บิ๊กบอส "มารุต ศิริโก" มั่นใจอนาคตยังไปได้อีกไกล ธุรกิจอยู่ในเมกะเทรนด์โครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชน และสมาร์ทซิตี้ เผย AMR มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี เป็นบริษัทคนไทยที่มีศักยภาพและมาตรฐานการทำงานเทียบเท่าต่างชาติ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างลงตัว มีโอกาสคว้างานใหม่เพียบ

 

นายดิถดนัย สังขะรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) เปิดเผยว่า การจองซื้อหุ้นไอพีโอของ AMR  จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น ในราคาหุ้นละ 6.90 บาท ระหว่างวันที่ 21 – 23 ก.ค.2564 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก มีนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน จองซื้อเข้ามาเกินจำนวนเสนอขาย เนื่องจากมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของ AMR ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการวางระบบเทคโนโลยีโซลูชั่นแบบครบวงจร ธุรกิจอยู่ในเมกะเทรนด์ จากการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนของประเทศ ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ ทำให้มีโอกาสได้งานใหม่เพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมาก 

 

ทั้งนี้ หุ้น AMR ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยอย่างมาก  เนื่องจากการกำหนดราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 15.33 เท่า (Post-IPO Dilution) ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ และมีส่วนลดให้กับนักลงทุน  มีแผนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 2 ส.ค.2564 ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

 

"AMR เป็นหุ้นไอทีโซลูชั่น มีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง มีจุดเด่นในเรื่อง Intelligent Transportation Systems เป็นบริษัทฯ ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะธุรกิจที่เติบโตตามเมกะเทรนด์ ซึ่งประเทศไทยยังต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชน ไอที และพลังงาน อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะคว้างานใหม่ๆ เพิ่มเติมได้อีกมากในอนาคต อีกทั้งจากวิสัยทัศน์ของทีมผู้บริหาร ที่เตรียมพร้อมขยายการลงทุน เข้าสู่ธุรกิจการให้บริการ Feeder Line และ Smart City เพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน" นายดิถดนัย กล่าวในที่สุด

 

นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) (AMR) กล่าวว่า เป้าหมายการระดมทุนผ่านการขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจด้านคมนาคมขนส่ง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Feeder Line การลงทุนธุรกิจ EV Charging Station และ Smart City ในสัดส่วนร้อยละ 85 รวมถึงนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ในสัดส่วนร้อยละ 10 และใช้สำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในสัดส่วนร้อยละ 5

 

"ผมมั่นใจว่าธุรกิจของ AMR ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบขนส่งไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าทางคู่ รถไฟตามต่างจังหวัด รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ หรือการขยายการลงทุนในหัวเมืองหลัก ทำให้ AMR มีโอกาสได้งานใหม่เพิ่มเติม"

 

เขากล่าวอีกว่า จากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 20 ปี ภายใต้จุดแข็งเป็นผู้ให้บริการไอทีโซลูชั่นครบวงจร และป็นบริษัทฯ คนไทยที่มีศักยภาพและมาตรฐานการทำงานเทียบเท่าต่างชาติ สามารถออกแบบและวางระบบ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างลงตัว อีกทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยิ่งทำให้เห็นว่า AMR สามารถเข้าไปแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ทันที ขณะที่การให้บริการของคู่แข่งที่เป็นต่างชาติ อาจมีข้อจำกัดในช่วงรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ประเทศ 

 

"หลังจากที่ได้รับเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับประเทศและนานาชาติ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันประมูลงานขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น  โดยเป้าหมายหลักของการใช้เงินราว 85% จะใช้เพื่อลงทุนและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งคณะผู้บริหารและพนักงานของ AMR ทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานให้โดดเด่นและยั่งยืนในอนาคต และหวังว่า AMR จะเป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน" นายมารุต กล่าวในที่สุด
#6052



ดนัย ประพันธ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอฟฟิโนม จำกัด กล่าวว่า เจตนารมณ์ในการก่อตั้งบริษัทฯ เกิดจากวิสัยทัศน์ที่ต้องการเห็น บริษัทนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เป็นของคนไทย และต้องการที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพในประเทศไทย เนื่องจากตลอด 20 ปีที่ทำงานในวงการเทคนิคการแพทย์ ตั้งแต่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ ผู้แทนขายสินค้าทางการแพทย์ แทบไม่เคยพบหรือมีเพียงส่วนน้อยมากที่สินค้าในห้องปฏิบัติการตีตราว่าเป็น "MADE IN THAILAND" และถูกใช้อย่างแพร่หลาย

กระทั่งมีโอกาสทำธุรกิจในการเป็นผู้แทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์จากห้องปฏิบัติการในหลากหลายผลิตภัณฑ์ ทำให้เห็นช่องทาง วิธีการ และโอกาสของการทำธุรกิจการผลิตเครื่องมือแพทย์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมองเห็นช่องทางในการขยายธุรกิจใหม่ๆ รวมทั้งต้องการสนับสนุนนักวิจัยไทยในการต่อยอดการพัฒนาผลงานวิจัยสู่ระดับอุตสาหกรรมทางการแพทย์

ดึงงานวิจัยขยายสู่เชิงพาณิชย์

ส่วนการจับตลาดชุดตรวจโควิด ดนัย เปิดฉากเล่าถึงมุมมองตรงจุดนี้ว่า การเป็นผู้ได้ลิขสิทธิ์แห่งเดียวในประเทศไทย ในการผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ตรวจโควิด-19 เนื่องจากที่ผ่านมา แอฟฟิโนม ได้มีการเข้าร่วมสนับสนุนงานวิจัยของ รศ.ดร.นิทัศน์ สุขรุ่ง หัวหน้าศูนย์การออกแบบนวัตกรรมชีวการแพทย์ ภาควิชาปรสิตวิทยา และหัวหน้าหน่วยบ่มเพาะวิจัยชีวการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในการพัฒนาชุดตรวจ Rapid Test สำหรับโรคไข้ที่ไม่ทราบสาเหตุ โรคประจำถิ่น เช่น โรคฉี่หนู และโรคสครับไทฟัส


เนื่องจากชุดตรวจโรคเหล่านี้จากต่างประเทศมีน้อย หรือมีแต่ราคาแพง เพราะไม่ใช่โรคที่มีความต้องการซื้อมากในประเทศผู้ผลิต ดังนั้น แอฟฟิโนม เล็งเห็นโอกาสในการเป็นผู้ผลิตชุดตรวจเหล่านี้ในประเทศไทย  และมองไปถึงการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) จึงตัดสินใจสนับสนุนโครงการวิจัยนี้ กระทั่งมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย ได้มีโอกาสปรึกษาถึงการพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 ขึ้นในประเทศ จนกระทั่งทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการวิจัยจนแล้วเสร็จ บริษัทฯ จึงติดต่อเพื่อขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าว และได้เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ในการผลิตแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

เร่งกำลังการผลิตรองรับการเข้าถึง


 "ชุดตรวจโควิดแอนติเจนจำเพาะต่อโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นชุดตรวจแบบง่ายและรวดเร็วด้วยหลักการอิมมูโนโครมาโตกราฟี ซึ่งคล้ายกับชุดตรวจการตั้งครรภ์ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตัวอย่างหลังโพรงจมูกจากผู้ป่วย ใช้เวลาในการทดสอบเพียง 15 นาที ไม่ต้องใช้เครื่องมือในห้องปฏิบัติการ สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรกของการติดเชื้อ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็ว และสามารถแยกผู้ป่วยออกจากครอบครัว หรือชุมชนเพื่อป้องกันการติดเชื้อได้อย่างทันท่วงที ทำให้สามารถควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้รวดเร็ว ซึ่งชุดตรวจนี้มีความไวถึง 96% และความจำเพาะ 100% นอกจากนี้น้ำยาที่ประกอบในชุดตรวจนี้สามารถฆ่าไวรัสได้ภายใน 1 นาที ทำให้ไม่ส่งผลต่อการกระจายของเชื้อโรคเมื่อทำการตรวจในภาคสนาม"

ทั้งนี้เริ่มมีการดำเนินการวิจัยและพัฒนาชุดตรวจมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 เก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยโควิด ในรพ.ศิริราช ร่วมกับกลุ่มตัวอย่างจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งพัฒนาสำเร็จในต้นปี 2564 และล่าสุดผ่านการประเมินประสิทธิภาพ และอนุญาตให้ผลิตและจัดจำหน่ายแล้วจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นอกจากนี้ทางโรงงานกำลังพัฒนาเพื่อผลิตชุดตรวจโควิด-19 Ag แบบ Self-test หรือชุดตรวจด้วยตนเองเพื่อต่อยอดเทคโนโลยีที่มี ตอบสนองความต้องการในตลาดช่วงนี้ที่สูงขึ้น และสนองนโยบายภาครัฐที่ต้องการมีชุดตรวจที่ง่ายและราคาเหมาะสมเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อ

ดนัย กล่าวต่อไปว่า หลังจากได้รับการอนุมัติจาก อย.เบื้องต้นได้ผลิตออกมาจัดจำหน่ายแล้ว แต่กำลังการผลิตอยู่ในระดับที่จำกัด ในช่วงเดือนสิงหาคมกำลังขยายกำลังการผลิต ไม่ว่าจะเป็น การสั่งซื้อเครื่องมือใหม่เพื่อเพิ่มไลน์การผลิต และเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ คาดว่าจะสามารถผลิตได้เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายน ทั้งนี้ การผลิตในช่วงแรกจะเป็นชุดตรวจโควิดสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (Professional Use) เพื่อให้โรงพยาบาลขนาดเล็กหรือโรงพยาบาลในชนบทสามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุก โดยชุดตรวจสำหรับประชาชนทั่วไป (Self-test) อยู่ในระหว่างการปรับรูปแบบการใช้งานที่ง่ายและสะดวก เหมาะสมสำหรับคนทั่วไป

ทั้งนี้ แอฟฟิโนม มีโมเดลธุรกิจแบ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้ 1. กลุ่มธุรกิจการผลิตชุดตรวจทางการแพทย์ทั้งในส่วนห้องปฏิบัติการและ ใช้ตรวจด้วยตนเอง (Self-test) ภายใต้มาตรฐานการผลิตเครื่องมือแพทย์ ISO13485  ซึ่งจะควบคุมกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้มั่นใจว่ากระบวนการผลิตของบริษัทจะได้คุณภาพตามที่มาตรฐานกำหนด โดยใช้องค์ความรู้จากงานวิจัยภายในประเทศต่อยอดการผลิต เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2. กลุ่มธุรกิจการให้บริการแก่นักวิจัยและบริษัท ที่ต้องการพัฒนาชุดตรวจในเชิงพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ตนเอง ซึ่งขอบเขตมีตั้งแต่ให้คำปรึกษาจนถึงการผลิตออกมาในเชิงพาณิชย์พร้อมขึ้นทะเบียนเครื่องมือแพทย์
#6054



บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เริ่มดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2564 หลังจากนั้นผู้บริหารแผน 5 คน ที่ศาลแต่งตั้งได้เข้าทำหน้าที่บริหารการบินไทยให้เป็นไปตามแผนในการใช้หนี้คืนเจ้าหนี้ตามภาระหนี้ที่ยื่นขอรับชำระ 410,140 ล้านบาท รวมแล้วผู้บริหารแผนเข้าไปทำหน้าที่ในการบินไทยแล้ว 1 เดือน เศษ

แหล่งข่าวจากการบินไทย กล่าวว่า หลังจากที่ศาลล้มละลายกลางอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการแล้วผู้บริหารแผนทั้ง 5 คน คือ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ,นายพรชัย ฐีระเวช ,นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ ,นายไกรสร บารมีอวยชัย  และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ได้เริ่มทำงานด้วยการมอบนโยบายให้กับแต่ละหน่วยธุรกิจของการบินไทย โดยนายศิริและนายไกรสร มอบนโยบายให้ฝ่ายช่างมีส่วนร่วมในการหารายได้และขับเคลื่อนให้การบินไทยเป็นสายการบินชั้นนำที่ศักยภาพในการแข่งขันในฐานะสายการบินแห่งชาติ

นอกจากนี้ แผนฟื้นฟูกิจการกำหนดให้การบินไทยหาเงินกู้ใหม่วงเงิน 50,000 ล้านบาท โดยเจรจากับสถาบันการเงินและเจ้าหนี้การบินไทย ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการได้เจรจาแล้วหลายราย เช่น ธนาคารกรุงเทพ โดยจะแบ่งเป็นสินเชื่อใหม่ 25,000 ล้านบาท จากการสนับสนุนจากภาครัฐหรือบุคลใดที่รัฐหรือผู้บริหารแผนร่วมจัดหาในรูปเงินกู้หรือการค้ำประกัน และสินเชื่อใหม่ 25,000 ล้านบาท จากการสนับสนุนจากภาคเอกชน

รวมทั้งในแผนฟื้นฟูกิจการที่ผ่านความเห็นชอบจากศาลล้มละลายกลางได้มีการกำหนดกระแสเงินสดจากการกู้ยืมใหม่ในปี 2564 วงเงิน 35,000 ล้านบาท และในปี 2565 วงเงิน 13,000 ล้านบาท ในขณะที่การชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการจะเริ่มตั้งแต่ปี 2564 ที่วงเงิน 286 ล้านบาท และทยอยเพิ่มขึ้นในปี 2565 วงเงิน 726 ล้านบาท ปี 2566 วงเงิน 17,221 ล้านบาท ปี 2567 วงเงิน 11,643 ล้านบาท ทยอยจ่ายหนี้ไปจนถึงปี 2579 รวมวงเงินที่จ่ายหนี้ 197,085 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากการบินไทย กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยธุรกิจการบินของการบินไทยถือเป็นหน่วยสำคัญในการหารายได้ ในช่วงเวลาที่การบินไทยยังไม่สามารถทำการบินรับส่งผู้โดยสารได้อย่างปกติ โดยหน่วยธุรกิจการบิน มีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 3 ส่วน คือ ครัวการบิน ศูนย์ซ่อมอากาศยาน และขนส่งสินค้า ซึ่งคาดว่าตลอดทั้งปีนี้ จะสามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ราว 1 หมื่นล้านบาท

สำหรับนโยบายสำคัญที่ผู้บริหารแผนได้มอบหมายไว้ กำชับให้หน่วยธุรกิจการบินเร่งหารายได้ทุกด้าน เนื่องจากเป็นหน่วยที่ยังสามารถหารายได้อย่างเต็มศักยภาพในปัจจุบันที่แม้โรคโควิด-19 จะยังระบาดทั่วโลก โดยเบื้องต้นฝ่ายครัวการบินได้ลงนามในสัญญากับลูกค้าสายการบินเพื่อบริการอาหาร 2-3 ราย อีกทั้งยังอยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่รองรับผู้บริโภคภาคพื้น ซึ่งมั่นใจว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยสร้างรายได้ให้กับการบินไทยเพิ่มมากขึ้นได้

ส่วนธุรกิจขนส่งสินค้า ขณะนี้ถือเป็นตัวแปรสำคัญของการเพิ่มรายได้เข้าองค์กร มีลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้น และยังมีใช้บริการเช่าเหมาลำขนส่งสินค้าด้วย เช่นเดียวกันธุรกิจคลังสินค้าที่ในปัจจุบันยังได้ลงนามสัญญากับลูกค้าเพิ่มอีก 2-3 ราย

"คาดการณ์ว่าภายใน 5 ปีหลังจากนี้ ธุรกิจนอนแอโรว์ของการบินไทย ประกอบด้วย ครัวการบิน ฝ่ายช่าง และขนส่งสินค้า (คาร์โก้) จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้กับองค์กร จากปัจจุบันคิดเป็น 15% ของรายได้รวม จะเพิ่มเป็น 50% ของรายได้รวม" แหล่งข่าว กล่าว

ทั้งนี้ การเร่งเพิ่มรายได้นอนแอโรว์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูการบินไทย ที่มีเป้าหมายเพิ่มรายได้จากหน่วยธุรกิจที่ยังมีศักยภาพในการสร้างรายได้ให้กับองค์กร เช่น ธุรกิจศูนย์ซ่อมอากาศยาน ครัวการบินและขนส่งสินค้า ซึ่งดำเนินการก่อนจะผลักดันให้มีการแยกจัดตั้งเป็นหน่วยธุรกิจย่อยในลักษณะ Business unit เปิดให้เอกชนรายอื่นเข้ามาร่วมลงทุน และขยายบริการรองรับสายการบินหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีรายได้อย่างยั่งยืนและจะทำให้การบินไทยสามารถก้าวข้ามวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ไปได้
#6056



รอยเตอร์ - ผู้อยู่อาศัยในนครโฮจิมินห์มากกว่า 10 ล้านคน จะต้องอยู่ภายใต้มาตรการเคอร์ฟิวในเวลากลางคืนอย่างเข้มงวดตั้งแต่วันนี้ (26) ความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพื่อควบคุมการติดเชื้อ ในขณะที่เวียดนามต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

หลังประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในปีที่ผ่านมา ประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้กำลังเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ที่เป็นผลจากโควิดสายพันธุ์เดลตา

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางภาคเหนือ และนครโฮจิมินห์ในภาคใต้ ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันมากกว่า 62,000 คน นับตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ทำให้เวลานี้เวียดนามมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมรวมทั้งสิ้น 101,000 คน

ทางการได้จำกัดการเคลื่อนไหวในศูนย์กลางเศรษฐกิจที่เคยคึกคักแห่งนี้มานานกว่า 2 เดือน และกำหนดมาตรการล็อกดาวน์ในต้นเดือน ก.ค. ซึ่งผู้อยู่อาศัยได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเฉพาะกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์และหาซื้ออาหารเท่านั้น

แต่ตั้งแต่วันจันทร์ (26) เป็นต้นไป คำสั่งอยู่กับบ้านที่เข้มงวดมากขึ้นนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 6.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะใช้คำว่าเคอร์ฟิว และยังไม่ได้ประกาศวันสิ้นสุดของการบังคับใช้มาตรการนี้

"การบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นจะต้องเพิ่มการลาดตระเวน และออกบทลงโทษที่เหมาะสมกับผู้กระทำความผิด แม้กระทั่งการควบคุมตัวในกรณีที่มีการต่อต้าน" นายกเทศมนตรีนครโฮจิมินห์ ระบุ

ทางการได้ระงับการขนส่งสาธารณะเกือบทั้งหมดที่เชื่อมกับนครโฮจิมินห์ และผู้เดินทางที่มีต้นทางมาจากนครโฮจิมินห์จะต้องพักอยู่ในศูนย์กักกันโรคเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์

ปัจจุบัน มากกว่า 1 ใน 3 ของประชากร 100 ล้านคนของประเทศอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งชาวกรุงฮานอยทางตอนเหนือของประเทศด้วย

และในวันนี้ (26) เจ้าหน้าที่ทหารได้ขับรถไปตามถนนสายสำคัญต่างๆ ทั่วเมือง และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อขณะขับผ่านอาคารประวัติศาสตร์และทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเจ้าหน้าที่ของกองทัพได้เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อจะดำเนินการต่อไปอีก 3 วัน

เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวในปีที่ผ่านมา เนื่องจากประสบความสำเร็จในการควบคุมเชื้อไวรัสระหว่างการระบาดระลอกแรก

แต่ประเทศกลับล่าช้าในการจัดหาและแจกจ่ายวัคซีน โดยมีวัคซีนเพียง 4.7 ล้านโดสที่ได้ฉีดให้ประชาชนไปแล้วจนถึงตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ทางการเวียดนามระบุว่า พวกเขาหวังให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ภายในต้นปี 2565.
#6057
www.programlike.com
ปั้มไลค์ แฟนเพจ, ไลค์โพส, แชร์โพสต์, ยอดวิววิดีโอ
#6060

อภิมหาวิกฤติโควิดไม่ได้กระทบแค่ประชาชนไทยเท่านั้น หากแต่แรงงานต่างชาติกว่า 2 ล้านคนที่อยู่ในบ้านเรา ก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า

วันที่ 13 ก.ค.2564 คณะรัฐมนตรีมีมติผ่อนผันให้แรงงานต่างชาติอยู่ในประเทศไทยต่อไปได้เป็นกรณีพิเศษ วันเดียวกัน มี"เอกสารหลุด"จากกระทรวงแรงงาน เรื่อง"แจ้งยกเลิกโครงการให้ความช่วยเหลือคนต่างด้าวด้านสาธารณสุข"ถูกเผยแพร่และแชร์ต่อกันในโซเชียลมีเดีย

แม้จะมีผู้รับผิดชอบในกระทรวงแรงงาน ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว แต่ในความเป็นจริง แรงงานต่างด้าวก็ถูกทิ้งไว้ในแคมป์คนงาน หรือในหอพัก บ้านเช่า หากใครติดเชื้อโควิดก็ต้องรักษาตัวเองตามยถากรรม

ดั่งโศกนาฎกรรมของชายวัย 49 ปี บ้านหนองบัวท่า เมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต เขาจากบ้านเกิดข้ามโขงมาเสี่ยงโชคในกรุงเทพฯ และรับจ้างขายอาหารอยู่ที่ตลาดแห่งหนึ่ง

วันที่ 9 ก.ค.2564 ชายชาวลาวคนนี้ ตรวจพบเชื้อโควิด ต้องนอนรออยู่ในบ้านเช่า เพราะโรงพยาบาลสนาม ไม่มีเตียง อีกอย่างเขาเป็นแรงงานต่างด้าว จึงเคว้งคว้าง ไร้ความหวัง เขาจึงตัดสินใจขอกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด

วันที่ 13 ก.ค.2564 เขาเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.มุกดาหาร ประสานกับด่าน ตม.สะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2 ขอข้ามไปรักษาตัวที่แขวงสะหวันนะเขต โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำแขวง มารอรับตัวที่ฝั่งลาว  จากนั้น เจ้าหน้าที่ลาวได้นำตัวเขาสู่โรงพยาบาลสนาม ตรวจหาเชื้ออีกครั้ง และเวลานั้น เขามีอาการไอ หายใจไม่สะดวก และถ่ายท้อง

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท
วันที่ 16 ก.ค.2564 อาการป่วยของเขาหนักขึ้น เริ่มไม่มีสติ สุดกำลังที่แพทย์-พยาบาลจะยื้อชีวิตเขาไว้ได้ ซึ่งถือว่าเป็นรายที่ 5 ของประเทศลาว ที่เสียชีวิตจากโควิด

ทุกวันนี้ มีชาวลาวที่มาขายแรงอยู่ในไทย ต่างทยอยกลับบ้านเกิด ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน สปป.ลาว เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ จากเดิม สปป.ลาว ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิดในชุมชนมาหลายเดือนแล้ว

วันที่ 22 ก.ค.2564 กระทรวงสาธารณสุขลาว แถลงข่าวพบติดเชื้อรายใหม่ 256 คน ทั้งหมดเป็นแรงงานลาวที่กลับไปจากไทยทั้งสิ้น โดยยอดผู้ติดเชื้อแตะหลักร้อยมา 3-4 วันแล้ว ขณะนี้ มีแรงงานลาวอยู่สถานที่กักตัว 14 วัน ประมาณ 6 พันคน

ยอดผู้ติดเชื้อรายวัน 256 คน และอาจเพิ่มสูงขึ้นมากกว่านี้ สำหรับประเทศที่มีประชากร 7.6 ล้านคน ถือว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเลย และมีข้อมูลที่น่าเป็นห่วง แรงงานลาวที่เข้าสู่การกักตัวนั้น ร้อยละ 15 พบว่า ติดเชื้อโควิด และในกลุ่มผู้ติดเชื้อพบเป็นสายพันธุ์เดลต้า ร้อยละ 90

ด้วยเหตุนี้ท่านพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาวที่แถลงเกี่ยวกับการสืบต่อปฏิบัติ มาตรการสกัดกั้น และต้านการระบาดของโควิด-19 เมื่อไม่นานมานี้ ได้ให้ความสำคัญกับแรงงานลาวที่ออกไปทำงานในประเทศใกล้เคียง

ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ทะลุหมื่นห้า! พบเสียชีวิต 129 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 15,335 ราย
'ประกันสังคม' ผู้ประกันตนมาตรา 33 39 40 สรุปรายละเอียดรับ 'เงินเยียวยา' วันไหน
เปิดแผนจัดสรรวัคซีน 13ล้านโดสเดือนสิงหาคมใครได้ฉีดบ้าง
ถ้าแรงงานคนใดต้องการกลับคืน สปป.ลาว ก็ให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถึงแม้ว่า เวลาออกไปต่างประเทศ จะลักลอบออกไปก็ตาม แต่เวลากลับคืนเข้ามา ขอให้กลับมาอย่างถูกต้อง

"รัฐบาลลาว ถือว่าการเดินทางเข้าประเทศอย่างถูกต้องนั้น เป็นการกระทำที่รักชาติ รักบ้านเกิดเมืองนอนของตนอย่างแท้จริง"

สิ่งที่รัฐบาลกังวลมากที่สุดคือ แรงงานลาวที่เข้าไปทำงานในไทยแบบผิดกฎหมาย จะลักลอบข้ามโขง และกลับคืนสู่หมู่บ้าน อาจนำเอาเชื้อโควิดไปแพร่ในชุมชน

ดังนั้น ตม.ลาว จึงมีนโยบายผ่อนผันไม่ดำเนินคดี ไม่ปรับไหม ขอแต่มารายงานตัว เพื่อเข้าศูนย์กักตัว ตรงกันข้ามบุคคลใดหากลักลอบเข้ามา จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย สปป.ลาว

ลึกๆ แรงงานลาวหวังที่จะได้ฉีดวัคซีนที่ดี อย่างจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่รัฐบาลลาวเพิ่งได้รับมา 1 ล้านโดส เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้ตัดสินใจข้ามโขง

ตราบใดที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในฝั่งขวายังสูงต่อเนื่อง จำนวนผู้ติดเชื้อในฝั่งซ้าย ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว อันเนื่องจากแรงงานลาวพากันหนีโควิด หนีตายกลับบ้านเกิด